หนังสือ : The Help [Paperback]ผู้เขียน : Kathryn Stockett สนพ. : Berkley Booksจำนวนหน้า : 534 หน้า ภาษา : อังกฤษ ** เล่มที่ไอซ์มีเป็นปกอ่อน หน้าปกแบบเดียวกันนี้ แต่ไม่ใช่ Deluxe Edition นะคะ รายละเอียดจากปกหลังเมื่อหญิงสาวธรรมดา 3 คน กำลังจะทำเรื่องที่ไม่ธรรมดา...ปี 1962 ไอบีลีน (Aibileen) เป็นสาวใช้ผิวดำในเมืองแจ็คสัน มิสซิสซิปปี้ เลี้ยงดูเด็กผิวขาวคนที่ 17 เธอมักรับคำสั่งเงียบๆ แต่ช่วงหลังๆ เธอมักรู้สึกขมขื่นจนไม่สามารถจะกล้ำกลืนได้ต่อไป มินนี่...เพื่อนของไอบีลีนเป็นคนไม่เก็บปากคำ ทำให้ไม่สามารถทำงานที่ไหนได้นาน แต่ตอนนี้เธอทำงานให้กับคนที่เพิ่งย้ายมาใหม่พร้อมกับความลับที่ไม่สามารถบอกใคและ...สกีตเตอร์ (Skeeter) สาวผิวขาวที่เพิ่งเรียนจบมหาวิทยาลัย ผู้มีปริญญาและความทะเยอทะยาน แต่ยังไม่มีสามี ซึ่งทำให้แม่ของเธอผิดหวัง ปกติแล้ว สกีตเตอร์มักมีคอนสแตนทีน...สาวใช้ผิวดำที่เลี้ยงดูเธอมาเป็นคนปลอบใจ แต่พอเธอกลับมาที่บ้าน ก็พบว่าคอนสแตนทีนหายตัวไปเสียแล้วผู้หญิงที่ดูเหมือนจะแตกต่างกันทั้งสามคนนี้ ร่วมมือกันทำงานใหญ่ ซึ่งจะเปลี่ยนชะตาชีวิตของพวกเธอทั้งสามและเมืองเล็กๆ เมืองนี้ - นั่นก็คือ การเขียนหนังสืออย่างลับๆ เกี่ยวกับความจริงของการเป็นสาวใช้ผิวดำรับใช้คนผิวขาวในทางใต้ของสหรัฐอเมริกา แม้ว่าจะต้องเสี่ยงและต้องก้าวข้ามขวากหนามมากเท่าไหร่ แต่ผู้หญิงทั้งสามคนนี้ก็ร่วมใจกันด้วยความตั้งใจหนึ่งเดียว - ความหวังสำหรับวันที่ดีขึ้นจากไอซ์ :เรื่องนี้มีภาพยนตร์ออกมาเมื่อปีที่แล้วและไอซ์ก็ยังไม่ได้ดู แต่อยากอ่านหนังสือมากๆ พอได้หนังสือมาก็รีบอ่านเลยค่ะ ^^นี่เป็นตัวอย่างภาพยนตร์ค่ะอยากดูง่ะ >_<เรื่องนี้เป็นอีกเรื่องที่มีการพูดถึงเรื่อง To Kill a Mocking Bird ค่ะ ซึ่งเกี่ยวกับความเหลื่อมล้ำทางสังคมและการเหยียดผิว ในช่วงปีที่เกิดเรื่องนี้คือช่วง 1970's เป็นช่วงที่มีการเหยียดผิวและแบ่งชั้นระหว่างคนผิวขาวและผิวดำอย่างชัดเจน โดยเฉพาะในทางใต้ของอเมริกา ซึ่งมีปัญหารุนแรงมากๆ มีกฎหมายออกมาแบ่งแยกอย่างเป็นทางการ เช่น คนผิวขาวและผิวดำจะไม่เรียนโรงเรียนเดียวกัน ห้ามใช้เสื้อผ้าข้ามสีผิว คนผิวดำห้ามเข้าห้องสมุดของคนผิวขาว คนผิวดำห้ามเข้าโรงพยาบาลของคนผิวขาว ฯลฯเรื่องเล็กๆ น้อยๆ อย่างเช่น การที่คนผิวดำบังเอิญไปใช้ห้องน้ำของคนผิวขาว ก็อาจถูกทำร้ายถึงตายได้แม้ว่าคนผิวดำส่วนหนึ่งจะมีการศึกษาเป็นแพทย์ อาจารย์ นักกฎหมาย แต่ก็ยังมีสิทธิน้อยกว่าคนผิวขาวมากๆ ค่ะตัวละครในเรื่องนี้จะแบ่งออกเป็นสองกลุ่มหลักๆ นะคะกลุ่มผิวขาว - นำทีมเหยียดผิวโดย "ฮิลลี่" ซึ่งเป็นผู้หญิงที่มีอิทธิพลมากในเมือง เธอมองว่า คนผิวดำไม่ควรจะมาเทียบเคียงกับคนผิวขาว ... เธอเป็นแกนนำที่พยายามรณรงค์ให้ บ้านคนผิวขาวจะต้องมีห้องน้ำสำหรับคนใช้แยกไปต่างหาก เพราะคนผิวดำมีเชื้อโรค สกีตเตอร์เป็นเพื่อนกับฮิลลี่และกลุ่มสาวสังคมมาตั้งแต่ยังเด็กนะคะ พอเรียนจบจากมหาวิทยาลัยกลับมา เธออยากเป็นนักเขียน และเธอก็ไม่ชอบใจการกีดกันระหว่างคนผิวขาวและผิวดำ ก็เลยคิดจะทำโปรเจ็คเขียนหนังสือแฉว่า การที่เป็นใช้ผิวดำทำงานในบ้านคนผิวขาวเป็นอย่างไรกลุ่มผิวดำ - ตัวละครเด่นคือ ไอบีลีนและมินนี่ค่ะ ไอบีลีนและมินนี่เป็นผู้หญิงผิวดำที่ถูกปลูกฝังมาตั้งแต่เด็กว่า โตขึ้นมาจะต้องเป็นสาวใช้ในบ้านของคนผิวขาว เหมือนกับผู้หญิงผิวดำส่วนใหญ่ ไอบีลีนเป็นผู้หญิงที่มีการศึกษา อ่านออกเขียนได้นะคะ เธอพบว่าตัวเองมีความสามารถในการเลี้ยงดูเด็กเล็กๆ แต่...เธอจะไม่เลี้ยงนานค่ะ พอโตแล้วก็จะเปลี่ยนงาน เพราะ...แม้ว่าตอนเด็กๆ เด็กผิวขาวจะรักสาวใช้ บางคนเห็นสาวใช้เป็นเหมือนแม่ แต่พอโตขึ้นมาในสังคม ส่วนหนึ่งก็จะกลายเป็นพวกเหยียดผิวอยู่ดี ไอบีลีนทำงานอยู่บ้านของอลิซาเบ็ธ ... ซึ่งเป็นแม่ที่ไม่ได้เรื่องในการเลี้ยงลูกเลย เมย์ ม็อบเลย์ (Mae Mobley ... ชอบชื่อนี้อะค่ะ) ถูกเลี้ยงอย่างทิ้งๆ ขว้างๆ และรักไอบีลีนมากตอนที่สกีตเตอร์คิดจะทำหนังสือเรื่องชีวิตของสาวใช้ผิวดำในบ้านของคนผิวขาวโดยสัมภาษณ์สาวใช้ผิวดำนั้น ไม่มีสาวใช้คนไหนยอมทำโปรเจ็คนี้กับเธอสักคนค่ะ เพราะ...มันเป็นเรื่องที่เสี่ยงมาก หากถูกจับได้ อาจไม่ได้สูญเสียแค่งาน แต่อาจถูกทำร้ายได้ แต่สุดท้าย...สาวใช้ผิวดำสิบกว่าคนก็ยอมให้สกีตเตอร์สัมภาษณ์ด้วยจุดหักเหจุดหนึ่ง ซึ่งเกิดจากความใจร้ายของคนผิวขาวนั่นเอง หนังสือที่ออกมานี้ใช้ชื่อว่า "Help" หรือ "คนใช้" นั่นเองค่ะและ...พอหนังสือ "Help" ออกมา ก็เปลี่ยนชีวิตของตัวละครหลักทั้งสามตัวไปอย่างสิ้นเชิง ... เรื่องนี้มันสมจริงแบบที่ไม่มีการเคลือบน้ำตาลเลย สำหรับไอซ์..."The Help" ไม่ใช่หนังสือที่จบอย่างแฮปปี้ แต่ก็จบลงด้วย...ความหวังค่ะ เป็นแนวที่ชอบมากเลยThe Help เขียนสลับกันในมุมมองของ ไอบีลีน มินนี่ และสกีตเตอร์ ค่ะ เรื่องราวที่เกิดขึ้นทำให้คนอ่านได้เข้าใจสภาพของสังคมในเมืองแจ็คสัน ความเหลื่อมล้ำทางสังคมระหว่างคนต่างสีผิว แนวคิด การใช้ชีวิต จากทั้งสองด้าน ทั้งคนผิวดำและผิวขาวไม่มีตัวละครตัวไหนเพอร์เฟค ทุกคนมีความดีและความเลวในตัวเอง มีเหตุผลในการกระทำของตัวเอง และ...ส่วนหนึ่งก็คือ การที่คนแต่ละคนถูกหล่อหลอมมาจากสังคมที่แตกต่างกันไอซ์ชอบหนังสือเล่มนี้มากๆ นะคะ ผู้เขียนเขียนได้ดีจริงๆ สำนวนลื่นไหล กระชับ ดำเนินเรื่องได้อย่างน่าสนใจ พล็อตรองของตัวละครแต่ละตัวก็ทำให้คนอ่าน "แคร์" และอยากรู้เรื่องของพวกเขา ไอซ์อ่านจบในเวลาไม่กี่วันระหว่างที่ลงไปทำงานที่ตรัง แนะนำเลยค่ะ หนังสือดีมากๆ ไม่แปลกใจที่หนังสือดังสุดๆ แบบนี้ไม่รู้ว่าหนังสือเล่มนี้มีแปลเป็นไทยหรือยังนะคะ แต่คิดว่า...ถ้าแปลเป็นไทยแล้ว อถรรสคงสูญเสียไปเยอะเหมือนกันแฮะ เพราะ "สำนวน" ในเล่ม มันจะเป็นสำนวนทางใต้อะค่ะ บ่งบอกถึงพื้นฐานของตัวละครที่ต่างกัน จะมีบางคำที่ถูกตัดทอนเสียง อย่างเช่น Shu nuff ก็มาจาก Sure enough เป็นต้น อ่านแล้วได้อารมณ์ดี แต่ถ้าแปลเป็นไทยคงดิ้นได้ยากเอ่อ...ขอส่งท้ายสักนิดว่า ใครเป็นคนแปลชื่อภาษาไทยเป็น "คุณนายตัวดี สาวใช้ตัวดำ" คะ ... จากใจคนอ่านหนังสือเล่มนี้ รู้สึกว่ามันเป็นการแปลชื่อเรื่องที่แย่มากๆ ค่ะ ((อยากใช้คำแรงๆ กว่านี้ แต่ช่างเถอะ เหอๆๆๆๆ)) สปอยล์ :ความลับของซีเลีย ((เจ้านายของมินนี่)) ก็คือ เธอแท้งลูกหลายครั้งแล้ว ตอนจบของเรื่องอ่านแล้ว bitter & sweet ยังไงไม่รู้- ไอบีลีน เลิกทำงานกับอลิซาเบ็ธ ((เนื่องจากฮิลลี่แกล้งกล่าวหาว่าเธอขโมยของ)) และไปเป็นนักเขียนเต็มตัว ... สงสาร เมย์ ม็อบลีย์ ไม่รู้ว่าจะโตขึ้นมาเป็นยังไง- มินนี่ได้ทำงานกับซีเลียและจอห์นนี่ต่อ และยอมเลิกกับลีรอยด์ สามีที่ชอบทุบตีเสียที - สกีตเตอร์ก็ยังคงไร้สามีต่อไป และได้ไปเป็นนักเขียนที่นิวยอร์ค ... ผิดคาดนิดๆ นึกว่าคนเขียนจะให้แฮปปี้เอนดิ้ง ให้สจ๊วตเป็นคนดีไม่เหยียดผิว แต่ก็นะ...ชีวิตจริงมันก็ต้องแบบนี้แหละ- ฮิลลี่เธอก็ยังคงไม่สำนึกต่อไป ส่วนตัวคิดว่า พื้นฐานเธอไม่ได้เลวร้ายมาก ((เธอเป็นแม่ที่ดี เลี้ยงดู และรักลูกยิ่งกว่าอลิซาเบ็ธ ซึ่งดูเหมือนจะไม่เลวมาก แต่ทิ้งขว้างลูกสุดๆ)) แต่สังคมหล่อหลอมให้เธอเลวอะ เลวจริงด้วย
สปอยล์ :ความลับของซีเลีย ((เจ้านายของมินนี่)) ก็คือ เธอแท้งลูกหลายครั้งแล้ว ตอนจบของเรื่องอ่านแล้ว bitter & sweet ยังไงไม่รู้- ไอบีลีน เลิกทำงานกับอลิซาเบ็ธ ((เนื่องจากฮิลลี่แกล้งกล่าวหาว่าเธอขโมยของ)) และไปเป็นนักเขียนเต็มตัว ... สงสาร เมย์ ม็อบลีย์ ไม่รู้ว่าจะโตขึ้นมาเป็นยังไง- มินนี่ได้ทำงานกับซีเลียและจอห์นนี่ต่อ และยอมเลิกกับลีรอยด์ สามีที่ชอบทุบตีเสียที - สกีตเตอร์ก็ยังคงไร้สามีต่อไป และได้ไปเป็นนักเขียนที่นิวยอร์ค ... ผิดคาดนิดๆ นึกว่าคนเขียนจะให้แฮปปี้เอนดิ้ง ให้สจ๊วตเป็นคนดีไม่เหยียดผิว แต่ก็นะ...ชีวิตจริงมันก็ต้องแบบนี้แหละ- ฮิลลี่เธอก็ยังคงไม่สำนึกต่อไป ส่วนตัวคิดว่า พื้นฐานเธอไม่ได้เลวร้ายมาก ((เธอเป็นแม่ที่ดี เลี้ยงดู และรักลูกยิ่งกว่าอลิซาเบ็ธ ซึ่งดูเหมือนจะไม่เลวมาก แต่ทิ้งขว้างลูกสุดๆ)) แต่สังคมหล่อหลอมให้เธอเลวอะ เลวจริงด้วย
ไม่ค่อยนิยม "ลัทธิเหยียดผิว"