เรื่อง : บ้านอยู่ยูกันดาเขียนโดย : สุพนิตรูปแรกจากเว็บ dragonbook ส่วนรูปที่สองจากเว็บคนเขียนค่ะ ^^หน้าปกเรื่องของเพื่อนรักสองคนที่เรียนโรงเรียนเดียวกันมาตั้งแต่อายุ 15 แล้วย้ายตามกันไปอยู่ลอนดอน ก่อนที่คนหนึ่งมีเหตุจำเป็นต้องย้ายไปอยู่แอฟริกาเรื่องยาวประจำนิตยสารเปรียวที่ได้รับความนิยมยาวนานกว่า 4 ปีปกหลังตั้งแต่ฉันมาอยู่ที่ไร่อ้อยคินยาร่านี่ได้หลายอาทิตย์แล้ว ความรู้รอบตัวทั่วไปก็เพิ่มพูนขึ้นเป็นลำดับ ถ้าเล่าแบบคร่าวๆ ก็คือว่าคินยาร่าเป็นหล่งผลิตน้ำตาลจากอ้อย ซึ่งเป็นรายได้สำคัญของประเทศยูกันดา รัฐบาลลงทุนจ้างฝรั่งมาบริหารงานในหน้าที่สำคัญๆ เกือบทุกเรื่อง นับตั้งแต่เรื่องการวางผังเมือง สร้างโรงงานผลิตน้ำตาลที่ทันสมัย การกสิกรรม และอื่นๆ เนื่องจากประเทศนี้ขาดผู้เชี่ยวชาญในงานสาขาต่างๆ ส่วนวิวที่นี่ ฉันว่ามันก็สวยดี รอบๆ เมืองมีเนินเขาที่มีต้นไม้เป็นทิว เขียวชอุ่มกว่าเมืองไทย แถมอากาศก็ไม่ร้อนเท่า ฉันวาดภาพไว้ก่อนมาว่ามันคงแห้งๆ แล้งๆ มีวัวเขายาววิ่งกันคึ่กๆ อาจเป็นเพราะที่นี่ฝนตกบ่อยมาก ปีหนึ่งมีหน้าฝน 2 หน ฝนตกทีหนึ่งก็เหมือนรวมเอาฝนที่ตกทั้งปีมาจากอังกฤษ ดินที่นี่ก็เป็นดินสีแดงๆ ปลูกต้นไม้โตทันใจดี แต่ฉันก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่า ดินหรือฝนกันแน่ที่ทำให้ต้นไม้โตไวแบบนี้.....บอกตามตรงว่า หนังสือเล่มนี้ซื้อมาเพราะชอบ attitude คนเขียนค่ะ เอิ๊ก บังเอิญไปรู้จักคุณเทรี่ ((คนเขียน)) ข้างเดียวมาพักนึงแล้ว เพราะได้อ่านคุณเทรี่ตอบกระทู้ในห้อง BP เว็บพันทิป แล้วก็ตามไปดูเว็บ เห็นว่าคุณเทรี่ไปเที่ยวเยอะมากๆๆๆ ((ริษยาสุดๆ 555)) พอดีกับว่า เมื่อเดือน ก.ค. ไอซ์จะไปเปรู ก็เลยหลังไมค์ไปถามเกี่ยวกับ Inca Trail เลยได้คุยหลังไมค์กันนิดหน่อยอย่างที่ไอซ์เคยบอกไปว่า สำหรับไอซ์ attitude ของคนเขียนสำคัญนะคะ เพราะการที่เราอ่านงานเขียนของใครสักคน เราจะอ่านสิ่งที่กลั่นกรองมาจากสมองของคนคนนั้นด้วย อาจจะแปลกๆ สักหน่อย แต่ถ้าไอซ์รู้มาว่า ใครนิสัยไม่เข้าแก๊ปสำหรับไอซ์ ไอซ์อ่านงานของเขาไม่ได้นะ หุหุว่าอันที่จริง หนังสือเล่มนี้นี่ไอซ์เคยเห็นคนซื้อมาจากงานหนังสือมาก่อนซักปีสองปีได้แล้วมั้ง เห็นชื่อก็สนใจอะค่ะ แต่ตอนเดินไม่เจอก็เลือนๆ ไป พอได้คุยกับคุณเทรี่ เมื่องานหนังสือเดือน เม.ย. ก็เลยหาซื้อมา ดองได้ที่พอสมควรแล้วก็เลยหยิบมาอ่าน 555ตอนแรกที่เห็นปกไม่นึกว่าเล่มจริงจะหนาขนาดนี้ เกือบสี่ร้อยหน้าแน่ะ ทั้งๆ ที่ตัดต้นฉบับไปแล้วร้อยกว่าหน้า เปิดเข้าไปดู รูปประกอบก็น้อยจัง ก็นะ...ปกติหนังสือแบบนี้อ่านไปก็อยากเห็นภาพไปด้วยอะน้า แต่...พอได้อ่านแล้ว ถึงไม่มีรูปจริงประกอบ ((มีแต่รูปวาด น่ารักดีค่ะ ไอซ์ได้โปสการ์ดรูปสีมาด้วย ในเล่มเป็นขาวดำ)) ก็อ่านได้สนุกและเห็นภาพดีค่ะในเล่มจะเป็นอีเมล์จาก "หญิงแต้ว" ถึง "อ้วน" เล่าเรื่องที่ผู้เขียนได้สัมผัส พบเจอในประเทศยูกันดา เนื้อหาสบายๆ เห็นสภาพความเป็นอยู่ส่วนเสี้ยวหนึ่งของประเทศยูกันดาจากสายตาของคนที่ไปใช้ชีวิตอยู่ที่นั่น บอกเล่าเรื่องราวของสิ่งที่ผู้เขียนคิด เรื่องรอบๆ ตัว อย่าง "พอล" แฟนหนุ่ม ฝรั่งคนอื่นๆ ที่ทำงานในไร่อ้อย รวมถึงชาวยูกันดา ผู้เขียนช่างสังเกต เอาเรื่องนั้นมาโยงกับเรื่องนี้ อ่านแล้วก็ได้ความรู้ ได้เห็นมุมมองที่ต่างออกไปบางครั้งอ่านแล้วก็ขำดี เพราะไอซ์เคยอยู่ลอนดอนมาก่อน พอผู้เขียนพูดถึงลอนดอนกับเพื่อน ไอซ์ก็พลอยเห็นภาพไปด้วยแถมผู้เขียนยังเปิดเผยพอสมควร เผาคนโน้นคนนี้ รวมทั้งเผาตัวเองไปด้วย เวลาอ่านแล้วได้ความรู้สึกแอบอ่านอีเมล์ของชาวบ้าน แอบรู้ชีวิตของคนอื่นดีค่ะ กิกิ เสียดายนิดหน่อยที่อีเมล์แต่ละฉบับไม่มีวันที่บอกช่วงเวลาค่ะ เลยไม่รู้ว่า แต่ละตอนนี่ห่างกันนานเท่าไหร่ แต่คิดว่าคงจะมีการเรียบเรียงอะไรด้วยแหละสรุปว่าชอบเล่มนี้นะคะ อ่านเพลินดี ถ้าใครชอบอ่านแนวนี้ก็ขอแนะนำค่ะ ((ปกติไอซ์ไม่ค่อยอ่านแนวนี้นะ กิกิ)) แถมรายได้ที่ผู้เขียนได้จากหนังสือเล่มนี้ ผู้เขียนบริจาคในมูลนิธิของจินตนา โฟ๊ค เพื่อเป็นทุนการศึกษาให้เด็กยากจนในภาคอีสานด้วยอ่านแล้วก็อยากมีอิสระทำอะไรแบบนี้ได้จังค่ะ ถ้าสามารถย้ายถิ่นไปเรื่อยๆ อยู่ประเทศละ 1-2 ปี ท่องเที่ยวและเขียนหนังสือไปด้วย คงจะสนุกดี ^^ผู้เขียนได้เขียนหนังสือภาษาไทยไว้อีกสองเล่มนะคะ มี "เจ้าแม่เซี่ยงไฮ้" และ "เรื่องเล่าจากเกาหลี" ไว้งานหนังสือคราวหน้าจะไปเดินหาดู ^^เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ของคุณเทรี่ ผู้เขียนเรื่องนี้ได้ ที่นี่ และดูรูปจากยูกันดาได้ ที่นี่ ค่ะ
เอ๊ะ คุ้นๆว่าเคยอ่านเรื่องเล่าจากเกาหลี ผู้เขียนคนเดียวกันเหรอคะเนี่ย