หนังสือ : The Kill Artist (Gabriel Allon Novels)ผู้เขียน : Daniel Silva สนพ. : Signetจำนวนหน้า : 432 หน้าภาษา : อังกฤษ รายละเอียดจากปกหลังกาเบรียล อัลลอน (Gabriel Allon) ผู้ครั้งหนึ่งเคยเป็นบุคคลสำคัญในปฏิบัติการลับของหน่วยข่าวลับของอิสราเอล กำลังหลบหนีจากอดีต ใช้ชีวิตเงียบสงบด้วยการเป็นนักซ่อมงานศิลปะล้ำค่า แต่ตอนนี้เขากำลังถูกเรียกกลับเข้ามามีส่วนร่วมกับ "เกม" อีกครั้งหนึ่ง พร้อมกับสายลับสาวที่เขาเคยร่วมทีมด้วย ซึ่งซ่อนตัวอยู่ภายใต้หน้ากากการเป็นนางแบบสาวชาวฝรั่งเศสชั้นนำเป้าหมายของพวกเขาก็คือ ผู้ก่อการร้ายที่ฉลาดเฉลียว เจ้าเล่ห์ ที่กำลังก่อการฆาตกรรมครั้งใหญ่เป็นครั้งสุดท้าย ซึ่งเป็นชายชาวปาเลสไตน์หัวรุนแรงชื่อ ทาริค (Tariq) ... และคนผู้นี้เป็นส่วนหนึ่งของอดีตอันดำมืดของกาเบรียลด้วยการไล่ล่ากลายเป็นการฟาดฟันระดับโลกซึ่งถูกหนุนด้วยการเมืองและความแค้นส่วนตัว ในโลกที่ซึ่งความลับและการหลอกลวงคือความแน่นอน ความแค้นคือความหรูหราที่ไม่มีใครสามารถหาได้ และเป็นผลงานชิ้นพิเศษเหนือกว่าสิ่งใดจากไอซ์ :ไอซ์ไม่เคยได้ยินชื่อของนักเขียนคนนี้มาก่อน จนกระทั่งใน WWR ได้เห็นคุณ varavari บอกว่าเป็นนักเขียนคนโปรดใน เขียนแนวสืบสวนสอบสวน ซึ่งเป็นแนวที่ไอซ์ชอบ และรู้สึกว่าอ่านจนไม่มีอะไรจะอ่านแล้ว ก็เลยลองซื้อมาอ่านดูค่ะอืม...อ่านจบแล้ว ขอบอกว่า...เรื่อง The Kill Artist ไม่ใช่แนวสืบสวนสอบสวนนะคะ แต่เป็นแนว Spy ต่างหาก เนื้อเรื่องจะเป็นการชิงไหวชิงพริบระหว่างฝ่ายผู้ก่อการร้าย มีหัวเรี่ยวหัวแรงคือชาวปาเลสไตน์ชื่อทาริค ต้องการจะขัดขวาง peace process ที่ประธานาธิบดี ยัสเซอร์ อาราฟัด กำลังจะเจรจา ด้วยการไล่ฆ่านักการทูตและบุคคลสำคัญต่างๆ ... อีกฝ่ายคือหน่วยราชการลับของอิสราเอล หรือที่เรียกชื่อเล่นว่า The Office ซึ่งหัวหน้าหน่วยนี้ไปลากเอากาเบรียลมาจัดการกับทาริคการเดินเรื่องมีการทำงานของสปายละเอียดมากๆ ค่ะ การไล่ล่าข้ามประเทศต่างๆ ((บรรยายได้สมจริงมากมาย หลายๆ แห่งที่ไอซ์เคยไปมาแล้ว เห็นภาพชัดมากๆ ไม่ว่าจะเป็น ลอนดอน ปารีส เวียนนา อัมสเตอร์ดาม ฯลฯ)) มีการชิงไหวชิงพริบกันเยอะ สิ่งที่วางแผนเอาไว้ จะมีการซ้อนแผนมากมาย ที่น่าสนใจก็คือการปฏิบัติงานของสายลับที่อธิบายไว้อย่างละเอียดนะคะ ต้องตื่นตัวตลอดเวลา จดจำทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวได้หมด มีไหวพริบ ฯลฯ อ่านแล้วรู้สึกว่า ถ้าตัวเองไปอยู่ในสถานการณ์นั้น คงตายตั้งแต่หน้าแรกๆ แล้วล่ะค่ะ ^^"ระหว่างเรื่องมีการสอดแทรกเรื่องราวเกี่ยวกับ Black September ปัญหาระหว่างปาเลสไตน์กับยิวค่อนข้างเยอะ อ่านแล้วเครียดๆ อยู่เหมือนกันอ่านเพลินพอสมควรนะคะ ถึงแม้บางครั้งไอซ์จะแอบรู้สึกว่าอืดไปนิด ((มันวางแผนอ้อมไปอ้อมมาเยอะไปหน่อย 555)) จบได้น่าสนใจตามสไตล์หนังสือแนวสปายอะค่ะ ไอซ์มีเล่มต่อจากเล่มนี้อยู่ที่บ้านแล้ว ถ้ามีอารมณ์เมื่อไหร่ก็จะหยิบมาอ่านต่อค่ะ ^^ปล. คุณ varavari บอกว่าเล่มนี้มีแปลเป็นไทยแล้วนะคะ ของสนพ.นานมีบุ๊คส์ แต่ไอซ์ไม่ทราบชื่อเรื่องภาษาไทยค่ะ แหะๆ ใครสนใจก็ลองหาดูนะคะ ^^"สปอยล์ :ไม่รู้จะสปอยล์อะไร เนื้อเรื่องมันเยอะเหลือเกิน ซ้อนแผนกันไปมา ... สรุปง่ายๆ คือ กาเบรียลเคยฆ่าพี่ชายของทาริค ... ปฏิบัติการครั้งก่อนทาริคเลยพยายามฆ่าลูกและเมียของกาเบรียล ลูกตาย เมียรอดแต่อยู่ รพ. ... กาเบรียลก็เลยรับทำงานนี้ทั้งๆ ที่ล้างมือไปแล้วผู้ช่วยที่โดนลากตัวมาอีกคนก็คือ "แจ็คกาลีน" ซึ่งเป็นชาวยิว แต่อยู่ในปารีสในฐานะนางแบบแฟชั่น เธอหลงรักกาเบรียลมาตั้งแต่ปฏิบัติการครั้งก่อนแผนก็คือให้แจ็คกาลีนไปอ่อยเหยื่อหนุ่มคนหนึ่ง ((ขี้เกียจเปิดชื่อแล้ว)) ซึ่งได้รับข้อมูลมาว่า เป็นหนึ่งในผู้ร่วมขบวนการของทาริค เพื่อที่จะสาวไปถึงตัวทาริคได้ทาริคตั้งใจจะทำงานใหญ่เป็นครั้งสุดท้ายด้วยการสังหารประธานาธิบดียัสเซอร์ อาราฟัดสุดท้ายทาริคทำไม่สำเร็จ ((เจอยัสเซอร์กล่อม)) และตายท้ายจริงๆ แล้วมีแผนซ้อนไปอีกว่า หนุ่มที่แจ็กกาลีนไปอ่อยนั้น จริงๆ แล้วเป็น mole ของ The Office อีกที....จำไม่ค่อยแม่นแล้วค่ะ ถ้ามีอะไรผิดพลาดก็ขอโทษด้วยค่า >_<
สปอยล์ :ไม่รู้จะสปอยล์อะไร เนื้อเรื่องมันเยอะเหลือเกิน ซ้อนแผนกันไปมา ... สรุปง่ายๆ คือ กาเบรียลเคยฆ่าพี่ชายของทาริค ... ปฏิบัติการครั้งก่อนทาริคเลยพยายามฆ่าลูกและเมียของกาเบรียล ลูกตาย เมียรอดแต่อยู่ รพ. ... กาเบรียลก็เลยรับทำงานนี้ทั้งๆ ที่ล้างมือไปแล้วผู้ช่วยที่โดนลากตัวมาอีกคนก็คือ "แจ็คกาลีน" ซึ่งเป็นชาวยิว แต่อยู่ในปารีสในฐานะนางแบบแฟชั่น เธอหลงรักกาเบรียลมาตั้งแต่ปฏิบัติการครั้งก่อนแผนก็คือให้แจ็คกาลีนไปอ่อยเหยื่อหนุ่มคนหนึ่ง ((ขี้เกียจเปิดชื่อแล้ว)) ซึ่งได้รับข้อมูลมาว่า เป็นหนึ่งในผู้ร่วมขบวนการของทาริค เพื่อที่จะสาวไปถึงตัวทาริคได้ทาริคตั้งใจจะทำงานใหญ่เป็นครั้งสุดท้ายด้วยการสังหารประธานาธิบดียัสเซอร์ อาราฟัดสุดท้ายทาริคทำไม่สำเร็จ ((เจอยัสเซอร์กล่อม)) และตายท้ายจริงๆ แล้วมีแผนซ้อนไปอีกว่า หนุ่มที่แจ็กกาลีนไปอ่อยนั้น จริงๆ แล้วเป็น mole ของ The Office อีกที....จำไม่ค่อยแม่นแล้วค่ะ ถ้ามีอะไรผิดพลาดก็ขอโทษด้วยค่า >_<