เสือดำที่มายอ : มารู้จักกับ "รพินทร์ ไพรวัลย์" ตัวจริง
รีวิวหนังสือที่อ่านตามเกม RRR หรือ Rainy Read Rally ต่อ ... ใครที่สงสัยว่ามันคืออะไรคลิกที่ลิงก์ข้างล่างได้เลยค่ะ
- กระทู้เปิดตัว
- กระทู้ปัจจุบัน ((ตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค.))
เล่มนี้อ่านตามโจทย์
5-9. [อั๊งอังอา] วันสืบ นาคะเสถียร 1 ก.ย.: อ่านหนังสือที่เกี่ยวกับป่า 1 เล่ม เช่น เดินทางไปป่า, อยู่ในป่า, ทำงานเกี่ยวข้องกับการอนุรักษ์ป่าหรือสัตว์ป่าแต่อยู่ในเมืองก็ได้
ได้ 5 คะแนน ^^
เรื่อง : เสือดำที่มายอ เขียนโดย : พนมเทียน
จากปกหลัง
ถึงวันหนึ่ง พนมเทียน ได้จับปากกาเขียนประสบการณ์จริงในการเดินป่าของเขาให้ผู้อ่านที่เคยลิ้มรสกับเพชรพระอุมาได้มาลิ้มลองของจริงๆ กันบ้างว่า
กว่านักเขียนคนหนึ่ง เขาจะเขียนนวนิยายผจญภัยในป่าดงพงพีได้ขนาดนั้น เขาต้องผ่านประสบการณ์ชนิดเลือดตาแทบกระเด็นมาแล้วอย่างไรบ้าง
งานชุด ประสบการณ์เดินป่าในชีวิตจริง ของ พนมเทียน มีทั้งหมดด้วยกัน ๔ เรื่อง คือ ประสบการณ์เดินป่าในชีวิตจริง ชุด จับตาย 1. เสือดำที่มายอ 2. ไอ้ลายที่บางลาง 3. ช้องหมู มฤตยูเขี้ยวตัน 4. เมื่อคุณหมอหลงป่า
จับตาย : เสือดำที่มายอ
เมื่อความปรากฏว่า มีเสือดำขนาดใหญ่ออกมาอาละวาดที่บ้านมายอ และข่าวก็มาเข้าหูเชิด วรชาติ (คนนี้แหละครับที่พนมเทียนเฉลยมาว่า เขานำบุคลิกบางอย่างของเชิดมาวางไว้ในบุคลิกของ รพินทร์ ไพรวัลย์ เท็จจริงอย่างไร ต้องตามอ่านใน เสือดำที่มายอ นี้ เพราะพนมเทียนอธิบายบางอย่างไว้แล้ว) และฉัตรชัย (พนมเทียน) พร้อมๆ กับนายบ้านมายอ ก็ต้องการให้ เชิด วรชาติ ที่มีความช่ำชองในการแกะรอย และมีฝีมือลายมือในเชิงปืนเข้าขั้นพรานให้ไปร่วมกันหาทางกำจัดไอ้ดำตัวร้ายที่ทำร้ายลูกบ้านจนหน้าตาเละเทะ ลูกตาทะลัก ชนิดไม่ตายก็ปางตาย
โปรดสังเกตนะครับ ที่ไม่มีใครเชื้อเชิญ คุณฉัตรชัยของเราในฐานะพราน แต่นั่นแหละ เมื่อฉัตรชัย หรือ ไอ้อี๊ดของพี่เชิดคือคนชอบลุยป่านิยมไพรกลุ่มเดียวกัน เมื่อมีเชิดไป ก็ต้องมีอี๊ด ฉัตรชัย ไปด้วย และผู้ที่ประกอบวีรกรรม แพะ ในครั้งนั้นก็คือ คุณฉัตรชัย หรือ พนมเทียน ของเรานั่นเอง เป็นผู้ซัดซะ ไอ้ดำที่ มายอหงายกลิ้งคาที่ไปเลย
พิสูจน์จับตายไอ้ดำ จนเป็นทีมาของวีรกรรม แพะ ว่าทำไมเหตุการณ์ครั้งนี้ส่งให้ อี๊ด ฉัตรชัย หรือพนมเทียนของเราฮือฮาไปทั่วป่าที่มายอ
....
หนังสือเล่มนี้เป็นบันทึกเรื่องที่เกิดขึ้นจริงของลุงอี๊ด หรือคุณพนมเทียน ผู้เขียนเรื่องเพชรพระอุมานั่นเองค่ะ
เชิด วรชาติ เป็นเพื่อนรุ่นพี่ของลุงอี๊ด มีอาชีพเป็นศุลการักษ์ที่จังหวัดปัตตานี เป็นเพื่อนร่วมก่อบาปล่าสัตว์กันอยู่เนืองๆ ... ในเรื่องนี้ ลุงอี๊ดไปเขียนนิยายเรื่องมัสยาอยู่แถวๆ นั้นนั่นแหละ แล้วก็มีเสือดำมาขย้ำนาย "เซ็ง" จนตาพลัดแถบๆ ที่เรียกว่ามายอ
ปัญหาก็คือ เมื่อเสือได้ลิ้มรสเนื้อคนแล้ว มันก็จะตามล่าคน ทำเอาชาวสวนยางไม่เป็นอันทำงาน เชิดและลุงอี๊ด...ซึ่งเป็นพรานสมัครเล่นเลยอาสาจะปราบเสือให้
เชิดชำนาญการเดินป่า แกะรอย เรียกได้ว่าเป็นพรานคนหนึ่ง แต่ก็ไม่เคยแกะรอยเสือมาก่อน ส่วนลุงอี๊ดในตอนนั้น...อายุแค่ 21 อ่อนประสบการณ์การเดินป่าแถมไม่เคยยิงสัตว์ใหญ่มาก่อน แต่ด้วยความเป็นหนุ่มวัยคะนองเลยเอากับเขาด้วย
พอนัดกันจะไปเป็นมั่นเป็นเหมาะ เชิดงานเข้า ไปอยู่เฝ้าเสือได้แค่สองวันสองคืนก็ต้องกลับไปทำงานเพราะมีเรือจะเข้า ... ลุงอี๊ดเลยต้องอยู่ปราบเสือคนเดียว
ชื่อหนังสือก็บอกแล้วว่า "จับตาย" แน่นอนว่า ลุงอี๊ดของเราปราบเสือได้ แต่...ที่ตายไม่ได้มีแต่เสือน่ะสิ ฮา
....
ลุงอี๊ดบอกในเล่มว่า จะไม่เขียนในสิ่งที่ไม่รู้จริง และแน่นอนว่า เมื่อได้อ่านหนังสือเล่มนี้แล้ว เห็นภาพได้ชัดเจนมากๆ ว่า ตัวละครและฉากในเพชรพระอุมามีที่มาจากไหน
เริ่มต้นที่ เชิด วรชาติ คนนี้เองล่ะค่ะที่เป็นต้นแบบของรพินทร์ ไพรวัลย์
เชิด ... ยิ้มยาก แต่มีอารมณ์ขันแบบหน้าตาย แกะรอยเก่ง เดินป่าแบบไม่รอใคร ใจเย็น ประหยัดกระสุนเป็นที่หนึ่ง ถ้าลั่นไกแล้ว 95% แปลว่าได้ตัวสัตว์ ... สิ่งที่ต่างจากรพินทร์ในนิยายคือ เชิดชอบดูหนังสือโป๊ ชอบแอบดูสาวๆ 555
ส่วนลุงอี๊ดในเรื่องให้อารมณ์ประมาณ ไชยยันต์ + ดาริน ช่วงแรกๆ มาก ขี้โวยวาย ใจเร็ว
สไตล์การเขียนในเล่มนี้เหมือนกับเป็นการเล่าเรื่องจากผู้ชายให้ผู้ชายฟัง ก็เลยออกแนวทะลึ่งตึงตังและลุ่นๆ ห้วนๆ หน่อยค่ะ
ไอซ์อ่านไปก็ขำไป เพราะเอาไปเทียบกับเพชรพระอุมาตลอดเลยเชียว และอีกอย่างก็คือ ไอซ์โชคดีที่ได้รู้จักลุงอี๊ดเป็นการส่วนตัว เลยอ่านแล้วเห็นภาพด้วยน่ะค่ะ
แฟนๆ เพชรพระอุมาน่าจะชอบเล่มนี้นะคะ
เรื่องอื่นๆ ในชุดนี้ไอซ์ยังไม่ได้อ่านค่ะ แต่คงจะได้หยิบมาอ่านเร็วๆ นี้แหละ ^^
สิ่งที่อยากตำหนิสนพ. ณ บ้านวรรณกรรมก็คือ หนังสือเล่มนี้มีที่พิมพ์ผิดเยอะมากกกกกกกกค่ะ ไม่ว่าจะเป็น การแบ่งวรรคตอนที่ผิดพลาด การพิมพ์ตกหล่น และการสะกดผิดหลักภาษา เช่น แม๊ะ แหน๋ว ฯลฯ
เมื่อไหร่จะปรับปรุงสักทีคะ เสียดายของอะค่ะ เฮ่อ
....
มีฉากหนึ่งในเรื่องที่ทำให้ไอซ์นึกถึงประสบการณ์ของตัวเองนะคะ
เชิดเดินนำอยู่ข้างหน้าแล้วหยุดกึก ส่วนลุงอี๊ดที่เดินตามมาข้างหลังก็ไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลย จนเห็นท่าทางแปลกๆ ของเชิดนั่นแหละ ลุงอี๊ดถึงได้สังเกตว่ามีงูจงอางขวางหน้าอยู่
เมื่อปีที่แล้วไอซ์ไปเที่ยวประเทศเปรูและได้ไปเดินในป่าอเมซอน ก็ไม่ได้เป็นป่าทึบอะไรนะคะ เป็นป่าที่ให้นักท่องเที่ยวเดินนั่นแหละ ไอซ์ก็เดินคุยกับติโต้...ไกด์ท้องถิ่นอยู่หน้าสุดอย่างเริงร่า จู่ๆ ติโต้ก็ชะงักกึก หน้าซีดเผือด ไอซ์ที่เดินเยื้องอยู่ด้านหลังนิดๆ ก็ไม่รู้อิโหน่อิเหน่จะเดินต่อ แต่เขาเอาแขนกันให้ไอซ์ถอยไปด้านหลัง
ไอซ์ถึงได้สังเกตว่า ตรงทางด้านหน้ามีงูขนาดใหญ่ประมาณงูหลามบ้านเรานอนขวางทางอยู่อะค่ะ
ไอซ์ก็นึกว่าเป็นงูหลามง่ะ เลยจะวิ่งเข้าไปถ่ายรูป ติโต้คว้าตัวเอาไว้แทบไม่ทัน บอกว่านั่นเรียกว่างูสามเหลี่ยม มีพิษร้ายแรงมาก ถ้าโดนกัดก็ตายแน่ เพราะตรงนั้นอยู่ห่างจากที่พักไกลประมาณครึ่งชั่วโมง ส่วนพิษนี่ออกฤทธิ์ภายในไม่ถึงห้านาที
ทีนี้จะเดินไปข้างหน้าก็ไม่ได้ จะอ้อมก็ไกลมาก เริ่มมืดแล้วด้วย ... ก็ต้องรอไกด์ท้องถิ่นกลุ่มอื่นๆ เดินตามมาถึง แล้วพวกไกด์ก็ช่วยกันไล่ไปอะค่ะ
ขนาดงูไปแล้ว เดินกลับถึงที่พักแล้ว ติโต้ยังหน้าซีดไม่หาย เพราะงูนั่นอยู่ห่างไปไม่ถึงสามก้าว ถ้าเหยียบและโดนกัด รับรองว่าตายสนิท และคนต่อไปที่จะตายก็คือไอซ์นี่แหละ เพราะอยู่ต่อจากติโต้พอดี
ติโต้บอกว่าเป็นไกด์ท้องถิ่นมาสามปี เพิ่งเจอเจ้านี่เป็นครั้งที่สอง ... สรุปว่ากลุ่มไอซ์โชคดี ได้เห็นงูพิษ เหอๆๆๆๆๆ
....
สปอยล์ตอนจบ
ลุงอี๊ดไปเฝ้าเจ้าเสือดำที่บ้านของ "แอเซาะ" หลานของฮัจจี ((คล้ายๆ ผู้ใหญ่บ้าน)) เสือดำบุกจริง เข้าไปในเล้าแพะ ลุงอี๊ดแกเล่นยิ่งแหลก ... นอกจากเสือดำจะตายไปแล้ว แพะยังตายคาที่และบาดเจ็บระนาว ... ต้องเอาไปทำอาหารอีก 7 ตัว เอิ๊ก
Create Date : 07 สิงหาคม 2552 |
Last Update : 8 สิงหาคม 2552 0:22:47 น. |
|
6 comments
|
Counter : 6036 Pageviews. |
|
|
|