No matter what life brings, I just believe that... Everything happens for the best.

Group Blog
 
<<
กันยายน 2553
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
24 กันยายน 2553
 
All Blogs
 
The Face of Deception : ถ้าได้อ่านเมื่อสัก 10 ปีก่อนจะสนุกกว่านี้

รีวิวต่อเนื่องอีกเล่มค่ะ ^^




หนังสือ : The Face of Deception (Eve Duncan)
เขียนโดย : Iris Johansen
สนพ. : Bantam (June 1, 1999)
Paperback : 446 หน้า
ภาษา : อังกฤษ






รายละเอียดจากปกหลัง :

หัวกะโหลกที่ไม่รู้ว่าเป็นของใคร
เส้นทางสู่ความลับที่น่าหวาดกลัว
และความสามารถของหญิงสาวที่จะเปิดเผยความจริงอันน่าตื่นตระหนก...

ในฐานะ forensic sculptor ((นักสร้างโครงหน้าจากกะโหลก)) อีฟ ดูนแคน (Eve Duncan) ช่วยบ่งชี้ว่าคนตายเป็นใครจากกะโหลก เนื่องจากลูกสาวของอีฟถูกฆาตกรรมโดยที่ยังไม่พบร่าง งานของอีฟเป็นวิธีที่ทำให้เธอค่อยๆ จัดการกับฝันร้ายของเธอ

แต่...ความน่าหวาดหวั่นกลับรออยู่ข้างหน้า เมื่ออีฟตอบรับที่จะทำงานให้กับ จอห์น โลแกน...เศรษฐีอันมีประวัติความเป็นมาไม่ชัดเจน กะโหลกที่เขามอบให้เธอกลับเป็นใบหน้าของคนที่ไม่ควรจะมีใครได้เห็น

ตอนนี้อีฟตกอยู่ในวงล้อมของการฆาตกรรมและการหลอกลวงที่อันตราย ศัตรูที่เปี่ยมอำนาจมุ่งมั่นที่จะปกปิดความจริง และพวกเขาก็จะทำทุกอย่างเพื่อให้ความจริงถูกฝังลงหลุม...แม้ว่าอีฟจะต้องถูกฝังลงไปด้วยก็ตาม

....

จากไอซ์ :

อย่างที่บอกไปในบล็อกที่แล้วนะคะว่า ไอซ์เกิดอารมณ์อยากอ่านแนวสืบสวน/ฆาตกรรม แต่ที่มีอยู่ก็กวาดอ่านไปหมดแล้ว เลยต้องพยายามหานักเขียนใหม่ๆ มาลอง แล้วก็เลยสุ่มซื้อเล่มนี้มาค่ะ

เนื้อเรื่องก็เป็นอย่างปกหลังนะคะ อีฟรับทำงานให้กับโลแกน สร้างใบหน้าให้กับกะโหลกที่เขามอบให้เธอ และมันก็เป็นใบหน้าของคนที่ยังไม่สมควรตาย ... ฝ่ายตรงข้ามก็พยายามปกปิด ทำให้อีฟและโลแกนต้องพยายามหนีตาย พร้อมกับเปิดโปงเบื้องหลัง

เล่มนี้เป็นเล่มแรกในซีรียส์ที่มี Eve Duncan ซึ่งเป็น forensic sculptor เป็นตัวเอกค่ะ

ที่บอกว่า...อ่านเล่มนี้ช้าไป 10 ปีก็เพราะเทคโนโลยีที่กล่าวถึงในเรื่องนี้มันล้าสมัยไปแล้วอะค่ะ การสร้างใบหน้าจากกะโหลกในหนังสือนั้น ยังคงต้องใช้ "มือ" ในการสร้าง โดยการคำนวนระยะลึกตื้นของระดับกล้ามเนื้อแต่ละแห่งบนใบหน้า แล้วค่อยๆ ใช้ clay สร้างใบหน้าขึ้นมา ...ซึ่งแน่นอนว่าทำได้ยากมาก และผู้เชี่ยวชาญก็มีอยู่แค่หยิบมือเดียว แต่ปัจจุบันนี้ เทคโนโลยีก้าวไกลจนสามารถแสกนกะโหลกและสร้างใบหน้าในคอมพิวเตอร์ได้แล้ว ... อีกเรื่องก็คือการตรวจ DNA ซึ่งในเรื่องยังเป็นเทคโนโลยีเก่า ต้องใช้เวลามากในการตรวจ .... ดังนั้นเนื้อเรื่องมันก็เลยล้าสมัยตามไปด้วยน่ะค่ะ ถ้าอ่านเมื่อสัก 10 ปีก่อน น่าจะรู้สึกว่ามันสนุกและน่าสนใจกว่านี้

ถ้าละเรื่องเทคโนโลยีไป...เรื่องนี้ก็อ่านได้ในระดับหนึ่งค่ะ ... ส่วนตัวคิดว่าเนื้อเรื่องมันไม่มีอะไรมาก แต่มันหนาได้ขนาดนี้ก็เพราะตัวละครที่....ออกจะ emotion มากไปหน่อย มีเรื่องส่วนตัวเยอะไปนิด ... โอเคว่าผู้เขียนสร้างให้อีฟเป็นผู้หญิงแกร่ง ฉลาด แต่...มันก็มีบางจุดที่เธอฟูมฟาย อวดเก่งจนน่ารำคาญ มีบทเถียงทะเลาะระหว่างเธอกับคนโน้นคนนี้เยอะไปหน่อย ... แถมด้วยตัวละครอีกมากมาย ซึ่ง...ไม่ค่อยเกี่ยวกับเนื้อเรื่องหลัก เช่น แม่ของอีฟ เป็นต้น ... ผู้เขียนพยายามเขียนให้อีฟเป็นผู้หญิงที่ใครๆ ก็ชอบและหลงรัก มันก็ออกจะดูเว่อร์ๆ ไปหน่อย

อีกจุดที่อ่านแล้วรู้สึกเหวอๆ ก็คือ มีบทสนทนาระหว่างอีฟกับบอนนี่...ลูกสาวที่ตายไปแล้วในฝันเป็นระยะๆ ด้วย

เรื่องมันก็เลยกึ่งๆ อะค่ะ จะสนุกตื่นเต้นเป็นแนวสืบสวนก็ไม่ใช่ จะเป็น fiction ผสมโรแมนติกก็ไม่เชิง อ่านแล้วก็เลยครึ่งๆ กลางๆ ... สารภาพว่าอ่านข้ามๆ อยู่หลายตอนเหมือนกัน เพราะเรื่องมันไม่เดิน

เท่าที่อ่านรีวิวเห็นว่า เล่มสองคือ A Killing Game จะสนุกกว่า แต่...ไม่รู้สึกอยากอ่านอะค่ะ เพราะเล่มนั้นก็เขียนนานแล้วเหมือนกัน คิดว่าเทคโนโลยีจะย้อนหลังไปเหมือนเล่มนี้นี่แหละ จะกระโดดข้ามไปอ่านเล่มใหม่ๆ เลย ก็เหมือนจะมีช่องว่างที่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอก ((มีตัวอย่างเรื่อง Stalemate อยู่ท้ายเล่ม ออกวางขายปี 2007 อีฟจับคู่โรแมนติกกับอีกคนแล้วด้วย เป็นไงมาไงก็ไม่รู้))

สรุปว่า...ส่วนตัวคิดว่า ถ้าบางกว่านี้สัก 30% ตัดเรื่องส่วนตัวของอีฟ บทสนทนาทุ่มเถียง และตัวละครอื่นๆ ออกไปบ้าง น่าจะสนุกและกระชับกว่านี้อะค่ะ





สปอยล์ :

กะโหลกที่โลแกนให้อีฟสร้างใบหน้าให้ เป็นของเบ็น...ประธานาธิบดีสหรัฐคนปัจจุบัน โลแกนสงสัยว่าเบ็นถูกลิซ่า...สตรีหมายเลข 1 ซึ่งเป็นภรรยาของเขาฆ่า เพื่อจะกุมอำนาจทางการเมือง แล้วใช้ผู้ชายอีกคนสวมรอยเป็นประธานาธิบดีแทน โดยที่ลิซ่าเป็นคนชักใยอยู่เบื้องหลัง

เฉลยว่า เบ็นฆ่าตัวตายเองเพราะเป็นมะเร็ง และเป็นคนวางแผนเรื่องตัวแทนขึ้นมา และให้ลิซ่าคุมตัวแทนนั้นเพื่อผ่านร่างกฎหมายตามนโยบายที่เขาวางไว้

ตอนท้ายก็น้ำเน่าว่า โลแกนชอบอีฟและพยายามชนะใจเธอ

โจ...เพื่อนสนิทของอีฟที่เคยเป็น FBI และลาออกมาเป็นตำรวจแอตแลนต้า จริงๆ ก็รักอีฟ แต่ไปแต่งงานกับผู้หญิงอีกคน

หลังจากเล่มนี้ไม่รู้ว่าเรื่องเป็นไงต่อไป แต่ที่แน่ๆ เล่ม Stalemate เปิดเรื่องมาอีฟก็มีเซ็กส์กับโจแล้ว เอิ๊ก





ดู Index รายชื่อหนังสืออื่นๆ ที่ไอซ์ได้รีวิวไปแล้วตามลิงก์ข้างล่างค่ะ

- หนังสือภาษาอังกฤษ
Index Bookshelf : English Books

- หนังสือแปล
Index Bookshelf : Translated Books

- หนังสือภาษาไทย
Index Bookshelf : Thai Books



Create Date : 24 กันยายน 2553
Last Update : 24 กันยายน 2553 22:23:20 น. 3 comments
Counter : 1473 Pageviews.

 
แปลกแฮะ....ไม่ได้เห็นงานเธอตั้งนานแล้ว แต่ทำไมช่วงนี้ถึงได้เจ๊อะกับ ไอริส โจแฮนเซ่น ทีเดียว 2 เรื่องติดเลย ทั้งจากหนังสือแล้วก็รีวิว

ไอริส โจแฮนเซ่น เดิมเธอเป็นนักเขียนนิยายแนวโรมานซ์มาก่อนค่ะ นิยายของเธอมีการแปลเป็นภาษาไทยเยอะมาก ๆ เลยล่ะ ส่วนใหญ่เป็นของ สนพ.แก้วกานต์ ค่ะ

พอช่วงหลัง ๆ ที่เธอเริ่มเปลี่ยนแนวมาเขียนสืบสวนสอบสวน แก้วกานต์ก็ไม่ได้เอามาแปลอีกแล้วค่ะ เพราะเห็นว่ามันหนักไปและไม่ค่อยสนุก ทำให้ไม่ได้อ่านงานของเธออีกเลย

แต่ตอนนี้เห็น คริสตัล เอานิยายของเธอมาทำเล่มนึงเรื่อง คิมหันต์อมตะ Dark Summer เป็นแนวพารานอร์มอล ที่มีสืบสวนสอบสวนด้วยหน่อย ๆ อ่านแล้วไม่ค่อยสนุกเท่าไหร่ค่ะ แต่ก็แก้คิดถึงเธอได้หน่อยนึง อิอิ




โดย: โอ-พิน (o_pinP ) วันที่: 25 กันยายน 2553 เวลา:10:57:14 น.  

 
งานแนวนี้ของ ไอริส โจแฮนเซ่น ยังไม่เคยอ่านเลยค่ะ อ่านแต่แนวโรมานซ์ (ชุด เซดิข่าน) แต่ก็ยังไม่ค่อยโดนใจ(เรา)มากเท่าไหร่ค่ะ

สำหรับเรื่องนนี้ถ้ามีโอกาสไว้ต้องลองหามาอ่านบ้างค่ะ


โดย: อ้อมกอดของความเหงา วันที่: 25 กันยายน 2553 เวลา:18:23:39 น.  

 
....โอ...ขอบคุณพี่โอมากๆ ค่ะ ตอนไอซ์อ่านเรื่องนี้ก็ยังนึกๆ อยู่เลยว่า สไตล์การเขียนน่าจะเป็นนักเขียนแนวโรแมนซ์มากกว่าจะเป็นแนวสืบสวน เพราะเน้นอารมณ์ของตัวเอกหญิงมากกว่าพล็อต

ถามว่าเรื่องนี้หนักมั้ย ... อืม...ถ้ามองจากมุมมองคนชอบอ่านแนวสืบสวนอย่างไอซ์ ไอซ์ว่าเรื่องนี้เบามากๆ อะค่ะ แต่ดูจากรีวิวก็ว่าเรื่องหลังๆ จะสนุกนะคะ อาจจะหนักพล็อตถูกคอแนวสอบสวนมากขึ้นก็ได้ สวนทางกับโรแมนซ์เลยทีเดียว


...ลองดูนะคะคุณอ้อมกอดฯ อาจจะถูกใจคนชอบอ่านสืบสวนแนวเบาๆ หน่อยก็ได้ค่ะ


โดย: Clear Ice วันที่: 25 กันยายน 2553 เวลา:19:51:06 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Clear Ice
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 22 คน [?]




Friends' blogs
[Add Clear Ice's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.