No matter what life brings, I just believe that... Everything happens for the best.

Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2555
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
26272829 
 
3 กุมภาพันธ์ 2555
 
All Blogs
 
The Colour of Law : อยากให้สีของกฎหมายเป็นสีแห่งความยุติธรรม

หลังจากที่อ่านหนังสืออย่างกระท่อนกระแท่น อ่านไม่จบมาหลายเล่ม ก็มาเจอเล่มนี้ที่อ่านเกือบจะรวดเดียวจบเลยค่ะ ^^



หนังสือ : The Colour of Law [Paperback]
ผู้เขียน : Mark Gimenez
สนพ. : Sphere; New edition edition (2 Sep 2006)
จำนวนหน้า : 512 หน้า
ภาษา : อังกฤษ




รายละเอียดจากปกหลัง

เอ. สก็อตต์ เฟนนีย์ เป็น corporate lawyer ((ไอซ์ไม่แน่ใจภาษาไทยค่ะ แต่เป็นทนายที่ดูแลเกี่ยวกับเรื่องเงินๆ ทองๆ)) ของเมืองดัลลัสซึ่งอยู่ในช่วงสูงสุดของชีวิต มีเงินได้ 750,000 ดอลล่าร์ต่อปี มีบ้านหรูสวยงาม ภรรยาแสนสวย และลูกสาวที่น่ารัก ชีวิตไม่มีทางจะดีไปกว่านี้ได้อีกแล้ว

แต่เมื่อลูกชายของวุฒิสมาชิกผู้ร่ำรวยและมีเป้าหมายที่จะเป็นประธานาธบดีคนต่อไปของอเมริกาถูกฆาตกรรม เฟนนีย์ถูก federal judge (ไม่ทราบภาษาไทยเช่นกันค่ะ เป็นประมาณผู้พิพากษาศาลกลางของรัฐ) ขอให้เป็นทนายของผู้ต้องหา ซึ่งเป็น หญิงโสเภณีผิวดำและติดเฮโรอีน

สก็อตต์เชื่อในกฎหมาย - แต่ความเชื่อของเขาจะแข็งแรงมากพอที่จะยอมรับการสูญเสียทุกสิ่งที่เขามี - เงินเดือน ไลฟ์สไตล์ ภรรยา ลูกสาว - ได้หรือไม่

ด้วยสไตล์ที่คล้ายกับ John Grisham ... เรื่อง The Colour of Law กระชับ อ่านแล้ววางไม่ลง ได้ชื่อว่าเป็นแนว legal thriller ที่ดีที่สุดในหลายปีนี้


จากไอซ์ :

เรื่อง The Colour of Law เป็นแนวตื่นเต้นที่มีกฎหมายเป็นธีมของเรื่องค่ะ จริงๆ แล้วพล็อตใหญ่เป็นพล็อตที่เปิดเรื่องมาก็แทบจะไม่ต้องเดาเลย เพราะมันเป็นพล็อตมาตรฐานมากๆ ดูแค่ปกหลังก็รู้แล้วว่าเรื่องจะเป็นยังไง

เอ. สก็อตต์ เฟนนีย์ (A. Scot Fenney) เกิดในครอบครัวยากจนค่ะ แต่เขาเป็นคนมีพรสวรรค์ นอกจากรูปหล่อ และเป็นนักกีฬาที่โดดเด่นและโด่งดังแล้ว ยังเรียนเก่ง จบกฎหมายในระดับที่ดีมากๆ ด้วย เขาได้รับการทาบทามให้เข้าเป็นทนายในสำนักทนายของ Dan Ford ... เขาทำงานที่นั่นมา 11 ปี จนได้เป็นพาร์ตเนอร์ มีลูกค้าที่มีชื่อเสียง จ่ายหนัก และมีรายได้ 750,000 ดอลล่าร์ต่อปี

เขาแต่งงานกับสาวสวยอดีตเชียร์ลีดเดอร์ ซื้อบ้านหลังราคากว่าสามล้านเหรียญ ((ผ่อน)) อยู่ในย่านที่แพงและหรูหราที่สุดของเมืองดัลลัส มีรถเฟอร์รารี่ขับ ((ผ่อน)) มีลูกสาวที่ฉลาดและน่ารักชื่อ Boo เรียกได้ว่าชีวิตของเขา...สมบูรณ์แบบ

แต่เป็นความสมบูรณ์แบบโดยที่แลกกับวิญญาณความเป็นนักกฎหมายที่ดีงามไป เขาหาเงินเข้าสำนักทนายความได้มาก เขาทำทุกอย่างเพื่อให้ลูกค้าพอใจ หาทางเลี่ยงช่องว่างทางกฎหมายทุกอย่าง ไม่สนใจว่าจะทำลายทำร้ายใครบ้าง

ชีวิตของเขาพลิกผันเมื่อเขาได้กล่าวสุนทรพจน์หรูหราว่า การเป็นทนายจะต้องทำดี ผู้พิพากษาศาลกลางเลือกเขาให้เป็นทนายแก้ต่างให้ ชาวันด้า...โสเภณีผิวดำ ติดเฮโรอีน ผู้ถูกกล่าวหาว่าเป็นฆาตกรฆ่าลูกชายของ แม็ค แม็คคอล...วุฒิสมาชิกผู้ซึ่งกำลังมุ่งที่จะเป็นประธานาธบดี

มันเป็นคำสั่งที่เหมือนคำพิพากษาของสก็อตต์เช่นกัน เพราะถ้าหากเขาปฏิเสธผู้พิพากษาคนนี้ ทำให้โกรธขึ้นมา อนาคตการว่าความของเขาและสำนักทนายของ Dan Ford คงจะไม่มีวันชนะ แต่ถ้าเขาแก้ต่างให้ชาวันด้าพ้นโทษตาย โดยการประกาศว่า ผู้ตายเป็นพวกเหยียดผิวจอมข่มขืน วุฒิสมาชิกแม็ค แม็คคอล ก็จะหลุดจากการชิงตำแหน่งประธานาธิบดีและไม่มีวันยอมให้ชีวิตของเขามีความสุขด้วยเช่นกัน

ต่อไปจะเรียกว่าสปอยล์ก็คงได้นะคะ แต่ว่าพล็อตมันก็ธรรมดาอยู่แล้วอะ

สก็อตต์...ซึ่งถึงแม้จะถูกหล่อหลอมให้เป็นทนายหน้าเลือดมาหลายปี แต่ลึกๆ แล้วเขายังมีสำนึกดีอยู่บ้าง และจากที่เคยเป็นนักอเมริกันฟุตบอล เขาไม่เคยยอมแพ้ ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจที่จะสู้ให้ชาวันด้า ... ดังนั้นเขาจึงสูญเสียทุกอย่าง ถูกไล่ออกจากบริษัท ไม่มีเงินเดือน บ้านถูกยึด ภรรยาทิ้งไป

แต่สิ่งที่เขาได้กลับคืนมาก็คือ วิญญาณแห่งนักกฎหมาย ที่มองเห็นสีของกฎหมายไม่ใช่สีของเงิน แต่เป็นสีแห่งความยุติธรรม

....

โอเคว่าพล็อตมันธรรมดาแบบเดาได้ แต่ผู้เขียนเขียนได้แบบวางไม่ลงจริงๆ ค่ะ ก่อนอื่นเลยต้องบอกว่า สำนวนดีลื่นไหลมากๆ อ่านแล้วน่าติดตามสุดๆ

ช่วงต้นเรื่องเป็นการตีแผ่ชีวิตทนายของสก็อตต์ ไม่ว่าจะเป็นการไต่เต้าให้ได้เงินเยอะๆ ทริกและวิธีการสกปรกของทนายเพื่อให้สมความต้องการของลูกค้า ทำทุกอย่างเพื่อเงิน ชีวิตหรูหราอลังการ

ช่วงกลางเป็นช่วงที่สก็อตต์ต้องตัดสินใจเลือก ระหว่างจะรักษาชีวิตที่สมบูรณ์แบบของตัวเอง หรือรักษาชีวิตของชาวันด้า โสเภณีผิวดำแถมยังติดเฮโรอีน

Does he want to do good or do well? จะ "ทำดี" หรือ "ได้ดี"

พอเขาตัดสินใจได้ก็เป็นช่วงที่เขาได้ค้นพบตัวเองว่าต้องการเป็นทนายแบบไหน

และช่วงท้ายจะเป็นช่วงของคดีค่ะ

เรื่องนี้สนุกด้วยการดำเนินเรื่องและรายละเอียดเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเกี่ยวกับวงการกฎหมายที่แทรกมา อ่านแล้วรู้สึกว่า...มันน่ากลัวนะคะ เงินซื้อได้ทุกอย่าง การที่จะถูกตัดสินว่าถูกหรือผิดนั้น ขึ้นอยู่กับว่า ทนายเก่งและซื่อสัตย์มากแค่ไหน

การวางคาแร็กเตอร์ของผู้เขียนทำได้น่าสนใจดีค่ะ ดูเหมือนคนจริงๆ มีดีมีร้าย และเรื่องราวก็ไม่ได้เป็นสีชมพู ไม่มีใครได้ทุกอย่างตามต้องการ

อ่านเรื่องนี้จบแล้ว ไอซ์หยิบเล่มต่อไปของเขาคือ The Abduction มาอ่านต่อเลย อ่านไปค่อนเล่มแล้ว วางแทบไม่ลงเหมือนกัน ไอซ์สั่งหนังสือของเขาเพิ่มมาอีก 2 เล่มด้วย คิดว่า Mark Giminez น่าจะเป็นนักเขียนคนโปรดคนต่อไปของไอซ์ได้นะเนี่ย

แนะนำสำหรับคนชอบแนวนี้นะคะ สนุกค่ะ ^^



สปอยล์ :

ชีวิตสมบูรณ์แบบของสก็อตต์จริงๆ แล้วเป็นแค่ภาพลวงตาเท่านั้น ภรรยาของเขามีชู้ และถึงจะมีเงินมากมาย แต่เขาก็ไม่ได้มีความสุขอย่างแท้จริง เพราะลึกๆ แล้ว เขาไม่ใช่คนเลวไร้ศีลธรรม และยังรู้ผิดชอบชั่วดีอยู่

เขาตัดสินใจสู้คดีให้ชาวันด้าและสูญเสียทุกอย่าง แต่สิ่งที่เขาได้กลับมาก็คือ วิญญาณแห่งนักกฎหมาย

เขาพิสูจน์ได้ว่าชาวันด้าบริสุทธิ์ และชาวันด้าก็พ้นโทษออกจากคุก แม้ว่าอีกไม่กี่เดือนต่อมา เธอจะตายเพราะเสพเฮโรอีนเกินขนาดก็ตาม

เรื่องนี้มีแรงบันดาลใจจากเรื่อง To Kill a Mocking Bird เยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นตัวของคดีที่มีการพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของผู้ต้องหาด้วยการถนัดซ้าย-ขวา

ชื่อย่อ A ของสก็อตต์ ยังมาจาก Atticus ทนายในเรื่องนั้น และลูกสาวของเขาก็คือ Boo จากเรื่องนั้นเช่นกัน







ดู Index รายชื่อหนังสืออื่นๆ ที่ไอซ์ได้รีวิวไปแล้วตามลิงก์ข้างล่างค่ะ

- หนังสือภาษาอังกฤษ
Index Bookshelf : English Books

- หนังสือแปล
Index Bookshelf : Translated Books

- หนังสือภาษาไทย
Index Bookshelf : Thai Books



Create Date : 03 กุมภาพันธ์ 2555
Last Update : 3 กุมภาพันธ์ 2555 12:08:01 น. 8 comments
Counter : 2833 Pageviews.

 
น่าสนุกค่ะ แต่ตอนนี้ขอเลี่ยงเรื่องหนักๆไปก่อน เก็บไว้ก่อนแล้วกัน ^^


โดย: Emotion-P วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:13:54:19 น.  

 
ดีจ้ะน้องไอซ์

ไม่ได้แวะมาที่นี่นานเลยเนอะ

เรื่องนี้น่าอ่านแฮะ แต่แหม ความรู้ด้านภาษาเท่าหางอึ่ง คงต้องร้องเพลงรอ ไปก่อนจนกว่าจะมีผู้แปล 555



โดย: oa (rosebay ) วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:16:29:17 น.  

 
เรื่องนี้คงจะไม่ได้อ่านแน่ เพราะไม่ใช่แนวอะฮั้นเลย อิอิ

มาแปะหัวใจให้ 1 ดวงค่ะ


โดย: โอ-พิน (o_pinP ) วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:17:55:06 น.  

 
อ่านรีวิวแล้วรู้สึกว่าน่าอ่านมาก

สักวัน...ภาษาอังกฤษแข็งแรง คงจะได้อ่าน

(ไม่ได้ล็อกอิน ใส่อีโมไม่ได้...แง)


โดย: พุด ฯ IP: 61.91.203.165 วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:19:24:10 น.  

 
ขอเอาที่มีแปะกันในเฟสฯ มาแปะที่นี่ด้วยค่ะ ^^

....

Piya-orn Plianpadoong เรื่องแนวนี้ พล็อตเป็นสูตรสำเร็จมาก แต่มันสนุกตรงรายละเอียดเล็กน้อยในเรื่องละค่ะ ไว้มีเวลาจะหามาอ่านมั่ง จริง ๆ อยากอ่านงานแนวนี้ของนักเขียนไทยบ้างอะ อยากรู้ว่าเขาจะเขียนออกมาแบบไหน

corporate lawyer คือ ทนายความที่เชียวชาญเกี่ยวกับกฎหมายหุ้นส่วน บริษัท แต่ที่เ
Friday at 16:06 · Unlike · 2
Piya-orn Plianpadoong corporate lawyer คือ ทนายความที่เชียวชาญเกี่ยวกับกฎหมายหุ้นส่วน บริษัท แต่ที่เงินเดือนแพง เพราะต้องอาศัยความรู้ในกฎหมายสารพัดด้านทั้งสัญญา ภาษี ฯลฯ ที่เกี่ยวกับการงานของกิจการทั้งหมด

ส่วน federal judge ก็คือ ผู้พิพากษาที่แต่งตั้งโดยประธานาธิบดีสหรัฐ และรับรองโดยวุฒิสมาชิก มีดำรงตำแหน่งทั้งในศาลสูง ศาลอุทธรณ์ หรือศาลยุติธรรมประจำเขต (district court) และศาลชำนาญพิเศษบางแห่งค่ะ
Friday at 16:14 · Unlike · 2


Oa Saran ทีแรกคิดว่าน้องไอซ์แปลซะอีก แวะไปที่บล็อกมาแย้ววว ยังเป็น soundtrack อยู่ 555 หลังจากพี่อ่าน playing jame (เล่มนี้พี่รักมาก เก็บอย่าดี แทบจะใส่หีบสมบัติไว้เลยหล่ะ)ไปนานมากแล้วเนอะ แล้วก็ที่เป็นชุด จากนั้นไอซ์ก็ไม่ได้แปลอีกเลยเนอะ
Friday at 16:31 · Unlike · 1


Ice Tuchinda ส้ม - เดี๋ยวขอก๊อปไปแปะในบล็อกน้า เพราะในเฟสฯ เดี๋ยวมันก็ตกๆ หายไปล่ะ ^^ นักเขียนไทยมีเขียนแนวนี้บ้างมั้ยอ้ะ? // พี่โอ๋ - จากเรื่องนั้นไอซ์ก็แปลเรื่องอื่นอีกเยอะนะคะ แต่เป็นแนววัยรุ่นอะค่า >_<
Yesterday at 17:30 · Like


Piya-orn Plianpadoong ได้คร้าบ แต่ของนักเขียนไทยเนี่ย ไม่เคยเห็นเป็นนิยายนะคะ พวก courtroom drama ของไทยส่วนใหญ่มักจะเป็นหนังละ อย่าง 'หย่าเพราะมีชู้' (สนุกมาก) เรื่อง 'เหยื่อ' จากนิยายของโบตั๋น คืนบาปพรหมพิราม ไม่ใช่เกี่ยวกับศาลซะทีเดียว แต่เพื่อนเคยเล่าให้ฟังก็ได้อีกแง่มุมนึงดี ล่าสุดที่เป็น courtroom drama แท้ ๆ ก็คือ เชอร์รี่ แอน (ประเด็นใช้ได้เลย แต่แอบง่วงไปหน่อย) นิยายของคุณกุลธิดา อย่างดาวเหนือก็มีเรื่องการดำเนินคดีบ้าง แต่ก็ไม่จัดว่าเป็นนิยายเกี่ยวกับกฎหมายอะค่ะ
Yesterday at 18:13 · Unlike · 1


Ice Tuchinda พี่เคยอ่านคืนบาปฯ นะ ... อืม...บอกไม่ถูกอะ ไม่ชอบสไตล์การเขียนเท่าไหร่ สรุปว่านักเขียนไทยเขียนกันน้อย อาจจะเป็นเพราะไม่มีนักกฎหมายเปลี่ยนอาชีพมาเป็นนักเขียนเท่าไหร่หรือเปล่า?
8 hours ago · Like


Piya-orn Plianpadoong คืนบาปฯ มันออกแนวกึ่งนิยายกึ่งข่าวกึ่งสารคดีแบบบอกไม่ถูกอะค่ะ ที่นักเขียนไทยเขียนกันน้อยก็เพราะไม่มีนักกฎหมายเปลี่ยนงานมาเขียนด้วยส่วนหนึ่ง แม้กระทั่งเขียนนิยายเป็นงานอดิเรกก็ยังไม่ค่อยมี หรือถ้าเอาตัวเองเข้าว่า คือ ไม่มีเวลาเขียนด้วย อีกอย่าง งานที่ทำ ๆ กันอยู่ก็อ่าน ๆ เขียน ๆ อยู่แล้ว ก็คงจะเบื่ออ่านเบื่อเขียนกันไปบ้างละ
about an hour ago · Like


โดย: Clear Ice วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:19:08:52 น.  

 
พลอย - ฮา พี่ว่าแนวนี้ไม่หนักนะ ฮา

พี่โอ๋ & พี่พุดฯ - เรื่องนี้ไม่แน่อาจจะมีแปลก็ได้นะคะ เพราะแนวๆ จอห์น กริชแฮมเลย ^^

พี่โอ - ขอบคุณพี่โอมากๆ ค่า ปีนี้จะพยายามขยันรีวิวหนังสือมากกว่าเดิมค่ะ อิอิ


โดย: Clear Ice วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:19:10:29 น.  

 
น่าสน สำคัญว่ามีแปลไทยหรือยังนี่แหละค่ะ แหะแหะ


โดย: หัวใจสีชมพู วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:10:52:59 น.  

 
ไม่รู้เหมือนกันค่ะคุณปลา สไตล์เขาใช้ได้เลย ไม่แน่อีกไม่นานอาจจะมีแปลนะคะ ((แต่ก็รู้สึกว่า งานของเขายังไม่ค่อยคงที่นิดๆ ฮา))


โดย: Clear Ice วันที่: 19 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:9:47:08 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Clear Ice
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 22 คน [?]




Friends' blogs
[Add Clear Ice's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.