O ยามเช้า .. O

Sergey Grischuk - My Angel
๑. O แผ่วลมเช้าผ่านรื่นโลมผืนน้ำ หมอกก็ร่ำไรอยู่ไม่รู้หนี พุ่มพฤกษ์กิ่งก้านใบ .. เคยไหววี- กลับยืนรูปดุษณี .. ในที่นั้น O ค่อย-ยกก้าวเหยียบย่าง .. ในสางตรู่ พรั่งพร้อมอยู่ .. คือใจที่ไหวสั่น ด้วยอารมณ์เหนี่ยวดึง .. จดถึงกัน กับเจ้าขวัญอ่อนน้อยผู้กลอยใจ O แต่เมื่อสบ-รอยพักตร์จำหลักรูป วิญญาณราวถูกสูบ .. จนวูบไหว แถวผู้ขอก้าวย่างพ้นทางไป ที่สุดผ่านพ้นได้ .. คือใจคน O จาก-แถวท่านผู้ขอ .. หยุด .. รอ .. เคลื่อน ใจนั้นเหมือนแกว่งสั่นนับพันหน จาก-คำข้าวคดพร้อม .. แล้วน้อมตน ก็งดงามเหลือล้น .. อยู่บนใจ O แววในเนตรวับวามด้วยความสุข ราวจะปลุกปลอบโลก .. พ้นโศกไข้ แก้มอิ่มเนียนแต้มเรื่อ .. จะเหลือใคร- อาจฝ่าความแจ่มใส .. อ่อนวัยนั้น O ทิวแถวท่านผู้ขอ .. เคลื่อน .. รอ .. หยุด ก็เมื่อสุดต้านงาม-รุกลามขวัญ จีวรปลิวปัดปลาย .. ก็คล้ายทัณฑ์- จากปางบรรพ์ผูกบ่วง .. รัดดวงใจ O คำข้าว .. ช่อดอกไม้ .. ถวายพระ ตอบภาวะศรัทธาที่อาศัย รูปนาม .. ทัศนา .. แววตาใคร- ราวจะไหวเวียนอยู่ไม่รู้แล้ว O สัมผัสบทงดงามแห่งยามเช้า ของรูปเยาว์, หัตถ์พรหม, สายลมแผ่ว สบชำเลืองเหลือบมา .. เหมือนว่าแวว- ตาคู่นั้นผ่องแผ้ว .. สุดแล้วเลือน O ปลายปีกนกโบยโบก .. สู่โลกไกล เมื่ออาลัยรำบายลงป่ายเปื้อน- หัวใจหนึ่งต้องพิษ .. จนบิดเบือน สุดคล้อยเคลื่อนนิรมิตที่ติดตรึง O ผมหล่นล้อมวงหน้า .. เมื่อหน้าน้อม- ลงจบ-พร้อมอีกใจ .. เฝ้าใฝ่ถึง มีความนัยพร้องพร่ำ .. และรำพึง- แฝงความซึ้งอาลัย .. อยู่ในคำ O ก่อนแฝงฝากสายลม .. ให้พรมผ่าน สู่อีกด้านริมทาง .. ผู้ย่างย่ำ- เหยียบโลกให้ตื่นต้อง .. กับจองจำ- ของลมร่ำงามรูป .. เข้าจูบโจม O มาตักบาตรทำบุญ .. เพื่อหนุนชาติ กลับมาพลาดพลั้งจิต .. ด้วยฤทธิ์โฉม- คราญเจ้านั้นเผยเงามาเล้าโลม พาคลื่นโสมนัสช่วง .. กลางห้วงใจ O หรือว่าบุญหนุนชาติ .. บำราศแล้ว จากผ่องแผ้วเนตรนั้น .. เข้าสั่นไหว แถวพระก้าวลับล่วง .. เมื่อทรวงใคร ละห้อยเห็นรูปพิไล .. อยู่ในวัน O หล่นลงแล้วรุ้งเรื้องที่เบื้องหน้า เมื่อรูปปรากฏพร้อม .. รอ-ล้อมขวัญ ข้าวรอพระก้าวผ่าน .. เนิ่นนานครัน เมื่อรูปฝันผ่านผกาย .. เนตรพรายยิ้ม O หล่นลงแล้วรุ้งเรื้องที่เบื้องหน้า ต่อสายตาเจิดแจร่ม .. เนียนแก้มอิ่ม เหมือนว่านัยแฝงเลศ .. ก่อนเนตรพริ้ม ผ่านลงพิมพ์รอยทั่ว .. ทั้งหัวใจ O แผ่วลมเช้าป่ายริ้วโลมผิวน้ำ และที่คร่ำครวญอยู่เกินกู้ไหว คืออกเต็มเสน่หา .. ความอาลัย ด้วยเลศนัยแฝงเร้น .. บีบเค้นลง O ใช่ไหมที่ต้องคิด .. รับผิดชอบ กับล้อมรอบเร้ารุมด้วยลุ่มหลง ใช่ไหมกับดื่มด่ำ .. ที่ดำรง จำต้องบ่งบอกแล้ว .. ทุกแววตา ? O สายลมเช้าอ่อยเอื่อยยังเฉื่อยโชย หวานก็โรยตัวหนุนรับคุณค่า แววชม้อยชม้ายสื่อ .. ราวขื่อคา- ตอกตรึงอาวรณ์ชู้ .. เกินรู้คลาย O สายหยุดหยุดกลิ่นหอมรายล้อมถิ่น เมื่ออีกหอมรวยรินไม่สิ้นหาย ผ่านแววเนตรซ่อนยิ้ม .. อันพริ้มพราย ทอดเอาสายสวาดิรัด .. ในบัดนั้น !
Create Date : 24 มิถุนายน 2559 |
|
4 comments |
Last Update : 21 เมษายน 2566 18:03:01 น. |
Counter : 5177 Pageviews. |
|
 |
|