Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2559
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
24 มิถุนายน 2559
 
All Blogs
 

O ยามเช้า .. O








Sergey Grischuk - My Angel



๑.
O แผ่วลมเช้าผ่านรื่นโลมผืนน้ำ
หมอกก็ร่ำไรอยู่ไม่รู้หนี
พุ่มพฤกษ์กิ่งก้านใบ .. เคยไหววี-
กลับยืนรูปดุษณี .. ในที่นั้น
O ค่อย-ยกก้าวเหยียบย่าง .. ในสางตรู่
พรั่งพร้อมอยู่ .. คือใจที่ไหวสั่น
ด้วยอารมณ์เหนี่ยวดึง .. จดถึงกัน
กับเจ้าขวัญอ่อนน้อยผู้กลอยใจ
O แต่เมื่อสบ-รอยพักตร์จำหลักรูป
วิญญาณราวถูกสูบ .. จนวูบไหว
แถวผู้ขอก้าวย่างพ้นทางไป
ที่สุดผ่านพ้นได้ .. คือใจคน
O จาก-แถวท่านผู้ขอ .. หยุด .. รอ .. เคลื่อน
ใจนั้นเหมือนแกว่งสั่นนับพันหน
จาก-คำข้าวคดพร้อม .. แล้วน้อมตน
ก็งดงามเหลือล้น .. อยู่บนใจ
O แววในเนตรวับวามด้วยความสุข
ราวจะปลุกปลอบโลก .. พ้นโศกไข้
แก้มอิ่มเนียนแต้มเรื่อ .. จะเหลือใคร-
อาจฝ่าความแจ่มใส .. อ่อนวัยนั้น
O ทิวแถวท่านผู้ขอ .. เคลื่อน .. รอ .. หยุด
ก็เมื่อสุดต้านงาม-รุกลามขวัญ
จีวรปลิวปัดปลาย .. ก็คล้ายทัณฑ์-
จากปางบรรพ์ผูกบ่วง .. รัดดวงใจ
O คำข้าว .. ช่อดอกไม้ .. ถวายพระ
ตอบภาวะศรัทธาที่อาศัย
รูปนาม .. ทัศนา .. แววตาใคร-
ราวจะไหวเวียนอยู่ไม่รู้แล้ว
O สัมผัสบทงดงามแห่งยามเช้า
ของรูปเยาว์, หัตถ์พรหม, สายลมแผ่ว
สบชำเลืองเหลือบมา .. เหมือนว่าแวว-
ตาคู่นั้นผ่องแผ้ว .. สุดแล้วเลือน
O ปลายปีกนกโบยโบก .. สู่โลกไกล
เมื่ออาลัยรำบายลงป่ายเปื้อน-
หัวใจหนึ่งต้องพิษ .. จนบิดเบือน
สุดคล้อยเคลื่อนนิรมิตที่ติดตรึง
O ผมหล่นล้อมวงหน้า .. เมื่อหน้าน้อม-
ลงจบ-พร้อมอีกใจ .. เฝ้าใฝ่ถึง
มีความนัยพร้องพร่ำ .. และรำพึง-
แฝงความซึ้งอาลัย .. อยู่ในคำ
O ก่อนแฝงฝากสายลม .. ให้พรมผ่าน
สู่อีกด้านริมทาง .. ผู้ย่างย่ำ-
เหยียบโลกให้ตื่นต้อง .. กับจองจำ-
ของลมร่ำงามรูป .. เข้าจูบโจม
O มาตักบาตรทำบุญ .. เพื่อหนุนชาติ
กลับมาพลาดพลั้งจิต .. ด้วยฤทธิ์โฉม-
คราญเจ้านั้นเผยเงามาเล้าโลม
พาคลื่นโสมนัสช่วง .. กลางห้วงใจ
O หรือว่าบุญหนุนชาติ .. บำราศแล้ว
จากผ่องแผ้วเนตรนั้น .. เข้าสั่นไหว
แถวพระก้าวลับล่วง .. เมื่อทรวงใคร
ละห้อยเห็นรูปพิไล .. อยู่ในวัน
O หล่นลงแล้วรุ้งเรื้องที่เบื้องหน้า
เมื่อรูปปรากฏพร้อม .. รอ-ล้อมขวัญ
ข้าวรอพระก้าวผ่าน .. เนิ่นนานครัน
เมื่อรูปฝันผ่านผกาย .. เนตรพรายยิ้ม
O หล่นลงแล้วรุ้งเรื้องที่เบื้องหน้า
ต่อสายตาเจิดแจร่ม .. เนียนแก้มอิ่ม
เหมือนว่านัยแฝงเลศ .. ก่อนเนตรพริ้ม
ผ่านลงพิมพ์รอยทั่ว .. ทั้งหัวใจ
O แผ่วลมเช้าป่ายริ้วโลมผิวน้ำ
และที่คร่ำครวญอยู่เกินกู้ไหว
คืออกเต็มเสน่หา .. ความอาลัย
ด้วยเลศนัยแฝงเร้น .. บีบเค้นลง
O ใช่ไหมที่ต้องคิด .. รับผิดชอบ
กับล้อมรอบเร้ารุมด้วยลุ่มหลง
ใช่ไหมกับดื่มด่ำ .. ที่ดำรง
จำต้องบ่งบอกแล้ว .. ทุกแววตา ?
O สายลมเช้าอ่อยเอื่อยยังเฉื่อยโชย
หวานก็โรยตัวหนุนรับคุณค่า
แววชม้อยชม้ายสื่อ .. ราวขื่อคา-
ตอกตรึงอาวรณ์ชู้ .. เกินรู้คลาย
O สายหยุดหยุดกลิ่นหอมรายล้อมถิ่น
เมื่ออีกหอมรวยรินไม่สิ้นหาย
ผ่านแววเนตรซ่อนยิ้ม .. อันพริ้มพราย
ทอดเอาสายสวาดิรัด .. ในบัดนั้น !




 

Create Date : 24 มิถุนายน 2559
4 comments
Last Update : 21 เมษายน 2566 18:03:01 น.
Counter : 5177 Pageviews.

 

พี่ครับขอเมลหน่อยได้ไหมครับ หรือเฟสก็ได้ อยากถามเรื่องกระทู้เก่าๆที่พี่เคยโพสหนะครับ ขอบคุณครับ

 

โดย: โยธิน IP: 27.55.43.138 28 มิถุนายน 2559 12:00:52 น.  

 

โยธิน

ถามที่นี่ได้เลยครับ ..
ผมยินดี

 

โดย: สดายุ... 28 มิถุนายน 2559 13:12:58 น.  

 

สดายุ

"ถามที่นี่"บ้าง

"O คง-บุญพาผ่านพ้อง - - - พบกัน
แววเนตรจึงล่ามพัน - - - ผูกไว้
บาปสร้างแต่เบื้องบรรพ์ - - - สุดบิด เบือนแม่
ลบรูป, ลบรอยได้ - - - แต่ด้วยชีพสูญ ฯ"

นี่กะจะ "ล่มลบถ้วน, เหลือหน้า- - หนึ่งหน้านางเดียว ฯ"
หรือคะ
มาเรียนให้ทราบว่า ยังมีคนตามอ่านอยู่ เท่านั้นเองค่ะ
จะได้มีกำลังใจ ประดิษฐ์ภาษางดงาม ทิ้งไว้ในโลกต่อไป


 

โดย: บุษบามินตรา IP: 188.165.201.164 2 กรกฎาคม 2559 16:55:11 น.  

 


มินตรา ..

"ล่มลบถ้วน, เหลือหน้า- - หนึ่งหน้านางเดียว ฯ"
ครับ .. เมื่อเจอนะครับ 55

 

โดย: สดายุ... 3 กรกฎาคม 2559 9:35:16 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


สดายุ...
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 152 คน [?]









O สิ้นสวาดิ .. O





O ให้เราสองขาดกันแต่วันนี้
อย่าได้มีหัวใจอาลัยหา
ความรู้สึกอ่อนหวานมันด้านชา
ปรารถนาคงเหลือ .. เพียงเพื่อลืม

O อัสดงคต .. ดวงรพี .. คล้ายรีรอ
จะทอดทอสุรภาพ .. ให้ปลาบปลื้ม
ก่อนโอนแสงดาวกระพริบให้หยิบยืม
ไว้ร่วมดื่มด่ำงาม .. ยิ่งงามนั้น
O เงียบงันด้วยเยียบเย็น .. ใต้เพ็ญแข
สุดตาแลเหลียวไป .. ภาพไหวสั่น
คล้ายภาพพจน์อันตระการแห่งวานวัน
ค่อยบิดเบี้ยวแปรผัน .. เกินกั้นไว้
O คลื่นแสงพาดราศี .. สู่ชีวิต
โลมดวงจิตมุ่งมั่นกับฝันใฝ่
สุรภพอัมพร .. ผ่านตอนไป
สุมฟอนไฟนิรมิตเป็นสิทธา
O โลกราตรีรู้ผ่านแต่ด้านมืด
ให้เย็นชืดแห่งวิกาลเผยผ่านหา
โหมรอบหม่นหมองหมาง .. ให้ย่างมา
คลุมครอบอารมณ์คน .. อยู่อลเวง
O มีจันทร์แสงเรื่อรอง .. สู่คลองเนตร
คลายแววเลศกราก-รุมเข้ากุมเหง
ผ่านความหมายเร้ารัว .. บอกตัวเอง
ให้รุดเร่งถือสิทธิ์ .. ในจิตตน
O นิมิตใดกันเล่าที่เฝ้าหมาย
เช่นวิชชุรำร่ายกลางสายฝน
ฤๅผกายมณีน้ำ .. แสงอำพน
จักปลาบปนผ่องผาย .. สบสายตา ?
O งามเคยงาม .. ราววิชชุที่ลุแล่น
เมื่อห้อมแหนภาคโพยม .. เข้าโถมถา
แค่เพียงชั่วคาบยาม .. ก็ทรามทา-
ทาบแผ่นฟ้ามืดคล้ำ .. ร่วมรำบาย
O ใช่ผกายวิชชุ .. อันคุเพลิง
ที่จะเริงโรจน์เต้น .. ฟาดเส้นสาย
แต่เป็นมืดหม่นคล้ำ .. ค่อยกำจาย
ย้อนความหมายถ่ายช่วง .. บ่งท่วงที

O เฉกเช่นสายสาคร .. ไม่ย้อนกลับ
ผ่านเลยแล้วผ่านลับไม่กลับที่
ขาดกันเถิด .. ชิดเชยที่เคยมี
ตราบชั่วชีวาตม์จม .. ลงล่มลาญ !




Friends' blogs
[Add สดายุ...'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.