AR no.3 - The Shadow of the Wind : ตกหลุมรักเล่มนี้เข้าอย่างจัง
เล่มที่ 3 ที่อ่านจบจากลิสหลักของ TBR Challange 2008 ค่ะ...รู้สึกว่าในลิสนี่ ยิ่งอ่านยิ่งดีแฮะ นึกว่า The Thirteenth Tale เลิศแล้ว พอเจอเล่มนี้ รักเล่มนี้ยิ่งกว่าค่ะ The Shadow of the Wind ^^
เรื่อง : The Shadow of the Wind เขียนโดย : Carlos Ruiz Zafon แปลโดย : Lucia Graves
ฉากเรื่องนี้เซ็ตอยู่ในเมืองบาเซโลน่าของสเปน ช่วงก่อนและหลังของ civil war
....
6 ปีหลังจาก civil war จบสิ้นลงพ่อของ Daniel ซึ่งขณะนั้นอายุ 10 ขวบ ได้พาเขาไปยัง The Cemetery of Forgotten Books ... ที่นั้นเป็นสถานที่พิเศษ สถานที่ที่เหมือนกันเขาวงกต เมื่อห้องสมุดถูกปิดลง เหล่าหนังสือที่ไม่มีใครใส่ใจ จะถูกนำมาเก็บรักษาไว้ที่นี่
หนังสือทุกเล่มมีวิญญาณ วิญญาณของผู้ที่เขียนมัน และผู้ที่อ่านมัน
ตามธรรมเนียมที่ปฏิบัติกันแล้วคนที่เข้ามาที่นี่เป็นแรก จะสามารถเลือกหนังสือและพามันกลับไปได้ด้วยหนึ่งเล่ม อ่านมัน รักษามัน ปกป้องไม่ให้วิญญานของหนังสือสูญสลายไป และวันนี้ก็เป็นโอกาสของ Daniel แล้ว
Daniel รู้สึกว่ามีหนังสือเล่มหนึ่งรอคอยเขาอยู่ รอคอยเขาอยู่ตั้งแต่ก่อนเขาเกิดเสียอีก นั่นก็คือ หนังสือที่ชื่อ The Shadow of the Wind เขียนโดย Julian Carax
Daniel ต้องสัญญาว่า จะเก็บสถานที่แห่งนี้เอาไว้เป็นความลับ
Daniel อ่านหนังสือด้วยความติดใจ และอยากหาหนังสือเล่มอื่นๆ ของนักเขียนคนเดียวกันนี้มาอ่าน เมื่อเขาถามพ่อ ผู้ซึ่งเป็นเจ้าของร้านขายหนังสือมือสอง ((อ่านตอนนี้แล้วนึกถึง The Thirteenth Tale จริงๆ ค่ะ เพราะอาชีพคล้ายๆ กัน)) ปรากฎว่า พ่อผู้ซึ่งรอบรู้เกี่ยวกับหนังสือมากมาย กลับไม่รู้เรื่องของ Julian Carax เสียเท่าไหร่
พ่อของ Daniel แนะนำให้เขารู้จักกับพ่อค้าขายหนังสือ...Barcelo ผู้ซึ่งเห็นค่าของหนังสือเล่มนี้ และเสนอของซื้อจาก Daniel ในราคาสูง แต่ Daniel ปฏิเสธ
นั่นทำให้ Daniel ได้รับรู้เรื่องประหลาดเกี่ยวกับหนังสือของ Julian Carax ... นอกจากหนังสือเล่มที่เขามีอยู่นั้น หนังสือของ Julian Carax นั้นไม่มีเหลืออีกแล้ว เพราะมีใครบางคนไล่ตามหาและเผาหนังสือทุกเล่มที่ Julian Carax เขียนจนหมดสิ้น
Barcelo แนะนำให้ Daniel รู้จักกับหลานสาวผู้สวยงามแต่ตาบอดของเขา Clara ... เพราะ Clara เคยอ่านหนังสือเล่มอื่นของ Julian Carax นั่นก็คือเรื่อง The Red House
Daniel ตกหลุมรัก Clara ผู้ซึ่งอายุมากกว่าหลายปี และความรักครั้งแรกของเขาก็จบลงในวันที่เขาได้เห็น Clara พลีกายให้แก่ครูสอนเปียโนของเธอ
ช่วงเวลานั้น... Daniel ได้พบกับบุคคลสำคัญที่จะมีผลกระทบต่อชีวิตของเขาหลายคน และสองคนนั้น...ได้แก่
- ชายผู้มีรูปร่างพิกลพิการคล้ายถูกไฟคลอกมา และบอกว่า เขาชื่อ Lain Coubert ... ชื่อเดียวกับปีศาจร้ายในเรื่อง The Shadow of the Wind เขาต้องการหนังสือ The Shadow of the Wind จาก Daniel แต่ Daniel ไม่ยอม จึงเอาไปซ่อนไว้ใน The Cemetery of Forgotten Books อีกครั้ง
และ
- Fermin Romero de Torres อดีตสปาย ผู้ซึ่งโดนตำรวจผู้มีชื่อเสียงในด้านความโหดร้ายชื่อ Fumero คอยจับตาและระราน
เวลาผ่านไป 5 ปี Daniel เติบโตขึ้น และใช้ชีวิตทำงานอยู่กับพ่อ และได้ชวน Fermin มาร่วมทำงานในร้านหนังสือด้วย ((Fermin มีความสามารถในการหาหนังสือหายากอย่างยิ่งยวด))
Daniel ไม่เคยลืมหนังสือ The Shadow of the Wind และ Julian Carax ยิ่งเขาเติบโตขึ้นแบบนี้ และมี Fermin ผู้แสนกะล่อนเป็นคู่คิด การตามหาร่องรอยของ Julian Carax จึงคืบหน้าไปเรื่อยๆ
Daniel ได้พบว่า พ่อของ Julian Carax เป็นคนขายหมวก Ricado Aldaya เศรษฐีใหญ่ซึ่งเป็นลูกค้าของพ่อของ Julian ถูกชะตากับเขา และช่วยชักนำให้ Julian Carax เข้าเรียนในโรงเรียนที่ส่วนใหญ่นักเรียนเป็นลูกผู้ดีมีเงิน... St. Garbriel
ที่นั่น...Julian Carax มีเพื่อนสนิทกลุ่มหนึ่ง
- Miquel Moliner ... ลูกชายเศรษฐีที่ร่ำรวยมาจากการค้าขายอาวุธสงคราม เขาเป็นคนที่รักและชื่นชม Julain อย่างแท้จริง
- Jorge Aldaya ลูกชายของ Ricado Aldaya
- Francisco Javia Fumero ... ลูกชายของ caretaker ผู้มีนิสัยแปลกประหลาด ชอบสลักไม้ และฆ่าสัตว์ ... แม่ของ Fumero มีความฝันและทะเยอะทะยานที่จะเข้าสังคมชั้นสูง จนทำให้ Fumero อับอายหลายครั้ง
- Fernando Ramos ... ลูกคนงานอีกคน ที่อนาคตกลายเป็นบาทหลวง และกลับมาสอนหนังสือที่ St.Garbriel
ระหว่างนั้น Julian Carax ตกหลุมรัก Penelope Aldaya ... ลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของ Ricado Aldaya น้องสาวของ Jorge Aldaya โดยที่ไม่มีใครรู้นอกจาก Jacinta ... พี่เลี้ยงของ Penelope และโดยที่ Julian ไม่รู้เช่นกันว่า Fumero เองก็ตกหลุมรัก Penelope ด้วย
Julian และ Penelope ที่ต่างรักกันมาก และรู้ว่าจะไม่มีใครสนับสนุน วางแผนที่จะหนีไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ปารีสด้วยกัน
แต่...ในวันที่ Julian จะหนีไปปารีสนั้น Penelope ไม่ได้ปรากฎตัว ... Julian ไปปารีสเพียงลำพัง และเริ่มเขียนหนังสือที่นั่น
เรื่องราวทุกอย่างกลายเป็นช่องว่างที่ไม่มีใครรู้ทั้งหมดอย่างแท้จริงว่า เกิดอะไรขึ้น
หลายปีผ่านไป ... ชะตาชีวิตได้นำอดีตเพื่อร่วมเรียน Julian, Miquel, Jorge และ Fumero มาเกี่ยวข้องกันอีกครั้ง
ส่วน Daniel เองก็ดำเนินชีวิตที่คล้ายจะซ้ำรอยของ Julian ... เขาตกหลุมรัก Bea...น้องสาวของเพื่อนรัก ชิงสุกก่อนห่าม และมีปัญหาที่ครอบครัวของหญิงสาวไม่ยอมรับ
ยิ่งสืบ Daniel ก็ยิ่งถลำลึกเข้าไปในอดีตของ Julian และคนรอบข้างของเขาเข้าไปทุกที โดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่า ความแค้นอันลึกซึ้งที่เกิดขึ้นในอดีตของ Julian กำลังนำอันตรายมาสู่ตัวของเขา และคนรอบข้างของเขาเช่นกัน
.........
บอกได้คำเดียวค่ะว่า สุดยอดมากๆ เลยสำหรับเรื่องนี้ เป็นหนังสือเรื่องยาวที่มีผู้เกี่ยวข้องมากมาย โยงใยเข้าหากันอย่างซับซ้อนและนุ่มนวล
เหมือนอย่างที่ Clara พูดถึงหนังสือเล่มแรกของ Julian Carax เรื่อง The Red House ว่า เหมือนตุ๊กตารัสเซีย ที่พอเปิดออกมาแล้ว ก็ยังมีตุ๊กตาซ้อนกันมากมาย ทุกตัวละครโลดแล่นอย่างโดดเด่น มีชีวิตและเรื่องราวเป็นของตัวเอง
ความชัดเจนนี้เอง ทำให้ทุกตัวละครก็มีเสน่ห์ ชวนคนอ่านหลงรัก ผูกพัน และเอาใจช่วยได้ไม่ยาก
หนังสือเล่มนี้มีหลายอารมณ์มากๆ ค่ะ และเป็นหนังสือที่มีทุกรสชาติจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นการอิงประวัติศาสตร์ ความเป็นดราม่า ((และน้ำเน่าได้ใจ)) ความลึกลับ สืบสวนตามหาความจริง ความเศร้าสลดจนอ่านแล้วเจ็บแปลบ รวมไปถึงอารมณ์ขันปนประชดประชันที่ทำให้อ่านแล้วขำกิ๊กออกมาได้หลายครั้ง
ช่วงแรกๆ ไอซ์อ่านหนังสือเล่มนี้ได้ช้า เพราะ...ศัพท์หรูและยากเป็นบางครั้ง จำชื่อสถานที่ไม่ได้อีกต่างหาก แต่พออ่านผ่านช่วงวัยเด็กของ Daniel ซึ่งไม่ยาวมากแล้ว และเริ่มสืบเกี่ยวกับ Julian Carax อย่างจริงจังนี่ อ่านแล้ววางแทบไม่ลงเลยค่ะ 4/5 ส่วนของเล่มช่วงหลัง ไอซ์อ่านแค่ 3-4 วันช่วงกลางคืน โดยเฉพาะช่วงก่อนจะจบนี่ อ่านจนไม่ได้นอนเลยทีเดียว ((เมื่อคืนอ่านถึงตีสองจนจบ ตื่นไปทำงานแบบสะโหลสะเหลสุดๆ))
อ่านๆ ไปจนเกือบจะจบเล่มแล้วรู้สึกว่า เกือบทุกตัวละครมีชีวิตที่โครตจะแสนเศร้าและรันทดเหลือเกิน ... แอบๆ รู้สึกเหมือนกันว่า Julian นี่ต้องสาปหรือเปล่า ทำให้คนที่เขาได้เข้าใกล้และสัมผัสเจอสิ่งเลวร้าย และเปลี่ยนคนให้กลายเป็นคนเลวร้ายไปได้
ชีวิตของตัวละครบ่งบอกสัจธรรมจริงๆ เลยว่า ไม่มีอะไรแน่นอน เคยรวยก็จนได้ เลยรุ่งเรืองก็ตกต่ำได้
ภาษา สำนวน การเปรียบเทียบ กระแทกใจจนจุกไปหลายตอน ปกติไอซ์ชอบหนังสือที่แปลจากภาษาสเปนและอิตาเลียนอยู่แล้วด้วยค่ะ รู้สึกว่าภาษามันจะสวยและมีความโรแมนติกอบอวลอยู่
ยกตัวอย่างส่วนที่ชอบๆ ขึ้นมาเป็นบางส่วนนะคะ
A book is a mirror that offers us only what we alreadyt carry inside us, that when we read, we do it with all our heart and mind. ((จริงค่ะ หุหุ))
A Story is a letter the author writes to himdels, to tell himself things that he would be unable to discover otherwise. ((จริงอีก))
Coincidences are the scars of fate. ((ชอบอะ คิดได้ยังไง))
Those who really love, love in silence, with deeds and not with words. ((ฮือ...ซึ้ง))
The moment you've already stop to think about weather you love someone, you've already stopped loving that person. ((อ่านแล้วจุกแอ๊ก จริงสุดๆ เหอๆ))
และอีกมากมาย
.....
เล่มนี้เป็นหนึ่งเล่มในน้อยเล่ม ที่พออ่านจบแล้ว ไอซ์พลิกกลับไปดูตอนแรกๆ ใหม่ แทบจะอยากอ่านใหม่อีกรอบเลยทีเดียว เพราะรู้ว่ายังมีรายละเอียดอีกมากมายที่ไม่ได้เก็บ
ใครจะอ่านเล่มนี้ แนะนำให้อ่านอย่างมีสมาธิและเก็บรายละเอียดดีๆ ค่ะ เรื่องราวเล็กๆ น้อยๆ ของเล็กๆ น้อยๆ และคนที่ผ่านเข้ามาในเรื่อง ล้วนมีความสำคัญ และมีส่วนเกี่ยวโยงกับเนื้อเรื่องหลักด้วยกันหมด ((แม้ว่าตอนอ่านๆ ไปแล้ว จะเพลินกับเรื่องส่วนของสถานที่ ตัวละคร ไปจนเลือนๆ พล็อตหลักของเรื่องไปบ้างก็ตาม ฮา)) และก็เหมือนกับเรื่องสืบสวนค่ะ มี "ข้อมูลหลอก" ด้วย เอิ๊ก
หนังสือเล่มนี้หนามากๆ สำหรับเวอร์ชั่นปกอ่อนของไอซ์ยาว 506 หน้าเต็มๆ มีรายละเอียดและอะไรให้พูดถึงมากมาย ถ้าคุยไปเรื่อยๆ บล็อกยาวเหยียดก็ไม่จบแน่ๆ ค่ะ
หลายๆ ส่วนในนี้ ถ้าแยกส่วนออกมาแล้ว คงจะเป็นเรื่องราวที่ไม่ได้มีอะไรแปลกใหม่เสียเท่าไหร่ เรื่องราวของตัวละครหลายๆ ตัวออกจะน้ำเน่ามากกกเสียด้วยซ้ำ เดาไม่ยากหรอกค่ะ ((เช่นเรื่องของ Julian กับ Penelope เรื่องรักข้างเดียวอย่างน่าสงสารสุดๆ ของ Miquel .. หรือตัวจริงและจุดประสงค์ที่แท้จริงของ Lain Coubert ฯลฯ)) แต่พอเอามาร้อยเรียงรวมกันเป็นเรื่องยาวที่ผูกพันกันไปหมดอย่างแนบเนียนอย่างเรื่องนี้ ก็ทำให้ประทับใจมากๆ ค่ะ
สรุปว่า ไอซ์ตกหลุมรักหนังสือเล่มนี้เข้าอย่างจังเลย ช่วงที่อ่านหลายๆ ครั้งอินกับเรื่องจนรู้สึกว่า trapped in the story สุดๆ คิดว่าจะต้องหยิบมาอ่านใหม่อีกแน่ๆ
แนะนำสำหรับคนที่ชอบแนว Drama เศร้าสลด ตลกร้าย ปนสืบสวนนิดๆ ชอบอ่านหนังสือที่มีรายละเอียดเยอะๆ หน่อยนะคะ ^^
ปล. ใครอ่านรีวิวของไอซ์แล้วมึนตึ๊บ แนะนำให้อ่าน รีวิวของพี่ยาคูลท์ ซึ่งเล่าได้อย่างละเอียดและจับจุดสำคัญได้มากกว่าค่ะ ^^
Create Date : 25 เมษายน 2551 |
|
8 comments |
Last Update : 25 เมษายน 2551 19:41:06 น. |
Counter : 3039 Pageviews. |
|
|
|