No matter what life brings, I just believe that... Everything happens for the best.

Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2553
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
22 พฤษภาคม 2553
 
All Blogs
 
The Lady and the Unicorn : เกลียดขี้หน้าตัวละครเรื่องนี้เกือบทุกตัว แต่อ่านสนุกจนวางไม่ลง >_<



เล่มนี้อ่านจบแล้วตอบโจทย์ HHR ข้อ...


30-4 [Clear Ice] Animal Lover : อ่านหนังสือที่มีชื่อสัตว์อยู่ในชื่อหนังสือจำนวนกี่เล่มก็ได้ ให้มีหน้าเฉพาะ "เนื้อหา" ((คำนำ สารบัญ หน้าโฆษณา ฯลฯ ไม่นับ)) รวมกันแล้วเกิน 1000 หน้า ถ้าอ่านเกิน 2000 หน้าได้โบนัส 10 คะแนน โจทย์ข้อนี้ห้ามอ่านการ์ตูนหรือนิยายภาพนะคะ

ชื่อสัตว์ในที่นี้ จะเป็นสัตว์ที่มีอยู่จริง เช่น แมว ปลา นก ฯลฯ รวมคำที่มีความหมายของชื่อสัตว์เหล่านั้นด้วย เล่น วิฬาร์ มัจฉา สกุณา หรือเป็นสัตว์ในตำนาน เช่น มังกร ฟินิกส์ ฯลฯ นั้นใช้ได้หมด แต่ไม่ให้เป็นสัตว์ที่มีร่างกายส่วนใดส่วนหนึ่งเป็นมนุษย์หรือมีอิทธิฤทธิ์แปลงร่างเป็นคนได้ เช่น เงือก สฟิงค์ นาค ครุฑ ฯลฯ




หนังสือ : The Lady and the Unicorn
เขียนโดย : Tracy Chevalier
สำนักพิมพ์ : HarperCollins; New edition edition (7 Jun 2004)
จำนวนหน้า : 288 หน้า
ภาษา : อังกฤษ







รายละเอียดจากปกหลัง

...มันเป็นการจ้างงานครั้งสำคัญในชีวิต...

Jean Le Viste ชายตระกูลใหญ่รับใช้ใกล้ชิดกษัตริย์แห่งฝรั่งเศสในศตวรรษที่ 15 จ้างศิลปินเพื่อออกแบบภาพพรม 6 ชิ้น เพื่อเฉลิมฉลองการเลื่อนยศของเขา

Nicolas des Innocents ฟื้นจากความประหลาดใจที่ได้รับงานนี้เมื่อเขาได้เห็น Claude...ลูกสาวผู้จ้าง

การเกี้ยวพาเธอดึงเขาเข้าสู่ความวุ่นวายของความสัมพันธ์ระหว่างสามีและภรรยา พ่อแม่และลูกๆ คนรักและคนรับใช้


...มันเป็นแบบภาพที่แปลกใหม่...

ในบรัสเซล Georges de la Chapelle ช่างทอที่มีชื่อเสียงได้รับงานที่ท้าทายที่สุดในอาชีพของเขา เขาไม่เคยรับงานที่ต้องทุ่มเทชนิดหมดหน้าตัก

เขาถูกดึงเข้าไปในโลกแห่งความเย้ายวนและล่อลวง เขาและครอบครัวต่างหมกมุ่นอยู่กับงานที่ได้รับและการรับมือนักวาดภาพผู้เจ้าเล่ห์จากปารีส


...ผลลัพธ์ที่ได้เปลี่ยนแปลงชีวิตของทุกคนที่เกี่ยวข้อง...



...


ผลงานของผู้เขียนคนนี้ที่โด่งดังมากๆ คิดว่าหลายๆ คนคงชอบและรู้จักก็คือ Girl With a Pearl Earring (หญิงสาวกับต่างหูมุก) นะคะ ตอนโน้นไอซ์อ่านแล้วก็ชอบมากๆ ((ไอซ์ชอบ Vermeer อยู่แล้วด้วย)) จนไปกว้านซื้อผลงานของนักเขียนคนนี้มาดองไว้เยอะเชียว แต่พออ่านเรื่องต่อมาคือ The Virgin Blue แล้วไอซ์กลับรู้สึกว่ามันน่าเบื่อ ก็เลยวางงานของนักเขียนคนนี้มานานเชียวค่ะ

แต่ได้อ่านรีวิวของ The Lady and the Unicorn แล้วรู้สึกว่าน่าสนใจ ก็ซื้อมาดองไว้อีก ((ไม่เข็ด ฮา)) พอดีกับที่โจทย์ใน HHR มีข้อที่ใช้หนังสือที่มีชื่อสัตว์ ไอซ์ก็เลยหยิบมาอ่าน ... แล้วก็...ชอบมากๆ เลยค่ะ >_<


เรื่องของเรื่องก็คือฌอน (Jean Le Viste) ตกลงจ้างนิโคลัส (Nicolas des Innocents) มาออกแบบภาพพรม 6 ชิ้น เพื่อประดับในห้องโถง เขาเติบโตขึ้นมาด้วยเงินน่ะค่ะ ก็เลยอยากแสดงความหรูหราไว้อวดชาวบ้าน

นิโคลัสเป็นศิลปินที่ชำนาญการวาดรูปหญิงสาวและภาพขนาดเล็ก เขาไม่เคยออกแบบภาพพรมมาก่อนเลย ก็รู้สึกแปลกใจที่ได้รับเลือก แต่งานนี้งานยักษ์ ถ้าทำสำเร็จเขาก็จะได้รับเงินก้อนใหญ่ และที่สำคัญ...ไม่มีใครในปารีสขัดใจฌอนได้

นิโคลัสได้ค้นพบว่า คนที่บอกให้จ้างเขาจริงๆ แล้วคือเจเนเวีย (Genevieve De Nanterre) ภรรยาของฌอนต่างหาก ... เธอต้องการให้เขาเปลี่ยนใจสามีจากการออกแบบภาพสงครามเป็นภาพอื่นที่เหมาะจะมอบต่อให้คลาวเด (Claude Le Viste) ลูกสาวคนโตและทายาทของตระกูล

แน่นอนว่า นิโคลัสโน้มน้าวใจของฌอนได้สำเร็จและออกแบบเป็นภาพเหล่าหญิงสาวและยูนิคอร์น


ตามลำดับการทำภาพพรมก็คือ เมื่อนักวาดออกแบบสำเร็จแล้ว ก็จะต้องส่งให้ "ช่างวาดการ์ตูน" ในเรื่องใช้คำว่า cartoonist น่ะค่ะ นำภาพนี้ไปขยายและปรับปรุงเพื่อให้เหมาะกับการทำภาพพรม ก่อนที่ช่างทอจะเอาแบบนั้นไปทอได้

ผู้ที่ได้รับเลือกให้รับงานทอภาพพรมนี้ก็คือจอร์จ (Georges de la Chapelle) ช่างทอพรมที่มีชื่อเสียงในกรุงบรัสเซล ... ครอบครัวของจอร์จประกอบด้วยคริสตีน (Chistine Du Sablon) เอลินอร์ (Alienor De La Chapelle) ลูกสาว และจอร์จจูเนีย ((ขอย่อชื่อให้ค่ะ ชื่อยาวมาก และตัวละครไม่สำคัญเท่าไหร่)) ...ลูกชาย

ช่างการ์ตูนที่เป็นผู้ขยายภาพนั้นทำงานกับจอร์จมานานแล้ว ชื่อ ฟิลิปเป้ (Philippe De La Tour)

คนทั้งหมดในเรื่องมีปัญหาและข้อขัดแย้ง มีความปรารถนา มีความใฝ่ฝัน ทะเยอทะยานที่แตกต่างกัน

กว่าที่ภาพพรมชุดนี้จะเสร็จสิ้น...มันก็เปลี่ยนแปลงชีวิตของทุกคนที่ได้สัมผัสกับมันไปอย่างสิ้นเชิง


...


ถ้าเปรียบเรื่อง Girl With a Pearl Earring ละมุนละไมเหมือนกับภาพวาดของเวอร์เมีย เรื่อง The Lady and the Unicorn ก็ฉูดฉาด หวือหวา กระจายความสำคัญของตัวละครให้มีความสำคัญเท่าๆ กัน มีความต่อเนื่องที่แยกจากกันเหมือนภาพพรมค่ะ


สไตล์การเล่าเรื่องจะเล่าจากมุมมองของตัวละครแต่ละตัว เรื่องจะเคลื่อนที่ไปข้างหน้าจากมุมมองของตัวละครที่ต่างกัน ... ไอซ์อยากลองเขียนสไตล์นี้มานานแล้ว แต่รู้สึกว่าเขียนให้ได้ดียาก เล่มนี้เป็นตัวอย่างของเรื่องที่เขียนได้ดีและลงตัว

ตัวละครทุกตัวมีข้อเสียเด่นกว่าข้อดี -_-" อ่านแล้วเกลียดขี้หน้าเกือบทุกตัวเลยเชียว


ตรงส่วนที่เว้นย่อหน้าเข้าไปสปอยล์เล็กน้อย ถ้าไม่อยากรู้นิสัยตัวละคร ก็ข้ามไปนะคะ





ฌอน...เป็นคนหยาบกระด้าง เอาตัวเองเป็นหลัก ไม่สนใจภรรยาและลูกๆ

เจเนเวีย...ภรรยาที่หม่นเศร้า อยากเข้าคอนแวนเพราะคิดว่าตัวเองล้มเหลวที่ไม่สามารถมีลูกชายให้สามี สามีก็เย็นชาใส่ ลูกสาวก็ไม่เชื่อฟัง

คลาวเด...เด็กสาวที่เป็นทายาทคนโตที่อยากจะเสียสาวเสียเหลือเกิน ร่านได้อีก

นิโคลัส...เลวได้โล่ห์ วันๆ คิดแต่จะฟันหญิง ฟันจนท้องแล้วก็ทิ้งหน้าด้านๆ แล้วก็หาผู้หญิงคนใหม่


ฝั่งครอบครัวของจอร์จน่าเซ็งน้อยหน่อยค่ะ

จอร์จ...สามีที่รักงานคิดถึงแต่ความเจริญก้าวหน้าของงานจนบางครั้งก็ไม่ได้คำนึงถึงความรู้สึกของคนอื่นๆ ในครอบครัวเลย

คริสตีน...พ่อของเธอเป็นช่างทอพรม แต่งงานกับจอร์จเพราะเหตุผลทางธุรกิจ เธออยากทอพรมแต่ว่าไม่อาจทำได้เพราะผิดกฎ Guild

เอลินอร์...ลูกสาวของจอร์จ เธอตาบอด และพยายามทำตัวให้มีประโยชน์มากที่สุด ... แต่พ่อก็ยังจะส่งเธอไปแต่งงานกับช่างย้อมสีที่ตัวเหม็นสุดๆ อยู่ดี ... เอลินอร์เป็นตัวละครที่ไอซ์ชอบที่สุดค่ะ

ฟิลลิเป้...ช่างการ์ตูนที่หลงรักเอลินอร์...เขาช่างขี้อายจนทื่อและซื่อบื้อสุดๆ





ทั้งๆ ที่เหล่าตัวละครทั้งหลายมีข้อเสียมากกว่าข้อดี แต่คนเขียนก็เก่งมากๆ เลยค่ะ ที่ทำให้รู้สึกอยากรู้ว่าชีวิตของตัวละครแต่ละตัวจะดำเนินไปอย่างไร มีผลสรุปอย่างไร ((บางตัวก็เชียร์ แต่ส่วนใหญ่แช่งให้มันมีชีวิตอับเฉา 555))


อ่านจบแล้วรู้สึกว่าตั้งชื่อเรื่องผิดไปหน่อยค่ะ ควรจะต้องเป็น The Ladies and the Unicorn เพราะ...ตัวนิโคลัสนี่แหละคือยูนิคอร์นที่เข้าไปสัมผัสและเปลี่ยนแปลงชีวิตของผู้หญิงทุกคนในเรื่อง


จุดที่ไม่ชอบเป็นการส่วนตัวมีอยู่นิดเดียวคือ เนื่องจากเรื่องนี้เกิดขึ้นในประเทศฝรั่งเศส เลยมีภาษาฝรั่งเศสปนมาในบทสนทนาด้วยนิดหน่อย...แปลไม่ออกง่ะ ต้องไปเปิดดิก -_-"


โดยรวมสรุปว่า...สนุกนะคะ ชอบมากเลยล่ะ ^^




ภาพพรมที่ถูกกล่าวถึงในเรื่องนั้นมีจริงๆ ค่ะ เป็นสมบัติของ Jean Le Viste แล้วตกทอดให้คลาวเด แต่ไม่รู้ว่าใครเป็นคนออกแบบ และใครเป็นคนทอพรม ดังนั้นผู้เขียนจึงจินตนาการเรื่องนี้ขึ้นมาเอง ... ซึ่งก็ทำได้เนียนมากเลยเชียว



ภาพ Tapestries ที่ได้รับการกล่าวถึงและเป็นตัวร้อยเรียงเรื่องราว ไอซ์ก็อปมาจาก ที่นี่ ค่ะ

ปัจจุบันพรมเหล่านี้แขวนอยู่ที่ Musée National du Moyen Age (หรือ Cluny Museum) ในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส


À Mon Seul Désir (To My One Desire) - Genevieve De Nanterre






Taste - Claude Le Viste






Touch - Chistine Du Sablon






Sight - Alienor De La Chapelle






Sound






Smell






ภาพพรมเหล่านี้สามารถตีความหมายได้หลายทาง เช่น สาวพรหมจรรย์กำลังล่อลวงยูนิคอร์น หญิงสาวที่กล่าวลาโลกแห่งสัมผัสไปสู่โลกแห่งจิตวิญญาณ เวอร์จิ้นแมรี่กับพระเยซู ความหมายแรกเป็นความหมายที่ได้รับความนิยมมากที่สุด และอ้างถึงความเชื่อเก่าๆ ที่ว่า ยูนิคอร์นนั้นพยศมากจนไม่มีใครสามารถทำให้เชื่องได้นอกจากสาวพรหมจรรย์เท่านั้น ถ้าเธอนั่งในป่า ยูนิคอร์นจะเข้ามาวางศีรษะบนหน้าตักของเธอ

The tapestries can be interpreted several ways – as a virgin seducing a unicorn, as a woman renouncing the physical world of the senses for the spiritual world, as the Virgin Mary with Christ. The first is the most popular interpretation, and refers to the old belief that the unicorn is so wild it cannot be tamed, except by a virgin. If she sits in the woods, the unicorn will come and lay its head in her lap.


จริงๆ แล้ว ถ้าจะเรียงตามที่ว่าหญิงสาวล่อลวงยูนิคอร์น จะต้องเรียงเป็น À Mon Seul Désir ก่อนเป็นรูป intro แล้วเรียงต่อด้วย รส กลิ่น เสียง ((สามอันนี้จำไม่ได้ล่ะว่า อันไหนมาก่อน)) ต่อด้วย รูป ((ยูนิคอร์นมาที่ตักแล้ว)) แล้วปิดท้ายด้วย สัมผัส เพราะหญิงสาวสามารถจับเขายูนิคอร์นได้ แต่ในบล็อกนี้ไอซ์เรียงตามลำดับความสำคัญและเกิดก่อนหลังในเรื่อง ซึ่งสองภาพหลังไม่ได้แทนตัวละครในเรื่องค่ะ

ดูรูปแล้วอยากไปเห็นของจริงจัง คงสวยอลังการน่าดู ^^






สปอยล์เรื่องอย่างละเอียด

ผู้เขียนแบ่งบทโดยเปลี่ยนมุมมองของตัวละคร ... ไอซ์ชอบเทคนิคนี้จัง อยากลองเขียนดูบ้างค่ะ ^^


I Paris : Lent-Eastertide 1490


นิโคลัส

... มาที่บ้านของฌอน ขณะนั่งรอก็พบกับสาวใช้ ((มาเรีย-เซเลช Maria-Celeste)) ... เป็นคนที่นิโคลัสเคยใช้มุก "ยูนิคอร์น" ซึ่งบอกว่า เขาของยูนิคอร์นสามารถทำให้น้ำในบ่อน้ำที่มียาพิษกลายเป็นน้ำบริสุทธิ์ได้ ก็เหมือนกับ "บ่อ" ของหญิงสาว ((มุกอุบาทว์และตรงไปตรงมาได้อีก -_-")) มีอะไรกับมาเรีย-เซเลส ปรากฎว่าเธอท้องค่ะ นิโคลัสเลยโยนเงินให้ ... เปิดฉากมาก็โครตเกลียดไอ้บ้านี่แล้วอะ

นิโคลัสตกลงรับงาน และได้พบกับคลาวเดซึ่งมาตามนิโคลัสให้ไปพบกับเจนีเวีย ... นิโคลัสเจอแล้วก็ปิ๊งอีก อยากเอาผู้หญิงคนนี้ ก็เลยพูดจาโลมเลียจีบซะ ก่อนจะรู้ว่าเธอเป็นลูกสาวของฌอน

เจนีเวียบอกนิโคลัสว่าเธอเป็นคนเลือกนิโคลัส และอยากให้นิโคลัสวาดอย่างอื่นที่ไม่ใช่ฉากสงคราม เช่น ยูนิคอร์นก็ได้

นิโคลัสเลยเสนอว่า ให้เป็นหญิงสาวล่อลวงยูนิคอร์นก็แล้วกัน เจนีเวียบอกว่า...ก็ดี แต่ความเยาว์วัยและการหลอกล่อมันไม่เกี่ยวอะไรกับเธอแล้ว นิโคลัสเลยคิดว่า อยากจะวาดอะไรที่ทำให้เธอมีส่วนเกี่ยวข้องด้วย ... เลยกลายเป็นรูป My one desire ...


คลาวเด

...ปิ๊งนิโคลัสตั้งแต่แรกเห็น ((ประมาณว่าตานี่หล่อมาก)) และอยากมีอะไรกับเขา 555 และก็เกือบมีอะไรกันใต้โต๊ะในห้องทำงานของพ่อตัวเองแล้ว ถ้าเบียร์ทิส...สาวใช้ของแม่ไม่มาเห็นเสียก่อน

คลาวเดได้เห็นภาพร่าง และได้เห็นใบหน้าของตัวเองในรูป "Taste"

คลาวเดรู้ว่ามาเรีย-เซเลสท้อง แต่ไม่รู้ว่าท้องกับใคร เธอบอกกับมาเรีย-เซเลซว่าจะช่วยพูดกับแม่ให้ และบอกให้มาเรีย-เซเลสไปคลอดก่อนที่ใครจะรู้ มาเรีย-เซเลสซาบซึ้งมากและบอกว่า ถ้าเป็นลูกสาวจะตั้งชื่อตามคลาวเด


เจนีเวีย

...ภรรยาของฌอนผู้ซึ่งอยากหนีชีวิตที่ล้มเหลวตอนนี้ไปอยู่คอนแวน ... รู้เรื่องคลาวเดเกือบจะมีอะไรกับนิโคลัส เลยลงโทษส่งคลาวเดไปหายาย คลาวเดเลยไม่ได้พูดกับแม่เรื่องมาเรีย-เซเลส



II Brussels : Whitsuntide 1490

จอร์จ

...กำลังจะตัดภาพพรมมาแขวน ก็มีแขกมาหาคือ ลีออน ((พ่อค้าคนกลางซึ่งทำงานให้กับฌอน)) และนิโคลัส

ลีออนจับได้ว่าจอร์จลอกเลียนงานออกแบบจากช่างทออีกคน เลยถือไพ่เหนือกว่า ในการจ้างให้จอร์จทอพรม 6 ชิ้นของฌอนให้เสร็จในระยะเวลาแค่สองปี ((จริงๆ ต้องใช้เวลาสักสามปี)) ด้วยค่าแรงเล็กน้อย

จากมุมมองของจอร์จ นิโคลัสจากที่เลวอยู่แล้วยิ่งดูเลวขึ้นไปอีก เพราะอีโก้สูงมาก เอิ๊ก


ฟิลิปเป้

...ต้องทำงานกับนิโคลัส เพราะนิโคลัสไม่ต้องการให้เปลี่ยนแบบด้วยความไม่เข้าใจถึงการทำพรมว่า เมื่อขยายภาพวาดขึ้นมาทำพรม จะต้องเสริมลายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เข้าไป

ฟิลิปเป้รู้สึกถึงอิทธิพลของนิโคลัสที่มีต่อเอลินอร์ และนิโคลัสก็พูดจาออกแนวลามก บ่งบอกว่าเขาผ่านผู้หญิงมาเยอะ

"Women may smell of cloves but they taste of oyster." เหอๆๆๆ

ตอนนี้มีตัวละคร ฌาค...ซึ่งเป็นช่างย้อมสีฟ้ามีกลิ่นตัวเหม็นเข้ามา เขาพยายามเพียรมาหาเอลินอร์เพราะต้องการเธอเป็นภรรยา แต่เอลินอร์รังเกียจฌาค

ตอนนี้นิโคลัสรู้ว่าเอลินอร์ตาบอด


เอลินอร์

...ถึงจะตาบอดก็หู จมูก และสัมผัสอื่นๆ ดีมาก เธอชอบการทำสวน เย็บผ้าได้สวย ... เธอพยายามทำตัวให้มีประโยชน์ แต่เธอก็น้อยใจและรู้สึกถึงโชคชะตาของตัวเอง ไม่มีผู้ชายคนไหนต้องการแต่งงานกับผู้หญิงตาบอด สุดท้ายแล้วเธอก็คงจะต้องเป็นของฌาค

That is one use my eyes share with others - they do make tears.


คริสตีน

...ภรรยาของจอร์จ เธอเป็นลูกสาวช่างทอพรม และอยากทอพรม แต่ติดกฎห้ามของกิลด์เอาไว้ ... เธอรู้ว่าลูกสาวไม่ต้องการแต่งงานกับฌาค แต่ฌาคก็ตื้อเหลือเกิน แถมยังข่มขู่เรื่องส่งด้ายย้อมสีอีก สุดท้ายเธอกับจอร์จก็ตกลงยกเอลินอร์ให้ฌาค แต่บอกให้ฌาคเก็บเป็นความลับและรอจนกว่าพรมจะทอเสร็จ เพราะต้องให้เอลินอร์ช่วยเย็บ

คริสตีนและจอร์จคุยกันว่าจะไม่บอกเอลินอร์ แต่นิโคลัสกลับได้ยิน และรู้สึกแย่กับเรื่องนี้ เลยรีบทำงานให้เสร็จและกลับฝรั่งเศส



III Paris and Chelles : Eastertide 1491

นิโคลัส

...กลับมาอยู่ที่ปารีส เขาคิดถึงเอลินอร์...ทั้งๆ ที่ยังไม่เคยได้เธอ ปกติเขาเป็นคนที่ได้แล้วทิ้ง หาใหม่ทันที ((เลวได้อีก 555))

คลาวเดมีคนติดตามอยู่ตลอดเวลา เขากับเธอได้พูดกันสั้นๆ ต่างคนต่างบอกว่าต้องการกันและกัน แต่ก็ไม่สามารถนัดหมายเวลาได้

จู่ๆ เขาก็ได้เห็นมาเรีย-เซเลสในเมือง มาเรีย-เซเลสคลอดลูกและไปฝากไว้ที่คอนแวน และก็ไปทำงานที่ใหม่ เจ้าของบ้านได้ต้อนรับเมียและลูกของฌอน นิโคลัสเลยพยายามปะเหลาะให้มาเรีย-เซเลสช่วยให้เขาได้พบคลาวเดีย แต่นิโคลัสโดนตลบหลัง โดนมาเรีย-เซเลสหลอกไปซ้อมแทน ((สมน้ำหน้า))

นิโคลัสฝากจดหมายไปกับเบียทริสซึ่งตอนนี้กลายเป็นสาวใช้ของคลาวเดแล้ว


เจนีเวีย

...เบียทริสเอาจดหมายมาให้เจนีเวีย เจนีเวียเลยตัดสินใจส่งคลาวเดไปอยู่คอนแวน และให้เบียทริสติดตามไปดูแล โดยสัญญากับเบียทริสว่า ถ้าดูแลคลาวเดได้ดี จะหาสามีให้


คลาวเด

...อยู่ในคอนแวนอย่างทรมาน พยายามหาทางติดต่อให้นิโคลัสมาช่วย ((โดยที่ไม่รู้ว่า เจนีเวียบอกให้ลีออนส่งนิโคลัสไปที่บรัสเซลแล้ว))

คลาวเดได้พบลูกของมาเรีย-เซเลส และรู้ว่านี่เป็นลูกของนิโคลัส ...แทนที่จะเกลียดนิโคลัส เธอกลับรังเกียจมาเรีย-เซเลส อิจฉามาเรีย-เซเลส และทนไม่ได้ที่จะต้องแชร์ผู้ชายกับมาเรีย-เซเลส ((หลงเขาเอามากๆ เหอๆๆ))



IV Brussels : May Day 1491 - Septuagesima 1492

จอร์จ

...ได้รับข่าวร้ายจากนิโคลัสว่า ฌอนต้องการภาพพรมเร็วขึ้นไปอีก ทั้งๆ ที่ตอนนี้ก็เร่งมือจนไม่ทันอยู่แล้ว นิโคลัสบอกว่าจะช่วยเท่าที่จะทำได้ ฌอนต้องยอมให้คริสตีนช่วยทอพรม

((ภาพคริสตีนที่มีความสุขที่จะได้ทอพรม ทำให้นิโคลัสทำภาพ Touch ให้เป็นใบหน้าของเธอ))


เอลินอร์

...ใกล้ชิดกับนิโคลัสเข้าไปเรื่อยๆ เธอมีเพศสัมพันธ์กับนิโคลัสโดยที่ไม่มีใครรู้ ... การมีอะไรกับเขาครั้งแรกทำให้เธอได้รู้ว่า ตัวเธอเองถึงแม้จะตาบอด ก็สามารถมีความสุขกับรสเพศได้ ทั้งจากเสียง รสชาติ และสัมผัส เธอไม่ได้พลาดอะไรไป

เธอขอมีอะไรกับเขาอีก นิโคลัสเองก็เตือนว่า จะต้องระวังเรื่องท้อง ... แต่นั่น...เป็นสิ่งที่เอลินอร์ต้องการ เธอต้องการท้องเพื่อหลีกเลี่ยงการแต่งงานกับฌาค


คริสตีน

...ตลอดเวลาที่ผ่านมา คริสตีนมีความสุขกับการทอผ้าจนลืมเลือนที่จะสอดส่ายสายตาดูเอลินอร์กับนิโคลัส เธอมารู้ความจริงก็ต่อเมื่อได้เห็นแบบภาพ "Touch" ((ที่กลายเป็นใบหน้าของเธอ)) กับ "Sight" ที่เขาแก้

ในรูป Sight เป็นใบหน้าของเอลินอร์ ... ภาพยูนิคอร์นบนตักย่อมหมายถึงว่า เธอมีอะไรกับเขาไปแล้ว

ไม่นานคนอื่นๆ ก็สังเกตว่า เอลินอร์ท้อง


ฟิลิปเป้

...ประกาศว่าตัวเองเป็นพ่อเด็ก และขอแต่งงานกับเอลินอร์

เขาพยายามใช้เวลามากมายจนเธอเปิดใจ เอลินอร์บอกว่าจะตั้งชื่อลูกตามชื่อพ่อหรือแม่ของฟิลิปเป้ ขึ้นอยู่กับว่าเป็นเด็กผู้ชายหรือหญิง

ในที่สุดพรมก็เสร็จ เอลินอร์คลอดเป็นลูกชาย


V Paris : Septuagesima 1492

นิโคลัส

...ได้รับเชิญไปงานประกาศการหมั้นของคลาวเด ภาพพรมทั้งหกถูกแขวนอยู่แล้ว

เจนีเวียบอกว่า เธอชอบรูป Touch ที่สุด เพราะผู้หญิงในภาพดูมั่นใจว่า ตนเองต้องการอะไร

คลาวเดชอบรูป Sight ที่สุด เพราะบอกว่าผู้หญิงในรูปผ่านชีวิตและความเศร้ามามาก

นิโคลัสรู้สึกว่า เขาคาดการณ์ถึงผู้หญิงเหล่านี้ผิดพลาดไปหมด

คลาวเดเปลี่ยนชื่อลูกของนิโคลัสเป็น นิโคเล็ตและตั้งใจว่าจะให้เป็นสาวใช้ของเธอ

เจนีเวียลงโทษคลาวเดและนิโคลัสด้วยการ ให้คลาวเดยกเบียทริสให้แต่งงานกับนิโคลัส ((อ่านแล้วฮาแบบอึ้งๆ))

....


มีบทส่งท้ายสรุปตัวละครอีกนิดหน่อยนะคะ

รู้สึกว่าผู้เขียนสรุปบทสุดท้ายของตัวละครแต่ละตัวและโยงเกี่ยวกับภาพพรมได้ดีอะค่ะ ชอบมาก เสียดายไม่มีอะไรเกี่ยวกับภาพ Sound และ Smell








ดู Index รายชื่อหนังสืออื่นๆ ที่ไอซ์ได้รีวิวไปแล้วตามลิงก์ข้างล่างค่ะ

- หนังสือภาษาอังกฤษ
Index Bookshelf : English Books

- หนังสือแปล
Index Bookshelf : Translated Books

- หนังสือภาษาไทย
Index Bookshelf : Thai Books





Create Date : 22 พฤษภาคม 2553
Last Update : 22 พฤษภาคม 2553 8:58:57 น. 4 comments
Counter : 4839 Pageviews.

 
อ่านพล็อต อ่านจั่วหัวแล้วน่าสนใจ

เกลียดขี้หน้าตัวละครแต่สนุกจนวางไม่ลง ว้าวๆๆๆ

เวลาไปอ่านบล็อกเพื่อนแล้วเจอหนังสืิอภาษาอังกฤษดีๆ ทีไร ให้นึกอยากเก่งพอจะอ่านได้มั่งทุกทีสิ


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 22 พฤษภาคม 2553 เวลา:15:14:01 น.  

 
หนังสือเรื่องนี้ถ้าแปลมาเป็นภาษาไทยก็คงจะไม่อ่านแน่เลยค่ะ

แต่ชอบพรมที่คุณไอซ์เอามาให้ดูอ่ะ สวยมาก ๆ ทุกผืนเลย ไม่น่าเชื่อเนอะว่านี่จะเป็นพรมที่ทอด้วยมือคน เพราะดูแล้วเหมือนรูปเขียนหรือภาพปักมากกว่าค่ะ โห..สุดยอดฝีมือเลยนะเนี่ย


โดย: โอ-พิน (o_pinP ) วันที่: 22 พฤษภาคม 2553 เวลา:18:39:34 น.  

 
...ไปค้นข้อมูลมาเลยรู้ว่า สนพ.ที่แปลเรื่อง "หญิงสาวกับต่างหูมุก" คือ อิมเมจ อะค่ะพี่เต้ย แต่ไม่เห็นแปลเล่มอื่นๆ ของนักเขียนคนนี้เลย ไม่รู้ว่าจะมีสนพ.ไหนหยิบเล่มนี้มาแปลหรือเปล่านะคะ อยากให้มีแปลเหมือนกัน ไอซ์ว่าสนุกอะ ฮา


...ไอซ์ชอบภาพพรมมากๆ เลยค่ะพี่โอ ได้เห็นในพิพิธภัณฑ์หลายๆ แห่ง ดูไกลๆ นึกว่าภาพวาด ที่สวยที่สุดที่เคยเห็นคือที่พิพิธภัณฑ์ในประเทศอิหร่านค่ะ ละลานตามากๆ บางผืนทำละเอียดเหลือเกิน มีการใช้วัตถุดิบหลากหลาย ผืนที่ใช้ผ้าไหมนี่ดูนุ่มและเป็นเงาสวยสีสด งานฝีมือแบบนี้สมัยนี้ยิ่งหายากขึ้นทุกทีค่ะ


โดย: Clear Ice วันที่: 22 พฤษภาคม 2553 เวลา:22:56:48 น.  

 
สีตัวหนังสือทรมานสายตาคนแก่มากเลยครับ


โดย: norrachat IP: 119.42.98.137 วันที่: 23 พฤษภาคม 2553 เวลา:12:48:10 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Clear Ice
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 22 คน [?]




Friends' blogs
[Add Clear Ice's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.