Hikaru No Go : การ์ตูนพล็อตธรรมดา ที่ไม่ธรรมดา
//www.pantip.com/cafe/library/topic/K3903557/K3903557.html
หวัดดีค่ะ ... ช่วงนี้อ่านแต่การ์ตูน ก็เลยขอตั้งกระทู้ถึงหนังสือการ์ตูนบ้างก็แล้วกันนะคะ ^^
ปกติไอซ์ไม่ค่อยได้ไปไหน ก็เลยไม่ได้ตามการ์ตูนใหม่ๆ เท่าไหร่ แต่โชคดีที่ค้นพบว่า น้องที่ทำงานแวะเดอะมอลเกือบทุกวัน เลยฝากเค้ายกชุดมาหลายเรื่องแล้ว อุอุ
ล่าสุดก็คือเรื่องนี้ค่ะ Hikaru No Go (แปลตรงตัวภาษาญี่ปุ่น ก็คือ เกมโกะของฮิคารุ) หรือชื่อภาษาไทยคือ ฮิคารุ เซียนโกะ นะคะ
เรื่อง : Hikaru No Go เรื่องโดย : Yumi Hotta ภาพโดย : Takeshi Obata
เป็นเรื่องของเด็กผู้ชาย "ชินโด ฮิคารุ" เด็กประถม 6 ธรรมดาที่ไปเจอกระดานโกะเปื้อนเลือดในห้องเก็บของบ้านคุณปู่ แล้วก็เลยได้พบกับ "ฟุจิวาระ โนะ ซาอิ" วิญญาณสมัยโบราณที่เคยเป็นอาจารย์สอนโกะให้กับจักรพรรดิ แต่กลับถูกกลโกง ทำให้ถูกไล่ออก และตายไปโดยยังมีเรื่องค้างคาอยู่ในใจ
ซาอิ ต้องการเล่นโกะ ... แรกๆ ฮิคารุ ก็ให้ซาอิเล่นโกะโดยผ่านตัวเอง และนั่นก็ทำให้เขาได้พบกับ "โทยะ อากิระ" เด็กประถม 6 ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นอัจฉริยะทางโกะ
ซาอิแข่งโกะกับอากิระโดยผ่านการวางหมากของฮิคารุ และอากิระก็พ่ายแพ้ ซึ่งก็เป็นเหมือนกับฟ้าผ่ากลางวันสำหรับเขาเลยทีเดียว
หลังจากที่ได้เล่นโกะไปสักพัก ฮิคารุก็เกิดอยากเล่นขึ้นมาด้วยตัวเองบ้าง มีความรู้สึกอยากวางหมากเอง คิดเอง แข่งเอง นั่นทำให้เขาค้นพบว่า วงการโกะนั้น ซับซ้อนและยิ่งใหญ่กว่าที่คิด จะต้องฝ่าฟันอะไรมากมายถึงจะเป็นนักเล่นโกะมืออาชีพได้
และเนื้อเรื่องก็ดำเนินไปเรื่อยๆ บอกเล่าการเติบโตในเส้นทางโกะของฮิคารุ เหตุผลที่วิญญาณของซาอิยังวนเวียนอยู่ และเหล่าเพื่อนพ้อง ผู้คน ที่ฮิคารุได้พบเจอระหว่างการเดินทางนี้ ไปจนถึงคำตอบสุดท้ายว่า เขาเล่นโกะเพื่ออะไร
อ่านพล็อตหลักแล้ว ก็ไม่ได้ต่างอะไรกับการ์ตูนกีฬาหรือการ์ตูนนักสู้หลายๆ เรื่องเลย ที่พล็อตหลัก ตอนแรกพระเอกไม่เก่ง แต่หลังจากมุมานะพยายามขึ้นไปเรื่อยๆ บวกกับความสามารถที่มีอยู่ ทำให้ก้าวไปถึงระดับสูงได้ ระหว่างเรื่องก็มีการแข่งโกะไปเรื่อยๆ
บอกเล่าถึงการเติบโตของฮิคารุ ไปพร้อมๆ กับ บอกเล่าว่า วงการโกะในญี่ปุ่น ((มีเกาหลีกับจีนมาบวกๆ ด้วย)) นั้นเป็นอย่างไร กว่าจะเป็นนักเล่นโกะมืออาชีพนั้น จะต้องทำอะไรมาบ้าง
พล็อตหลักธรรมดา กับสิ่งที่แทรกเข้ามาที่อาจจะค่อนไปทางน่าเบื่อเสียด้วยซ้ำ แต่ผู้เขียนกลับสามารถจับจุดเอามาผูกเรื่องได้อย่างสนุกสนาน
ผลสรุปก็ตอบโจทย์ได้ค่อนข้างชัดเจน ((แต่ไม่สะใจไอซ์แฮะ แหะๆๆ รู้สึกโหวงๆ นิดๆ ถึงมันจะลงตัวก็เถอะ))
ภาพวาดฝีมือ Takeshi Obata ก็น่าประทับใจค่ะ ... ไอซ์ที่ไม่ได้อ่านการ์ตูนญี่ปุ่นใหม่ๆ มานานช่วงที่เรียนอยู่อังกฤษ ได้รู้จักอาจารย์ท่านนี้เพราะอ่านเรื่อง Death Note ... ภาพสวย ลายเส้นชัดเจน ที่ไอซ์ชอบมากๆ ก็คือ สามารถแยกตัวละครได้ง่าย ((ถ้าเทียบกับการ์ตูนผู้หญิงแล้ว การ์ตูนผู้หญิงจะมีจุดอ่อนตรงนี้แยะนะ หน้าตาตัวการ์ตูนเหมือนกันไปหมด)) และสามารถเห็นความเติบโตตามอายุได้อย่างชัดเจน การออกแบบตัวการ์ตูนก็น่าสนใจค่ะ สรุปว่าชอบ
ทำให้ที่ไอซ์เล่นโกะแทบจะไม่เป็นเลย สามารถอ่านเรื่องนี้ได้ติดหนึบ สนุกสนาน รวดเดียว 23 เล่ม ((ตาแฉะเลย เกือบตื่นขึ้นมาทำงานไม่ไหว งือ)) ... เป็นการ์ตูนอีกเรื่องที่ชอบมากๆ ไม่ผิดหวังเลยที่ได้รับคำแนะนำมาหลายต่อหลายครั้ง
มาแนะนำตอนนี้อาจจะเชยๆ ไปแล้วก็ได้ค่ะ แต่ถ้าใครชอบอ่านการ์ตูนแล้วยังไม่เคยอ่านเรื่องนี้ ก็อยากแนะนำให้ลองไปเปิดๆ ดูค่ะ
สาเหตุที่อ่านเรื่องนี้จบแล้ว อยากหยิบมาพูดถึงก็คือ เมื่อวันเสาร์ที่แล้ว มีคนมาสัมภาษณ์ไอซ์เกี่ยวกับงานเขียนน่ะค่ะ
มีคำถามหลายคำถามเกี่ยวกับพล็อตเรื่อง และการที่นักเขียนหน้าใหม่บางคนบอกว่า เขียนไปแล้วพล็อตซ้ำ อะไรทำนองนี้น่ะค่ะ
ส่วนตัวแล้ว ไอซ์คิดว่า พล็อตไม่มีวันหมดนะคะ ตราบใดที่เรายังใช้ชีวิตอยู่ เวลายังคงเคลื่อนหน้าไปเรื่อยๆ มันมีอะไรใหม่ๆ ให้เขียนถึงได้อยู่เสมอแหละ ... เวลาที่เราหัวตัน อาจจะเพราะเรายังจับจุดมาเขียนไม่ได้
พล็อตซ้ำมีแยะ แต่ก็ยังมีพล็อตใหม่ๆ รอให้นักเขียนจับมาเขียนอยู่เสมอ ... เรื่องที่ดูธรรมดาๆ ไม่น่าสนุก อาจจะจับมาเขียนให้สนุกได้
ดูอย่างเรื่องนี้สิคะ ใคร ((โดยเฉพาะคนที่เล่นโกะไม่เป็น)) จะไปคิดว่าเอาเรื่องนี้มาเขียนจนสนุกได้
อ่านแล้วทำให้นึกออกว่า ยังมีกีฬาหลายๆ อย่างในเมืองไทยที่อาจจะยังไม่มีใครเอามาเขียนเป็นพล็อตหลักเท่าไหร่เลยนะ อย่าง มวยไทย ((อาจจะมีหนังหรือละครบ้าง แต่ไอซ์ไม่เคยดูง่ะนะ)) ตะกร้อ ฟันดาบ ฯลฯ ... น่าจะเอามาเขียนได้สนุกเหมือนกันนา แต่คนเขียนคงจะต้องทำการบ้านอานเลย
อีกอย่างที่ทำให้รู้สึกทุกทีทีอ่านการ์ตูนแล้วนี้ ... รู้สึกว่าอะไรๆ ในญี่ปุ่นมันจริงจังดีจัง ถ้าใครอยากจะมุ่งหน้าไปทางไหน ก็มุ่งหน้าไปทางนั้น พยายามอย่างแท้จริงเพื่อสิ่งนั้น และก็มีหน่วยงานที่ให้การสนับสนุนเสียด้วยสิ ... รู้สึกว่าเท่ดีนะ คนที่มุ่งมั่นทำอะไรสักอย่างเนี่ย ...
อยากให้สังคมไทยเปิดกว้างๆ ให้มากกว่านี้ เอื้อให้เด็กมีอิสระได้คิดทำในสิ่งที่สร้างสรรค์มากกว่านี้ และก็ยึดติดกับค่านิยมน้อยลงจัง
^^
Create Date : 25 พฤศจิกายน 2548 |
|
23 comments |
Last Update : 25 พฤศจิกายน 2548 13:23:34 น. |
Counter : 4011 Pageviews. |
|
|
|