<<
มกราคม 2564
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
27 มกราคม 2564

:: กะว่าก๋าแนะนำหนังสือ - พลังแห่งจิตเงียบ ::


:: พลังแห่งจิตเงียบ ::

เขียน : J.Krishnamurti
แปล : หิ่งห้อย ณ ภูเขา











หนังสือเล่มนี้อยู่ในชุดหนังสือ “สภาวะรับรู้อันไร้การเลือก”
[ Choiceless Awareness ] โดยเนื้อหาทั้งหมดคัดสรรมาจาก
บทบรรยายและหนังสือของท่านกฤษณมูรติ ที่จัดทำไว้
ตั้งแต่ปี ค.ศ.1933 ถึงปี ค.ศ.1967 อ้างอิงเนื้อหาบทตอนที่เกี่ยวข้องกับ “การรับรู้”
โดยคัดสรรจากบทความกว่า 600 เรื่อง และแยกพิมพ์เป็น 3 เล่ม
เพื่อไม่ให้หนังสือมีความหนามากเกินไป
ในภาคภาษาไทยจึงแบ่งหนังสือ “สภาวะรับรู้อันไร้การเลือก” ออกเป็นสามเล่ม คือ

1.เผชิญความจริง
2.กระจกเงาแห่งความสัมพันธ์
3.พลังแห่งจิตเงียบ





------------------------------------------------------




“ความจริง” ที่เราพยายามสืบค้น
แท้จริงแล้วอาจมีชื่อเรียกว่า “ความกลัว”
การจะเข้าใจความกลัว เราต้องสำรวจตรวจสอบความคิดแบบลงลึก
มิใช่ศึกษาอย่างผิวเผินเพียงเปลือกนอกของความกลัว



ที่ใดมีความกลัว ที่นั่นไม่มีความรัก
ที่ใดมีความกลัว ที่นั่นไม่มีวันได้พบกับความจริง



ปัญหาไม่ได้อยู่ที่การทำลายความกลัว
แต่ต้องเริ่มต้นที่การเข้าใจความกลัว

คนจำนวนมากขจัดความกลัวด้วยยานอนหลับ
ขจัดความกลัวด้วยการซื้อความสุขทางกาย
ซื้อข้าวของมากมายเพื่อให้ตัวเองรู้สึกดี
มีเงินจำนวนมากเพื่อให้ตัวเองรู้สึกมั่นคง
มีความรักเพื่อหวังว่าจะมีคู่ครองที่ดี มีครอบครัวที่อบอุ่น
แต่ทั้งหมดกลับกลายเป็นการวิ่งหนีจากความจริง
เป็นการซ่อนหลบทางความรู้สึกชั่วคราว
เพื่อไม่ต้องเผชิญหน้ากับ “ความกลัว” ที่เกิดขึ้นในนาม “ความจริงแห่งชีวิต”


“ทุก ๆ ความกลัว” มันประทับลงไปในคำว่า “ความเป็นตัวฉัน”
“ทุก ๆ ความกลัว” ประทับลงไปในคำว่า “ของฉัน”
เราได้มา และไม่อยากเสียมันไป
รับมา และไม่อยากให้มันเปลี่ยนแปลง
อยากให้มันคงอยู่อย่างนั้น เป็นอย่างที่เราต้องการ
พอไม่ได้ดั่งใจ ก็กลายเป็นการสร้างทุกข์ให้กับชีวิต
ทั้ง ๆ ที่สิ่งที่เคยมีเหล่านั้นเคยสร้างความสุขให้มากมาย

“ความอยาก” สร้างการแบ่งแยก ระหว่างตัวเรากับทุกสิ่งที่ผูกสัมพันธ์
“ความต้องการ” สร้างเงื่อนไขร้อยรัดตัวเรากับทุกอย่างที่คิดว่าเป็นของเรา


“เงียบ” ไม่ได้แปลว่า “สิ้นสรรพเสียง”
แต่ “เงียบ” คือ
“สงบ”
“สงบ” จนนิ่งและเห็นความจริงอย่างที่มันเป็น
เห็นแล้วยอมรับได้ว่าทุกสิ่งเป็นไปของมันเช่นนั้นเอง

ไม่ว่าจะอยากหรือไม่อยาก ไม่ว่าจะชอบหรือไม่ชอบ
ไม่ว่าจะทนได้หรือทนไม่ได้
ทุกอย่างเป็นไปของมันเช่นนั้น
ถ้ายอมรับและเข้าใจความจริงได้
ใจก็ทุกข์น้อยลง
ทุกข์น้อยลงไปเรื่อย ๆ ก็ไม่ทุกข์
“จิตที่เงียบ” จึงเป็นจิตที่เปี่ยมพลัง
พลังที่จะช่วยให้เรา “ยอมรับ” ทุกความจริงที่เกิดขึ้นในชีวิต
ไม่ว่าจะดีหรือร้าย ไม่ว่าจะอยากให้เกิดขึ้นหรือไม่อยากก็ตามที

แต่จะทำยังไงให้จิต “เงียบ”
ไม่ใช่เพียงเงียบเสียง หรือหลบลี้หลีกห่างผู้คนไปอยู่สุดขอบโลก
“ความเงียบ” อาจเกิดขึ้นได้ท่ามกลางเสียงโหวกเหวก
เกิดขึ้นท่ามกลางกองทุกข์ที่ถาโถม



“จริงเห็นจริง”
“เห็นจริง”
“เงียบจริง”



พลังแห่งจิตเงียบ
ไม่ได้อยู่ที่ใดเลย
นอกจากอยู่ในจิตอันอึกทึกคึกโครมด้วยความคิดของตัวเราเอง

















 




 

Create Date : 27 มกราคม 2564
35 comments
Last Update : 17 กรกฎาคม 2565 7:00:51 น.
Counter : 357 Pageviews.

 

เจิมก่อนค่ะคุณก๋า
สักนะยะจะกลัยมาเม้นท์
ต้องใช้เวลาในการอ่าน

 

โดย: เริงฤดีนะ 27 มกราคม 2564 6:17:18 น.  

 

“สงบ” จนนิ่งและเห็นความจริงอย่างที่มันเป็น
เห็นแล้วยอมรับได้ว่าทุกสิ่งเป็นไปของมันเช่นนั้นเอง

ปลงๆได้เยอะเลยจริงๆกับชีวิตค่ะ

 

โดย: โอน่าจอมซ่าส์ 27 มกราคม 2564 6:20:04 น.  

 

มีหลายคนพยายามเดินทาง ภายใต้แสงสว่างของลุง ๆ
เพราะสะดวกสบายสำหรับพวกเขา

แต่คนอื่นเห็นแล้ว ไม่สบายใจ คนข้างนอกมองรู้ว่า มันมืดมน
...
เมื่อวาน นั่งดูหญิงท่านหนึ่ง นับถือศาสนาอีก ศาสนา พูด
ได้น่าฟัง เป็นจังหวะ สุภาพ
พอฟังแล้ว อืมมม.

เหมือนการทำสมาธิของหลวงพ่อ..(พื้นฐาน) เช่น สมาธิ
ขั้นต้น ขั้นกลาง และขั้นสูง

พออนุมานได้ว่า หลาย ๆ ศาสนารู้ว่า หากตนเองรู้ตัวเอง
ว่าอยู่สภาพใด จะดีมาก เข้าใจคนอื่นด้วย

ถ้าสมาธิไม่ดีหรือมีน้อย จะคุมตัวเองไม่ค่อยได้ 555 อ้าว
ดันเข้าไปเรื่องลุงอีกแหละ

ผมดูสองศาสนาที่มิใช่พุธ เขาศึกษาทำสมาธิในอีกรูปแบบ
คือการ สวด หรือทำสมาธิเบื่องต้นเพื่อให้จิตสงบ จะเกิด
ปัญญา
แต่บางคนไม่ต้องสวด ก็ทำสมาธิให้จิตสงบได้

 

โดย: ไวน์กับสายน้ำ 27 มกราคม 2564 6:32:20 น.  

 

เซียนกระบี่ลุ่มแม่น้ำวัง 



สวัสดียามเช้าครับ

 

โดย: เซียน_กีตาร์ 27 มกราคม 2564 6:44:19 น.  

 

สวัสดีครับคุณก๋า
วันนี้ผมมาทักทายแต่เช้า

พูดถึง "ความกลัว" นึกถึงประโยคติดหูจากโฆษณาสมัยก่อนที่ว่า

"ความกลัวเป็นสิ่งที่เราสร้างขึ้นเอง เอาชนะมันให้ได้"

เพราะถ้าเรากลัว เราก็จะไม่มีความกล้า จนเป็นกำแพงปิดกั้นเราจากอิสระ หรือความสำเร็จเบื้องหน้าครับ


และชอบประโยคจากบล็อกวันนี้ที่ว่า

"ปัญหาไม่ได้อยู่ที่การทำลายความกลัว
แต่ต้องเริ่มต้นที่การเข้าใจความกลัว" ครับ

 

โดย: มาช้ายังดีกว่าไม่มา 27 มกราคม 2564 7:18:08 น.  

 

โอ๊ยทำไมรู้สึกมึนแต่เช้าเลยนะคุณก๋า

 

โดย: หอมกร 27 มกราคม 2564 7:24:01 น.  

 

สวัสดียามเช้าค่ะ คุณก๋า
ก็อปเม้นท์คุณหอมกรนะคะ 55
อ่านได้ดีๆครึ่งเดียวเอง
จิตก็เงียบดีอยู่นะคะ คือสงบมาก
แต่ยิ่งอ่านเหมือนความสงบจะลางเลือน
เช้าขึ้นก็มาป่วน เอ๊ะ ยังงัย

 

โดย: ภาวิดา คนบ้านป่า 27 มกราคม 2564 7:32:55 น.  

 

อ.เต๊ะ มานั่งนึกดู เกิดสมมุติว่าว่า บ้านอยู่ใกล้คุณก๋า
แล้วคุณก๋าบอกว่า เอ็งอยากอ่านหนังสือเล่มไหนก็เอาไปเลยนะ ข้าอนุญาตเต็มที่ อ.เต๊ะ จะตอบยังไงดีหว่า 555

นึกไปนึกมา งั้นตอบแบบนี้ดีกว่า อ.เต๊ะ ขอเป็น ให้คุณก๋า
ร้องเพลงเล่นกีต้าร์ให้ฟังดีกว่านะครับ เรื่องหนังสือ คงไม่กล้ารบกวนหรอกครับ อิอิ

คุณก๋า บอก เอ็งก็เป็นซะอย่างนี้ ของดีๆไม่รู้จักอ่าน
เร็ว เร็วๆซิ เอ็งอยากฟังเพลงอะไร
ข้าหาเหยื่อ เอ๊ย คนฟังมานานแระ เดี๋ยวข้าจัดให้ซัก 10 เพลงรวดเลยดีกว่า เอ้าตบมือซิ รออะไร หรือจะเอา 20เพลง เย้ย 555

 

โดย: multiple 27 มกราคม 2564 8:39:40 น.  

 

สวัสดีค่ะคุณก๋า วันนี้อ่านแล้วยิ่งอ่านยิ่งมึนค่ะ 555

 

โดย: zungzaa 27 มกราคม 2564 8:45:24 น.  

 

เล่มนี้ อ่านได้ลื่นไหล
การปฏิบัติขั้นสูง
อรุณสวัสดิ์ค่ะ

 

โดย: mcayenne94 27 มกราคม 2564 8:47:10 น.  

 

พี่อ้อขจัดความกลัว..
ด้วยการนอนคลุมโปง
อ๊ะ..ไม่ใช่
นั่นมันกลัวผี

ความกลัว..ต้องใช้สติขจัด

มาถึงเล่ม 3 แล้วนะคะ
ค่อยๆอ่านไป ตามที่คุณก๋ารีวิว
ก็พอจะเข้าใจตามได้อยู่

มีประโยชน์มาก ทั้ง 3 เล่ม

 

โดย: เริงฤดีนะ 27 มกราคม 2564 9:10:47 น.  

 

สวัสดีคะคุณก๋า...

มีหลายวิธีที่จะชนะความกลัว..

อย่างแรก..ต้องชนะใจตัวเองเสียก่อน..555

 

โดย: อ้อมแอ้ม (คนผ่านทางมาเจอ ) 27 มกราคม 2564 9:34:36 น.  

 

สวัสดีครับ

มาอ่านข้อคิดจากหนังสือดีๆอีกเล่มครับ
บางวันทำงานเหนื่อยๆได้พักผ่อนเงียบๆ ผ่อนคลายดีครับ

 

โดย: Sleepless Sea 27 มกราคม 2564 12:06:17 น.  

 

ขอบคุณสำหรับรีวิวค่า

 

โดย: บาบิบูเบะ...แปลงกายเป็นบูริน 27 มกราคม 2564 12:07:26 น.  

 

บางคนกลัว แต่ยังรักอยู่นะคะ เช่น ภรรยาที่ต้องดูแลสามีที่ป่วยเป็นโรคจิตเวช เชื่อว่าลึกๆ เธอมีความกลัวค่ะ แต่เธอมีความรักมากกว่า จึงทำให้อยู่กันได้

สัจจะ คือ สิ่งที่เป็นอยู่จริง แต่จริงแค่ไหน หลอกตัวเองไหม บางทีต้องย้อนกลับมามองดู

บางคนอาจคิดว่าสิ่งตรงหน้า คือ สิ่งที่เป็นอยู่จริง ทั้งที่ความจริงไม่จริงเลย

 

โดย: comicclubs 27 มกราคม 2564 12:53:24 น.  

 

จากบล็อก


ถามคนที่ดูแลเค้าบอกว่าชั้นบนพื้นเป็นไม้ครับ ผุหมดแล้ว ชั้นล่างปูกระเบื้องโบราณ แต่กลัวว่าพื้นชั้นบนจะถล่มลงมาเลยปิดบูรณะไปก่อน ยังไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะได้บูรณะเลยครับ


วันนี้มาชวนไปทานอาหารร้านเก่าแก่ของเชียงรายครับ - เอกโอชา

 

โดย: ทนายอ้วน 27 มกราคม 2564 13:17:26 น.  

 

ข้อความในภาพสุดท้าย บอกเลยว่างงจริง แต่มาคิดๆ ดูแล้ว เข้าใจได้ว่า ถ้ามันมีความคิดโดยไม่มีคนคิด มันก็เป็นเพียงความคิดล่องลอยอยู่ในอากาศ วันหนึ่งมีคนมารับรู้ แต่รับรู้เฉยๆ โดยไม่คิด ความคิดนั้นก็เลยดับไป

ประมาณนี้หรือเปล่าคะ

การที่ความคิดจะดับได้ เราต้องไม่คิด ใช่ไหมคะ

 

โดย: comicclubs 27 มกราคม 2564 13:23:04 น.  

 

สวัสดีมีสุขค่ะ

มาอ่านตอนดูหนัง Fate ของเน็ตฟลิกซ์
เลยไม่มีสมาธิในการจับใจความ
ไว้มาอ่านใหม่ค่ะ

 

โดย: ตะลีกีปัส 27 มกราคม 2564 14:35:52 น.  

 

เงียบ ก็ไม่ได้แปลว่า ไม่มีอะไรด้วยครับ
ไอ่ที่เงียบนี่ ก็คิดไอ่นั่นไอ่นี่เยอะแยะ แต่รู้ว่าพูดไปก็เท่านั้น
อธิบายหรืออะไรไปก็เท่านั้น
เงียบๆไว้แล้วเก็บไว้จัดทีหลังดีกว่า 55555

จากบล๊อก
ญี่ปุ่นเที่ยวได้ทุกฤดู ทุกโซนเลยครับ เพราะแต่ละที่มันต่างกันหมดเลย แค่ที่เดียวกัน คนละฤดูก็ต่างกันแล้ว น่าเที่ยวต่างกันแล้ว
ประเทศมุสลิมผมไปมาแค่ดูไบครับ ความรู้สึกเหมือนอเมริกาเลยครับพี่ก๋า อาหารการกินไม่ต้องห่วง ดีมากๆ บ้านเมืองดีมากๆ การบริการทุกอย่างดีมากๆ แต่ผมไปทำงานอยู่แน่ในอาคารเลยไม่ได้เที่ยวที่ไหนเลยครับ

 

โดย: จันทราน็อคเทิร์น 27 มกราคม 2564 14:35:58 น.  

 

สวัสดีครับน้องแตง

บางครั้งการอยู่ด้วยกัน
มันก็ไม่ใช่รัก แต่เป็นอะไรก็ไม่รู้ครับ
พี่ก๋าเคยมีลูกน้องเป็นแม่บ้าน
ผัวเธอซ้อมเช้าซ้อมเย็น
แต่ก็อยู่กันมานานมาก
จนน่าแปลกใจว่าทนกันได้ยังไง

คำอธิบายในภาพสุดท้าย
ถ้าเป็นทางพุทธ เขาจะบอกว่า "จิตว่าง"
คือ ว่างจากการคิด จากการปรุงแต่ง
รับรู้เฉยๆ แต่ไม่มีอาการจากการรับรู้

ท่านกฤษณมูรติก็พยายามอธิบาย
ในความหมายเดียวกันนี่ล่ะครับเพียงแต่เรียกต่างกัน
ท่านเรียก "ความคิด" แต่ทางพุทธเรียก "จิต"
ท่านเรียก "ผู้คิด" แต่ทางพุทธเรียก "ตัวตน"

"ตัวตน" เกิดจาก "จิต" ครับ
ท่านจึงบอกว่า "ผู้คิด" และ "ความคิด" เป็นหนึ่งเดียวกัน

การที่ความคิดจะดับลงได้
ไม่ใช่ด้วยการไม่คิด
แต่ด้วยการรู้ทันความคิด
ว่ามันมาแล้วก็ไป
ความคิดคือสิ่งที่ไม่คงทนถาวรตลอดไป
ถ้าเรารับรู้เช่นนี้ได้ เวลาเกิดความคิดขึ้น
เราจะรู้ทันความจริงของความไม่เที่ยงทน

ความโลภ ความโกรธ ความหลงที่เกิดขึ้น
จะอยู่กับตัวเราไม่นานเพราะเรามีสติ เรารู้ทันมันครับ


 

โดย: กะว่าก๋า 27 มกราคม 2564 15:13:12 น.  

 

สำหรับผมบางครั้งความเงียบก็เป็นสิ่งที่ดีที่สุดครับ
ตอนนี้แฟนลิเวอร์พูลต้องเงียบอย่างเดียวละครับ แมนซิฯ แซงขึ้นอันดับหนึ่งแล้ว

 

โดย: The Kop Civil 27 มกราคม 2564 15:30:33 น.  

 

ความกลัวนี่ทำลายทุกสิ่งจริงๆ ครับ ยากที่จะก้าวผ่านมัน

บางครั้งเราก็กลัวที่จะรู้ความจริง เพราะมันทำให้เราเจ็บปวด

 

โดย: คุณต่อ (toor36 ) 27 มกราคม 2564 15:45:33 น.  

 

สวัสดียามเย็นค่ะคุณก๋า
เดินถ่ายรูปดอกไม้ กับมานั่งลุ้นแข่งแบดฯ
รายการสุดท้าย...ในไทยต่อ กันอีกคร้า

"พลังแห่งจิตเงียบ" ที่จริงเราชอบมากๆ
เวลาอยู่กับความเงียบ ใจมันนิ่งดี สงบกว่า
ที่มีสิ่งรบกวนอื่นๆ ให้ความคิดวอกแว๊กง่าย
บางทีก็เกิดพลังความคิดดีๆแว๊บเข้ามา ในช่วงเงียบๆ
แต่ถ้าให้อยู่คนเดียวนานๆ เงียบๆไม่ชอบคร้าาาา...

 

โดย: Tui Laksi 27 มกราคม 2564 16:41:48 น.  

 

ขอบคุณสำหรับคำอธิบายค่ะ

 

โดย: comicclubs 27 มกราคม 2564 16:43:23 น.  

 

พระตำหนักเจ้าแม่กวนอิม ยังไม่หมดนะคะนี่แค่ส่วนเดียวเพราะยังมีด้านบนอีกค่ะที่เปิดเฉพาะเสาร์-อาทิตย์ เสียดายไปวันธรรมดา แล้วก็ยังมีอีกฝั่งที่เป็นศาลเจ้าเก่าด้วยค่ะ

 

โดย: zungzaa 27 มกราคม 2564 17:35:06 น.  

 

ไม่ค่อยจะได้อ่านหนังสือแบบนี้เลยค่ะ
ได้มาอ่านบนบล็อกพี่ก๋านี่แหละ

 

โดย: พระจันทร์สีม่วงง่วงๆ สม่ำเสมอ 27 มกราคม 2564 17:54:17 น.  

 

อ่านหนังสือลึกมาก แม่ซองฯผ่านค่ะ หนังสือแบบนี้ต้องธรรมะง่ายๆ

 

โดย: ซองขาวเบอร์ 9 27 มกราคม 2564 19:26:44 น.  

 

ตอนนี้อะไรก็เงียบไปหมดเลยค่ะ
แต่จิตใจคงไม่สงบกันนะคะ

 

โดย: ALDI 27 มกราคม 2564 20:29:36 น.  

 

ด้วยความยินดีครับน้องแตง

 

โดย: กะว่าก๋า 27 มกราคม 2564 20:40:32 น.  

 

สวัสดี จ้ะ น้องก๋า

"พลังแห่งจิตเงียบ" ชอบการตั้งชื่อเล่ม 3 นี้ จัง เล่มนี้
มีเรื่องที่กล่างถึงสองเรื่องใหญ่ ๆคือ เรื่องความกลัวและจิตที่เงียบ
เรื่องความกลัว ครูเชื่อว่า ทุกคนจะต้องมีความกลัวอยุ่ในใจ
เรื่องใดเรื่องหนึ่งหรือหลายเรื่อง ตัวความกลัวย่อมทำให้จิตสงบ
ไม่ได้แน่นอน ดังนั้น จิตจะสงบได้ ต้องกำจัดความกลัวให้ได้เสีย
ก่อน ขจัดด้วยเหตุด้วยผล เมื่อความกลัวหายไป จิตจะสามารถกลับมานิ่งและสงบได้ เมื่อจิตนิ่ง สงบ จะมีพลังตามมาให้เกิดการพิจารณาเรื่องราวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ให้เป็นไปตามความเป็น
จริง (สัจจะ) อย่างไรก็ตาม การจะเกิดพลังจิตเช่นนี้ก็ไม่ใช่
เรื่องง่าย ๆ ต้องอาศัยการฝึกฝนให้จิตนิ่ง (สงบ) จึงจะมีพลัง
เกิดขึ้นได้ เนาะ อิอิ (เขียนไปตามความคิดของครูนะ ถูกผิด
อย่างไร ไม่ทราบนะ ห้าห้า )

โหวดหมวด รีวิวหนังสือ

 

โดย: อาจารย์สุวิมล 27 มกราคม 2564 21:15:00 น.  

 

ขอบคุณค่ะคุณก๋า ฝึกหัดลองไปเรื่อยๆค่ะ
ทำแบบสนุกๆเพลินๆนะคะ
เราไม่รู้ว่าสวยรึป่ะ แค่ทำได้ดีมีคำชมก็ปลี้มเลยคร้า

ปล. ความเงียบเหมาะกับผู้ที่รักการเขียน การอ่าน
มีต้องใช้สมาธิพอสมควร อย่างคุณก๋าเลย
เราก็ชอบเวลาอยู่ในบ้าน...แต่หากไปเที่ยวพักที่อื่นๆ
เงียบๆอยู่คนเดียว ม๊ะอ้าวววว...ดีกว่า
เงียบไปกลัวจิตจะหลอนค่ะ...แต่ไม่เคยอยู่คนเดียวสักที

 

โดย: Tui Laksi 27 มกราคม 2564 22:03:35 น.  

 

สวัสดีครับคุณก๋า

ขอบคุณสำหรับกำลังใจที่บล็อกครับ

อ.อาดาจิ เขียนหลายเรื่องมาก และเกี่ยวกับเบสบอลก็เยอะ เช่น เรื่องทัช แต่เป็นเรื่องที่อ่านสนุกเรื่องหนึ่งเลยนะครับ ซึ้งกินใจด้วย ถ้าผมเข้าใจกติกาคงมันกว่านี้อีก

ส่วนเล่มที่รีวิว ตอนบันไดกาลเวลา ผูกเรื่องได้ดีครับ จบแบบแนวไซไฟดีด้วย

 

โดย: มาช้ายังดีกว่าไม่มา 27 มกราคม 2564 22:30:11 น.  

 

กลัวเงียบเลยจิตหลอน จิตไม่สงบ
มุ่งหาความสงบเงียบ ได้จิตหลอน จิตบ้ามาแทน
ไม่ง่ายเลยสำหรับทุกคน


 

โดย: สองแผ่นดิน 27 มกราคม 2564 23:59:08 น.  

 

การซ่อนหลบทางความรู้สึกชั่วคราว
ไม่ว่าจะหาสิ่งใดมาเยียวยาก็ได้เพียงชั่วครู่ไม่จีรัง
หากความเข้าใจและยอมรับความจริงยังไม่เกิดขึ้นนะคะ

ขอบคุณคุณก๋ามากค่ะ
ฝันดีนะคะ

 

โดย: Sweet_pills 28 มกราคม 2564 0:00:29 น.  

 


สวัสดีค่ะน้องก๋า

 

โดย: newyorknurse 28 มกราคม 2564 0:24:55 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


กะว่าก๋า
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 392 คน [?]




มองฉันอีกครั้ง
เธออาจเห็นฉัน
หรืออาจไม่เห็นฉัน

ฉันแค่แวะผ่านทางมา
และอาจไม่หวนกลับมาทางนี้อีกแล้ว

เราเคยรู้จักกัน
และมันจะเป็นเช่นนั้นตลอดไป

มองดูฉันอีกครั้ง
เธออาจเห็นฉัน
และฉันอาจมองไม่เห็นเธอ.





[Add กะว่าก๋า's blog to your web]