Group Blog All Blog
|
ปฐมธรรมมัธยม : Career Exploration Project ชีวิตใหม่ของการก้าวเป็นเด็กระดับชั้นมัธยม ในรูปแบบของบ้านเรียนยังคงดำเนินต่อไปสำหรับลูกสาวคนโตค่ะ ความยากของการศึกษาแบบนี้อยู่ที่ตัวเด็กต้องใส่ใจ ต้องรับผิดชอบ รู้หน้าที่ของตัวเอง ในระดับประถมศึกษาแม้จะได้รับการส่งเสริมและสร้างให้เด็กเป็นไปในแนวทางนี้แล้ว แต่หากไม่ได้รับการสนับสนุนจากทางบ้านก็คงยากจะที่จะปรบมือให้ดังได้ด้วยมือข้างเดียว โรงเรียนเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างและสอนเด็กให้เติบโต แต่บ้านก็เป็นอีกส่วนที่ต้องผลักดันและปูพื้นฐานที่ดีมาด้วยค่ะ ถ้าจะคาดหวังที่จะโยนลูกไปที่โรงเรียนแล้วทุกสิ่งจะจบเหมือนเวลาเราไม่สบาย ก็คาดหวังจะหายด้วยการกินยาเม็ดเดียวแล้วจบปิ๊ง .... ไม่ง่ายแบบนั้นหรอกค่าา การเรียน ม.1 ของลูกคนโต ไม่ใช่เรื่องง่ายแต่ก็ไม่ยากเท่าไหร่ค่ะ ต้องขอบคุณทีมแม่และครูที่ช่วยกันสร้างแผนการศึกษาที่มีแนวทางเหมาะสมกับเด็กทุกคน สรรหาวิชาและความรู้ที่ควรจะเรียนมาเรียนกันค่ะ เราเรียนแบบบ้านเรียนก็จริงอยู่ค่ะ แต่ก็ยังคงล้อตามหลักสูตรแกนหลางของกระทรวงศึกษาธิการ ไม่ได้หลุดโลกออกไปแบบไม่ใส่ใจสังคมเลย เพราะยังไงเสีย ลูกเรายังเป็นส่วนหนึ่งของสังคม เพียงแต่ในตอนนี้เราขอเลือกวิธีการสอนและวิธีการเรียนที่บ้านเราคิดว่า ใช่ ... ให้กับลูกก่อนค่ะ สิ่งที่น่าสนใจของเทอมต้น ในปีการศึกษานี้ เห็นจะเป็นวิชาโครงการหรือ Project ที่ครั้งนี้เราเลือกให้เด็กทำ Career Exploration Project คืออะไร? ทำอะไร? และคาดว่าจะได้ผลอะไร? Career Exploration Project เป็นโครงงานของเด็ก ม.1 ที่ให้เริ่มทำก่อนเปิดเทอม เป็นโครงงานที่ทำให้เด็กเริ่มค้นหาตัวเองอย่างแท้จริงว่า ชอบอาชีพอะไร ให้ค้นหาข้อมูลของอาชีพที่ตัวเองสนใจให้ได้มากที่สุด หาผู้ที่ประกอบอาชีพนั้น พูดคุยสัมภาษณ์ด้วยตัวเอง รวมถึงฝึกงานในอาชีพนั้น อธิบายง่ายๆ ได้ว่า เด็กจะเข้าใจอาชีพที่ตัวเองใฝ่ฝัน และไม่ใช่แค่ฝันไปอย่างเดียวอีกต่อไป เด็กควรจะหยิบจับความฝันนั้นได้และตอบตัวเองได้ว่า อาชีพที่ว่าเนี่ยยย หยิบออกจากฝันแล้วเอามาเป็นจริงได้แค่ไหน แม่เชื่อว่า เมื่อจบโครงงานนี้ ลูกน่าจะพอมองออกว่า อาชีพที่ใฝ่ฝันกับอาชีพที่เป็นจริงในอนาคตจะเป็นอันเดียวกันหรือเปล่า เพราะหนูไม่ใช่เรียนรู้แค่อาชีพ แต่หนูต้องหาข้อมูลตั้งแต่เริ่มต้นเกี่ยวกับเส้นทางของอาชีพนี้ให้ได้มากที่สุด - ถ้าจะทำอาชีพนี้ต้องมีความสนใจด้านใด - เรียนสายไหน - เรียนคณะอะไร หรือเรียนเฉพาะทาง - ใช้เงินในการเรียนเท่าไหร่ - ใช้เวลากี่ปี - เรียนจบมาแล้วความรู้เพียงพอหรือไม่ ต้องเรียนต่อหรือเปล่า - ต้องมีการสอบใบประกอบวิชาชีพหรือไม่ ถ้าไม่สอบเกิดอะไรขึ้น - เงินเดือนแรกเริ่มหรือค่าจ้างเป็นอย่างไร - อัตราการเติบโตของอาชีพนี้เป็นอย่างไร - ลักษณะงาน หน้าที่ คุณสมบัติของอาชีพนั้นเป็นอย่างไร ฯลฯ แม้ว่าจะมีหลายอาชีพที่ต้นทางเรียนจบมาคนละสายงานก็เถอะ แต่การที่ให้ลูกได้เริ่มศึกษาอนาคตตัวเองตั้งแต่วันนี้ กว่าจะเดินทางไปถึงปลายทางที่ต้องเลือกอาชีพ โอกาสที่ลูกจะเดินหลงทางจะเกิดขึ้นน้อยลง ไม่สะเปะสะปะ ระหว่างนี้ทีมพ่อและแม่จะช่วยหาผู้ที่ประกอบอาชีพต่างๆ มาพูดคุยกับเด็ก ม.1 และ ม.2 เพิ่มเติม เพื่อให้เด็กทุกคนมองภาพของการประกอบอาชีพให้หลากหลายมากยิ่งขึ้น โครงงานนี้เป็นโครงงานที่เราเห็นว่า สำคัญและนำไปปรับใช้ได้จริงสำหรับลูก เพราะมันคือการสร้างอนาคตให้ลูกที่ชัดเจน การที่ลูกได้มองเห็นตัวตนของตัวเองและก้าวเดินต่อไปได้ถูกทิศทาง ยิ่งเร็วยิ่งดีค่ะ จะได้ไม่เดินซ้ำรอยพ่อแม่ที่กว่าจะรู้ว่าเราเดินหลงทางก็ย้อนกลับไปได้ยากยิ่ง หากจะเดินหลงทางก็จะหาทางกลับมาสู่เส้นทางที่ถูกต้องได้เร็วขึ้น หรือสุดท้ายลูกอาจจะไม่ได้ทำงานที่ลูกชอบแต่ลูกก็ควรจะตอบตัวเองได้ค่ะว่า ทำไม ไม่ใช่งงและไหลไปตามกระแสที่พ่อแม่อยากให้เป็น ลูกคือ ลูกค่ะ เค้ามีตัวตน มีความคิดและความรู้สึกของลูกเอง ลูกมีสิทธิที่จะเลือก ... แต่ควรเป็นไปตามพื้นฐานและกรอบที่ถูกต้องเหมาะสม แต่ลูกไม่ใช่ของของเราที่เป็นพ่อแม่ค่ะ ที่จะกำหนดชะตาชีวิตของลูกให้เดินไปตามเส้นทางหรือกรอบที่เราขีดเส้นไว้ บ้านเราจึงขอฟันธง ฉับ!! เราชอบโครงงานอันนี้มาก และจะเป็นแรงสนับสนุนให้ลูกค้นหา และค้นเจออาชีพของลูกในที่สุด.... พ่อของลูก ลงเองค่ะรอบนี้ จัดการช่วยลูกแปลความหมายและอธิบายให้เคลียร์ในแต่ละหัวข้อ เพื่อให้ลูกตัดสินใจเลือกได้ตามความถูกต้องมากที่สุด ตัว Survey อันนี้เป็นเพียงเครื่องมือหนึ่งค่ะที่จะทำให้เด็กค้นพบสาขาอาชีพจากตัวตนของเค้าเอง แต่ผลลัพธ์จากแบบสำรวจนี้ก็ไม่ใช่คำตอบทุกสิ่งในอนาคตของลูกนะคะ แต่เป็นตัวช่วยเพื่อให้เด็กไม่ฟุ้งมากเกินไปแค่นั้นค่ะ ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ค่อนข้างใกล้เคียงกับสิ่งที่ลูกคิดไว้ รอดูต่อไปค่ะว่าเด็กจะเลือกอะไร เลือกแล้วจะเป็นอย่างไรต่อไป ถ้าไม่บอก ก็ไม่เชื่อเลยว่าแม่เกศมีลูกแล้ว
แถมลูกเรียนมัธยม!!! กรีดร้องงงง การเรียนแบบนี้ บุ๊งไม่เคยคิดว่าจะทำได้ในสังคมไทย แต่ครอบครัวคุณเกศก็พิสูจน์ให้เห็นแล้ว คือปกติจะเห็นแต่เมืองนอกที่ได้รับความนิยมและได้รับการตอบรับจากหลายครอบครัว แต่เมืองไทย ค่อนข้างวัตถุนิยม ทำให้การเรียนแบบนี้ไม่แพร่หลาย บุ๊งนับถือจริง ๆ ค่ะ โดย: Close To Heaven วันที่: 1 พฤษภาคม 2560 เวลา:1:09:45 น.
ระบบเรียนแบบนี้ไม่ง่ายและก็ไม่ยากจนเกินไป
แต่สำหรับเมืองไทยไม่รู้จะได้ผลแค่ไหนนะคะ ต้องอยู่กับการเอาใส่ใจมากๆ จากที่อ่านก็ดูเป็นระเบียบระบบดีค่ะ โดย: ข้ามขอบฟ้า วันที่: 1 พฤษภาคม 2560 เวลา:5:34:34 น.
สวัสดียามเช้าครับคุณเกศ อ่านบล็อกนี้ของคุณเกศ ผมนึกถึงหนังสือเล่มนึงทีเ่พิ่งอ่านจบไป คือ โต๊ะโตะจัง เด็กหญิงข้างหน้าต่าง การศึกษาในปัจจุบัน เหมือนยิ่งเรียน ยิ่งสร้างปัญหาให้กับผู้เรียนนะครับ ทั้งๆที่การศึกษาที่แท้จริง ควรเป็นการศึกษาอย่างมีความสุข และทำให้ผู้เรียนค้นพบตนเอง โดย: กะว่าก๋า วันที่: 1 พฤษภาคม 2560 เวลา:6:25:56 น.
ระบบและวิชาการเรียนของไทยเดี๋ยวนี้ทันสมัยขึ้นเยอะเลยนะคะ
คิดว่าน่าจะดีสำหรับตัวเด็กค่ะ Dondaran Parenting Blog ดู Blog เข้าไปแอทที่เฟสแล้วค่ะ ไว้สะดวกแล้วจะสอบถามเรื่องกิ่งพันธุนะคะ ขอบคุณคุณเกศมากค่ะ โดย: mambymam วันที่: 1 พฤษภาคม 2560 เวลา:8:01:37 น.
Career Exploration Project เข้าท่านะคะ
การค้นหาตัวเองว่าชอบอาชีพอะไร รวมถึงฝึกงานในอาชีพนั้น ๆ เริ่มต้นเร็วก็น่าจะดี ความชอบของเด็กก็คงจะเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ กว่าจะค้นพบตัวเองจริง ๆ โดย: ฟ้าใสวันใหม่ วันที่: 1 พฤษภาคม 2560 เวลา:10:04:22 น.
อยากให้เมืองไทยมีการศึกษาแบบนี้ครับ แต่คงยาก
เพราะการศึกษาเราเดินทางผิดแล้ว ก็ยังใช้มาถึงปัจจุบัน โดย: สองแผ่นดิน วันที่: 2 พฤษภาคม 2560 เวลา:8:01:22 น.
หูยยยยย ชอบตัวโปรเจคจังค่ะ
ถ้าสมัยเรามีก็จะดีมากเลยนะคะนี่ บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้ ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต mambymam Music Blog ดู Blog Raizin Heart Food Blog ดู Blog กะว่าก๋า Dharma Blog ดู Blog ปรัซซี่ Review Food Blog ดู Blog Dondaran Parenting Blog ดู Blog ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 2 พฤษภาคม 2560 เวลา:9:27:51 น.
มันน่าจะมีแบบนี้ เยอะๆ เน้อ ทำงานอยู่ทุกวันนี้ ไม่ได้ใช้เลย ไอ้ที่เรียนม
โดย: nonnoiGiwGiw วันที่: 2 พฤษภาคม 2560 เวลา:16:29:48 น.
เป็นคุณแม่ที่มีความรับผิดชอบดีมากเลยครับ บ้านเองก็ต้องช่วยโรงเรียนสอนลูกด้วย ไม่งั้นไปเจอสิ่งแวดล้อมแย่ๆข้างนอกเข้าละเสร็จเลย
เด็กรีบค้นหาความชอบของตัวเองให้เร็วไว้ก็ดีนะครับ ผมว่าการศึกษาไทยบังคับให้เด็กเรียนเหมือนกัน เด็กเก่งก็แห่ไปเรียนสายวิทย์กันหมดโดยยังไม่รู้ว่าตัวเองจะไปทำอะไรเลย สุดท้ายใช้เวลาหลายปีเรียนวิชาที่ตัวเองไม่ได้ใช้ แต่ไม่รู้ว่าแบบสำรวจ career ของฝรั่งเอามาใช้บ้านเราต้องปรับขนาดไหนนะครับ โดย: ชีริว วันที่: 2 พฤษภาคม 2560 เวลา:22:43:25 น.
เป็นโครงงานที่ดีมีประโยชน์มากๆค่ะ
มาบ้านนี้ทีไรทึ่งกับคุณแม่มากๆค่า ทันสมัยและหัวก้าวหน้าสุดๆ โดย: บาบิบูเบะ...แปลงกายเป็นบูริน วันที่: 3 พฤษภาคม 2560 เวลา:15:38:19 น.
โหวตค่ะ เรียนที่บ้านแบบนี้ดีนะคะ ไม่ต้องไปผจญกับรถติด ตอนนี้เกดก็พยายามขอนายทำงานที่บ้านอยู่เพราะงานเกดติดต่อกับเมืองนอกอย่างเดียวไม่ต้องทำงานกับทีมที่เมืองไทย แต่เหมือนนายจะไม่ให้ยังไงไม่รู้
เหมือนวัฒนธรรมคนไทยคือต้องออกไปเรียนต้องออกไปทำงานนอกบ้านอ่ะค่ะ ทั้งๆที่บริษัทแม่ที่ต่างประเทศเค้าก็ทำงานที่บ้านกันได้ เกดเคยคิดว่าระบบความคิดคนไทยคงอีกนานกว่าจะยอมรับเรื่องการเรียน/ทำงานที่บ้านได้ แต่เห็นคุณเกศเริ่มทำไปก่อนแล้ว ชอบค่ะ โดย: Raizin Heart วันที่: 5 พฤษภาคม 2560 เวลา:9:55:01 น.
อ่านในแสงกลางคืนไม่ค่อยได้เรื่อง
ไว้หาเวลามาอ่านใหม่กลางวันนะคะ ขอบคุณที่แวะไปเยี่ยมและโหวตให้ค่ะ พักนี้พี่ตามเยี่ยมเพื่อนๆไม่ค่อยทัน บางทีก็ได้หน้าลืมหลัง โดย: ภาวิดา (คนบ้านป่า ) วันที่: 11 พฤษภาคม 2560 เวลา:20:02:26 น.
รีบกลับมาแต่วัน จะได้อ่านได้มากขึ้น
ดีมากเลยนะคะ ที่ในระหว่างการเรียนแต่ละวิชาไป เด็กๆได้เรียนรู้ใจตัวเองด้วยว่า สนใจอะไรเป็นพิเศษบ้าง บางคนอาจสนใจหลายอย่าง แต่ในเส้นทางต่อๆไป เค้าคงสรุปได้ว่า อะไรต้องใจเค้าและสามารถทำได้จริง ในที่สุด ไม่ใช่อย่างที่ถูกยัดเยียดไปหมดทุกอย่าง เหมือนที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ เด็กๆดูเหมือนว่าจะถูกลุ้น ให้แข่งขันอย่างเอาเป็นเอาตายกับทุกอย่าง น่าจะยกเว้น จริยธรรมด้วย ตอนนี้ก็น่าจะมีบางโรงเรียนเอาเทคนิค home school เข้ามาแทรกในการเรียนการสอนบ้าง แต่คงอีกนานกว่า บ้านเราจะมาถึงจุดร่วมนี้ได้ พ่อแม่ยังต้องห่วงมากว่า ลูกจะเรียนไม่ได้เด่นกว่าคนอื่นเพราะการจะได้เรียนดีใน ระดับสูงๆขึ้นไปต้องแข่งขันกันจนตีนขวิด สงสารเด็กสมัยนี้ พี่ไม่เคยให้ลูกต้องไปกวดวิชาหรือเรียนพิเศษ แต่ช่วย อธิบายสิ่งที่เค้ายังไม่เข้าใจที่บ้านหลังเลิกเรียนเกือบทุกวัน ลูกพี่เรียนสถาบันการศึกษาของรัฐทั้งสองคนและระดับ เกียรตินิยมด้วย พี่เชื่อเรื่อง home school ค่ะ ขอให้กำลังใจในสิ่งที่คุณกำลังพยายามทำเพื่ออนาคตและ ความสุขของลูกนะคะ Dondaran Parenting Blog ดู Blog โดย: ภาวิดา (คนบ้านป่า ) วันที่: 12 พฤษภาคม 2560 เวลา:9:09:28 น.
คุณได้ทำการแปะ ให้กับคุณ Dondaran เรียบร้อยแล้วนะคะ
โดย: Gorjai Writer วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2561 เวลา:20:38:23 น.
|
Dondaran
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 10 คน [?] | ||
มีประโยชน์จังค่ะ
ขอบคุณที่แวะทักทายกันนะคะ