|
ถนนสายนี้ ... ... มีตะพาบ หลักกิโลเมตรที่ 390 "รากเหง้าของความกลัว"
โจทย์ครั้งนี้ คุณ กะว่าก๋า เป็นคนกำหนด ไม่จำกัดรูปแบบงานเขียน
โจทย์คราวนี้หัวข้อคือ "รากเหง้าของความกลัว"
เนื้อเรื่องก่อนหน้าตอนนี้ - ถนนสายนี้ ... ... มีตะพาบ หลักกิโลเมตรที่ 388 "เครื่องดื่มแก้วโปรด" - ถนนสายนี้ ... ... มีตะพาบ หลักกิโลเมตรที่ 389 "ก่อนฟ้าจะสว่าง" - [Nendoroid Story] คำอธิฐานเล็กๆ ที่แสนเรียบง่าย
 "มุตสึกิจัง
ถ้าเธอฝืนรอต่อไปแบบนี้
ฉันกลัว
กลัวว่าเธอจะร้องไห้คนเดียวอีกครั้ง
"
รากเหง้าของความกลัวของแกมเบียร์ เบย์ ไม่ใช่เพราะเธอขี้กลัวอย่างที่ทุกคนคิด
แต่เป็นเพราะเธอกังวลจนหัวใจสั่นไหว ว่ามุตสึกิจะเจ็บปวดจากการรอคอยที่ไม่รู้จุดจบ
 "ตอนนี้สิ่งสำคัญคือมุตสึกิต้องพักผ่อนค่ะ รักษาสุขภาพให้ดี
ไม่จำเป็นต้องมารอที่ท่าเรือทุกวันก็ได้
"
แกมเบียร์ เบย์ : "มุตสึกิจัง ไม่ต้องเป็นห่วงท่านผู้การนะคะ! เอ่อ
คือว่า
ฉัน... ...ฉันได้เรียกนางฟ้ามาช่วยแล้วค่ะ! นางฟ้า
เอ่อ... เธอไปคุ้มครองท่านผู้การอยู่แน่นอน! ไม่มีปัญหาอะไรหรอกนะคะ!"
 "มุตสึกิหันกลับมองด้วยสายที่ซ่อนความเศร้า และความไม่แน่ใจไว้อย่างชัดเจน เธอมองแกมเบียร์ เบย์ที่กำลังพยายามปลอบอย่างสุดความสามารถ"
มุตสึกิ : "แบบนี้
มุตสึกิก็สบายใจขึ้นนะคะ เบย์จัง
ขอบคุณมากเลยค่ะ"
เธอฝืนส่งรอยยิ้มบางๆ แต่แววตาบอกชัดว่าเธอไม่ได้เชื่อเรื่อง "นางฟ้าคุ้มครอง" อย่างที่เบย์จังบอก
"ถึงจะยัง
เอ่อ
ไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่ แต่มุตสึกิก็ดีใจค่ะ ที่เบย์จังเป็นห่วงแบบนี้"
มุตสึกิกำมือแน่นเบาๆ เสียงเธอนุ่มและนิ่งกว่าปกติ
"แต่ว่า
มุตสึกิจะรออยู่ดีค่ะ ไม่ว่าจะเป็นยังไง
จะรอจนกว่าท่านผู้การจะกลับมา"
 "ลมอ่อนพัด เงาแสงไหว ก่อนที่เทพธิดาจะปรากฏขึ้น"
เบลดันดี้ : "ทั้งสองคนไม่ต้องกังวลนะคะ ฉันกำลังพยายามนำตัวท่านผู้การ (เจ้าของบล็อก) ของพวกคุณกลับมาอยู่ค่ะ
เพียงแต่ว่าสถานการณ์ตอนนี้ค่อนข้างลำบาก"
เธอส่งรอยยิ้มอ่อนโยน เหมือนโอบกอดหัวใจของทั้งคู่ไว้เบาๆ
"ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ แม้ว่าตอนนี้ฉันจะยังพาตัวเขากลับมาไม่สำเร็จ
แต่ฉันยังไม่ยอมแพ้แน่นอนค่ะ"
"ฉันจะลองอีกครั้งเสมอค่ะ จนกว่าจะสำเร็จ"
แสงอ่อนค่อยๆ พร่างพรู ก่อนร่างของเทพธิดาจะจางหายไปอย่างสงบ
 "มุตสึกิเงยหน้ามองขึ้นไปมองท้องฟ้า ราวกับกำลังมองหาปีกของนางฟ้าในหมู่เมฆ"
มุตสึกิ (เสียงเบา แต่เริ่มมีความหวังผสมอยู่) : "
ถ้าอย่างที่เบย์จังบอก
มีนางฟ้าคอยปกป้องท่านผู้การอยู่จริงๆ
"
เธอยิ้มจางๆ เหมือนเด็กที่ยอมปล่อยตัวให้เชื่อในปาฏิหาริย์อีกครั้ง "แบบนี้
มุตสึกิก็คลายความกังวลไปได้เยอะเลยค่ะ"
ลมหอบหนึ่งพัดผ่าน เสียงใบเรือเบาๆ คล้ายตอบรับความหวังเล็กๆ นั้น
มุตสึกิ: "ดีแล้วล่ะค่ะ
ตอนแรกมุตสึกินึกว่า
ท่านผู้การจะไม่สามารถกลับมาได้อีกแล้ว
"
คำว่า กลับมาไม่ได้ ถูกเอ่ยอย่างระมัดระวังราวกับกลัวความหมายของมัน แต่ไม่กล้าพูดคำว่า "เลิกเขียนบล็อก" ออกมาตรงๆ
เธอหลุดลมหายใจเบาๆ "แต่นางฟ้ายังพยายามอยู่
งั้นมุตสึกิก็จะเชื่อค่ะ"
แกมเบียร์ เบย์มองเพื่อนด้วยหัวใจที่อุ่นขึ้น ไม่ใช่แค่เพราะมุตสึกิยิ้มได้อีกครั้ง
แต่เพราะเธอเองก็เริ่มเชื่อในปาฏิหาริย์นั้นไปด้วยเหมือนกัน
END
คุยกันท้ายเรื่อง ถ้าเรารู้ว่าความกลัวที่เราเผชิญเกิดจากอะไร เราก็จะสามารถจัดการมันได้ ความกลัวมันน่ากลัวตรงที่เมื่อเราสัมผัสถึงมันได้เราจะไม่สามารถขยับไปข้างหน้าได้เลย เหมือนโดนตรึงไว้อยู่ตรงนั้น ซึ่งการไม่ทำอะไร ไม่ขยับนี่แหละที่มันจะเป็นปัญหา
ผมไม่ได้ห่างจากบล็อกไปไหนหรอก จริงๆ ก็ยังคงเข้ามาเรื่อยๆ บางวันเข้ามาแค่บุ๊คมาร์คบล็อกที่ยังไม่ได้อ่านแล้วออกเลย เรื่องที่ต้องทำมันเยอะ ผมไม่ชอบคนที่พูดว่าต้องจัดอันดับความสำคัญ ผมทำในส่วนนั้นแล้ว และมีแผนการดำเนินงานอย่างชัดเจนระดับ "นาที" ถ้ายังมีเวลาเหลือผมจะเอาไปจัดการเรื่องอื่นๆ เพิ่ม นี่ทำถึงขนาดนี้แล้ว แต่อะไรที่มันเยอะเกินกำลังคนทั่วไป มันก็คือเยอะเกินไปครับ ที่น่ากังวลคือ เรื่องไม่สำคัญเมื่อเราปล่อยมัน มันเติบโตขึ้นแล้วกลายเป็นเรื่องที่สำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ ได้ อันนี้ล่ะปัญหาใหญ่อีกปัญหา
นี่ครับ!! ถ้านับว่าอะไรไม่สำคัญในตอนนี้การเขียนบล็อกนี่แหละที่ความสำคัญน้อยสุด และผมต้องการลดเวลาในส่วนนี้ลงชั่วคราวเรื่อราวช่วงหลังเลยออกมาลักษณะนี้ ไม่งั้นผมไม่เขียนเรื่องราวประมาณว่าตัวเองหายสาบสูญเพื่อจะได้มีเวลาในการจัดการเรื่องต่างๆ มากขึ้นหรอก
มันคงไม่สนุกแน่ๆ ถ้าแผนการที่เราวางไว้พังต่อหน้าต่อตาจากเรื่องไม่คาดฝันที่กระแทกๆๆ เข้ามา แต่มันเกิดขึ้นแล้ว โดยปกติผมมักจะมีแผน 2 3 4 5 เสมอเพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาด หรือถ้ามันเกิด ก็จะได้มีวิธีรับมือที่มีประสิทธิภาพสูงสุด และสามารถควบคุมความเสียหายได้ แต่ถึงอย่างนั้นสิ่งที่ทำได้มากที่สุดในตอนนี้คือ ประคองสถานการณ์ไปเรื่อยๆ ก่อน แม้สิ่งที่ต้องทำมันจะไม่ได้ลดลง แต่เบื้องต้นขอให้มันไม่เพิ่มขึ้น แล้วที่เหลือค่อยหาวิธีรับมืออีกครั้ง
เอาเป็นว่าตอนนี้ผมกลับมาแล้ว แต่กลับมาแบบไม่เต็มร้อย ก็จะมาๆ หายๆ เหมือนเดิม ปีนี้มีแต่เรื่องวุ่นวายจริงๆ ให้ตายเถอะ ก็ขนาดงานเขียนถนนสายนี้มีตะพาบ ยังเลทได้ขนาดนี้ก็คิดดูละกันว่ามันหนักหนาแค่ไหน
ใครอยากร่วมตั้งโจทย์ให้ส่งหลังไมค์โจทย์มาได้ครับ ผมจะค่อยๆ ทยอยเอามาให้เพื่อนๆ เขียน แต่อย่าตั้งโจทย์แล้วชิ่งล่ะ
โจทย์ถนนสายนี้มีตะพาบครั้งต่อไป หลักกิโลเมตรที่ 391 "กระจกเงา" โจทย์โดยคุณ จันทราน็อคเทิร์น
คำอธิบายโจทย์ (แนวทางการเขียน) บอกเล่าเรื่องราวแบบใดก็ได้ จากกระจกเงาบานหนึ่งตรงหน้า หรือจะใช้มันสะท้อนสิ่งที่เป็นตัวตนของเราก็ได้ เขียนเล่าเรื่องราวเหล่านั้นให้เพื่อนๆ ได้อ่านกัน
เวลาส่งงาน 19 ธันวาาคม 2569 นี้แล้วเจอกัน~
| Create Date : 07 ธันวาคม 2568 |
|
15 comments |
| Last Update : 8 ธันวาคม 2568 6:14:32 น. |
| Counter : 161 Pageviews. |
|
 |
|
|
| ผู้โหวตบล็อกนี้... |
| คุณปัญญา Dh, คุณนายแว่นขยันเที่ยว, คุณกะว่าก๋า, คุณmariabamboo, คุณหอมกร, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณmultiple, คุณอาจารย์สุวิมล, คุณnonnoiGiwGiw, คุณThe Kop Civil, คุณปรศุราม, คุณสองแผ่นดิน, คุณnewyorknurse |
| | |
โดย: คุณต่อขอชี้แจง (toor36 ) 7 ธันวาคม 2568 20:54:36 น. |
|
|
|
| | |
โดย: คุณต่อขอชี้แจง (toor36 ) 7 ธันวาคม 2568 20:57:58 น. |
|
|
|
| | |
โดย: ปัญญา Dh 7 ธันวาคม 2568 21:46:01 น. |
|
|
|
| | |
โดย: หอมกร 8 ธันวาคม 2568 7:08:11 น. |
|
|
|
| | |
โดย: kae+aoe 8 ธันวาคม 2568 8:22:12 น. |
|
|
|
| | |
โดย: ปัญญา Dh 8 ธันวาคม 2568 22:10:25 น. |
|
|
|
| | |
โดย: คุณต่อ (toor36 ) 8 ธันวาคม 2568 22:49:18 น. |
|
|
|
|
|
1. เรื่องราวในเอนทรี่นี้ไม่มีความเกี่ยวข้องกับเนื้อเรื่องหลักของตัวละครนั้นๆ
2. บล็อกนี้อยู่ในหมวด Cartoon Blog ให้กำลังใจนักแสดงด้วยครับ