ถนนสายนี้ ... ... มีตะพาบ โครงการ 27 "สิ่งที่ได้มาด้วยวิธีการที่ผิด ย่อมไร้ซึ่งความหมาย"
โจทย์ครั้งนี้ คุณก๋า กะว่าก๋า เป็นคนกำหนด ไม่จำกัดรูปแบบงานเขียน โจทย์คราวนี้คือ "10 คำคมที่คุณจดจำจากหนังสือเล่มโปรด" ให้เลือกประโยค บทกวีหรือถ้อยคำที่ชอบจากหนังสือเล่มไหนก็ได้ที่คุณชอบ สัก 10 ประโยค (มากหรือน้อยกว่า 10 ประโยคก็ได้)
โดยจะเขียนความรู้สึกส่วนตัวหรือความคิดเห็นอะไรลงไปก็ได้
ความเดิมตอนที่แล้ว พวกอาซึนะ จัดงานปาร์ตี้ร้องเพลงกันที่โรงเรียนมาโฮระ ขณะที่อีกด้าน เจ้า หลินเฉิง (คนที่ยืนอยู่ตรงกลางภาพแรก) ได้วางแผนรอบสังหารใครบางคน ขณะเดียวกันก็ได้ให้พวกมิโซระ ไปขโมยอะไรบางอย่าง
จบแบบงงๆ ละกัน อยากลองจบแบบทิ้งปมแบบนี้นานแล้ว
END
คุยกันท้ายเรื่อง โจทย์คราวนี้เขียนในรูปแบบนิยายได้ง่าย เขียนในรูปแบบการ์ตูนได้ยาก แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังอยากเขียนในรูปแบบการ์ตูน จะสังเกตได้ว่าเนื้อเรื่องดูไม่สมจริง แน่นอนว่าการวางแผนลอบสังหาร ไม่ใช่ว่าบอกเลิกก็เลิกได้ง่ายๆ แต่นี่คือการ์ตูนพูดกันง่าย เลิกคือเลิก ไม่ยุ่งยากเหมือนโลกที่เราอยู่ ถ้าโลกที่เราอยู่พูดกันได้ง่ายๆ แบบนี้ก็คงดี
เพื่อให้สมกับเป็นตะพาบการ์ตูน คำคมจึงเอามาจากการ์ตูนทั้งหมด คำคมที่ใช้ในเนื้อเรื่องก็อยู่ใน 10 คำคมที่ยกมา
สิ่งที่ได้มาด้วยวิธีการที่ผิด ย่อมไร้ซึ่งความหมาย กล่าวโดย คุรุรุกิ สุซาคุ จากเรื่อง โค้ด กีอัส ภาคการโต้กลับของสุซาคุ
อันนี้คงไม่ต้องขยายความมาก ไม่ว่าอะไรก็ตามหากได้มาด้วยวิธีการที่ผิด มันก็ไม่มีความหมาย ทุกอย่างมีกฎหากใช้วิธีการนอกกฎในการแก้ปัญหา ผลที่ได้ก็คือ ความวุ่นวายไม่รู้จักจบจักสิ้น คำคมอันนี้ใช้ได้กับทุกวงการ ทุกอาชีพ และต่อให้ผ่านไปอีกกี่ร้อยกี่พันปี ผมว่าคำคมนี้ก็ยังทันสมัย
รอยด์ : ไม่ยุติธรรมแน่ๆ เลยนะการตัดสินครั้งนี้น่ะ ที่นั่นไม่มีใครอยู่ข้างเดียวกับเธอเลย จะสู้คดีได้เหรอ คุรุรุกิ สุซาคุ : ถ้าศาลเป็นที่ที่ทำให้ทุกคนประจักษ์ถึงความจริง รอยด์ : แต่ส่วนมากมันมักจะไม่เป็นที่ประจักษ์กันนี่สิ ไอ้ที่เรียกว่าความจริงเนี่ย คุรุรุกิ สุซาคุ : ถ้านั่นคือโลกแล้วล่ะก็ ผมก็ไม่อาลัยอาวรณ์หรอก กล่าวโดย (บทสนทนาระว่าง) รอยด์ กับ คุรุรุกิ สุซาคุ จากเรื่อง โค้ด กีอัส ภาคการโต้กลับของสุซาคุ
การ์ตูนเรื่องนี้มีคำคมเยอะ ยิ่งเป็นอนิเมยิ่งคำคมเยอะ จิกกัดสังคมไปทั่ว บทสนทนาดังกล่าว คุรุรุกิ สุซาคุ ถูกใส่ร้ายว่าเป็นคนสังหารองค์ชายโครวิส ซึ่งโทษที่จะได้รับก็คือประหารชีวิต โดยในเนื้อเรื่องสุซาคุ เป็นชาวญี่ปุ่นซึ่งถูกกดขี่ ศาลที่เป็นเหมือนที่พึ่งสุดท้าย แต่คนตัดสินคดีกลับเป็นคนที่อยู่ตรงข้ามกับเขาทั้งสิ้น มันสะท้อนให้เห็นถึงอะไรหลายๆ อย่างในโลก ถ้าโลกเราเป็นอย่างนั้นจริง มันก็ไม่มีอะไรให้อาลัยอาวรณ์อีกแล้ว
ในโลกนี้ไม่มีหรอกไอ้ธรรมะปะทะอธรรมอะไรนั่นน่ะ แต่ในความเป็นจริงโลกเป็นการต่อสู้ของฝ่ายธรรมะนับร้อยที่ไม่ลงรอยกัน และสุดท้ายผู้แข็งแกร่งที่สุดต่างหากที่จะได้รับชัยชนะ และเขียนประวัติศาสตร์ กล่าวโดย เจ้า หลินเฉิง จากเรื่อง เนกิมะ! คุณครูจอมเวท
นี่เป็นเรื่องจริงอย่างไม่ต้องสงสัย ตัวอย่างที่เห็นใกล้ตัว หากรัฐประหารสำเร็จเรียกปฏิวัติ หากไม่สำเร็จเรียกกบฏ ผู้ชนะเท่านั้นที่จะเขียนประวัติศาสตร์ให้คนรุ่นหลังได้ศึกษา ในขณะที่ผู้แพ้ต้องยอมก้มหัวและหุบปาก ในประวัติศาสตร์โลกเราก็เป็นอย่างนั้น ผู้ชนะเขียนประวัติศาสตร์ และผู้ชนะก็ดูเหมือนจะเป็นคนดีไปเสียทุกอย่าง
ในฐานะสไนเปอร์ หากไม่สามารถจัดการศัตรูได้ในนัดเดียวก็ถือว่าแพ้แล้ว กล่าวโดย ทัตซึมิยะ มานะ จากเรื่อง เนกิมะ! คุณครูจอมเวท
คำพูดนี้ฟังแล้วมันรู้สึกถึงความเป็นมืออาชีพ ถ้าต้องลงมือหลายนัดความเสี่ยงก็เพิ่มขึ้น (ในหลายๆ เรื่อง) ไม่นับเรื่องลูกหลงที่จะไปโดนคนอื่น ฯลฯ ฟังแล้วรู้สึกได้ว่าเป็นมืออาชีพ และมาตรฐานที่สูง
ความฉลาดก็คือการรู้จักตนเอง กล่าวโดย โฮโระ จากเรื่อง สาวหมาป่ากับหนุ่มเครื่องเทศ
คนเราถ้าไม่รู้ตัวเองว่าเป็นอย่างไรก็คือคนไม่ฉลาด ยิ่งถ้าหากทะนงตนว่าตนเองเหนือกว่าใครก็ยากที่จะเปิดรับความรู้ใหม่ๆ หรือก็คือปิดประตูรับความฉลาด นี่จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ความฉลาดลดลง เพราะคนอื่นฉลาดมากขึ้น
มนุษย์ไม่เคยช่วยเหลือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ แล้วทำไมสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต้องยื่นมือ ช่วยเหลือมนุษย์ด้วย กล่าวโดย สาวพิรุณ จากเรื่อง XXX โฮลิค
อันนี้ผมรู้สึกเศร้าๆ แต่ต้องยอมรับว่าเจ็บปวดจริงๆ กับคำพูดนี้ มนุษย์มีแต่ขอ แล้วท่านได้ช่วยเหลืออะไรสิ่งศักดิ์สิทธิ์บ้าง จงให้ผู้อื่นก่อนที่จะขอจากผู้อื่น
ความกล้าที่จะเผชิญหน้า คือความกล้าที่แท้จริง กล่าวโดย ยูโกะ จากเรื่อง XXX โฮลิค
ถึงจะได้ชื่อว่าเป็นคนกล้าเพียงใด แต่ถ้าไม่มีความกล้าที่จะเผชิญหน้าก็ไม่ถือว่าเป็นคนกล้า คำว่าเผชิญหน้าความหมายค่อนข้างกว้าง เผชิญหน้าความกลัว เผชิญหน้าผู้คน เผชิญหน้าความตาย เผชิญหน้าความผิดหวังสมหวัง ฯลฯ
ทฤษฎีเรื่องความถูกต้องบนโลกใบนี้ สุดท้ายมันก็แค่สิ่งที่คนมีอำนาจ สร้างขึ้นมาเพื่อปกป้องตนเองเท่านั้น ไม่มีใครที่จะมาคอยคิดถึงคนอื่นอยู่ตลอดเวลาได้หรอก แต่ไหนแต่ไรมามนุษย์ก็มีแค่ 2 ประเภทเท่านั้น ผู้กระทำ และผู้ถูกกระทำ กล่าวโดย ชิเอล จากเรื่อง คนลึกไขปริศนาลับ
... ... อันนี้ชอบเป็นการส่วนตัว ... ...
คำว่าเป็นไปไม่ได้ นั่นแหละที่เป็นไปได้ กล่าวโดย กรีด จากเรื่อง Fullmetal Alchemist
บางครั้งสิ่งที่เราคิดว่าเป็นทางตันนั่นล่ะเป็นหนทาง เราสามารถพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสได้ ไม่มีทางคือมีทาง ถ้าเป็นในภาพยนตร์กำลังภายใน บรู๊ซลี ก็มีคำพูดคล้ายๆ กันว่า "ถือเอาหมดหนทางเป็นมีหนทาง ถือเอาสิ่งไร้ขีดจำกัดเป็นมีขีดจำกัด"
You still have lots more to work on กล่าวโดย เรียวมะ เอจิเซน จากเรื่อง ปริ๊นซ์ ออฟ เทนนิส
... ... อันนี้ชอบเป็นการส่วนตัว ... ...
ถ้าโจทย์กำหนดว่าจากที่ไหนก็ได้ จะมีคมคำอันนี้ด้วย "คนเราเปลี่ยนแปลงกันได้" ซึ่งเป็นคำกล่าวของ ฌองวาลฌอง จากวรรมกรรมชื่อดังที่ถูกดัดแปลงเป็นการ์ตูน โลกอันน่าเวทนาของสาวน้อยโคเซ็ท ความจริงผมอยากเสนองานรูปแบบการ์ตูน เงื่อนไขเลยยิ่งบีบเข้าไปใหญ่ อาจมีคนมองว่าคำคมจากการ์ตูนไร้สาระ ไม่ได้เรื่อง สิ่งที่จะผลักดันในวงการนี้ของไทยเจริญก้าวหน้าได้หรือไม่ ก็อยู่ที่แนวคิดของผู้ใหญ่ในบ้านเมือง ถ้าหากว่ายังมองการ์ตูนเป็นแค่ของไร้สาระ หรือสำหรับเด็กล่ะก็ วงการนี้ก็ยากที่จะเจริญ
ตอนนี้กำลังหาทางเปิดตัวนักแสดงใหม่แต่ยังหาบทที่ลงตัวไม่ได้ ถ้าโจทย์ในครั้งต่อๆ ไป สามารถเปิดตัวได้ก็จะเปิดตัวทันที
Create Date : 04 มีนาคม 2554 |
Last Update : 1 สิงหาคม 2560 14:55:52 น. |
|
56 comments
|
Counter : 5462 Pageviews. |
|
|
|
1. งานเขียนถนนสายนี้มีตะพาบในครั้งนี้ หลายๆ คนคงจะมีคำคมที่ชอบเพิ่มมากขึ้น ขอยกความดีความชอบให้ผู้แปล และผู้เรียบเรียงคำพูดเหล่านี้ทั้งหมด รวมไปถึงผู้กำหนดโจทย์ครั้งนี้ที่ทำให้เราได้คำคมข้อคิดใหม่ๆ ในชีวิตมากขึ้น
2. บล็อกนี้อยู่ในหมวด "การ์ตูน" ชอบขอให้โหวตในหมวดการ์ตูน ไม่ค่อยชอบก็ขอให้โหวตในหมวดการ์ตูน