ถนนสายนี้ ... ... มีตะพาบ โครงการ 15
ครั้งแรกกับการร่วมโครงการนี้ หัวข้อแรกเลยที่ได้เขียนกำหนดโดยพี่ก๋า (กะว่าก๋า) กำหนดให้เขียนเรื่องผี
เพื่อความเข้าใจที่สมบูรณ์สูงสุด หากมีเวลาเข้าไปดูภาพ Blog เหล่านี้ก่อน บ้านแบบจีน แผนกนักศึกษาต่างชาติ
Chapter I
เวลาเที่ยงตรง เสียงดนตรีจีนเพลงปู้ปู้เกาดังขึ้นเป็นสัญญาณบอกให้รู้ว่าคาบเรียนที่กำลังเรียนจบลงแล้ว ทุกคนวุ่นกับการเก็บของใส่กระเป๋าของตน จากนั้นก็มุ่งหน้าไปที่โรงอาหารเพื่อรับประทานอาหารกลางวัน บางครั้งอาจารย์ก็ร่วมรับประทานอาหารกับนักศึกษาต่างชาติด้วย หลังจากทานอาหารกลางวันเสร็จ ก็จะแยกย้ายกัน บางคนกลับบ้าน บางคนไปห้องสมุด บางคนไปร่วมกิจกรรมของทางมหาวิทยาลัย บางคนไปซื้อของ... ...
เด็กหนุ่มคนหนึ่งเดินกลับเข้าไปที่แผนกนักศึกษาต่างชาติกับมาซาโกะ เพื่อนชาวญี่ปุ่นที่เรียนห้องเดียวกัน พวกเขาจะไปใช้อินเทอร์เนตที่ห้องคอมพิวเตอร์ ขณะที่เขากำลังจะเดินเข้าไปในตึก
"หลวง!!"
เสียงเรียกของคนไทยคนหนึ่ง ทำให้หลวงต้องหันไปมอง เขาคือเพื่อนที่หลวงรู้จัก ซึ่งนั่งกับเต๋อ และคนที่หลวงไม่รู้จัก เป็นผู้ชายหนึ่งคน ผู้หญิงหนึ่งคน หลวงตัดสินใจเดินไปหาเพื่อนคนไทยกลุ่มนั้น โดยบอกมาซาโกะให้ไปใช้อินเทอร์เนตโดยไม่ต้องรอตน
บางครั้งโชคชะตาก็เล่นตลก การที่คนจะมาพบกัน มันอาจเป็นพรหมลิขิตก็ได้
เพื่อนคนนั้นแนะนำ 2 คนไทยให้หลวงรู้จัก พี่โป๋ ชายร่างยักษ์ผิวคล้ำตัดผมสั้นเกรียน และพี่นม หญิงผมยาว รูปร่างเล็ก ยิ่งเมื่อ โป๋ และนมเดินด้วยกันเราจะเห็นความแตกต่างระหว่างร่างกายของทั้งสองอย่างเห็นได้ชัด
หลังจากแนะนำตัวเสร็จเรียบร้อย ทุกคนก็พูดคุยเรื่องทั่วๆ ไปทั้ง เรื่องเรียน เรื่องงาน เรื่องการใช้ชีวิต ความชอบส่วนตัว ว่ากันว่าคนที่มีพลังพิเศษสามารถติดต่อวิญญาณได้ หรือเล่าเรื่องผีเก่ง เพื่อนจะเยอะ ก็ไม่ทราบว่าคำกล่าวนี้เป็นจริงมากน้อยเพียงใด
ในการพูดคุยกันทำให้หลวงทราบว่า พี๋โป๋เป็นคนชอบเล่าเรื่องผีมาก และเป็นคนที่มีสัมผัสพิเศษเกี่ยวกับเรื่องวิญญาณ พี่นมก็เหมือนจะเป็นคนที่มีสัมผัสพิเศษเกี่ยวกับเรื่องวิญญาณเช่นกัน
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว เสียงดนตรีจีนเพลงปู้ปู้เกาดังขึ้นอีกครั้ง เป็นสัญญาณบอกให้ทราบว่า ตอนนี้เป็นเวลา 14.30 น. หลวงจึงขอตัวไปเข้ากิจกรรมการแสดงซึ่งหลวงเข้าร่วมกิจกรรมทุกสัปดาห์ ไม่เคยขาด และหัวข้อการแสดงวันนี้คือ "เรื่องผี"
Chapter II
17.30 น. กิจกรรมการแสดงสิ้นสุดลง ดูเหมือนจะเป็นเรื่องธรรมดาเสียเหลือเกินที่กิจกรรมการแสดงจะเลิกช้ากว่ากิจกรรมอื่นๆ อาจารย์ก็ดูเหมือนจะทุ่มเทมากกว่ากิจกรรมอื่นๆ เนื่องจากกิจกรรมการแสดงนี้ต้องส่งชุดการแสดงเข้าร่วมในงานเลี้ยงภาษาจีนถึงสองชุดการแสดง
หลังจากแยกย้ายกันหลวงบังเอิญเจอกับ โป๋ นม และเต๋อ ทั้งสี่คนคุยกันและตัดสินใจไปรับประทานอาหารร่วมกัน ถึงจะเร็วไปหน่อย แต่ก็ดีเหมือนกันเวลานี้ร้านอาหารคนไม่เยอะ หลังจากรับประทานอาหารเสร็จแล้ว ดูเหมือนพี่โป๋อยากไปดูบ้านที่หลวงอยู่อาศัยซึ่งอยู่ไม่ไกลจากแผนกนักศึกษาต่างชาติ พี่นมก็ดูเหมือนจะสนใจเช่นเดียวกัน หลวงจึงก็ไม่ปฏิเสธ
มันไม่ใช่เรื่องแปลกที่นักศึกษาต่างชาติชาวไทยจะไปชมบ้านที่เพื่อนอาศัยด้วยหลายๆ เหตุผล เป็นต้นว่าถ้าบ้านที่เพื่อนอาศัยถูกใจตน แล้วเทอมถัดไป เพื่อนคนนั้นกลับประเทศ ตนก็จะมีตัวเลือกในเรื่องที่อยู่อาศัย
ใช้เวลาเดินเข้าซอยด้านข้างจากแผนกนักศึกษาต่างชาติเพียง 5 นาทีเท่านั้นก็มาถึงตึกที่หลวงอาศัยอยู่ เป็นตึกสีส้มก่อด้วยอิฐ ด้านหน้ามีแผ่นป้ายพลาสติกพื้นสีน้ำเงินเขียนเลข 5 ด้วยสีขาว และมีซอยเป็นทางเข้าสามซอย ซอยของบ้านหลวงคือ ซอยสอง ภายนอกตึกนี้ค่อนข้างเก่า
Chapter III
ทุกคนเดินขึ้นบันไดมาจนถึงชั้นสาม เมื่อเปิดประตูเข้าไปในห้องของหลวง พบว่าภายในนั้นแตกต่างจากภายนอกอย่างเห็นได้ชัด สะอาด น่าอยู่กว่าที่เห็นภายนอกมาก จัดได้ว่าใหญ่พอสมควรสำหรับอยู่คนเดียว แต่เมื่อทั้งสี่คนเข้ามาในห้อง ห้องก็ดูเล็กไปถนัดตา
โป๋ กับ นมเดินสำรวจภายในบ้าน ในขณะที่เต๋อนั่งคุยกับหลวงที่โซฟา ไม่นานนักโป๋และนม มีท่าทีแปลกไป มือสั่น จากนั้นนมก็หันมาพูดกับหลวง
"ที่นี่มีคน" นมพูด "อ้าว... ...รู้ด้วยเหรอนม ใช่ หลวงที่นี่มีคน" โป๋เสริม พร้อมยิ้มที่มุมปาก "แล้วพี่กับผมไม่ใช่คนเหรอ?" หลวงถามกลับ "ไม่ใช่โว้ย... ...ที่นี่มีคนอื่น" โป๋พูดอีกครั้ง "ใช่ๆ พี่เห็นลางๆ มีคนจริงๆ" "หมายถึงผีเหรอ?" หลวงถามด้วยความสงสัย "เออดิวะ... ... เหมือนบ้านไอ้เต๋อเลย" โป๋พูดด้วยเสียงที่ดัง "จริงเหรอพี่ ผมไม่มีเซ้นส์เรื่องผีเรื่องวิญญาณเลย" "ที่นี่เป็นผู้ชาย เป็นคนแก่" "เหรอครับ" "บ้านนี้ก็มีเหรอผีเหรอพี่" เต๋อถาม
"ยมทูต ถือว่าเป็นผีได้รึเปล่า?" หลวงถาม "น่าจะได้นะ ทำไมเหรอ?" "เปล่าๆ ไม่มีไร" "พี่อะ เห็นผีมาเยอะ บ้านไหนมีไม่มีดูทีเดียวก็รู้" "พวกพี่เห็นผี แล้วเคยเจอยมทูตบ้างรึเปล่า" "พี่ไม่เคยเจอนะ มันจะไปมีได้ไงยมทูตเนี่ยะ ฮ่าๆๆๆ" "เหรอ แต่ผมเคยเจอ" "... ... ...!!" โป๋ และนม เริ่มหน้าซีด "ผมเคยเจอยมทูตสามครั้ง" "น่ากลัวมั้ยพี่ แล้วหน้าตาเป็นยังไง" เต๋อออกอาการสนใจอย่างเห็นได้ชัด "บอกไม่ถูกหว่ะ สามตนสามแบบเลย แถมพูดกับพี่ด้วย" "พูดอะไรบ้าง? แล้วหน้าตาเป็นไง" นมถาม
"ตนแรกเป็นยมทูตหญิง ตัวเล็ก ผมยาวสีขาว ใส่ขาวทั้งชุด แต่ดันใส่รองเท้าแดง ถือเคียวยักษ์ แต่แค่หันมามองผมนะ แล้วยิ้มให้ ไม่ได้พูดอะไร" "... ...!!"
"อีกตนเป็นยมทูตหญิง ตัวเล็ก ผมยาวสีดำ ตาสีแดง ดูน่ากลัวโคตรๆ แต่งชุดดำทั้งชุดคล้ายๆ ชุดกิโมโน ปักลายดอกไม้" "แล้ว... ..." โป๋ยังพูดไม่จบ "ถึงจะเป็นผู้หญิงตัวเล็ก ไม่มีอาวุธอะไร แต่ไม่รู้ทำไม ดูน่ากลัว เหมือนคนมีอำนาจมั้ง" "แล้วเค้าพูดอะไรรึเปล่า" "เค้าพูดว่า 'ที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของเธอ' " "หมายความว่าไง" "ผมจะไปรู้ได้ไงอะ พี่ก็ไปถามเธอเองดิ" "... ...!!"
ตอนนี้โป๋หน้าซีดและขนลุก อาการเหมือนคนเจอผีหลอก "แล้ว... ...แล้วยมทูตอีกตนล่ะ" นมถามด้วยเสียงที่แสดงออกถึงความหวาดกลัว "ตนสุดท้ายดูไม่ออกว่าเป็นผู้ชายผู้หญิง เหมือนโครงกระดูกยักษ์สีขาว สูงประมาณ 2 เมตรกว่าเห็นจะได้" "แล้ว... ... แล้วเค้าได้พูดอะไรบ้าง" โป๋ถามอีกครั้ง "เค้าพูดกับผมว่า 'สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่ามนุษย์นี่มัน ช่างน่าชังจริงๆ' "
โป๋และนมมีอากาศหน้าซีด ขนลุก ตื่นกลัวอย่างเห็นได้ชัด หลวงเห็นบรรยากาศไม่ค่อยดี จึงเปลี่ยนเรื่องคุย และเมื่อเวลาผ่านไปได้ไม่นานทุกคนจึงขอตัวกลับ เนื่องจากทุกคนก็มีการบ้านต้องทำ มีงานต้องสะสาง หลวงจึงไปส่งทุกคน โดยไปส่งโป๋กับนมก่อนที่หอพักนักศึกษาต่างชาติ ก่อนจะไปส่งเต๋อที่ประตูทิศตะวันออกของมหาวิทยาลัยยูนนาน
"ไม่นึกว่าบ้านพี่หลวงจะมีเหมือนกัน" เต๋อพูดขึ้นมา "หมายถึงคนแก่เหรอ" "อือ" "พระที่พี่พกมามั้ง ก่อนมาที่นี่ พี่เชิญพระมาคุ้มครองพี่" "จริงเหรอพี่ เหมือนบ้านผมเลย บ้านผมพ่อก็เชิญพระมาคุ้มครอง แต่พี่โป๋เค้าก็มีเซ้นส์เรื่องผีเรื่องวิญญาณสุดยอดไปเลยนะพี่ ตอนที่เค้ามาบ้านผมแล้วทักที่บ้านผม ผมตกใจแทบแย่ พอผมเล่าให้พ่อฟัง ผมถึงได้รู้ว่าพ่อเชิญพระมาคุ้มครอง" "ไม่รู้ดิ พี่ไม่เชื่อพวกนี้หว่ะ เคยเจอด้วยมั้ง" "ไม่เจอจะดีกว่ามั้งพี่" "ฮ่าๆๆ โอเค ถึงแล้ว ไปละโชคดี" "โชคดีพี่" "เออ แล้วเจอกัน"
หลังจากส่งเต๋อแล้ว หลวงก็เดินกลับบ้านของตน
กริ๊ง~ กริ๊ง~
เสียงเหมือนกระพรวนเลย แต่เดี๋ยวก่อน...!! ไม่มีลมพัดนี่ ช่างมันเถอะ เรามันไม่มีเซ้นส์เรื่องนี้อยู่แล้ว หลวงคิดในใจ
END
ปัจฉิมลิขิต เรื่องที่นำมาเขียนเป็นเรื่องจริงเมื่อสมัยยังเรียนอยู่ที่คุนหมิง มีเพียงเวลา ชื่อตัวละครเท่านั้นที่แต่งขึ้นมา ผู้เขียนไม่ทราบว่าคนที่มีเซ้นส์เรื่องผีเรื่องวิญญาณรู้สึกอย่างไรเวลาเจอผีเจอวิญญาณ เนื่องจากผู้เขียนไม่มีเซ้นส์เรื่องพวกนี้ จึงอาจถ่ายทอดออกมาได้ไม่ดีนัก และผู้เขียนไม่เคยเชื่อเรื่องพวกนี้เลย ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะไม่มีประสบการณ์ด้วยตนเองก็ได้
ถ้าใครอ่านแล้วคุ้นๆ กับลักษณะของยมทูต รวมไปถึงคำพูดของยมทูตก็ไม่ต้องแปลกใจ เพราะยมทูตทั้งสามตนมีที่กล่าวมาตัวตน และคาดว่าหลายคนน่าจะเคยพบเคยเห็นยมทูตดังกล่าวมาบ้างแล้ว บางคนอาจเดาออกตั้งแต่ครั้งแรกที่อ่านไปถึงยมทูตพูดว่าอะไร แล้วอาจจะคิดถึงข้อความที่ว่า "ยมทูตกินแต่แอ๊ปเปิ้ลเท่านั้น" ก็เป็นไปได้
ยมทูตตนแรก รหัส A100100 (โมโมะ) มาจากนิยายแนวไลท์โนเวลที่แต่งโดย ฮาเซงาวะ เคสุเกะ ต่อมาได้ถูกดัดแปลงเป็นหนังสือการ์ตูน ละครโทรทัศน์ นวนิยาย ในชื่อเรื่อง ยมทูตสีขาว เรื่องนี้ค่อนข้างดังจัดเป็นหนึ่งซี่รี่ย์ที่ผมชอบมากที่สุด
ยมทูตตนที่สอง เอ็นมะ ไอ มาจากการ์ตูนเรื่อง สัญญามรณะ ธิดาอเวจี แต่งโดย ฮิโรชิ วาตานาเบะ ต่อมาได้ถูกดัดแปลงเป็นหนังสือการ์ตูน ละครโทรทัศน์ นวนิยาย เช่นเดียวกัน
ยมทูตตนสุดท้าย เรม มาจากภาพยนตร์ และการ์ตูนชื่อดังเดธโน้ตนั้นเอง
ผมไม่ทราบว่าพี่ทั้งสองคนในเรื่อง มีเซ้นส์เรื่องผีเรื่องวิญญาณจริงหรือไม่ เพราะไปที่ไหนก็พูดแต่ว่า "บ้านนี้มีคน" สร้างความหวาดกลัวให้หลายๆ คนที่รู้จัก แต่ก็ไม่แน่ ประเทศจีนคนเยอะ จะมีสิ่งที่ไม่ใช่คนในบ้านเราก็อาจไม่ใช่เรื่องแปลก เค้าอาจจะมีเซ้นส์เรื่องนี้จริงๆ ก็ได้
Create Date : 08 กันยายน 2553 |
Last Update : 31 กรกฎาคม 2560 16:56:13 น. |
|
39 comments
|
Counter : 1980 Pageviews. |
|
|
|