วิธีทำให้ จิตเข้าสมาธิ ด้วยการเคลื่อนไหว คือใช้มือยกขึ้นลง
ตั้งฉาก อย่างเป็นจังหวะ ผมเคยฝึกทำที่วัดพระรามเก้า กทม.
น่าจะใช่นะครับ นั่นเกือบสิบปีแล้วมังครับ

จิตจะอยู่ที่มือ เป็นวิธีของหลวงพ่อเทียน...

ระยะไม่กี่วันที่เข้าร่วมปฏิบัติ ผมยังไม่ค่อยรู้อะไร เคยเขียนว่า
แอบหรี่ตา หุ หุ...มองคนอื่น (เท่ากับจิตยังไม่เข้าสมาธิ)
แถมหลับตาเดิน เพราะความไม่รู้..

แต่รู้ว่า จิตอยู่ที่มือ ยัง งง..อยู่ ภายหลังก็อีกหลายปีทราบ
ว่า การเข้าสมาธิ ไม่ใช่ดำมืดว่างเปล่า.. เข้าสมาธิมีหลาย
ชั้น..

...

ต่อมาเรียนสมาธิโดยตรง จึงรู้ว่า การเดินจงกรมสงบนิ่งมอง
ไปไม่เกิน สองเมตร บริกรรมพุทโธ ติด ๆ กันจิตจะนิ่ง..นั่น
คือ การเข้าสมาธิเบื้องต้นแล้ว..

การเดินจงกรมน่าจะเป็น การทำสมาธิแบบเคลื่อนไหวชนิดหนึ่ง

การทำสมาธิแบบเคลื่อนไหว ที่นำหลักของหลวงพ่อเทียนเป็น
การจุดประกายให้ผม สนใจเรียนสมาธิเลยครับคุณก๋า

....

เช้านี้ที่ แถวบ้านหัวหิน ถนนสายหัวหินไป วัดห้วยมงคลหนาว
เย็น ผมไปปั่นจักรยานใส่แจ๊กเก็ต ต้องรูดซิบปิดคอ ถุงมือ
แม้จะใส่ก็ ยังเย็นปวดกระดูก คงเป็นเพราะหนาว รถจักรยาน
วิ่งผ่าไปด้วย

สุขสวัสดีครับ คุณก๋า
หนังสือดีมากๆครับ
ทุกการกระทำคือการปฏิบัติธรรม
การพิจารณาลมหายใจเข้าออกทุกการกระทำ ทำให้ไม่ติดยึดในรูปแบบการทำสมาธิ การสะกดจิตตัวเอง
รู้แล้วทิ้งเลย ยังทำไม่ได้ครับ เช่น ความรู้ในการปฏิบัติงาน
แต่ถ้ารู้ทางธรรมเบื้องต้นบางอย่างน่าจะทิ้งได้เลย มุ่งสู่เส้นทางธรรมที่สูงกว่าเดิม
คนไม่รู้หนังสือ คนตาบอดที่ไม่เห็นตัวหนังสือ ก็สามารถหลุดพ้นได้

เมื่อคืนทำบล็อกไม่สำเร็จครับ
ปกติลงรูปจะขึ้นโค้ด

แต่ขึ้นโค้ดแบบนี้เลย และรูปไม่ขึ้น

เช้านี้ 22 องศาครับ

55 ไม่ขึ้นโค้ด แต่ขึ้น รูปแทน ฝากลบคอมเม้นแรกด้วยครับ คุณก๋า

สุขสวัสดีครับ คุณก๋า
หนังสือดีมากๆครับ
ทุกการกระทำคือการปฏิบัติธรรม
การพิจารณาลมหายใจเข้าออกทุกการกระทำ ทำให้ไม่ติดยึดในรูปแบบการทำสมาธิ การสะกดจิตตัวเอง
รู้แล้วทิ้งเลย ยังทำไม่ได้ครับ เช่น ความรู้ในการปฏิบัติงาน
แต่ถ้ารู้ทางธรรมเบื้องต้นบางอย่างน่าจะทิ้งได้เลย มุ่งสู่เส้นทางธรรมที่สูงกว่าเดิม
คนไม่รู้หนังสือ คนตาบอดที่ไม่เห็นตัวหนังสือ ก็สามารถหลุดพ้นได้

อย่าเที่ยวถามเรื่องเรากับคนอื่น เป็นเยี่ยงนั้น

เพราะคนอื่นมิใช่เรา จริงแท้ทั้งป่วงจ้า



วันนี้เราจะกินข้าวกับอะไรดีจ๊ะคุณก๋า

ที่ยกมาวันนี้ชอบหลายอันเลยค่ะ

ตอนแรกที่ได้รู้จักคำสอนแบบหลวงพ่อเทียน หลักปฏิบัตินั่น แบบแอนตี้มาก คือ อะไร ไม่เห็นเคยรู้ว่ามีวิธีนี้ สร้างวิถีปฏิบัติมาเพื่อสร้างความโดดเด่นหรือเปล่า พระพุทธเจ้าสอนเหรอ วิธีนี้

จนพอศึกษามากขึ้น พระอาจารย์ท่านหนึ่งก็ได้ให้ความกระจ่างว่า มันคือการฝึกด้วยการพิจารณาอิริยาบถย่อย ถึงได้เก็ทค่ะ 555

คุณก๋าใส่ชื่อหนังสือผิดอ้ะในคำคมที่ยกมา จากรู้จัก เป็นรู้สึกหมดเลย

บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
กะว่าก๋า Book Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

ดีจังเลยนะคะ ได้ข้อคิดเลย

กะว่าก๋า Book Blog ดู Blog
หมวดหนังสือก็ต้องโหวตหมวดหนังสือนะคุณก๋า

รู้แล้วว่า ไม่รู้ดีกว่า 555 อ่านไปก็งงไป

ทำเป็นไม่รู้ หรือแสร้งว่าไม่รู้ ก็มีข้อดีข้อเสียแล้วแต่เหตุการณ์เหมือนกัน อิอิ

ได้รับข้อคิดไปเต็ม ๆ เลยครับ

เรื่องของเรา เรารู้ดีกว่าคนอื่น
และคนเราก็มีจิตสำนึกรู้ผิดชอบชั่วดีกันทุกคนแหละ
อยู่ที่จะละอายหรือไม่หรือจะตะแบงไปเท่านั้นเอง
พี่จึงคิดมาเสมอเลยว่า เราทำอะไรไม่ต้องให้มี
คนชมหรือด่าหรอก พี่เห็นใครทำไม่ดีก็ขี้เกียจติ
เหนื่อยเปล่า ถ้าเค้าไม่สำนึกได้เอง แต่ถ้าเป็นลูกศิษย์
ก็อีกอย่างเพราะเป็นหน้าที่ แต่ก็ยังไม่หวังผลมาก

พี่เริ่มนอนไม่หลับตอนที่ต้องกำจัดโรงงานผลิดเด็ก
ทิ้งไปเพราะเริ่มมีสภาพไม่สู้ดี เลยขาดฮอร์โทน
แล้วกินทดแทนไม่ได้ แพ้ เลยต้องกินยานอนหลับ
อ่อนๆมาถึง30+ปี แล้วก็พี่เองอีกแหละที่เกิดคิด
ขึ้นมาว่า อะไรฟระ เป็นทาสยาที่งัยก็เรียกว่าเสพติด
เลยไปคุยกับหมอ หมอก็เริ่มให้ยาเพื่อให้หยุดกิน
ตัวเดิม และตัวใหม่นี้ไม่เสพติด คือสมัยก่อนไม่มีตัวนี้
แต่หมอก็สั่งว่าให้กินเพื่อค่อยๆลดตัวเดิม แต่วันนั้น
พี่กลับมาก็หักดิบตัวเองเลย เนอะ พี่ว่า การหยุด
เสพติดเนี่ย มันอยู่ที่ใจเราแหละ คุณพ่อคุณแม่และ
คนข้างๆพี่ก็เลิกสูบบุหรี่ได้เองง่ายๆ คือ หยุดสูบ
ก็เท่านั้น แต่ทั้งสามคนก็ว่า หยุดแรกๆ เวลาได้กลิ่น
บุหรี่ ต้องทำใจมากเลย อ่ะนะ ใจ/จิต เท่านั้นที่
ครองชีวิตมนุษย์ ที่เรียกกันว่าสัตว์ประเสริฐ ถ้าสอง
อย่างนี่ไม่ทำงาน ความประเสริฐก็ลดลง

ไปละค่ะ วันนี้ยังไม่ได้เวลาต๊อง คือมันมาเป็นพักๆ

สวัสดีมีสุขค่ะ

ไม่ค่อยได้ไปปฏิบัติธรรมเอง
แต่จะไปเมื่อมีอันจะต้องไปตามราชการสั่ง
ก็ไม่ค่อยได้อะไรหรอก
เพราะไปมีอคติกับสำนักที่มาเป็นวิทยากร
แค่นๆทำไปทั้งที่ใจไม่เห็นพ้อง

ก็เลยว่าง ไม่ค่อยมีดวงตาเห็นธรรมสักเท่าไหร่
ไม่ค่อยรู้จักกับเกจิอาจารย์
ไม่เป็นลูกศิษย์พระอาจารย์องค์ใดเลย
นอกจาก"หลวงเตี่ย" เพราะได้เรียนพุทธศาสนากับท่านทุกสับดาห์ ตอนเป็นนักเรียนค่ะ

สวัสดีอีกรอบค่ะคุณก๋า

หือออ จะแก้ยังไงคะ ต้องทำรูปทั้งหมดใหม่เลยสิคะนั่น เง่อออออ


บ้านคุณก๋ากินอาหารรสจัดได้เหรอคะ? ร้านนี้รสจัดและเผ็ดนะคะ บอกเลย กินเผ็ดไม่เก่งไม่น่ารอดง่ะ

โหวตเสร็จแล้วเพิ่งนึกได้ว่า น่าจะโหวตหนังสือ
มัวแต่สนใจเนื้อหาไปโหวตธรรมะ ซะ ขออภัยค่ะ

สวัสดีครับคุณเย็น

ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตครับ
บล็อกผมเป็นบล็อกแกงโฮ๊ะครับ
สะดวกหรืออยากโหวตหมวดใด
ก็ตามสบายเลยครับ

วันนี้พี่ชอบหลายกรอบเลยค่ะ ดีงามทั้งนั้น

"รู้จักใจตัวเอง แล้วความรู้จะมาเอง"

"เมื่อใดที่เราเรียกร้องต้องการจากชีวิตน้อยลง
เมื่อนั้นเราจะรักคนอื่น
เข้าใจคนอื่นได้มากขึ้น"

สาธุ

"มืดแล้วจึงสว่าง"

สวัสดียามเย็นๆๆ ค่ะคุณก๋า..

สวัสดียามค่ำครับพี่ก๋า
เห็นด้วยเลยครับ
ถ้ารู้จักใจตัวเองแล้วความรู้จะมาเอง
โหวตครับ

สวัสดี จ้ะ น้องก๋า

หนังสือเรื่อง ปรีชาญาณของผู้ไม่รูหนังสือ ซึ่งเป็นคำสอน
ของหลวงพ่อเทียน อ่านตัวอย่างคำสอนที่เธอยกมาแล้ว ก็ทึ่งมาก
นะแสดงว่า ท่านต้องเป็นผู้ที่ฟังธรรมะได้เป็นอย่างดี ศึกษาด้วยการ
ฟังมามาก เป็นพหูสูต อย่างพระอานนท์ที่จำคำสอนธรรมะของ
พระพุทธเจ้าได้ทั้งหมด น่าปลื้มใจที่ศาสนาพุทธมีพระเกจิอาจารย์
เก่งมาก ๆ
โหวดหมวด รีวิวหนังสือ

พี่เข้าใจว่า นกแก๊กเหมือนนกเงือก
ต่างกันที่ขนาดค่ะ นกแก๊กตัวเล็กกว่า
นกเงือกมาก นี่ว่าตามพี่ปูบอก พี่เคยเห็น
นกเงือกเพียงครั้งเดียว จำขนาดไม่ได้แล้ว

สวัสดีเจ้าคุณก๋า
ตะวาปิดฮ้านขับรถปิ๊กบ้านฟังซีดีหลวงพ่อปราโมทย์
แล้วนึกถึงเรื่องที่ถามกับคุณก๋า แล้วกะคิดไว้ว่า

ไปอยากรู้ไปคิดในเรื่องที่รู้ไปบะมีประโยชน์ เสียเวลา
คือ รู้ว่าปีชงและการแก้ชง บะใช่แนวทางของพุทธศาสนา
เรียนรู้ทุกข์ ตามอริยสัจ 4 ตามแนววิถีพุทธ พอแล้ว
ส่วนที่มาที่ไปของการแก้ชงปีชง จะมาจากไหนจะใด
อ่านเจอหรือข้อมูลที่เจอจะผิดหรือถูกช่างมัน เสียเวลาที่จะค้นหา

ขอบคุณสำหรับคำตอบและเตือนสติเจ้า

ส่วนเนื้อหาที่บล็อกวันนี้ คล้ายกับที่ฟังซีดีมากเจ้า
คำสอนที่มาจากพระไตรปิฎก บะว่าจะแตกแนวไปจะใด
แกนยังคงเป็นอันเดียว ปลายทางที่เดียวกันเสมอ

ตะเจ๊าฟังถึงตอนหลวงพ่อเล่าเรื่องหลวงปู่เทสก์ เทสรังสี
หลวงพ่อปราโมทย์เปิ้นเคยไปเรียนกับหลวงปู่เทสก์
แล้วเล่าหื้อฟังว่า หลวงปู่เทสก์เก่งเรื่องสมาธิมาก
ท่านแตกฉานในเรื่องของสมาธิแล้วติดอยู่ตรงนั้น 13 ปี
ต้องไปหื้อหลวงปู่มั่นแก้ไขหื้อ ตอนนั้นหลวงปู่มั่นมาอยู่เจียงใหม่
หลวงปู่มั่นเปิ้นหื้อหลวงปู่เทสก์ทำวิปัสนากรรมฐาน ดูกายจนแตกฉาน
แล้วกลับมาสอนลูกศิษย์ลูกหามากมาย
ปี้จำมาเล่าหื้อคุณก๋าได้เต้าอี้ จำผิด ๆ ถูก ๆ ผ่องเน้อ 555
ฟังตอนขับรถเช่นเคย

ปี้เกยไปหันกุฎิที่หลวงปู่มั่นเปิ้นมาปฎิบัติธรรมตอนธุดงค์มาเจียงใหม่ ที่ อ.พร้าว
ไกลมากเจ้า ทางไปลำบาก ขนาดสมัยนี้หนา
ไปดูที่มาเมื่อปีที่แล้ว เพื่อนชวนไปซื้อที่ป่าเมี้ยง ที่ ต.โหล่งขอด
นึกบะออกเลยว่าสมัยที่หลวงปู่มั่นเปิ้นมาปฏิบัติจะธุรกันดารขนาดไหน

จะกลับไปกู้กรุงศรีฯค่ะ(เพราะกู้กรุงเทพไม่ผ่าน..อิอิ)
กลับบ้านเดือนละครั้งค่ะ^^ นึกถึงกลอนบทนี้เลยนำมาอัพบล๊อกค่ะ...

จริงแท้แน่นอน
ที่บอกว่า...

เราเป็นทุกข์ เพราะติดอยู่กับปัจจุบัน


จนแกะไม่หลุด

รู้แล้วผ่านเลย อ่านแล้วผ่านเลย ไม่อ่าน 555 ไม่ใช่แล้ว

สิ่งที่ไม่ได้สร้างก็จะไม่ถูกทำลาย อันนี้จริงเลยครับ แม้แต่ความดีก็เช่นกันสร้างความดีขึ้นมาก็ยังถูกคนเอาไปตีความให้เสียได้ถ้าเขาคิดจะทำลายเรา

ทุกคนคือพระ พระอยู่ในใจเรา

มืด สว่าง กลางวัน กลางคืน ดี เลว ทุกสิ่งมีสิ่งที่ตรงข้าม

บางอันอ่านแล้วก็เข้าใจยากเหมือนกันนะ

รู้โดยไม่ต้องรู้อะไร ลึกซึ้งค่ะคุณก๋า
หลวงพ่อเทียนท่านไม่รู้หนังสือแต่คำสอนของท่านไม่รู้สึกว่าเป็นอย่างนั้น
ได้ประโยชน์มากค่ะ

ราตรีสวัสดิ์นะคะคุณก๋า