Group Blog
 
All blogs
 

ไม่เที่ยง

“สิ่งไหนที่ไม่เที่ยง อย่าไปอาศัยมัน”     

 
สิ่งใดมีการเกิดขึ้น สิ่งนั้นย่อมมีการเสื่อมเป็นธรรมดา มีการดับไปเป็นธรรมดา นี่คือสิ่งที่เราจะต้องมาสอนใจให้เห็นว่า สิ่งต่างๆที่เราไปอาศัยให้ความสุขกับเรานี้ มันไม่ได้ให้ความสุขเพียงอย่างเดียว ไม่ช้าก็เร็วมันก็จะกลายเป็นความทุกข์ขึ้นมา ถ้าเราไม่อยากจะมีความทุกข์ ก็เราอย่าไปอาศัยสิ่งต่างๆเหล่านี้ สิ่งไหนที่ไม่เที่ยง อย่าไปอาศัยมัน อาศัยสิ่งที่เที่ยงดีกว่า 
 
สิ่งที่เที่ยงก็มีสิ่งเดียวเท่านั้นแหละ ก็คือใจของเรานี่แหละ เป็นใจที่เที่ยง ที่จะอยู่กับเราเป็นของเรา ที่จะให้ความสุขกับเราไปตลอด นอกนั้นแล้วไม่มีอะไรที่จะอยู่กับเราไปตลอด ให้ความสุขกับเราไปตลอด มันให้ความสุขเราเป็นพักๆ ไป แล้วมันก็จะหมดไป พอหมดไป มันก็ทำให้เราเศร้าโศกเสียใจ
 
นี่คือเครื่องมือที่เรียกว่ามรรค แล้วเราก็จะมาเห็นว่าตัวที่ทำให้เราทุกข์ใจ ก็เพราะความอยากของเรานี่เอง อยากให้รูปเสียงกลิ่นรสนี้มันมีอยู่ตลอดเวลา ให้ความสุขกับเราตลอดเวลา แต่มันก็ไม่สามารถให้ความสุขกับเราได้ตลอดเวลา เดี๋ยวไม่ช้าก็เร็ว มันก็หายไป เปลี่ยนไป หมดไป
 
การเป็นอะไรต่างๆก็เหมือนกัน มีตำแหน่งอะไร เดี๋ยวมันก็ต้องหมดไป ถ้ารับราชการพอเกษียณอายุ ตำแหน่งต่างๆที่ได้ก็หมดไป ทำงานกับบริษัทมีตำแหน่งอะไรก็เหมือนกัน เดี๋ยวพอลาออกจากบริษัท ตำแหน่งนั้นก็หมดไป ไม่มีอะไรที่ถาวร ไม่มีอะไรที่เที่ยงแท้แน่นอน แม้แต่ตำแหน่งที่ถาวรมันก็จบที่ความตายอยู่ดี มีตำแหน่งบางตำแหน่งที่ไม่มีวันหมดวาระ เป็นไปได้เป็นไปตลอด แต่พอถึงเวลาร่างกายตายไป มันก็หมดไปได้เหมือนกัน
 
เพราะฉะนั้นเราต้องมองให้เห็นความจริงอันนี้ให้ได้ ว่าสิ่งต่างๆที่เราไปอยากได้ ไปอยากมี ไปอยากเป็น หรือไปอยากไม่มีอยากไม่เป็นนี้ เป็นสิ่งที่เราไปควบคุมบังคับมันไม่ได้ ไปสั่งให้มันดีไม่ได้ ไปสั่งให้มันเป็นของเราไปตลอดไม่ได้ ถ้าเราไม่อยากจะทุกข์ ก็อย่าไปอยากให้มันเป็นตามความอยากของเรา ปล่อยให้มันเป็นไปตามความเป็นจริงของมัน.
 
ธรรมะหน้ากุฏิ 
วันที่ ๑๔ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๔
 
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
วัดญาณสังวรารามฯ จังหวัดชลบุรี




 

Create Date : 20 ธันวาคม 2568    
Last Update : 20 ธันวาคม 2568 13:04:01 น.
Counter : 27 Pageviews.  
(โหวต blog นี้) 

เตรียมตัวตาย

" สภาวะของ จิต ตอนจะตาย "

 
เวลาที่เราจะ ตาย จริงๆนะ ใจมันจะอยู่ต่างหาก
ร่างกายก็เจ็บไปเรื่อยๆ ใจไม่เกี่ยวกัน
เสร็จแล้วพอถึงจุดหนึ่ง มันจะตัดความรับรู้ทางกายไป
 
เหลือแต่ ใจ อันเดียวแล้วทีนี้
 
เพราะฉะนั้น เราฝึกจิต ฝึกใจ ของเราให้ชำนิชำนาญ
เกิดปุ๊บปั๊บจะ ตาย ใจมันจะถอดถอน มันทิ้งกายนะ
 
ไม่ต้อง กลัว ว่าจะเจ็บจน ขาดสติ
ไม่ต้องกลัวขนาดนั้น
 
..เวลา เจ็บสุดขีด แล้วมันจะทิ้ง ไม่มี กาย จะเจ็บแล้ว..
 
ตัดความ รับรู้ หดตัวเข้ามา เหลือแต่ จิต
     ถ้าเราฝึกชำนิชำนาญใช้ได้
 
ถ้าฝึก ไม่ชำนิชำนาญ มันไม่ย้อนเข้ามาที่ จิต
 
มันจะ กระจาย ออกไปข้างนอก ไปเห็น นิมิต ต่างๆขึ้นมา
     นิมิต ที่เป็น อดีต บ้าง เป็น อนาคต บ้าง
 
เป็น อดีต เช่นเคยทำ กรรม เอาไว้ไปเห็นเข้า
เป็น อนาคต เช่นเห็นที่จะไป เกิด
 
                เพราะฉะนั้น เราฝึกไป.
 
... ในที่สุด จิต กับ กาย มันจะไม่ เกี่ยวกัน...
 
นอบน้อมกราบพ่อแม่ครูอาจารย์(ชั้นเลิศ)ด้วยเศียรเกล้า
#โอวาทธรรมคำสอนพระอริยะเจ้า
#หลวงปู่ปราโมทย์ปาโมชโช
ที่มา : ๙,๙๙๙แก่นธรรมคำสอนหนทางสู่ผู้ตื่นรู้
#ช่องธรรมะMdaMda




 

Create Date : 19 ธันวาคม 2568    
Last Update : 19 ธันวาคม 2568 14:11:01 น.
Counter : 64 Pageviews.  
(โหวต blog นี้) 

วิธีไหนก็ได้

"การเริ่มต้นปฏิบัติวิปัสสนาภาวนานั้น จะเริ่มต้นโดยวิธีไหนก็ได้ เพราะผลมันเป็นอันเดียวกันอยู่แล้ว ที่ท่านสอนแนวปฏิบัติไว้หลายแนวนั้น เพราะจริตของคนไม่เหมือนกัน จึงต้องมีวัตถุ สี แสง และคำบริกรรมเช่น พุทโธ อรหัง เป็นต้น เพื่อหาจุดใดจุดหนึ่งให้จิตรวมอยู่ก่อน

 
สงบแล้วทำบริกรรมนั้นก็หลุดหายไปเอง แล้วก็ถึงรอยเดียวกัน รสเดียวกันคือ มีวิมุติเป็นแก่น มีปัญญาเป็นยิ่ง"
 
...... หลวงปู่ดูลย์ อตุโล




 

Create Date : 19 ธันวาคม 2568    
Last Update : 19 ธันวาคม 2568 5:59:25 น.
Counter : 57 Pageviews.  
(โหวต blog นี้) 

ที่พึ่ง

"...ที่พึ่งคือ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ นี้ ไม่ได้

เป็นที่พึ่งทางกาย แต่เป็น #ที่พึ่งทางใจ อย่าไปคิดว่า
เมื่อเราถือพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นสรณะ
แล้ว เราจะแคล้วคลาดปลอดภัยจากภัยต่างๆ ทาง
ร่างกาย อันนี้ไม่ใช่เป็นหน้าที่ของพระรัตนตรัย
พระรัตนตรัยไม่สามารถคุ้มครองร่างกายของเรา
ไม่ให้แก่ ไม่ให้เจ็บ ไม่ให้ตายได้ ไม่สามารถคุ้ม
ครองทรัพย์สมบัติข้าวของเงินทอง ลาภยศ
สรรเสริญสุข ที่เราได้ต่างๆ ผ่านทางตาหูจมูกลิ้น
กายนี้ไม่ให้เสื่อมไม่ให้สิ้นได้ เพราะสิ่งเหล่านี้เป็น
เรื่องของธรรมชาติที่มาการเจริญและเสื่อมเป็น
ธรรมดา ไม่ใช่หน้าที่ของพระพุทธ พระธรรม
พระสงฆ์ ที่จะมาทำให้ร่างกาย และลาภยศ
สรรเสริญสุขนี้ไม่เสื่อม เป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้
 
ฉะนั้นเราต้องเข้าใจว่าการที่เราเข้าถึงพระพุทธ
พระธรรม พระสงฆ์ ถือพระพุทธ พระธรรม 
พระสงฆ์ เป็นสรณะนี้ หมายถึงว่าเราต้องการ
ความรู้จากท่าน ความรู้จากพระพุทธ พระธรรม
พระสงฆ์ เพื่อเราจะได้นำเอาไปปฏิบัติ เพื่อดับ
ความทุกข์ต่างๆ ที่มีอยู่ในใจของพวกเรา
ใจนี้หลุดพ้นจากความทุกข์ได้อย่างแน่นอน
ไม่ต้องกลับมาเกิดแก่เจ็บตายอีกต่อไป 
ถ้าได้มีพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ 
เป็นสรณะ เป็นที่พึ่ง เป็นผู้สั่งผู้สอน..."
 
#ที่มา หนังสือ ธรรมะหน้ากุฏิ เล่ม ๙
พระจุลนายก ( ท่านพระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต )
........................................................................




 

Create Date : 17 ธันวาคม 2568    
Last Update : 17 ธันวาคม 2568 22:01:08 น.
Counter : 70 Pageviews.  
(โหวต blog นี้) 

ไม่มี

หลวงพ่อฤาษีลิงดำ
จงคิดว่าเราเป็นผู้ไม่มีอะไรเลย
เพราะทุกอย่างมีสภาพพังทั้งหมด




 

Create Date : 17 ธันวาคม 2568    
Last Update : 17 ธันวาคม 2568 10:01:38 น.
Counter : 68 Pageviews.  
(โหวต blog นี้) 

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  

BlogGang Popular Award#21


 
นาฬิกาสีชมพู
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 12 คน [?]




Friends' blogs
[Add นาฬิกาสีชมพู's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.