:: กะก๋าแนะนำหนังสือ : เกินกว่าเจ็บปวด ::
:: เกินกว่าเจ็บปวด ::
เขียน : Donna Jackson Nakazawa แปล : นายแพทย์เอกชัย อัศวนฤนาท
หนังสือกึ่งวิชาการที่บอกเล่าแบบแผนชีวิตของผู้คนจำนวนมากมายมหาศาล ที่ต้องทนทุกข์อยู่กับความเจ็บปวดทางกาย โดยไม่เคยล่วงรู้มาก่อนเลยว่า “บาดแผลทางใจในวัยเด็ก” มีส่วนเกี่ยวข้องอย่างยิ่งกับระบบภูมิคุ้มกันโรคภัยที่ล้มเหลวในตอนโตของตัวเอง
บาดแผลทางใจในวัยเด็ก ก่อให้เกิดความเจ็บป่วยและโรคร้ายเรื้อรังอย่างไม่คาดคิด โรคภัยซึ่งแฝงอยู่ในร่างกาย รอการกระตุ้นด้วยความรุนแรงทั้งทางคำพูด ทางการกระทำ และทางใจ จนส่งผลต่อสมอง การเติบโต ความคิด และทัศนคติของคน ๆ หนึ่งอย่างรุนแรง
บาดแผลในวัยเด็กเหมือนรอยเท้าที่ประทับลงไปในปูนซีเมนต์เปียก ๆ มันเป็นรอยประทับ และยากที่จะลบออกไปจากความทรงจำ หากเด็กคนหนึ่งต้องอยู่ในสภาพแวดล้อมและบรรยากาศที่ไม่เหมาะสม เช่น อยู่ในบ้านที่พ่อแม่ทะเลาะกันตลอดเวลา พ่อแม่ที่ชอบด่าลูก การหย่าร้าง การถูกล่วงละเมิดทางเพศ การถูกทำให้ต้องอับอาย ความตายที่เกิดขึ้นกับคนรอบตัวเด็ก พ่อแม่ที่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด การถูกทอดทิ้งเพิกเฉย การถูกเพื่อนรังแก ฯลฯ
ทั้งหมดกลายเป็นต้นทุนของโรคร้ายที่ก่อกำเนิดขึ้นในกายโดยไม่รู้ตัว และแปรสภาพเป็นโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง โรคภูมิแพ้ ความดันสูง หัวใจ โรคซึมเศร้า โรคภูมิต้านตนเอง โรคเครียดและวิตกกังวล ฯลฯ
“ความเครียด” ที่ก่อตัวขึ้นในการรับรู้ของเด็กในวัยเยาว์ ส่งผลอย่างรุนแรงและฝังลึก ส่งผลต่อระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ต่อความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล ต่อการดำรงชีวิต
ความเชื่อด้านลบถูกผลิตขึ้นซ้ำ ๆ ย้ำ ๆ ว่า
ฉันไม่มีค่าพอที่จะได้รับความรัก ฉันเป็นคนโง่ แย่ ไม่เก่ง เป็นคนเลว ไม่ดีพอสำหรับใครสักคน ฉันดูน่าเกลียด ฉันสมควรตาย ฉันมันไร้ค่า ไม่มีใครรักฉันเลย ฯลฯ
ความคิดด้านลบเช่นนี้จะฉีกตัวตนของเด็กคนนั้นออกเป็นชิ้น ๆ และทำให้เติบโตมาพร้อมกับชีวิตที่แหว่งวิ่น เต็มไปด้วยริ้วรอยบาดแผล เกลียดชังโลก และต่อต้านผู้คน ไม่ไว้ใจใคร ไม่กล้ารักใคร ทำอะไรก็ไม่ประสบความสำเร็จ และมักจบลงด้วยการตำหนิและดูถูกตัวเอง
การเลี้ยงดูที่ผิดพลาด สร้างคนที่มีปัญหาขึ้นมากมายในสังคม การเลี้ยงดูที่เลวร้าย สร้างฆาตกรและอาชญากรรมสู่สังคมโดยไม่รู้ตัว
การเยียวยาและการบำบัดสามารถช่วยได้ แต่ผู้ป่วยต้องยอมรับที่จะเข้าสู่กระบวนการบำบัดตัวเอง เพื่อคลายปมที่ฝังไว้จากอดีต วิธีการรักษามีทั้งการเข้าพบจิตแพทย์ หรือผู้เชี่ยวชาญด้านจิตและสมอง การใช้การรักษาทางการแพทย์แบบวิทยาศาสตร์ ไปจนถึงการบำบัดจิตด้วยการทำสมาธิ ศาสตร์แห่งการรู้จักตนเองด้วยการสะกดจิต หรือ การปฏิบัติธรรม
หลายคนโตขึ้นมาในสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม เคยถูกทำร้าย ถูกล่วงละเมิดทางเพศ เคยอยู่ในท่ามกลางความรุนแรง แต่ก็สามารถดำรงชีวิตให้ผ่านพ้นอุปสรรคและบาดแผลเหล่านั้นได้ ด้วยทัศนคติที่เปิดกว้าง ให้อภัย รู้จักเมตตาตนเองและผู้อื่น การหยุดโทษตัวเองและไม่ก่นด่าคนอื่น การเปิดโอกาสให้ตนเองเริ่มต้นใหม่ ฯลฯ ทั้งหมดเป็นแนวทางในการเยียวยารักษาบาดแผลในใจตนเอง เพื่อแสวงหาหนทางที่ดีที่สุดสำหรับการใช้ชีวิตอย่างมีความสุขในบั้นปลาย
บางทีหนังสือเล่มนี้อาจคลายข้อสงสัยในหลายเรื่อง ที่เกิดขึ้นในชีวิตของใครหลายคนได้ จะได้เลิกสงสัยเสียที ว่าอะไรกันแน่ที่ส่งผลต่อวิธีคิดและวิธีการใช้ชีวิตของเรา และถ้า “รอยประทับ” บางอย่างที่ไม่น่าประทับใจได้เกิดขึ้นแล้วในชีวิต เราจะหาวิธีการที่จะลบ “รอยประทับ” นั้นให้หายไปจากชีวิตได้อย่างไร ?
Create Date : 12 กุมภาพันธ์ 2562 |
Last Update : 24 กุมภาพันธ์ 2563 22:27:38 น. |
|
26 comments
|
Counter : 746 Pageviews. |
|
|
|
|
ถึงจะได้เรียนจิตวิทยาเด็กมาเหมือนกัน
แต่ก็เอามาใช้กับตัวเองไม่ได้ คนที่เป็น
แบบนี้กว่าจะรู้ว่าบางเรื่องต้องพึ่งธรรมะ
บาดแผลก็ฝังลึกจนยากจะเยียวยาได้
ไม่รู้จะโทษใครหรือเวรกรรมดี จำไว้แค่
เลี้ยงลูกต้องใส่ใจในเรื่องนี้ทุกขั้นตอน
ของชีวิตเขาเลย