กาญจนบุรี..ไม่ได้มีดีแค่มะขามแก้ว
ก่อนอื่น..ต้องขอกล่าวคำว่า..สวัสดี.. มิตรรักแฟนบล๊อก และแฟนานุแฟนทุกท่าน.. ที่อาจจะคงเหลืออยู่บ้างไม่มากก็น้อย . . . จำเนียรกาลผ่านมากลายปี.. กี่ปีก็มิบังอาจจะไปนับ.. เพราะนับไปก็เมื่อยเปล่าๆปลี้ๆ... ที่ไม่ได้เข้ามาอัพเดทชีวิต ณ สถานที่แห่งนี้เลย วันนี้นึกครึ้มอกครึ้มใจ ก็เลยมาพิมพ์ๆ บ่นๆ ประกอบภาพทิ้งไว้เป็นอนุสรณ์ ให้ทุกท่านได้อ่าน และชมเล่น เป็นเครื่องบันเทิงสายตาร (รึเปล่าก็ไม่รู้).. . . . เอาล่ะ..เข้าเรื่อง..เนื่องจากว่า นายรถ หรือ นรซ. ที่หลายคนเคยเรียกขาน ได้ออกเดินทางท่องเที่ยวตามประสาวัยรุ่น (ตอนปลายติ่ง ค่อนไปทางจะชราภาพ) จริงๆก็ไปมาตลอดแหละนะ แต่เข้เกียจมาอัพบล๊อก . . อ่ะ..คราวนี้ไปไหน... ไปกาญจน์นะจ๊ะบุรี ใกล้ๆแค่นี้เอง
การเดินทางครานี้ก็มิได้ไปแต่ผู้เดียว หากแต่มีผู้ร่วมอุดมการณ์ การท่องเที่ยว อีก ๕ ท่าน..อยากรู้จักไม๊... ไม่ต้องหรอก..ดูแต่หน้าไปก็พอ.. อ่ะ ก็ไม่มีไรมาก..ออกเดินทางจากราชบุรีซิตี้ ด้วยรถเก๋ง อีอ๊อดด ยัดทะนานกันไป ๖ ชีวิต..สงสารรถไม๊..ก็นิสสสสนุง แต่..เป็นรถ..ต้องอดทนนะ... ก็ดุ่มเดาไปเรื่อยเปื่อย.. แผนการท่องเที่ยวไม่ต้องถามหา...ไม่มี..เปิดอากู๋ แล้วให้ อากู๋พาไป... ง่ายดีมะ
สถานที่แรก..เชื่อว่า ใครมาเมืองกาญจน์ ก็ย่อมที่จะต้องมาที่นี่เป็นแน่... เหมือนคนกินแหนมเนืองไม่ใส่หมูยอ มันก็จะไม่ใช่แหนมเนือง วัดนี้มีชื่อที่ชาวบ้านร้านตลาดเรียกกันว่า วัดถ้ำเสือ ทำไมถึงชื่อนี้ ไปหาอ่านเอาเอง แต่..ที่นี้วิวงามมาก..และเหมาะแก่สายบุญทุกท่าน ที่ต้องการแสวงหาแหล่งทำกุศล
และขอย้ำเตือนให้ระลึกไว้สักนิดว่า หากอยากมาวัดถ้ำเสือนี้ พึงฟิตน่องมาด้วย... ทางขึ้น..ต้องใช้พลังน่องสู๊งงงงง
หลังจากสำเร็จการเรื่องงานบุญงานกุศลแล้ว ก็หาสถานที่ใกล้เคียงต่อไป.. หวยออกที่ สะพานข้าามแม่น้ำแคว ซึ่ง..ก็เป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์ค ของกาญจน์นะจ๊ะบุรีเช่นกัน
ทำไมเรียกสะพานข้ามแม่น้ำแคว... ก็มันเป็นสะพานที่ทอดข้ามแม่น้ำแควอ่ะซิ.. ไม่น่าถาม... ^ ^ นายแบบหลังเป็นกระดานเลย
อ่ะ..ที่นี้ก็เป็นสถานที่ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ สมัยสงครามมหาเอเชียบูรพา หรือสงครามโลกครั้งที่ ๒ ที่พี่ยุ่นเขานึกครึ้ม หาเรื่องกระตุกหนวดสัมพันธมิตรนั่นแหละ
มาที่นี่ ก็ขอย้ำเตือนกันสักนิดว่า ครีมกันแดดเป็นปัจจัยที่สำคัญยิ่ง ไม่เช่นนั้นหน้าท่านจะไหม้เป็นโรตีกรอบเลยทีเดียว
ใครเป็นใครบ้างถ้าอยากจิรู้จัก ก็เสิร์ชหาเอาในกูเกิลนะ (จะเจอไม๊ล่ะเมิง)
และ..หลังจากเดินตากแดด ที่แผดร้อนจนเกรียมเป็นข้าวเกรียบว่าวผิงไฟแล้ว ไปหาอะไรเย็นๆดับร้อนกันดีกว่า
เยสสสสสสสเซ่อ... นั่นคือ..น้ำตก ลาบ ส้มตำ... น้ำตกเอราวัณ (เขียนถูกป่าววะ) น้ำตกเอราวัณ อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเอราวัณ เป็นน้ำตกที่มีความสวยงาม ติดระดับทอป ๑๐ ของเมืองไทย (เวอร์ไปป่าววะ) ค่าเข้าเยี่ยมชมก็..๑๐๐ บาทไทย.. เป็นฝรั่งดั้งขอ ก็ ๓๐๐ นะจ๊ะที่รัก นักเรียนนักศึกษา พกบัตรมา ลด ๕๐%
ซึ่งตัวน้ำตกนี้มีด้วยกันทั้งหมด ๗ ชั้น ลดหลั่นกันลงมาตามเชิงเขา ความสวยงามก็แตกต่างกันไป.. แต่..ไอ้กระผมไม่มีแรง เดินขึ้นไปแค่ชั้น ๓ พอ จากการดับร้อน มันก็กลายเป็นเพิ่มเหงื่อแทน
อันนี้ไม่ใช่จูออน และไม่ใช่ชัตเตอร์ กดติดวิญญาณแต่อย่างใด อีน้องคนงามนี้ก็มิใช่นางไม้ โผล่มาจากพุ่มพฤกษา หากแต่เป็นความผิดพลาดทางเทคกะนิคเล็กน้อย..โปรดอำภัย
ช่วงนี้เป็นช่วงท้ายฤดูฝน น้ำก็เลยขุ่นเล็กน้อยถึงปานกลาง หากอยากเห็นน้ำใสใหลกระเซ็นเห็นตัวปลา แหวกว่ายไปมาอยู่ไหวๆ ก็ขอให้ทุกท่านจงมาช่วงเดือนธันวาไปแล้ว..
และสุดท่ายแห่งการเดินทางวันนี้ ก็อยู่ถัดจากน้ำตกเอราวัณไปเล็กน้อย นั่นคือ เขื่อนศรีนครินทร์
ไปชมพระอาทิตย์ลับเหลี่ยมเขา ไปนั่งทำตัวเหงาๆกับบรรยากาศโรเมนติก หรือจะไปกระโดดทดสอบความแข็งแรงของสันเขื่อน อันนี้ก็ตามสะดวก
หรือหากไปเป็นหมู่คณะ.. ก็ชักภาพเป็นที่ระทึกกันก็งามไม่ใช่เล่นนะเธอ
ตะวันตกดินแล้ว...ก็กลับบ้านได้ ฝากไว้ในอ้อมใจอีกจังหวัดนะที่รัก กาญจน์นะจ๊ะบุรี ไม่ไกลจากกรุงเทพ เมืองที่ไม่ได้มีแค่มะขามแก้ว... แต่มีวุ้นเส้นท่าเรือด้วยนะเธอ..... . . . ปล.ฝากไว้สักนิด... เดินทางใกล้ ไกล ความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญ ใช้รถใช้ถนนด้วยความไม่ประมาท และ...อย่าเก็บอะไรมานอกจากภาพถ่าย และอย่าทิ้งอะไรไว้นอกจากรอยเท้า (และเงินค่าธรรมเนียม) นะจ๊ะ..นะจ๊ะ..
Create Date : 28 ตุลาคม 2560 |
|
3 comments |
Last Update : 28 ตุลาคม 2560 18:47:13 น. |
Counter : 5388 Pageviews. |
|
|
|