happy memories
Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2568
 
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
25 มิถุนายน 2568
 
All Blogs
 

มิวสิควิดิโอ "I'm OK...I'm not OK."









นึกว่าจะดองบล็อกอีกนานเพราะคอมชาร์จไฟไม่เข้า เตรียมจะส่งซ่อมแล้ว แต่น้องชายบอกว่าให้ลองเปลี่ยนปลั๊กดู พอทำตาม ปรากฏว่าไฟเข้าคอมได้ฉลุย เฮ้อออ โล่งไปที นึกว่าต้องเสียเงินอีกแล้ว

มาว่าเรื่องบล็อกนี้ดีกว่า อยากพูดถึงเอ็มวีที่ดังและดีที่สุดตอนนี้ คือเพลง I'm ok // not ok ของ บอย โกสิยพงษ์ ขับร้องโดย คุณป๊อด-ธนชัย อุชชิน และบิวกิ้น-พุฒิพงศ์ ดูแล้วชอบมาก ๆ เนื้อเรื่องต่อเนื่องจากหนังเรื่อง "เพื่อนสนิท" เอ็มวียาวเกือบ ๗ นาที ดูแล้วชอบมากกก

จริง ๆ แล้ว ยังไม่เคยดูหนังเต็มเรื่องสักที ดูแบบขาด ๆ เกิน ๆ ในทีวี ได้แต่อ่านบทวิจารณ์หนังที่ได้รับคำชมมากมาย ตอนจบในหนังพระ-นางยังคงความเป็นเพื่อนเหมือนชื่อเรื่อง ทั้งที่ความรู้สึกของทั้งคู่ไปไกลกว่านั้นนานแล้ว ผ่านมายี่สิบปี "ไข่ย้อย" และ "ดากานดา" ได้กลับมาพบกันอีกครั้งในเอ็มวี นักแสดงแก่ตามจริงแต่ยังดูดีมากกกทั้งคู่ ถือเป็นตอนจบของหนังแบบแฮปปี้ที่คนเคยดูหนังอิ่มเอมหัวใจไปตาม ๆ กัน

ส่วนสำคัญที่สุดคือ การแสดงของคุณนุ่นและคุณซันนี่ สองคนรับส่งอารมณ์กันดีเหลือเกิน คนดูก็ซึ้งได้ทั้งที่นั่งมองหน้ากันเฉย ๆ นี่แหละ โดยเฉพาะการแสดงของคุณนุ่นที่ละเลียดอารมณ์ออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม ทั้งสายตาที่แทนคำพูดและสีหน้าที่แสดงความรู้สึกหลากหลายจากข้างใน ทั้งหมดทั้งมวลก็ด้วยความรักและคิดถึงสุดหัวใจ มีคนเขียนชมเอ็มวีกันเยอะมาก ขอขอบคุณท่านเจ้าของภาพและข้อเขียนจากเฟซบุคของหลากหลายท่านที่นำมาลงบล็อกนี้ค่ะ เชิญเพื่อน ๆ อ่านกันได้เลยจ้า


ถ้าอยากอ่านบทความที่เขียนถึงเอ็มวีแบบเป็นเรื่องเป็นราวก็คลิกลิงค์เลยค่ะ
The Cloud











เพื่อนสนิท เป็นภาพยนตร์ไทยที่ผลิตโดยจีเอ็มเอ็ม ไท หับ กำกับโดย คมกฤษ ตรีวิมล โดยได้รับแรงบันดาลใจจากบทประพันธ์เรื่อง กล่องไปรษณีย์สีแดง ของ อภิชาติ เพชรลีลา ซึ่งตีพิมพ์ครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๔๓ นำแสดงโดย ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์, นุ่น - ศิรพันธ์ วัฒนจินดา เอ๋ - มณีรัตน์ คำอ้วน, โอปอล์ - ปาณิสรา อารยะสกุล เป็นต้น

ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์ (ซันนี่) - รับบท “หมู” หรือ “ไข่ย้อย” นักศึกษา วิจิตรศิลป์ มช. ผู้มีความรักต้องเลือก

ศิรพันธ์ วัฒนจินดา (นุ่น) - รับบท “ดากานดา” เพื่อนสนิท ของ ไข่ย้อย

มณีรัตน์ คำอ้วน (เอ๋) - รับบท “นุ้ย” พยาบาลสาวสวย ประจำ ร.พ.เกาะพะงัน

ปาณิสรา อารยะสกุล (โอปอล์) - รับบท “พี่แตน” พยาบาลสุดฮา สีสันแห่ง ร.พ.เกาะพะงัน

เนื้อเรื่องกล่าวถึงเรื่องราวของนักศึกษาคณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ สองคน คือ ไข่ย้อย และ ดากานดา ไข่ย้อย ตกหลุมรักเพื่อนสนิทโดยไม่รู้ตัว จนกระทั่งวันหนึ่งที่มีคนอื่นเข้ามาจีบเพื่อนของตัวเอง จึงได้รู้ตัวว่าได้หลงรักเพื่อนตัวเองเข้าแล้ว เรื่องราวของเพื่อนสนิทดำเนินไปสองช่วงเวลาสลับกัน ระหว่างเนื้อเรื่องของหมู (ไข่ย้อย) เดินทางไปเกาะพะงัน ภายหลังจบการศึกษา ซึ่งได้รับบาดเจ็บและรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเกาะพะงัน ที่ซึ่งเขาได้เจอ นุ้ย นางพยาบาลสาวสวย และขณะเดียวกัน ก็เป็นเรื่องราวที่หมู นึกถึงเรื่องราวในช่วงที่เรียนอยู่

ภาพยนตร์เรื่อง เพื่อนสนิท เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ครั้งแรกเมื่อวันที่ ๖ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๔๘ โดยทำรายได้ได้มากกว่า ๘๐ ล้านบาท


จาก เพจร่างกายต้องการคอนเสิร์ต










ผ่านไป ๒๐ ปีในที่สุด.. ‘ดากานดา’ และ ‘ไข่ย้อย’
ก็ได้ “กลับมาเจอกันอีกครั้ง” แล้วนะ :‘)

สวัสดี ดากานดา

จดหมายถึงแกฉบับนี้ คงเป็นฉบับสุดท้ายแล้ว
พรุ่งนี้พอพระอาทิตย์ขึ้น ฉันก็คงจะยืนชมวิว
บนดาดฟ้าเรือสักลำ และไม่เขียนอะไรอีก..

นุ้ยเคยห้ามเด็ดขาดไม่ให้ฉันขึ้นไปบนนั้น
แต่ก็นะดากานดา จะมีกี่ครั้งกันเชียวที่คนเราจะตกดาดฟ้าเรือซ้ำสอง
และถึงจะตกลงมาอีก “ฉันก็เจ็บจนชินแล้วแหละ”

ดากานดาหวังว่า “แกคงอวยพรให้ฉันด้วย”
และฉันคงต้องจบจดหมายฉบับนี้ซะที
ว่าแต่ฉันจะจบยังไงนะ ไม่ให้มันเชยและเศร้า

“รักและคิดถึงดีไหม?..ดากานดา”

รักและคิดถึงแกเสมอ
ไข่ย้อย
(บางส่วนในจดหมายของไข่ย้อย)

กลับมาเจอกันอีกครั้งในรอบ ๒๐ ปี
ไม่ต้องพูดอะไรเยอะ แค่ได้มองหน้ากันอีกครั้ง
“ความรู้สึกดี ๆ ในช่วงเวลานั้นก็กลับมาแล้ว”

ตลอดเวลาที่เราไม่เจอกัน ฉันหวังว่า...
แกจะมีความสุข และได้ใช้ชีวิตเป็นอย่างดี
”เราไม่เคยขอให้เธอไปเจอเรื่องที่ไม่ดีเลยนะ“

ดีใจที่เราสองคนได้กลับมาเจอกันอีกครั้งนะ
ขอบคุณพี่ Boyd Kosiyabong ที่สานฝันพวกเราเพื่อนสนิท

BOYdPOD - I'm ok // not ok (feat. Billkin)
เป็นเพลงและ MV ที่โคตรดีเลย !!


จาก เพจร่างกายต้องการคอนเสิร์ต










“ฉันเหมือนจะโอเค
แต่ฉันไม่โอเคเลย…”


เพิ่งดูเอ็มวีของพี่บอยและพี่ป๊อด I’m ok/not ok ที่มีบิวกิ้นฟีเจอริ่ง และเล่าเรื่องของดากานดา มาเจอกับไข่ย้อยจากหนังเรื่อง “เพื่อนสนิท” อีกครั้ง ฉากมีฉากเดียวคือในห้อง ๆ หนึ่งที่ตั้งกล้องถามคำถามดากานดา แต่พลังเงียบของความรู้สึกที่ปะทุออกมาจากแววตาของดากานดาเมื่อได้เจอกับไข่ย้อย นั่นล่ะ! คือความรู้สึกภายในที่แสนจะประหารและแสนจะละเมียด

“เป็นยังไงบ้าง?” คำถามเรียบ ๆ ที่ไข่ย้อยถามดากานดา

“เราโอเค” คำตอบท่าเบสิค แต่แววตาที่กลั้นน้ำตาแทบตายของดากานดา
ทำให้เรารู้ว่าเธอ “ไม่โอเค” หรอก

ใครที่เคยเดินจากคนรักทั้ง ๆ ที่ยังรัก ต้องไม่ติดต่อ ไม่ไปหา ต้องใช้ชีวิตแบบเหมือนเราลืมกันแล้ว แต่หัวใจเท่านั้นบอกเสมอว่า “ฉันคิดถึงเธอมาก ๆ” ดูเอ็มวีนี้น้ำตาไหลชัวร์ แววตาที่ดูยังไงก็รู้ว่ายังรัก ความรู้สึกที่ต้องพยายามปิดกั้น จากอารมณ์กลั้นน้ำตาเปลี่ยนมาเป็นยิ้มนิดๆ ที่คือความดีใจที่ได้เจอกับความหววามรู้สึกถึงเขากับเอ็มวีนี้ดูนะ ถ้าหัวใจราบเรียบ คุณลืมเขาไปแล้ว แต่ถ้าน้ำตาเอ่อแล้วต้องกดดูไปสองสามรอบ ไม่เป็นไรหรอกถ้าหัวใจยังมีเขาอยู่

เราใช้ชีวิตมาได้ดีขนาดนี้
มีใครสักคนในใจ
โอเคจะตาย


จาก เพจ CLEO Thailand









ผ่านไป ๒๐ ปีในที่สุด.. ‘ดากานดา’ และ ‘ไข่ย้อย’
ก็ได้ “กลับมาเจอกันอีกครั้ง” แล้วนะ :‘)

สวัสดี ดากานดา

จดหมายถึงแกฉบับนี้ คงเป็นฉบับสุดท้ายแล้ว
พรุ่งนี้พอพระอาทิตย์ขึ้น ฉันก็คงจะยืนชมวิว
บนดาดฟ้าเรือสักลำ และไม่เขียนอะไรอีก..

นุ้ยเคยห้ามเด็ดขาดไม่ให้ฉันขึ้นไปบนนั้น
แต่ก็นะดากานดา จะมีกี่ครั้งกันเชียวที่คนเราจะตกดาดฟ้าเรือซ้ำสอง
และถึงจะตกลงมาอีก “ฉันก็เจ็บจนชินแล้วแหละ”

ดากานดาหวังว่า “แกคงอวยพรให้ฉันด้วย”
และฉันคงต้องจบจดหมายฉบับนี้ซะที
ว่าแต่ฉันจะจบยังไงนะ ไม่ให้มันเชยและเศร้า

“รักและคิดถึงดีไหม?..ดากานดา”
รักและคิดถึงแกเสมอ
ไข่ย้อย
(บางส่วนในจดหมายของไข่ย้อย)

กลับมาเจอกันอีกครั้งในรอบ ๒๐ ปี
ไม่ต้องพูดอะไรเยอะ แค่ได้มองหน้ากันอีกครั้ง
“ความรู้สึกดี ๆ ในช่วงเวลานั้นก็กลับมาแล้ว”

ตลอดเวลาที่เราไม่เจอกัน ฉันหวังว่า...
แกจะมีความสุข และได้ใช้ชีวิตเป็นอย่างดี
”เราไม่เคยขอให้เธอไปเจอเรื่องที่ไม่ดีเลยนะ“

— ดีใจที่เราสองคนได้กลับมาเจอกันอีกครั้งนะ
ขอบคุณพี่ Boyd Kosiyabong ที่สานฝันพวกเราเพื่อนสนิท

BOYdPOD - I'm ok // not ok (feat. Billkin)
เป็นเพลงและ MV ที่โคตรดีเลย !!


จาก เพจร่างกายต้องการคอนเสิร์ต








ขออวยยศให้ นุ่นศิรพันธ์ ที่รับบท ดากานดา และ ซันนี่ ที่รับบท ไข่ย้อย ทั้งคู่ถ่ายทอดความรู้สึกได้จับใจและชัดเจนมากในเพลง “I’m ok // not ok” ของศิลปิน BOYdPOD feat. Billkin

เหมือนได้ดูภาคต่อของหนังเพื่อนสนิท ความทรงจำเมื่อ ๒๐ ปีก่อนมันพรั่งพรูไปหมด สุดท้ายทั้งคู่ก็ยังคงคิดถึงกันสุดหัวใจเหมือนเดิม วันนี้ทั้งคู่กลับมาทำให้เนื้อเรื่องสมบูรณ์แบบที่สุด

นุ่น คือสุดยอดนักแสดง แค่สายตาก็รู้ว่าอยากจะพูด น้อยแต่มากของแท้ กล้ามเนื้อบนใบหน้ามีกี่จุดใช้ได้สมบูรณ์แบบมาก มันไม่ใช่แค่การทำให้ตัวเองร้องไห้ แต่มันคือความรู้สึกที่ ดากานดา รู้สึกในขณะนั้น ชื่นชมมากจริง ๆ

ใครดู MV แล้วร้องไห้บ้างงง!!


ภาพและข้อมูลจาก เพจข่าวสด บันเทิง








“ฉันโอเค หรือฉันไม่โอเค
แต่ชีวิตเราก็ต้องไปต่ออยู่ดี”
เราต้องขอบคุณความไม่โอเคในวันนั้น
เราถึงได้เห็นความโอเคอันยิ่งใหญ่ของเราในวันนี้

จากเอ็มวีดากานดา I’m ok/Not ok ความดีงามของเอ็มวีนี้นอกจากที่เราคิดถึงดากานดากับไข่ย้อยแล้ว ก็คือเป็นเหมือนกระจกใสปิ๊งให้เรามองตัวเองไปให้ชัดอีกที ส่วนใหญ่คนที่ยังมีใครในใจแล้วยังแว่บ ๆ คิดถึงเรื่องราวที่แผลอาจยังไม่แห้งสนิท แต่เราคิดว่าแห้งสนิทแล้ว จะร้องไห้ออกมา เอ็มวีนี้มาให้รีเช็คหัวใจตัวเองตรง ๆ “เรายังมีหลุมอะไรในใจไหม?”

คือพาเราไปใกล้ ๆ แผลแล้วก็เปิดแผลออกซะเลย ถ้าใครแผลไม่หายจริงก็จะสะเทือนใจแน่นอน ข้อดีคือเราจะได้ยอมรับกับตัวเองอีกครั้งให้ชัดไปอีก อืมมมม ฉันยังมีเรื่องนี้อยู่ในใจ และข้อดีกว่านั้นคือ “ต่อให้เรามีแผลแค่ไหน แต่เราก็ได้เรียนรู้ที่จะลุกขึ้นมา แล้วดูแลตัวเราให้ดีที่สุด ใช้ชีวิตให้สวยงาม บาลานซ์ที่สุด เท่าที่เราจะทำได้แล้ว”

ประเด็นไม่ได้อยู่ที่เรา

ยังมีใครในใจแผลเหวอะแค่ไหน

แต่คือเราได้ไปต่อจากตรงนั้น

จนมาถึงวันนี้ยังไงมากกว่า

นั่นคือสิ่งที่เราจะเห็นหัวใจตัวเองที่สุด

เรายินดียอมรับเรื่องราวครั้งนั้นที่เกิดขึ้น

และยอมรับว่าบางครั้งเรา

ก็ไม่โอเคหรอก

แต่หัวใจคืนแล้วคืนเล่าที่เราเอามือทาบตอนร้องไห้คนเดียว กับเสียงเล็ก ๆ ที่บอกว่า “เดี๋ยวเธอก็โอเค เธอจะผ่านมันไปได้ แล้วเธอจะมีความสุข”

หัวใจแบบนี้ล่ะคือกำลังใจที่เราฮึบบอกตัวเองไปทุกวัน

พลังใจที่มันเคยเหือดไปมาก แต่มันก็กลับมาแล้วสร้างสิ่งดี ๆ ให้เราต่ออีกมากมาย

นั่นคือคุณค่าและหัวใจของเราด้วยเหมือนกัน

ในความไม่โอเค
จริง ๆ แล้วเราโอเคมาก ๆ ต่างหาก

เราโอเคเพียงพอจะให้กำลังใจตัวเองได้
โอเคที่จะลุกออกไปทำภารกิจต่อไปได้
และยังโอเคที่จะต้องดูแลคนรอบตัวได้

ไม่เป็นไรนะถ้าจะน้ำตาไหล
กับความไม่โอเคลึก ๆ ของเรา
แต่ขอให้มีเสียงที่บอกเราเอาไว้ด้วย

“วันนั้นเธอเข้มแข็งมาก ที่เธอโอเคขึ้นมาได้”
I am ok and I am really ok.
เราสวยจะตาย..


ภาพและข้อมูลจาก CLEOThailand'










" ดากานดา " หวังว่าแกคงอวยพรให้ฉันด้วย และฉันคงต้องจบจดหมายฉบับนี้สักที ว่าแต่ฉันจะจบยังไงนะ ไม่ให้มันเชยและเศร้า รักและคิดถึงดีไหมดากานดา

รักและคิดถึงแกเสมอ
" ไข่ย้อย "


๒๐ ปี ผ่านไปทั้งคู่จึงได้มีโอกาสพบกันอีกครั้ง..มันอาจจะมีคำพูดเป็นล้าน ๆ คำ ที่ทั้งสองคนอยากจะพูดออกมา

แต่..แค่เพียงคำว่า" แกโอเคปล่าว "มันก็เหมือนกับว่าความรู้สึกส่วนลึกเมื่อ ๒๐ ปีก่อน ได้หวนกลับคืนมา

อยู่ในทรงจำของทั้งสองคน และพวกเราอีกครั้ง...

BOYdPOD - I'm ok // I'm not ok
(feat. Billkin) : 2568

เพื่อนสนิท : ๒๕๔๘ สามารถรับชมได้ทาง Netflix

ปล.เพจนี้อาจจะเป็นเพจเดียวในประเทศไทยก็ได้นะ "ดากานดา" ที่ลงโพสต์เกี่ยวกับหนังเรื่องนี้บ่อยมากที่สุด มันมีบางทีนะที่ฉันยังเคยคิดเลยว่าเขาจะเบื่อและรำคาญฉันกันหรือเปล่า

แต่..เพราะอะไรน่ะหรือ ก็เพราะฉันยังคิดถึงแกเสมอ สุดท้ายนี้ ฉันดีใจนะที่ได้พบแกอีกครั้ง แต่..ก็เหมือนเดิมนั่นแหละ ฉันยังเป็นไข่ย้อยคนเดิมเสมอ แบบที่แกเคยรู้จัก และฉันก็ยังจะอยู่ตรงนี้เสมอดากานดา..


ภาพและข้อมูลจาก เพจเก็ทนะเดอะมูฟวี่’








เหตุผลที่ฉากใน Music Video เพลง "I'm ok // not ok" ของ BOYdPOD feat. Billkin ต้องเป็นแกลอรีภาพวาดดอกไม้ ก็เพื่อเชื่อมโยงกับภาพยนตร์เรื่อง "เพื่อนสนิท" ที่ดากานดา เคยพูดกับไข่ย้อยว่า "แกวาดดอกไม้เยอะขนาดนี้ เอาไปจัดนิทรรศการได้เลยนะ"

ส่วนเหตุผลที่ไข่ย้อยวาดดอกไม้เอาไว้มากมายนั้น (ถ้าแอดจำไม่ผิด) น่าจะเพราะไข่ย้อยกับดากานดาเคยพูดคุยกันเรื่องดอกไม้ และดูเธอจะมีความสนใจเกี่ยวกับดอกไม้พวกนั้น รวมไปถึงอาจจะเพราะดากานดาชื่นชอบดอกไม้มาก ๆ สังเกตได้จากเสื้อผ้า หรือกระโปรงที่เธอใส่ จะมีลวดลายของดอกไม้อยู่เสมอ

การที่ไข่ย้อยวาดภาพดอกไม้มากมาย ก็เพื่อสื่อถึงความรู้สึก ที่เค้า "คิดถึง" ดากานดา แต่ไม่สามารถพูดออกไปได้นั้นเอง


ภาพและข้อมูลจาก เพจเป็นต่อ’








บอย โกสิยพงษ์” กล่าวถึงเพลง I’m ok // not ok ว่าได้แรงบันดาลใจมาจากภาพยนตร์เรื่องหนึ่ง (เพิ่มเติมข้อมูลจากคุณ​ Win Ake ว่าภาพยนต์ที่คุณบอยหมายถึงคือ Stand by Me Doraemon) ซึ่งสอดคล้องไปกับการตีความเนื้อเพลงจากประสบการณ์ในชีวิตจริงของพี่ป๊อด ธนชัย อุชชิน ดังนั้นการถ่ายทอดเพลงนี้ด้วยน้ำเสียงของพี่ป๊อดจะรู้สึกได้เลยว่ามาจากส่วนลึกของหัวใจจริง ๆ (จนถึงกับต้องหยุดบันทึกเสียงในบางครั้ง)

หลายคนได้ชมมิวสิกวีดีโอเพลง BOYdPOD - I'm ok // not ok (feat. Billkin) มีการทำงานเบื้องลึกเบื้องหลังโดย พีท-ทสร บุณยเนตร Chief Creative Officer, BBDO Bangkok ตกผลึกเป็น Concept ที่มาจาก ภาพยนต์เรื่องเพื่อนสนิท จากค่าย GTH โดยสร้างจากหนังสือ กล่องไปรษณีย์สีแดงที่กลายเป็นภาพยนต์สุดรัก ขึ้นหิ้งในดวงใจของใครหลายๆคน ทั้งด้วยภาพบรรยากาศของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และเรื่องราวของการ “แอบรักเพื่อนสนิท” ที่คนมากมายมีประสบการณ์ร่วมเป็นอย่างดี และเข้ากันกับเพลงได้อย่างลงตัว

ดังนั้น นี่จึงเป็นการสร้างปรากฎการณ์ ๒๐ ปี.... “ดากานดา” และ “ไข่ย้อย” กลับมาโลดแล่นในหัวใจอีกครั้ง (พร้อมน้ำตาที่พรั่งพรู) Wisdom on The House จึงอยากพาคุณไปสังเกตุสิ่งเล็ก ๆ จากความเป็น “เพื่อนสนิท” สู่ “I'm ok //not ok” ที่ซ่อนอยู่ในมิวสิกวีดีโอนี้กัน

- นิทรรศการ ภาพวาดดอกไม้
“ดอกไม้” เป็นสัญลักษณ์ หรือ Simbolic ที่เชื่อม ดากานดา และ ไข่ย้อย ไว้ในภาพยนต์ หญิงสาวผู้ชื่นชอบดอกไม้ กับชายหนุ่มผู้รักและคิดถึงเธอ จึงถ่ายทอดผ่านภาพวาดนั้น และด้วยความรู้สึกที่มากมายนี้ ภาพวาดดอกไม้จึงมีเยอะถึงขนาดที่ดากานดา เคยพูดกับไข่ย้อยว่า "แกวาดดอกไม้เยอะขนาดนี้ เอาไปจัดนิทรรศการได้เลยนะ”

นี่จึงอาจจะเป็นสาเหตุที่ฉากของการกลับมาเจอกันในรอบ ๒๐ ปีของทั้งคู่ เต็มไปด้วยสัญลักษณ์ของความรู้สึกผ่านนิทรรศการภาพวาดดอกไม้นั่นเอง

- ดอกชงโค และ ขี้เหล็กอเมริกัน
หากสังเกตลงไปในรายละเอียดของภาพวาดดอกไม้ในมิวสิกวีดีโอก็จะเห็นว่า ไม่ใช่ดอกไม้อะไรก็ได้แต่เป็นดอกไม้ ที่ทำให้ทั้งคู่รู้จักกันมากขึ้น จากบทสนทนาที่ว่า
ดากานดา: แกรู้ปะ ดอกนี้เรียกว่าไรอะ
ไข่ย้อย: (ส่ายหัว)..เดี๋ยวมา
(วิ่งกลับมา) เนี่ย เรียกว่าชงโค ส่วนเนี่ย ขี้เหล็กอเมริกัน

ดากานดา: แล้วทำไมต้องอเมริกันด้วยอะ
ไข่ย้อย: แป๊บนึง..(วิ่งออกไปอีกครั้ง)

ฉันข้ามไปคณะเกษตรเพื่อไปถามอาจารย์ให้แกแล้วกลับมาบอกว่าเจ้าต้นที่ออกดอกสีม่วงชื่อ ‘ชงโค’ ต้นที่ออกดอกสีเหลืองชื่อ ‘ขี้เหล็กอเมริกัน’ แทนที่จะดีใจ แกกลับถามฉันว่าทำไมต้องขี้เหล็กอเมริกัน..แต่ฉันก็ยังอุตส่าห์กลับไปถามอาจารย์อีกครั้งเป็นครั้งที่สอง
เพื่อนสนิท (๒๕๔๘)

องค์ประกอบเหล่านี้ในมิวสิกวีดีโอ เมื่อหลอมรวมกับฝีมือการแสดงสุดละเอียด จากนักแสดงมากฝีมือ คุณนุ่น ศิรพันธ์ วัฒนจินดา และคุณซันนี่ สุวรรณเมธานนท์ ถ่ายทอดความรู้สึกที่พรั่งพรูในการกลับมาพบกันอีกครั้งจากเวลาที่แสนยาวนานกว่า ๒๐ ปี

เพียงแค่กล่าวแนะนำตัวว่า "ดากานกา" เห็นหน้าของ "ไข่ย้อย" หรือคำถามที่ว่า "แกโอเคเปล่า" ก็ทำหลายคนน้ำตาร่วงได้อย่างง่ายดาย

จึงทำให้ “I’m ok // not ok” อิ่มเอมครบถ้วนทุกความรู้สึก ดังที่ พี่บอย โกสิยพงษ์ กล่าวไว้ว่านี่ไม่ใช่เพียงแค่บทเพลงแห่งความคิดถึง แต่ยังเป็นบทบันทึกของความทรงจำที่ยังคงงดงามอยู่ในใจเสมอ


ภาพและข้อมูลจาก เพจ Wisdom on The House









ผมได้เจอหนึ่งในการแสดงที่ดีที่สุดของปีนี้ใน MV เพลง I'm ok // not ok

เชื่อว่าหลาย ๆ คนน่าจะได้ดู(และฟัง) เพลง I'm ok // not ok กันไปแล้วเรียบร้อย ลำพังแค่น้ำเสียงพี่ป๊อด บิวกิ้น และเนื้อหาเพลงสุดสั่นสะเทือนก็ชวนให้น้ำตารินแล้วครับ แต่อย่างไรก็ตามอีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้บทเพลงนี้มันสมบูรณ์เอามากๆ นั่นคือการหยิบจับเรื่องราวของดากานดาและไข่ย้อยมาบอกเล่าอีกครั้งหลังผ่านไป ๑๐ ปี ซึ่งมันเป็นช่วงเวลาที่มากพอจะทำให้ความรู้สึกหลายอย่างของทั้งตัวละครและผู้ชมเริ่มตกตะกอนนอนก้น หลงลืมไปแล้วว่าความรู้สึกในวันนั้นมันเป็นเช่นไร กระนั้น เมื่อเรื่องราวเริ่มต้น ภาพจำหลาย ๆ อย่างก็ค่อย ๆ ล่องลอยขึ้นมาราวลิ้นชักความทรงจำค่อย ๆ ถูกเปิดออก

กระทั่งไข่ย้อยเดินเข้ามา ความมหัศจรรย์ก็ปรากฏ

ไม่มีคำไหนสามารถจะบรรยายความรู้สึกที่ผมได้รับตอนดูซีนนี้ครั้งแรกได้เลย กล้องที่จับภาพใบหน้า นุ่น ศิรพันธ์ ไว้เกือบตลอดทั้งเพลง ในแง่หนึ่งมันคือวิธีการเล่าเรื่องที่เรียกร้องความสามารถในการแสดงอย่างสูงมาก ๆ แต่เธอก็ส่งมอบสิ่งที่เกินกว่านั้นได้อย่างน่าทึ่ง

ทุกการขยับไหว ใบหน้าที่ค่อย ๆ เปลี่ยนสี ปากที่สั่นกระตุก จมูกที่พยายามหายใจให้ทัน การพยายามจะฮึบน้ำตาไว้ แต่ที่สุดก็ไหลอยู่ดี ไปจนถึงการโผกอดที่มากมายไปด้วยความรู้สึกและความทรงจำที่ถาโถม ทุกอย่างสมบูรณ์แบบไปหมด และมันเป็นการแสดงที่ “ละเอียด” และ “ละเมียด” มากที่สุดครั้งหนึ่งเท่าที่เคยเห็นมา

ไม่เพียงเท่านั้น การสลับโหมดในตอนจบที่แม้จะมาแค่เสียง แต่ด้วยวิธีการพูดมันก็ทำให้เรารู้สึกเหมือนว่าดากานดาไม่เคยหายไปไหนแต่ยังคงอยู่ตรงนั้นเสมอมา ก็เป็นอะไรที่น่าทึ่งไม่แพ้กันเลยครับ ประโยค “อยากไปเชียงใหม่ปะล่ะ” ด้วยน้ำเสียงทะเล้นสดใส มันซ้อนทับไปกับประโยคที่เธอเคยพูดไว้ว่า “สวัสดี เราชื่อดากานดา” ราวกับเรื่องราวเมื่อ ๒๐ ปีก่อนเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน

ไม่ว่าคุณจะชอบหรือไม่ชอบเพลง แต่สำหรับคอหนัง นี่คือการแสดงที่ผมอยากให้ทุกคนได้ดูจริง ๆ


ภาพและข้อมูลจาก เพจ SeatNoE12’









อ่านเบื้องหลังแล้วจะร้อง
ทีมงานเล่าถึงเบื้องหลัง MV ImOk_NotOk


“ขอบอกว่า มาไกลกว่าที่คิดไว้มาก ๆๆๆ ตั้งแต่ Idea ที่พี่พีท ผู้กำกับ (พ่อใหญ่ของเบส) คิด เอา fiction เรื่องเพื่อนไม่ได้เจอกันนานเรื่องไหนดีวะ ลองลิสต์กันออกมา คำตอบเดียวคือ เพื่อนสนิท เท่านั้น!“

”การขอลิขสิทธิ์ต่าง ๆ ทั้ง GDH GTH และกล่องไปรษณีย์สีแดง จนไปถึงการนำพี่นุ่น และพี่ซันนี่ (ที่ว่ารับงานยากสุด ๆ) มาเจอกัน แอบเล่าว่า พี่ซันนี่รับงานนี้ด้วยเงื่อนไขเดียว คือได้ร่วมงานกับพี่นุ่น พี่ป๊อด บิวกิ้น และพี่บอย โกสิยพงษ์“

”ตอนทำ workshop ครูร่ม acting coach ขอให้ workshop แยก ไม่ให้ดากานดากับไข่ย้อยเจอกันจนกว่าจะถึงหน้าเซ็ท เพื่อให้ keep ความคิดถึงไว้“

”ตอน workshop ครูร่มรื้อคาแรคเตอร์ดากานดาขึ้นมา โดยถามพี่นุ่นว่า ตอนจบที่ดากานดาอ่านจดหมายไข่ย้อยแล้วร้องไห้ รู้สึกอะไรอยู่..“

”อยู่ดี ๆ พี่นุ่นก็กลายเป็นดากานดาแล้วร้องไห้ออกมาเลย ดากานดาบอกว่า รู้สึกอกหัก.. สูญเสียไข่ย้อย เพราะสำหรับเค้า ดากานดาข้ามเส้นความเป็นเพื่อนมาโดยตลอด แต่ไข่ย้อยต่างหากที่ไม่เคยข้ามเส้น ถึงเกิดคำพูดว่า ‘แกมาทำอะไรเอาตอนนี้’ (ตอนนี้กูมีแฟนแล้ว) แงงงง”


ภาพและข้อมูลจาก เพจรีวิวเรื่องเปื่อย’








นอกเรื่องอยากเล่า] เห็นดากานดากลับมาเจอไข่ย้อยในรอบ ๒๐ ปี ก็เลยทำให้นึกถึงอิทธิพลของหนังเรื่อง “เพื่อนสนิท” ในยุคนั้น

คือเมื่อก่อนกว่าหนังจะฉายโรง มีทั้งโปรโมท เพลงประกอบ คือเพลง “ช่างไม่รู้อะไรบ้างเลย” คือฮิตก่อนหนังฉายอีกมั้ง และพอหนังฉายก็ดังระเบิดตามคาด

แอดอยู่ต่างจังหวัดกว่าจะได้ดูคือตอนออกแผ่นไปเช่าที่ร้านมาดู รู้สึกว่าหนังเมื่อก่อนมัน “อายุยืน” มากเลย ขนาดกว่าจะออกแผ่นก็ ๒-๓ เดือน ก็ยังเป็นกระแสอยู่ (ทุกวันนี้ขนาดหนังใหม่เข้าโรง จนลงสตรีมมิ่ง เพิ่งรู้ว่ามันฉายไปแล้ว)

กลับมาที่ตัวหนัง มันกลายเป็น มช.ฟีเวอร์ และต่อให้เด็กยุคนั้นที่จะเรียนต่อสายศิลปกรรม ก็เชื่อว่ามีภาพบรรยากาศชีวิตในรั้วมหาลัยแบบในเพื่อนสนิทอยู่ในหัว

ซึ่งแอดเองก็เป็นหนึ่งในนั้น เพราะสมัยมัธยมไม่สนใจเรียนหรือความรู้ใด ๆ ในหัว แถมเรียนสายวิทย์-คณิต เพื่อนสนิทคือ Ref เดียวที่มีก่อนที่จะเข้าเรียนที่ศิลปกรรม สารคาม

แม้ “เพื่อนสนิท” จะไม่ใช่หนัง GTH ที่ชอบที่สุด แต่เพื่อนสนิทเป็นหนัง GTH ที่ดูเยอะที่สุดแล้ว

๑.แฟนฉัน
๒.มหาลัยเหมืองแร่
๓.เพื่อนสนิท

คือหนังสนุกด้วย และดูเพื่อเป็นแนวทางตอนเข้ามหาลัยนี่แหละ

แล้วเหมือนทุกคนก็คงทำเหมือนกัน เพราะเจอหลายคนที่แอ็คอาร์ทเป็น “ไข่ย้อย” กันสุด ๆ ฮ่าๆๆ

แม้สารคามมันจะไม่มีโมเม้นต์โรแมนติกชวนฝันแบบในหนัง หรือฟิลดีแบบ มช. (สารคามคือมีแต่แดดกับฝุ่น จะเอาอะไรมาโรแมนซ์) แต่พวกบรรยากาศ กิจกรรมต่าง ๆ ก็ต้องชื่นชมตัวหนังว่ามัน Capture Moment ได้ครบถ้วนมาก ๆ

อีกอย่างที่โดดเด่นไม่ใช่แค่เพื่อนสนิท แต่เป็น GTH ยุคนั้นคือการสร้างตัละครที่มันดู “มีชีวิต” จริง ๆ ไม่แปลกที่พอเอาตัวละครนี้กลับมาเล่าแล้วคน “อิน” กัน เป็นพิเศษ (โดยเฉพาะเหล่าวัยกลางคน><)

(แต่ตัวละครที่ชอบที่สุดในเรื่องนี้คือตัวละคร “พี่โอปอ” คือขโมยซีนสุด ชอบทุกฉากที่โผล่มา)








“ฉันข้ามไปคณะเกษตรเพื่อไปถามอาจารย์ให้แกแล้วกลับมาบอกว่าเจ้าต้นที่ออกดอกสีม่วงชื่อ ‘ชงโค’ ต้นที่ออกดอกสีเหลืองชื่อ ‘ขี้เหล็กอเมริกัน’ แทนที่จะดีใจ แกกลับถามฉันว่าทำไมต้องขี้เหล็กอเมริกัน..แต่ฉันก็ยังอุตส่าห์กลับไปถามอาจารย์อีกครั้งเป็นครั้งที่สอง”

เมื่อวานได้ดู MV I’m ok // not ok เห็นภาพวาดดอกชงโคและขี้เหล็กอเมริกันที่ตั้งอยู่ข้าง ๆ ไข่ย้อยและดากานดาก็ชวนให้นึกถึงภาพเก่า ๆ จากในหนัง ที่ทำให้เห็นความพยายามของไข่ย้อยที่อยากจะหาคำตอบเรื่องดอกไม้ให้เพื่อนสนิท

สถานที่ถ่ายทำ: สวนรุกขชาติห้วยแก้ว จ.เชียงใหม่


ภาพและข้อมูลจาก เพจไปตามรอยหนังด้วยกันมั้ย








สำหรับน้อง ๆ ที่เกิดไม่ทัน และสงสัยว่าลุง ๆ ป้า ๆ เค้าคุยเรื่องอะไรกันอยู่...

"เพื่อนสนิท" เป็นภาพยนตร์ไทยแนวโรแมนติก-คอมเมดี้ กำกับโดย คมกฤษ ตรีวิมล ได้แรงบันดาลใจจากบทประพันธ์ "กล่องไปรษณีย์สีแดง" ของ อภิชาติ เพชรลีลา เข้าฉายครั้งแรกในปี พ.ศ. ๒๕๔๘

โครงเรื่อง
เรื่องราวของ "เพื่อนสนิท" ดำเนินไปในสองช่วงเวลาและสองสถานที่หลัก คือ จังหวัดเชียงใหม่และเกาะพะงัน

ช่วงชีวิตมหาวิทยาลัยที่เชียงใหม่
หมู หรือ "ไข่ย้อย" (ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์) เป็นหนุ่มขี้อายจากกรุงเทพฯ มาเรียนคณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เขาสนิทกับ "ดากานดา" (ศิรพันธ์ วัฒนจินดา) เพื่อนสาวที่สดใสร่าเริง ทั้งคู่กลายเป็นเพื่อนสนิทที่มีความผูกพันกันมาก ไข่ย้อยแอบหลงรักดากานดา แต่ไม่กล้าบอกความรู้สึกเพราะกลัวเสียเพื่อน และดากานดาเองก็มีคนที่เธอรักอยู่แล้ว

ช่วงเวลาที่เกาะพะงัน
หลังจบการศึกษา ไข่ย้อยเดินทางไปเกาะพะงันและประสบอุบัติเหตุจนต้องรักษาตัวที่โรงพยาบาลบนเกาะ ที่นั่นเขาได้รู้จักกับ "นุ้ย" (มณีรัตน์ คำอ้วน) พยาบาลสาวที่ดูแลเขาอย่างดี ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ค่อย ๆ พัฒนาและใกล้ชิดกันมากขึ้น นุ้ยเองก็มีใจให้ไข่ย้อย แต่ก็รู้ว่าในใจของเขายังมีใครอีกคนอยู่

ประเด็นหลักและการดำเนินเรื่อง
- หนังเล่าเรื่องราวผ่านการสลับไปมาระหว่างอดีต (ช่วงมหาวิทยาลัยกับดากานดา) และปัจจุบัน (ช่วงรักษาตัวกับนุ้ยที่เกาะพะงัน) สะท้อนความลังเลในใจของไข่ย้อย ว่าจะเลือกเก็บความรู้สึกต่อดากานดาไว้ในอดีต หรือเปิดใจให้กับนุ้ยในปัจจุบัน

- ประเด็นสำคัญคือ "ความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนที่แอบรักเพื่อน" และการตั้งคำถามกับตัวเองว่า จะกล้าก้าวข้ามเส้นของมิตรภาพไปสู่ความรักหรือไม่

ตอนจบ
ในที่สุด ไข่ย้อยตัดสินใจเลือกอยู่กับปัจจุบัน เลือกนุ้ยที่อยู่ข้าง ๆ และดูแลเขาอย่างดี แม้ในใจจะยังมีความรู้สึกดี ๆ ต่อดากานดา แต่เขาก็เลือกเก็บสิ่งเหล่านั้นไว้ในความทรงจำ และเดินหน้าต่อกับคนที่อยู่ตรงหน้า


นักแสดงนำ
- ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์ รับบท "หมู" หรือ "ไข่ย้อย"
- ศิรพันธ์ วัฒนจินดา รับบท "ดากานดา"
- มณีรัตน์ คำอ้วน รับบท "นุ้ย"

สำหรับท่านที่สงสัยว่า มันเกี่ยวกับการเงินตรงไหน...
ไม่เกี่ยวจ้า


ภาพและข้อมูลจาก เพจ Fun Manager








สรุปเรื่องราว ๙ ปีหลังจาก “เพื่อนสนิท”

เชื่อว่าหลายคนคงได้ชม MV เพลง I'm ok // not ok ของพี่บอย โกสิยพงษ์กันไปแล้ว จนเป็นกระแสย้อนระลึกถึงหนังเรื่อง "เพื่อนสนิท" ท่วม timeline

ส่วนตัวรักหนังเรื่องนี้มากเลยครับ เป็นหนึ่งในเรื่องที่ทำให้ผมได้แต่งงานกับภรรยา และรักกันจนถึงวันนี้

แต่เชื่อว่าหลายคนที่ได้ดูหนังเรื่องเพื่อนสนิท อาจจะสงสัยว่า สรุปแล้วไข่ย้อยกลับไปหาดากานดาหรือเปล่า? หรือคบกับนุ่นที่เกาะพะงัน?

จริง ๆ แล้วดากานดารู้สึกยังไงกับไข่ย้อยกันแน่ และความหมายของคำว่า "แกมาทำอะไรเอาตอนนี้" ดากานดาหมายความว่ายังไง?

วันนี้เลยขอมาเล่าเรื่องราวจริง ๆ ที่เกิดขึ้น ๙ ปีหลังเหตุการณ์ "เพื่อนสนิท" ให้ได้อ่านกันครับ
[Spoil เนื้อหาจากหนังสือ ไข่ย้อย ดากานดา (๒๕๖๐)]

๙ ปีหลังเหตุการณ์เพื่อนสนิท ::
(ความเดิมตอนที่แล้ว)
- หลังจากไข่ย้อยบอกรักดากานดา ที่หลังมหาลัย และเธอก็ตอบมาว่า "แกมาทำอะไรเอาตอนนี้"
- ไข่ย้อยเศร้ามาก เลยหนีไปเกาะพะงัน และได้พบกับพยาบาลสาวสวยชื่อนุ่น (ในหนังใช้ชื่อว่านุ้ย)
- ไข่ย้อยเขียนจดหมายมาถึงดากานดา และเธอก็ได้เปิดอ่านมัน

(ต่อมา)
- ดากานดาเลิกกับโก้แล้ว แต่ก็ยังไม่ได้คบกับใคร ยิ่งได้อ่านจดหมายของไข่ย้อยยิ่งทำให้เธอหวั่นไหว
- ใช่ครับ ดากานดารักไข่ย้อยมากเหมือนกัน (เย่) เพียงแต่ช่วงเวลามันไม่ได้เลยกับทั้งสองคน
- ดากานดาไม่ได้เจอไข่ย้อยอีกเลย เธอหวังว่าจะได้เจอไข่ย้อยในวันรับปริญญา แต่ไข่ย้อยก็ไม่ได้มา
- ไข่ย้อยตัดสินใจคบกับนุ่น แต่คบกันได้สักพักหนึ่ง ก็พบว่าคุณแม่เป็นมะเร็ง ไข่ย้อยเลยต้องกลับไปดูแลคุณแม่ที่ป่วย

- ไข่ย้อยยังคงมีใจให้กับดากานดา ระหว่างที่ดูแลแม่ที่ป่วย เขาก็ทิ้งนุ่นไปซะงั้น
- นุ่นที่เสียใจ ก็ไปพบรักใหม่เป็นคุณหมอ (น่าจะโรงพยาบาลเดียวกัน) พร้อมแต่งงานและตั้งท้องในเวลาต่อมา
- หลังเรียนจบ ดากานดาได้ทุนไปเรียนต่อที่ประเทศเช็ก (Czech)
- ไข่ย้อยพอได้รู้ข่าวว่าดากานดาไปเรียนต่อ ก็ตัดสินใจขายบ้านที่กรุงเทพฯ แล้วตามไปที่เช็ก แต่ไม่บอกดากานดา

- ไข่ย้อยวาดภาพสีน้ำมันไปเรื่อย ๆ ระหว่างที่อยู่ที่เช็ก หวังว่าสักวันจะได้เจอดากานดา
- เขาได้แต่วาดภาพไปวัน ๆ จนวันหนึ่งเขาก็ไปเจอผู้หญิงใส่เสื้อโค๊ตสีแดงถือร่มอยู่ คล้ายกับดากานดามาก แต่เธอก็เดินจากไป
- ไข่ย้อยรีบกางผ้าใบออกมาวาดภาพ ก่อนจะลืมจากความทรงจำ
- ใช่ครับ ผู้หญิงคนนั้นคือดากานดา และภาพผู้หญิงถือร่ม คือภาพปกของหนังสือเล่มนี้
- ตลอดเวลาที่ดากานดาเรียนที่เช็กจนจบ ทั้งสองคนไม่ได้เจอกันเลย

- ต่อมาดากานดากลับมาเมืองไทย มาเป็นอาจารย์อยู่ที่มช.
- เธอได้เจอกับพี่ต้อง ศิลปินนักวาดที่เชียงใหม่ และคบกันเป็นแฟน
- พี่ต้องมีลูกติดกับภรรยาคนเก่า ชื่อไอลิ แต่ลูกอยู่กับภรรยาที่เมืองนอก
- ทั้งสองคนคบกันปีครึ่ง จนพี่ต้องขอแต่งงาน แต่ดากานดาไม่ได้ตอบ จนพี่ต้องบอกแล้วแต่ดากานดาตัดสินใจ แต่ก็สวมแหวนให้เธอ เหมือนจองไว้ก่อน

- ไข่ย้อยวาดภาพเยอะมาก ๆ ที่เช็ก จนวันนึงได้รับติดต่อจากมหาลัยเชียงใหม่ ให้มาจัดนิทรรศการภาพเป็นครั้งแรก
- ไข่ย้อยกลับมาเชียงใหม่ เอาภาพวาดทั้งหมดมาจัดแสดง ซึ่งงานจัดช่วงเดียวกับงานคืนสู่เหย้าศิษย์เก่ามช. พอดี
- เขาตั้งชื่อภาพที่วาดหญิงคนที่น่าจะเป็นดากานดาว่า "ข้างหลังหญิงสาวในเสื้อโค้ตสีแดงเชอร์รีที่ดูเหมือน"

- ระหว่างที่ไข่ย้อยกำลังจัดอุปกรณ์อยู่ ก็ได้เจอกับดากานดา ที่มาพร้อมกับพี่ต้อง
- ดากานดาแนะนำพี่ต้อง แต่ไม่กล้าพูดว่าเป็นแฟน จนพี่ต้องพูดเรื่องอื่นแก้เขิน แต่ก็แอบกังวลในใจ
- เธอไปเจอภาพผู้หญิงใส่เสื้อแดง แล้วก็ตกใจว่าในภาพนั่นคือเธอตอนที่อยู่เช็ก
- ยิ่งได้อ่านชื่อภาพวาด เธอยิ่งตกใจ และเพิ่งได้รู้ว่าไข่ย้อยตามเธอไปที่เช็กด้วยตลอดช่วงที่เธอเรียนต่อ
- ในงานเลี้ยงศิษย์เก่า ไข่ย้อยได้ร้องเพลง "โปรดเถิดดวงใจ" เพลงเดิมที่เคยร้องให้ดากานดาฟัง

- หลังจบงาน ทั้งสองคนไปเจอกันโดยบังเอิญที่หลังมหาลัย มีอาการเมาเล็กน้อย
- ทั้งคู่คุยกันในบรรยากาศโรแมนติก ไข่ย้อยถามว่าทำไมถึงพูดประโยค "แกมาทำอะไรเอาตอนนี้" หมายความว่าอะไร
- ดากานดาพูดเลี่ยง บอกตอนนั้นแค่ Poppy Love กับโก้นะ แต่ก็เลิกกันไปนานแล้ว และก็เพิ่งไปงานแต่งของโก้มา
- แต่ก็ตบท้ายว่าเธอรอคอยไข่ย้อยในวันรับปริญญานะ

- ไข่ย้อยเล่าเกี่ยวกับหนังสือ "เพื่อนเก่า" ที่เป็นเรื่องหนุ่มสาวชอบกันสมัยมหาลัยแล้วกลับมาเจอกัน
- ในหนังสือเพื่อนชายขอจับนมเพื่อนสาว ไข่ย้อยเลยขอจับนมดากานดา (ไช่ครับ เขาขอจับนมกันจริง ๆ)
- ดากานดาจับมือไข่ย้อยมาวางแถว ๆ หัวใจ แล้วบอกว่านี่เป็นของขวัญสำหรับ ๙ ปีที่หายไป (ในหนังสือ ฉากนี้คืออีโรติคมากกกก)

- ไอรินลูกของพี่ต้อง มาอยู่ด้วยที่เชียงใหม่ และก็ชวนทุกคนไปเที่ยวปาย
- ที่ปายเกิดเรื่องขึ้น เมื่อไข่ย้อยที่เดินเล่นในช่วงกลางดึก เดินมาเจอเต็นท์ของดากานดา เขาเลยเข้าไปนั่งมองหน้าคนรัก (เหมือนฉากที่นับ ๑ - ๑๐ ในหนัง)
- ปรากฏว่าไอรินมาเจอ แล้วหึงแทนพ่อ เลยตะโกนบอกว่าทั้งสองคนจูบกัน
- วงแตก ทุกคนแยกตัวกลับบ้าน แต่ทิ้งให้ต่อมาดากานดาก็เริ่มมีปัญหากับพี่ต้อง

- กลับเชียงใหม่ พี่ต้องไปเคลียร์กับดากานดา เขารู้ว่าเธอยังรักไข่ย้อยอยู่ เลยขอแหวนกลับคืนมา แล้วขอให้เธอกลับไปคิดตัดสินใจ
- ปรากฏว่าแม่ของไอริที่กำลังจะมาเยี่ยมที่เชียงใหม่ เกิดเหตุเครื่องบินตกเสียชีวิต
- พี่ต้องเลยตัดสินใจเลือกพาไอริกลับไปอยู่เยอรมัน และขอเลิกกับดากานดา

- หลังจากไปส่งพ่อลูกที่สนามบิน ระหว่างทางกลับ ไข่ย้อยบอกรักดากานดาอีกครั้ง
- ดากานดาได้ยิน ก็เล่าให้ฟังว่า ตอนที่เธอเกิดอุบัติเหตุจนเกือบตายเมื่อหลายปีก่อน คนที่เธอเห็นในความทรงจำ คือไข่ย้อย
- แล้วดากานดาก็บอกว่าเธอรักไข่ย้อยมาตลอด ขอให้อย่าจากเธอไปไหนอีก
- ทั้งคู่ก็ได้รักกันหลังจากนั้น
จบ.

ในส่วนของ MV เพลง I'm ok // not ok ผมคิดว่าพี่บอยไม่ได้ต้องการให้เรื่องราวเป็นแบบในหนังสือภาคต่อซะทีเดียว เพราะจากใน MV คือดากานดามาเจอไข่ย้อยที่กรุงเทพฯ (มีการพูดกันเรื่องไปอยู่เชียงใหม่)

แต่มุมที่คล้ายหนังสือ ก็จะเห็นว่ามีภาพวาดดอกไม้ของไข่ย้อยวางอยู่โดยรอบ ซึ่งก็คล้ายกับในหนังสือเรื่องงานนิทรรศการเหมือนกัน สำหรับใครที่สนใจหนังสือ "ไข่ย้อย ดากานดา" ผมแปะ link ไว้ใต้คอมเม้นนะฮะ (MV : I’m OK / I’m not OK) หนังสือดีมาก แนะนำเลยครับ

Note: หนังสืออ่านมานานมากแล้ว บางส่วนอาจจะลืมหรือเบลอ ๆ ไปบ้างนะครับ ขออภัย

ใน MV พี่บอยเล่าว่า เพลงนี้เป็นการออกแบบเสียงร้องของ ๒ คน ให้ออกมาเหมือนมาจากคนละมิติ เครื่องดนตรีก็เป็นเปียโนแบบ ๔ มือ เป็นงานเพลงที่ซับซ้อนมาก
ถ้าใครมีคำถามเรื่องความรู้สึกของดากานดาที่มีต่อไข่ย้อย ท่อนนี้น่าจะสื่อได้ดีเลยครับ

ฉันคิดถึงเธอมาก
อยากให้เธอรู้คิดถึงมาก ๆ
อยากระบาย
อยากให้รับฟัง
เรื่องทุก ๆ อย่างที่อยู่ข้างใน
ฉันคิดถึงเธอมาก แต่ไม่อยากทำให้เธอหวั่นไหว
ได้แต่กลั้นหายใจ และตอบเธอไป
ทางนี้ฉันโอเคเลย


ภาพและข้อมูลจาก เพจ Khajochi’s Blog









“ความทรงจำที่คิดถึง”
ดากานดา และ ไช่ย้อย
ตัวละครในหนังสือเล่มนี้
“กล่องไปรษณีย์สีแดง”

และตัวละครในภาพยนตร์
“เพื่อนสนิท”
ที่โด่งดังมากเมื่อ ๒๐ ปีที่แล้ว

ฉาก แสงสีเสียง บรรยากาศ
ความหนาวอุ่นของ “เมืองเชียงใหม่”

ความรักสนุกซึ้งซึมลึกของเฟรชชี่ปี ๑
ดากานดาและไข่ย้อยที่ (แอบ) รักกัน

แต่สุดท้ายตอนจบ...ไม่ได้สวยงามตามท้องเรื่อง

ทั้งสองต้อง แ ย ก ย้ า ย
และ จ า ก ล า กันไปอย่างเงียบ ๆ
มีเพียง “ไปรษณียบัตร”
ที่เขียนส่งข้อความไปไถ่ถามสารทุกข์

“ความรัก” หลงเหลือ
เพียงสถานะ “เพื่อนสนิท”
ในช่วงวันวัยของการเติบโตในรั้วมหาวิทยาลัย

คิดถึงหนังสือเล่มนี้ “กล่องไปรษณีย์สีแดง”

คิดถึงดากานดา ไข่ย้อย
และหนังเรื่องนี้ “เพื่อนสนิท”

คิดถึงลมหนาว แดดอุ่น ฝนชุ่ม
ของเมือง “เชียงใหม่”


ภาพและข้อมูลจาก
เพจร้านเล่า










ทำไม “ไข่ย้อย” ไม่กลับไปหา ดากานดา ทั้งที่เขาก็รักเธอ?
ในภาพยนตร์ “#พื่อนสนิท” เราได้เห็น ๕ ฉบับของจดหมาย ที่ไข่ย้อยเขียนถึงดากานดา — ไม่ใช่แค่ตัวอักษร แต่คือเส้นทางของหัวใจ
จากความสับสน → การยอมรับ → จนถึงวันที่เขา “ปล่อยมือ”

จดหมายฉบับที่ ๑: ความคิดถึงที่เก็บไว้
“สบายดีหรือเปล่า เราไม่ค่อยสบายเลย..."
เริ่มต้นด้วยความห่วงใย และความคิดถึงที่ยังไม่กล้าบอกตรง ๆ
นี่คือฉบับของ “คนที่ยังไม่รู้จะวางหัวใจไว้ตรงไหน”
ไข่ย้อยยังติดอยู่ในอดีต ยังไม่รู้จะจัดการกับความรู้สึกอย่างไร

จดหมายฉบับที่ ๒: เริ่มยอมรับว่าคิดถึง
"เราไม่อยากเป็นเพื่อนกับแกแล้ว..."
เป็นจดหมายที่กล้าบอกความรู้สึกมากขึ้น แม้ยังคงพูดผ่านอารมณ์ทีเล่นทีจริง
นี่คือจดหมายที่เริ่มมี “ความเจ็บ” เพราะรู้ว่า ตัวเองรักเธอมากกว่าที่เป็นเพื่อน

จดหมายฉบับที่ ๓: ความรู้สึกชัดเจน แต่มาในวันที่สาย
"ถ้าบอกว่าเรารักแก แกจะทำหน้ายังไง?"
นี่คือจุดเปลี่ยน — ไข่ย้อยเริ่มกล้าถามคำถามสำคัญ
แต่เขาไม่ได้พูดตอนที่ยังมีโอกาส เขาพูดในจดหมาย...ในวันที่เขาหายไปแล้ว
ความกล้าเกิดขึ้น...ตอนที่โอกาสมันไม่มีเหลือแล้ว

จดหมายฉบับที่ ๔: การยอมแพ้ และเริ่มเข้าใจว่า...ควรปล่อย
"เวลาเราคิดถึงใคร เราควรกลับไปหาเขาใช่มั้ย?"
แต่ไข่ย้อยไม่ได้กลับไป...
เพราะเขาเริ่มเข้าใจแล้วว่า “ไม่ใช่ทุกความคิดถึงจะต้องมีคำตอบ”
นี่คือจดหมายที่แฝงความเศร้าลึกที่สุด — การยอมแพ้ต่อความรักครั้งแรกของชีวิต

จดหมายฉบับที่ ๕: ปลายทางของหัวใจที่เติบโต
"รักและคิดถึงดีไหม...ดากานดา"
ไม่มีคำอธิบาย ไม่มีเหตุผล ไม่มีการคร่ำครวญ
แค่บอก...แล้ววางไว้ตรงนั้น
นี่คือจดหมายที่ “ไม่ต้องการคำตอบ” อีกต่อไป
เขาเติบโตพอจะรู้ว่า บางครั้งการรักใคร อาจจบลงแค่...การได้คิดถึงอย่างเงียบ ๆ

แล้วทำไมเขาไม่กลับไปหาดากานดา?

เขารัก...แต่รู้ว่ามันไม่พอ
เขาเข้าใจว่า “ความรักไม่ใช่คำตอบเดียวของทุกอย่าง”
แม้เขาจะรักเธอ แต่เขาก็ไม่ใช่คนเดิมในวันเก่าอีกต่อไป
และดากานดาก็ไม่ได้อยู่ที่เดิมรอเขาเหมือนวันวาน

เขาเคยพลาด...และไม่อยากทำลายความทรงจำดี ๆ ด้วยการพยายามซ้ำ
การกลับไป...อาจไม่ได้ทำให้ความรักกลับมา
แต่จะทำให้ “ความทรงจำดี ๆ” กลายเป็น “ร่องรอยของความผิดหวัง”

เขาเติบโตแล้ว — และรู้ว่า ไม่ใช่ทุกความรักจะต้องมีบทสรุป
จดหมายฉบับที่ ๕ ไม่ได้ขออะไรจากดากานดาเลย
เขาแค่ “เขียน” เพื่อยืนยันว่า เขายังรักเธอ
แต่ไม่ต้องการให้เธอกลับมา

สรุป:
ไข่ย้อยไม่กลับไปหา “ดากานดา”
เพราะเขารักเธอในแบบที่ไม่ต้องครอบครอง
เขาเลือกเก็บเธอไว้ในจดหมาย ในความทรงจำ
และเดินหน้าต่อไป


ภาพและข้อมูลจาก เพจ LUI News สำนักข่าวลุย









ถ้าหากเป็นเรื่องจริง หากเป็นหนังแล้วเขียนตอนจบได้
นี่อาจจะเป็นความรักแบบทวินเฟรม :: ปล่อยให้กันไปเติบโต
ปล่อยให้ใช้ชีวิตแต่ยังคิดถึงกันมากเสมอ

ยังจำฉากสุดท้ายที่ดากานดาอ่านจดหมายไข่ย้อยได้ทุกตอน
เจ็บปวด ห่วงใย คิดถึง แต่อธิบายอะไรไม่ได้ ทำอะไรไม่ถูุก
และไม่รู้ว่าจะได้เจอกันอีกเมื่อไหร่
ไข่ย้อย:ต่อให้มีใครมากมายสุดท้ายในใจของเค้าทั้งหมดคือดากานดา
หญิงอันเป็นที่รักของเค้าคนเดียว

หากใครต้องเผชิญกับคู่ทวินเฟรมหรือเจอกับความห่างไกล
อย่าไปทำร้ายอีกฝ่ายด้วยการทำให้เขารู้สึกหนักอึ้งเพราะมีเรา
จงทำให้เค้าสบายใจ และให้เค้าเป็นคนแรกและคนสุดท้ายที่คิดถึง
เพราะไม่ว่ายังไง ความคิดถึงคือ “คิดถึง“
แล้ววันนึงจะได้กลับมาเจอกันกลับมาอยู่ด้วยกัน ตามคลื่นหัวใจ
#“ฉันคิดถึงเธอมาก อยากให้เธอรู้คิดถึงมาก ๆ ”
มีอะไรเล่าให้ฟังอยากระบายได้หมดเลย








ขอบคุณมาก ๆ ค่ะ

ไม่คิดเลยว่าจะมีคนรัก “เพื่อนสนิท” มากขนาดนี้ ไม่รู้จะอธิบายความรู้สึกที่ตื้นตันออกมาเป็นตัวหนังสือได้ยังไง แต่นุ่นรู้สึกแบบนี้จริงๆ วันนี้เหมือนนุ่นได้กลับมาเจอเพื่อนเก่า เจอเพื่อนที่ไม่ได้เจอมานาน กลับมาเจอคนที่คุ้นเคย เจอรุ่นพี่รุ่นน้องที่เคยมีช่วงเวลาดี ๆ ด้วยกัน
.
ถ้าข้อความที่นุ่นเขียน สามารถไปถึงใครหลาย ๆ คนได้ อยากบอกว่า นุ่นอ่านทุกข้อความที่ส่งมาให้ ที่อยู่ในเพจ ในทุกช่องทางต่าง ๆ มีน้ำตานุ่นมากมายอยู่ในนั้น

ขอบคุณที่ให้เกียรตินุ่นได้เป็นดากานดาในชีวิตของหลาย ๆ คนนะคะ ให้นุ่นได้อยู่ในชีวิตของพวกคุณ ก็ไม่คิดว่าตัวเองจะได้รับความรักจากการเป็นดากานดาได้ขนาดนี้

ขอบคุณพี่เอส คมกฤษ ขอบคุณ GTH ผู้ใหญ่ทุกท่านที่ให้โอกาสมอบบทนี้กับนุ่น ให้นุ่นได้ใช้ชีวิตเป็นเขา ขอบคุณพี่เงาะที่ทำให้นุ่นได้เป็นดากานดาในใจของคนดูได้ ขอบคุณเพื่อน ๆ คุณซันนี่ แม่โอป น้องเอ๋ พี่ดัมมี่ และทุกคนเบื้องหน้าและเบื้องหลัง ที่ช่วยกันทำให้ “เพื่อนสนิท”เป็นที่รักได้ขนาดนี้ เป็นหนึ่งในความทรงจำที่ดีของใครหลาย ๆ คน

ขอบคุณพี่บอย พี่ป๊อด น้องบิวกิ้น และที่ขาดไม่ได้คุณน้องพีทผู้กำกับ MV ที่เคลมตัวเองว่าเป็นรุ่นน้องดากานดา ที่ทำให้ช่วงเวลาของความทรงจำที่ดีกลับมา ขอบคุณมากจริง ๆ ค่ะ

แต่ทั้งหมดเนี่ยยยย…ขอบคุณซันนี่นะ ฉันนึกว่าแกจะไม่รับงานซะแล้ว ฉันเกือบลงตังค์แล้วนะ

ที่ผ่านมานุ่นในฐานะนักแสดง นุ่นภูมิใจกับทุก ๆ งานที่ทำนะคะ ถึงแม้ว่าอาจจะถูกใจบ้าง ไม่ถูกใจบ้าง ดีบ้าง ไม่เข้าท่าบ้างก็ตาม นุ่นก็มีช่วงเวลาที่ไม่ OK เหมือนกัน บางครั้งก็รู้สึกเศร้ามาก ๆ กับการเป็นนักแสดง บางครั้งรู้สึกถูกเกลียด บางครั้งก็ไม่มั่นใจว่าเรายังมีคุณค่าอยู่หรือเปล่า เคยคิดว่าจะอาจไม่ได้แสดงอะไรอีกแล้ว เพราะความไม่ OK ที่มันสะสมมา เราคงไม่ได้แข็งแกร่งแล้วก็เข้มแข็งตลอดเวลา ที่ทำได้ก็แค่หายไปหลบเลียแผลใจ ไปทำเรื่องอื่น ๆ บ้าง พอดีขึ้นแล้วค่อยกลับมา เพราะก็คิดถึงการแสดงจริง ๆ

แต่ช่วงเวลานี้ ขอบคุณมากจริง ๆ ที่ทำให้นุ่นรู้สึกว่ายังมีคนเห็นงานที่นุ่น ยังมีพื้นที่ให้นุ่นได้ทำสิ่งในที่นุ่นรัก แล้วมันก็ยังมีคุณค่าบางอย่างสำหรับคนดู ขอบคุณพลังงานที่มีให้กันนะคะ มันมีค่ามาก มากจริง ๆ ก็ไม่รู้ว่าวันข้างหน้ามันจะเป็นยังไง มันอาจจะมีงานที่ทำได้ไม่ดี ไม่เข้าท่า หรือไม่ถูกใจบ้าง ก็ต้องขออภัยใน ณ ที่นี้นะคะ

จะเก็บเอาความทรงจำช่วงเวลาดี ๆ นี้ไว้ จะถนอมไว้ในใจ ในวันที่ไม่ OK เมื่อไหร่ จะขอกลับมาอ่านทุกข้อความเพื่อเติมพลังนะคะ

รักและคิดถึงเสมอ
ดากานดาของทุกคน
(​ของนุ่นด้วย)


ภาพและข้อมูลจาก เพจ Noon Siriphun : GoodnoonDay









ไหน ๆ ทุกคนก็กลับมาคิดถึงหนัง "เพื่อนสนิท" กันล้นฟีดแล้ว

ขอชวนย้อนกลับไปเปิดสมุดเล่มโปรดของ "ไข่ย้อย" กับภาพวาด
ที่แม้แต่ "ดากานดา" ก็ยังไม่เคยเห็น

ซึ่ง GDH (GTH) รวบรวมภาพวาดของ “พี่แอร์-รัชชานนท์ ขยันงาน”
หนึ่งในทีมอาร์ตของภาพยนตร์เรื่อง “เพื่อนสนิท” เอาไว้
ตอนที่หนังมีอายุครบรอบ ๑๓ ปีครับ

#ชั้นรักแกหว่ะ
#แกมาทำอะไรเอาตอนนี้

ฉลอง ๒๐ ปี "เพื่อนสนิท" กับ MV "I'm ok // not ok"
ของ BOYdPOD feat. Billkin

หรือก็คือ พี่บอยด์ โกสิยพงษ์ พี่ป๊อด-ธนชัย อุชชิน และบิวกิ้น-พุฒิพงศ์

#เพื่อนสนิท #GTH
#ImOk_NotOk #BOYdPODxBillkin #BOYdPOD #Bbillkin
#bbdobangkok #FlareBangkok


























ภาพและข้อมูลจาก เพจปรากฏการณ์หนัง





บีจีและไลน์จากคุณญามี่ กรอบจากคุณ Hawaii_Havaii
Free TextEditor




 

Create Date : 25 มิถุนายน 2568
0 comments
Last Update : 25 มิถุนายน 2568 22:41:55 น.
Counter : 395 Pageviews.
(โหวต blog นี้) 

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณฟ้าใสวันใหม่, คุณทองกาญจนา, คุณThe Kop Civil, คุณหอมกร, คุณmcayenne94, คุณnonnoiGiwGiw, คุณสมาชิกหมายเลข 3902534, คุณทนายอ้วน, คุณปรศุราม, คุณนายแว่นขยันเที่ยว, คุณสองแผ่นดิน, คุณtoor36, คุณกะว่าก๋า, คุณดอยสะเก็ด, คุณ**mp5**, คุณอาจารย์สุวิมล, คุณEmmy Journey พากิน พาเที่ยว, คุณมาช้ายังดีกว่าไม่มา, คุณmultiple, คุณร่มไม้เย็น, คุณปัญญา Dh, คุณtuk-tuk@korat, คุณmariabamboo, คุณผู้ชายในสายลมหนาว


haiku
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 166 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add haiku's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.