happy memories
Group Blog
 
<<
กันยายน 2568
 
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
16 กันยายน 2568
 
All Blogs
 

นิทรรศการศิลปกรรมช้างเผือก ครั้งที่ ๑๔



รางวัลช้างเผือก
"ตะเพี๊ยนตะเพียน"
ศิลปิน คุณนิรัชพร น่วมเจิม




ศิลปกรรมช้างเผือกจัดประกวดมาตั้งแต่ ๑๔ ปีที่แล้ว นำผลงานมาจัดนิทรรศการที่หอศิลปกรุงเทพฯ และ กรมสมเด็จพระเทพฯ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ​ เสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดงานมาตลอด แต่ช่วงหลัง ๆ มานี้ไม่ค่อยได้ข่าวนิทรรศการบ่อยเหมือนช่วงปีแรก ๆ ปีนี้จัดประกวดในหัวข้อ "น้ำและความเปลี่ยนแปลง" (Water and Alteration) เสียดาย พอได้ข่าว งานก็จวนจะวายแล้ว ทั้งที่ตั้งใจไว้ดิบดีว่าจะไป แต่ลืมค่ะ แวะไปอีกที นิทรรศการก็จบไปเรียบโร้ย อยากจะอัพบล็อก เลยลองหารูปและข้อมูลในออนไลน์ดู โชคดี ใน เพจศิลปกรรมช้างเผือก ลงรูปไว้เยอะมาก แต่ข้อมูลน้อยไปหน่อย ต้องไปคว้ามาจากหลายเวบ ต้องขอบคุณช่างภาพของเพจศิลปกรรมช้างเผือกที่เก็บภาพมาเยอะได้ใจ แถมถ่ายได้สวยทุกรูปเลย

เมื่อวาน ๑๕ กันยายน เป็น “วันศิลป์ พีระศรี” บิดาแห่งศิลปะร่วมสมัยของไทย ครูนพแก้ว ประยูรเมธา และ ครูเบิร์ด Arthit Kannikar โพสภาพวาดครูศิลป์ที่งดงามมาก ขออนุญาต นำมาโพสไว้ในบล็อกเพื่อบูชา "ครูศิลป์ พีระศรี" ค่ะ







๑๕ กันยายน “วันศิลป์ พีระศรี” บิดาแห่งศิลปะร่วมสมัยไทย..
"ทุกคนมีความงาม นายต้องค้นให้พบ…
แม้แต่คนที่ขี้ริ้วขี้เหร่ที่สุด ก็อาจจะมี ความงามที่แอบซ่อนอยู่.."
เทคนิค ดิจิทัลเพ้นท์ โดย นพแก้ว ประยูรเมธา
จาก เพจนพแก้ว ประยูรเมธา




๑๕ กันยายน "วันศิลป์ พีระศรี"
พระวิชาความรู้ทางศิลปะสมัยใหม่
ที่ท่านอาจารย์ปลูกฝังไว้
ได้ออกใบออกดอกสวยงาม
ต่อมายังศิษย์รุ่นหลัง
...จึงวาดมาบูชาครู

ครูเบิร์ด
วาดภาพ
จาก เพจ Arthit Kannikar (ครูเบิร์ด)













นิทรรศการศิลปกรรมช้างเผือก ครั้งที่ ๑๔ ภายใต้หัวข้อ “น้ำและความเปลี่ยนแปลง” โดยบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) นำเสนอผลงานศิลปะที่ได้รับรางวัลและได้รับคัดเลือกให้ร่วมแสดง จำนวน ๕๒ ชิ้น แบ่งออกเป็น ผลงานที่ได้รับรางวัล จำนวน ๒๑ ชิ้น และผลงานคัดเลือกร่วมแสดง จำนวน ๓๑ ชิ้น จากผลงานที่ส่งเข้าประกวดทั้งสิ้น ๔๕๘ ผลงาน โดยในปีนี้ ผลงานที่ได้รับรางวัลช้างเผือก ได้แก่ ผลงาน “ตะเพี๊ยนตะเพียน” โดย คุณนิรัชพร น่วมเจิม

ทั้งนี้ นิทรรศการ “น้ำกับความเปลี่ยนแปลง” ริเริ่มขึ้นอันเนื่องมาจากความตระหนักถึงความสำคัญของน้ำ และผลกระทบของน้ำต่อสิ่งมีชีวิตทั้งหลาย โครงการศิลปกรรมช้างเผือกในปีนี้ จึงเป็นการเปิดโอกาสให้ศิลปินได้ตีความ “น้ำ” เพื่อสื่อสารแนวคิดในแง่มุมที่หลากหลาย และร่วมสร้างสมดุลโลกผ่านผลงานในแนวทางที่ถนัดของศิลปินแต่ละราย

โครงการประกวด “ศิลปกรรมช้างเผือก” โดยบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) จัดโครงการประกวดครั้งที่ ๑๔ ในหัวข้อ “น้ำกับความเปลี่ยนแปลง” อันเนื่องมาจากความตระหนักถึงความสำคัญของน้ำ และผลกระทบของน้ำต่อสิ่งมีชีวิตทั้งหลาย เพื่อให้ศิลปินได้สร้างสรรค์และสื่อสารแนวคิดร่วมสร้างสมดุลโลกผ่านผลงานของศิลปินแต่ละราย โดยคณะกรรมการ ๘ ท่าน ประกอบด้วย คุณฐาปน สิริวัฒนภักดี คุณกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร ศาสตราจารย์เกียรติคุณพิษณุ ศุภนิมิตร ศาสตราจารย์เกียรติคุณถาวร โกอุดมวิทย์ ศาสตราจารย์ญาณวิทย์ กุญแจทอง คุณนิติกร กรัยวิเชียร คุณต้องใจ ธนะชานันท์ และคุณมนุรดา พรชนะรักษ์ ได้ตัดสินให้ผลงาน “ตะเพี๊ยนตะเพียน” ได้รับรางวัลช้างผือก และรางวัลอื่นรวม ๒๑ รางวัล เพื่อจัดแสดงในนิทรรศการ ร่วมกับผลงานที่ได้รับคัดเลือกอีก ๒๙ ผลงาน จากผลงานที่ส่งเข้าประกวดทั้งสิ้น ๔๕๘ ผลงาน

ผลงานที่ได้รับรางวัลช้างเผือก ได้แก่ “ตะเพี๊ยนตะเพียน” โดย คุณนิรัชพร น่วมเจิม รับเงินรางวัล ๑,๐๐๐,๐๐๐ บาท รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ “Waterworld” โดย คุณเญอรินดา แก้วสุวรรณ รับเงินรางวัล ๕๐๐,๐๐๐ บาท รางวัลคุณหญิงวรรณา สิริวัฒนภักดี ได้แก่ “ธาราแห่งความงอกงาม” โดย คุณธีรพล สีสังข์ รับเงินรางวัล ๔๐๐,๐๐๐ บาท รางวัล CEO AWARD ได้แก่ “จุดเริ่มต้น – Genesis” โดย คุณนารา วิบูลย์สันติพงศ์ รับเงินรางวัล ๒๕๐,๐๐๐ บาท นอกจากนี้ยังมีรางวัลรองชนะเลิศ ๕ รางวัล รางวัลละ ๒๐๐,๐๐๐ บาท ประกอบด้วย คุณพงศ์ศิริ คิดดี คุณสิทธิพนธ์ เลาะไชยสงค์ คุณอนันต์ยศ จันทร์นวล คุณธีรพล โพธิ์เปี้ยศรี คุณบุญมี แสงขำ และรางวัลชมเชยอีก ๑๒ รางวัล รางวัลละ ๑๐๐,๐๐๐ บาท รวมเงินรางวัลทั้งสิ้น ๔,๓๕๐,๐๐๐ บาท

คุณนิติกร กรัยวิเชียร ผู้อำนวยการโครงการส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) และคณะกรรมการตัดสิน กล่าวว่า “การประกวดศิลปกรรมช้างเผือก เกิดจากความตั้งใจอันดีของ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเฟ้นหาศิลปินไทยรุ่นใหม่ที่มีทักษะความสามารถทางศิลปะอันโดดเด่น ในการสร้างสรรค์ศิลปะแบบเหมือนจริง (Realistic) และศิลปะรูปลักษณ์ (Figurative Art) โดยยึดถือความเหมือนจริงเป็นแก่นสำคัญเพื่อให้ผลงานศิลปะเหล่านี้เป็นอีกหนึ่งแนวทางที่สำคัญ ในการเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจด้านศิลปะร่วมสมัยให้ขยายไปสู่การรับรู้ของสังคมในวงกว้าง การดำเนินการประกวดศิลปกรรมช้างเผือก เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๕๔ และดำเนินงานต่อเนื่องเรื่อยมาเป็นประจำทุกปี โดยในปี พ.ศ. ๒๕๖๘ นับเป็นการจัดการประกวดครั้งที่ ๑๔ ‘น้ำกับความเปลี่ยนแปลง’ เพื่อให้ศิลปินผู้สร้างสรรค์ผลงานศิลปะได้แสดงฝีมือและความคิดสร้างสรรค์ โดยตีความจากโจทย์ที่กำหนดให้ ซึ่งศิลปินที่เข้าร่วมประกวดแต่ละคน ก็ต่างสร้างสรรค์ผลงานที่น่าสนใจในรูปแบบและแนวทางที่แตกต่างได้อย่างน่าประทับใจ และได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี

คุณกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร คณะกรรมการตัดสิน กล่าวว่า “น้ำกับความเปลี่ยนแปลงเกี่ยวข้องกับเรื่องของสิ่งแวดล้อม เพราะว่าธรรมชาติที่สำคัญที่สุดก็คือน้ำ น้ำเป็นสิ่งที่ให้ชีวิต ซึ่งเป็นหน้าที่ของทุกคนที่ต้องช่วยกันดูแลน้ำและสิ่งแวดล้อม ภาพรวมของผลงานในปีนี้มีความรู้สึกว่างานมันมีความสุข มันมีอะไรที่เป็นเชิงบวกมากขึ้น ถึงแม้ว่าในแง่ของประเด็นน้ำ ยังเป็นประเด็นในสังคม แต่คิดว่างานที่ได้รับรางวัลช้างเผือก มั่นใจว่าทุกคนมองมา ต้องอมยิ้มไม่ว่าจะด้วยเสียงเพลง หรือการเล่นกับไฟ ถ้าเกิดเรามองลึกเข้าไปในรายละเอียด จะเห็นเด็กที่มาเล่นน้ำ มีคนหลากหลายอายุที่สะท้อนให้เห็นว่า ชีวิตวิถีของคนไทยอยู่กับน้ำมาโดยตลอด”

ศาสตราจารย์เกียรติคุณพิษณุ ศุภนิมิตร คณะกรรมการตัดสิน กล่าวว่า “น้ำคือ ๗๐% ของโลกใบนี้ น้ำมีความสำคัญมาก แม้แต่ในร่างการของมนุษย์ น้ำก็มี ๗๐% เหมือนกัน ผมคิดว่าศิลปินหรือคนทำงานศิลปะ มีจิตสำนึก ซึ่งเป็นหัวข้อในปีนี้คือจะทำอย่างไรที่จะทำให้น้ำยังคงอยู่บนโลกนี้ ภาพรวมของผลงานในปีนี้ เราจัดงานศิลปกรรมช้างเผือกครั้งที่ ๑๔ แล้ว เพราะฉะนั้นงานที่เราได้รับในปีนี้ มีทั้งคนเก่าและคนใหม่ เรามองถึงบุคลิกภาพของศิลปินแต่ละคนจะเห็นถึงพัฒนาการของศิลปินทำให้เรารู้สึกดีใจ ในวันนี้เป็นปีที่ภูมิใจอาจจะเป็นเพราะว่างานของเราเป็นงานที่เหมือนจริง แต่เราต้องคิดว่างานศิลปะทุกชิ้น ทั้งงานที่เหมือนจริง กับนามธรรม ผสมกันอยู่ทั้งสองอย่างนี้สำคัญที่สุด เพราะฉะนั้นงานที่ดี ฝีมือดี ทักษะดี ต้องมีความคิดด้วย อันนี้สำคัญที่สุด”

ศาสตราจารย์เกียรติคุณถาวร โกอุดมวิทย์ คณะกรรมการตัดสิน กล่าวว่า “ในปีนี้หัวข้อเรื่องน้ำ ศิลปินสามารถถ่ายทอดหรือแสดงออกตามอัตลักษณ์ของแต่ละคนออกมาได้ดี ภาพรวมผมคิดว่าผลงานดีขึ้นทุกปี ในปีนี้เราได้เห็นผลงานหลายชิ้นที่มีเอกลักษณ์ลักษณะโดดเด่น โดยเฉพาะผลงานที่ได้รับรางวัลช้างเผือก มีลักษณะเป็นสามมิติ แสดงถึงแสงสีเสียง และความสนุกสนาน ที่สำคัญที่สุดคือมีลักษณะการเล่นและอัตลักษณ์ที่มีความเป็นไทยเป็นที่น่าชื่นชม สำหรับความสำเร็จของโครงการฯ คือการพัฒนาหรือต่อยอดทักษะของศิลปินบ้านเรา และเรื่องของผลงานศิลปะที่คนเฝ้ามองมากที่สุด เพราะจัดต่อเนื่องมา ๑๔ ปีแล้ว คือการสร้างสรรค์ศิลปะแบบเหมือนจริง (Realistic) และศิลปะรูปลักษณ์ (Figurative Art) อาจจะเป็นเวทีเดียวในประเทศไทย”

ศาสตราจารย์ญาณวิทย์ กุญแจทอง คณะกรรมการตัดสิน กล่าวว่า “น้ำกับความเปลี่ยนแปลง เป็นหัวข้อที่เชื่อมโยงได้เยอะมากซึ่งเป็นหัวข้อที่น่าสนใจ ผมคิดว่าน้ำเกี่ยวข้องกับความเป็นไทย เช่นประเพณีสงกรานต์ ประเพณีลอยกระทง เป็นต้น ในขณะเดียวกันปัจจุบันก็มีเรื่องของสิ่งแวดล้อมสมัยใหม่ อาคารบ้านเรือนที่มีความเจริญ การแสดงงานในครั้งนี้ศิลปินพยายามสะท้อนความหลากหลาย เพราะฉะนั้นการจัดนิทรรศการในครั้งนี้ ทำให้ศิลปินสามารถแสดงออกด้วยเทคนิคและจินตนาการที่มีความหลากหลาย และเป็นนิทรรศการที่มีความน่าสนใจมาก”

ข้าพเจ้านำเรื่องราวความประทับใจในกิจกรรมการลงแขกเกี่ยวข้าวของสังคมชนบทอีสานของตนเอง มาเป็นแรงบันดาลใจ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์วิถี สร้างสรรค์ผลงานศิลปะร่วมสมัยผ่านเทคนิคกระบวนการเย็บปักเส้นด้าย ร้องเรียงเรื่องราวความรัก ความสัมพันธ์ ผสานพลังความสามัคคี ก่อเกิดความสุขของการร่วมแรงร่วมใจช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ภายใต้การใช้ชีวิตที่เรียบง่าย สามารถปรับประยุกต์วิถีชีวิตให้เข้ากับสภาพสังคมที่เปลี่ยนแปลงไปได้อย่างกลมกลืน โดยยึดตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวง รัชกาลที่ ๙ ที่ตรัสถึง “ความพอเพียงสร้างได้ก็ต่อเมื่อคนในชุมชนช่วยเหลือเกื้อกูลกัน” เป็นประโยคที่จุดประกายความคิดให้ข้าพเจ้าเล็งเห็นถึงการมีส่วนร่วมจากส่วนรวม เพื่อสร้างสรรค์และสานสัมพันธ์ชุมชนไทยให้ยั่งยืนสืบไป

นิทรรศการศิลปกรรมช้างเผือก ครั้งที่ ๑๔ จัดแสดงผลงาน “น้ำกับความเปลี่ยนแปลง” ณ ชั้น ๙ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานครถึงวันที่ ๑๑ พฤษภาคม ๒๕๖๘ โดยสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณ เสด็จพระราชดำเนินมาทรงเป็นองค์ประธานเปิดงานแสดง และพระราชทานรางวัล ในวันที่ ๗ พฤษภาคม ๒๕๖๘ นอกจากนี้ผลงานบางส่วนนำไปจัดแสดงให้ชมอีกครั้งในงาน SX2025 ระหว่างวันที่ ๒๖ กันยายน – ๕ ตุลาคม ๒๕๖๘



















































ุุ






















































รางวัลช้างเผือก
"ตะเพี๊ยนตะเพียน"
ศิลปิน คุณนิรัชพร น่วมเจิม
เทคนิค สื่อผสมจากไม้ อะคริลิค มอเตอร์ ไฟ LED
ไม้ไผ่เก่าจากอุปกรณ์หาปลา เสียงดนตรี
ขนาด ๑๗๒ x ๑๗๒ x ๑๖๑ ซม.


“ปลาตะเพียนสาน” สัญลักษณ์แห่งความอุดมสมบูรณ์ของสายน้ำที่เคยนำพาเรื่องราว วิถีชีวิตอันรื่นรมย์ จากวิถีชีวิตริมฝั่งที่เคยรุ่งเรือง สู่กระแสแห่งการเปลี่ยนแปลงที่พัดพาความทรงจำให้เลือนราง เมื่อเครื่องมือหาปลาจากไม้ไผ่ สัญลักษณ์แห่งภูมิปัญญาพื้นบ้าน กลายเป็นเพียงเงาสะท้อนในกระจกแห่งอดีต วันหนึ่งมันอาจคงอยู่เพียงใน "พิพิธภัณฑ์” เพื่อเป็นวัตถุที่บอกเล่าเรื่องราวอันล้ำค่าต่อไป


















รางวัลชนะเลิศ
"Waterworld"
ศิลปิน คุณเญอรินดา แก้วสุวรรณ
เทคนิค เย็บปักถักร้อยเส้นด้าย
ขนาด ๑๗๕ x ๑๓๕ ซม.


ปัจจุบัน วัฏจักรของน้ำเกิดวิกฤต ส่งผลต่อเศรษฐกิจและสภาพภูมิอากาศ เป็นผลกระทบต่อสมดุลของระบบนิเวศและสิ่งมีชีวิต สิ่งนี้เป็นแรงบันดาลใจให้ข้าพเจ้าถ่ายทอดผลงานผ่านเทคนิคเย็บ ปัก ถัก ร้อย ในรูปแบบสองมิติ ค่อย ๆ ถักทอ เรียงร้อยจากจุดเล็ก ๆ จนเกิดเป็นภาพผลงาน คล้ายสายสัมพันธ์ระหว่างน้ำและสิ่งมีชีวิต สอดแทรกความหมายเชิงสัญญะ สะท้อนให้ผู้คนตระหนักถึงความสำคัญของน้ำ ผ่านจินตนาการเรื่องราวความสัมพันธ์จากโลกใต้น้ำที่ต่างคนต่างพึ่งพิงอิงอาศัยและโอบอุ้มกัน เป็นเสมือนบ้านอีกหลังที่เราทุกคนต้องเรียนรู้ ดูแล และปรับตัวเมื่อเผชิญวิกฤต ข้าพเจ้าอยากรณรงค์ให้ทุกคนใส่ใจและเห็นคุณค่าของน้ำ เพราะทุกหยดน้ำ คือสายใยที่เชื่อมโยงเราเข้าด้วยกันอย่างสมดุลและมั่นคง














รางวัลคุณหญิงวรรณา สิริวัฒนภักดี
"ธาราแห่งความงอกงาม"
ศิลปิน คุณธีรพล สีสังข์
เทคนิค ถักเส้นใยโลหะและสื่อผสม
ขนาด ๙๐ x ๑๐๐ x ๑๘๐ ซม.


นิเวศใบนี้จะไร้ซึ่งชีวิต จิตวิญญาณ และความรู้สึก หากขาดชลธารที่นำมาซึ่งการหล่อเลี้ยง เจริญเติบโต งดงาม ผลิดอก ออกผล แผ่ขยาย ต้นไม้หนึ่งต้นหากได้ดูดซับน้ำอันบริสุทธิ์จะงอกงาม แผ่กิ่งก้านใบ กระจายเมล็ดพันธุ์อันแข็งแกร่งออกไป จนกลายเป็นนิเวศที่กว้างใหญ่ เป็นที่พักพิง เป็นที่อยู่อาศัยของสรรพสิ่ง


















รางวัล CEO Award
"จุดเริ่มต้น - Genesis"
ศิลปิน คุณนารา วิบูลย์สันติพงศ์
เทคนิค สื่อผสม
ขนาด ๑๐๕ x ๘๐ x ๑๒๐ ซม.


จุดเริ่มต้นของสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ บนโลกนั้นเกิดจากน้ำ น้ำในโลกมีปริมาณมากถึงสามในสี่ส่วน เเต่น้ำที่เราสามารถนำมาใช้สอยได้ก็เริ่มมีปริมาณน้อยลงเเละขาดสมดุล เพราะเราไม่ดูเเลน้ำ ใช้น้ำสิ้นเปลือง ทิ้งขยะลงทะเล แม่น้ำ ลำคลอง ปล่อยน้ำเสีย ปล่อยสารพิษ จนเกิดน้ำเน่าเสีย เเละเกิดภาวะโลกร้อน

ผลงานชิ้นนี้อยากสื่อสารให้เห็นว่า ในอนาคตเราอาจจะต้องกลับไปสู่จุดเริ่มต้นอีกครั้ง ในจุดที่เราไม่มีน้ำสะอาดใช้สอยได้ตามความต้องการอีกต่อไป เพราะน้ำเกิดความเปลี่ยนเเปลง เครื่องจักรขนาดใหญ่นั้นสื่อถึงสิ่งสำคัญที่เรามองข้ามไปจนกลายเป็นปัญหาที่เกินจะเเก้ไข เครื่องจักรมีความซับซ้อน ยุ่งเหยิง เเทนค่าถึงปัญหาที่ไม่สามารถเเก้จากจุดเดียวได้อีกต่อไป จากที่เราสามารถช่วยกันดูเเลน้ำตอนที่ยังมีน้ำอยู่ได้ เรากลับต้องใช้เครื่องจักรเเละเทคโนโลยีมากมายเพื่อเปลี่ยนให้น้ำที่ปนเปื้อนจากขยะ สารเคมี สารพิษ กลับมาใช้ได้อีกครั้ง เพราะตอนที่มีน้ำมหาศาล เรากลับไม่ได้รักษาไว้ ดังนั้น ก่อนที่เราจะไปถึงจุดนั้น เราจึงควรที่จะรู้คุณค่า เเละรักษาน้ำในตอนนี้ ก่อนที่จะกลับไปสู่จุดเริ่มต้นอีกครั้ง














รางวัลรองชนะเลิศ
"ภาพสะท้อนบนผืนน้ำกับการเชื่อมโยงวัฒนธรรม"
ศิลปิน คุณพงศ์ศิริ คิดดี
เทคนิค ภาพพิมพ์ตะแกรงไหม
ขนาด ๑๘๐ x ๒๐๐ ซม.


ข้าพเจ้าต้องการนำเสนอเรื่องราวของน้ำในรูปแบบของภาพสะท้อนบนพื้นน้ำ ที่ให้ความรู้สึกไม่หยุดนิ่ง เคลื่อนไหว แปรเปลี่ยน ผันแปรอยู่ตลอดเวลา ก่อให้เกิดจินตนาการจากการรับรู้ทางสายตา ด้วยบรรยากาศของสีที่ก่อให้เกิดความงามอย่างน่ามหัศจรรย์ โดยต้องการสะท้อนเรื่องราวความเชื่อมโยงทางวัฒนธรรม ด้วยวิถีชีวิตแห่งสายน้ำ ผ่านรูปทรงของสถาปัตยกรรมล้านนาและรัตนโกสินทร์ จากอดีตสู่ปัจจุบัน














รางวัลรองชนะเลิศ
"น้ำฝน"
ศิลปิน คุณสิทธิพนธ์ เลาะไชยสงค์
เทคนิค สีฝุ่นเรืองแสงบนผ้าใบ
ขนาด ๑๘๐ x ๑๔๐ ซม.


ผลงานจิตรกรรมสีฝุ่นเรืองแสงถ่ายทอดวัฏจักรแห่งน้ำ ผู้ให้กำเนิดและหล่อเลี้ยงชีวิต ยามกลางวัน สายน้ำโปรยปรายจากท้องฟ้าสู่ผืนป่า ไหลหลากสู่มหาสมุทร เติมเต็มความอุดมสมบูรณ์ให้พืชพรรณและสรรพชีวิต น้ำในอากาศรวมตัวเป็นละอองไอ สะสมพลังงานแสงอาทิตย์และออกซิเจน เกิดเป็นสายฝนหล่อเลี้ยงโลก เมื่อรัตติกาลมาเยือน เส้นสายเรืองแสงเผยให้เห็นเครือข่ายธารน้ำและไอหมอก ล่องลอยประหนึ่งลมหายใจของธรรมชาติ วัฏจักรนี้ดำเนินไปอย่างเงียบงันไม่รู้จบ ดั่งบทกวีที่สรรเสริญความสมดุลของชีวิต สะท้อนพลังแห่งการดำรงอยู่ที่แฝงเร้นในทุกอณูบนโลกใบนี้














รางวัลรองชนะเลิศ
"จงเป็นเช่นน้ำและเบ่งบานดั่งดอกบัว"
ศิลปิน คุณอนันต์ยศ จันทร์นวล
เทคนิค สีน้ำมันและสีอะคริลิคบนผ้าใบ
ขนาด ๑๙๓ x ๑๙๓ ซม.


ผลงานชิ้นนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากจิตรกรรมฝาผนังปริศนาธรรมของช่างฝีมือ ขรัวอินโข่ง ณ วัดบรมนิวาสราชวรวิหาร ชึ่งนำมาตีความใหม่ผ่านมุมมองความคิดที่มีต่อการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและตลอดเวลาในยุคสมัยปัจจุบัน ที่ก่อให้เกิดสภาวะความกดดันต่อผู้คนในสังคมโลกเป็นอย่างมาก กระผมจึงอยากให้ทุกคน 'จงเป็นเช่นน้ำ' เพราะชีวิตคนเรานั้นมีทั้งความสุขและความทุกข์ มีหัวเราะและโศกเศร้า มีเกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นวัฏจักรของชีวิตที่ไม่อาจหนีพ้น เปรียบกับแรงกระเพื่อมของน้ำที่มีขึ้นและมีลงตามจังหวะ เป็นธรรมชาติของชีวิตและจิตใจ และ 'จงเบ่งบานดั่งดอกบัว' ถ้าเรายึดหลักความจริง ความดี ความงาม เป็นที่ตั้งด้วยสติและปัญญา เราจะอยู่ในสังคมโลกได้อย่างเข้าใจ และยอมรับสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นอย่างงดงาม เบ่งบาน ด้วยความสุข ความหวัง และพลังในการดำเนินชีวิตต่อไป














รางวัลรองชนะเลิศ
"โพน" สายธารแห่งชีวิต
ศิลปิน คุณธีรพล โพธิ์เปี้ยศรี
เทคนิค ภาพพิมพ์แกะไม้
ขนาด ๑๗๐ x ๑๒๓ ซม.


การสะท้อนความงดงามของพื้นที่อุดมสมบูรณ์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ภูมิทัศน์ที่หล่อเลี้ยงชีวิตและวัฒนธรรม ในดินแดนอีสาน พื้นที่เช่นนี้ถูกเรียกว่า “โพน” เนินดินที่โอบอุ้มต้นไม้ พืชพรรณ และเป็นที่อยู่อาศัยของสรรพชีวิตนานาชนิด โพนไม่ได้เป็นเพียงองค์ประกอบทางกายภาพของภูมิประเทศ หากแต่ยังเป็นศูนย์รวมของความเชื่อและเรื่องเล่าทางจิตวิญญาณ บางแห่งเปี่ยมไปด้วยตำนานที่กล่าวถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ หรือเจ้าที่เจ้าทางที่ปกปักรักษา ผืนดินเหล่านี้จึงยังคงความอุดมสมบูรณ์ เป็นเสมือนปราการธรรมชาติที่ดำรงไว้ซึ่งสมดุลแห่งระบบนิเวศ ที่หัวใจของโพนและของธรรมชาติทั้งปวงคือ "น้ำ" องค์ประกอบสำคัญที่หล่อเลี้ยงสรรพสิ่ง น้ำมิได้หยุดนิ่งแต่ไหลเวียน แปรเปลี่ยน และโอบอุ้มทุกชีวิตเอาไว้ เป็นพลังที่ขับเคลื่อนความเชื่อมโยงระหว่างฟ้า ดิน มนุษย์ และสรรพสัตว์ หลอมรวมทุกสิ่งเข้าเป็นหนึ่งเดียวในวัฏจักรอันเป็นนิรันดร์














รางวัลรองชนะเลิศ
"หนูขอเล่นน้ำ น้ำ น้ำ"
ศิลปิน คุณบุญมี แสงขำ
เทคนิค ภาพพิมพ์เมซโซทินท์
ขนาด ๑๐๔ x ๑๓๔ ซม.


น้ำมีความสำคัญต่อการดำรงอยู่ของสิ่งมีชีวิตทุกชนิด การเปลี่ยนแปลงของปริมาณน้ำในทุกอาณาเขตบนโลกนี้ ล้วนส่งผลกระทบอย่างรุนแรงทั้งทางตรงและทางอ้อม อีกทั้งภัยพิบัติยังสร้างความสูญเสียให้กับมนุษย์อย่างไม่มีทางหลีกเลี่ยง เรื่องราวดังกล่าวถูกบอกเล่าผ่านบทสนทนาจากข้าพเจ้าสู่ลูก ขณะที่ลูกกำลังสนุกสนานกับการเล่นน้ำ เราคุยกันถึงวิธีการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของน้ำในรูปแบบต่าง ๆ สิ่งเหล่านี้เอง เป็นที่มาให้ข้าพเจ้านำมาสร้างสรรค์ผลงานศิลปะ "หนูขอเล่นน้ำ น้ำ น้ำ" เพื่อสะท้อนภาพความคิดของการเรียนรู้ในการปรับตัวตามสถานการณ์ และปรับใช้ชีวิตเพื่อเอาตัวรอดจากการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ อันจะเกิดขึ้นในโลกแห่งอนาคต
















รางวัลชมเชย
"หยดน้ำฟ้า"
ศิลปิน วีระพงศ์ แสนสมพร
เทคนิค ถักโลหะ (ทองแดง ทองเหลือง อะลูมิเนียม)
ขนาด ๑๘๐ x ๑๘๐ x ๑๓๐ ซม.








รางวัลชมเชย
"ปรุงเปลี่ยน แปรไป หมายเลข ๒"
ศิลปิน สุพร แก้วดา
เทคนิค ดินสอไขบนผ้าลินิน
ขนาด ๑๕๐ x ๑๙๐ ซม.








รางวัลชมเชย
"สัจนิรันดร์"
ศิลปิน วิทวัส ทองเขียว
เทคนิค สีน้ำมันบนผ้าใบลินิน เคลือบด้านและเคลือบเงา
ขนาด ๑๙๙ x ๑๙๙ ซม.





53


รางวัลชมเชย
"จุดกำเนิดของชีวิต"
ศิลปิน ธนกฤต ผลงาม
เทคนิค ปั้นหล่อ เรซิ่นใส ดัดลวดทองเหลืองและทองขาว
ขนาด ๑๘๐ x ๔๗ x ๘๖ ซม.








รางวัลชมเชย
"น้ำยังคงต้องพึ่งรือ เสือยังคงต้องพึ่งป้า"
ศิลปิน วิทยา วงศ์เพชรมณีโชติ
เทคนิค สีน้ำมันบบผ้าใน
ขนาด ๑๕๐ x ๑๗๐ ซน.








รางวัลชมเชย
"ในบรรยากาศสีเขียว"
ศิลปิน ชัชวาลย์ วรรณโพธิ์
เทคนิค สีน้ำมันบนผ้าลินิน
ขนาด ๑๖๐ x ๑๘๐ ชม.








รางวัลชมเชย
"เจ้าพระยา"
ศิลปิน อนุกูล ทังไธสง
เทคนิค เย็บยางและแอร์บรัชบนผ้าใบยาง
ขนาด ๑๕๐ x ๑๙๘ ซม.








รางวัลชมเชย
"สดับเสียงธารา"
ศิลปิน ลดากร พวงบุบผา
เทคนิค ภาพพิมพ์โลหะ
ขนาด ๑๐๐ x ๑๔๐ ซม.








รางวัลชมเชย
"สายน้ำแห่งสัจธรรม"
ศิลปิน ราชวุธ คุรุวงศ์วัฒนา
เทคนิค สีเขียนแก้วบนดินสอพองบนผ้าใบ
ขนาด ๑๘๐ x ๑๕๐ ซม.








รางวัลชมเชย
"การตัดสินใจ"
ศิลปิน ทักษ์ดนัย กังสวรางกูร
เทคนิค ภาพพิมพ์ไลหะและสีหมึกบนกระดาษ
ขนาด ๓๕ x ๑๓๐ ซม.








รางวัลชมเชย
"การเริ่มต้นของดูกาล"
ศิลปิน พันทิพย์ วรชินา
เทคนิค สีอะคริลิคบนผ้าใบ
ขนาด ๑๘๐ x ๑๔๐ ชม.








รางวัลชมเชย / Honorable Mention Prize
"ฝนไม่คืนฟ้า"
ศิลปิน วิทยา หอnรัพย์
เทคนิค สีอะคริลิคบนผ้าใบ
ขนาด ๒๐๐ x ๑๖๐ ซม.












































































































































ประกาศ "หัวข้อ" การประกวด
ศิลปกรรมช้างเผือก ครั้งที่ ๑๕ ประจำปี ๒๕๖๙
โดย บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน)
หัวข้อ "สืบสาน รักษา ต่อยอด"

เปิดรับส่งผลงานในปี ๒๕๖๙ แบ่งการสมัครเป็น ๒ รอบ
รูปแบบ: Figurative และ Realistic Art ไม่จำกัดเทคนิคและวัสดุ
จำนวนผลงานที่ส่งได้: ท่านละไม่เกิน ๒ ชิ้น

ขนาดผลงาน

งานจิตรกรรม ถ้าใส่กรอบ ขนาดรวมกรอบ ต้องไม่เกิน ๒๐๐ x ๑๐๐ ซม.
งานประติมากรรม ถ้ามีแท่น ขนาดงานรวมแท่นแล้ว ต้องไม่เกิน ๑๘๐ x ๑๘๐ x ๑๘๐ ซม.

หมายเหตุ:

ผลงาน ๓ มิติ: หากจำเป็นต้องตั้งวางบนแท่น แท่นต้องอยู่ในสภาพเรียบร้อย
และตัวผลงานควรแข็งแรง ไม่ชำรุดเสียหายได้ง่ายจากการเคลื่อนย้าย
ผลงาน ๒ มิติ: ไม่ควรมีน้ำหนักมากเกินไปจนไม่สามารถแขวนผนัง
ระหว่างรอกำหนดการส่งประกวด ก็เตรียมสร้างผลงานกันได้เลยนะคะ




ภาพและข้อมูลจาก
bacc.or.th
thaibev.com
เพจศิลปกรรมช้างเผือก
เพจ Contest Thailand

bangkokbiznews.com






บีจีจากคุณเนยสีฟ้า ไลน์จากคุณญามี่
กรอบจากคุณ ebaemi และคุณ Hawaii_Havaii

Free TextEditor





 

Create Date : 16 กันยายน 2568
0 comments
Last Update : 16 กันยายน 2568 21:56:26 น.
Counter : 155 Pageviews.
(โหวต blog นี้) 

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณtoor36, คุณนายแว่นขยันเที่ยว, คุณสองแผ่นดิน, คุณChow Tu Tu, คุณฟ้าใสวันใหม่, คุณหอมกร, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณกะว่าก๋า, คุณโฮมสเตย์ริมน้ำ, คุณร่มไม้เย็น, คุณThe Kop Civil


haiku
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 168 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add haiku's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.