สวัสดีครับชาว bloggang ทุกท่าน หายไปจากการอัพบล๊อกนานเลยทีเดียว เหตุเพราะโควิต 19 และต่อเนื่องด้วยการไม่ค่อยได้เดินทางไปไหนครับ... แต่ก็กลับมาอีกครั้ง วันนี้มาพาไปเที่ยวแดนมังกร มณฑลเฉิงตู ทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของจีน (เหนือยูนนาน) ติดกับทิเบต บริเวณที่จะไปเที่ยวก็ดินแดนที่ราบสูงที่เรียกว่า "เขตปกครองตนเองอาป้า เชียง" (Aba Tibetan Qiang Autonomous Prefecture) บ้านเรารู้จักกันดีผ่าน อุทยาน จิ่วจ้ายโกว ครับ เราเดินทางครั้งนี้อาศัยกรุปทัวร์ โดยใช้บริการผ่าน Quality Expess ในโปรแกรม Snow winter in Chengdu ซึ่งเดินทางในช่วง 29 พย. 67 - 5 ธค. 67 .. 7วัน 6 คืน โดยเราจะเที่ยวขึ้นไปจากเฉิงตู ถึงจิ่วจ้ายโกว แล้วนั่งรถไฟความเร็วสูง (ซึ่งสร้างเสร็จเมื่อ สิงหาคมปีที่แล้ว) กลับมาเฉิงตูแล้ว บินกลับประเทศไทยครับ. Terminal 1 ถึงกำหนดนัดหมายกรุ๊ปเราเจอกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ row H การบินไทย เที่ยวบิน TG 618 กำหนดออกเดินทางสู่สนามบิน เฉิงตูเทียนฟู่ (BKK-TFU) เวลา 10.05 ถึงเฉิงตู 14.00 น. เราได้ใช้เทอร์มินัลใหม่ ดูสวยงามทันสมัยมาก ห้องน้ำยังดูมีคลาส ใช้โถแบบญี่ปุ่นเลยนะ ... เสียเวลารอเครื่อง 15 นาที เราก็เดินทางสู่นครเฉิงตู วันนี้บินตามลม ใช้เวลาแค่ 2.5 ชม. เท่านั้น ... Terminal 3 นครเฉิงตู เป็นนครระดับกิ่งมณฑลซึ่งเป็น เมืองหลวงของ มณฑลเสฉวน เป็นหนึ่งในสามนครที่มีประชากรมากที่สุดในภาคตะวันตกของประเทศจีน โดยอีกสองแห่ง คือ ฉงชิ่งและ ซีอาน ในปี ค.ศ. 2014 พื้นที่เฉิงตูทั้งหมดมีประชากร 14,427,500 คน ซึ่งมากที่สุดในมณฑลเสฉวน และมีประชากรในเขตเมืองจำนวน 10,152,632 คน ... พื้นที่เขตนครเฉิงตูใหญ่มากๆ คือน่าจะใหญ่กว่า กรุงเทพฯเราอีก ตอนนี้มี 5 วงแหวนแล้ว. นครเฉิงตู ลงเครื่องที่สนามบินเฉิงตูเทียนฟู่ (TFU) ซึ่งดูใหญ่โตหรูหรา ทันสมัย นัยว่ากำลังจะสร้าง Terminal 3 อีก ... จากสนามบินใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ก็ถึงย่าน (เมือง) ตูเจียงเยี่ยน ที่เราจะไปพัก ... เราเช็คอินที่ Holiday Inn Hotel แล้วไปทานข้าว (อาหารแต่ละมื้อเยอะมาก แต่จะออกมัน) จากนั้นเราไปที่จตุรัจยาวเตี้ยนหวอ เพื่อชมเมืองโบราณและถ่ายภาพกัฐ Panda Selfie น่ารักดี แลนด์มาร์คของตูเจียงเยี่ยน ประตูเมืองโบราณ ตูเจียงเยี่ยน ถูกสร้างขึ้นเมื่อราว 256 ปีก่อนคริสต์ศักราช ในสมัยอาณาจักรฉิน โดยผู้วางแผนการก่อสร้างระบบชลประทานอันน่าทึ่งนี้คือ หลี่ปิง และลูกชายของเขา ซึ่งในอดีตที่เมืองเสฉวนรวมไปถึงเฉิงตูจะมีปัญหาในช่วงฤดูฝน เพราะน้ำจะเยอะมาก จนเกิดเป็นเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ทุกปี ทำลายพืชผลทางการเกษตรทุกปี ทำให้เกิดการคิดค้นระบบนี้ ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อควบคุมน้ำจากแม่น้ำหมินเจียง ให้ไหลเวียนไปยังพื้นที่เกษตรและป้องกันภัยจากน้ำท่วมนั่นเองครับครับ ซึ่งผลจากการสร้างตูเจียงเยี่ยนในวันนั้น ไม่เพียงแต่ช่วยชีวิตชาวเมืองเสฉวนเท่านั้น แต่ยังทำให้พื้นที่นี้เจริญรุ่งเรืองและเป็นแหล่งปลูกข้าวหลักของจีนมาจนถึงปัจจุบันนั่นเองครับ สะพานเก่าที่คนนิยมไปถ่ายภาพ เมืองโบราณกวนเสี้ยน เป็นจุดหมายยอดนิยมอีกแห่งของตูเจียงเยี่ยนครับ เมืองนี้ตั้งอยู่หลังสะพานหนานเฉียว เพียงแค่ข้ามสะพานก็จะเข้าสู่เมืองโบราณแห่งนี้ที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายของอดีต ซึ่งภายในเมืองมีถนนหลายสายและร้านค้าที่ตกแต่งแบบโบราณ โดยเฉพาะถนนเหวินเมี่ยว ที่ขึ้นชื่อเรื่องมุมถ่ายภาพสุดคลาสสิก ถือเป็นจุดเช็คอินยอดฮิตที่ไม่ควรพลาดครับ บนสะพานตกแต่งด้วโคมไฟสวยงาม น้ำสีฟ้า (แต่งด้วยการส่องไฟ) ... บริเวณการชลปทาน ระบบชลประทานตูเจียงเยี่ยน ถือเป็นสุดยอดภูมิปัญญาวิศวกรรมเชิงนิเวศที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ที่มีอายุกว่า 2000 ปี และเป็นระบบจัดการน้ำขนาดใหญ่เพียงแห่งเดียวที่ยังคงหลงเหลือจากสมัยจีนโบราณมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งอยู่ที่ อำเภอตูเจียงเยี่ยน นครเฉิงตู มณฑลเสฉวนค่ะ ได้รับการยกย่องว่าเป็น สมบัติแห่งเสฉวน เลยทีเดียวและจนในปีคศ.2000 ยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น มรดกโลกด้านวัฒนธรรม จากองค์การ ยูเนสโก สถานที่แห่งนี้จึงกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ดึงดูดผู้คนจากทั่วโลก เพื่อมาเยี่ยมชมความยิ่งใหญ่ แข็งแกร่งของระบบชลประทานที่ตั้งตระหง่านมาหลายชั่วอายุคน เดินชมสินค้าบนถนนคนเดิน ... สินค้ามากมายรวมทั้งเครื่องกันหนาว หลังจากเดินเที่ยวในบริเวณหลังประตูโบราณเมืองตูเจียงเยี่ยน เพื่อละลายทรัพย์บางส่วนแล้ว ก็ถึงเวลาที่จะกลับไปพักเอาแรง เพื่อนั่งรถระยะไกลไปเที่ยวเขา "สี่ดรุณี" ในวันรุ่งขึ้นครับ ลาด้วยภาพนี้ครับ ....... |
ตามมาเที่ยงเฉิงตูค่ะ
แต่ขอแวบไปกินข้าวกลางวันก่อนนนนน
เดี๋ยวมาตามเที่ยวแบบเต็มๆค่ะ