....OUR FAMILY'S JOURNEY....

+ อำลาสวีเดน .... สต๊อกโฮล์ม EP2. +

 

 
อัพบล๊อกวันนี้เป็นเอนทรี้สุดท้ายของทริปสแกนดิเนเวียแล้วนะครับ ซึ่งจะพาท่านไปชมบางที่บางแห่งในกรุงสต๊อกโฮล์ม ซึ่งเป็นนครที่ได้รับฉายาว่า "เวนิสแห่งยุโรปเหนือ" นอกจากนั้นเมืองยังได้รับรางวัล "นครหลวงแห่งวัฒนธรรมของยุโรป" เช่นเดียวกับเอเธนส์ ปารีส และอัมสเตอร์ดัมอีกด้วยครับ ... ในบล๊อกที่แล้วเราพาท่านเดินทางด้วยเรือสำราญ Silja Line จากกรุงเฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์ ข้ามทะเลบอลติกมาที่กรุงสต๊อกโฮล์มและขึ้นจากท่าเรือประมาณ 9.40 น. และไปชมพิพิธภัณฑ์เรือรบโบราณ ตามด้วยศาลาว่าการกรุงสต๊อกโฮล์ม สถานที่ที่เขาจัดงานเลี้ยงให้ผู้ได้รับรางวัลโนเบลสาขาต่างๆยกเว้นสาขาสันติภาพ ซึ่งมีพิธีมอบกันที่กรุงออสโล ประเทศนอร์เวย์ครับ ... วันนี้จะต่อด้วยการพาท่านไปชมวิวของตัวเมืองในมุมสูงบนถนน Fjallgatan ที่ว่ากันว่ามองเห็นเมืองสต๊อกโฮล์มในมุมที่สวยที่สุดครับ.
 
 

แผนที่ย่านที่เราเที่ยวชมในสต๊อกโฮล์ม (วงกลมแดง)

สต็อกโฮล์ม เป็นเมืองหลวงและเมืองใหญ่ที่สุดของประเทศสวีเดน ตั้งอยู่ริมชายฝั่งทะเลทิศตะวันออกของประเทศสวีเดน มีประชากรในเขตเทศบาลสต็อกโฮล์ม 909,000 คน ถ้านับเขตที่อยู่อาศัยโดยรอบทั้งหมดจะมีประชากรประมาณ 2.2 ล้านคน .... ประวัติศาสตร์ที่เก่าที่สุดของสต็อกโฮล์ม เริ่มที่ ค.ศ. 1252 โดยสต็อกโฮล์มเป็นเมืองศูนย์กลางในการค้าขายแลกเปลี่ยนแร่เหล็กจากเหมืองใกล้เคียง สต็อกโฮล์มก่อตั้งเป็นเมืองที่อยู่อาศัยเต็มรูปแบบเพื่อปกป้องตัวเองจากนักเดินเรือต่างถิ่น สต็อกโฮล์มเป็นเมืองหลวงของจักรวรรดิสวีเดนอย่างเป็นทางการในปี ค.ศ. 1634

ในช่วง ค.ศ. 1713–1714 สต็อกโฮล์มพบปัญหาการระบาดของกาฬโรค และสงครามใหญ่ทางภาคเหนือระหว่างสวีเดนกับชาติยุโรปเหนืออื่น ๆ ใน ค.ศ. 1721 ซึ่งส่งผลให้จักรวรรดิสวีเดนต้องสิ้นสุดลง และเมืองสต็อกโฮล์มเสียหายอย่างหนัก ... สต็อกโฮล์มค่อย ๆ ฟื้นความสำคัญกลับคืนมาในคริสต์ศตวรรษที่ 19 และกลายเป็นศูนย์กลางทางการค้า



ผ่านย่านเมืองเก่า (Gamla Stan)



ถนนในกรุงสต๊อกโฮล์ม






Downtown Camper Hotel เราพักที่นี่



ใกล้หน้าคริสต์มาส มีการประดับไฟสวยงาม

ด้วยสภาพอากาศที่หนาวมากในบ่ายวันที่ 29 พฤศจิกายน 2019 เราพยามจะเดินออกไปเก็บภาพท่ามกลางการเตือนภัยจากทั้งพนักงานที่โรงแรมและไกด์ทัวร์ ว่าบนถนนคนเดินมีมิจฉาชีพเดินปะปนอยู่มากมาย ต้องระวัง การสะพายกระเป๋าต้องทำตามสูตรของนักท่องเที่ยวคือ ถ้าเอากระเป๋าไว้ด้านหลัง โอกาสเป็นของพวกเขามีสูง ถ้าอยู่ด้านข้างก็ห้าสิบสห้าสิบ จะให้ปลอดภัยต้องเอาไว้ด้านหน้า และอย่าพกของมีค่าติดตัวออกไปมากนัก ช่วงหลังนี้เวลาไปยุโรปไม่ว่าเมืองไหนก็ต้องระวังกันให้มากนะครับ เพราะหลังจากที่ทางตะวันออกเขาเป็นอิสระจากรัสเซีย จะมีพวกแสวงหารายได้เข้ามาในยุโรปตะวันตกมาขึ้น และด้วยสภาพความเป็นอยู่ที่ต่างกันมากเหตุการณ์พวกนี้จึงมีมากขึ้นครับ ... จริงๆเราก็มีแต่กล้องและกระเป๋าสะตังค์ที่แบ่งเก็บหลายที่ ส่วนใหญ่ใส่ไว้ในกระเป๋ากางเกงเพื่อจะได้คลำดูบ่อบๆ การเดินบนถนนก็พยามอย่าเข้าในฝูงชนมากนัก (ในเคสที่ทำได้) ... เมื่อเตรียมพร้อมเราก็ออกลุยย่าน pedestrain squre ด้วยตัวเราเองคนเดียว กะว่าจะเดินไปให้ถึงเกาะเมืืองเก่าให้ได้ เพราะจากที่พักที่ดาวน์ทาวแคมเปอร์โฮเทลก็ไม่ไกลนัก ถ้าดูชื่อถนนไม่ผิดวันนั้นออกไปเดินบนถนน Drottninggatan ซึ่งผู้คนเยอะมาก (ในภาพนั่นประมาณ 15.30 น. แต่มืดแล้ว เพราะช่วงนั้นกลางวันสั้น คือ 9.30 น. - 15.00 น.) ร้านค้า ห้างมากมายจนเมือยจะแวะครับ เดินได้ซักพักก็ต้องหลบเข้าร้านไปอาศัยไออุ่น.
 


บนถนน Drottninggatan (สามารถเดินทะลุไปเมืองเก่าได้...แต่หนาวเลยไปไม่สุด)


ใกล้ๆที่พักและสถานีรถไฟใต้ดิน


ประติมากรรมคริสตัล Sergel Torg ที่ pedestrian Square
ประติมากรรมแท่งคริสตัล : แท่งนี้ทำไว้ล้ำหน้าจริงๆ เหมือนในหนังวิทยาศาสตร์เลย ออกแบบโดย Edvin Öhrström เป็นแท่งเหล็กและกระจก อยู่ที่จตุรัส Segels กลางกรุงสต๊อกโฮล์ม.

 


ตลาดดอกไม้ใกล้ๆถนนคนเดิน


ย่าน pedestrian square หน้าโรงแรมที่พัก






วิวจาก Fallgatan
ว่ากันว่าเรือรบโบราณที่อยู่ในพิพิธภัณฑ์ VASA ได้แล่นออกมาจมบริเวณนี้







ด้วยการที่กรุงสต๊อกโฮล์มตั้งอยู่บนเกาะถึง 14 เกาะ จึงทำให้บริเวณรอบๆเมืองเห็นเป็นฝั่งทะเลไปเกือบทั้งหมด จุดที่เป็นเมืองสต๊อกโฮล์มปัจจุบันเป็นจุดบรรจบของทะเลสาบ Malaren กับ ทะเลบอลติค และกลางเมืองของสต๊อกโฮล์มจึงเสมือนตั้งอยู่บนทะเลเลย (อ่านเพิ่ม

จุดที่เราไปจอดชมวิววันนี้มองเห็นเมืองสต๊อกโฮล์มได้ไกลสุดๆ ทางซ้ายมือในภาพคือย่านเมืองเก่าบนเกาะ ส่วนทางขวามือคือทะเลบอลติคครับ ... เรือ VASA หรือเรือรบโบราณ ซึ่งสร้างขึ้นระหว่างปี 1626 และ 1628 เรือได้อับปางจมลงในการเดินเรือครั้งแรกเมื่อแล่นไปได้เพียง 1,300 เมตร (1,400 หลา) ในวันที่ 10 สิงหาคม 1628 แต่จุดที่เรือจมไม่เป็นที่ชัดเจนนัก แม้มีการเก็บกู้ปืนใหญ่สำริดส่วนมากของเรือขึ้นมาได้ในคริสต์ศตวรรษที่ 17 จนกระทั่งปลายคริสต์ทศวรรษที่ 1950 จึงมีการพบตำแหน่งของเรือท่ามกลางเส้นทางเดินเรือที่วุ่นวายนอกอ่าวสต๊อกโฮล์มในบริเวณที่ใกล้ๆนี้.








เดินทางสู่สนามบินอาลันดา


บ้านเรือนริมถนนที่สนามเต็มไปด้วยหิมะ






ที่หน้าโรงแรม Downtown Camper



สนามบินอาลันดา (ขอบคุณภาพจากวิกิพีเดีย)


งานเลี้ยงย่อมมีการเลิกลา...และแล้ววันสุดท้ายของทริปก็มาถึง หลังมื้อเที่ยงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2019 เราออกจากกรุงสต๊อกโฮล์มเพื่อไปขึ้นเครื่องที่สนามบินอาลันดา (Arlanda) ด้วยเที่ยวบินที่ TG 961 บินตรงสู่สุวรรณภูมิ ... จากสต๊อกโฮล์มเราใช้เวลาเดินทาง 45 นาทีถึวสนามบิน 

ท่าอากาศยานสต็อกโฮล์ม-อาลันดา (Stockholm-Arlanda Airport) ตั้งอยู่ที่เขตซิกทูนา มณฑลสต็อกโฮล์ม ประเทศสวีเดน ห่างจากกรุงสต็อกโฮล์มไปทางเหนือประมาณ 42 กิโลเมตร เป็นท่าอากาศยานที่ใหญ่ที่สุดของสวีเดน และเป็นท่าอากาศยานหลักสู่ประเทศสวีเดน เป็นหนึ่งในท่าอากาศยานหลักของสแกนดิเนเวียน แอร์ไลน์ ซิสเต็ม ใหญ่เป็นอันดับสามในประเทศกลุ่มนอร์ดิก มีผู้ใช้บริการเที่ยวบินระหว่างประเทศหนาแน่นเป็นอันดับสองในภูมิภาค รองรับผู้โดยสารกว่า 19 ล้านคนต่อปี ในปี ค.ศ. 2011 แบ่งเป็นผู้โดยสารระหว่างประเทศ 14 ล้านคน และผู้โดยสารภายในประเทศ 5 ล้านคนเป็นศูนย์จำลองการบินของสถาบันการบินออกซฟอร์ด


ภายในอาคารสนามบินอาลันดา (ขอบคุณภาพจากวิกิพีเดีย)

นอกจากนี้ท่าอากาศยานอาลันดายังเป็นหนึ่งในท่าอากาศยานที่ใช้เป็นที่ลงจอดฉุกเฉินของกระสวยอวกาศ ขององค์การนาซ่าอีกด้วย

.............

 
สรุป การเดินทางในทริปสแกนดิเนเวียโดยเริ่มต้นที่โคเปนเฮเกนในเช้าวันที่ 24 พฤศจิกายน 2019 เที่ยวกรุงโคเปนเฮเกนแล้วเดินทางโดยเรือสำราญ DFDS ไปสู่กรุงออสโล เที่ยวที่กรุงออสโล แล้วเดินทางโดยเครื่องบินภายในประเทศจากสนามบินกรุงออสโลไปเมืองเบอร์เกนในเย็นวันที่ 25 พ.ย ชมเมืองและเดินทางต่อไปขึ้นรถไฟสายโรแมนติกไปฟล๊อม แล้วลงเรือชมฟยอร์ดไปขึ้นที่กู๊ดวานเกน จากนั้นนั่งรถไฟพักที่สกีรีสอร์ทที่เมือง Geilo ในวันที่ 26 พย.  ตอนเช้าเดินทางต่อไปที่ออสโลและเที่ยวต่อ ตอนค่ำวันเดียวกันบินต่อไปกรุงเฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์ เข้าพักที่โรงแรม Redisson blue ในวันที่ 27 พย. เที่ยวที่เฮลซิงกิในวันรุ่งขึ้นก่อนที่จะนั่งเรือ Silja Line ไปสต๊อกโฮล์มและเที่ยวที่นั่นต่อในเย็นวันที่ 28 พย. เที่ยวที่สต๊อกโฮล์ม 29-30 พย. ก่อนเดินทางกลับไทยในบ่ายวันที่ 30 พย.  2019 .
 
13จบทริปสแกนดิเนเวียโดยสมบูณ์ ขอบคุณที่ติดตามครับ13
 


วิวจาก Stockholm City Hall.


ลาด้วยภาพจากศาลาว่าการกรุงสต๊อกโฮล์ม


 




 




 

Create Date : 02 มีนาคม 2563
7 comments
Last Update : 1 พฤษภาคม 2563 11:13:54 น.
Counter : 2636 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณTui Laksi, คุณtuk-tuk@korat, คุณNoppamas Bee, คุณhaiku, คุณKavanich96, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณอุ้มสี, คุณSweet_pills, คุณไวน์กับสายน้ำ

 

ภาพสวย บรรยากาศเยี่ยม น่าไปเที่ยวค่ะ
โห....สามารถถ่ายภาพเครื่องบินขึ้นได้ใกล้สุดๆเลย

 

โดย: Tui Laksi 2 มีนาคม 2563 17:52:30 น.  

 

ภาพสวยจัง
น่าเที่ยวค่ะ

 

โดย: tuk-tuk@korat 2 มีนาคม 2563 19:02:19 น.  

 

ไม่รู้จะมีโอกาสได้มาเที่ยวเมืองนอก
อิจฉามาก

 

โดย: จากเพื่อนถึงเพื่อน 2 มีนาคม 2563 21:25:42 น.  

 

ขอบคุณที่แบ่งปัน

 

โดย: Kavanich96 3 มีนาคม 2563 3:09:53 น.  

 

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
nonnoiGiwGiw Music Blog ดู Blog
Sai Eeuu Food Blog ดู Blog
สายหมอกและก้อนเมฆ Travel Blog ดู Blog
ฟ้าใสวันใหม่ Pet Blog ดู Blog
กะว่าก๋า Literature Blog ดู Blog
wicsir Travel Blog ดู Blog

ตามมาเที่ยวด้วยคนค่ะ

 

โดย: อุ้มสี 4 มีนาคม 2563 7:41:43 น.  

 

กรุงสต๊อกโฮล์มน่าเที่ยวมากค่ะคุณวิค
นอกจากได้อ่านเรื่องราวและชมภาพสวยๆแล้ว
ยังทราบวิธีระแวดระวังกระเป๋าจากมิจฉาชีพด้วย ขอบคุณมากนะคะ

 

โดย: Sweet_pills 5 มีนาคม 2563 0:24:35 น.  

 

ภาพเมือง กับสถานที่ต่าง ๆ ทึม..แตกต่างกว่าไทยมาก....อากาศหนาวเย็น จนเย็นสุด ๆ

ดีสำหรับเราไปเที่ยวแต่ถ้าอยู่คงลำบากเหมือนกัน..

ผมมานั่งนึกถึง ฝรั่งผิวขาวชโลมน้ำมันเหลือแต่ กก.ขาสั้นกับแว่นกันแดดนอนตากแดด
ที่สวนน้ำบึงหนองบอน เดาเอาว่าเขาต้องอยู่เมืองหนาวมากๆ เมื่อมาเจอแดดแบบไทย
เขาเลยไม่กลัว นอนตากแดดเฉยเลย.. ผมเห็นเลยต้องเดินห่าง ๆ กลัวแดดแทนครับคุณอ๊อด

 

โดย: ไวน์กับสายน้ำ 6 มีนาคม 2563 16:05:46 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


wicsir
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 75 คน [?]











...... ชอบเดินทาง ชอบท่องเที่ยว และชอบถ่ายภาพ แม้ฝีมือจะไม่ให้ แต่ใจก็รัก เพราะได้ทำแล้วมีความสุข แถมยังมี bloggang ได้ให้โอกาสนำสิ่งเหล่านั้นมาแสดงด้วย ยิ่งทำให้หัวใจพองโต .......


อยากจะบอกว่า

@ ดีใจที่ได้แบ่งปันความสุขเล็กๆน้อยๆ กับเพื่อนๆในบล็อกแก๊ง ตลอดจนคุณๆที่ผ่านเข้ามาอ่าน.... แม้ภาพถ่ายจะไม่สวยนัก แต่กว่าจะได้มาก็แสนยากลำบาก จึงขอสงวนสิทธิไว้เป็นการส่วนตัว

@ ภาพทั้งหมดเป็นลิขสิทธิ์ของเจ้าของบล๊อก ถ้ามีความประสงค์จะใช้ภาพเพื่อการใด กรุณาติดต่อเจ้าของบล็อกด้วย เพราะจะได้พิจารณาเป็นเรื่องๆไปครับ.

@ ขอบคุณเพื่อนๆสมาชิกที่คอยให้กำลังใจกันเสมอมา และขอบคุณทุกท่านที่ผ่านเข้ามาอ่าน หวังเป็นอย่างยิ่ง ว่าท่านคงแวะเข้ามาอีก...


ด้วยจริงใจ
นาย wicsir.




Rec. 11.06.08
New Comments
Group Blog
 
<<
มีนาคม 2563
 
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
2 มีนาคม 2563
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add wicsir's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.