++ ค่ำคืนกลางสายฝน ที่...Queenstown ++

อ่านตอนที่ 9 : คลิ๊ก บล๊อกที่แล้วเราพาคุณๆขับไปที่เมือง Glenorchy เมืองเล็กๆที่อยู่ปลายสุดของทะเลสาบวากาติปู (Wakatipu) ซึ่งความสวยงามของเมืองเล็กๆแห่งนั้นสวยงามเกินกว่าที่จะถ่ายทอดให้คุณๆได้ชมทั้งเป็นภาพถ่ายและตัวอักษรได้ .... แม้ว่า จขบ. เคยเดินทางไปเมืองที่มีธรรมชาติแสนสวยมากมายหลายที่แล้วก็ตาม แต่เมื่อมาถึงที่เกลนนอร์ชีย์แล้ว ความงามจากธรรมชาติที่เจอะเจอทำให้เมืองหลายเมืองที่ผ่านมานั้นด้อยลงไปมากเลยทีเดีย Rydges Lakeland Resort Queenstown (ขอบคุณภาพจากเวป) ด้านหลังที่พักเป็นเขาที่ปกคลุมด้วหิมะ การเดินทางของสองพ่อลูกในนิวซีแลนด์ตอนนี้ก็มาถึงบล๊อกสุดท้ายแล้วครับ ... หลังจากเราขับไปเกือบทั่วเกาะใต้ ระยะทางกว่าสามพัน กม. จนในที่สุดก็มาอยู่ที่ควีนส์ทาวน์ เมืองแห่งจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวที่มาเกาะใต้ ที่นี่ถ้าจะเปรียบกับบ้านเราเพื่อให้มองเห็นภาพกัน ก็น่าจะเป็นเชียงใหม่ประมาณนั้น แม้ตัวเมืองจะเล็กกว่าเชียงใหม่มากก็ตาม แต่ธุรกิจมากมายที่นี่ก็เกิดมาจากการท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรม เดินเขาหรือเดินป่า ล่องเรือกลไฟแบบโบราณ shotover Jet สกรี และอีกมากมาย... ควีนส์ทาวน์จึงมีผู้คนเวียนเข้ามาเยี่ยมเยือนมากมายในทุกๆฤดูการ นี่ก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่เราเลือกพักเมืองถึงสองคืนในการเดินทางของเราในทริปนี้ครับ นักท่องเที่ยวกลับจากการทำกิจกรรมในช่วงกลางวัน กลับมาจากการไปชม shotover Jet มาก็เป็นเวลาเย็นแล้ว ซึ่งหน้าหนาวที่นั่นจะมืดเร็วมาก 17.00 ก็มืดแล้ว ฝนก็ตกเจ้าลูกชายไม่สบายชวนออกไปเดินในเมืองก็ไปไม่ไหว จขบ.เลยต้องฉายเดี่ยวออกจากโรงแรมเพื่อไเดินในเมือง ออกเดินตามริมทะเลสาบซึ่งบริเวณหน้าที่พักจะเป็นสวนสาธารณะ เดินไปไม่ไกลก็ผ่านย่านท่าเรือและร้านอาหาร จากนั้นก็เข้าสู่ย่าน downtown ซึ่งจะเป็ Queenstown Mall ซึ่งคืนนี้จะไปเดินแถวนั้นครับ จากหน้าที่พักไปกลางเมือง Queenstown ควีนส์ทาวน์ หรือเมืองแห่งรีสอร์ท ตั้งอยู่ภูมิภาค Otago เกาะใต้ ของนิวซีแลนด์ มีพื้นที่ทั้งหมด ( District Area) 8,704.97 ตารางกิโลเมตร มีประชากรทั้งหมด 32,400 คน ส่วนตัวเมืองมีพื้นที่ 25.5 ตร.กม. มีประชากร 13,150 คนเท่านั้นเอง ควีนส์ทาวน์ถือว่ามีพื้นที่เมืองใหญ่เป็นอันดับที่ 29 ของประเทศ และใหญ่เป็นอันดับ 3 ของภูมิภาค Otago ต่อจาก Dunedin และ Oamaru มีเขา The Remarkable อยู่ใกล้ๆ ก่อนที่ชาวยุโรปจะเขามาที่นี้ บริเวณตรงนั้นเป็นถิ่นที่อยู่ของชาวพื้นเมือง เมารี มาก่อน แต่ต่อมามีนักเดินทางชื่อ Nathanael Chalmers เขามาเจอทะเลสาบวากาติปูเข้าในเดือนกันยายน ปี 1853 แต่เมืองนี้ได้รับการบันทึกการก่อตั้งอย่างเป็นทางการเมื่อ William Gilbert Rees และ Nicholas von Tuzelmann ที่เข้าไปทำฟาร์มในพื้นที่สูงที่นั้น เมื่อปี 1860 ซึ่งเป็นยุคเดียวกับยุคตื่นทอง (1860-1862) ที่เมือง Arrowtown และเรียกขาลเมืองนี้ว่า "The Station" และต่อมาเมืองได้เปลี่ยนมาชื่อ "Queenstown" ในปี 1863. Winter in Queenstown (ขอบคุณภาพจากเวป) ค่ำคืนที่ Queenstown หลังจากเดินเลียบชายหาด ผ่านท่าเทียบเรือท่องเที่ยวต่างๆ (ซึ่งเราสามารถซื้อทัวร์เพื่องท่องทะเลสาบได้) ... จากนั้นก็เข้าสู่ย่าน Queenstown Mall ซึ่งมีรูปปั้นของผู้ก่อตั้งเมืองนี้คือ William Gilbert Rees ตั้งตระหง่านอยู่หน้าท่าเทียบเรือของเมือง แต่เพราะฝนกำลังตกพรำๆ ทั้งอากาศก็หนาว ทำให้ได้ภาพบริเวณนั้นไม่มากนัก รูปปั้นของ William Gilbert Rees ที่หน้าท่าเรือ ชื่อถนนยังมีชื่อ Rees ด้วย สะพานเทียบเรือที่อยู่ใกล้ๆกับรูปปั้น William Gilbert Rees ทะเลสาบวากาติปู & เรือกลไฟสมัยโบราณ " บริเวณที่เรียกว่าควีนทาวน์มอลล มีถนนไม่กี่สาย ผู้คนต่างมารวมตัวกันบริเวณนั้น เพราะมีทั้งแหล่ง shopping ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึกและตัวแทนทัวร์ต่างๆ เช่น Milford Cruise, Shotover Jet เป็นต้น ที่สำคัญสำหรับเราคนไทย คือ ผมเห็นมีร้านอาหารไทย อยู่บริเวณนั้น 3 ร้านด้วยกัน นี่แสดงว่าคนไทยก็มาที่นี่เยอะเหมือนกัน " ร้านอาหารไทยที่อยู่บริเวณ Queenstown Mall แวะเข้าไปในห้าง ...... เพื่อเดินดูสินค้าแต่เจอร้านอาหารไทยร้านหนึ่ง กำลังมีคนรอคิวอาหารกันอยู่ชื่อร้าน "ช้างทองแดง" (Bronze Elephant) เลยถือโอกาสสั่งอาหารแบบถือกลับบ้าน คุ๊กและคนขายเป็นคนไทยด้วย ยังเห็นร้านอาหารไทยอีก 2 ร้านอยู่คนละฝั่งถนน Beach Street ชื่อร้านตำไหนักไทย และไทยสยาม แต่ไม่ได้แวะชิมครับ ... นี่ครัวไทยไปไกลถึงซีกโลกด้านนี้แล้ว ... แต่จะว่าไปแล้วเราผ่านมาหลายเมืองในเกาะใต้ก็หาอาหารไทยทานได้ไม่ยากนักครับ อาหารไทยในเกาะใต้โดยรวมจะออกรสชาตหวานนิดๆ เพราะฝรั่งนิวซีแลนด์ (ที่เห็น) นิยมรสแบบแกงพะแนง เข้าไปในย่าน Queenstown Mall หินสีเขียว (Green stone) สินค้าที่นำมาทำอัญมณีที่มีชื่อของที่นี่ สิ่งประดับที่ทำจากเจ้าหินสีเขียว ซึ่ง จขบ.เองมักเรียกว่า "หยกนิวซีแลนด์" ซึ่งไม่แน่ใจว่าจะถูกต้องไหมนะ ... เช่นร๊อคเก็ตยอดฮิตที่จากหินนี้ก็จะเป็นรูปนกกีวีห้อยกับสร้อยคอเคลือบทองคำ 22K ..... ปกติคนจะชอบซื้อมาจาก Arrowtown แต่ขอบอกว่าที่ Queenstown จะถูกกว่านะครับ ค่ำคืนที่แสนหนาวท่ามกลางฝนตกแบบนี้ ทำให้วันสุดท้ายที่เราจะอยู่ที่เมืองนี้ไม่สนุกเท่าที่ควร เพราะจริงๆแล้วอยากจะไปนั่งชมทะเลสาบวากาติปูพร้อมกับซดเบียร์หรือไวน์นิวซีแลนด์เพื่อดื่มดำกับธรรมชาติที่แสนสวยของเมืองก่อนกลับ แต่ก็ทำไม่ได้ .... ยังเสียดายจนถึงวันนี้เลย เดินตามถนน Beach street กลับไปที่พักพร่้อมเก็บภาพระหว่างทางที่พอทำได้ไว้เป็นที่ระลึก...เช้าพรุ่งนี้แล้วสินะเราต้องจากเมืองนี้ไป สัญญลักษณ์ใบไม้ที่สวนใกล้ๆที่พัก อากาศประมาณ 3-5 องศาเซลเซียสในยามเช้าของควีนส์ทาวน์ ทำให้เราอยากจะขดอยู่ในผ้าห่มอุ่นๆต่ออีกซักพัก แต่ก็ทำอย่างนั้นไม่ได้ เพราะวันนี้เรามีโปรแกรมที่จะต้องส่งรถคืนบริษัทรถเช่าประมาณเที่ยงตรง ..... แปดโมงกว่าๆเราเช็คเอ้าท์ออกจาก Rydges Lakeland Resort เพื่อชมเมืองในยามเช้า และเติมน้ำมันให้เต็มถังก่อนส่งรถคืน ทะเลสาบวากาติปูยามเช้า ถ่ายจากถนนใกล้ๆสนามบิน บริเวณสนามบินนานาชาติ Queenstown กลับถึงสนามบินก่อนกำหนดเล็กน้อย เอารถเข้าจอดในบริเวณจอดของ Hertz ตามล๊อกที่เขาเขียนหมายเลขกำกับไว้ เช่นทะเบียนรถเราลงท้ายด้วย 86 ก็เอาไปจอดในล๊อกที่ 86 ถอด GPS แล้วนำกลับไปคืนเขาด้วย ของทุกอย่างในรถ ไม่มีคนมาตรวจเช็ค ถ้าอะไรเสียหารเขาก็จะหักเอาจากบัตรเครดิตที่เรารูดการันตีไว้ เพราะฉะนั้นก่อนออกจากรถเราควรเช็คและตรวสอบให้ดี (เราถ่ายภาพรอบๆไว้เลยนะ) ที่นี่ถึงแม้เขาจะให้เกียรติและเชื่อใจกัน แต่ก็กันไว้นะครับ จากที่จอดไปอาคารผู้โดยสารขาออกไม่ไกลนัก แต่ความหนาวเย็นทำให้เราคิดว่าไกลเป็นหลายกิโลระหว่างทาง ภายในตัวอาคารมีการเตรียมฉลอง x-mas เตรียมกลับสู่ Sydney สรุปการเดินทางของเราในเกาะใต้นิวซีแลนด์ตลอดทริบนี้คือ วันแรก เรามาถึงสนามบินนานาชาติควีนส์ทาวน์ประมาณบ่าย 2 โมง เสร็จแล้วซื้อซิมโทรศัพท์แบบเดินทาง รับรถ แล้วขับต่อไปพักที่ Te Anua วันที่ 2 เดินทางจาก Te Anua ไปล่องเรือที่แหล่งมรดกโลกทางธรรมชาติ Milford Sound แล้วขับกลับไปพักที่ Gore โดยระหว่างทางผ่านธรรมชาติที่สวยงามมาก วันที่ 3 ออกจาก Gore ไป Dunedin ชมเมือง และมหาวิทยาลับแห่งแรกของนิวซีแลนด์ชื่อ University of Otago แล้วเดินทางต่อไปพักที่ Oamaru และออกไปชมนกเพนกวินตาเหลือง วันที่ 4 จาก Oamaru ผ่าน Timaru ไป Lake Tekapo ผ่าน Lake Pukaki และเข้าพักที่ The Hermitage Hotel อุทยานแห่งชาติ Mt. Cook วันที่ 5 อกกจากเม้าท์คุ๊ก ไปชมธารน้ำแข็ง แล้วเดินทางต่อสู่ควีนส์ทาวน์ ระหว่างทางผ่านเมือง Twizel เมืองเล็กๆน่ารักและสวยงาม ผ่านหุบเขา Lindis Valley เข้า Wanaka และไปชม Bungy Jump ก่อนไปพักที่ Queenstown วันที่ 6 ออกจากตัวเมือง ไปที่ Arrowtown เมืองเล็กๆที่มีสไตล์แบบตะวันตกที่มีประวัติศาสตร์มาจากยุคตื่นทองของเขตนี้ ตามด้วย Glenorchy จากนั้นไปชม Shotover Jet ที่ shotover gorge วันที่ 7 ออกเดินทางตามบล๊อกนี้ ก่อนกลับประเทศไทยโดยสายการบิน Qantas จาก Queenstown - Sydney และจาก Sydney สู่ สุวรรณภุมิโดย Emirate Air วิวสนามบินนานานชาติ Queenstown เจ็ดวันที่เราเดินทางในเกาะใต้พบเห็นอะไรมากมายในนิวซีวซีแลนด์ สิ่งที่น่าประทับใจคือความมีวินัยในการขับรถและการต้อนร้บของคนในพื้นที่ ธรรมชาติที่แสนจะสวยงามยังคงรักษาไว้เป็นอย่างดี การทิ้งขยะตามถนนหนทางที่ผ่านไม่มีเลย อีกอย่างหนึ่งการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเป็นสิ่งที่นิยมและจำเป็นมากๆสำหรับที่นั่นและเชื่อมั่นได้ สังคมที่มีระเบียบวินัยที่ดี มักจะนำมาซึ่งอะไรมากมาย .... อยากเห็นสิ่งเหล่านั้นเกิดขึ้นกับบ้านเราจริงๆ อย่างแรกคือเรื่องของการทิ้งขยะนี่แหละ แม้ว่ารัฐพยามจะผลักดันให้เรื่องนี้เป็นวาระแห่งชาติ แต่ก็คงเห็นผลได้ยาก ถ้าหากเราทุกคนไม่ร่วมมือกันโดยไม่เห็นแก่ส่วนตัวหรือผลักภาระให้คนอื่นๆ ... หวังว่าจะได้เห็นสถานที่อันสวยงามที่มีมากมายในประเทศไทยคงไว้ซึ่งธรรมชาติและความสวยงามเหล่านั้นโดยปราศจากขยะมาเสริมแต่งครับ ขอบคุณที่ติดตาม และพบกันใหม่ในทริบต่อไปครับ ลาด้วยภาพควีนส์ทาวน์ยามเช้าภาพนี้ครับ ______________

Create Date : 14 ธันวาคม 2558		10 comments
Last Update : 18 กุมภาพันธ์ 2561 15:05:05 น.
Counter : 5752 Pageviews.
Share Tweet