~*~ เท่ากัน ~*~
|
~*~ เท่ากัน ~*~
๐ ฟากฟ้าหม่นทึมเทาเป็นเงาม่าน วรรษากาลแผ่ครอบโอบรอบสรวง ตะวันลอยหลีกเร้นไม่เห็นดวง ปล่อยทิ้งห้วงเวหาให้พร่ามัว
๐ โลกทั้งโลกคล้ายกับจะหลับใหล หลับอยู่ในช่วงวันอันสลัว ลมอ่อนเอื่อยโชยไล้พฤกษ์ไหวรัว เยียบเย็นทั่วแดนดินถึงถิ่นพรหม
๐ คอยลำแสงฉาบไล้โลมไออุ่น เอื้อให้ดอกยี่สุ่นกลิ่นกรุ่นผสม รำเพยหอมรำพายปนสายลม ให้ดอมดมก่อนลิดกลีบปลิดโปรย
๐ จนแล้วเล่าเงาดำยังงำโลก อมทุกข์โศกแทรกซอนอ่อนระโหย ร่ำรอกาลวิโยคให้โบกโบย ผ่านพ้นโดยแสงสุรีย์ฉายคลี่ภพ
๐ ตราบเช้าจนบ่ายคล้อยทยอยค่ำ พิรุณพรำพร่างพรูมิรู้จบ ยี่สุ่นเอยบอบช้ำอีกคำรบ ลมตลบร่วงพลันมิทันบาน
๐ เฉกดอกรักหักรานละก้านร่วง สิ้นสุดช่วงหล่นลงจบสงสาร ทุกสิ่งต่างผันแปรกระแสกาล พาพบพาน-พรากพ้นทุกหนไป
๐ หมายแย่งยื้อถือครองเป็นของหวง สู้ฉวยช่วงชิงมาแม้คราไหน แรกก็ชอบนานก็ชังจะหวังใด ให้ดำรงคงได้นั้นไม่มี
๐ วงชีวิตแสนสั้นสักวันหนึ่ง ก็จะถึงจุดหมายปลายวิถี สิ่งยึดเหนี่ยวผูกพันมานานปี ย่อมถึงทีปล่อยวางแม้ร่างกาย
๐ เหลือแต่โลกยังคงดำรงอยู่ ต่างแต่ผู้คนกลับดับสลาย ได้หยิบยืมลืมกลัวจวบตัวตาย จุดสุดท้ายเท่ากันดังนั้นเอง
วลีลักษณา ๑๙ มิถุนายน ๒๕๖๘
| | |
Create Date : 20 มิถุนายน 2568 |
|
1 comments |
Last Update : 20 มิถุนายน 2568 20:34:28 น. |
Counter : 167 Pageviews. |
|
 |
|
|
| |
โดย: หอมกร 21 มิถุนายน 2568 6:20:52 น. |
|
|
|
|
|