คืนกำไรให้ชีวิต เพื่อพิชิตไปในโลกกว้าง
space
space
space
<<
พฤศจิกายน 2568
 
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
space
space
14 พฤศจิกายน 2568
space
space
space

ธาตุทอง รีเทริ์น ณ บัวโรย รีสอร์ท ท่ามกลางธรรมชาติอันงดงามและอบอุ่น

  ธาตุทอง รีเทริ์น  ณ บัวโรย  รีสอร์ท 
ท่ามกลางธรรมชาติอันงดงามและอบอุ่น

 
งานพบปะสังสรรค์ของกลุ่ม ธาตุทองรวมมิตร  (59)  จัดต่อเนื่องมาหลายปี  ฉันได้รับเชิญ
ไปร่วมงานนี้  หลายครั้งอยู่  ครั้งแรก น่าจะ  24 เม.ย.
ที่บ้านกุ้ง (บางบ่อ)   ชลอ มารับไปเป็นครั้งแรก  ซึ่งมีจำนวนคนไปเพียงประมาณ 10 คนได้มั้ง
  ไปอีกครั้ง คือ 23 ก.ค. ปีเดียวกัน  ครั้งนี้ มีสมาชิกไป
ร่วมงานมากขึ้น เป็นเท่าตัว  ความครึกครื้นจึงเกิดขึ้น สนุกสนาน   ฉันได้เขียนบันทึกความทรงจำ
ในหัวข้อว่า  "ความสุขใจที่ได้เห็นมิตรภาพอันแน่นแฟ้นของลูกศิษย์" 
และในปีเดียวกัน  (59 )  มีการจัดไปพบปะสังสรรค์กันอีกครั้ง ที่ "บ้านปลายผา"  อันเป็นบ้าน
ของพี่สาว จรีพร  ที่โคราช เป็นทริปที่น่าประทับใจอีกทริปหนึ่ง
ฉันตั้งชื่อทริปนี้ว่า  "ภาพแห่งความทรงจำที่น่าประทับใจ"  ทริปนี้  ไปวันที่ 10-11  ธ.ค.59 ปล
 มีการจัดพิธีถวายความอาลัยแด่ พ่อของแผ่นดิน" ที่มีบรรยากาศซาบซึ้งมาก ๆ "
ฉันชื่นชมความคิดของบรรดาลูกศิษย์รุ่นนี้ อย่างมาก ค่ะ  และเป็นปีที่รวม การแยกจัดงาน
  ม.ต้น ม.ปลาย มารวมเป็นงานเดียวกัน  คือ ธาตุทองรวมมิตร 59  ตั้งแต่นั้นมา 
 ปี 60  จัดพบปะสังสรรค์กันที่บ้านกุ้ง  (บางบ่อ)  ใช้ธีมงานว่า    " Once  Day   Back  (ธ.ท.)  To School" 
ปี 61  จัดที่บ้านกุ้ง  ใช้ชื่อธีมงานว่า   "มนต์รักหลงทุ่ง "
  ปี 62  จัดที่บ้านกุ้ง ใช้ชื่อ  ธีมงานว่า  "ทิ้งทุ่งเพื่อมุ่งสู่การแข่งขัน  " เป็นการพบปะสังสรรค์ที่สนุกสนานมาก
ในการแข่งขัน   เว้นปี 63-64  ไม่ได้จัด  เพราะโควิดระบาดหนัก  ค่ะ 
มาจัดครั้งสุดท้าย  เมื่อ ปี 65  จัด 30 ก.ค. ที่ร้านอาหาร ณ ตุลา  ของกุ้งกับพี่ชาย ใช้ธีมงานว่า
"คืนสู่เหย้า เราแคมป์ปิ้ง"  งานครั้งนี้มีการตรวจโควิดก่อน
เข้างานด้วย  อิอิ  จัดครั้งนี้แล้ว  กลุ่ม ธาตุทองรวมมิตร ก็ไม่ได้จัดอีกเลย นานถึง 3 ปี  ก็ไม่ทราบสาเหตุ
อะไร   (ได้ข่าวว่า จัดเป็นกลุ่มย่อย ๆ กัน) 
จนถึงปีนี้   จึงได้จัดงานพบปะสังสรรค์กันอีกครั้งหนึ่ง  เห็นเตรียมงานอยู่น่าจะไม่ต่ำกว่า 2 เดือน
(อ่านจากข่าวคราวในไลน์กลุ่ม)   ครั้งนี้จัดที่ บัวโรยรีสอร์ท เป็นรีสอร์ท
ของญาติกุ้ง  ค่ะ อยู่แถวบางเสาธง  ค่ะ งานครั้งนี้ มีจำนวนคนไม่มากเหมือนครั้งก่อน ๆ  รวมครอบครัว
และหลานศิษย์ สะใภ้ศิษย์  เพื่อนศิษย์ น่าจะประมาณ 30 คนค่ะ  
ฉันได้นำรูปจัดงานในอดีตแต่ละปี มาให้ชม ค่ะ 


ปี  59   ค่ะ 




ปี 59  จัดที่บ้านปลายผา  บ้านพี่สาว จรี ค่ะ 





ปี 60  บ้านกุ้ง ค่ะ 



ปี 61 บ้านกุ้ง ค่ะ 



ปี 62  บ้านกุ้ง ค่ะ 



ปี 65  ที่ร้าน  ณ ตุลา ของกุ้งกับพี่ชาย

ใกล้วันงาน  คือ วันที่ 8-9  พ.ย.  ว่าวโทรหา และเชิญฉันมาร่วมงานครั้งนี้  โดยบอกว่า
จะให้เจี๊ยบมารับประมาณ เที่ยงของวันที่ 8  ฉันสอบถามเรื่องค่าใช้จ่าย
ในงานครั้งนี้ ทั้งเรื่องรถของเจี๊ยบและอาหาร  จะให้ฉันจ่ายอย่างไร ก็บอกนะ 
ว่าวบอกว่า  ไม่ต้องจ่ายอะไร   อาจารย์มางานก็เป็นเกียรติ
แก่งานแล้ว ไม่ต้องทำอะไร  พวกผมจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ครับ  แต่อีกไม่กี่วัน   
เดช (ป๋าโอ)  ก็โทรมาบอกว่า  จะมารับฉัน  ฉันก็งง ๆ
  เลยโทรไปถามว่าวว่า   มีการเปลี่ยนแปลงเหรอ   ตกลง เจี๊ยบหรือป๋าโอ  ที่จะมารับครู 
ว่าวบอกว่า เปลี่ยนเป็น ป๋าโอมารับอาจารย์ ครับ  

         วันที่ 8 พ.ย.  ป๋าโอ  นัดว่าจะมารับฉันประมาณ บ่ายโมงถึงบ่ายสอง   ฉันกินเส้นหมี่ที่ทำกินเอง
  ไป 1 ชาม   เพราะอาหารที่กุ้งสั่งมาเป็นบุฟเฟ่  จะมาจัดให้ที่งาน 
บ่ายสามโมง แต่งานสามารถไปที่จัดงานได้ตั้งแต่เที่ยงเป็นต้นไป ค่ะ  ปรากฏว่า 
กว่า ป๋าโอจะมาถึงบ้านฉัน ก็บ่าย 3 โมงแล้ว  ป๋าโอบอกว่า
  วันนี้ รถติดมาก  เขาต้องไปซื้อต้นคูนที่จะนำมาปลูกให้เจ้าของรีสอร์ท 2 ต้น  แล้วนำไปไว้
ที่จัดงานพาหญิงศิษย์สะใภ้และหลานศิษย์อีกคนไปส่งที่งานก่อน 
แล้วจึงไปรับ ลีและภรรยา  น่าจะแถวอุดมสุขแล้วจึงมารับฉันที่บ้าน  ค่ะ

ระหว่างทางที่ไป ก็มีรถติดบ้างแต่พ้นจากบางนาแล้ว  ถนนก็โล่ง  รถแล่นไปค่อนข้างเร็ว
  ผ่านบ่อเลี้ยงปลา  เลี้ยงกุ้งตามถนนที่ผ่าน น่าจะประมาณ
ครึ่งชั่วโมงกว่า  ก็ถึงบัวโรยรีสอร์ทข้างทางหน้ารีสอร์ท  มีรถจอดหลายคันแล้ว   สมาชิกนั่งกิน
  นั่งดื่มกัน  น่าจะมาเกือบครบ  ขาดฉัตรชัย  (เปิล) กับแฟน 
วุฒิกับลักษณ์   ทุกคนเห็นฉันมาถึง  ก็พากันมาสวัสดี  ทักทาย  กุ้งรับกระเป๋าเสื้อผ้าฉันไป
อยู่ห้องเดียวกับเขา   น้องสาวของสมเกียรติ เข้ามาคุยด้วย
  (สมเกียรติ  ป่วย ด้วยเส้นเลือดสมองอุดตัน   เป็นอัมพาตครึ่งซึก นั่งรถเข็น  แต่เพื่อนฝูงก็ให้ความ
ช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ด้วยน้ำใจของเพื่อนกลุ่มนี้  เขาไม่ทิ้งกัน 
จนกระทั่งตอนนี้สมเกียรติดีขึ้นมากแล้ว  สามารถช่วยตัวเองได้แล้วเพื่อน ๆ อยากให้สมเกียรติมา
ร่วมงานได้มาพบเพื่อน ๆ  ชลอ ไปรับและส่งถึงบ้าน  นี่เป็นน้ำใจ
ของเพื่อน ๆ กลุ่มนี้ ที่ฉันชื่นชม  เขาไม่ทิ้งเพื่อน  ช่วยกันดูแล  มีน้องสาวตามช่วยดูแลอีกคน
อย่างน้อย ๆ ก็ทำให้สมเกียรติมีความสุข ที่ได้เจอเพื่อน ๆ 
ฉันก็ขอให้เขาหายวันหายคืน หมั่นกายภาพ  เพื่อให้กลับสู่สภาพปรกติได้มากที่สุด ค่ะ 

ก่อนจะถึงงานพบปะเจอกัน  ก็มีการจัดสถานที่และจัดโต๊ะ เพื่อจุดเทียนเพื่อถวายความอาลัยแด่
แม่ของแผ่นดิน  มีการปลูกต้นคูนไว้เป็นที่ระลึกไว้ที่บ้านรีสอร์ทที่เอื้อเฟื้อ
ให้พวกเรามาจัดงานที่นี่งานนี้ก็หนีไม่พ้นเพื่อนอาร์ททั้งหลาย  มีหนึ่ง  ชลอ  ป๋าโอ   มีกุ้งคอยให้กำลังใจ  






       ส่วนเรื่องอาหารการกิน  นอกจากสั่งจากร้านอาหารแล้ว  ยังมีป๋าโอ สั่งทอดปลาสลิดน่าจะ 4-5 กิโล 
มีแกงไก่แขก   กินกับโรตี  (ที่จริงมีหมูอีกหม้อ  แต่มันขึ้นฟองเสียก่อน เลยต้องทิ้ง)
เรื่องการดูแลอาหาร  ก็เป็นน้าที่ของบรรดาศิษย์สะใภ้   คอยดูแล อุ่น  เติม หั่นผลไม้ เช่น
แตงโม ฝรั่ง แอปเปิ้ล  คอยเก็บจาน ชาม ที่ทุกคนกินแล้วไปทิ้ง         
           
บรรยากาศของงาน  ก็คงเหมือน ๆ การพบปะสังสรรค์โดยทั่วไป  นั่งกินกันไป คุยกันไป 
คงรำลึกถึงเรื่องความหลัง   นักดื่ม ก็ดื่มไป  โดยมีติ๊ก
เพื่อนปทุมคงคากลายเป็นส่วนหนึ่งของ  เพื่อนธาตุทองแล้ว  เป็นมือชงน้ำดื่ม (เหล้า) ค่ะ  มาชมภาพ ค่ะ 





















          ประมาณน่าจะห้าโมงเย็นได้  (คงรอคนให้ครบ  )  ชลอก็เรียกทุกคนมารวมกันถ่ายรูปหมู่หน้าโต๊ะ
ที่จะทำพิธีถวายความอาลัยแด่แม่ของแผ่นดิน  เพื่อจะได้มีรูปหมู่
ไว้เป็นที่ระลึก ค่ะ มาชม ค่ะ 



เตรียมตั้งแถว ค่ะ 





ได้รูปหมู่  น่าจะขาดไป 4-5 คน ที่มาทีหลัง  ค่ะ 

       หลังจากที่ถ่ายรูปหมู่เป็นที่ระลึกแล้ว  อีกกิจกรรมหนึ่งก็คือ   การไปปลูกต้นคูนไว้ที่ รีสอร์ทนี้ 
 เดินไปปะมาณ  น่าจะ 3-4 ร้อยเมตร   ว่าวและเพื่อน ๆ
ก็เข็นรถวีลเชร์ของสมเกัยรติไปร่วมปลูกต้นคูน   โดยมีน้องผู้ชายที่ดูแลบ้านนี้
  ช่วยขุดหลุมไว้ให้ล่วงหน้าแล้ว ค่ะ    มาชมภาพ ค่ะ 
  


เรียกว่า ต้นคูนสายรุ้ง  ค่ะ  (ป๋าโอบอก) 













เมื่อปลูกต้นคูนเสร็จแล้ว   ก็มานั่งกิน  นั่งดื่ม  และเริ่มเปิด  คาระโอเกะ  ให้นักร้องของรุ่นหลาย ๆ คนได้โชว์ลีลา
การร้องเพลง อย่างสนุกสนาน เสียงดี ๆ  ทั้งนั้นเลย ค่ะ  มาให้ภาพเล่าเรื่อง ค่ะ 



เสียงของสมิทธ  ดีนะ  เขาชอบร้องเพลงมาก  ร้องเพลงมากที่สุดในงานนี้





เสียงจรี  ก็ร้องไพเราะ ร้องได้อารมณ์ดี ค่ะ 



หมอซิงค์ ก็ร่วมวงร้องด้วยนะ  เสียงดีไม่น้อยเลย นะเนี่ย 





นักร้องแน่งน้อย ก็ไม่เบา นะจ๊ะ



สารวัตรโอ๊ต ร้องคู่กับจรี  





น้องที่ดูแลรีสอทร์และอำนวยความสะดวกในการจัดงาน  ค่ะ



  

รายการอาหาร  ผลไม้  อุดมสมบูรณ์ ค่ะ 








     
บรรยากาศสนุกสนาน  กินอาหารไป  ดื่มไป  ฟังเพลงที่สมาชิกร้องเพลงไป  ฉันก็นั่งปรบมือให้นักร้อง
ทั้งหลาย  ค่ะ  น่าจะถึงเวลาประมาณ  ทุ่มหนึ่งได้ 
 ก็เรียกระดมพลอีกครั้ง  เพื่อทำพิธีสำคัญอีกพิธีหนึ่ง  คือ  พิธีถวายความอาลัย แด่ แม่ของแผ่นดิน 
กุ้งเดินแจกเทียนคนละเล่ม   ทุกคนเตรียมพร้อมตามที่
หนึ่งและชลอ กำหนดไว้  ให้ทุกคนยืนอยู่สองฝั่งของโต๊ะหมู่บูชา    ให้ฉันไปยืนอยู่หัวโต๊ะ
เพื่อเป็นประธานในการจุดเทียนที่ป้ายพิธี ค่ะ   มาให้ภาพเล่าเรื่องต่อ ค่ะ

 
















หลังพิธีจุดเทียนถวายความอาลัยแม่ของแผ่นดินอย่างเรียบร้อยแล้ว   ก็เป็นเวลาฟรีสไตล์   ค่ะ 
กลับไปสนุกสนานบันเทิงใจกันต่อไป ค่ะ    คือ ใครใคร่กิน กิน
  ใครใคร่ดื่ม ดื่ม ใครใคร่ร้อง ร้อง พวกที่ไม่ร้องเพลง  ก็จับกลุ่มคุยกันค่ะ    รวมทั้งฉันด้วย 
น้องสาวสมเกียรติเธอก็น่ารัก   หมั่นนำอาหารบ้าง  ผลไม้บ้าง
  หมั่นถามไถ่ว่า จะกินอะไรบอกนะ  เขาจะตักมาให้   เธอบอกว่า เคยเรียนกับฉันด้วย  ถามฉันว่า
จำเธอได้ไหม  โถ!  ตั้ง 40 กว่าปี แล้ว อีกอย่างไม่เคยติดต่อกันเลย
การที่จะจำลูกศิษยที่สอนได้ทุกคนเป็นไปไม่ได้  ก็คงมีแต่ลูกศิษย์ต้องจำครูได้แหละนะ  อิอิ              
        ฉันอยู่กับเด็ก ๆ ฟังเด็ก ๆ ร้องเพลง กัน  ใจเป็นสุข
ที่ได้เห็นพวกเขามีความสุข คุยกันไปกินกันไป  รุ่นนี้  ส่วนใหญ่ก็มีการมีงานที่ดี 
มีครอบครัวที่สมบูรณ์  (คิดถึงก๊อง คิดถึงต้อม ลูกศิษย์ ที่อำลา
ไปอยู่อีกโลกหนึ่งเสียแล้ว  ไม่งั้น  งานอย่างนี้ พวกเขาไม่เคยพลาด ค่ะ)  
     
  เมื่อถึงเวลาดึกพอสมควรแล้ว  ลูกศิษย์หลายคนที่ไม่ได้นอนค้างที่นี่   (หลายคน  )  ก็ทยอยกัน
มาลาฉันกลับบ้าน  เช่น ซิงค์  วุฒิ นก  อัง  ก็กลับ น่าจะกลับบ้าน
ไปประมาณครึ่งหนึ่ง  ห้องนอนของรีสอร์ท  มีเพียง 4 ห้อง เท่านั้น   ฉันนอนห้องเดียวกับกุ้ง 
หลังสุดท้าย  โชคดีที่มีห้องน้ำในตัวเพียงห้องเดียว   ห้องนี้ มีเตียวเดี่ยง 2 เตียง
  สามารถนอนได้เตียงละ 2 คน  เพราะพวกเราตัวไม่โต  แต่แฟนสมิทธขอนอนกับพื้นโดยมี
ผ้านวมปู พื้นไว้  เขาต้องเข้าห้องน้ำบ่อยและกลัวผี  อิอิ 
ส่วนเตียงของกุ้ง มีแฟนของลี นอนอีกคน  เตียงฉัน นอนคนเดียว  ค่ะ  ฉันกลับห้องตอน ประมาณ
4 ทุ่มกว่าอาบน้ำเสร็จก็น่าจะ ห้าทุ่ม ค่ะ   มีแฟนของสมิทธ
เข้ามานอนก่อนฉันแล้ว  ค่ะ  ส่วนคนอื่น ๆ ก็ยังสนุกสนานในการร้องเพลงอยู่ค่ะ ฉันนอนหลับสบาย
  ไม่รู้ว่า กุ้งและแฟนของ ลี เข้ามานอนกี่โมง อิอิ


เช้าวันที่  9  พ.ย.  ตื่นขึ้นมาเพราะได้ยินเสียงแปลงฟัน ล้างหน้าของแฟนสมิทธ  เปิดโทรศัพท์ดู
ตีห้าครึ่งเลยนอนต่อ   จนถึง หกโมงครึ่ง  จึงตื่น อาบน้ำ แปรงฟัน
   แต่งตัวเสร็จ  ก็ประมาณ7.30 น.แฟน ลี ก็ตื่นขึ้นมาอาบน้ำแต่งตัวอีกคน  เหลือกุ้งคนเดียว
ยังนอนหลับอยู่  ฉันแต่งตัวเสร็จออกมาจากห้อง ถ่ายรูปบรรยากาศ
รอบ ๆ ซึ่งเป็นสระบัว  ใหญ่พอสมควร  สามารถพายเรือ คายัคได้  เสียดาย
ฝักบัวไม่มีใครเก็บไปกิน  เหี่ยวคาบึงเลย ค่ะ  น่าเสียดาย  



ถ่ายรูปเสร็จ  ก็เดินไปที่โต๊ะ  อาหารศิษย์สะใภ้  แฟนป๋าลอ  แฟนว่าว  จัดการอุ่น  เตรียมพร้อมอาหารมื้อเช้า
  มีทั้งข้าวสวย  ข้าวต้ม ร้อน ๆ   กับข้าว ก็อุ่นจากเหลือ เมื่อวานนี้ ค่ะ  มีปลาสลิด  น่องไก่ ทอด 
ฉันตักข้าวต้ม  1 ชาม  แกะปลาสลิดและน่องไก่ ใส่อีกชาม
  กินกับข้าวต้มร้อน ๆ อร่อยมากเลย ส่วน เปิล  ฉัตรชัย  ก็ดื่มแต่เช้า  เรียกว่า  ดื่มเพื่อถอนจากเมื่อคืน  ห้าห้าห้า  



อาหารมื้อเช้า ค่ะ 



ฉัตรชัยและว่าวมาที่ห้องพัก รับสมเกียรติไปกินข้าวมื้อเช้า ค่ะ 





เมื่อคืน  ชลอ นอนเต็นท์  ค่ะ 



เปิล  ฉัตรฉัย ถอนเมาด้วยเหล้าแต่เช้าเลย  อิอิ 



หลานศิษย์ที่เห็นตั้งแต่เล็ก ๆ  ตอนนี้ เป็นสาว แล้วค่ะ
เลยถ่ายรูปกับหลานศิษย์เป็นที่ระลึก  



บ้านที่พวกเรามาพัก ค่ะ  บัวโรยรีสอร์ท   

 เช้านี้  มีอีก 1 กิจกรรม  คือ  การปลูกต้นคูนอีก 1 ต้น  ที่ห่างจากตัวบ้านไกลพอสมควร ค่ะ   รอป๋าโอ
ซึ่งเมื่อคืนพาแฟนและหลานศิษย์ กลับไปนอนที่บ้าน
  เพราะบ้านป๋าโอกับรีสอร์ทไม่ไกลจากที่จัดงาน นั่นเอง
ป๋าโอ  มาถึงที่รีสอร์ทน่าจะประมาณ  9 โมงกว่าแล้ว  เช้านี้  แดดจัดมาก    เมื่อคนซื้อต้นคูนมาปลูก
  มาถึงแล้ว   พวกเราก็เริ่มเดินไปตามถนน เพื่อไปปลูกต้นคูนอีก 1  ต้น
  ฉันก็นึกว่า  มันใกล้ ๆ   โห!  เดินไกลมากน่าจะเกิน 500 เมตร นะเนี่ย  แดดก็แรงมาก 
 ส่วนติ๊กและเปิล  ดูเหมือน นั่งรถซาเล้ง ซึ่งขนปุ๋ยไป 3 ถุง 
 บางคนก็ไม่ได้ไป น่าจะเป็น ลีและแฟน แฟนของเปิล (ฉัตรชัย)  คงกลัวแดดที่แรงมาก ๆ  แฟนสมิทธ
ถึงกับกางร่มไป อิอิ มาชมการปลูกต้นคูน ค่ะ 





เตรียมกรีดถุงที่ใส่ต้นคูนให้ขาด เพื่อรากจะได้งอกง่าย ๆ 





ใส่ดินปุ๋ย เป็นอาหารให้ต้นคูน  3 ถุง ค่ะ 





แล้วจะกลับมาชมดอกคูนในโอกาสต่อไป ค่ะ 

           ขากลับ  ทุกคนบอกว่า  อาจารย์  นั่งซาเล้งกลับที่พักเถอะ  แดดร้อนมาก  ฉันก็ว่าดี  ถนอมขาไว้ ค่ะ อิอิ
  นั่งซาเล้งกลับมาที่พัก  มีแตงโม  ที่บรรดาศิษย์สะใภ้หั่นไว้เรียบร้อย 
กินแตงโมแทนน้ำได้เลยค่ะ  ถึงเวลาอำลาจากกันแล้ว  ครอบครัวว่าว  ครอบครัว ป๋าลอ และครอบครัวเปิล 
มาอำลาฉันแต่ละครอบครัว  รวมทั้งหลานศิษย์ พิม พิม ลูกว่าว
และ เกล ลูกบุญธรรมของ ป๋าลอ  ต่างโตเป็นสาวแทบจำไม่ได้  เพราะไม่ได้เห็นมา 3 ปี
  (ฉันฝากตุ๊กตาห้อยกระเป๋าที่ซื้อจากเมืองจีน ฝากหลานคนละตัว) 
มาลาครบทุกครอบครัว   ป๋าลอและว่าวมาช่วยเข็นรถวิลแชร์ไปที่รถของชลอ  ชลอจะไปส่งสมเกียรติ
และน้องสาวที่บ้าน  ค่ะ ทำหน้าที่เพื่อนที่ดี ที่ห่วงใยเพื่อน เสมอ   
        รอป๋าโอกินข้าวเช้าที่นี่ก่อนจนเสร็จ  พวกเราอำลาจาก   บัวโรยรีสอร์ทเป็นขบวนสุดท้าย ค่ะ
  เหลือกุ้ง  รอทางบ้านมารับมั้ง โบกมือลาจากกันแล้ว ค่ะ
 ขนกระเป๋าขึ้นรถ ป่าโอ  มีสมาชิกเหมือนตอนขามาคือ ลีและแฟน  และฉัน ที่ป๋าโอมารับมาส่ง 
ลีและแฟนลงที่แถวอ่อนนุชมั้ง  ถ้าจำไม่ผิด  อำลาจากกันอีกครั้ง
  ป๋าโอมาส่งฉันถึงบ้านน่าจะประมาณ  เที่ยงกว่ามั้ง   ขอบใจป๋าโอมากที่มารับ มาส่ง  ทำให้ฉันมีโอกาส
ได้พบลูกศิษย์ สนุกสนาน  และได้ชื่นชมกิจกรรมดี ๆ ของพวกเขา
ได้เห็นความรัก  ความผูกพัน  เอื้ออาทรซึ่งกันและกัน ของพวกเขา  ก็เกิดความปลื้มใจที่ได้เห็น
ความเจริญในชีวิตของพวกเขาบางคนก็เป็นปู่ เป็นย่า ไปแล้ว 
ส่วนใหญ่ก็เกษียณกันหมดแล้วการพบปะสังสรรค์ครั้งนี้  ฉันก็รู้สึกดีใจ ปลื้มใจ ที่เขายังไม่ลืมฉัน 
รับฉันมาร่วมงานของพวกเขาด้วย  อ้อ  ขอบใจอังศนา  (นุ้ย) ที่มีของฝากฉัน
ทุกครั้งที่ได้เจอกันในงานพบปะสังสรรค์ ค่ะ ของซิงค์ ก็มีฝากแปรงสีฟันให้มา 1 อันด้วย ค่ะ  เพื่อน ๆ ก็ได้ทุกคน



ยาหอมของ อัง ค่ะ อมชื่นใจดี 



เหรียญที่ระลึก  ร. 9 ค่ะ 





โบว์ที่น้องสมเกียรติทำเอง  นำมาฝากฉัน 1อัน ค่ะ 



ของฝากของซิงค์ ค่ะ 

ขอขอบใจลูกศิษย์ทุกคนและขออวยพรให้พวกเขามีแต่ความสุข  ความเจริญในชีวิตตลอดไป  ค่ะ
 

ฝากเพลง เพื่อนกันตลอดไป ให้รักห่วงใยเพื่อนเช่นนี้ ตลอดไป ค่ะ 




















 




 

Create Date : 14 พฤศจิกายน 2568
21 comments
Last Update : 16 พฤศจิกายน 2568 12:33:43 น.
Counter : 331 Pageviews.
(โหวต blog นี้) 

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณhaiku, คุณสองแผ่นดิน, คุณกะว่าก๋า, คุณtoor36, คุณชีริว, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณnewyorknurse, คุณกะริโตะคุง, คุณหอมกร, คุณtanjira, คุณThe Kop Civil, คุณkae+aoe, คุณโฮมสเตย์ริมน้ำ

 

ต้องรักและผูกพันกันมากเลยนะครับอาจารย์
จึงจะรวมพลและมาเจอกันได้ตลอด
แถมมีกิจกรรมที่ดีด้วย
ไม่ได้กินดื่มหรือสนุกสนานเฮฮากันอย่างเดียว


 

โดย: กะว่าก๋า 14 พฤศจิกายน 2568 23:31:19 น.  

 

ธาตุทองรวมมิตร ปี59และมีต่ออีกสามปีหรอกค่ะ บรรยกาศชวนสนุก
เจอเพื่อนเก่าหรือเพื่อนทำงาน หรือเพื่อนสมัยเรียน
บรรยากาศสุดๆคะ....

 

โดย: สมาชิกหมายเลข 4313444 15 พฤศจิกายน 2568 1:39:23 น.  

 

รวมตัวกันได้ขนาดนี้เลย ผมชอบบรรยากาศการรวมตัวกันนะ จริงๆ แล้วชีวิตคนเรามันก็ไม่ได้ต้องการอะไรมากมาย แค่นานๆ ทีได้รวมตัวกันเจอเพื่อนได้พูดคุยแลกเปลี่ยนข้อมูลกัน ยิ้มได้หัวเราะได้ก็มีความสุขกันแล้ว

 

โดย: คุณต่อ (toor36 ) 15 พฤศจิกายน 2568 9:04:31 น.  

 

ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตครับอาจารย์

พ่อผมไม่ยอมไปหาหมอแล้วครับ
ทำได้เต็มที่คือเอาพยาบาลมาหาที่บ้าน
แล้วก็เจาะเลือด ก่อนจะเอาผลไปหาหมอ
แล้วน้องสาวผมจึงค่อยไปฟังผล และปรับยากับหมอแทนครับ

ซึ่งผมก็คิดว่าวิธีนี้
ดีกว่าไม่ำทอะไรเลย
เพราะพ่อผมดื้อมากครับ 555

 

โดย: กะว่าก๋า 15 พฤศจิกายน 2568 22:03:53 น.  

 

จัดตั้งแต่ปี 59 ก็ 10 ปีแล้วนะครับเนี่ย
ปลายปีนั้นในหลวง ร.9 สวรรคตด้วย ได้ร่วมจัดพิธีถวายความอาลัยด้วยครับ
เสียดายช่วงโควิดหลายๆ อย่างหายไป บางอย่างไม่กลับมาเลย เช่น ตลาดไนท์มาร์เก็ตที่อยุธยา
ยังดีที่งานธาตุทองรวมมิตรกลับมาจัดอีกนะครับ
แต่สิ่งที่หายไปนานแท้คือมีตติ้งบล็อกแก๊ง สงสัยจะต้องจัดกันเองแล้วมั้งเนี่ย
ดูรูปประกอบแล้วแต่ละปีมีธีมเครื่องแต่งกายด้วย
ครั้งสุดท้ายก่อนนี้ปี 65 ก็สามปีล่วงมาแล้ว

ได้รีเทิร์นกลับมาพบเพื่อนวันหลังเกษียณ หลายท่านก็สุขภาพไม่ค่อยดีแล้วนะครับ
เหมือนตอนแม่ผมกลับไปรวมรุ่นที่อยุธยา เดี๋ยวก็ได้ข่าวคนนั้นคนนี้เสีย
ดีที่คุณสมเกียรติดีขึ้นแล้วนะครับ
กิจกรรมปลูกคูนต้นใหญ่เลย ขนมาลำบากนะนั่น
เพิ่งเคยเห็นต้นคูนสายรุ้งครับ
เรื่องร้องคาราโอเกะนี่ผมไม่ได้เลย เพลงที่เค้าฮิตๆ กันไม่รู้จักสักนิด
งานถวายความอาลัยพระพันปีจัดได้สวยงามครับ

พอเช้าแล้วเห็นวิวชัด รีสอร์ทบรรยากาศดีเหมือนกันนะครับ


----
บล็อกยาวๆ ปกติผมอ่านไปพิมพ์เม้นท์ใส่ notepad ไปครับ ไม่งั้นจำไม่หมดจริงๆ
วัดที่อยุธยาที่มีรากโพธิ์ล้อมเศียรพระคือวัดมหาธาตุครับ เป็นรุกมรดกของแผ่นดินเช่นกัน
อาจารย์เดินรอบอุทยานราชพฤกษ์นี่คือไกลจริงครับ ขนาดผมปั่นจักรยานยังเหนื่อยเลย ยิ่งมีช่วงขึ้นเนินด้วย เสียดายตอนมีงานพืชสวนโลกผมไม่ได้ไปครับ

 

โดย: ชีริว 15 พฤศจิกายน 2568 23:08:33 น.  

 

หนูชอบบล็อกอาจรย์ตรงที่มีภาพประกอบเล่าเรื่องที่เกิดตรงกับกิจกรรม
ทำให้เราอ่านแล้วนึกภาพมันได้รสสนุกขำหรืออะไรๆออกจ้ะ
...
เรื่องหุ้นหนูเรียนอย่างจริงๆจังๆค่ะอาจารย์ เรียนเยอะมากๆแบบหมกมุ่นเลย
ฝึกการอ่านรูปเทียนในกราฟ และฝึกการเข้าทำกำไรซื้อขายเอง...

คือเรื่องนี้เราต้องเข้าใจและมั่นใจ...เงินของเราไปให้คนอื่นทำให้ไม่ได้จ้ะ
หนูเคยเจอคนรู้จักหลายคน เล่นหุ้นแบบไปลงตามคนอื่น ตัวเองทำไรไม่เป็นเลย
หากจะเล่นหุ้นหนูจะไม่ทำแบบนั้นค่ะ

 

โดย: สมาชิกหมายเลข 4313444 16 พฤศจิกายน 2568 1:12:26 น.  

 

อุ๊ยๆ อุ๊ย งานเลี้ยงรุ่นก็มาแล้วนะครับ ลูกศิษย์อาจารย์สุ รักใคร่รวมตัวกันได้เหนียวแน่นมากเลยนะครับนี่ จัดงานติดต่อกันได้ตั้งหลายปี

แล้วก็ยังนึกถึง อาจารย์ที่อบรมสั่งสอน ให้เจริญก้าวหน้า เชิญมาร่วมงานอีกด้วย แต่อาจารย์เต๊ะ ดูรูปแล้ว แยกไม่ออกเล้ยยย
ว่าใใครเป็นใคร สงสัยเพราะ ชุด นร มัธยม นี่เอ้งงง 5555

ไปกินนอน รีสอร์ทก็ได้บรรยากาศ สดชื่นดีนะครับ
หน้าตาลูกศิษย์นี่ ดูแล้ว น่าจะทำกับข้าวเก่ง
เพราะ สายก๊ง นี่ อาจารย์เต๊ะ สังเกตุดู มักจะทำกับข้าว กับแกล้มอร่อยๆแทบทั้งนั้นเลยเชียวครับ

ส่วนเรื่องปลูกต้นคูน ก็เป็นกิจกรรมที่ดี รักษ์โลก ที่บ้านอาจารย์เต๊ะ
ปลูกไว้ต้นนึง ตอนออกดอกนี่ เหลืองอร่ามสวยงามมาก
แต่ก็มีงานให้ทำ กวาดใบมันทั้งปีเลยครับ 555

ส่วนการร้องเพลง ร้องเกะ นี่ เป็นเรื่องดีงาม
อาจารย์เต๊ะ ร้องที่บ้านอยู่คนเดียวทุกวัน
ยังหาเหยื่อ มาร้องเพลงคู่ไม่ได้เลยครับ 555

ร้องเพลงดีทุกเรื่อง เพราะวันไหน ถ้าร้องแล้ว ปากเบี้ยว
ร้องไม่เป็นคำ ถือไมค์แล้วไมค์หล่น อ่อนแรง นึกเนื้อไม่ออกนี่
เป็นสัญญาณเตือน โรคหลอดเลือดสมองเลยนะครับ
ต้องรีบไป รพ ภายใน 4 ชม ช้ากว่านั้นเป็นอัมพาตเลยละครับ

โรคนี้เป็นกันมาก เลยครับ อาจารย์เต๊ะไปหาหมอสมอง ถามคนที่นั่งรอหมอด้วยกันนี่ เส้นเลือดสมองมาทั้งนั้น อาจารย์เต๊ะ ตรวจMRIแล้ว
ยังไม่เป็น แต่ก็ต้องระวังตัว ประมาทไม่ได้เลยครับ

ชีวิตคนเรา สุดท้ายก้หนีไม่พ้นต้องจากกันนะครับ
ยามมีชีวิตอยู่ ครอบครัว เพื่อนฝูง ก็ดูแลกันไป
โดยเฉพาะผู้มีพระคุณ พ่อแม่ ครูบาอาจารย์ ถือเป็นมงคลกับชีวิตนะครับ

อาจารย์เต๊ะ มาเม้นท์วันนี้ ถ้ายังพิมพ์รู้เรื่องอยู่แสดงว่า ยังปกติ
ถ้าวันไหนมาแล้วพิมพ์ ไม่รู้เรื่องนี่ แสดงว่าโรคมาเยือนแล้วละครับ
กราบสวัสดีครับ 5555






 

โดย: multiple 16 พฤศจิกายน 2568 5:28:55 น.  

 

อรุณสวัสดิ์ครับอาจารย์

 

โดย: กะว่าก๋า 16 พฤศจิกายน 2568 5:49:41 น.  

 

ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตครับอาจารย์

หลานสาวเป็นจิตแพทย์
น้องเล่าว่าต้องไปอบรมแนวคิดพุทธศาสนาด้วยครับ
เพื่อนำมาใช้ในการรักษาผู้ป่วยด้านจิตเวช

แต่คนไข้ที่เยอะสุด
มาจากคนที่ใช้ยาเสพติดจนหลอนครับ
และรักษายากมาก
เพราะถึงหายก็มักจะกลับไปติดยาซ้ำ
หากไม่เปลี่ยนสิ่งแวดล้อมครับ

 

โดย: กะว่าก๋า 16 พฤศจิกายน 2568 20:37:22 น.  

 

อรุณสวัสดิ์ครับอาจารย์

 

โดย: กะว่าก๋า 17 พฤศจิกายน 2568 5:37:18 น.  

 

ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตครับอาจารย์

ผมอ่าน "วัชรปรัชญาปารมิตาสูตร" เกิน 10 รอบแล้วครับ
บางรอบเข้าใจ บางรอบไม่เข้าใจ 5555
สำนวนแปลมีผลมากเลยครับกับการอ่าน

 

โดย: กะว่าก๋า 17 พฤศจิกายน 2568 14:18:30 น.  

 

อรุณสวัสดิ์ครับอาจารย์

 

โดย: กะว่าก๋า 18 พฤศจิกายน 2568 4:41:51 น.  

 

สวัสดีครับ
อ่าน blog ของอาจารย์ทีไรก็ทึ่งทุกที ที่อาจารย์มีลูกศิษย์ที่ยังติดต่อกันเยอะแยะมากมายขนาดนี้ สมแล้วครับที่เป็นที่เคารพรักของลูกศิษย์มากๆ

ผมเองพอเรียนจบนี่แยกย้ายกันตามสภาพ ติดต่อกันบ้างแต่ไม่ค่อยได้เจอกัน ขนาดเพื่อนสนิทที่สุดของผมสมัยม.ต้นที่ยังติดต่อและยังไปไหนมาไหนด้วยกันสมัยก่อน ตอนแต่งงานก็ยังไม่เท่าไหร่แต่พอมีลูกแล้วเงียบยาวเลยครับ 555+

 

โดย: กะริโตะคุง 18 พฤศจิกายน 2568 9:51:52 น.  

 

ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตครับอาจารย์

เซนแตกแขนงมาจากพุทธ
เนื้อหาเยไม่ต่าง
แต่ที่ต่าง คือ วิธีการสอน
ซึ่งผมว่าเซนสอนสนุก ไม่จำกัดวิธีการหรือรูปแบบ
แต่เป้าหมายก็เหมือนกันกับพุทธ
คือ เน้นการตื่นรู้ในตนด้วยตนครับ

 

โดย: กะว่าก๋า 18 พฤศจิกายน 2568 13:00:14 น.  

 

ลูกศิษย์เริ่มสูงวัย
จะทันอาจารย์กันหมดแล้วค่ะ


 

โดย: หอมกร 18 พฤศจิกายน 2568 13:17:31 น.  

 

สวัสดีค่ะอาจารย์

งานรวมรุ่นนี่สนุกนะคะ ถ้าเพื่อนๆไปกันเยอะๆ
อาจารย์น่ารัก ลูกศิษย์ก็น่ารักค่ะ
มีปลูกต้นไม้กันด้วยนะคะ ....

 

โดย: tanjira 18 พฤศจิกายน 2568 15:46:28 น.  

 

พอเห็นงานเลี้ยงรุ่นของอาจารย์ ก็คิดถึงเพื่อน ๆ เลยครับ ของผมก็มีเลี้ยงรุ่นกันประจำทุกปีเหมือนกันครับ หลัง ๆ มานี่ ตั้งแต่ผมออกเดินทางท่องเที่ยว กับไปงานวิ่ง ส่วนใหญ่จะชนกันตลอด ผมไม่ได้ไปมาหลายปีแล้ว ปีนี้ว่าจะไปหน่อยละครับ

 

โดย: The Kop Civil 18 พฤศจิกายน 2568 15:55:59 น.  

 

อรุณสวัสดิ์ครับอาจารย์

 

โดย: กะว่าก๋า 19 พฤศจิกายน 2568 5:34:21 น.  

 

ดีจังค่ะ การได้ออกไปเที่ยวแบบนี้ เดี๋ยวสิ้นเดือนมี้ก็จะไปเที่ยวบ้างแล้สค่ะ

 

โดย: kae+aoe 19 พฤศจิกายน 2568 8:25:24 น.  

 

ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตครับอาจารย์

ปล่อยวางเพื่อหลุดพ้นจากมายา
ในแนวคิดของมหายาน
กับตายก่อนตายในคำสอนของเถรวาท
ผมว่ามีความเหมือนกันมากๆเลยครับ
แค่เรียกต่างกันเท่านั้นเอง

 

โดย: กะว่าก๋า 19 พฤศจิกายน 2568 18:34:47 น.  

 

อรุณสวัสดิ์ครับอาจารย์

 

โดย: กะว่าก๋า 20 พฤศจิกายน 2568 5:32:35 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

space

BlogGang Popular Award#21


 
อาจารย์สุวิมล
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 47 คน [?]




เป็นครูสอนภาษาไทยที่เกษียณอายุราชการแล้ว สนใจเรื่องการเขียนหนังสือให้ความรู้ ชอบการท่องเที่ยว หากท่านที่เข้ามาชมและอ่านแล้ว มีความสนใจและต้องการสอบถามเรื่องความรู้ด้านภาษาไทย ถ้ามีความสามารถจะให้ความรู้ได้ ก็ยินดีค่ะ

http://i697.photobucket.com/albums/vv337/dd6728/color_line17.gif
space
space
space
space
[Add อาจารย์สุวิมล's blog to your web]
space
space
space
space
space