BlogGang.com : : อาจารย์สุวิมล : ความเป็นไทย

ความเป็นไทยไม่ใช่สิ่งไม่ดี แต่ไม่ใช่สิ่งที่ต้องยึดถือเป็นสาระสำคัญขนาดต้องเอามาบังคับการแต่งกาย ไว้ทรงผม ฯลฯ ในสภาครับ คนรุ่นใหม่ถูกโจมตีมากว่าเป็นพวกชังชาติ เพราะการถือครองอำนาจของกลุ่มอำนาจเดิมถูกเอามาผูกกับความเป็นชาติ เลยพาลชวนให้พวกตรรกะพิการตีความไปว่าการตรวจสอบกลุ่มอำนาจนอกระบบเท่ากับชังชาติไปด้วย (หนก่อน สส. เพื่อไทยจะแก้รัฐธรรมนูญให้ สว. มาจากการเลือกตั้งทั้งหมด โดนข้อหาล้มล้างการปกครอง หนนี้อนาคตใหม่โจมตีรัฐบาลทหาร ก็โดนข้อหาล้มล้างการปกครอง แต่ทหารรัฐประหารซ้ำแล้วซ้ำเล่า ไม่โดนอะไร ไม่คิดว่ามันผิดปกติเหรอครับ???)

แล้วผู้ใหญ่มักก็ไล่เด็กให้ไปศึกษาประวัติศาสตร์ไทย แต่ในเพจที่วิพากษ์แลกเปลี่ยนความเห็นประวัติศาสตร์เชิงวิชาการจริงๆ พวก conserv โดนตบคว่ำตลอดด้วยความที่ข้อมูลที่พวกเขายึดถือมาตลอดมันตอบคำถามอะไรไม่ได้ เพราะมันถูกตีกรอบด้วยข้อมูลที่จำกัดให้ศึกษา ไม่มีทางสู้ข้อมูลที่ได้จากการวิเคราะห์บริบทสังคมและรัฐข้างเคียงควบคู่ไปด้วย แบบที่ใช้ในศาสตร์การสืบค้นสมัยใหม่

ผมเชื่อว่าจะเป็นไทยหรือไม่เป็นไทย สิ่งที่ดีก็ต้องอนุรักษ์ไว้ สิ่งที่ไม่สอดคล้องกับยุคสมัยก็ต้องเปลี่ยนแปลงไปตามเวลา
ชุดไทยสมัย ร.7 ก็ไม่เหมือน ร.5 ต้นรัตนโกสินทร์ก็ไม่เหมือนสมัยอยุธยา แต่มีอิทธิพลจากภายนอกเข้ามาทำให้เปลี่ยนแปลงไป และเป็นความฉลาดของผู้ปกครองยุคนั้นที่ยอมรับวัฒนธรรมภายนอกเข้ามาไม่ว่าจะเรื่องการแต่งกาย การเลิกทาส เลิกหมอบคลาน ฯลฯ ทำให้ต่างชาติยอมรับมากขึ้นว่าเราไม่ใช่บ้านป่าเมืองเถื่อน

สมัยเรียนเขียน essay ภาษาอังกฤษ อาจารย์ให้บรรยายเรื่องความเป็นไทยที่แตกต่างจากชาติอื่น และเป็นสิ่งที่ต้องชี้แจงให้คนชาติอื่นเข้าใจคนไทย อาจารย์จะเบื่อมากกับคำตอบว่าคนไทยมีน้ำใจ คนไทยยิ้มเก่ง ฯลฯ มัน overrate ตัวเอง ทั้งที่ชาติอื่นเขาไม่เห็นว่าเรื่องนี้มัน unique สำหรับคนไทย ผมเขียนไปว่า 1. คนไทยต้องเคารพธงชาติตอน 8 โมงเช้า และ 6 โมงเย็น 2. คนไทยทักทายกันด้วยการไหว้ 3. คนไทยเคารพพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งอาจารย์ชอบคำตอบแบบนี้มากกว่า

บล็อกนี้ขออาจารย์ก็แสดงเอกลักษณ์หลายสิ่งหลายอย่างที่บ้านเรามีเป็นของตัวเองได้อย่างดีเยี่ยมเลยครับ หลายอย่าง โดยเฉพาะนวดแผนไทย และมวยไทย เป็นของดีบ้านเราที่นานาชาติยอมรับจริงๆ ไม่ใช่แค่แตกต่าง แต่ว่าดีกว่าที่อื่นๆในโลก