ความแตก
"ความแตก" เป็นโจทย์ ตะพาบ อันดับที่ 172 ผู้ตั้งโจทย์ คือ คุณ เป็ดสวรรค์ เหมือนเดิม จ้ะ
เขาว่ากันว่า ความลับ ไม่มีในโลก สักวันหนึ่ง ความลับนั้น ก็จะต้องถูกเปิดเผยออกมา เมื่อความลับนั้น ถูกเปิดเผยออกว่า เราก็คงต้อง เรียกว่า "ความแตก" เสียแล้ว
เรื่องของ "ความแตก" ฉันก็เคยเจอเหมือนกันนะ ดังจะเล่ากันต่อไปนี้ ทุกอาชีพ ถ้าหวังความก้าวหน้าในอาชีพนั้น ๆ นอกจากจะต้องมีความสามารถในเรื่องงานอาชีพนั้น ๆ ยังจะต้องทำงานให้เจ้านายพอใจ ถูกใจ อันเป็นธรรมชาติอย่างหนึ่งของมนุษย์ที่เป็นเจ้านาย เมื่อมีอำนาจในหน้าที่การงาน ตัดสิน ให้ความดีความชอบ แก่ผู้ใต้บังคับบัญชาได้ ก็จะใช้อำนาจ นั้น ๆ ของเขา ซึ่งบางคนก็ใช้ในทางที่ถูกต้อง บางคนก็ลุแก่อำนาจ เมื่อทำให้ "เขา"ไม่สบอารมณ์ เธอก็ไม่ต้องได้เจริญในหน้าที่ สองขั้น ก็รอไปก่อนนะ อิอิ ฉันเคยโดนแป๊กมา 7 ปี ไม่เคยได้ สองขั้นเลย ทั้ง ๆ ที่ฉันก็ทำงานอย่างเต็มความสามารถ แต่ฉันก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไร เพราะฉันสามารถพัฒนาตัวเองด้วยการทำผลงานทางวิชาการเพื่อเลื่อนเงินเดือนของตัวเองได้ ได้มาด้วยความสามารถ และเมื่อได้มาแล้ว ก็ตอบแทนเงินประจำตำแหน่งด้วยการช่วยหน่วยงาน ต่าง ๆ ที่จัดอบรมเพื่อทำผลงานเลื่อนระดับ จากระดับ 6 ไปสู่ระดับ 7 เพื่อไม่ให้เงินเดือนตัน ได้ช่วยงานหน่วยงานดังกล่าวมาไม่ต่ำกว่า 3-4 ปี รู้สึกมีความสุข ที่ได้ช่วยตรวจงาน แก้งาน ของเพื่อนร่วมอาชีพ จนพวกเขาประสบความสำเร็จได้เลื่อนเป็นซี 7 กันทุกคน เป็นอีกงานหนึ่ง ที่ฉันรู้สึกภูมิใจในอาชีพครู ของฉัน
เป็นภาพของพี่ ๆ เพื่อน ๆ น้อง ๆ ที่เป็นวิทยากรและช่วยตรวจผลงานของการทำผลงานเลื่อนเป็นซี 7
อ่านมาตั้งนาน แล้วมันเกี่ยวกับ "ความแตก" ตรงไหน หว่า ยังค่ะ กำลังจะเชื่อมโยงต่อไปค่ะ
บางครั้ง การได้ตำแหน่งทางวิชาการมาเป็นคนแรก ๆ ของโรงเรียน การต้องไปทำงานนอกโรงเรียนบ้าง ก็อาจจะไม่เป็นผลดีกับเราได้เหมือนกันนะ อิอิ แต่การออกไปเป็นวิทยากร ของฉัน ไม่เคย ทำให้งานสอนของฉันบกพร่อง เพราะก่อนไป ฉันทำการแลกคาบสอนกับเพื่อน ๆ ไว้ แลกคาบไม่ได้ ก็จะมีใบงานให้นักเรียนได้ทำงานและส่งฉัน เก็บคะแนนไปด้วย จึงไม่ได้ทำให้เพื่อนในหมวดเดือดร้อน
การที่ ผู้ช่วยบางท่าน เห็นว่า ฉันมีตำแหน่งทางวิชาการ ก็อยากให้ฉันไปช่วยงานทางฝ่ายงานสารบรรณ ของฝ่ายเขาบ้าง เพราะฉัน เอก ภาษาไทย จะได้ร่างหนังสือทางราชการได้ดี เขาคิดผิด เพราะว่า เอก ภาษาไทย กับ งานสารบรรณ เป็นงานคนละแบบกัน งานสารบรรณ เป็นงานสายธุรการ ที่มีรูปแบบเฉพาะ ต้องเป็นคนเรียนทางสายธุการมาโดยตรง ไม่ใช่ เอก ภาษาไทย จะไปทำได้เสียเมื่อไหร่ล่ะ
ผู้ช่วยฯ ได้นำชื่อของฉัน ขอตัวไปอยู่ธุรการเพื่อทำงานแผนกนี้ ซึ่งมีคนทำอยู่ก่อนแล้ว เพียงแต่ ควบสองตำแหน่ง คือควบ งานฝ่ายบุคลากรด้วย พูดง่าย ๆ คือ ต้องการแยกออกเป็นสองตำแหน่ง เมื่อเสนอ ผอ.ไปแล้ว (ซึ่งเพิ่งมาใหม่) ฉันก็ถูกเรียกตัวเข้าไปพบ เพื่อจะให้ฉัน รับตำแหน่งนี้ ฉันตอบปฏิเสธ ผอ.ไปว่า ฉันไม่เหมาะสมกับตำแหน่งนี้ ด้วยเหตุผลสามประการ คือ 1.ถึงฉันจะเรียน เอก ภาษาไทย ก็จริง แต่ งานสารบรรณ ไม่ได้ใช้ภาษาไทยเพียงอย่างเดียว 2. ตำแหน่งนี้ มีคนทำอยู่แล้ว ถ้าไปแยกตำแหน่งเขา คนถูกแยกจะรู้สึกอย่างไร เหมือนถูกลดตำแหน่ง 3. ฉันชอบอยู่สายวิชาการ ถ้า ผอ. จะใช้งาน ขอให้ใช้งานทางสายวิชาการ ฉันยินดีทำอย่างเต็มความสามารถ เขาก็ไม่ว่า อะไร บอกว่าไม่เป็นไร แล้วถ้ามีตำแหน่งไหนเหมาะสม จะให้ทำตำแหน่งนั้นภายหลัง ฉันเดินตัวปลิวออกจากห้อง ผอ.มาด้วยความสบายใจ ที่ผู้บริหารเข้าใจฉัน ไม่บีบบังคับฉัน แต่ ในระยะเวลาที่ผ่านไป เขาไม่เคยให้ฉันทำหน้าที่ทางวิชาการอะไรเลย ฉันไม่ได้เสียใจหรืออยาก มีตำแหน่ง ดีเสียอีก ไม่ต้องอยูในตำแหน่งบริหาร ฉันจะได้ทุ่มเทการสอนนักเรียนของฉันได้อย่างเต็มที่ อีกไม่นาน ตำแหน่งงานสารบรรณคนใหม่ ก็มีจนได้ และเป็นหมวดเดียวกับฉันด้วย คือ เอกภาษาไทย ซึ่งตำแหน่งนี้ จะต้องมีการบันทึกการประชุมประจำเดือนทุกครั้ง และเหตุการณ์ที่ฉันคิดไว้ ก็เกิดขึ้น เพราะการบันทึกการประชุมของพี่คนนั้น ได้ถูกแก้ต่อหน้าที่ประชุมครู แก้เยอะเสียด้วย เพราะ ผอ.เองก็เอกภาษาไทย ฉันบอกแล้วไง สำนวนในงานสารบรรณ รูปแบบ มันมีเฉพาะ แบบของมัน ต้องคนเรียนสายธุรการมาโดยตรง ไม่ใช่ เอกภาษาไทยจะไปทำหน้าที่งานสารบรรณ ได้ง่าย ๆ ต้องมีการเรียนรู้ ฝึกฝนก่อน ทุกคนในที่ประชุมเห็นใจพี่คนนั้นมากที่ถูกแก้แทบทุกบรรทัด เฮ้อ ! ฉันรู้สึกโชคดี ที่ปฏิเสธตำแหน่งนี้ไปตั้งแต่ต้น ไม่งั้นฉันก็อาจจะต้องตกอยู่ในลักษณะเหมือนพี่คนนี้แน่
เมื่อเจอหน้ากัน ในฐานะอยู่หมวดเดียวกัน ก็ต้องมีการปลอบใจกันว่า อย่าเสียใจไปเลย ทุกคนเข้าใจในตัวเขา ไม่มีใครเห็นด้วยกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหรอก แต่ผลที่ฉันได้รับกลับมา ก็คือ "เพราะเธอเป็นต้นเหตุนั่นแหละ ทำให้พี่ต้องมาเจอเหตุการณ์แบบนี้" "เอ้า! ทำไมพี่มาโทษหนูล่ะ" "ก็เพราะเธอไม่ยอมรับตำแหน่งนี้ ถ้ารับไปแต่ต้น พี่ก็ไม่ต้องเจอเหตุการณ์เช่นนี้" "เอ๋! พี่พูดอย่างนี้ ก็ไม่ถูกนะ ถ้าเขาขอให้พี่เป็นตำแหน่งนี้ พี่ไม่ชอบ ก็ปฏิเสธเหมือนหนูได้นี่" "ปฏิเสธไงล่ะ เขาด่าเธอให้พี่ฟังว่า อย่าคิดนะว่า เป็นอาจารย์ 3 ซี 8 แล้ว จะมาทำหยิ่ง นึกว่าเก่งงั้นเหรอ ผอ. ไม่ง้อหรอก นะ"
อ้อ! ถึงตรงนี้ "ความแตก"เสียแล้ว เพราะความโกรธของพี่เขา ทำให้ "ความแตก" ทำให้ฉันรู้ว่า ผู้บริหารคนนี้เขารู้สึกอย่างไรกับฉัน เมื่อฉันปฏิเสธ ตำแหน่งงาน สารบรรณ ห้าห้า นี่แหละ ระบบราชการ ยิ่งระดับซีไปเท่ากับผู้บริหารยิ่งต้องระมัดระวังตัว ให้ห่าง ๆ กันเข้าไว้ จะได้ไม่ถูกเข้าใจผิด ว่า "เก่งนักเหรอ ฉันไม่ง้อหรอก" อิอิ นี่เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในชีวิตจริง ๆ ตรงกับหัวข้อ "ความแตก" ได้นะเนี่ย ทำงานให้สมกับเงินประจำตำแหน่งที่เขาให้มา มีความสุขมากกว่าไปมีตำแหน่งในโรงเรียนนะจ๊ะ อิอิ
Create Date : 12 กุมภาพันธ์ 2560 |
Last Update : 12 กุมภาพันธ์ 2560 23:09:43 น. |
|
27 comments
|
Counter : 2208 Pageviews. |
|
|
เรื่องการทำงานถ้าไม่เข้าใจกัน
ทำงานอึดอัดนะคะ
แต่อาจารย์เป็นคนดี คิดบวกเสมอ
ผลของกรรมดีมันสะท้อนมาเอง
สิ่งไม่ดีมันก็สะท้อนมากับกรรมไม่ดีของคนนั้น
พูดไม่ดีไว้มันก็ต้องมีคนมาเปิดเผย
ความลีบไม่มีในโลกนะคะ
อาจารย์คงไม่ได้ เปลี่ยนกรุ๊ปบล๊อก
พอกดมันก็เลยไปเป็นบล๊อกเก่าค่ะ อาจารย์