|
|
| 1 | 2 | 3 |
4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 |
11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 |
18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 |
25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | |
|
|
|
|
สัตว์เลี้ยงของฉันหายไป
"สัตว์เลี้ยงของฉันหายไป" เป็นโจทย์ตะพาบ หลักกิโลเมตรที่ 329 ผู้ตั้งโจทย์ คือ คุณ เริงฤดีนะ
คำอธิบายโจทย์ (แนวทางการเขียน) มีสัตว์เลี้ยงที่รักไหม? อารมณ์เมื่อมันหายไป รู้สึกอย่างไร? และติดตาม หาไหม อย่างไร? ลองเขียนบรรยากาศเรื่องราว ลักษณะดังกล่าวดู ถ้าไม่มีสัตว์เลี้ยงลองจินตนาการดูว่า ถ้าเกิด เหตุการณ์ลักษณะดังกล่าว ตัวเราจะรู้สึกอย่างไร
สัตว์เลี้ยง ถือว่า เป็นสัตว์บ้านที่คนเรานำมาเลี้ยงไว้ ส่วนใหญ่ก็นำมา เลี้ยงด้วยความรัก อยากให้มันเป็นเพื่อน เป็นสมาชิกส่วนหนึ่งของบ้านเราแต่ก็มีบ้างที่เขาเลี้ยงไว้เพื่อใช้งาน เช่น สุนัขบางพันธุ์เลี้ยงไว้เพื่อดมกลิ่นหาคนร้าย หายาเสพติด ช่วยลากรถ เหมือนสุนัขไซบีเรียนฮัสกี้ เป็นต้น
สุนัขตำรวจ ทำงานดมกลิ่น ยาเสพติด ช่วยตำรวจจับคนร้าย
สุนัขพันธุ์ไซบีเรียนฮัสกี้ คนเลี้ยงใช้ในการลากเลื่อนท่ามกลางหิมะ ค่ะ
สุนัขทำงานดี เก่ง ได้ติดยศเหมือนคนเลย ค่ะ
นอกจาก สุนัขแล้ว สัตว์ยอดนิยมอีกประเภทหนึ่งที่คนนิยมนำมาเลี้ยง คือ แมว ค่ะ แมวเป็นสัตว์น่ารักเหมือนสุนัข ถึงจะช่วยงานอะไรไม่ได้ แต่มันก็น่ารัก ไม่น้อยไปกว่าสุนัข โดย เฉพาะแมวที่มีขนปุกปุย มาจากต่างประเทศ เช่น แมวพันธุ์เปอร์เซีย จนทำให้คนเลี้ยงหลงใหล จนมีคำพูดว่า เป็นทาสแมว อิอิ
แมวพันธุ์เปอร์เซีย ขนปุกปุย นุ่มนิ่ม น่าอุ้ม ค่ะ
แมวพันธุ์ เบงกอล
แมวไทยสีสวาด หรือ อีกชื่อหนึ่งว่า แมวโคราช
แมวไทย ชื่อ แมวพันธุ์วิเชียรมาศ
จากจุดประสงค์ของโจทย์ ต้องการทราบถึงอารมณ์เมื่อรู้ว่าสัตว์เลี้ยงที่ เรารักหายไป เราจะติดตามหามันไหม ติดตามอย่างไร สำหรับฉันไม่เคยมีสัตว์เลี้ยงที่รักหายไป ค่ะ แต่มันยิ่งกว่าการหายไป เพราะถ้ามันหาย เรายังมีหวังจะได้มันกลับมาหาเราได้ ส่วนของฉัน มันตายจากฉันไป เป็นการจากกันชั่วชีวิต ที่ไม่มีโอกาส ได้เจอกันอีกเลยมันเป็นเรื่องเศร้า เสียใจมากที่สุด เรื่องหนึ่งของชีวิตฉัน มันเป็นเสมือนหนึ่งเพื่อน เหมือนลูกชายของ ฉัน เราอยู่ด้วยกันตั้งแต่มันอายุได้เดือนเศษ อยู่ด้วยกันมา 13 ปี ความรักความผูกพันย่อมมีมากเกินกว่าที่จะ พรรณนาได้
ค้อกกี้ เป็นหมาพันธุ์มิเนเจ้อ พินช์เชอร์ หรือ เราเรียกว่า หมากระเป๋า ค้อกกี้ เป็นหมาตัวผู้ น้องชายซื้อมาจากต่างจังหวัด มันมีพี่น้อง 3 ตัว น้องชายตั้งใจซื้อมาให้แฟนของเขาเลี้ยง แต่เลี้ยง ได้ไม่กี่วัน แฟนน้องชายต้องไปทำงานที่ต่างประเทศ น้องชายเองเป็นเซล ไม่มีเวลาเลี้ยงมัน จึงได้เอามาให้ฉันที่บ้าน เพราะรู้ว่า ฉันเป็นคนรักหมา ชอบเลี้ยงหมามาตั้งแต่เด็ก เลี้ยงไปหลายตัว ค้อกกี้ เป็นหมาตัวสุดท้ายในชีวิตที่เลี้ยง ค่ะ หลัง จาก ค้อกกี้จากไปแล้ว ฉันก็ไม่เลี้ยงหมาอีกเลย
ค้อกกี้ ลูกชายฉัน ตอนนี้น่าจะอายุประมาณ 10 ปี ได้ ค่ะ
ค้อกกี้ เป็นหมาฉลาด ซุกซน กินเก่ง ฉันจะต้องคลุกข้าวให้มันกินก่อน ฉันจึงกินข้าวต่อ กินเสร็จ ก็นอนไขว้ขานอนรอ เพื่อฉันจะแบ่งอาหารของฉันให้มันอีก ตอนกลางวัน ฉันต้องไปสอน หนังสือ มันต้องอยู่บ้านตัวเดียว ตอนมาอยู่บ้านใหม่ ๆ มันคงโกรธ เหงา เลยรื้อเสื้อผ้าน้องชายที่วางอยู่บนโซฟา ลงไว้กับ พื้น กัดกระดาษหนังสือพิมพ์เต็มบ้าน ฉันกลับจาก โรงเรียนต้องทำความสะอาด เลยต้องสั่งสอนมันหน่อย ด้วยการจับมาตีเบา ๆ แล้วบอกว่า รื้อเสื้อผ้า กัดกระดาษเลอะบ้านไปหมด แม่เหนื่อยนะ ถ้ายังทำอีก จะไม่ เลี้ยงแล้ว เอาไปปล่อยวัด ไปเป็นหมาวัด วันต่อมา อาละวาดน้อยลง ก็ถูกทำโทษอีกเหมือนเดิม ประมาณ 4-5 วัน มันก็ไม่ทำอีกเลย คงรู้เรื่องแล้ว เวลาตอนเช้า ก่อนไปโรงเรียน ฉันจะพามันไปฉี่และอึ ที่ทุ่งหญ้าใกล้ ๆ บ้าน ลากันสองแม่ลูก มันเริ่มเรียนรู้แล้วว่า มันต้องอยู่ตัวเดียวที่บ้านในตอนกลางวันฉันเปิดพัดลมเพดานให้ด้วย มันจะได้ไม่ร้อน ตอนเย็นกลับจากโรงเรียน พอได้ยินเสียงเปิดประตูเท่านั้น กระโดดให้อุ้ม ดีอกดีใจ ต้องรีบพาไป ฉี่ ข้างนอก ในบ้านปูผ้าให้ถ้ามันไม่ปวดฉี่มาก ก็จะไม่ฉี่ มันเป็นหมาที่รักความสะอาด ถ้าไม่เต็มที่จริง ๆ ก็จะไม่ฉี่ ไม่ อึ ที่บ้าน ค่ะ
ค้อกกี้ เป็นหมาที่มีหูไว จำแม่น นาน ๆ ที น้องชายจะกลับมาบ้าน (เขาเป็นเซล) พอมันได้ยินเสียงมอเตอร์ไซด์ ของน้องชายเข้าใกล้บ้าน มันจะเงี่ยหูฟัง พอคิดว่าใช่ มันจะเริ่มเห่า บอกฉัน ดีอกดีใจที่เจ้านายคนแรกของมันมาบ้าน แล้วก็ถูกต้อง น้องชายฉันมาจริง ๆ พอเห็นน้องชาย มันจะตะกายให้ อุ้ม หางที่ถูกตัดตั้งแต่เกิดมาไม่กี่วัน เหลือแต่จุกเล็ก ๆ สั่น ริก ๆ อย่างดีใจ น้องชายอุ้ม มันจะเลียหน้าเลีย ตา พักใหญ่ จึงยอมลงจากตัวน้องชาย ค้อกกี้เป็นหมาแข็งแรง ฉันให้มันกินอาหารเหมือนคนกิน มีทั้งอาหาร เม็ดทิ้งไว้ในตอนกลางวันที่ฉันไม่อยู่ นาน ๆ ที มันจะไม่สบายสักครั้ง มันเคยถูกหมาล็อกไวเล่อแถวบ้านกัด เพราะไป เห่ามัน ล็อกไวเล่อมันคงหงุดหงิด ฉันรีบอุ้มเจ้ากี้ไว้ เจ้าล็อกไวเล่อดุมาก มันกระโดดฝังเขี้ยวตรงอกของเจ้ากี้ เจ้าของมัน ตะโกนสั่งมันให้หยุด ฉันล้มและดึงเจ้ากี้ ออกจากปากมัน พอดี พวกวินมอเตอร์ไซด์ พากันมาช่วยและเจ้าของ มันลากมันไปได้ เจ้าของมันก็รับผิดชอบดี พาฉันกับเจ้ากี้ไปโรงพยาบาลสัตว์เล็กที่จุฬา เจ้ากี้น่าสงสารมาก เย็บที่หน้าอกไป เป็นสิบเข็ม วางยาสลบ กว่าจะฟื้น หลายชั่วโมง ต้องพาไปล้างแผลทุกวัน เจ้าของล็อกไวเล่อ เขาก็รับ ผิดชอบ เจ้ากี้รอดตายมาได้อย่างทรหด เฮ้อ !
ฉันกับเจ้ากี้ เหมือนเป็นคู่ทุกข์คู่ยาก เพื่อนที่ซื่อสัตย์ กิน นอน อยู่ ด้วยกันตลอดเวลา กี้เหมือนส่วนหนึ่งของชีวิตฉัน หลังจากที่แม่ของฉันจากไปเมื่อปี 29 ฉันก็อยู่ตัวคนเดียวมาโดย ตลอด จนกระทั่งน้องชายนำเจ้ากี้มาทิ้งไว้ ให้ฉันเลี้ยง น่าจะประมาณปี 48 ฉันสังเกต เวลากี้ฉี่ เหมือนมีเลือดออก มาด้วย จึงพากี้ไปหาหมอ มีการเอ๊กซเรย์ จึงรู้ว่า กี้เป็นนิ่วจำเป็นต้องผ่าตัด ใจฉันตกวูบ กลัวว่ามันจะเป็นอันตราย แต่ในที่สุด กี้ก็ผ่านการผ่าตัดนิ่วมาได้อย่างปลอดภัย หมอที่ผ่าตัดบอกว่า อัณฑะกี้ดูเหมือนไม่ดี กลัวเป็นมะเร็ง เลยตัด อัณฑะให้ด้วย มีการขูดหินปูนให้กี้ ตอนที่ผ่าตัด เพราะวางยาสลบ เลยทำได้ง่าย กี้ หายป่วยกลับมาแข็งแรงเหมือน เดิม ฉันก็โล่งใจ จนกระทั่ง ฉันเกษียณแล้ว ในปี 2551 หวังว่า ฉันกับกี้ จะได้อยู่ด้วยกันตลอดไป แต่อะไร ๆ ก็ไม่เที่ยงแท้ อนิจจังไม่เที่ยงจริง ๆ โรคนิ่วกลับมาหากี้อีกครั้ง ตอนนี้ กี้อายุได้ 13 ปีแล้ว ฉันหวั่นใจเหลือ เกิน พากี้ไปหาหมอที่ จุฬาเหมือนเดิม แต่ครั้งนี้โชคไม่ดี ไม่ได้เจอหมอเก่ง ไปเจอหมออินเทิร์น เป็นเจ้าของ ไข้ หมอบอกว่า ต้องผ่าตัดเอานิ่วที่เกิดใหม่ออก ถ้าไม่เอาออก มันเลื่อนไปอยู่ที่ท่อปัสสาวะ จะยิ่งผ่าตัดลำบาก ฉันปรึกษากับน้องชาย ว่าจะให้กี้ผ่าตัดดีไหม ตัดสินใจให้ผ่าตัดกี้ วันแรกที่ผ่าตัด กี้ฟื้นมาแต่ดูไม่ปรกตินัก รุ่งเช้า หมอนัดดูแผล และเอ๊กซเรย์ ปรากฏ ว่า หมอที่เอ๊กซเรย์ บอกว่าให้ไปหาหมอที่ผ่าตัดเมื่อวานนี้ ฉันใจหายวูบ แสดงว่าต้องมีอะไรผิดปรกติ เลยต้องมาหาหมอ ที่ผ่าตัด แล้วข่าวร้ายก็เกิดขึ้นจริง ๆ หมอที่ผ่าตัดบอกว่า แผลในช่อง ท้องที่เย็บไว้ ปริ ต้องผ่าตัดใหม่อีกรอบ คุณพระช่วย เมื่อวานเพิ่งผ่า วันนี้ต้องผ่ารอบสอง หมาตัวเล็ก ๆ มันจะ ทนไหวเหรอ หมอบอกว่า ถ้าไม่ผ่า ติดเชื้อขึ้นมา โอกาสรอดยาก ฉันกลั้นน้ำตาไว้ สงสารเจ้ากี้ที่ต้องเจ็บตัวอีกครั้ง กลัวไปสารพัด จำใจต้องเสี่ยง แต่กี้ ก็ทรหดอดทน รอดจากการผ่าตัดอีกครั้ง ฟื้นตัวและรักษาแผลผ่าตัดจนตัดไหม เรียบร้อย แต่ไม่กี่วันต่อมากี้ก็ไม่ค่อยกินอาหาร คลำที่กลางหลัง เจอก้อนเนื้อนูน ๆ ต้องพาไปโรงพยาบาลอีก ตรวจ พบว่า เป็นฝีกลางหลัง จะต้องกรีดเอาหนองออก น่าสงสารกี้มากเลย มันร้อง คงเจ็บมาก ฉันกอดไว้ คอยปลอบให้มัน อดทน ถ้าไม่เอาหนองออก จะเป็นไข้ ทำไมนะ เคราะห์ซ้ำกรรมซัดจริง ๆ ต้องอุ้มไปล้างแผลทุกวัน จนแผล ดีขึ้น แต่กี้กินอาหารไม่ได้มากเหมือนตอนยัง ไม่ป่วย ไม่ร่าเริง ดูซึม ๆ พลอยทำให้ฉันทุกข์ใจด้วยความเป็นห่วง หลังจากแผลที่กลางหลังหาย ไม่ต้องไปให้หมอล้างแผล พักได้เพียงสองวัน ดูเหมือนกี้จะเป็นไข้ ตัวรุม ๆ กินข้าวได้น้อย ฉันต้องพาไปหาหมอที่จุฬา หมอตรวจเช็ค แล้วบอกว่า ไม่เป็นอะไรมากหรอก ไม่ยอมเจาะ เลือดตรวจ ให้แต่ยาแก้ไข้มาให้กิน ฉันป้อนยากี้ไปครั้งเดียว
ช่วงเย็น ป้อนยาไปอีกครั้งตามหมอสั่ง แต่กินยาแล้ว กี้มีอาการแย่กว่า เก่า เหมือนจะชัก หายใจแรง ถี่ ตอนนั้นเกือบเที่ยงคืน ฉันโทรตามลูกศิษย์ที่บ้านใกล้บ้านฉัน ขับรถมารับฉันเพื่อพากี้ไปหา หมอที่ห้องฉุกเฉิน หมอเวร เห็นอาการแล้ว รีบเจาะเลือดดู บอกว่า เลือดเป็นกรดสูงมาก ทำไมเพิ่งมาหาหมอ ฉันเล่าให้หมอฟังแล้วว่า มาหาหมอตอนเช้าแล้ว หมอไม่ยอมเจาะเลือดตรวจเลย หมอเวรเลยไม่กล้าพูดอะไรต่อ รีบ ให้น้ำเกลือแก่กี้ แต่อาการกี้ไม่ดีขึ้นเลย หายใจถี่มาก จนหมอต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ ฉันกอดมันไว้ มันได้ แต่มองหน้าฉัน ดวงตากลมโตมองหน้าฉันตลอดเวลา ฉันได้แต่นั่งเฝ้ามันจนถึงตี 3 ลมหายใจของกี้ เริ่มแผ่วลงเรื่อย ๆ ฉัน ได้แต่กอดมันไว้ว่า ถ้าไม่ไหว กี้ก็หลับให้สบายนะ ไม่ต้องห่วงแม่ นะ หมอได้แต่มาดู ปั้มหัวใจ แต่ก็หมดหวัง กี้จากฉันไปภายในอ้อมกอดของฉัน น่าจะประมาณ ตี 3 กว่า เสียเงินค่ารักษาไปพันกว่าบาท โทรถามหลาน มารับศพกี้ และนำไปฝังยังที่ดินแถวบ้าน ซึ่งเป็นลานกว้าง ใส่เสื้อผ้าให้มัน บอกให้มันไปสู่สุคติ ไปเป็น ดาวหมาบนสวรรค์ ชาติหน้ามีจริง คงได้เลี้ยงดูอุ้มชู มันอีก บอกมันว่า แม่จะไม่เลี้ยงหมาอีกเลย มันจะเป็นหมาตัวสุดท้าย ที่ฉันจะเลี้ยง และฉันก็ทำตามสัญญา ไม่ได้ เลี้ยงหมาอีกเลย เพื่อนมีหมาสวย ๆ ออกลูกมาจะให้ฉัน ฉันก็ปฏิเสธ ไม่เลี้ยงอีกแล้ว มันทุกข์เหลือเกินเลี้ยงแล้วก็ ผูกพันรักใคร่ ยามจากกันมันเป็นทุกข์จริง ๆถึงจะรู้ว่า การตาย การพลัดพราก เป็นธรรมดาของสัตว์โลกก็ตาม กว่าฉันจะเคยชินกับการไม่มีกี้ เป็นเพื่อน เป็นลูก เป็นคู่ทุกข์คู่ยาก ก็ประมาณ 3-4 เดือน จึงเข้าสู่ภาวะปกติได้ ค่ะ
ตะพาบครั้งนี้ "สัตว์เลี้ยงของฉันหายไป" เป็นเรื่องเศร้าที่สุดเรื่องหนึ่ง ในชีวิตของฉัน เศร้ายิ่งกว่าตอนเลิกกันแฟน เสียด้วยซ้ำ กว่าจะทำใจได้ ก็แทบแย่เหมือนกัน ค่ะ มาชมภาพกี้ที่น่ารักของฉันก่อนปิดเรื่องการเขียนครั้งนี้ ค่ะ
กี้ นอนคอยรอฉันกลับจากโรงเรียน ทุกวัน ค่ะ
ที่นอนของกี้ มีทั้งที่โซฟา มีผ้าปูนอน ที่พื้นจะมีเบาะให้นอน บางครั้ง อากาศร้อน ๆ ก็ไม่นอนเบาะ นอนที่พื้นหินขัด เย็น ๆ ค่ะ
Create Date : 16 มิถุนายน 2566 |
Last Update : 16 มิถุนายน 2566 20:08:28 น. |
|
24 comments
|
Counter : 750 Pageviews. |
|
|
|
ผู้โหวตบล็อกนี้... |
คุณสองแผ่นดิน, คุณทนายอ้วน, คุณtoor36, คุณSweet_pills, คุณกะว่าก๋า, คุณดอยสะเก็ด, คุณจันทราน็อคเทิร์น, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณกิ่งฟ้า, คุณtanjira, คุณ**mp5**, คุณThe Kop Civil, คุณปัญญา Dh, คุณโอน่าจอมซ่าส์, คุณเริงฤดีนะ, คุณหอมกร, คุณนายแว่นขยันเที่ยว |
โดย: ทนายอ้วน วันที่: 16 มิถุนายน 2566 เวลา:21:32:20 น. |
|
|
|
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 16 มิถุนายน 2566 เวลา:21:59:01 น. |
|
|
|
โดย: Sweet_pills วันที่: 17 มิถุนายน 2566 เวลา:1:03:04 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 17 มิถุนายน 2566 เวลา:6:15:49 น. |
|
|
|
โดย: ดอยสะเก็ด วันที่: 17 มิถุนายน 2566 เวลา:17:08:21 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 17 มิถุนายน 2566 เวลา:19:24:30 น. |
|
|
|
โดย: Sweet_pills วันที่: 18 มิถุนายน 2566 เวลา:0:28:11 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 18 มิถุนายน 2566 เวลา:6:12:42 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 18 มิถุนายน 2566 เวลา:11:12:44 น. |
|
|
|
โดย: กิ่งฟ้า วันที่: 18 มิถุนายน 2566 เวลา:15:39:03 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 19 มิถุนายน 2566 เวลา:5:19:34 น. |
|
|
|
โดย: tanjira วันที่: 19 มิถุนายน 2566 เวลา:7:46:39 น. |
|
|
|
โดย: **mp5** วันที่: 19 มิถุนายน 2566 เวลา:10:33:40 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 19 มิถุนายน 2566 เวลา:19:50:17 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 20 มิถุนายน 2566 เวลา:5:23:56 น. |
|
|
|
โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 20 มิถุนายน 2566 เวลา:5:46:17 น. |
|
|
|
โดย: หอมกร วันที่: 20 มิถุนายน 2566 เวลา:7:19:43 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 20 มิถุนายน 2566 เวลา:21:38:59 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 21 มิถุนายน 2566 เวลา:5:28:54 น. |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
ฝากข้อความหลังไมค์ |
|
Rss Feed |
| Smember | | ผู้ติดตามบล็อก : 46 คน [?]
|
เป็นครูสอนภาษาไทยที่เกษียณอายุราชการแล้ว สนใจเรื่องการเขียนหนังสือให้ความรู้ ชอบการท่องเที่ยว หากท่านที่เข้ามาชมและอ่านแล้ว มีความสนใจและต้องการสอบถามเรื่องความรู้ด้านภาษาไทย ถ้ามีความสามารถจะให้ความรู้ได้ ก็ยินดีค่ะ
http://i697.photobucket.com/albums/vv337/dd6728/color_line17.gif |
|
|
|