คืนกำไรให้ชีวิต เพื่อพิชิตไปในโลกกว้าง
space
space
space
<<
มิถุนายน 2562
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
space
space
17 มิถุนายน 2562
space
space
space

ความกลัวในชีวิตของฉัน
  ความกลัวในชีวิตของฉัน

"ความกลัว"
   เป็นโจทย์ตะพาบ  กิโลเมตรที่  230   ผู้ตั้งโจทย์ ครั้งนี้ 
คือ  น้อง กะว่าก๋า   ค่ะ 
นับเป็นโจทย์ที่ตีความได้ไม่ยากนักนะ  มีมุมให้เขียนกว้างพอสมควร 
ส่วนฉัน ก็คงเล่าถึงความกลัวในชีวิตของตัวเอง ตามความถนัด



พอดีไปเจอภาพขำขันรูปนี้   คนเขียนการ์ตูน  มีมุมมอง มีอารมณ์ขันดี
และเข้ากับหัวข้อ ตะพาบ
"ความกลัว"ด้วย
เลยนำมาฝาก ค่ะ  เป็นไปตามสภาพการณ์ในปัจจุบัน  การหาหมอ
แต่ละครั้ง  เห็นบิลค่ารักษาแล้ว  สะดุ้งกลัว
เมื่อเห็นตัวเลขจริง ๆ  โดยเฉพาะการไปรักษาฟัน   แค่ขูดหินปูน อุด
ฟัน 2 ซี่  บิลออกมา  3200   บาท   หมอใช้เวลา
ประมาณครึ่งชั่วโมง  โอ! พระเจ้า ดูช่องที่เป็นค่าหมอ ที่เรียกว่า
ค่าวิชาชีพ  1700  บาท  หมอฟัน คนไข้ถูกฟันจริง ๆ 


"ความกลัว"   เป็นสัญชาตญาณของมนุษย์เหมือนกันหมด แต่ว่า
สิ่งที่กลัวนั้นต่างกัน ตามแต่เรื่องราว
ที่ตนรับเข้าไว้ในสอง" 
นี่เป็น คำสอนของ ท่านพุทธทาส  เกจิอาจารย์  
ที่ได้รับยกย่องว่า  มีคำสอนที่ลึกซึ้งมากที่สุดรูปหนึ่ง


"ความกลัว "  ฉันคิดว่า  มันเกิดจาก "ใจ" ของเราที่คิดเอง  หรือจาก
จิตใต้สำนึกในเหตุการณ์ใดเหตุการณ์หนึ่ง
ที่เราเคยประสบมา  อย่างนี้  ต้องแก้ที่จิตใจของเราเอง  แต่ถ้าเป็น
ความกลัวที่ถูกข่มขู่  จากผู้มีอิทธิพล  เป็นต้น
ถ้าเป็นความกลัวแบบนี้  ต้องใช้ปัญญาไตร่ตรองดูว่า  ที่เขาข่มขู่เรานั้น
เพราะอะไร  เราผิดไหม  ถ้าไม่ผิด ก็ไม่ต้องกลัว  บ้านเมือง
มีขื่อมีแป   แต่ถ้าเราผิดจริง เช่นติดหนี้เขาจริง ก็ต้องเจรจาผ่อนปรน
เขาด้วยมธุรสวาจา และรีบหาเงินใช้หนี้
จะได้ไม่ต้องกลัว ถูกข่มขู่  

ความกลัวของคนเรา  มีมากมาย  เช่น กลัวสัตว์บางชนิด กลัวความ
ผิดหวัง  กลัวความยากจน  กลัวภัยต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้น
กลัวถูกทอดทิ้ง  กล้วอกหัก กลัวเจ็บ  กลัวเมีย  กลัวตาย  สารพัดที่
จะกลัว  แต่ไม่ใช่กลัวทุกอย่างที่ยกมา นะคะ นี่เป็นตัวอย่าง
ที่ฉันพบเจอในชีวิตประจำวันขอหลาย ๆ คนที่ฉันเคยพบเจอ ฉันคิดว่า 
ความกลัวเหล่านี้  ไม่ใช่เป็นปัญหาใหญ่นัก 
คนเราถ้าตั้งใจที่จะแก้ไขความกลัวเหล่านั้น  ย่อมมีทางแก้ไขได้อยู่
แล้ว  เช่น  ถ้ากลัวจน ไม่มีเงินใช้  เราก็ต้อง
ขยันทำมาหากิน  เงินเดือนไม่พอใช้  เราก็ต้องหางานพิเศษทำเพิ่มเติม
สิ่งใดไม่จำเป็น ฟุ่มเฟือย ก็ตัดรายจ่ายนั้น ๆ  
รู้จักทำบัญชีรายรับ รายจ่าย  บริหารจัดการเรื่องเงินเป็นส่วน ๆ ไป หรือ
กลัวภัยธรรมชาติ  เช่น ภัยน้ำท่วม  อัคคีภัย
เราก็ต้องไม่ประมาท  หมั่นฟังข่าวคราว เพื่อเตรียมหาทางป้องกันภัย
ที่จะเกิดขึ้น เตรียมพร้อมทุกขณะ  เราก็จะแคล้วคลาด
ปลอดภัยจากภัยต่าง ๆ ดังกล่าวได้  อาจจะไม่เต็มร้อย แต่อย่าง
น้อยก็จะสามารถบรรเทาเบาบางลงไปได้ อย่างแน่นอน

การขจัด ความกลัวนั้น  เราต้องใช้ "ใจ" ค่ะ ใจที่เข้มแข็ง อดทน และ
ที่สำคัญที่สุด  ต้องกล้าผจญกับความเป็นจริง
ที่เรากลัว  การกล้าผจญกับความเป็นจริงที่เรากลัว  การยอมรับสิ่ง
ที่เกิดขึ้นกับเรา ถือเป็นความกล้าหาญของใจเรา
ซึ่งจะค่อย ๆ แข็งแกร่งและขจัดความกลัวนั้น ๆ ค่อย ๆ หายไป  ค่ะ 

สำหรับในชีวิตของฉันเท่าที่จำได้  เกิดความกลัวอยู่ไม่กี่อย่าง  และ
ก็สามารถกำจัดความกลัวเหล่านั้นได้ในที่สุด  
ความกลัวเรื่องแรก  นั่นคือ  เมื่อสามารถสอบเข้าเรียนต่อในขั้นอุดม
ศึกษาได้แล้ว   ฉันกลัวถูกรีไทร์มาก เพราะฉัน
เป็นเด็กสอบเทียบทั้ง ม.ศ. 3 และ ม.ศ.  5  ความรู้ย่อมไม่แน่นเท่า
กับ เพื่อน ๆ ที่เรียนในภาคกลางวันมาอย่างแน่นอน  
และระเบียบของการเรียนที่นี่  นิสิต จะต้องสอบให้ได้เกรดเฉลี่ยใน
สองปีแรก  ไม่ต่ำกว่า  2.5  ขึ้นไป จึงจะมีสิทธิ์
เรียนต่อ ปี 3  เกรดเฉลี่ยเทอม  1 ของฉัน ได้แค่  2.15  เท่านั้น ใจฉัน
ไม่เป็นสุขเลย  เกิดความกลัวว่า จะถูกรีไทร์
ความกลัวต่อไป ก็คือ  จะไม่ได้จบปริญญาตรีตามที่ตั้งปณิธานไว้
ประกอบกับช่วงนั้น  ครอบครัวประสบปัญหามาก
พ่อล้มป่วย  กิจการโรงงานน้ำหวานของพ่อต้องปิดตัวลงไป   ฉันจะ
ต้องเรียนให้จบให้ได้เพื่อทำงานหาเงินพยุงครอบครัวไว้
ทางเดียวที่ฉันจะชนะความกลัวครั้งนี้ได้  ก็คือ  ต้องขยันอ่านหนังสือ
มากกว่าเพื่อนคนอื่น  นอนน้อยกว่าตื่นเร็วกว่าเพื่อน
คนอื่น  เพื่อทบทวนบทเรียน  ทำโน้ตย่อเตือนความจำที่ได้อ่านไป

 

นี่เป็นภาพตอนอยู่ปีหนึ่ง   ค่อนข้างผอม หน้าตอบ  เพราะพักผ่อน
ไม่เต็มที่ เห็นกระดูกไหปลาร้า โผล่เลย อิอิ


แต่ ฉันก็ต้องพยายามขจัด ความกลัว ที่จะต้องผ่านการขึ้นเรียนต่อปี 3
ให้ได้  และต้องเรียนให้จบ ปริญญาตรีตามที่ตั้งใจไว้

และในที่สุด  ด้วยการตั้งสติ  ใช้ความอดทนสูงในการอ่านหนังสือและ
ทำการบ้าน  ทนอดตาหลับขับตานอน
ในที่สุด ฉันก็ผ่านขึ้นเรียน ปี 3  ด้วยเกรดเฉลี่ย น่าจะ 2.8  ถ้าจำไม่ผิด
แต่ความกลัวก็ยังไม่หมดไป  ยังคงต้องมีความขยัน
หมั่นเพียรในการอ่านหนังสืออย่างสม่ำเสมอ  จนสำเร็จจบปริญญาได้
เกรดเฉลี่ย  2.9  ก็เป็นคะแนนเฉลี่ยที่ไม่ขี้เหร่นักเนาะ 

เรื่องความกลัว เรื่องที่สอง  ฉันกลัวการมีความรัก ค่ะ กลัวความผิดหวัง
จากความรัก  ฉันจึงไม่เคยรักใคร จนจบ ป.ตรี 
แต่ ..ฉันก็หนีไม่พ้นความกลัวในเรื่องความรัก  แล้วฉันก็ตกปากรับ
ความรักจากเขา  แล้วความกลัวนี้ ก็เกิดขึ้นกับฉัน
จนได้  เขากะจะแต่งงานกับฉัน ด้วยการวาดหวังให้ฉันอย่างงดงาม
วาดแผนของงานแต่งอย่างสวยหรู 
แต่..แล้ว เขาก็กล่าวคำขอโทษ  ที่ไม่สามารถทำตามสิ่งที่เขาให้ความ
หวัง  วาดหวังด้วยภาพที่สวยงามได้  เขา
เขียนมันด้วยมือ  แล้วลบมันด้วยเท้าอย่างเลือดเย็น   เย็นจนฉันไม่
คาดคิดว่า  คนสุภาพ อย่างเขาจะทำมันได้ 
ความกลัว เรื่อง ความรัก  ได้เกิดขึ้นกับฉันจริง ๆ  เหมือนใจที่เคยกลัว
มาแต่ต้น  เฮ้อ ! ฉันคงติดกรรมเขาไว้   สติเท่านั้น 
ที่จะขจัดสิ่งที่เกิดขึ้นครั้งนี้  ออกไปจากใจโดยเร็ว  เพื่อสุขภาพจิต สุขภาพกายของเราเอง 

"ความกลัว" นี้  สิ่งสำคัญที่สุด  คือ "สติ" ค่ะ  เมื่อ สิ่งที่เรากลัว มันได้
เกิดขึ้นมาจริง ๆ  ก็ต้องตั้งสติให้ดี  
และอย่าอยู่คนเดียว   พ่อ แม่ และใครที่เราไว้ใจได้มากที่สุด  จะให้
กำลังใจให้เราได้ดีที่สุด  และไม่ทอดทิ้งเรา
สุดท้ายนี้  ขอฝากคำกล่าวที่ฉันได้อ่านผ่านสายตามา  เห็นว่าเป็น
คำกล่าวที่เตือนสติได้มาก ดังนี้  
"เส้นทางชีวิตของคนเรานั้นยังอีกยาวไกล  แต่ชัยชนะและเส้นชัยนั้น
ไม่ไกลเหมือนอย่างที่คิด  ความทุกข์ก็เช่นกัน
เดี๋ยวมันก็ผ่านไป "









 



Create Date : 17 มิถุนายน 2562
Last Update : 17 มิถุนายน 2562 21:27:58 น. 32 comments
Counter : 2032 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณกะว่าก๋า, คุณสันตะวาใบข้าว, คุณเรียวรุ้ง, คุณtoor36, คุณtuk-tuk@korat, คุณNior Heavens Five, คุณkae+aoe, คุณบาบิบูเบะ...แปลงกายเป็นบูริน, คุณmambymam, คุณสองแผ่นดิน, คุณชีริว, คุณอุ้มสี, คุณโอน่าจอมซ่าส์, คุณhaiku, คุณRinsa Yoyolive, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณnewyorknurse


 
อ่านความกลัวในมุมมองของอาจารย์
ของผมจะตรงเรื่องการฉีดยาครับ 555
สมัยเด็กผมกลัวการไปหาหมอมากๆ
แต่พอมีลูก
ต้องเจาะเลือด ก็เลยหายกลัวไปเลย
อาจเพราะพยาบาลมือเบาด้วยนะครับ
ไม่ฉีดยาเจ็บเหมือนในอดีต

ส่วนเรื่องความรัก
ผมเองก็ไม่มีประสบการณ์ตรงเลยครับ
ตอนเรียนก็เรียนจริงๆ ไม่เคยมีแฟนเลยครับ



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 17 มิถุนายน 2562 เวลา:22:18:34 น.  

 


สวัสดียามเช้าครับอาจารย์

โหวตครับ



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 18 มิถุนายน 2562 เวลา:6:24:34 น.  

 
มาอ่านความกลัวในประสบการณ์ของอาจารย์ค่ะ
ทุกคนก็จะประสบมาเหมือนกันบ้างต่างกันบ้าง
อยู่ที่ใครจะสยบความกลัวได้ด้วยวิธีไหนนะคะ
คนที่เกิดมาพร้อมสู้ก็พิชิตง่ายหน่อย สำหรับอาจารย์
ต้องชมว่า สู้ไม่ถอยมาตลอดเลยค่ะ

ขอบคุณที่ช่วยแก้เบอร์โจทย์ให้นะคะ
พี่ก๊อปมาจากโจทย์ที่แล้ว แต่ลืมเปลี่ยนตัวเลขค่ะ



โดย: ภาวิดา คนบ้านป่า วันที่: 18 มิถุนายน 2562 เวลา:10:47:46 น.  

 
ความทุกข์ก็เช่นกัน
เดี๋ยวมันก็ผ่านไป "

ใช่เลยค่ะคุณครู..ความทุกข์เลยผ่านเราไปแล้ว^^



โดย: สันตะวาใบข้าว วันที่: 18 มิถุนายน 2562 เวลา:13:55:12 น.  

 
ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตครับอาจารย์

สมัยเด็กผมเคยโดดเรียน
แล้วป่วยเพราะกลัวถูกฉีดวัคซีนด้วยครับ 555
แต่สิ่งที่ทำให้หายกลัวคือตอนที่ลูกชายเพื่อนป่วยครับ
เค้าต้องถ่ายเลือดทุกเดือน
เพื่อนมาขอให้ผมบริจาคเลือดให้
ผมเต็มใจช่วย และนั่นทำให้ผมหายกลัวการฉีดยาไปเลยครับ



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 18 มิถุนายน 2562 เวลา:14:55:19 น.  

 
ชอบการ์ตูนจังเห็นภาพชัดเจน

ตอนเด็กรุ้งกลัวหมอฟันมาก ปวดแทบตายก็ไม่ยอมให้หมอทำฟันแม่งี้อับอายเพราะร้องลั่นคลีินิค แต่มาตอนนี้กลัวค่าทำฟันค่ะ กลัวฟันผุยิ่งไปกว่านี้เพราะนี่ก็อุดทุกซี่ล่ะ บางซี่แทบไม่มีที่จะอุดแล้ว หมอที่รุ้งทำฟันประจำคุ้นเคยกันดีทำกันมานานเกิน 10 ปี เป็นหมอที่รุ้งไว้ใจเพราะเพียงเห็นแผลที่ผุหมอก็รู้แล้วว่าระดับรุ้งควรต้องฉีดยาชาหรือไม่ 5555

รุ้งเป็นเด็กสอบเทียบเหมือนกันแต่แค่ม.5 ครั้งเดียวค่ะ
ไม่เคยมีความกดดันเรื่องเรียนแม้ว่าจะเข้าเรียนตอนอายุน้อย
รุ้งเข้าเรียนก่อนเกณฑ์ 1 ปีเลยอายุน้อยสุดในห้อง สอบเทียบได้
เอ็นฯไม่ติดพ่อบอกให้เรียนราม ญาติบอกว่าอย่าเลยเอกชนเถอะ
เพราะพ่อก็มีความสามารถส่งเสียได้ แต่รุ้งก็เลือกม.รามคำแหง
และมั่นใจว่าอย่างไรเสียก็ต้องเรียนจบ รุ้งใช้เวลา 3 ปีในการเรียนที่รามคำแหง จบมาเลยมีอายุแค่ 19 ปี

เรื่องความรักรุ้งก็กลัวค่ะ เหมือนเพลงเจ้าสาวกลัวฝนเลยค่ะ อยากมีใครสักคนอยู่ข้างๆ นะ แต่ก็กลัวว่าความรักจะไม่จบลงอย่างสวยงามเหมือนในนิยาย เลยอยู่เป็นโสดเรื่อยมาสบายใจกว่า ยิ่งตอนนี้หาเลี้ยงตัวเองได้ด้วย ยิ่งอาการหนัก จะหาห่วงผูกรัดเพื่ออะไร


โดย: เรียวรุ้ง วันที่: 18 มิถุนายน 2562 เวลา:15:50:17 น.  

 
คนเรามักจะคิดและจินตนาการไปเองถึงสิ่งที่ยังไม่เกิด ทั้งๆ ที่ความจริงมันไม่ได้เลวร้ายอย่างที่เราจินตนาการไว้ หรือความไม่แน่นอนก็ทำให้เรากังวล อาจถึงขั้นกลัวได้เหมือนกัน

ในชีวิตคนเรานั้นผ่านเรื่องราวต่างๆ มามากมาย เราไม่รู้หรอกว่าเราผ่านมาได้อย่างไร แต่ก็ผ่านมันมาได้ทุกครั้ง แม้มันอาจไม่ดีนัก แต่ก็ถือว่าผ่านมันมาได้


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 18 มิถุนายน 2562 เวลา:22:18:07 น.  

 
เป็นหมอฟันค่ะ กลัวเข็มฉีดยาค่ะ


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 18 มิถุนายน 2562 เวลา:22:30:41 น.  

 
สวัสดียามดึกครับอาจารย์
ความกลัวของแต่ละคนไม่เหมือนกันจริงๆครับ
โหวตครับ


โดย: Nior Heavens Five วันที่: 18 มิถุนายน 2562 เวลา:23:10:44 น.  

 

สวัสดียามเช้าครับอาจารย์



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 19 มิถุนายน 2562 เวลา:6:34:25 น.  

 
รักครูค่ะ ครูน่ารัก ผ่านเรื่องราว ผ่านความกลัวมาได้ สุดยอดมากๆ นะคะ


โดย: kae+aoe วันที่: 19 มิถุนายน 2562 เวลา:8:07:48 น.  

 
สติช่วยเราได้ในทุกสถานการ์ณจริง ๆ ค่ะ


โดย: บาบิบูเบะ...แปลงกายเป็นบูริน วันที่: 19 มิถุนายน 2562 เวลา:13:03:17 น.  

 
ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตครับอาจารย์


งานของผมทำให้เจอคนเยอะมาก
ผมได้เรียนรู้อะไรมากมายจากการพูดคุยคนที่ผมพบเจอ
ส่วนหนึ่งก็ได้จากการอ่านด้วยครับ
หนังสือที่ดี
เหมือนเป็นครูที่ดีสำหรับผมเช่นกันครับ



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 19 มิถุนายน 2562 เวลา:14:21:51 น.  

 
สวัสดีค่ะอาจารย์ ขอบพระคุณค่ะ

วันแรกที่หัดฉีดยา พอเห็นเข็ม รู้สึกเวียนหัว หน้าเย็น คลื่นไส้ เลยออกไปเข้าห้องน้ำ รู้จักคำว่าหน้าซีดเป็นกระดาษเมื่อเห็นตัวเองในกระจกวันนั้นเองค่ะ


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 19 มิถุนายน 2562 เวลา:16:23:02 น.  

 
มาอ่านงานตะพาบของอาจารย์ค่ะ


โดย: sawkitty วันที่: 19 มิถุนายน 2562 เวลา:16:44:25 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับอาจารย์



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 20 มิถุนายน 2562 เวลา:6:46:21 น.  

 
ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตครับอาจารย์

แม้จะออกตัวว่าเป็นหนังสือที่เกี่ยวกับการลงทุน
แต่หลายตอนในหนังสือชุดนี้
เป็นตัวอย่างที่ดีเลยครับอาจารย์
เค้ายกตัวอย่างทั้งธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ
และธุรกิจที่ล้มเหลว
อ่านแล้วได้มุมมองที่ดีในการทำธุรกิจและการใช้ชีวิตด้วยครับ



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 20 มิถุนายน 2562 เวลา:12:53:56 น.  

 
สวัสดีก่อนเลิกงานครับ อาจารย์สุ
ขอบคุณสำหรับกำลังใจครับ
ความกลัวมีทุกคน
สมัยเรียน ผมกลัวจบมาไม่มีงานทำครับ
เรียนราชภัฏได้ 1 ปีครึ่ง ก็ลาออก ไปเรียนสายอาชีพ และได้งานทำทันทีหลังจบจนถึงปัจจุบันครับ

พออยู่พอกินมีเงินเก็บ เที่ยวไปกำไรชีวิต สะสมเสบียงบุญ




โดย: สองแผ่นดิน วันที่: 20 มิถุนายน 2562 เวลา:16:26:25 น.  

 
มารับอาจารย์ไปอ่านดาวพิษบทที่ 8 ค่ะ
บทนี้วางถึงวันอาทิตย์ค่ะ อ่านย้อนหลังได้เสมอนะคะ
รวมๆหลายบทแล้วอ่านทีเดียวก็ได้ค่ะ



โดย: ภาวิดา คนบ้านป่า วันที่: 20 มิถุนายน 2562 เวลา:19:22:30 น.  

 
ส่วนผมตอนโตก็ยังกลัวหมอเหมือนเดิม 555
ดีนะประกันสุขภาพของบริษัทคุ้มครองจนไม่ได้ออกค่ารักษาเองมาหลายปีแล้ว
คนเากลัวในสิ่งที่หลากหลายจริงๆ เรื่องกลัวสัตว์อย่างงู จิ้งจก แมงมุม แมลงสาบ ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมสมองสั่งแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนกลัว บางคนไม่กลัว
แล้วทำไมร่างกายต้องสร้างความกลัวเป็นกลไกป้องกันเจ้าสัตว์เหล่านี้ ซึ่งบางตัวก็ไม่ได้มีพิษภัยอะไร

รูปนี้คืออาจารย์ตอนสาวที่สุดเท่าที่เคยลงเลยหรือเปล่าครับนี่
ยินดีที่ผ่านความท้าทายในชีวิตการเรียนมาได้นะครับ
และก็เรื่องความรักตามที่อาจารย์เคยเล่าไว้แล้วด้วย เป็นทางแยกของชีวิตที่สำคัญเลย

แล้วเราก็ผ่านมันมาพร้อมกับความเข้มแข็งเป็นค่าประสบการณ์ ^^


โดย: ชีริว วันที่: 20 มิถุนายน 2562 เวลา:22:43:50 น.  

 
อ่านแล้วได้แง่คิดเลยค่ะครู
เดี๋ยวมันก็ผ่านไป
ตอนนี้กลัวอ้วนค่ะ คริคริ
ตอนนี้หิวข้าวมากกกกกกกกก
จะเที่ยงคืนล่ะหิวข้าวจริงๆ
อดไว้เดี๋ยวมันจะผ่านไปถึงเช้า
555


โดย: อุ้มสี วันที่: 20 มิถุนายน 2562 เวลา:23:51:01 น.  

 
สวัสดีค่ะครูสุวิมล

ได้อ่านเรื่องความกลัวเรื่องที่สอง ของครูแล้ว มันไม่ใช่ผ่านมาง่ายๆจริง

ในช่วงเวลานั้น มันสุดๆกับทรมานจริงๆค่ะครู เรื่องจริงเลยค่ะที่สมัยก่อน

ไม่มีโรคซึมเศร้าฮิตเหมือนสมัยนี้ สติ ๆท่องเอาไว้ค่ะ

สติไม่มาขอให้สตังค์มีเยอะๆโอเคค่ะ คริ คริ


โดย: โอน่าจอมซ่าส์ วันที่: 21 มิถุนายน 2562 เวลา:3:57:20 น.  

 


สวัสดียามเช้าครับอาจารย์




โดย: กะว่าก๋า วันที่: 21 มิถุนายน 2562 เวลา:6:36:43 น.  

 
ภาพการ์ตูนอย่างฮาเลยค่า ตอนเด็กกลัวเข็ม กลัวหมอ
ตอนโตมาหาเงินเองได้เนี่ยกลัวค่ารักษา มันแพงมากจริงๆค่า
บางที รพ.เอกชนค่าบิลเป็นแสนๆ โหดมากๆ

แต่ว่าครูกลัวเรื่องความรักเนี่ยคิดบวกแล้วสบายใจนะคะ
แต่บางคนกลัวเรื่องความรัก แต่รู้ว่าเจ็บก็ไม่เข็ด จริงๆนะคะ มีเยอะด้วย
แล้วก็ยอมเจ็บเพราะความรักอีก นานาจิตตังจริงๆค่า



โดย: Rinsa Yoyolive วันที่: 21 มิถุนายน 2562 เวลา:15:59:05 น.  

 
ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตครับอาจารย์

ลงทุนแมน
อ่านแล้วได้ประโยชน์หลายอย่างเลยครับอาจารย์
ทั้งเรื่องการลงทุนด้วย
และเรื่องประวัติของคนที่ประสบความสำเร็จในการทำการค้าด้วยครับ
หลายแนวคิดน่าจะนำมาปรับใช้กับบ้านเราได้

เสียดายโอกาสของประเทศครับ
หยุดชะงักไปหลายปีเลย



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 21 มิถุนายน 2562 เวลา:22:40:33 น.  

 


สวัสดียามเช้าครับอาจารย์



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 22 มิถุนายน 2562 เวลา:6:30:30 น.  

 
แต่ก่อนหนูกลัวเข็มมากค่ะ ไม่ว่าจะเจาะเลือด ให้น้ำเกลือ หลัง ๆ มา ใช้วิธีไม่มองที่เข็ม และตำแหน่งที่เค้าเจาะค่ะ ช่วยได้เยอะเลย

กลัวบิลค่ารักษา ... น่าจะกลัวกันถ้วนหน้าเลยนะคะ เดี๋ยวนี้ต่อให้มีประกันช่วยค่าใช้จ่าย ก็ไม่อยากจะป่วยเลยค่ะ วิธีแก้ พยายามดูแลตัวเองเพื่อจะได้ไม่ป่วย ไม่ต้องไป รพ. ค่ะ

อาจารย์เป็นเด็กสอบเทียบด้วย เจ๋งเลยค่ะ สมัยก่อน เกรด 2 กว่าในระดับอุดมศึกษา ก็ไม่ได้ทำง่าย ๆ นะคะ เด็ก ๆ สมัยนี้ เกรด 3 กว่ากัน เกียรตินิยมกันเยอะเลยค่ะ ไม่รู้เค้าเรียนกันยังไง

ขอบคุณเรื่องกลัว ที่อาจารย์เล่าให้ฟังค่ะ สติเนาะคะ


โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 22 มิถุนายน 2562 เวลา:18:26:19 น.  

 
ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตครับอาจารย์


เห็นด้วยกับเม้นท์ของอาจารย์ที่บล็อกผมครับ
ผมมักจะใช้นกในงานเขียนหรือภาพวาดของผมครับ
รู้สึกถึงการเติบโต อิสระ และการเดินทาง

ยิ่งสูงยิ่งหนาว
นึกถึงเพลงของพี่เต๋อด้วยครับ



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 22 มิถุนายน 2562 เวลา:18:54:37 น.  

 

สวัสดีค่ะอจ.
มาอ่านข้อคิดดีๆจากเรื่องความกลัวของอจ.
จริงค่ะ เมื่อกลัวต้องมีสติ



โดย: newyorknurse วันที่: 23 มิถุนายน 2562 เวลา:4:27:15 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับอาจารย์



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 23 มิถุนายน 2562 เวลา:6:32:08 น.  

 
ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตครับอาจารย์


ผมเคยมีปัญหาหนักๆอยู่สองสามช่วงครับ
ช่วงเรียนมหาวิทยาลัย
ช่วงทำงาน
แล้วก็ตอนที่พี่ชายเสียชีวิต
แต่สุดท้ายแล้วเมื่อทำใจได้
ค่อยๆแก้ปัญหาหา
ยอมรับความจริง
ในที่สุดปัญหาเหล่านั้น
ก็กลายเป็นครูที่ทำให้ผมเติบโตขึ้นครับ




โดย: กะว่าก๋า วันที่: 23 มิถุนายน 2562 เวลา:19:00:15 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับอาจารย์



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 24 มิถุนายน 2562 เวลา:6:25:28 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
space

อาจารย์สุวิมล
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 46 คน [?]




เป็นครูสอนภาษาไทยที่เกษียณอายุราชการแล้ว สนใจเรื่องการเขียนหนังสือให้ความรู้ ชอบการท่องเที่ยว หากท่านที่เข้ามาชมและอ่านแล้ว มีความสนใจและต้องการสอบถามเรื่องความรู้ด้านภาษาไทย ถ้ามีความสามารถจะให้ความรู้ได้ ก็ยินดีค่ะ

http://i697.photobucket.com/albums/vv337/dd6728/color_line17.gif
space
space
space
space
[Add อาจารย์สุวิมล's blog to your web]
space
space
space
space
space