1 2 3 4 5 6
7 8 9 10 11 12 13
14 15 16 17 18 19 20
21 22 23 24 25 26 27
28 29 30 31
มิ่งมิตร "มิ่งมิตร" เป็นโจทย์ ตะพาบ กิโลเมตร ลำดับที่ 231 ผู้ตั้งโจทย์ คือ คุณ จินนี่ ค่ะ "มิ่ง" ตามความหมาย แปลได้ใจความว่า "สิ่งอันเป็นสิริมงคล" ดังนั้น เมื่อคำว่า มิ่งไปรวมกับคำใด ก็จะให้ความหมาย ของคำนั้นไปในทางบวก ทางดี นั่นเอง เช่น มิ่งเมือง แสดงว่า เมือง นั้น ๆ เป็นเมืองที่ดี อุดมสมบูรณ์ มิ่งขวัญ มิ่งมงคล เมียมิ่ง คือ ภรรยาที่นำมงคลมาสู่สามี เป็นต้น "มิ่งมิตร" จึงตีความหมายได้ว่า เพื่อนที่เราคบหาสมาคมแล้ว จะนำ สิ่งดี ๆ เป็นมงคลมาสู่ตัวเรา ค่ะ ลักษณะของ "มิ่งมิตร" ต้องสามารถร่วมทุกข์ร่วมสุขกับเรา ยาม เรามีความทุกข์ มีปัญหา ก็ให้คำปรึกษา ปลอบประโลมใจ ยามเราเดือดร้อน ก็ให้ความช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ไม่ทอดทิ้งกัน เมื่อเราเดินทางผิด ก็จะคอยเตือน คอยห้ามปรามไม่ให้ทำผิด ไม่นำความเดือดเนื้อร้อนใจมาสู่เรา ไม่ ชักชวนให้เราไปสู่อบายมุขต่าง ๆ ฯลฯ สำหรับฉัน มี "มิ่งมิตร" อยู่ค่อนข้างน้อย ที่เราเข้าใจกัน รักกัน คอย ห่วงใยซึ่งกันและกัน ถึงเราจะไม่ได้พบเจอกัน ถึงเราจะอยู่ไกลกัน แต่เราก็ห่วงใย คอยถามทุกข์สุขกันอยู่เสมอ "มิ่งมิตร" นั้น ไม่จำเป็นต้องเป็นคนเสมอไป อาจจะเป็นสัตว์เลี้ยงก็ ได้ หรือ อาจจะเป็นสิ่งของที่เป็นเพื่อนที่ดีของเรา เช่น หนังสือ คือ เพื่อนที่ดีของเราที่จะทำให้เรา มีความรู้ ก้าวทันโลก มีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล ขึ้น หรือเป็นเพื่อนกับเรา ยามที่เราเงียบเหงา เป็นต้น มิ่งมิตร คนแรกของฉัน คบกันมาตั้งแต่สมัยเรียนลัดด้วยกัน เขาเป็น คนค่อนข้างกล้าหาญ ตอนฉันเรียนจบ วันรับปริญญา เขาก็ไปช่วยถ่ายรูปให้ด้วยความเต็มใจ หลังจากที่สอบเทียบ ม.ศ.3 ได้แล้ว เขาก็เดินทางไปอยู่ประเทศอังกฤษ นานมาก และสร้างครอบครัวอยู่ที่อังกฤษ แต่ความเป็นเพื่อนของเรา ก็ยังคงอยู่ เขียนจดหมายติดต่อกันบ้าง เวลาเขากลับมาเยี่ยมญาติพี่น้องของเขา เขาก็ต้องแวะมาเยี่ยมฉัน ทุกครั้ง เรานัดกันไปทานข้าวกัน เขาก็ห่วงใยฉันเสมอ เพราะฉันอยู่คนเดียว ฉันถือว่า เขาเป็นมิ่งมิตรของฉันคนหนึ่งในสมัย ที่เราเรียนลัดด้วยกันมา เพียงแต่ชะตาชีวิต ของเราจำต้องแยกจากกันไกล แต่โลกสมัยใหม่ ไม่ไกลเกินที่จะพูดคุย กันแล้ว ค่ะ มาชมโฉมเพื่อนมิ่งมิตรคนแรกของฉันค่ะ พามิ่งมิตร สุมนรัตน์ไปทานข้าว ค่ะ มิ่งมิตรคนต่อไปของฉัน ก็เป็นเพื่อนที่เรียนมหาวิทยาลัยด้วยกัน เรา สนิทกันตั้งแต่อยู่ปีหนึ่ง เธอเป็นคนขี้น้อยใจ คิดมาก ขี้งอนในบางครั้ง แต่เขาก็เป็นมิ่งมิตรที่ดีคนหนึ่งของฉัน เวลา ฉันมีปัญหา ก็เป็นที่ปรึกษา เวลาเขามีปัญหา ฉันก็ให้คำแนะนำเช่นกัน ถึงเขาจะอยู่ไกลถึงปัตตานี นาน ๆ เราจะมี โอกาสพบกัน แต่เราก็คุยกัน ทางโทรศัพท์ ทางลายน์ กันเป็นประจำ วันคล้ายวันเกิดฉัน วันขึ้นปีใหม่ เขารู้ว่าฉันชอบกิน ลูกหยี โดยเฉพาะลูกหยีกวน เขาจะส่งมาให้ทุกปี บางครั้งก็ส่งบูดู พร้อมเครื่อง มาให้ฉันทำข้าวยำกินด้วย มีโอกาสเรา ก็ไปเที่ยวต่างประเทศกันด้วย ค่ะ มาชมโฉมเธอค่ะ โฉมหน้าของมิ่งมิตร พะเยาว์ ค่ะ ฉันพาเยาว์ไปเที่ยว จิวไจ่โกว ค่ะ มิ่งมิตร คนแรก คือ เพื่อนสมัยเรียนลัดด้วยกัน มิ่งมิตรคนที่ 2 คือ มิ่งมิตรตอนเรียน มหาวิทยาลัย ค่ะ มิ่งมิตรคนที่ 3 และ 4 เป็นมิ่งมิตร ในสมัยที่ฉันบรรจุมาสอนอยู่ที่ อิสลามวิทยาลัย แห่งประเทศไทย และปัจจุบัน เราก็ยังคงเป็นมิ่งมิตรที่ดีต่อกัน ถึงเวลาจะล่วงเลยไปแล้วสี่สิบกว่าปี เราก็ยังคงมีการติดต่อกัน ห่วงใยซึ่งกันและกัน โทรศัพท์ ถามทุกข์สุขกันบ้าง นัดเจอกัน กินข้าวด้วยกัน เวลาที่ อิสลามวิทยาลัย ฯจัดงาน คืนสู่เหย้า มิ่งมิตร นิทรา จะเป็นผู้เสนอครูเก่า อย่างฉันและพี่เสริมจิต ไปงานอิสลามคืนถิ่นทุกปี มิ่งมิตร นิทรา ถึงจะเกษียณแล้ว แต่เขารักโรงเรียนมาก ยังคงทำหน้าที่เป็นครูอัตราจ้าง จึงมีโอกาส จัดรถ มารับฉันและพี่เสริม ที่บ้าน แล้วก็อดตาหลับขับตานอนมาส่งฉันกับพี่เสริมทุกปี พี่เสริมจิต เป็นมิ่งมิตรต่างวัย ตอนฉันบรรจุที่อิสลามวิทยาลัยฯ ใหม่ ๆ พี่เสริม จะคอยแนะนำ เอาใจใส่ น้องใหม่อย่างฉัน ด้วยความอ่อนหวาน ช่วยเหลือ ถามไถ่เรื่องการสอน ปัจจุบัน เราก็ ติดต่อกันทางโทรศัพท์ ถามทุกข์สุขกัน เนื่องจากปัจจุบันเธออายุ 84 ปีแล้ว ไม่สะดวกที่จะเจอกัน นัดกัน ทานข้าวแล้ว ได้แต่โทรศัพท์คุยกัน ถามทุกข์สุขกัน แจ้งข่าวต่าง ๆ ซึ่งกันและกัน อวยพรวันคล้ายวันเกิด ฝากของไปให้ทานซึ่งกันและกัน ถือเป็นมิ่งมิตรต่างวัยที่ฉันนับถือ คนหนึ่ง เรามาชมโฉมเธอ ค่ะ ไปงานอิสลามคืนถิ่นกับมิ่งมิตร พี่เสริมจิต ค่ะ ส่วนมิ่งมิตรนิทรา ซึ่งมาบรรจุหลังฉันประมาณ 2 อาทิตย์ ดังนั้น ความสนิทและปฏิสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นจึงรวดเร็ว และแน่นแฟ้น เนื่องจากต่างคนต่างมาบรรจุใหม่ เราจึงเป็นเพื่อนซี้กัน นัดกันไปเดินช้อปปิ้ง ในวันหยุด บ้าง ไปหาของ อร่อย ๆ กินกันบ้าง มีอะไรที่ต้องแนะนำ เตือนกัน ปรึกษากันทั้งเรื่อง ส่วนตัว เรื่องการงาน เราก็คุยกันได้หมด หลังจากที่ฉันย้ายจากอิสลามวิทยาลัยฯแล้ว เนื่องจากบ้านและที่ ทำงานไกลกันเหลือเกินจึงต้องขอย้ายโรงเรียน ตอนที่จะต้องไปรายงานตัวที่โรงเรียนมัธยมวัดธาตุทอง นิทราก็มาส่ง ฉันถึงที่โรงเรียนด้วยความเป็นห่วงเป็นใย พวกเราก็ยังติดต่อกัน นัดเจอกัน ถึงจะน้อยลงมาก เพราะต่างคนต่างก็ มีหน้าที่รับผิดชอบการงานมากขึ้น โอกาสเจอกัน จึงมีน้อยลง แต่เราก็ส่งข่าวคราวสารทุกข์สุกดิบ ถามไถ่กันและกันอยู่ เสมอ โดยเฉพาะหลังเกษียณ ฯ มีโอกาสได้ พบกันมากขึ้น โดยไปงานอิสลามคืนถิ่น และนัดเที่ยวกัน ค่ะ มาชมโฉมหน้ามิ่งมิตร นิทรา ค่ะ ไปงานอิสลามคืนถิ่น กับมิ่งมิตร นิทรา ค่ะ มอบของที่ระลึกให้ มิ่งมิตรนิทรา เพื่อนรัก ตอนเกษียณ ค่ะ มีโอกาสว่างนัดเจอกัน พามิ่งมิตร นิทราไปเลี้ยงไอศกรีม เซเวนเซ่น นัดกันไปเที่ยวงาน ใต้ร่มพระบารมี 236 ปี กรุงรัตนโกสินทร์ ค่ะ มิ่งมิตรอีกคนหนึ่งที่ฉันย้ายมาอยู่ที่ โรงเรียนมัธยมวัดธาตุทอง ก็คือ มิ่งมิตร พี่ปลื้มจิต เธอ เป็นคนน่ารัก อ่อนหวาน ตอนฉันย้ายมาอยู่ที่โรงเรียนนี้เป็นวันแรก ครูเก่าแต่ละคน มองเราเฉยๆ ไม่มีการถามไถ่เลยว่า ฉันมาหาใคร มีธุระอะไร มีพี่ปลื้มจิตคนเดียวที่เห็นฉันยืนอยู่ที่ระบียงชั้นสองคนเดียว เธอเข้า มาทักทายด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม เสียงนิ่ม ๆ อ่อนโยน ถามว่า อาจารย์เพิ่งย้ายมาใหม่ใช่ไหม ได้พบหัวหน้าหมวดหรือยัง มีโต๊ะนั่งหรือยัง ด้วยเสียงอาทรห่วงใย ฉันรู้สึกประทับใจและอุ่นใจขึ้นมาทันที ต่อมาฉันเพิ่งรู้ว่า เธอเป็น ผู้ช่วยฝ่ายวืชาการ ในเวลาต่อมา ผช.ปลื้มจิต ฉันเป็นคนชอบงานวิชาการ เมื่อเธอมาชวนไปช่วยงานวิชาการที่เธอ รับผิดชอบอยู่ ฉันจึงไม่ปฏิเสธ มีโอกาสได้ ทำงานร่วมกัน ทำให้ความสนิทสนมมีมากขึ้น อาจจะเป็นเพราะว่า วัยเราเท่ากัน และเธอเป็นคนอ่อนหวาน พูดเพราะ ตอนแม่ฉันถึงแก่กรรมค่อนข้างกระทันหัน ฉันกับแม่ผูกพันกันมาก เพราะเราอยู่กันแม่ลูกสองคนมาโดยตลอด เมื่อแม่จากไป ฉันจึงเสียใจและซึมเศร้ามาก ๆ เธอก็เป็นห่วง งาน ศพของแม่ เธอและเพื่อนฉันบางคนก็ให้ ความช่วยเหลือในการจัดพิธีการต่าง ๆ จนงานลุล่วงไปด้วยดี หลังงาน ศพแม่ผ่านไป ฉันยังคงอยู่ในอาการซึม เธอก็เป็นห่วง มีการชวนเพื่อน ๆ ในกลุ่มทำงานวิชาการไปเที่ยวกัน เพื่อให้ฉันคลาย ความคิดถึงแม่ของฉันลงบ้าง เธอส่งเสริม ผลักดัน ให้ฉันทำผลงาน ด้วยการให้กำลังใจว่า ฉันมี การผลิตสื่อ ทำกิจกรรมหลาย ๆ อย่างเพื่อใช้ ในการสอนนักเรียน ให้ฉันรวบรวมผลงาน และนำผลงานเหล่านั้นไป ประกอบการขอตำแหน่งทางวิชาเพื่อไม่ให้ เงินเดือนตัน ซึ่งฉันเองไม่ค่อยได้สนใจมากนัก แต่ด้วยคำแนะนำ ผลักดัน บ่อย ๆ ในที่สุดฉันก็ทำผลงานและได้ เลื่อนตำแหน่งเป็นผู้ชำนาญการ ในปี 2535 ค่ะ ฉันจึงถือว่า เธอเป็น มิ่งมิตรของฉัน คนหนึ่ง ค่ะ ผอ.ปลื้มจิต (ในเวลาต่อมา คนที่นั่งซ้ายสุด เสื้อสีดำ) เป็นผู้ชักชวน ให้ตั้งกองทุนให้นักเรียนเรียนดี เพื่อโน้มน้าวใจ ให้เรียนต่อ มัธยมปลายในโรงเรียนเดิม เพื่อให้เด็ก ๆ ที่เรียนดีเหล่านี้ ไม่ย้ายไปสร้างชื่อเสียงให้แก่โรงเรียนดัง ๆ อื่น ๆ นั่นเอง นอกนี้ ด้วยความรักและเมตตาต่อลูกศิษย์ เธอนัดเด็ก ๆ ที่ได้ทุน เรียนดี มาแนะแนว โดยขอให้ทีมงานมาช่วยติววิชาต่าง ๆ และให้คำแนะแนวทางการศึกษาแก่นักเรียนเพื่อเข้าแข่งขันสอบเข้า เรียนต่อในระดับอุดมศึกษา นับว่า นอกจากเธอ จะเป็นมิ่งมิตรของฉันแล้ว เธอยังเป็นครูมิ่งมิตรสำหรับเด็ก ๆ ด้วย มิ่งมิตร สุดท้ายของฉัน ก็คือ เจ้าค้อกกี้ สัตว์เลี้ยงที่อยู่เป็นเพื่อน ของฉัน ร่วมสุขร่วมทุกข์กันมา ถึง 13 ปี ยามกลับจากที่ทำงาน ก็มีมันมาต้อนรับ มาอ้อน มาหอม ให้อุ้ม ทำให้ชีวิตที่โดดเดี่ยวไม่เงียบเหงาเลย มันเป็นสัตว์ที่น่ารัก ตัวเล็ก ที่เรียกว่า หมากระเป๋า นั่นเอง มาชม มิ่งมิตรที่น่ารักของฉันค่ะ ถึงมันจะจากไปแล้ว เป็น 10 ปี แล้ว แต่ฉันก็ไม่เคยลืมมันเลย ฉันมีรูปมันมาฝาก ค่ะ เป็นไง ครับ ผมหล่อไหมครับ ท่านผู้อ่าน อิอิ ก่อนอำลาจาก มิ่งมิตร ก็ขอฝากเนื้อเพลง ซึ้ง ๆ ของเพื่อนสักเพลง ค่ะ เพื่อน ถึงเพื่อน *กว่าจะรู้ใจกันมันก็นานแสนนาน กว่าจะมาเป็นเพื่อนกันต้องใช้เวลาเนิ่นนาน อยู่กันมานานแสนนาน จากกันไปไกลแสนไกล จดจำไว้ เพื่อนยังไม่ลืม บนเส้นทางยาวไกล ร่วมฝ่าฟันไว้ ก้าวไปด้วยกัน จำวันนั้นยังจำ เคยร่วมกันทำด้วยความมั่นใจ สุขเราก็เคยร่วมเสพ เจ็บเราก็เคยร่วมเจ็บ จดจำไว้ถึงวันเก่า ๆ (ซ้ำ*) วันที่จำต้องจาก ต้องจากกันไกล แต่ใจยึดมั่น คืนและวันเดือนผ่าน ไม่อาจเรียกวันเก่าคืนหวนได้ แต่ใจเรายังมั่นคง ฝากความทรงจำถึงเพื่อน จดจำไว้เพื่อนยังไม่ลืม (ซ้ำ*) จดจำไว้ถึงวันเก่า ๆ จดจำไว้จากเพื่อนถึงเพื่อน
Create Date : 01 กรกฎาคม 2562
Last Update : 3 กรกฎาคม 2562 21:32:13 น.
38 comments
Counter : 1441 Pageviews.
ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณtoor36 , คุณสองแผ่นดิน , คุณอุ้มสี , คุณกะว่าก๋า , คุณภาวิดา คนบ้านป่า , คุณtuk-tuk@korat , คุณเรียวรุ้ง , คุณโอน่าจอมซ่าส์ , คุณkae+aoe , คุณSai Eeuu , คุณruennara , คุณสันตะวาใบข้าว , คุณบาบิบูเบะ...แปลงกายเป็นบูริน , คุณ**mp5** , คุณhaiku , คุณตะลีกีปัส
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 3 กรกฎาคม 2562 เวลา:23:08:32 น.
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 3 กรกฎาคม 2562 เวลา:23:18:21 น.
โดย: อุ้มสี วันที่: 4 กรกฎาคม 2562 เวลา:4:42:30 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 4 กรกฎาคม 2562 เวลา:6:38:38 น.
โดย: เรียวรุ้ง วันที่: 4 กรกฎาคม 2562 เวลา:21:54:43 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 4 กรกฎาคม 2562 เวลา:22:49:47 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 5 กรกฎาคม 2562 เวลา:6:46:51 น.
โดย: kae+aoe วันที่: 5 กรกฎาคม 2562 เวลา:8:27:41 น.
โดย: sawkitty วันที่: 5 กรกฎาคม 2562 เวลา:16:19:18 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 5 กรกฎาคม 2562 เวลา:22:41:07 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 6 กรกฎาคม 2562 เวลา:6:37:32 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 6 กรกฎาคม 2562 เวลา:13:18:21 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 7 กรกฎาคม 2562 เวลา:6:46:06 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 7 กรกฎาคม 2562 เวลา:18:56:46 น.
โดย: Sai Eeuu วันที่: 7 กรกฎาคม 2562 เวลา:22:12:15 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 8 กรกฎาคม 2562 เวลา:6:30:50 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 8 กรกฎาคม 2562 เวลา:13:36:35 น.
โดย: อุ้มสี วันที่: 8 กรกฎาคม 2562 เวลา:14:28:20 น.
โดย: Sai Eeuu วันที่: 8 กรกฎาคม 2562 เวลา:21:24:26 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 9 กรกฎาคม 2562 เวลา:6:41:51 น.
โดย: Sai Eeuu วันที่: 9 กรกฎาคม 2562 เวลา:14:15:41 น.
โดย: sawkitty วันที่: 9 กรกฎาคม 2562 เวลา:17:09:26 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 9 กรกฎาคม 2562 เวลา:23:13:05 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 10 กรกฎาคม 2562 เวลา:6:23:01 น.
โดย: **mp5** วันที่: 10 กรกฎาคม 2562 เวลา:18:08:18 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 10 กรกฎาคม 2562 เวลา:22:24:14 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 11 กรกฎาคม 2562 เวลา:6:40:18 น.
โดย: kae+aoe วันที่: 11 กรกฎาคม 2562 เวลา:9:02:01 น.
โดย: ตะลีกีปัส วันที่: 11 กรกฎาคม 2562 เวลา:14:18:14 น.
BlogGang Popular Award#20
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 46 คน [? ]
เป็นครูสอนภาษาไทยที่เกษียณอายุราชการแล้ว สนใจเรื่องการเขียนหนังสือให้ความรู้ ชอบการท่องเที่ยว หากท่านที่เข้ามาชมและอ่านแล้ว มีความสนใจและต้องการสอบถามเรื่องความรู้ด้านภาษาไทย ถ้ามีความสามารถจะให้ความรู้ได้ ก็ยินดีค่ะ
http://i697.photobucket.com/albums/vv337/dd6728/color_line17.gif
ผมไม่เคยทราบความหมายของคำว่ามิ่งมิตรมาก่อนเลย
อาจารย์มีมิ่งมิตรคอยแวดล้อมแวะเวียนหาตลอด
ต้องบอกว่าโชคดีมากจริงๆครับ
ผมเห็นหลายคนมีเพื่อนที่คอยสร้างปัญหาให้แล้วปวดหัวแทนเลย
สมัยก่อนผมก็ต้องรับมือกับปัญหาของเพื่อนๆอยู่เสมอ
แต่พอมีครอบครัวก็ไม่มีเวลาช่วยเหลือใครแล้วครับ 555
ต่างคนต่างต้องรับผิดชอบชีวิตตัวเองไป