|
|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | 31 | |
|
 |
|
|
จุดเปลี่ยนของชีวิต
"จุดเปลี่ยนของชีวิต" เป็นโจทย์ตะพาบกิโลเมตรที่ 283 ผู้คิด โจทย์ครั้งนี้ คือ คุณ blue_medsai คำอธิบายโจทย์นี้ คือ "เคยไหม ที่เดินมาถึงทางแยกของชีวิตแล้ว ต้องเลือกเส้นทางใดเส้นทางหนึ่ง แล้วคิดว่าตอนนี้ คุณตัดสินใจถูกไหม อยากกลับไปเปลี่ยนใหม่หรือเปล่า" จากคำอธิบายโจทย์ ดังกล่าว ฉันเชื่อว่า ชีวิตของเราทุกคนต้องเคย มีเหตุการณ์ที่ทำให้เราต้องตัดสินใจเลือกทางเดิน ต่อไป ซึ่งทางที่เราเลือกนั้น เราเองก็ไม่สามารถรู้ล่วงหน้าได้ว่า จะ เปลี่ยนแปลงไปในทางดีขึ้นหรือแย่ลง คงต้องเสี่ยงในการเลือกตามที่ได้ตัดสินใจไปแล้ว
สำหรับชีวิตของฉันเอง ก็เคยประสบเหตุการณ์ที่ทำให้ต้องเลือกทางเดินของชีวิตตนเองอยู่หลายเรื่อง ขอเล่าสักเรื่องที่ทำให้ชีวิตฉันต้องถึงทางเลือกสัก 1 เรื่อง ค่ะ เอาที่ เห็นได้อย่างชัดเจนตามโจทย์ตะพาบครั้งนี้ ค่ะ
เพื่อน ๆ ชาวบล็อก ถ้าได้อ่านงานเขียนตะพาบของฉันมาตลอด ก็ คงจะทราบเรื่องราวเกี่ยวกับการศึกษา ของฉันมาบ้างแล้วนะคะ เพราะเคยเล่าไว้บ้างว่า ฉันไม่ได้เรียนใน ระบบการศึกษาตามที่นักเรียนทั่ว ๆ ไปเรียนกัน เพราะช่วงวัยรุ่น ฉันเป็นคนอารมณ์ร้อน หุนหันพลันแล่น เป็นต้นเหตุ หนึ่งที่เป็นจุดเปลี่ยนของชีวิตที่ไม่ได้เรียนอยู่ ในระบบการศึกษาตามปรกติ จุดเปลี่ยนของชีวิตนักเรียนภาคกลางวัน ก็ต้องเปลี่ยนไปเรียนลัดภาคกลางคืน นั่นคือ เรียนรวบชั้นเรียน ม.ศ.1-3 เรียนรวบจบหลักสูตรภายใน 1ปี แล้ว เราไปสมัครสอบกันเอง แต่ตรงนี้ ยังไม่ได้เป็น จุดเปลี่ยนของชีวิต ค่ะ เมื่อสอบผ่าน การสอบเทียบ ม.ศ. 3 แล้ว ทำให้ฉันมีกำลังใจมากขึ้น ความหวังที่จะเรียนต่อ ภาคกลางวันสายวิทย์ เพราะความตั้งใจของฉัน คือ ต้องการเป็น เภสัชกรหญิง ค่ะ ได้สวมชุดขาวสะอาดตา มีความรู้ในการแนะนำประเภทของยา ช่วยให้คนไข้ใช้ยาได้ถูกต้อง นี่ เป็นความฝันของฉัน
 แต่ความฝันนี้ก็ต้องชะงักไป เพราะสมัยนั้น กระทรวงไม่รับผู้ที่สอบ เทียบ ม.ศ. 3 เข้าเรียนต่อ ม.ศ.4-5 ในภาคกลางวัน (ภาคปรกติ) แต่รับสอบเทียบ ม.ศ.5 สอบเอ็นทรานซ์เข้าเรียนต่อใน มหาวิทยาลัยได้ ฉันจำเป็นต้อง เรียนลัด ควบหลักสูตร ม.ศ.4-5 จบใน 1 ปี แล้วสมัครเข้าสอบเทียบ วุฒิการศึกษา ม.ศ.5 เหมือนตอนสอบเทียบวุฒิ ม.ศ. 3 ในสมัยนั้น คนรุ่นเดียวกับฉัน ย่อมทราบดีว่า การสอบเทียม.ศ. 5 ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย แม้แต่นักเรียนที่เรียนภาคปรกติ ก็ยังสอบตก เรียนซ้ำชั้นเลย ฉันเลือกเรียนสายวิทย์เพราะการสอบเข้า เรียนต่อ เป็นเภสัชกร นั้น ต้องเรียนสายวิทย์ ค่ะ ซึ่งต้องเรียนทั้งวิชา เคมี ฟิสิกส์ ชีววิทยา คณิตศาสตร์ ก็ต้องเรียนอยู่ หลายตัว ทั้ง คณิต ก และ คณิต กข. วิชาหนัก ๆ ทั้งนั้นเลย ฉันต้องสอนหนังสือกลางวัน (ใช้วุฒิ ม.ศ. 3 )ในการสอนที่ โรงเรียนราษฎร์แห่งหนึ่งและเรียนภาคค่ำไปด้วย กลับถึงบ้านก็ต้องทำการบ้านที่เรียนด้วย แต่ด้วยความมุ่งมั่น ฉันอดทนได้ เพื่อเป้าหมายที่ฉันตั้งเอาไว้

บันไดชีวิต เพื่อก้าวไปสู่เป้าหมายที่เราตั้งไว้ ค่ะ
แต่แล้ว ด้วยคำพูดเพียงไม่กี่คำของครูผู้สอนวิชาตรีโกณว่า " เธอ เรียนลัดนะ ครูก็สอนอย่างลัดไง" แล้วก็ไม่ยอม อธิบายเรื่องที่ฉันสงสัยและถาม เรื่องราวมีอยู่ว่า ขณะที่ครูคนนี้สอน วิชาตรีโกณ มีการสอนค่อนข้างเร็วและข้ามขั้นตอน ทำให้ฉันสงสัยว่า บรรทัดนั้นมันมาได้อย่างไร จึงได้ยกมือถาม ก็ได้ รับคำตอบดังกล่าวนั่นแหละ ฉันรู้สึกเสียใจมากที่ ได้รับคำตอบเช่นนั้นและตั้งใจไว้เลยว่า ถ้าฉันเป็นครูและสอนนักเรียน นักเรียนมีคำถาม เราต้องตอบเขา ถ้าไม่สามารถอธิบาย ในตอนนั้นได้ ก็ควรที่จะบอกผู้เรียนว่า เดี๋ยวเลิกเรียนครูจะอธิบายให้ ฟังนะ คำพูดไม่กี่คำดังกล่าวของครูผู้สอนคนนั้น เป็นจุดเปลี่ยนชีวิตของฉัน ค่ะ ฉันตัดสินใจ เปลี่ยนทางเดินของฉันไป เรียนสายศิลป์ทันที เพราะฉันคิดว่า ขืนเรียน ต่อทางสาย วิทย์ ฉันคงสอบ ม.ศ. 5 ไม่ผ่านแน่ นอกจากปัญหาที่การ เรียนลัดเป็นการเรียนที่รวบรัดและมาเจอผู้สอนเช่นนี้ เป็นอุปสรรคมาก เพราะความรู้ที่เรียนลัดย่อมไม่แน่น และสู้ความรู้ที่ เรียนในภาคปรกติไม่ได้อย่างแน่นอน การเปลี่ยนและเลือกทางเดินมาเรียนสายศิลป์ ซึ่งมีวิชาท่อง วิเคราะห์ วิจารณ์ ซึ่งเป็นสิ่งที่ฉันถนัดอยู่แล้ว น่าจะดีกว่าแน่นอน
ในการเลือกทางเดินใหม่ครั้งนี้ ถามว่า ทางเลือกนี้ เป็นอย่างไรบ้าง ก็ต้องตอบว่า ฉันสามารถก้าวผ่าน ม.ศ. 5 สายศิลป์ไปได้ ถึงจะสอบผ่านเป็นอันดับท้าย ๆ จากคนที่เข้าสอบเทียบหมื่นกว่าคน สอบผ่านเพียงเก้าร้อยกว่าคน ฉันได้ลำดับที่ แปดร้อยกว่า การสอบเทียบผ่านครั้งนี้ ทำให้ฉันมีกำลังใจเพิ่มมากขึ้น เพิ่มความ ขยัน อดทนมากขึ้น มุ่งมานะที่จะต้องสอบเข้า มหาวิทยาลัยให้ได้ ความฝันที่จะเป็นเภสัชกรนั้น ดับสูญไปแล้ว ความ หวังใหม่ ทางเลือกใหม่ นั่นก็คือ การเลือกอาชีพครู ซึ่งคิดว่า ได้ทำผลประโยชน์ ได้อธิบายได้สอนคนเช่นเดียวกัน
ชีวิตก็เหมือนการเดินขึ้นบันได เหมือนการปีนเขา นั่นแหละ จาก ตีนเขา จากบันไดขั้นแรก ค่อย ๆ ก้าวขึ้นไป เพื่อให้ถึงขั้นสุดท้าย ให้ถึงยอดเขา นั่นคือเป้าหมายที่เราตั้งเอาไว้ แต่ละขั้น ขาของเราต้องการความมั่นคง ก้าวย่างอย่างมั่นใจ มานะ อดทน ต่ออุปสรรคที่เราได้พบระหว่างทาง ถ้าใจเราสู้ มีความอดทนสูง โอกาสที่เราจะไปถึง เป้าหมายที่ตั้งไว้ ย่อมต้องประสบความสำเร็จแน่นอน ( ฉันได้เขียนไว้ ในบางเรื่องของ ตะพาบ บ้างแล้ว) ในที่สุด ฉันก็สามารถสอบเข้ามหาวิทยาลัย เลือกเรียนอาชีพที่ฉัน ได้ตั้งเป้าหมายไว้ และค่อย ๆ ก้าวย่างขึ้นบันได ทีละขั้น จากปี 1 2 3 และ4 สี่ปีในมหาวิทยาลัย ฉันใช้ชีวิตอย่างคุ้มค่า ได้รับการอบรมบ่มนิสัยจาก อาจารย์ที่คุมหอ ได้รับการอบรมจากอาจารย์ผู้สอน ด้านจรรยาบรรณของอาชีพ ด้านศีล ธรรมจรรยา กตัญญูรู้คุณคน ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ มาเป็นอย่างดี ต้องขอบคุณครู อาจารย์ตั้งแต่ประถมมาถึงมหาวิทยาลัย ที่ให้คำสั่งสอน แง่คิด ในการดำเนินชีวิต ฉันโชคดี พบเจอแต่ครู อาจารย์ ที่สั่งสอนอบรมกล่อมเกลาลูกศิษย์ให้ เป็นคนดี มีระเบียบวินัย รับผิดชอบทั้งต่องาน ต่อตนเองและต่อสังคม
ถึงแม้ว่า การเดินขึ้นบันได การปีนเขา สี่ปีในมหาวิทยาลัย จะค่อนข้าง มีอุปสรรค แต่ฉันก็อดทนและผ่านมาได้ ด้วยเป้าหมายที่ตั้งไว้ รวมกับความอดทน ความขยันที่ต้องมากกว่า เพื่อนร่วมรุ่น เพราะเรารู้ตัวดีว่า ความรู้พื้นฐาน ของฉันไม่เท่ากับเพื่อน ๆ สิ่งที่จะเอาชนะได้ คือ ความขยันอ่านหนังสือ ต้องมีมากกว่าเพื่อน แน่นอน บันไดแต่ละขั้นที่เดินขึ้นสูงนั้น มันเหนื่อยก็จริง แต่ธงที่อยู่บนยอดเขาอยู่บนบันไดขั้นสุดท้าย คือ ยาชูกำลังให้ฉันก้าวเท้าไปอย่างมั่นคง ค่ะ

ผลแห่งการอดทน ขยัน ทำให้ได้รับรางวัลแห่งชีวิต ค่ะ

ในที่สุด การปีนเขาของฉัน ก็ไปถึงจุดหมายปลายทางที่ตั้งไว้ ค่ะ


ความภูมิใจของแม่ ค่ะ
"เคยไหม ที่เดินมาถึงทางแยกของชีวิต แล้วต้องเลือกเส้นทางใดเส้น ทางหนึ่ง แล้วคิดว่าตอนนี้คุณตัดสินใจถูกไหม อยากกลับไปเปลี่ยนใหม่หรือเปล่า" จากคำอธิบายโจทย์ของ ตะพาบ ด้านบนนั้น ฉันคิดว่า เรื่องราวของฉันที่เขียนมานี้ คงตอบคำถาม คำอธิบายนี้ได้อย่างดี ว่า ฉันเลือก ฉันตัดสินใจเลือก ทางเดินได้ถูกต้อง ไม่อยากกลับไปเปลี่ยนใหม่แน่นอน ค่ะ ขอบคุณ ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต สวัสดี ค่ะ
Create Date : 08 สิงหาคม 2564 |
Last Update : 8 สิงหาคม 2564 16:13:34 น. |
|
30 comments
|
Counter : 1790 Pageviews. |
 |
|
|
ผู้โหวตบล็อกนี้... |
คุณกะว่าก๋า, คุณหอมกร, คุณThe Kop Civil, คุณชีริว, คุณhaiku, คุณสองแผ่นดิน, คุณอุ้มสี, คุณไวน์กับสายน้ำ, คุณ**mp5**, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณkae+aoe, คุณtoor36, คุณจันทราน็อคเทิร์น, คุณtuk-tuk@korat, คุณนายแว่นขยันเที่ยว, คุณmariabamboo, คุณเริงฤดีนะ, คุณSweet_pills |
โดย: อ้อมแอ้ม (คนผ่านทางมาเจอ ) วันที่: 8 สิงหาคม 2564 เวลา:18:18:25 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 8 สิงหาคม 2564 เวลา:18:20:17 น. |
|
|
|
โดย: หอมกร วันที่: 8 สิงหาคม 2564 เวลา:19:31:29 น. |
|
|
|
โดย: ชีริว วันที่: 8 สิงหาคม 2564 เวลา:22:52:21 น. |
|
|
|
โดย: อุ้มสี วันที่: 8 สิงหาคม 2564 เวลา:23:52:32 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 9 สิงหาคม 2564 เวลา:6:31:26 น. |
|
|
|
โดย: **mp5** วันที่: 9 สิงหาคม 2564 เวลา:9:01:39 น. |
|
|
|
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 9 สิงหาคม 2564 เวลา:16:12:45 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 9 สิงหาคม 2564 เวลา:20:01:58 น. |
|
|
|
โดย: ชีริว วันที่: 9 สิงหาคม 2564 เวลา:22:08:53 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 10 สิงหาคม 2564 เวลา:5:13:44 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 10 สิงหาคม 2564 เวลา:13:34:52 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 11 สิงหาคม 2564 เวลา:6:51:09 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 11 สิงหาคม 2564 เวลา:13:18:51 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 12 สิงหาคม 2564 เวลา:7:10:50 น. |
|
|
|
โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 12 สิงหาคม 2564 เวลา:10:26:28 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 12 สิงหาคม 2564 เวลา:17:41:17 น. |
|
|
|
โดย: Sweet_pills วันที่: 12 สิงหาคม 2564 เวลา:23:18:30 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 13 สิงหาคม 2564 เวลา:6:37:12 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 13 สิงหาคม 2564 เวลา:15:40:21 น. |
|
|
|
โดย: Sweet_pills วันที่: 14 สิงหาคม 2564 เวลา:0:26:11 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 14 สิงหาคม 2564 เวลา:6:51:04 น. |
|
|
|
โดย: ชีริว วันที่: 14 สิงหาคม 2564 เวลา:17:26:22 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 14 สิงหาคม 2564 เวลา:17:49:24 น. |
|
|
|
|
|
 |
|
|
|
 |
ฝากข้อความหลังไมค์ |
 |
Rss Feed |
 | Smember |  | ผู้ติดตามบล็อก : 47 คน [?]

|
เป็นครูสอนภาษาไทยที่เกษียณอายุราชการแล้ว สนใจเรื่องการเขียนหนังสือให้ความรู้ ชอบการท่องเที่ยว หากท่านที่เข้ามาชมและอ่านแล้ว มีความสนใจและต้องการสอบถามเรื่องความรู้ด้านภาษาไทย ถ้ามีความสามารถจะให้ความรู้ได้ ก็ยินดีค่ะ
http://i697.photobucket.com/albums/vv337/dd6728/color_line17.gif |
|
 |
|
คุณครูตรีโกณ ไหงพูดแบบนั้นละคะ
ที่จริงต้องน่าเห็นใจคนเรียนลัดมาก ๆ นะคะ
คุณครูไม่น่ารักเลยค่ะ
หนูตุ๊กเคืองนะเนี่ย