คืนกำไรให้ชีวิต เพื่อพิชิตไปในโลกกว้าง
space
space
space
<<
มีนาคม 2567
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
space
space
24 มีนาคม 2567
space
space
space

ฉุกละหุก

  ฉุกละหุก

"ฉุกละหุก"
เป็นโจทย์ถนนสายนี้มีตะพาบ หลักกิโลเมตรที่ 348
ผู้ตั้งโจทย์  คือ คุณ toor36

               
คำอธิบายโจทย์ (แนวทางการเขียน)
ตรงตัวตามความหมายเลย เขียนเรื่องราวประสบการณ์ที่ต้องทำอะไรแบบ
ฉุกละหุกแล้วมันเกิดผลอย่างไร ลองเล่าให้เพื่อน ๆ ฟังกัน

         
"ฉุกละหุก" มีความหมาย ว่า สับสนวุ่นวายเพราะมีเรื่องเกิดขึ้นปัจจุบันทันด่วน
โดยไม่คาดฝัน.จากความหมายนี้  จะเห็นว่า
เมื่อเกิดเหตุการณ์ที่่เราไม่คาดคิดว่าจะเกิด  ก็จะเกิดความวุ่นวาย สับสน  ไม่รู้
จะทำอย่างไรต่อหรือ แก้สถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างไรดี
ถ้าเราตกอยู่ในสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเช่นนี้  สิ่งสำคัญที่สุด คือ การตั้งสติให้ดี
อย่าตื่นตระหนก ตกใจ  เพราะการตกใจ  จะทำให้เราคิด
อะไรไม่ออก  ทำอะไรไม่ถูก  สติเท่านั้น  ที่จะช่วยเราแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นกระทันหัน
โดยที่เรา ไม่ได้คาดคิดว่ามันจะเกิดขึ้น 


สำหรับเหตุการณ์หรือประสบการณ์ที่เกิดขึ้นกับฉัน แบบไม่คาดฝัน  นั่นคือ
การสูญเสียแม่อันเป็นที่รักยิ่ง อย่างไม่มีวันกลับมา
อยู่กับฉันชั่วชีวิต  เราสองแม่ลูกอยู่ด้วยกันหลังจากพ่อเสีย  ขาดหัวหน้าครอบครัว
  พี่น้องต่างแยกย้ายกันไป (แต่งงาน)  เหลือฉันและน้องชาย
ที่อยู่กับแม่  น้องชายก็อยูไม่ค่อยติดบ้าน ตามประสาเด็กผู้ชาย  จึงมีความรู้สึกว่า
บ้านมีกันอยู่แค่เราแม่ลูก  พ่อจากฉันไป ตั้งแต่ฉันอยู่ปี 1เมื่อต้นปี 2514

หลังจากจบการศึกษาก็สอบเข้ารับราชการ ครู เงินเดือนน้อยนิด  แต่ก็อยู่กับแม่อย่างมี
ความสุข  แม่เป็นกำลังใจ ทั้งยามสุขและยามทุกข์ ห่วงใยฉันเสมอ 
กลับจากโรงเรียน  ถ้าไม่ได้สอนภาคค่ำ  แม่จะรอกินข้าวมื้อเย็นพร้อมกับฉัน
  แม่เป็นคนประหยัด  จะพาไปเที่ยวไหนก็ไม่ค่อยอยากไป 
เพราะเงินเดือนฉันยังน้อย  นาน ๆ จะเกลี้ยกล่อมไปเที่ยวดูหนังสักครั้ง สอง ครั้ง
  ไกลสุด ก็คือ พาไปเที่ยวบางแสน  เช่าเก้าอี้ผ้าใบ  รับลมทะเล
เย็น ๆ ซื้ออาหารทะเลที่แม่ค้านำมาขายตามชายหาดกินไปคุยไป ลมทะเลพัดมา
เย็น ๆ แม่ดูชอบใจ  นั่งกันหลายชั่วโมง แล้วเรา
แม่ลูกและหลานอีกคน  ก็ขึ้นรถกลับบ้าน  เป็นช่วงชีวิตที่เราแม่ลูกมีความสุขที่สุด 


เราแม่ลูก อยู่กันอย่างมีความสุข  จนถึงปี 2529  จากปี 2517ถึง 2529 เป็นเวลา  12 ปี
ความผูกพันแม่ลูก  ย่อมผูกพันกันมากแน่นอน  ช่วงนี้
อายุแม่ ย่างเข้า 76 ปีแล้ว  แม่เป็นคนแข็งแรง  ไม่ค่อยได้เจ็บป่วยอะไรมากนัก 
แต่ต้นเดือนมีนาคม  แม่บ่นปวดท้องและปัสสาวะไม่ออก
  ฉันพาแม่ไปหาหมอ ที่ร.พ.คามิเลี่ยนหมอตรวจร่างกายแม่ พบสาเหตุ คือ กระเพาะ
ปัสาสาวะอักเสบ  หมอให้แม่แอดมิดที่ ร.พ.
ตรวจร่างกายด้วย พบเบาหวาน  แต่หัวใจปรกติ  ฉันก็เบาใจ ปรกติ แม่จะไม่ยอม
ตรวจร่างกาย ไม่ชอบเข้า ร.พ. แม่พักที่ ร.พ. ประมาณ 4-5 วัน
ก็กลับบ้านได้เป็นปรกติ  ปัสสาวะได้ ตามปรกติแล้ว ดูแม่แข็งแรง ไม่ปวดท้องแล้ว
   ฉันก็รู้สึกสบายใจไปสอนหนังสือได้ไม่ต้องกังวล  แต่ ..
แม่สบายไม่ปวดท้อง  ปัสสาวะได้ตามปรกติ ได้ไม่กี่วัน  ฉันจำได้แม่น วันนั้น
ฉันกลับจากโรงเรียนถึงบ้าน   ย่างเท้าเข้าบ้านก็ต้องตกใจ
แม่นอนอยู่บนโซฟา  ดูหน้าตาเพลีย ๆ  ที่พื้นเลอะเทอะ ด้วยการอาเจียนของแม่
  มีทั้งส้มและแตงโมถามแม่ว่า เกิดอะไรขึ้น  แม่เล่าว่า 
เห็นรถเข็นผลไม้มาขายหน้าบ้าน  ก็เลยซื้อแตงโม กิน กินส้มที่บ้านด้วย
  แล้วเกิดอาเจียนอย่างที่ฉันเห็น  ฉันจัดการทำความสะอาดพื้น 
บอกแม่ให้นอนพักผ่อน  ฉันคิดว่า  แม่เพิ่งหายจากโรคปัสาสาะอักเสบ
  ทั้งส้มและแตงโม คงไม่ดีสำหรับคนเพิ่งหายป่วย
 คืนนั้น  กลางดึก  แม่เริ่มมีอาการปวดท้องและปัสาสาวะไม่ออกอีก ฉันบอกแม่
ให้อดทน  รุ่งเช้าจะพาไปหาหมอ  ฉันไม่คิดเลยว่า
  การไปโรงพยาบาลครั้งนี้  แม่จะไม่ได้กลับมาบ้านอีกเลย  ฉันไม่คาดคิดว่า 
แม่จะจากฉันไปตลอดกาล  เพียงเพราะโรคกระเพาะ
ปัสาสาวะอักเสบ  หมอให้แอดมิคที่โรงพยาบาล  และสวนปัสสาวะ อาการแม่
ก็ดีขึ้น  แต่ไม่ค่อยกินข้าว  ฉันก็เริ่มกังวล 
วันเสาร์ ฉันต้องไปเช็งเม้งพ่อที่สุสานที่บ้านบึง หัวกุญแจ  จังหวัด ชลบุรี 
ฉันจะให้พี่สาวไป  แต่แม่ไม่ยอม จะให้ฉันไปเอง เพราะ
กลัวว่าพี่สาวจะทำอะไรไม่ถูก  เลยต้องให้พี่สาวอยู่ดูแลแม่ที่ ร.พ. ส่วนฉัน
กับน้องชาย หลาน ไปไหว้พ่อที่สุสาน  ไหว้เสร็จ
ฉันรีบกลับบ้านและไป ร.พ.ทันที  พี่สาวรายงานว่า วันนี้แม่กินข้าวได้มากแล้ว
  ฉันรู้สึกดีใจที่แม่กินข้าวได้ดีและกินได้มาก ๆ ด้วย
  แต่อนิจจา  ตามความเชื่อที่ว่า  คนไข้ที่ป่วย กินไม่ได้เลย แล้วจู่ ๆ ก็กลับมา
กินได้มากอย่างนี้เป็นลางบอกเหตุว่า  เขากินเป็นมื้อสุดท้าย
(จริงหรือไม่ ฉันก็ไม่รู้หรอก ค่ะ แต่ก็มาตรงกับอาการของแม่) 

คืนวันนี้  ฉันนอนเฝ้าแม่เหมือนเดิม  ตอนหัวค่ำ แม่ก็ยังอาการดี ๆ อยู่  น่าจะ
ประมาณ 3-4 ทุ่ม  แม่กระสับกระส่าย เหงื่อไหลมาก
ฉันรีบเรียกพยาบาลมาดูแม่  หมอเวร
คืนนั้นมาดูอาการ  บอกว่า  เพราะยาเบาหวานที่ใส่ในน้ำเกลือ ลดมากเกินไป
แม่เลยเหมือนจะช็อค  ต้องรีบลดยา  อาการแม่ ก็ดีขึ้น
ไม่กระสับกระส่าย หลับไปจนถึงเที่ยงคืนกว่า  แม่ร้องปวดท้อง  อยากถ่าย
  ฉันนำกระโถงให้แม่นั่งถ่ายที่เตียง  แม่ถ่ายเป็นก้อนอึ
ก้อนเล็ก ๆ 3-4 ก้อน เป็นสีดำ   แล้วก็นอนต่อ  ยังไม่ถึงครึ่งชั่วโมง  ก็บ่นอยาก
ถ่ายอีก ฉันต้องพยุงแม่จากเตียงนั่งกระโถนบนเตียง
  เป็นเช่นนี้ 3-4 หนได้  ฉันแทบจะหมดแรงแล้ว เพราะว้นนี้เหนื่อยจากการเดินทาง
ไปเช็งเม้ง ต่อด้วยมาเฝ้าแม่ เลยบอกแม่ว่า ทำไม
แม่ไม่อึให้หมดล่ะ หลังจากที่ฉันบ่น  แม่ก็ไม่ได้เรียกฉันอีกเลย ตอนนั้นน่าจะ
ตีสองได้ แม่นอนสงบเงียบ  ฉันก็งีบหลับที่ขอบเตียง
อย่างอ่อนเพลีย  มาสะดุ้งตื่นขึ้นมาตอนนั้นน่าจะเกือบ 6 โมงเช้าแล้ว  งัวเงีย ๆ
ลืมตาดูแม่ที่นอนอยู่บนเตียง  เรียกแม่ แม่ เบา ๆ
เหมือนจะได้ยินเสียง "อือ" แต่แม่ก็ไม่ลืมตา และเงียบ ๆ  ฉันตกใจ ทำอะไรไม่ถูก
ได้แต่เรียกแม่ และเรียกพยาบาลมาดู ยายพยาบาล
ทำตัวน่าเกลียดมาก  เดินนวยนาดมาอย่างไม่ใส่ใจนัก พอจับชีพจรแม่แล้ว
  หน้าเปลี่ยนสี  รีบไปตามหมอมา  ให้ฉันออกจากเตียงแม่
ทำการปั๊มหัวใจ  ฉันได้แต่ยืนอยู่ด้านนอกด้วยความตกใจ  สติสตังไม่ได้อยู่กับตัว
  ทำอะไรไม่ถูกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อย่างไม่นึกว่า
มันจะเกิดขึ้นกับแม่  นางพยาบาล หมอ ดูฉุกละหุกกันไปหมด  น่าจะครึ่งชั่วโมง 
หมอที่มาปั๊มหัวใจแม่  ก็ออกมาแสดงความเสียใจกับฉันว่า
  แม่จากฉันไปแล้ว ฉันได้แต่ร้องไห้ ทำอะไรไม่ถูก ต่อว่า ยายพยาบาลว่า แม่มี
เสลดติดคอ ก็ไม่มาช่วยดูดเสลด หมอ พยาบาล เห็นฉันอาละวาด
ต่างก็เดินจากกันไป  ฉันมืดแปดด้าน  เหตุการณ์ดูมันเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว โทรไป
ที่โรงเรียน หารองปลื้มจิตซึ่งยังมาไม่ถึงโรงเรียน
ก็เลยแจ้งคนรับสายให้บอกเรื่องของแม่  คิดได้ว่า  พี่มน ซึ่งพ่อเขาเพิ่งเสียไปไม่นาน
  คงจะรู้เรื่องงานศพ  ทุกอย่างดูฉุกละหุกไปหมด 
พี่ปลื้มจิต  อนุสรณ์ โทรมาปลอบใจให้ตั้งสติดี ๆ เดี๋ยวจะมาหาที่บ้าน เพื่อนได้พาฉัน
ไปแจ้งเรื่องแม่ที่  อ. พระโขนง  ส่วน พี่มน ปลอบใจว่า
ไม่ต้องตกใจ  เรื่องโลงศพ  เรื่องทำพิธีกงเต็ก พี่เขาจะจัดการให้ และจะให้ร้านขาย
โลงศพไปรับศพแม่และสอนพิธีการต่าง ๆ ก่อนที่จะให้แม่
นอนในโลงจำปา  ส่วน รองปลื้มจิตและพี่สุรางค์ ช่วยติดต่อ ศาลาที่วัดธาตุทอง
  ช่วยเตรียมของว่างแจกแขกที่มาฟังสวดศพแม่  เพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ
ที่รักฉัน ช่วยฉันจัดการ  ฉันมีหน้าที่จ่ายเงิน  งานที่ต้องจัดการ
อย่างฉุกละหุก อย่างไม่คาดฝันว่า  ฉันจะต้องเสียแม่ไปอย่างไม่คาดคิด เช่นนี้
ถ้าไม่มี พี่ ๆ เพื่อน ๆ น้อง ๆ ที่ ร.ร.ช่วยจัดการ  ฉันคงแย่ยิ่งกว่า นี้ 

งานศพแม่ผ่านไปค่อนข้างเรียบร้อย หลังงานศพแม่ ฉันกลายเป็นคนซึมเศร้าไป
หลายเดือน พี่ปลื้ม  พี่สุรางค์ ห่วงใย ได้พาฉันไป
คลายเครียดเที่ยวที่ต่าง ๆ อยู่หลายครั้งฉันโชคดี มีเพื่อนร่วมงาน  มีพี่มน ที่คอยสอน
คอยช่วยงาน ฉันสำนึกถึงบุญคุณของพี่ ๆ น้อง ๆ เหล่านี้เสมอค่ะ 


           นี่คือ เรื่องราว ที่เกิดขึ้นอย่างที่ฉันไม่คาดคิดว่า  แม่จะจากฉันไปเร็ว  เพียงเพราะเป็น
โรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ  ซึ่งไม่ได้เป็นโรคที่คิดว่า
ร้ายแรงอะไร  มันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นรวดเร็วเพียงอาทิตย์กว่า ๆ เท่านั้นมันทำใจยาก
จริง ๆ ในเวลานั้น  กว่าจะเข้าสู่ภาวะจิตใจเป็นปรกติ
  ทำใจได้  ก็หลายเดือนอยู่ ค่ะ เป็นเหตุการณ์ ฉุกละหุก ที่ยากจะลืมเลือนได้ จริง ๆ ค่ะ




 



Create Date : 24 มีนาคม 2567
Last Update : 24 มีนาคม 2567 14:45:29 น. 28 comments
Counter : 449 Pageviews.
(โหวต blog นี้) 

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณหอมกร, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณtanjira, คุณกะว่าก๋า, คุณทนายอ้วน, คุณThe Kop Civil, คุณสองแผ่นดิน, คุณhaiku, คุณtoor36, คุณนายแว่นขยันเที่ยว, คุณmultiple, คุณkatoy, คุณSweet_pills, คุณnewyorknurse, คุณดอยสะเก็ด, คุณปัญญา Dh, คุณโฮมสเตย์ริมน้ำ, คุณจันทราน็อคเทิร์น


 
คนทุกคนมีเวลาเป็นของตนเอง
อาจารย์อย่าไปโทษใครเลยนะคะ




โดย: หอมกร วันที่: 24 มีนาคม 2567 เวลา:17:13:50 น.  

 
สวัสดีค่ะอาจารย์

อย่างคุณหอมกรบอกนะคะ
ทุกคนมีเวลาเป็นของตัวเอง
เพียงแต่แม่อาจจะจากไปกระทันหันอาจารย์ไม่ทันได้ตั้งตัวแหละค่ะ
แม่เจ็บป่วยไม่นานถือว่าเป็นบุญแล้วนะคะอาจารย์

ขอให้อาจารย์รักษาสุขภาพด้วยนะคะ



โดย: tanjira วันที่: 24 มีนาคม 2567 เวลา:18:10:07 น.  

 
อ่านเรื่องราวของอาจารย์
ความทรงจำของพี่ชายผมก็กลับมาทันทีเลยครับ
เป็นภาพเดียวกัน
คือเห็นกันอยู่ ดูไม่มีอะไร
แต่พอไปโรงพยาบาล
ก็ไม่ได้กลับบ้านอีกเลย

อาจารย์ผูกพันกับคุณแม่มากๆ
ยากที่จะทำใจจริงๆครับ
ผมเข้าใจความรู้สึกนี้ดีเลย
พี่สะใภ้ผมก็ยังทำใจไม่ได้
วันก่อนผมนั่งคุยกับแม่
แม่พูดถึงพี่ชายแค่คำเดียว
แล้วก็ร้องไห้เลย

ยิ่งจากกันแบบฉุกละหุก
ยิ่งยากจะทำใจนะครับ

ปล.ตอนนี้เชียงใหม่ไม่มีควันมา 3-4 วันแล้วครับอาจารย์
เพราะมีลม มีฝนในบางวัน
แต่หลังจากนี้น่าจะกลับมาแบบหนักหนาสาหัสเลยครับ
เผาทุกปี แต่ทางจังหวัดไม่มีวิธีรับมือกับปัญหา
งงมากๆเลยครับ




โดย: กะว่าก๋า วันที่: 24 มีนาคม 2567 เวลา:19:08:25 น.  

 
นึกถึงวันที่พ่อเสียเลยครับ

พ่อป่วยหนักมานานครับ หมอบอกว่าไม่มีทางรักษาแล้ว ให้ประคองอาการไปเรื่อยๆ แต่ก็ไม่มีอาการอะไรร้ายแรง นอนอยู่โรงพยาบาลนานเป็นเดือนๆ


วันนึงบอลก็คิดได้ว่าถ้าพ่อจากไปบอลต้องวุ่นวายแน่ๆ เพราะบอลไม่มีเสื้อสีขาวและสีดำเลย บอลไม่ชอบใส่ 2 สีนี้ครับ บอลเลยออกไปซื้อเสื้อสีขาว - ดำ มา 2-3 ตัว


พอกลับมาถึงบ้านก็เจอแม่ที่กลับมาจาก รพ. ยังถามแม่ว่ากลับมาทำไมไม่บอก ใครอยู่เป็นเพื่อนพ่อ ... แม่บอกว่าพยาบาลให้กลับมาเตรียมของ ... ท่าทางพ่อแย่แล้ว ... พยาบาลให้กลับมาเตรียมดอกไม้ ธูป เทียน บอกญาติสนิทๆครับ


เพิ่งจะออกไปซื้อเสื้อดำมาเมื่อกี๊นี้เองครับ


โดย: ทนายอ้วน วันที่: 24 มีนาคม 2567 เวลา:20:20:27 น.  

 
เกิดแก่เจ็บตาย
พ่อผมไม่เคยนอนรพ. เข้าแอดมิทคืนเดียวเสียเลยครับ
จากไปแบบไม่ทันตั้งตัวหรือได้สั่งเสียอะไรเลย



โดย: สองแผ่นดิน วันที่: 24 มีนาคม 2567 เวลา:22:53:38 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับอาจารย์



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 25 มีนาคม 2567 เวลา:4:31:04 น.  

 
โรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ นี่ถ้าต้องสวน โอกาสติดเชื้อมีสูงเลยนะครับ

ส่วน รพ ก็มีทั้งคนดี คนไม่ดี แล้วแต่ว่าเราจะไปเจอใครจริงๆ
อ.เต๊ะ ก็พึ่งจะเสีย พ่อไปกว่าจะทำใจได้ก็นานเลยละครับ

ครอบครัว ยามมีชีวิตอยู่ก็ต้องรักใคร่ ผูกพันกัน
ยามต้องมาจากกัน ก็ต้องเสียใจเป็นเรื่องที่หนีไม่พ้นนะครับ

เรื่องงานศพนี่ ในรอบ 20ปีมานี่ คนในครอบครัว อ.เต๊ะ
จากไป 5คนแล้วละครับ
ชีวิตคนเราไม่แน่นอน และหนีไม่พ้นจริงๆครับ


โดย: multiple วันที่: 25 มีนาคม 2567 เวลา:5:46:22 น.  

 
กระเพาะปัสสาวะอักเสบประมาทไม่ได้เลยครับ การกั้นฉี่นี่อันตรายมาก ตอนยังอายุไม่เยอะอาจไม่รู้สึกอะไร แต่พออายุมากขึ้นมันมีผลกระทบครับ

เรื่องนี้ทำให้ได้เรียนรู้อย่างนึงครับว่า คนเราตอนที่ยังอยู่ด้วยกันดีกันไว้ ใจเย็นกันอีกสักนิดดีที่สุดครับ

ช่วงนี้คนรอบๆ ตัวผมก็จากไปเรื่อยๆ ผมคงอายุมากขึ้นแล้วจริงๆ


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 25 มีนาคม 2567 เวลา:22:15:02 น.  

 
ขอแสดงความเสียใจอีกครั้งครับอาจารย์
ของผมแม่เสียไปเมื่อปีที่แล้ว ผมอยู่กรุงเทพฯ ไม่ได้กลับบ้านที่ต่างจังหวัดเลย ไม่ได้ดูใจแม่ด้วย แม่นอนหลับไปเองครับ ยังดีผมได้ไปไหว้แม่ตอนปีใหม่ ยังพูดคุยกันบ้าง มีนาแม่ก็จากไปครับ


โดย: The Kop Civil วันที่: 25 มีนาคม 2567 เวลา:22:52:59 น.  

 
ต๋าขอแสดงความเสียใจย้อนหลังกับการจากไปของคุณแม่อาจารย์นะคะ
อาจารย์ได้ดูแลใกล้ชิดคุณแม่อย่างมากค่ะ
ทุกประโยคที่อาจารย์ถ่ายทอดคงยังชัดเจนในความรู้สึก
เป็นเหตุการณ์สำคัญที่ยากจะทำใจจริงๆค่ะ


โดย: Sweet_pills วันที่: 25 มีนาคม 2567 เวลา:23:59:31 น.  

 

สวัสดีค่ะ อจ.
ขอแสดงความเสียใจด้วยค่ะ
ยามฉุกเฉิน โดยไม่คาดฝันแบบนี้
เรื่องต่างๆที่ต้องเตรียม การจัดงาน
มีคนช่วยก็ช่วยได้เยอะนะคะ

"นี่แหละทีเขาว่าเพื่อนยามยากคือเพื่อนแท้"


โดย: newyorknurse วันที่: 26 มีนาคม 2567 เวลา:1:32:14 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับอาจารย์

อาจารย์หาหมอสองคนในวันเดียว
ผมว่าน่าจะต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงเลยครับ
โรคกระดูกพรุนคนไทยก็เป็นกันเยอะนะครับ
มาดามเองก็เริ่มเป็นครับ
เธอเป็นที่นิ้วก่อน หมอบอกไม่หายแน่นอน
ทำได้เพียงรักษาตามอาการครับ

ข้าราชการดีตรงสวัสดิการและการรักษาพยาบาลตน
ผมว่าช่วยได้เยอะมากๆเลยครับ




โดย: กะว่าก๋า วันที่: 26 มีนาคม 2567 เวลา:5:22:14 น.  

 
สวัสดีครับอาจารย์

ขอบคุณที่แวะไปที่บล็อกครับ


โดย: ปัญญา Dh วันที่: 26 มีนาคม 2567 เวลา:16:22:20 น.  

 
ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตครับอาจารย์

กว่าเราจะว่างจากความทุกข์ได้
ผมว่าเราต้องวางอะไรต่อมิอะไรมากมายหมาศาลเลยครับ
แม้ไม่ใช่เรื่องง่าย
แต่ผมก็ยังเชื่อว่ามันไม่น่ายากเกินความสามารถของมนุษย์แน่นอนครับ



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 26 มีนาคม 2567 เวลา:19:18:48 น.  

 
สวัสดีค่ะอาจารย์

ไปเที่ยวยังนึกถึงการทำกับข้าว
เป็นอย่างนั้นจริงๆค่ะ อิอิ

อาจารย์รักษาสุขภาพนะคะ
ขอบคุณอาจารย์มากค่ะสำหรับกำลังใจ




โดย: Sweet_pills วันที่: 27 มีนาคม 2567 เวลา:0:14:08 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับอาจารย์



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 27 มีนาคม 2567 เวลา:5:04:07 น.  

 
สวัสดีค่ะอาจารย์

หนูแวะมายามบ่ายๆที่อากาศร้อนมากเลยนะคะ
หนูมาชวนไปอ่าน ฉุกละหุก ค่ะ

ขอบคุณสำหรับกำลังใจที่บล็อกด้วยนะคะ


โดย: tanjira วันที่: 27 มีนาคม 2567 เวลา:14:49:31 น.  

 
ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตครับอาจารย์

โห...ดีจังเลยครับ
อาจารย์ช่วยให้ความรู้ในเรื่องการออกเสียงด้วย
ผมเองก็ไม่แน่ใจครับว่าอ่านออกเสียงถูกต้องหรือไม่
คราวนี้จะจำให้ขึ้นใจเลยครับ
ขอบคุณอาจารย์มากๆครับ





โดย: กะว่าก๋า วันที่: 27 มีนาคม 2567 เวลา:18:47:27 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับอาจารย์



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 28 มีนาคม 2567 เวลา:4:56:31 น.  

 
ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตครับอาจารย์

ใช่ครับ
ผมไม่ได้ต่อต้านการไหว้วอนร้องขอครับ
เมื่อก่อนผมก็ขอพรจากพระเช่นกัน
แต่ตอนหลังก็ไมไ่ด้ขอแล้ว
ผมรู้สึกว่าทุกอย่างที่ขอ
เราทำเองได้หมดเลยครับ
เหมือนที่อาจารย์บอกเลยครับ
อยากมีสุขภาพแข็งแรงก็ออกกำัลงกาย ดูแลอาหารการกิน
สุขภาพเราก็ดีได้ด้วยตัวเราเองจริงๆครับ



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 28 มีนาคม 2567 เวลา:13:25:41 น.  

 
สวัสดียามเย็นค่ะ อาจารย์สุวิมล

เป็นเหตุการณ์ที่ยากจะลืมเลือนค่ะ
จันทร์เชื่อเรื่องอาหารมื้อสุดท้าย กับ
อาการที่ดีขึ้นมาอย่างน่าประหลาดใจ ก่อนที่จะเสียค่ะ
เคยเผชิญมาทั้ง2เหตุการณ์เลย

อาจารย์หน้าเหมือนคุณแม่เลยนะคะ


โดย: โฮมสเตย์ริมน้ำ วันที่: 28 มีนาคม 2567 เวลา:17:16:17 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับอาจารย์



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 29 มีนาคม 2567 เวลา:4:33:56 น.  

 
สวัสดียามสายค่ะ อาจารย์สุวิมล

7-11 มีเกือบทุกอย่างจริงๆค่ะ
เราเลือกซื้อ เลือกกินได้สบายขึ้นนะคะ

วันนี้ขอให้เป็นวันดีดีนะคะ


โดย: โฮมสเตย์ริมน้ำ วันที่: 29 มีนาคม 2567 เวลา:9:27:45 น.  

 
ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตครับอาจารย์

ธรรมะของพระพุทธเจ้า
ผมว่าเป็นแรงบันดาลใจให้เรารู้สึกว่า
ทุกคนสามารถเข้าถึงธรรมได้ ถ้าลงมือทำ

เหมือนพระองค์เดินให้ดูเลยว่าทางไปที่สู่การรู้แจ้งคืออะไร ไปทางไหน
ที่เหลือก็มีเพียงเราต้องลงมือทำด้วยตัวเองเท่านั้นเองครับ



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 29 มีนาคม 2567 เวลา:13:05:49 น.  

 
อาจารย์ครับ เดี๋ยวผมกลับมาเม้นนะครับ
วันนี้เพิ่งจัดกระเป๋าเดินทางเส็ด พรุ่งนี้ไปต่างจังหวัดหลายวัน กลับมาอีกทีวันพุธเลยครับ


โดย: จันทราน็อคเทิร์น วันที่: 29 มีนาคม 2567 เวลา:23:50:19 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับอาจารย์



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 30 มีนาคม 2567 เวลา:5:20:59 น.  

 
ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตครับอาจารย์

ผมเชื่อในเรื่องกฏแห่งกรรมมากๆ
อย่างนิสัยชอบทรมานสัตว์ตอนเด็ก
พอเจอกับตัว
ผมก็เลิกนิสัยนี้ไปเลยครับ



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 30 มีนาคม 2567 เวลา:13:46:43 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับอาจารย์



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 31 มีนาคม 2567 เวลา:6:12:48 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
space

อาจารย์สุวิมล
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 46 คน [?]




เป็นครูสอนภาษาไทยที่เกษียณอายุราชการแล้ว สนใจเรื่องการเขียนหนังสือให้ความรู้ ชอบการท่องเที่ยว หากท่านที่เข้ามาชมและอ่านแล้ว มีความสนใจและต้องการสอบถามเรื่องความรู้ด้านภาษาไทย ถ้ามีความสามารถจะให้ความรู้ได้ ก็ยินดีค่ะ

http://i697.photobucket.com/albums/vv337/dd6728/color_line17.gif
space
space
space
space
[Add อาจารย์สุวิมล's blog to your web]
space
space
space
space
space