|
|
| 1 |
2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 |
9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 |
16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 |
23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 |
30 | 31 | |
|
|
|
|
สัมภาษณ์ตัวเอง
"สัมภาษณ์ตัวเอง" เป็นโจทย์ถนนสายนี้มีตะพาบ หลักกิโลเมตรที่ 332 ผู้ตั้งโจทย์ คือ คุณ กะว่าก๋า
คำอธิบายโจทย์ (แนวทางการเขียน) ตั้งคำถาม 3 ข้อถามตัวเอง จะถามเรื่องอะไรก็ได้ แล้วก็ตอบคำถามนั้น
จากคำอธิบาย แนวเขียน ของหัวข้อ "สัมภาษณ์ตัวเอง" แล้วก็ตอบ คำถามนั้น เออ! โดยความเป็นจริงแล้ว คนเราไม่สามารถสัมภาษณ์ตัวเองหรอก นะ ในความเป็นจริง เราต้อง ถูกสัมภาษณ์ แล้วเราจึงตอบคำถามที่เขา สัมภาษณ์เรา นั่นเอง จริงไหม ดังนั้น ฉันจึงตีความเอาเองว่า ฉันจะ ตั้งคำถาม ถามตัวเอง หรือ อยากจะถามอะไร ในชีวิตของฉัน แล้วฉันก็ต้องหาคำตอบในคำถามที่ฉันตั้งไว้ 3 ข้อ ตามโจทย์ ค่ะ
คำถาม ข้อที่ 1 ทัศนะเกี่ยวกับเรื่อง ความรัก ของฉัน เป็นเช่นใด (สมมติว่า คนที่สัมภาษณ์ถามฉันด้วยคำถามนี้ ค่ะ ) คำตอบ เรื่องของความรัก เป็นเรื่องของอารมณ์ ค่ะ ในความเห็น ของฉัน ความรักเป็นสิ่งสวยงามเสมอ ไม่ว่า จะเป็นความรักของพ่อแม่ พี่น้อง เพื่อน คนรัก ตลอดจนถึงความรัก ในสถาบันที่เราเคยอยู่ แต่ความรักที่ยิ่งใหญ่ นั่นก็คือ ความรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เพราะถ้าเรา ไม่มีชาติ ก็ ไม่มีแผ่นดินอยู่อย่างสุขสบาย ไม่มีอิสรภาพใน ชีวิต ต้องตกเป็นขี้ข้าของชาติอื่น แล้วเราจะมีความสุขได้อย่างไร
ถ้าไม่มีศาสนา ซึ่งศาสนาจะเป็นสิ่งที่ยึดเหนี่ยวจิตใจคนในชาติ ให้เป็น คนดี คนในชาติก็จะไม่รู้ดีรู้ชั่ว ขาดความรัก ความสามัคคีกันบ้านเมืองย่อมไม่สงบสุข แน่นอน
การมีพระมหากษัตริย์ ก็เช่นเดียวกันเพราะ กษัตริย์จะเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจ ของประชาชน เป็นศูนย์รวมจิตใจของประชาชน เพราะพระมหากษัตริย์ของไทยทุกพระองค์ ทรงเป็นกษัตริย์ที่มี ทศพิธราชธรรม บำบัดทุกข์ บำรุงสุขให้แก่ประชาชน ดังตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดในยุคของฉัน ก็คือ พ่อหลวงรัชกาล ที่ 9 ซึ่งไม่ใช่เป็นที่รัก ที่เคารพของปวงชนชาวไทย เท่านั้น แม้แต่ต่างประเทศก็ยกย่อง เทิดพระเกียรติในความทรงพระ ปรีชาสามารถในทุก ๆ ด้านของพระองค์ไม่ว่า จะเป็นด้านเกษตร (ดิน) เรื่องน้ำ (แก้มลิง) เป็นต้น กษัตริย์ จิ๊กมี่ แห่งประเทศภูฏาน ตรัสว่า พระองค์ทรงมีพ่อหลวงของ เราเป็นแบบอย่างในการปกครองประชาชนของพระองค์ ประธานาธิบดี ปูติน กล่าวว่า เป็นหนี้บุญคุณของพ่อหลวงเราที่ได้ให้ ความรู้แก่ประเทศรัสเซีย ในด้านการเกษตร ทำให้พื้นที่ที่แห้งแล้งของรัสเซียสามารถปลูกข้าวสาลีได้ สามารถ ใช้ผลผลิตเลี้ยงประชาชนได้อย่างเพียงพอ ถึงกับมีเหลือผลผลิตส่งออกเป็นสินค้าส่งออกด้วย
ส่วนความรัก ของพ่อแม่ พี่น้อง เรียกว่า เป็นความรักทางสายเลือก เป็นความรัก ความผูกพัน ถ้าหากว่า ไม่มีเรื่องความโลภ ของทรัพย์สมบัติ ก็จะเป็นความรักที่สวยงามแต่ที่จริงถึงจะมีเรื่องความโลภ เข้ามาเกี่ยวข้อง ก็เป็นเรื่องของความโลภ ความรัก มันก็อยู่ของมันเฉย ๆ นะ เช่นเดียวกับความรักของ หญิงชาย ซึ่งเป็นความรักที่ค่อนข้างรุนแรงตามอารมณ์ ไม่มีความมั่นคง มีความแปรเปลี่ยนได้ ซึ่งที่แปรเปลี่ยนไปนั้น จะเปลี่ยน ไปอย่างไร ก็ตาม ย่อมทำให้เกิดความเจ็บปวด ได้ทั้งสิ้น แต่ไม่ใช่ต้นเหตุเกิดจากความรักนะ แต่ต้นเหตุนั้นเกิดจาก ความแปรเปลี่ยนต่างหาก ล่ะ ความรัก มันก็อยู่ ของมันดี ๆ เราจึงไม่ควรไปโทษความรัก นะ ฉันจึงสรุปว่า ความรักนั้นเป็นสิ่งสวยงามเสมอ ค่ะ ความรัก ระหว่างเพื่อน ก็นับเป็นความรักที่ดี ถ้าเป็นความรักที่จริงใจ ต่อกัน มีแต่ความหวังดี ให้ความห่วงใย ยามสุขร่วมเสพ ยามทุกข์ร่วมต้าน ถือว่า เป็นความรักที่งดงามเช่นกัน ถ้า เกิดความแปรเปลี่ยนไป ความรักที่เพื่อนมีต่อกันนั้น ก็ยังคงอยู่ ต้องไปโทษตัวที่แปรเปลี่ยน นั่นมากกว่าโทษความรัก ค่ะ ทั้งหมดนี่ เป็นทัศนะของฉันที่เกี่ยวกับ "ความรัก" ของฉันค่ะ
ความรักที่ยิ่งใหญ่ คือ รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ค่ะ
ความรักที่ยิ่งใหญ่รองลงมา คือ ความรัก ของพ่อแม่ ค่ะ
ความรักของเพื่อนแท้ มีสุขร่วมเสพ มีทุกข์ร่วมต้าน ค่ะ
ความรักของหนุ่มสาว ก่อเกิด สุข ทุกข์ หมดวาสนาก็เลิกลากันไป
คำถาม ข้อที่ 2 ทัศนะเกี่ยวกับ เรื่องการศึกษาของผู้หญิง เป็นเช่นใด (สมมติว่า คนที่สัมภาษณ์ถามฉันด้วยคำถามนี้ ค่ะ ) คำตอบ เรื่อง เกี่ยวกับการศึกษาของผู้หญิง เราจะเห็นว่า ในสมัยฉัน หรือ ก่อน ฉันเกิด ครอบครัวมักไม่เห็นความสำคัญของการศึกษา สำหรับเด็กผู้หญิง ในวรรณคดีไทย ก็มีกล่าวถึงค่านิยมในสมัยก่อน นิยมให้ลูกชายได้เรียนหนังสือ ส่วนเด็กผู้หญิง จะไม่ได้เรียนหนังสือ ต้องอยู่กับเหย้าเฝ้ากับเรือน เย็บปักถักร้อย เพื่อโตขึ้นจะได้เป็นแม่ศรีเรือน รับใช้ ปรนนิบัติสามี ค่านิยมของคนจีนก็เช่นกัน ไม่ให้เด็กผู้หญิงได้เรียนสูง ๆ เพราะเชื่อว่า ผู้หญิงเมื่อแต่งงานแล้ว ก็ไปเป็นสมบัติของตระกูลอื่น ฉันเองก็เคยประสบปัญหาเช่นนี้เหมือนกัน ฉันต่อต้านความคิดเช่นนี้ ของแม่ฉันแบบหัวชนฝา ฉันให้เหตุผลแม่ว่า ผู้หญิง จำเป็นต้องเรียนสูง ๆ มีความรู้ ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาสามี ที่สำคัญ ถ้าแต่งงานไปแล้ว ชีวิตไม่ราบรื่น จำเป็นต้องเลิกลากัน ผู้หญิงก็จะมีความรู้หาเลี้ยงตัวเองได้ ไม่ต้องให้ ผู้ชายเลี้ยงดู หรือดูถูก ถือเป็นของตายต้องพึ่งพาเขา เลี้ยงดู ในที่สุด ฉันก็ได้รับการศึกษาจบปริญญาตามจุดมุ่งหมาย ที่ฉันตั้งเอาไว้ และใช้ความรู้ประกอบอาชีพที่ฉันต้องการ การศึกษาจึงเป็นสิ่งสำคัญ เลี้ยงชีพตนเองและเลี้ยงพ่อแม่ สามารถ พัฒนาตนเอง พัฒนาสังคมและอื่น ๆ โดยนำความรู้ ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ตามความสามารถของตนเองได้
อาชีพครู อันเกิดจากการศึกษาและนำไปประกอบอาชีพเลี้ยงตัวเองได้
อาชีพที่ได้มาเพราะการศึกษาเล่าเรียน ค่ะ
คำถาม ข้อที่ 3 ทัศนะเกี่ยวกับชีวิตของการอยู่เป็นโสด เป็นเช่นใด (สมมติว่า คนที่สัมภาษณ์ถามฉันด้วยคำถามนี้ ค่ะ ) คำตอบ เรื่อง ชีวิตของการอยู่เป็นโสด ฉันก็เคยถูกถามเหมือนกันนะ อิอิ ในทัศนะเกี่ยวกับเรื่องนี้ ฉันคิดว่า การมีชีวิตคู่ กับการอยู่เป็นโสด ก็มีข้อดี ข้อเสีย แตกต่างกันไป คนอยู่เป็นโสด ข้อดีคือ ทำอะไรได้อิสระมากกว่าคนมีคู่แน่นอน เราอยู่คนเดียว อิสระ จะกิน จะเที่ยว เราก็สามารถไปได้โดยไม่ต้องห่วง ความรู้สึกของอีกคน (คู่ของเรา ถ้าเขาไม่ชอบ) เป็นตัวของตัวเองได้เต็มที่ กินของอร่อย ๆ แบบไม่ต้องกลัวใครว่า ปาร์ตี้กับเพื่อนสาวได้อย่างสุดเหวี่ยง ไม่ต้องอึดอัดกับครอบครัวฝ่ายชาย อยากไปไหนก็ได้ไป มีเวลาทำในสิ่งที่ตัวเองชอบได้อย่างเต็มที่ ข้อเสีย คือ เวลาเจ็บไข้ได้ป่วย อาจจะลำบากหน่อย ขาดคนดูแล เอาใจใส่ (แต่ก็ไม่ใช่ว่า มีคู่แล้ว จะเจอคนที่เขา ดูแลเราดีทุกคนน่ะเนี่ย) เรื่องนี้ ฉันก็ไม่ค่อยมีปัญหามากนัก อาจจะ เป็นเพราะอาชีพของฉัน คือ เป็นครู มีลูกศิษย์ลูกหา มากมาย และเจอลูกศิษย์ดี ๆ เวลาป่วยหนัก หรือ เกิดอุบัติเหตุ ก็ได้ลูกศิษย์ เป็นที่พึ่งพาพวกเขาได้ ถ้าจะบอกว่า คนโสด จะเหงา เดียวดาย ฯลฯ เรื่องนี้ ฉันก็ไม่รู้สึกเหงาหรอกนะ มีเพื่อนเที่ยว เพื่อน กิน มีลูกศิษย์มาหา โทรมาคุย พาไปกินข้าวบ้าง ถึงวันสำคัญ เช่น วันคล้ายวันเกิด มีลูกศิษย์ เพื่อนบ้านเพื่อนทาง โซเชี่ยล เพื่อนสนิท มาอวยพรกันมากมาย บางครั้งก็ไปกินข้าวฉลอง ส่งเค้ก ส่งขนมนมเนยมาฝาก อีกอย่าง ฉัน เป็นคนชอบ ขีด ๆ เขียน ๆ เช่น เขียนบันทึกเรื่องเที่ยว เรื่องไปทำบุญ ฯลฯ อ่านงานเขียนของเพื่อน ๆ ในบล็อกแก๊ง ดูยูทูป อ่านไลน์ วัน ๆ เวลาก็หมดไปแล้ว หาเวลาว่าง มาเหงาน้อยมาก ดังนั้น ฉันจึงคิดว่า ชีวิตของการอยู่เป็นโสดของฉันไม่มีปัญหานะ มีความสุขดีตามอัตภาพตามความพอใจของฉัน ไม่เดือดร้อนในเรื่องคู่ครอง ถ้ามันหาที่ดีสำหรับเราไม่ได้ก็อย่ามีคู่เสียเลย จะดีกว่า เราก็หาเลี้ยงตัวเองได้ มีเงินมีทองใช้ ถ้าเหลือใช้ ก็ทำบุญบ้าง เที่ยวบ้าง จึงคิดว่า อยู่เป็นโสด จะไม่ทุกข์ใจน่ะนะ อิอิ
ตะพาบครั้งนี้ ฉันก็เขียนตามจุดมุ่งหมายของโจทย์เสร็จสมบูรณ์แล้ว ค่ะ ชีวิตของคนเราสั้นนัก หมั่นสั่งสมเสบียงบุญตาม เวลาและโอกาสที่อำนวย อะไรที่ทำแล้วเป็นความสุขไม่เดือดร้อนตัวเอง ไม่เดือนร้อนคนอื่น ก็รีบ ๆ ทำตามใจที่เราต้องการเถิดนะ อย่ามัวรีรอ เมื่อถึงเวลาจะต้องอำลาจากโลกนี้ไปตามที่เขากำหนด มาให้ต้องกลับสู่ที่ที่เรามา เราจะได้ไม่เสียใจ เสียดาย ค่ะ สวัสดี ค่ะ (ขอบคุณภาพจากอินเทอร์เน็ต)
Create Date : 31 กรกฎาคม 2566 |
Last Update : 1 สิงหาคม 2566 8:12:06 น. |
|
41 comments
|
Counter : 1107 Pageviews. |
|
|
|
ผู้โหวตบล็อกนี้... |
คุณSweet_pills, คุณtoor36, คุณไวน์กับสายน้ำ, คุณจันทราน็อคเทิร์น, คุณกะว่าก๋า, คุณโฮมสเตย์ริมน้ำ, คุณสองแผ่นดิน, คุณนายแว่นขยันเที่ยว, คุณปัญญา Dh, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณ**mp5**, คุณร่มไม้เย็น, คุณหอมกร, คุณkae+aoe, คุณดอยสะเก็ด, คุณThe Kop Civil, คุณnewyorknurse, คุณtanjira |
โดย: Sweet_pills วันที่: 1 สิงหาคม 2566 เวลา:8:32:30 น. |
|
|
|
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 1 สิงหาคม 2566 เวลา:10:19:31 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 1 สิงหาคม 2566 เวลา:15:26:38 น. |
|
|
|
โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 1 สิงหาคม 2566 เวลา:21:29:15 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 2 สิงหาคม 2566 เวลา:5:43:03 น. |
|
|
|
โดย: ปัญญา Dh วันที่: 2 สิงหาคม 2566 เวลา:5:54:52 น. |
|
|
|
โดย: **mp5** วันที่: 2 สิงหาคม 2566 เวลา:13:33:01 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 2 สิงหาคม 2566 เวลา:16:15:01 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 3 สิงหาคม 2566 เวลา:5:11:19 น. |
|
|
|
โดย: หอมกร วันที่: 3 สิงหาคม 2566 เวลา:8:08:16 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 3 สิงหาคม 2566 เวลา:13:56:57 น. |
|
|
|
โดย: Sweet_pills วันที่: 4 สิงหาคม 2566 เวลา:0:17:41 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 4 สิงหาคม 2566 เวลา:5:10:34 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 4 สิงหาคม 2566 เวลา:20:11:46 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 5 สิงหาคม 2566 เวลา:6:13:30 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 5 สิงหาคม 2566 เวลา:16:06:48 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 6 สิงหาคม 2566 เวลา:6:18:50 น. |
|
|
|
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 6 สิงหาคม 2566 เวลา:6:25:02 น. |
|
|
|
โดย: ปัญญา Dh วันที่: 6 สิงหาคม 2566 เวลา:13:51:09 น. |
|
|
|
โดย: หอมกร วันที่: 6 สิงหาคม 2566 เวลา:18:49:55 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 6 สิงหาคม 2566 เวลา:21:31:02 น. |
|
|
|
โดย: สองแผ่นดิน วันที่: 6 สิงหาคม 2566 เวลา:23:30:51 น. |
|
|
|
โดย: Sweet_pills วันที่: 7 สิงหาคม 2566 เวลา:0:17:36 น. |
|
|
|
โดย: ปัญญา Dh วันที่: 7 สิงหาคม 2566 เวลา:2:29:44 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 7 สิงหาคม 2566 เวลา:5:10:26 น. |
|
|
|
โดย: tanjira วันที่: 7 สิงหาคม 2566 เวลา:7:46:37 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 7 สิงหาคม 2566 เวลา:16:08:59 น. |
|
|
|
โดย: อุ้มสี วันที่: 7 สิงหาคม 2566 เวลา:22:28:34 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 8 สิงหาคม 2566 เวลา:5:12:14 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 8 สิงหาคม 2566 เวลา:10:43:33 น. |
|
|
|
โดย: Sweet_pills วันที่: 9 สิงหาคม 2566 เวลา:0:41:40 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 9 สิงหาคม 2566 เวลา:5:22:02 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 9 สิงหาคม 2566 เวลา:12:37:39 น. |
|
|
|
|
|
|
|
|
BlogGang Popular Award#20
|
|
|
|
ฝากข้อความหลังไมค์ |
|
Rss Feed |
| Smember | | ผู้ติดตามบล็อก : 46 คน [?]
|
เป็นครูสอนภาษาไทยที่เกษียณอายุราชการแล้ว สนใจเรื่องการเขียนหนังสือให้ความรู้ ชอบการท่องเที่ยว หากท่านที่เข้ามาชมและอ่านแล้ว มีความสนใจและต้องการสอบถามเรื่องความรู้ด้านภาษาไทย ถ้ามีความสามารถจะให้ความรู้ได้ ก็ยินดีค่ะ
http://i697.photobucket.com/albums/vv337/dd6728/color_line17.gif |
|
|
|
อาจารย์ให้ทัศนะเรื่องความรักที่ยิ่งใหญ่
ที่มีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
ทำให้เห็นคุณค่าของแผ่นดินเกิดและสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจ
ที่ไม่ว่ายุคสมัยจะเปลี่ยนแปลงอย่างไร
ความรักทั้งสามสิ่งนี้ก็ยิ่งใหญ่จริงๆนะคะ
เรื่องการศึกษาของผู้หญิง นำความรู้ที่มีมาประกอบอาชีพ
เลี้ยงตัวเลี้ยงพ่อแม่ได้ เป็นความภาคภูมิใจด้วยค่ะ
อาจารย์แวดล้อมด้วยลูกศิษย์ เพื่อนๆและกัลยาณมิตร
ได้ทำกิจกรรมมากมายน่าอบอุ่นและมีความสุขมากๆค่ะ
ขอให้อาจารย์มีสุขภาพแข็งแรง
ขอบคุณอาจารย์สำหรับทัศนะที่ให้ข้อคิดดีๆนะคะ