|
|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
เที่ยวทิพย์ทั่วไทย
"เที่ยวทิพย์ทั่วไทย" เป็นโจทย์ตะพาบกิโลเมตรที่ 284 ผู้ตั้ง โจทย์ครั้งนี้ ก็คือ น้องอุ้มสี ผู้เชี่ยวชาญในการรีวิว เกี่ยวกับเรื่องสถานที่น่าเที่ยวของประเทศไทย ค่ะ
คำอธิบายโจทย์ ของตะพาบครั้งนี้ คือ "เขียนเกี่ยวกับการท่องเที่ยวที่ พี่น้องผองเพื่อนไปเที่ยวทั่วไทย ชอบประทับใจจังหวัดไหน โพสต์ภาพ เล่าเรื่องประทับใจทริปนั้น จะได้ตามไปเที่ยวมั่ง"
ที่จริง ฉันก็เที่ยวจังหวัดต่าง ๆ ในประเทศไทยมาหลายจังหวัด แต่ ไม่ได้เจาะลึกอะไรมากนัก สำหรับความประทับใจ จังหวัดไหน ให้เล่าเรื่องที่ประทับใจของทริปนั้น ๆ ด้วย ข้อนี้ลำบากใจเหมือนกันค่ะ เพราะจังหวัดที่เคยไปเที่ยวนั้น ประทับใจทุกที่เลยค่ะ อิอิ ถ้าจำเป็นต้องเลือก ก็ขอเลือกเที่ยวทิพย์จังหวัดหนึ่ง ซึ่งเป็นจังหวัดที่มีความหลัง ที่มีความประทับใจเกี่ยวกับความการต้อนรับของผู้ใหญ่ที่ฉันได้ไปเยี่ยม เยือนมา ค่ะ จังหวัดที่จะเล่าความประทับใจนี้ ก็คือ จังหวัดแพร่ ค่ะ
จังหวัดแพร่เป็นจังหวัดภาคเหนือของประเทศไทย ตั้งอยู่ระหว่างเส้นรุ้งเหนือที่ 17.70 ถึง 18.84 องศา กับเส้นแวงที่ 99.58 ถึง100.32 องศา อยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลประมาณ 155 เมตร อยู่ห่างจากกรุงเทพมหานคร ตามทางหลวงหมายเลข 11 และ 101 ประมาณ 555 กิโลเมตร และ ทางรถไฟ 550 กิโลเมตร (ถึงสถานีรถไฟเด่นชัย) มีเนื้อที่ประมาณ 6,538.59 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 4,086,625 ไร่ คิดเป็นร้อยละ 1.27 ของพื้นที่ประเทศ จัดเป็น พื้นที่จังหวัดขนาดกลาง มีความกว้างประมาณ 59 กิโลเมตร (วัดจาก ตะวันออกสุดของอำเภอเมืองตะวันตกสุดของอำเภอลอง) มีความยาวประมาณ 118 กิโลเมตร (วัดจากเหนือสุดของอำเภอสอง ใต้สุดของอำเภอวังชิ้น ) ปัจจุบัน ที่ตั้งของจังหวัดแพร่นับเป็นศูนย์กลางการคมนาคมขนส่งทางรถยนต์ ที่สำคัญแห่งหนึ่งของภาค เหนือที่ติดต่อไปยังจังหวัดน่าน พะเยา เชียงราย ลำปาง ลำพูน เชียงใหม่ จึงเรียกได้ว่าจังหวัดแพร่เป็น ประตูสู่ล้านนา จังหวัดแพร่เป็นจังหวัดที่มีภูเขาล้อมรอบทั้งสี่ทิศ มีภูเขาที่สูงที่สุดอยู่ที่ ดอยขุนสถาน (บางชื่อเรียกว่าดอยธง) สูง 1,630 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง โดยทั่วไปพื้นที่ราบจะมีความสูงจากระดับ น้ำทะเลปานกลางประมาณ 120-200 เมตร สำหรับตัวเมืองแพร่มีความสูง 161 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง แม่น้ำยมเป็นลำน้ำที่สำคัญที่สุดของจังหวัดแพร่ ต้นกำเนิดจากเทือกเขาผีปันน้ำ อำเภอปง จังหวัดพะเยา (ข้อมูล จาก วิกิพีเดีย) จังหวัดแพร่ฉันเคยไปครั้งแรก โดยไปที่ อำเภอเด่นชัย เพราะไปงานแต่งของพี่สาวของคนในอดีตเขาขอให้ ไปร่วมงานแต่งของพี่สาวของเขา เมื่อเดือน พ.ย. ปี 17 ค่ะ ไปครั้งนั้น ไม่ได้ไปเที่ยวไหนเลย ค่ะ เพราะพี่สาวเขาแต่งงาน ไปที่เชียงแสน ได้ไปเยี่ยมเพื่อนที่ไปสอนที่นั่นเท่านั้น ตอนเย็นก็นั่ง กินเลี้ยงงานแต่งของพี่สาว และคืนนั้นก็ตีรถ กลับเด่นชัย ที่แพร่ ซึ่งก็ประมาณ ตีสองตีสามแล้ว รุ่งขึ้น ฉันต้องกลับ รถ บขส.ตอนเที่ยง (แต่ปรากฏว่า รถแน่น คนในอดีต บอกอย่ากลับเลย กลับรถไฟที่สถานีเด่นชัย ไปสว่างตอนเช้าก็ทันไปทำงาน (วันจันทร์) ฉันจึงต้องกลับรถไฟตอนเย็น และก็อยู่บ้านเขา เขาพาไปเที่ยวหาซื้อของฝากในตัวเมือง เท่านั้น ไม่ ได้ไปเที่ยวไหนเลย ค่ะ
การไปจังหวัดแพร่ครั้งที่สอง ฉันตั้งใจไปเพื่อกราบเด พ่อของคนใน อดีต ที่ฉันเคยรับปากท่านว่า จะไปอยู่เด่นชัยกับท่าน ตามที่ท่านต้องการ แต่แล้ว เหตุการณ์ก็แปรเปลี่ยนไป เมื่อคนในอดีต ผิดคำมั่นสัญญาที่ได้ให้กับฉัน ฉันจึงไม่ได้ไปอยู่ ที่เด่นชัยกับเดตามที่รับปากไว้ เป็นจุดที่ค้างคาอยู่ในใจที่ฉันผิดสัญญา กับเดไว้ มันเหมือนฉันติดค้างเดไว้ เรื่องนี้มันคาความรู้สึก อยู่ในส่วนลึกของใจ เพราะฉันเป็นคนรักษาสัญญามาก ถึงครั้งนี้ที่ผิด คำพูด ผิดสัญญากับเด จะไม่ใช่ความผิดของฉันก็ตาม หลังเกษียณอายุราชการแล้ว ฉันเริ่มมีความรู้สึกรุนแรงมากขึ้นที่อยาก จะไปกราบไหว้ เด ตามที่เคยตั้งใจไว้นานมากแล้ว แต่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ทั้ง ๆ ที่พี่สาวของเขาก็ชวนให้ไปเที่ยวหลาย ต่อหลายครั้ง ฉันก็ไม่รู้จะทำความตั้งใจของฉัน ให้ประสบความสำเร็จอย่างไร แต่แล้ว เหมือน เด จะรับทราบถึงแรงแห่งความตั้งใของฉันที่จะไปกราบไหว้ท่าน จึงทำให้ อยู่ ๆ ลูกศิษย์ของฉันคนหนึ่งโทรศัพท์มาชวนฉันไปไหว้พระ ธาตุช่อแฮ ซึ่งเป็นพระธาตุอยู่ที่จังหวัดแพร่ โดยมีความเชื่อว่า คนที่เกิดปีเสือ ควรต้องไปกราบไหว้พระธาตุองค์นี้ สักครั้งหนึ่งเพื่อความเป็นสิริมงคลของชีวิต มันเป็นเรื่องแปลก มาก ๆ จริง ๆ ที่ฉันไม่คาดคิดว่า จะมีคนมาพาไปที่เด่นชัย การไปจังหวัดแพร่ครั้งนี้ ฉันได้รับการต้อนรับจากพี่โต พี่สาวคนโต ของคนในอดีตเป็นอย่างดีมาก หลังจากฉันบอก จุดประสงค์ว่าจะขอไปกราบเด ถือว่ามาเยี่ยมเดด้วย(ฉันซื้อองุ่นไร้เม็ด ที่มาจากออสเตรเลียมาไหว้เด ) พี่โตจัดการให้ฉันได้ไหว้เดตามจุดประสงค์ของฉัน จองที่พักให้พวกเราพักคืนนี้ ชื่อว่า เดอะนอร์ธเทิลวิล ให้เฮียคิ้ม ซึ่งเป็นหลงจู๊ของบริษัทเขา พาพวกเราไปเที่ยวตามสถานที่ สำคัญของจังหวัดแพร่ นี่คือเที่ยวทิพย์ทั่วไทย ตามหัวข้อของ ตะพาบ ครั้งนี้ ค่ะ ตามมาเที่ยวเลย ค่ะ
เฮียคิ้มเป็นมัคคุเทศก์ที่น่ารัก แห่งแรกที่พาไป คือ วัดพระธาตุสุโทนมงคลคีรี เป็นวัดที่สวยงามมาก มีครูบามนตรีเป็นเจ้าอาวาส ซึ่งได้พยายามพัฒนาวัดนี้ ให้มีความเจริญ งดงาม เรามาทราบประวัติ ของวัดพระธาตุสุโทนมงคงคีรี ค่ะ
วัดพระธาตุสุโทนมงคลคีรี หรือ วัดพระธาตุสุโทน เป็นวัดที่สร้างขึ้นใน ปี พ.ศ. 2520 บนที่ดิน 25 ไร่ ซึ่งได้รับการบริจาค จากชาวบ้าน วัดนี้มีความสวยงามในแบบสถาปัตยกรรมล้านนาแบบผสมผสาน และสิ่งก่อสร้างที่มีขนาดใหญ่ซึ่งได้รวบรวม สุดยอดงานศิลปะและจำลองงานศิลป์ชั้นยอดของล้านนาไว้มากมาย พิพิธภัณฑ์สุวรรณหอคำ สร้างด้วยไม้สักทอง จากบ้านเรือนเก่าทั้งหมด 14 หลัง เป็นรูปทรงล้านนา ภายในจัดแสดง โบราณวัตถุมีค่าของหัวเมืองฝ่ายเหนือไว้มากมาย เช่นพระพุทธรูปต่าง ๆ เครื่องเขิน เครื่องดนตรีล้านนา อาวุธโบราณ รูปภาพเจ้านายฝ่ายเหนือ และภาพเหตุการณ์ต่างๆ (ภายในห้ามถ่ายภาพ)ปัจจุบันวัดพระธาตุสุโทนมงคลคีรี มีครูบาน้อย หรือพระอธิการมนตรี ธมฺมเมธี (พระครูวิฑิตพิพัฒนาภรณ์) เป็นเจ้าอาวาส มาชมภาพ ค่ะ ขอบคุณ ข้อมูลจาก วิกิพีเดีย
ความงดงามของ วัดพระธาตุสุโทนมงคลคีรี
ความสวยงามอีกมุมหนึ่ง ค่ะ
ถ่ายภาพกับมุมงดงามของวัด ค่ะ
ถ่ายรูปกับพระพุทธรูปในโบสถ์ เพื่อเป็นสิริมงคล ค่ะ
ชวนเฮียคิ้ม มัคคุเทศก์ที่น่ารัก ถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึกด้วย ค่ะ
ดอกสาละ ค่ะ
พระพุทธรูปที่หน้าวัด ค่ะ
อีกมุมหนึ่งของความงดงามของวัดนี้ ค่ะ
พิพิธภัณฑ์สุวรรณหอคำ วัดพระธาตุสุโทนมงคลคีรี
จากวัดนี้แล้ว ก็ปาเข้าไปเที่ยงแล้ว เฮียคิ้มพาพวกเราเข้าที่พักก่อน ห้องพักเป็นบ้านชั้นเดียว มีสองเตียง มีตู้เย็น ห้องน้ำกว้างดี มีโทรทัศน์ให้ดูด้วย พี่โตจองให้พวกเรา 2 ห้อง หญิง นอนรวมกัน 3 คน ชา ผู้ชาย นอนคนเดียว มาชมบรรยากาศ
ลืมถ่ายภาพในห้องพัก ได้แต่ภาพบรรยากาศรอบ ๆ ที่พัก ค่ะ
หลังจากนำกระเป๋าเดินทางเข้าที่พักแล้ว เฮียคิ้มก็พาพวกเราไปทาน ข้าวซอยเจ้าอร่อยตามที่ลูกบอลบอก ร้านนี้อยู่ในสวน ที่ร่มรื่น บรรยากาศร่มเย็นดี เราเลือกที่นั่งนอกร้าน เพราะดูสว่างไม่ ทึบ ๆ เหมือนในร้าน พวกเราทานข้าวซอยคนละ 1ชาม หมัย อยากทานหมูสะเต๊ะ แต่ปรากฏว่า เนื้อหมูไม่นิ่มเลย เลยไม่ค่อย มีคนช่วยแกกิน ฉันกินราดหน้ากุ้งอีก 1 จาน แต่ไม่อร่อยเลย สู้ข้าวซอยไม่ได้ ฉันบอกเฮียคิ้มว่า พวกเราขอจ่ายค่า อาหารเอง แต่เฮียคิ้มไม่ยอมบอกว่า เจ้านายสั่งมาว่า ให้พาพวกเรามาเลี้ยง เฮ้อ !ฉันทำให้พี่โตเสียเงินอีกแล้ว เสียดาย ลืมถ่ายรูปอาหารมา ค่ะ
ทานอาหารมื้อเที่ยงเสร็จ เฮียคิ้มก็พาไปเที่ยวและนมัสการพระธาตุ ช่อแฮ ซึ่ง ชา มีเป้าหมายจะมานมัสการมากเป็นพิเศษ เพราะเขาเกิดปีเสือ ฉันก็พลอยมีโอกาสได้มานมัสการด้วย เราปักธูป เทียนเสร็จ ก็เดินเวียนรอบองค์พระธาตุและมีเอกสาร เป็นบทสวดให้เราถือเวียนและสวดมนต์ไปด้วย พวกเราต้องเวียน ทั้งหมด 3 รอบ เป็นอันเสร็จพิธี พวกเราถ่ายรูปกับ องค์พระธาตุกันคนละรูปสองรูป เดี่ยวบ้าง หมู่บ้าง มาชมรูป ค่ะ
องค์พระธาตุช่อแฮ พระธาตุปีเกิดของคนเกิดปีขาล ค่ะ
ถ่ายคู่กับเพื่อนของ หมัย ค่ะ
บัญชา ผู้ชวนมาไหว้พระธาตุช่อแฮ ผู้เกิดปีขาล
ขอถ่ายรูปเดี่ยวสักใบ ค่ะ อิอิ
หลังจากนั้น เฮียคิ้มก็พาพวกเราไปเที่ยว แพะเมืองผี ซึ่งเป็นสถานที่ ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของจังหวัดแพร่ ที่ฉันได้ยินจากเขามานานมากแล้วตั้งแต่ตอนที่เราคบกันอยู่ วันนี้มี โอกาสได้มาเที่ยว ก็เป็นเรื่องที่น่าแปลก ฉันได้รับการเชิญชวนเป็นสิบ ๆ ครั้ง ก็ไม่เคยได้มาเที่ยวที่นี่เลย วันนี้ จู่ ๆ ก็ได้มาเที่ยวอย่างไม่คาดฝัน ช่างเป็นเรื่องแปลก เสียจริง ที่นี่ อากาศร้อนมากเหมือนกัน สถานที่ที่เห็น เป็นแท่งหิน สูงบ้าง ต่ำบ้าง และมีรูปร่างแปลก ๆ แล้วแต่ผู้ชมจะจินตนาการไปเป็นรูปต่าง ๆ เขาว่ากันว่า ป่าหินเหล่านี้ เกิดจากการยุบตัวของเปลือกโลกเป็นล้าน ๆ ปี มีคำอธิบายว่า แพะ ในที่นี่ แปลว่า ป่าละเมาะ เมืองผี หมายถึง ป่า ละเมาะแห่งนี้วังเวง โหยหวนเหมือนเสียงร้อง ของผีสางอะไรประมาณนั้น จึงได้ชื่อว่า แพะเมืองผี แต่ฉันเห็นแล้ว ไม่เห็นจะน่ากลัวเหมืองชื่อที่แปลออกมาเลย มาชมรูปเที่ยวทิพย์ค่ะ อิอิ
ถ่ายกับป้ายชื่อ จะได้จำได้ว่า มาที่ไหน
หนุ่มน้อย วันนี้สบายไม่ต้องขับรถ เพราะใช้รถของน้องบอล
ป้ายอธิบาย ค่ะ
ช่วงบ่ายนี่ อากาศร้อนมาก จริง ๆ ค่ะ
มุมสวยอีกมุมหนึ่งของ แพะเมืองผี ค่ะ
ส่งท้ายอีกภาพของ แพะเมืองผี
ออกจากแพะเมืองผี เฮียคิ้มพาพวกเราไปอีกวัดหนึ่งที่เป็นวัดที่มี ศิลปะพม่า ชื่อวัด จอมสวรรค์ เป็นวัดที่สวยงามมาก อีกแห่งหนึ่ง ฉันได้ค้นหาประวัติจาก วิกิพีเดีย มาให้เป็นความรู้ ค่ะ
วัดจอมสวรรค์นั้น ศิลปะการก่อสร้างทั้งภายนอกและภายในยังคงลักษณะความเป็นวัดพม่าไว้อย่างชัดเจน ภายในพระอุโบสถปรากฏงานฝีมือการฉลุไม้และประดับกระจกซึ่งเป็น จุดเด่นที่สุดของศิลปะพม่า นอกจากการฉลุไม้และประดับกระจกอันงดงามแล้ว ที่วัดจอมสวรรค์ยังเป็นที่เก็บรักษาคัมภีร์โบราณที่ทำจากงาช้าง โดยนำงาช้างมาบดละเอียดแล้วแผ่ออกเป็นแผ่น เป็นศิลปะวัตถุสำคัญ คู่บ้านคู่เมืองแพร่
ความสำคัญของวัดจอมสวรรค์ซึ่งได้รับการบอกเล่ามาจากพ่อลุง ส่างละ หลานของพ่อเฒ่ากันตีว่า วัดนี้เป็นวัดโบราณ สร้างมาตั้งแต่เมื่อใดและใครเป็นผู้สร้างไม่ปรากฏหลักฐาน แต่ สันนิษฐานว่า ชาวไทใหญ่ (เงี้ยว) เป็นผู้สร้างเพราะสังเกตได้จากรูปแบบของสถาปัตยกรรมเป็นศิลปะ แบบพุกาม ซึ่งพบเห็นได้ในจังหวัดต่างๆ ของภาคเหนือ เช่น แม่ฮ่องสอน ลำปาง เชียงใหม่ อายุของวัดนี้น่าจะมีอายุไม่ตํ่ากว่า 150 ปี วัดจอมสวรรค์ เป็นโบราณสถานสำคัญของเมืองแพร่ วัดนี้พิเศษตรงที่ว่าวัดทั้งวัดมีเพียงอุโบสถไม้หลังเดียว ซึ่งเป็นทั้ง อุโบสถวิหารและกุฏิไปในตัว จุดเด่นของอุโบสถ อยู่ที่ลวดลายการฉลุไม้และการประดับกระจกสีบริเวณเพดาน ภายใน อุโบสถประดิษฐานพระประธานปางคันธราฐศิลปะพม่า นอกจากนั้นยังมีพระพุทธรูปที่ทำจากไม้ไผ่สานทั้งองค์ลงรักปิดทอง ศิลปะแบบพม่า พระพุทธรูปองค์นี้ถือว่า เป็นพระพุทธรูปที่สำคัญองค์หนึ่งที่ชาวแพร่ให้ความเคารพศรัทธาเป็นจำนวนมาก มาชมความงามของวัดนี้ ค่ะ
วัดจอมสวรรค์ ค่ะ
อากาศร้อนมาก เราเลยไม่ได้เดินเที่ยวถ่ายรูปมากนัก ค่ะ
หลังจากเที่ยววัดนี้แล้ว เฮียคิ้มก็พาพวกเรากลับที่พัก ซึ่งเป็นเวลา ห้าโมงเย็นแล้ว เฮียคิ้มบอกว่า พี่โตสั่งมาบอกว่า ประมาณ หกโมงเย็นจะมารับพวกเราไปทานข้าวมื้อเย็นกัน แล้วเฮียคิ้ม ก็ลา กลับไป พวกเราขอบคุณเฮียคิ้มที่พาพวกเรา เที่ยวทั้งวัน หลังจากนั้น ก็นอนพักผ่อนอยู่ในห้อง ล้างหน้าล้างตา เพื่อรอพี่โตมารับ พักใหญ่ ๆ พี่โตก็โทรเข้ามือถือฉัน บอกให้อาบน้ำแต่งตัวรอนะ ประมาณ หกโมงเย็นจะมารับพวกเราไป ทานข้าวกัน ฉันได้แต่รับทราบและขอบคุณพี่โตมาก ๆ ประมาณ 18.10 น. ได้ พี่ใหญ่ขับรถเบนซ์คันงามมาจอดหน้าห้องพัก พวกเรา มีคุณประไพมาด้วย ส่วนพี่โตนั่งอยู่ด้านหลัง พี่โตให้ฉันนั่งกับพี่เขาที่หลังรถ ส่วนเพื่อน ๆ ของฉันให้นั่งรถ ชา ขับ รถตามไป ระหว่างทาง ฉันกับพี่โตมีโอกาส ได้คุยกันมากขึ้น ฉันหายเกร็งและคุยกับพี่เขาได้สบายใจมากขึ้น พี่โต ถามว่า วันนี้ได้ไปเที่ยวที่ไหนมาบ้าง ฉันก็บรรยาย ให้พี่เขาฟังว่าไปที่ไหนมาบ้าง พี่เขาก็ยิ้ม ๆ รับทราบ พี่ใหญ่พามาทานอาหารที่ร้านฉัตรชัย ฉันคิดว่า คงเป็นร้านที่ พวกพี่ ๆ เขาพาแขกมาเลี้ยงอาหารที่นี่บ่อย ๆ เพราะฉันเห็นเจ้าของ ร้านเข้ามาต้อนรับ เรียกเสี่ยโกลี้ อย่างสนิทสนม พี่ใหญ่เป็นคนสั่งอาหาร มีออส่วน ปลานึ่งมะนาว ทอดมันปลากราย ผัดผักรวมมิตร ยำหมูด้วยมั้ง ฉันก็จำไม่ค่อยได้ ฉันก็ทานได้ไม่มากนัก ท้องมันตื้อ ๆ ไงบอกไม่ถูก แต่ฉันเห็นสมัย และเพื่อนของเขาทานได้อย่างอร่อย ฉันตักกับข้าว ให้พี่โตบ้าง แต่พี่เขาบอกไม่ต้องหรอก พี่เขาตักเองถึง ฉันเลยเลิก บริการให้ตามนิสัยของฉัน ส่วนคุณประไพ เขาก็น่ารักนะ บางครั้งก็ตักกับข้าวให้ฉันบ้าง ให้พี่โตบ้าง ฉันก็ได้แต่ ขอบคุณเขา วาสนาเขาคงดีกว่าฉัน ที่มีดวงสมพงษ์ กับพี่ใหญ่ ผิดกับฉันที่ ดวงไม่สมพงษ์ กับเขา อิอิ ฉันไม่กล้าถ่ายรูปอาหารมาให้ชม กล้วพวกพี่ ๆ เขาไม่ชอบ ห้าห้า
ก่อนจากกันหลังอาหารมื้อเย็น ฉันจูงพี่โตออกจากร้านอาหารไปขึ้นรถ พี่โตสั่งว่า พรุ่งนี้ก่อนกลับกรุงเทพฯ ให้ไปบ้านที่เด่นชัยก่อน ฉันรับปาก แล้วเราก็ต่างคนต่างขับรถกลับไป ยังที่พักของตนเอง พวกเรากลับมาถึงที่พัก ยังไม่ถึงสองทุ่มดี อาบน้ำอาบท่ากันแล้ว ก็ดูละครโทรทัศน์จนจบ จึงได้นอนหลับกันไป
เช้าวันที่ 25 เมษายน ฉันตื่นตั้งแต่ หกโมงเช้าเพื่อเข้าห้องน้ำกำจัดสิ่ง ที่ไม่ต้องกันออกจากร่างกายตามที่ฉันต้องทำทุกวัน เพื่อให้สบายท้องไส้ สมัยตื่นเป็นคนสุดท้าย พวกเราออกจากที่พัก ประมาณ 7.10 น. ช้ากว่าที่ตกลงกันไว้ 10 นาที ชา ขับรถออกจากที่พักเพื่อไปที่เด่นชัยบ้านพี่โต ไปถึง ก็พบพี่ใหญ่ ลูกบอล คุณประไพ พวกเรากราบลาพี่ ๆ ทุกคน แต่พี่โตสั่งลูกบอลให้ขับรถโฟลวิลคันที่เมื่อวานพาเราไปเที่ยวนั่น แหละ ให้ไปยังร้านขายไส้อั่ว ฉันบอกไม่ต้อง มีของฝากฉันหรอก แค่นี้ ก็รบกวนพี่โตมากแล้ว แต่พี่โตดุว่า ไม่ให้ พูดว่ารบกวน เพราะแสดงว่า ไม่ได้รักกันจริง พี่โตให้ฉันนั่งรถไปพร้อมกับพี่เขา ส่วนเพื่อน ๆ ฉันให้ขับรถตามไป พี่โตได้พาฉันไปดูโกดังเก็บข้าวโพด มันสัมปะหลัง ซึ่งฉันจำได้ว่า ครั้งหนึ่งเขาเคยบอกฉันว่า เขาอาจจะตอบจดหมายฉัน ช้า เพราะเขาต้องไปคุมการก่อสร้างโกดัง ก็คงจะเป็นโกดังนี้ แต่ปัจจุบัน ตระกูลเขาขยายการค้า ขยายโกดัง กว้างขวางออกไปใหญ่โตมาก ตามที่พี่โตคุยให้ฟัง จากการไปชมโกดังแล้ว ลูกบอลก็พาไปร้านขาย ไส้อั่ว ลูกบอลลง ไปสั่งของ ส่วนพวกเรารออยู่ที่รถ เป็นช่วงเวลาที่พี่โตได้เล่าเรื่องน้อง ๆ ของพี่เขาให้ฉันฟัง พี่เล่าถึงน้อง ชาย (คนในอดีตของฉัน) ตอนนี้เขามีลูกสาวสี่คน คนโตจบปริญญาโท ทำงานอยู่ที่กรุงเทพฯ คนที่สองเป็นอาจารย์ สอนหนังสืออยู่ที่แม่ฟ้าหลวงและกำลังทำ ปริญญาเอกอยู่ คนที่สามเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยนเรศวร วิทยาเขต จังหวัดพะเยา คนที่สี่ เรียนอยู่ที่โรงเรียนสามัคคี จังหวัดเชียงราย โรงเรียนที่ฉันเคยไปดูงานในสมัยของผอ.กัลยาณีย์ เป็นโรงเรียนประจำจังหวัด ของจังหวัดเชียงราย พี่โตยังเล่าต่อไปว่า เขายังเป็นผู้พิพากษาภาคสมทบอีกด้วย ฉันรับ ทราบเรื่องราวชีวิตของเขาด้วยความรู้สึกยินดี และเป็นสุขกับเขาด้วย ที่ชีวิตของเขาประสบความสำเร็จอย่างงดงาม มีครอบครัวที่อบอุ่น มีลูก มีภรรยา ที่ประสบความสำเร็จทุกอย่าง แต่สิ่งที่ฉันลืมไม่ได้เลยชั่วชีวิต ก็คือ ความโหดร้ายที่เขาทำกับฉันและมิตรภาพที่สิ้นเยื่อใย อย่างไม่คาดคิดว่า คนอย่างเขาจะสามารถทำได้ลงคอ
คณะของฉันแยกกับพี่โตตรงร้านขายไส้อั่ว ฉันขอบพระคุณพี่โตอีกครั้งและขอบใจลูกบอลที่บริการพวกเราเป็นอย่างดี พี่โตเป็นคนใจกว้าง นอกจากซื้อไส้อั่วและแคปหมู ให้ฉันแล้ว พี่โตก็ ซื้ออีก 3 ชุดให้ ลูกศิษย์และเพื่อนฉันเท่าเทียมกันอีกด้วย ค่ะ
การจากเด่นชัยไปครั้งนี้ ฉันรู้สึกโล่งอก สบายใจ เหมือนฉันได้ยก ภูเขาออกจากอก ฉันได้ทำตามสัญญาที่ได้ให้ไว้กับ เด สำเร็จแล้ว สมดังความตั้งใจจริงของฉัน ถึงจะเป็นเวลานานเหลือเกิน แต่ถ้าคนเรามีความตั้งใจจริงอย่างแรงกล้า มันจะต้องประสบความสำเร็จดังที่เราตั้งใจไว้อย่างแน่นอน ดังเรื่องราว ที่ฉันได้เล่าให้ท่านผู้อ่านได้อ่านมาแล้ว ท่านผู้อ่านเชื่อฉันเถิด มนุษย์เราถ้าตั้งใจจริงในการกระทำการสิ่งใด และเป็นการกระทำที่ถูกต้อง ตามทำนองคลองธรรม และอย่าลืมต้องบวกกับความมานะอดทนด้วย ความตั้งใจของเราที่ จะทำในสิ่งนั้น ๆ ต้องเกิดความสำเร็จได้อย่างแน่นอน เหมือนดังเรื่องราวของฉันที่ฉันได้ประสบความสำเร็จมาแล้วไงคะ
คณะของเราเดินทางต่อไปเข้าพิษณุโลก แวะไหว้พระพุทธชินราช เรา แวะที่พิษณุโลกและเข้าไปกราบพระพุทธชินราช ค่ะ
ออกจาก พิษณุโลกแล้วตีรถเข้าจังหวัดพิจิตร ไปไหว้หลวงพ่อเพชร และหลวงพ่อเงิน นมัสการหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน จ.พิจิตร มาทราบประวัติของวัดสักหน่อยค่ะ ฉันหามาจาก วิกิพีเดีย
วัดหิรัญญาราม หรือวัดบางคลาน เดิมชื่อ วัดวังตะโค ตั้งอยู่ตำบลบาง คลาน อำเภอโพทะเล จังหวัดพิจิตร วัดนี้เคยเป็นที่ จำพรรษา ของหลวงพ่อเงิน พระเกจิอาจารย์ชื่อดังผู้เลื่องชื่อ ด้าน ไสยเวทเยี่ยมยอดที่สุดของเมืองพิจิตร จนเมื่อมาอยู่วัดวังตะโดและ ได้พัฒนาวัดจนรุ่งเรือง เป็นที่รู้จักกันไปทั่ว ว่า หลวงพ่อเงินสามารถรู้ผู้มาเยือนด้วยญาณวิเศษ ได้อย่างมหัศจรรย์ และยังเป็นหมอ เชี่ยวชาญในการรักษาโรคภัยไข้ เจ็บให้แก่ชาวบ้านได้อย่างชะงัดอีกด้วย เคยมีผู้ไปลองดีกับท่าน ท่านก็แอ่นอกให้ยิง แต่กระสุน ไม่ยอมออก จากลำกล้อง ความศักดิ์สิทธิ์เยี่ยงอัจฉริยะของ "หลวงพ่อเงิน" บางคลาน นับว่าร่ำลือกันไปไกลมาก จนถึงขนาดเสด็จ ในกรม "กรมหลวงชุมพร เขตอุดมศักดิ์" ก็ยังเสด็จไปฝากตัวเป็นศิษย์ สถานที่แห่งนี้ นอกจากนี้ภายในวัดยังมี โบราณวัตถุต่างๆ ที่ทางวัดได้ สะสมไว้นานแล้ว โดยส่วนใหญ่จะเป็นวัตถุที่มีผู้นำมาถวาย เช่น พระพุทธรูป พระพิมพ์ เครื่องปั้นดินเผา ฯลฯ สิ่งก่อสร้างที่น่าสนใจ ของวัดนี้คือ พิพิธภัณฑ์นครไชยบวร ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์รูปมณฑป 2 ชั้น ชั้นบนประดิษฐานรูปหล่อเท่าองค์จริงของหลวงพ่อเงิน นับเป็นพิพิธภัณฑ์แห่งแรกและแห่งเดียวของจังหวัดพิจิตร มีศูนย์บูชา พระเครื่องหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน ซึ่งเด่นทางด้านอยู่ยง คงกระพัน แคล้วคลาด และโชคลาภ เป็นวัตถุ มงคลที่ได้รับความนิยมสูงสุด ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
สามสาว ถ่ายรูปกับรูปของหลวงพ่อเงิน เมืองพิจิตร ค่ะ
ไหว้พระแล้ว จึงตีรถเข้านครสวรรค์แวะทานข้าวมื้อเย็นที่ตลาดโต้รุ่ง ริมน้ำ เดินชมตลาดโต้รุ่งหลังอิ่มข้าวสักพัก ก็ตีรถกลับกรุงเทพฯ ถึงบ้านฉันประมาณ ห้าทุ่มครึ่ง ฉันกลับมาถึง บ้านด้วยความสุข ความสบายใจ ที่ได้กระทำในสิ่งที่ได้ตั้งใจไว้ครบถ้วนบริบูรณ์ อิ่มใจที่ได้ทำสิ่งที่ตัว เองตั้งใจไว้ได้สำเร็จลุล่วงไปแล้ว อิ่มบุญที่ได้ไปไหว้ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เคารพนับถือ ท่านผู้อ่านที่อ่านเรื่องราวที่ฉันเขียนนี้ ท่านต้องการทำอะไรสักอย่าง ท่านลองอธิษฐาน และตั้งปณิธานอย่างแน่วแน่อย่างฉันดูซิคะ ฉันคิดว่า ท่านก็จะประสบ ความสำเร็จเหมือนอย่างที่ฉันได้บรรลุความตั้งใจ อย่างแน่นอนค่ะ ฉันขอให้ท่านผู้อ่านจงประสบความสำเร็จในสิ่งที่ท่าน ได้ตั้งใจเอาไว้ทุกประการ ค่ะ จบการพาเที่ยวทิพย์ทั่วไทย ค่ะ สวัสดี ค่ะ
Create Date : 22 สิงหาคม 2564 |
Last Update : 23 สิงหาคม 2564 15:34:42 น. |
|
26 comments
|
Counter : 1550 Pageviews. |
|
|
|
ผู้โหวตบล็อกนี้... |
คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณไวน์กับสายน้ำ, คุณtuk-tuk@korat, คุณnewyorknurse, คุณกะว่าก๋า, คุณทนายอ้วน, คุณเริงฤดีนะ, คุณtoor36, คุณKavanich96, คุณเจ้าหญิงไอดิน, คุณชีริว, คุณสองแผ่นดิน, คุณSertPhoto, คุณหอมกร, คุณโอน่าจอมซ่าส์, คุณร่มไม้เย็น, คุณอุ้มสี, คุณkae+aoe, คุณSweet_pills, คุณนายแว่นขยันเที่ยว, คุณดาวริมทะเล |
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 23 สิงหาคม 2564 เวลา:15:36:05 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 23 สิงหาคม 2564 เวลา:20:51:48 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 24 สิงหาคม 2564 เวลา:6:50:03 น. |
|
|
|
โดย: ทนายอ้วน วันที่: 24 สิงหาคม 2564 เวลา:10:36:28 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 24 สิงหาคม 2564 เวลา:11:26:40 น. |
|
|
|
โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 24 สิงหาคม 2564 เวลา:11:34:45 น. |
|
|
|
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 24 สิงหาคม 2564 เวลา:13:54:13 น. |
|
|
|
โดย: Kavanich96 วันที่: 24 สิงหาคม 2564 เวลา:14:04:50 น. |
|
|
|
โดย: ชีริว วันที่: 24 สิงหาคม 2564 เวลา:22:07:54 น. |
|
|
|
โดย: สองแผ่นดิน วันที่: 24 สิงหาคม 2564 เวลา:22:21:42 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 25 สิงหาคม 2564 เวลา:6:44:19 น. |
|
|
|
โดย: หอมกร วันที่: 25 สิงหาคม 2564 เวลา:8:55:59 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 25 สิงหาคม 2564 เวลา:20:20:06 น. |
|
|
|
โดย: อุ้มสี วันที่: 26 สิงหาคม 2564 เวลา:1:34:57 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 26 สิงหาคม 2564 เวลา:6:58:38 น. |
|
|
|
โดย: Sweet_pills วันที่: 26 สิงหาคม 2564 เวลา:10:27:38 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 26 สิงหาคม 2564 เวลา:12:53:42 น. |
|
|
|
โดย: Sweet_pills วันที่: 29 สิงหาคม 2564 เวลา:0:27:59 น. |
|
|
|
โดย: Sweet_pills วันที่: 29 สิงหาคม 2564 เวลา:0:30:15 น. |
|
|
|
โดย: ดาวริมทะเล วันที่: 29 สิงหาคม 2564 เวลา:17:02:00 น. |
|
|
|
|
|
|
|
|
BlogGang Popular Award#20
|
|
|
|
ฝากข้อความหลังไมค์ |
|
Rss Feed |
| Smember | | ผู้ติดตามบล็อก : 46 คน [?]
|
เป็นครูสอนภาษาไทยที่เกษียณอายุราชการแล้ว สนใจเรื่องการเขียนหนังสือให้ความรู้ ชอบการท่องเที่ยว หากท่านที่เข้ามาชมและอ่านแล้ว มีความสนใจและต้องการสอบถามเรื่องความรู้ด้านภาษาไทย ถ้ามีความสามารถจะให้ความรู้ได้ ก็ยินดีค่ะ
http://i697.photobucket.com/albums/vv337/dd6728/color_line17.gif |
|
|
|
แต่ไม่ได้เที่ยวละเอียดเหมือนอาจารย์เลยครับ
ตอนนั้นยังเป็นวัยรุ่น
เที่ยวแบบนอนบ้านเพื่อน
ซ้อนมอเตอร์ไซด์เดินทาง
ที่จำได้ดีน่าจะเป็นแพะเมืองผีนี่ล่ะครับ
ส่วนวัดก็จำได้เลา ๆ ว่ามีหลายวัดที่สวยงาม
ถ้ามีโอกาสก็อยากกลับไปเที่ยวแพร่อีกครั้งครับ