เรื่องไม่เป็นเรื่อง
"เรื่องไม่เป็นเรื่อง" เป็นโจทย์ถนนสายนี้มีตะพาบ หลักกิโลเมตรที่ 312 ผู้ตั้งโจทย คือ คุณ จันทราน็อคเทิร์น
คำอธิบายโจทย์ ทำไมเรื่องไม่เป็นเรื่องถึงได้เป็นเรื่องอยู่เสมอ มาแบ่งปันประสบการณ์ เรื่องไม่เป็นเรื่องกับเพื่อนๆ กันครับ "เรื่องไม่เป็นเรื่อง" หัวข้อนี้ น่าจะตีความหมายได้ว่า เรื่องที่เกิดขึ้นนั้น เป็นเรื่องไม่สำคัญ เป็นเรื่องเล็กน้อย แล้วคนทำให้ กลายเป็นเรื่องใหญ่จนเป็นเรื่องเป็นราวใหญ่โต ซึ่งในชีวิตประจำวัน ก็พบได้ บ่อย ๆ จนทำให้สัมพันธภาพที่เคยดีต่อกัน เป็นอันต้องจบลงอย่างน่าเสียดาย ถามว่า "ทำไมเรื่องไม่เป็นเรื่องถึงได้เป็นเรื่องอยู่เสมอ" ฉันคิดว่า ก็ เพราะมีคนประเภท ที่มีทิฐิและอัตตาสูง สองเรื่องนี้ ทำให้คิดว่า จะยอมไม่ได้ ถึงแม้เรื่องที่เกิดขึ้น จะเป็นเรื่องเล็ก ๆ ก็ไม่ยอม ทำให้เรื่องเล็ก ๆ นั้น กลายเป็นเรื่องใหญ่ ของชีวิตไป คนประเภทนั้น มักจะถือว่า ตนได้ชัยชนะ รู้สึกชอบใจ สะใจ คนประเภทนี้ ปัจจุบันมีอยู่ในสังคมมาก เราจะเห็น ได้จากข่าวต่าง ๆ ที่ปรากฏในหนังสือพิมพ์ ในโทรทัศน์ บ่อย ๆ เช่น ขับรถบนท้องถนน อาจจะเกิดการแซงกัน บ้าง ก็เกิดความไม่พอใจ เสียหน้า ต้องเอาคืน โดยการขับรถเร่งความเร็วแซงรถคันนั้นบ้าง ปาดหน้ารถค้นนั้น ลงมา ชี้หน้า ทะเลาะกัน ซึ่งถ้าหากมีอาวุธและด้วยอารมณ์โกรธ ก็อาจจะเกิดการยิงกัน ตีกัน ต่อยกันก็ได้ กลายเป็นเรื่องใหญ่โต คอขาดบาดตาย ซึ่งที่จริงมันก็เป็นเรื่องที่ไม่ได้ใหญ่โต หรือเสียศักดิ์ศรีอะไร ถ้าเขาคิดไปในทางบวก ว่า ที่เขาแซงเราไป อาจเป็นเพราะว่า เราขับช้าเกินไปหรือ เขามีเหตุจำเป็น ต้องรีบไปก็ได้ ถ้าเราคิดบวกเช่นนี้ เราก็จะอภัยเขาได้ เรื่องเล็ก ๆ ก็ อาจจะไม่กลายเป็นเรื่องใหญ่ จริงไหมล่ะคะ
ฉันเคยอ่านบทความของคน ๆ หนึ่งในไล์เพื่อนที่ส่งมาให้อ่าน ฉันชอบ ความคิดของเขามาก น่าจะเข้ากับ ตะพาบ หัวข้อ เรื่อง "เรื่องไม่เป็นเรื่อง" ได้เป็นอย่างดี เรื่องมีอยู่ว่าเจ้าของบทความ ได้พาครอบครัวไปกินข้าวในวันหยุด เรียกว่า "วันครอบครัว" ขณะที่กำลังจะถอยรถเข้าช่องจอดรถ ซึ่งขณะนั้น ก็มี รถอีกคันหนึ่งซึ่งมาทีหลังเขา เตรียมที่จะถอยไป จอดที่ว่างนี้เหมือนกัน แต่รถของเขาก็ถอยเข้าช่องจอดไปหน่อยหนึ่ง แล้ว รถคันที่มาทีหลัง เปิดกระจกออกมาด้วยสีหน้า เกรี้ยวกราด โกรธ หน้าถมึนทึงใส่เขา เขาก็เลยถอยรถออกจากช่อง จอด ทั้ง ๆ ที่ถอยเข้าไปแล้วเกือบครึ่งคัน แล้วไปหาที่ว่างจอดรถใหม่ โดยไม่อยากมีเรื่องกับรถคันที่แสดงอาการ เช่นนั้น เขาบอกว่า ไม่ใช่กลัวหรือแพ้รถคันที่มาทีหลังนะ แต่เขาเห็นว่า "มันเป็นเรื่องเล็กน้อย" ไม่ได้ที่จอดรถตรงนี้ ก็สามารถ ไปหาที่ใหม่ได้ ไม่ได้เสียเวลาอะไรมากนัก (คิดบวก) เขาใช้คำพูดว่า เขาได้บทเรียนจากคนที่เกเรคนนี้เหมือนกัน คือ "วิชาถอยเพื่อไม่ทุกข์" ฉันชอบประโยคนี้ของเขามาก ฉันเลยจดนำมาเผยแพร่ให้เพื่อน ๆ ในบล็อกอ่าน ความหมายของข้อความ นี้ ก็คือ เจอคนอันธพาล เกเร ควรถอยห่าง อย่าไปโกรธเกรี้ยวตอบ เพราะถ้าโต้ตอบไป ใจก็เป็นทุกข์เช่นเดียว กับเขา เมื่ออารมณ์ไม่ดี กินข้าวก็ไม่อร่อย เพราะอารมณ์ยังขุ่นมัวอยู่ นั่นเอง ฉันตีความเป็นเช่นนี้ ค่ะ
บางครั้ง อย่างกรณีนี้ เขาเห็นที่จอดรถว่างอยู่ กำลังรอรถที่จอดอยู่ กำลังจะออกจากช่องจอดรถ เขาจอดรอ แต่อีกฝ่าย เพิ่งมาเห็นและรอเหมือนกัน โดยมารยาทแล้ว ทำไม่ถูกต้องแน่นอน ถ้าเจ้าของบทความจะถือว่า ตัวเองถูกต้อง เพราะ มาจอดรถรอรถคันที่กำลังจะออก โดยไม่ยอมให้รถคันหลังเข้าจอด เรื่องที่ว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย ก็คงกลายเป็น เรื่องใหญ่แน่นอน เพราะสังเกตจากสีหน้าของเจ้าของรถคันหลัง เป็น คนเกเร คนพาลแน่นอนค่ะ การที่เจ้าของบทความเขายอมถอยให้ทั้ง ๆ ที่เขาเป็นฝ่ายถูก แสดง ว่า เจ้าของบทความ ต้องเป็นผู้ที่ผ่านการฝึกจิตให้ มีความเมตตาและความใจกว้างมาเป็นอย่างดี ค่ะ และเข้าใจการให้อภัยเป็นสุขแก่จิตใจ เราเสมอ สรุปได้ว่า "การเอาชนะ อาจจะนำความทุกข์มาสู่เราได้" ค่ะ ดังนั้น เราต้องพยายามทำเรื่องไม่เป็นเรื่อง ให้ไม่มีเรื่องเลย และทำเรื่องใหญ่ให้กลายเป็นเรื่องเล็ก ๆ เสีย ปัญหา ต่าง ๆ ในสังคมก็ จะลดน้อยลงไป นะคะ
ฉันขอฝากข้อคิดดี ๆ ที่หาจากใน อินเทอร์เน็ตมาฝากเพื่อน ด้วย นะคะ เพื่อเป็นข้อคิดนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้เป็นอย่างดี ค่ะ
สติ ของเรา เป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้ทุก ๆ เรื่องที่ผ่านเข้ามาในชีวิต ให้ก้าวพ้นสิ่งเลวร้ายให้หมดไป ค่ะ
ข้อคิดในภาพนี้ เตือนสติเราได้เป็นอย่างดี ค่ะ
ถูกต้องที่สุด ค่ะ ถ้าเรารู้จักคำว่า "พอ" เรื่องที่ใหญ่ก็จะกลายเป็นเล็ก ค่ะ
เป็นคำสอนของพระพุทธองค์ที่เป็นสัจธรม จริง ๆ ค่ะ
ตะพาบ เรื่อง "เรื่องไม่เป็นเรื่อง" ของฉันครั้งนี้ ก็ขอจบเพียงแค่นี้ ค่ะ หวังว่า เพื่อน ๆ อ่านแล้ว คงได้ประโยชน์นำ ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้บ้างพอสมควร ค่ะ สวัสดี ค่ะ
ขอบคุณภาพทุกภาพ จากอินเทอร์เน็ต ค่ะ
Create Date : 09 ตุลาคม 2565 |
Last Update : 10 ตุลาคม 2565 9:07:33 น. |
|
22 comments
|
Counter : 891 Pageviews. |
|
|
|
ผู้โหวตบล็อกนี้... |
คุณหอมกร, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณThe Kop Civil, คุณทนายอ้วน, คุณจันทราน็อคเทิร์น, คุณเริงฤดีนะ, คุณไวน์กับสายน้ำ, คุณนายแว่นขยันเที่ยว, คุณสองแผ่นดิน, คุณSweet_pills, คุณnewyorknurse, คุณกะว่าก๋า, คุณkae+aoe, คุณhaiku, คุณ**mp5**, คุณคนผ่านทางมาเจอ, คุณร่มไม้เย็น, คุณtoor36, คุณtanjira, คุณอุ้มสี |
โดย: หอมกร วันที่: 10 ตุลาคม 2565 เวลา:9:37:10 น. |
|
|
|
โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 10 ตุลาคม 2565 เวลา:13:44:02 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 10 ตุลาคม 2565 เวลา:15:54:52 น. |
|
|
|
โดย: Sweet_pills วันที่: 11 ตุลาคม 2565 เวลา:0:18:26 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 11 ตุลาคม 2565 เวลา:5:53:01 น. |
|
|
|
โดย: kae+aoe วันที่: 11 ตุลาคม 2565 เวลา:8:14:17 น. |
|
|
|
โดย: **mp5** วันที่: 11 ตุลาคม 2565 เวลา:9:00:00 น. |
|
|
|
โดย: ทนายอ้วน วันที่: 11 ตุลาคม 2565 เวลา:18:13:50 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 11 ตุลาคม 2565 เวลา:19:29:27 น. |
|
|
|
โดย: Sweet_pills วันที่: 12 ตุลาคม 2565 เวลา:0:56:17 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 12 ตุลาคม 2565 เวลา:6:06:08 น. |
|
|
|
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 12 ตุลาคม 2565 เวลา:15:59:03 น. |
|
|
|
โดย: tanjira วันที่: 12 ตุลาคม 2565 เวลา:19:25:44 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 12 ตุลาคม 2565 เวลา:22:17:16 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 13 ตุลาคม 2565 เวลา:6:43:15 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 13 ตุลาคม 2565 เวลา:13:50:29 น. |
|
|
|
โดย: อุ้มสี วันที่: 14 ตุลาคม 2565 เวลา:6:44:48 น. |
|
|
|
|
|
|
|
ไม่ได้หรอก ไม่คบคนพาลแต่ก็ไม่ยอมคนพาลจ้า