คืนกำไรให้ชีวิต เพื่อพิชิตไปในโลกกว้าง
space
space
space
<<
มกราคม 2567
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
space
space
23 มกราคม 2567
space
space
space

ไม่เคยพอ
   ไม่เคยพอ 
 "ไม่เคยพอ" เป็นโจทย์ถนนสายนี้มีตะพาบ หลักกิโลเมตรที่ 344
ผู้ตั้งโจทย์  คือ คุณ จันทราน็อคเทิร์น

                     คำอธิบายโจทย์ (แนวทางการเขียน)
  มีอะไรที่พอไม่ได้ซักที ต้องมีต่อตลอด หรือรู้สึกไม่เคยพอกับมันบ้าง
มาลองเล่าให้เพื่อนๆ ฟังกันหน่อย

       อ่านคำอธิบายโจทย์  สองวรรคแรก  คือ "มีอะไรที่พอไม่ได้ซักที 
ต้องมีต่อตลอด"  อ่านแล้ว ตีความไม่ถูก นะ
เพราะ ในเมื่อไม่ได้ซักที  แล้วต่อด้วยประโยค  "ต้องมีต่อตลอด"
  อ่านแล้ว สองวรรคนี้ ความหมายไม่ไปด้วยกันเลย ค่ะ
ประโยคแรก น่าจะตีความว่า  เคยได้สิ่งใดสิ่งหนึ่งเป็นประจำ  แต่รอไปแล้ว ไม่ได้
นานเข้า อยากให้ได้ต่ออีกตลอดไป
ถ้าตีความเช่นนี้  ก็จะเข้ากับวรรคต่อไปที่ว่า  "รู้สึกไม่เคยพอกับมัน (มัน
ในที่นี้ คือ สิ่งที่เคยได้) เอาเป็นว่า  ฉันจะเขียน
ในความหมายเช่นนี้ ค่ะ





 ตามธรรมชาติของมนุษย์เรา  สิ่งที่เราเคยได้อยู่เป็นประจำ  แล้วจู่ ๆ สิ่งที่เขา
เคยให้เราเป็นประจำ เราก็รอว่า เขาต้องมาให้เราอีก
แต่รอไป ๆ ไม่ให้เอามาให้เราอีกเราก็เริ่มหงุดหงิก  ทำไมไม่มีมาให้เราอีก
เหมือนที่เคยให้ตลอด  เข้ากับหัวข้อว่า "ไม่เคยพอ"
ความคิดเช่นนี้  รู้สึกว่า  "ไม่ดีนะ" เพราะเราคิดแต่จะเป็นฝ่ายได้รับอย่างเดียว  
ไม่เคยคิดว่า  แล้วเราล่ะ เคยให้อะไรแก่เขาหรือเปล่า 
การที่เคยได้และต่อมาไม่ได้  เขา (คนที่เคยให้)อาจจะเริ่มเสียความรู้สึกว่า 
ทำไมเราต้องให้เขาตลอด  เธอช่างไม่รู้จักพอ
รอแต่จะรับของจากเรา  เขาก็เลยไม่ให้อะไรแก่เธออีกแล้ว  ก็อาจจะเป็นได้นะ 
         ดังนั้น   ถ้ามีเหตุการณ์เกิดขึ้นเช่นนี้   เราควรจะต้อง
พิจารณาเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น  ว่าเหตุการณ์แบบนี้   เราควรทำต่อไหมล่ะ   ฉันว่า
มันเป็นพฤติกรรมที่ไม่ยุติธรรม ถ้าเราจะรอรับอย่างเดียว   จริงไหม


สำหรับฉัน  ก็มีเหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้นเหมือนกันนะ  ตอนสาว ๆ มีคนมาจีบ
ก็มีหนุ่มซื้อของมาเป็นกำนัลบ้างนะ แต่เป็นของที่ไม่ได้แพง
อะไรมาก  บางคนรู้ว่าฉันชอบหนังสือ (ที่เรียน) ฉันฝากซื้อจากกรุงเทพฯเขาอุตส่าห์
เอามาให้ที่มหาวิทยาลัย  แถม ไม่รับเงินด้วย
  ฉันก็ไม่กล้าฝากซื้ออีก  เพราะไม่ให้มีสิ่งผูกพัน หรือ ติดหนี้ ส่วนใหญ่จะบอกอ้อม ๆ
ให้รู้ว่า ขอความเป็นเพื่อนต่อกัน นะ  (ไม่ชอบให้ความหวัง )
บางคนก็มีของฝากมาทุกวันขึ้นปีใหม่  วันคล้ายวันเกิด บ้าง ส่งเป็นประจำ โดยฉันก็
บอกเขาแล้วว่า ฉันไม่มีอะไรส่งตอบแทนนะ เพราะไม่มีปัจจัยพอ
ในเรื่องเหล่านี้  แต่เขาก็บอกไม่เป็นไร ของเล็ก ๆ น้อย ๆ เป็นมิตรภาพ  ฉันก็อยาก
ทดสอบความอดทนของเขาเหมือนกันว่าจริงใจขนาดไหน
ก็โอเคนะ ส่งของฝากอยู่หลายปี  ทดสอบพอใจแล้ว  ฉันก็ส่งของตอบแทนเขา
ตามเทศกาลสำคัญตลอดไป  ไม่เอาเปรียบเขาหรอก 
เมื่อถึงเทศกาลที่เคยได้รับของฝากจากเขาตามความเคยชิน  อารมณ์ใกล้เทศกาล
ใกล้วันสำคัญ ฉันก็มีอารมณ์รอเหมือนกันนะ
แต่ก็ไม่ได้คิดว่า ต้องส่งของฝากมาให้ทุกปี แล้วก็ยังไม่เคยคิดว่า ต้องส่งให้ตลอดด้วย
เพราะมีความยุติธรรมในใจพอ  ใครเขาจะมีของฝากเราตลอด
โดยที่ไม่เคยได้รับของฝากจากเราเลย แต่ฉันก็ไม่เคยจะไม่ได้รับตามโจทย์นี้ นะ  
เมื่อฉันคิดว่า เขาดี ใช้ได้ ฉันก็ไม่เอาเปรียบเพื่อนนะ 
ทำของที่เป็นการฝีมือ ( เช่น ถักผ้าพันคอ  เสื้อกันหนาว) ฝากเขาบ้างตามโอกาส 

 เรื่องที่เขียนมาข้างต้น ก็เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในชีวิต  ค่อนข้างตรงกับโจทย์
ตะพาบ ครั้งนี้  เลยนำมาเล่าสู่กันฟัง (อ่าน)   ค่ะ 
                ฝากเพลงเพราะ ๆ ให้ฟังสักเพลงนะคะ  เพื่อความสุขในชีวิต  ค่ะ 



เพลง  น้ำใจ  ผู้ ขับร้อง   นริศ  อารีย์    นันทวัน  เมฆใหญ่  

            
                
                



Create Date : 23 มกราคม 2567
Last Update : 25 มกราคม 2567 8:53:32 น. 23 comments
Counter : 393 Pageviews.
(โหวต blog นี้) 

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณโฮมสเตย์ริมน้ำ, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณกะว่าก๋า, คุณทนายอ้วน, คุณSweet_pills, คุณmultiple, คุณจันทราน็อคเทิร์น, คุณปัญญา Dh, คุณtoor36, คุณสองแผ่นดิน, คุณหอมกร, คุณkae+aoe, คุณThe Kop Civil, คุณ**mp5**, คุณร่มไม้เย็น, คุณดอยสะเก็ด, คุณtanjira


 
สวัสดียามสายค่ะ อาจารย์สุวิมล

เรื่องจริงเลยค่ะ จันทร์ก็เป็นนะคะ
เราให้เค้าตลอด แต่เค้าไม่เคยให้เราเลย
ตอนหลังจันทร์เลยไม่ให้ต่อค่ะ 55555
คนเราจริงๆ มันต้องมีน้ำใจและความเกรงใจต่อกันค่ะ
ยิ่งอายุเยอะขึ้น จันทร์ก็คบแต่คนที่คบได้ค่ะ
ตัดเพื่อนร่วมโลกไปเยอะเลยค่ะ อิอิ


โดย: โฮมสเตย์ริมน้ำ วันที่: 25 มกราคม 2567 เวลา:9:52:47 น.  

 
อาจารย์ตีความโจทย์นี้
แบบผู้มีประสบการณ์ชีวิต และเป็นผู้ให้
ตอนที่เริ่มอ่านบล็อกอาจารย์
รู้สึกถึง คนที่มีความเป็นครู เลยครับ

ความเป็นครูคือผู้ให้จริงๆ

แต่พอเข้าส่วนที่เป็นเนื้อหา
ก็ทำให้ผมนึกถึงหลายปีที่ผ่านมา
สมัยที่ผมยังชอบเขียนจดหมายและโปสการ์ด
ทุกปีใหม่ผมก็จะเขียน สคส. ส่งไปยังเพื่อน พี่ น้อง ครูบาอาจารย์โดยตลอด
มาหยุดส่งช่วงโควิดแล้วก็ไม่ได้ส่งอีกเลยครับ
ยิ่งตอนนี้เป็นโลกยุคดิจิตอล
ก็ส่งไลน์ ส่งข้อความอวยพรกันหมดแล้ว 555

โอ้โห...อาจารย์ซื้อหนังสือจนเงินหมดต้องเดินกลับบ้านเลย
ตอนเป็นวัยรุ่นผมก็ชอบเดินครับ
เดินไกลมากจากบ้านไปร้านหนังสือ
หลายกิโลเลย แต่ผมก็ยอมเดินเพราะจะได้เก็บเงินค่ารถไปซื้อหนังสือครับ



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 25 มกราคม 2567 เวลา:11:25:23 น.  

 
สวัสดีครับอาจารย์


เสียงคุณนันทวันเพราะจังครับ


โดย: ทนายอ้วน วันที่: 25 มกราคม 2567 เวลา:12:24:26 น.  

 
สวัสดีค่ะอาจารย์

การเป็นผู้ให้ไม่ว่าจะเป็นสิ่งของหรือแม้ไม่ใช่สิ่งของ
อาจเป็นการให้กำลังใจ ให้คำแนะนำ ให้รอยยิ้ม ให้ความปรารถนาดี
ความสุขก็เกิดในจิตใจผู้ให้เองนะคะ

หากการให้และรับสมดุลกัน
ความรู้สึกดีก็น่าจะเพิ่มพูนทั้งสองฝ่ายค่ะ
ว่าเรายังเป็นที่นึกถึงที่ได้รับสิ่งที่ผู้ให้มอบให้

อากาศเปลี่ยนมาเป็นเย็นนิดๆในช่วงเช้าอีกแล้ว
อาจารย์รักษาสุขภาพและมีความสุขมากๆตลอดวันนี้นะคะ



โดย: Sweet_pills วันที่: 25 มกราคม 2567 เวลา:13:34:15 น.  

 
ผมว่าสมัยก่อนมีการให้ของ มันรู้สึกดีมากเลยนะครับ ปัจจุบันนี้ส่งสติ๊กเกอร์ทางไลน์แทนไม่คลาสสิกแบบสมัยโน้นเลยครับ


โดย: The Kop Civil วันที่: 25 มกราคม 2567 เวลา:14:01:38 น.  

 
โอ้ สมัยสาวๆ นี่ อาจารย์สุ ต้องสวยไม่เบาเลยนะครับ
หนุ่มเลยมาเอาอกเอาใจ ซื้อของมาฝากอยู่เรื่อยๆ

ของ อ.เต๊ะ สายเปย์ นี่ขึ้นอยู่กับอายุของสาวๆด้วยนะครับ
ถ้าอ่อนกว่าหรือเท่าๆกัน นี้ อ.เต๊ะ จะเป็นฝ่ายเปย์ตลอด 555

แต่ถ้าอายุมากกว่า แนวสาวแก่ แม่หม้ายนี่ อ.เต๊ะ มักจะโดนเปย์นะครับ555

ตอนหลังๆมานี่ อ.เต๊ะ เบื่อหน่ายทางโลก ก็เลยออกบวช เย้ย ม่ายช่าย555
คือไม่ได้ซื้อของแจกใคร เหมือนสมัยก่อน
แต่จะแจกให้กับ ผู้มีพระคุณเช่น ครูบาอาจารย์มั่ง คุณหมอที่ไปรักษามั่ง บางทีก็ยาม มั่ง แม่บ้านที่มหาลัยมั่ง ก็สบายใจดีครับ

จริงๆการเป็นผู้ให้ โดยไม่หวังผลตอบแทน มันจะสบายใจและมีความสุข
มากกว่าการเฝ้ารอรับ สิ่งต่างๆจากคนอื่นนะครับ

อ้อ ขอแสดงความยินดีกับรางวัลทุกรางวัลของ อาจารย์ด้วยนะครับ
แล้วก็ ขอให้อาจารย์ มีความสุข สุขภาพแข็งแรงไปนานๆเลยนะครับ





โดย: multiple วันที่: 25 มกราคม 2567 เวลา:14:08:21 น.  

 
จริงๆ กิเลสในใจทำให้เราไม่รู้จักพอค่ะอาจารย์
บางคนมีเมียแล้ว ยังไม่รู้สึกพอเลยนะคะ



โดย: หอมกร วันที่: 25 มกราคม 2567 เวลา:16:06:20 น.  

 
สวัสดีครับอาจารย์


โดย: ปัญญา Dh วันที่: 25 มกราคม 2567 เวลา:19:29:44 น.  

 
เรื่องแบบนี้พูดยากเหมือนกัน คนเราอยู่ในสังคมก็ต้องมีทั้งรับทั้งให้ ปฏิเสธได้ยากว่าบางครั้งของที่เขาให้เรา เราก็ไม่ได้อยากได้หรอก แต่ก็อย่างที่บอกเราอยู่ในสังคมก็ต้องมีทั้งให้และรับ

บางครั้งของขวัญมันอาจทำหน้าที่ของมันแค่ให้ผู้รับ และผู้ให้รู้สึกดีอย่างเดียวก็ได้ หลายครั้งผมเห็นคนให้ของขวัญกัน พอรับมาเสร็จเอาไปบริจาคเพราะไม่ชอบก็มี คือเขารู้สึกขอบคุณในใจแหละแต่ไม่ได้ชอบ ก็เลยไม่ได้เอาไปใช้ สำหรับในเรื่องนี้ผมชอบแนวคิดของญี่ปุ่นนะ ที่พยายามคิดถึงผู้รับว่าเขาจะเอาไปใช้ประโยชน์อะไรได้


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 25 มกราคม 2567 เวลา:21:32:41 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับอาจารย์



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 26 มกราคม 2567 เวลา:4:37:48 น.  

 
แวะมาเยี่ยมและส่งกำลังใจครับ


โดย: **mp5** วันที่: 26 มกราคม 2567 เวลา:14:06:41 น.  

 
สวัสดีค่ะอาจารย์

ต๋าลองนำฟักทองมาผสมกับสูตรเดิม
ครั้งแรกนี้คิดว่าฟักทองจะเข้ากับความหวานๆเปรี้ยวๆของ
ลูกเกดเขียว ลูกเกดดำหรือแครนเบอร์รี่มั๊ยนะ
เลยใส่แต่ธัญพืชค่ะ

ครั้งต่อไปจะเพิ่มรสชาติของลูกๆเหล่านี้นะคะ
ขอบคุณอาจารย์สำหรับคำแนะนำค่ะ

อาจารย์นอนหลับฝันดีคืนนี้นะคะ



โดย: Sweet_pills วันที่: 27 มกราคม 2567 เวลา:0:37:16 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับอาจารย์



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 27 มกราคม 2567 เวลา:5:19:30 น.  

 
สวัสดียามสายค่ะ อาจารย์สุวิมล


โดย: โฮมสเตย์ริมน้ำ วันที่: 27 มกราคม 2567 เวลา:10:53:29 น.  

 
สวัสดีครับอาจารย์

บางครั้งน้ำใจเล็ก ๆ น้อยๆ ก็สานสัมพันธ์ได้ครับ
อย่างที่อาจารย์เล่า มีรับก็มีให้กลับคืนเล็ก ๆ น้อยๆ พอเป็นน้ำใจต่อกัน
ถ้าไม่ได้คิดมากกว่านั้นก็เป็นเพื่อนที่ดีต่อกันได้ครับ

สำหรับผม ส่วนใหญ่ผมเป็นคนรับ แล้วจะไม่ให้กลับถ้าไม่คิดอะไร ถ้าให้อะไรกลับนอกจากเลี้ยงน้ำเลี้ยงข้าว เลี้ยงกาแฟ อันนี้แสดงว่าคิดครับ 555555

ยินดีกับรางวัลครับอาจารย์ และขอบคุณกับการแสดงความยินดีมาก ๆ ครับ



โดย: จันทราน็อคเทิร์น วันที่: 27 มกราคม 2567 เวลา:15:42:26 น.  

 
ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตครับอาจารย์

ทำธุระสองแห่งในกรุงเทพ
ผมคิดว่าน่าจะใช้เวลาพอสมควรเลยนะครับอาจารย์
โดยเฉพาะการเดินทาง ที่ใช้เวลานานเสมอ

ปีนี้ผมอ่านหนังสือธรรมะเยอะเป็นพิเศษเลยครับ



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 27 มกราคม 2567 เวลา:19:24:40 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับอาจารย์



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 28 มกราคม 2567 เวลา:4:54:22 น.  

 
ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตครับอาจารย์

ผมไม่ได้ลงไปกรุงเทพนานมาก
ปล่อยตรงไหนก็หลงตรงนั้นครับ 555
ขนาดเกิดกรุงเทพ
และใช้ชีวิตอยู่ในกรุงเทพจนถึง ป.5
แต่ความทรงจำของผมกับกรุงเทพก็เลือนรางมากๆเลยล่ะครับ




โดย: กะว่าก๋า วันที่: 28 มกราคม 2567 เวลา:12:25:19 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับอาจารย์



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 29 มกราคม 2567 เวลา:5:18:57 น.  

 
สวัสดีค่ะอาจารย์

บางครั้งเราให้จนคนรับรู้สึกว่าต้องได้รับตลอดก็ไม่ใช่นะคะ
มีให้ก็ต้องมีรับ แต่ก็น้อยคนค่ะที่จะคิดว่าควรยุติธรรมกับคนที่ให้เราด้วย

อาจารย์น่ารักนะคะมีของฝากเป็นงานฝีมือ ซึ่งมีค่ามากกว่าของที่หาซื้อได้นะคะ

ช่วงนี้ธัญยังไม่ปกติเลยค่ะ ไอมากมาย เมื่อคืนนี่แทบจะไม่ค่อยได้นอนยาวๆเลยค่ะ

อาจารย์รักษาสุขภาพด้วยนะคะ



โดย: tanjira วันที่: 29 มกราคม 2567 เวลา:7:06:48 น.  

 
ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตครับอาจารย์

มาดามก็ไม่ดูครับ
เธอบอกมันโหดเกินไป 555

ผมชอบเวลานักมวยเค้าสู้ด้วยความหวัง
ไม่ยอมแพ้ สู้จนถึงที่สุด
แต่ผมก็ไม่ดูรายการอื่นเลยครับ
ดูแค่ One อย่างเดียว



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 29 มกราคม 2567 เวลา:13:34:25 น.  

 
สวัสดียามบ่ายค่ะ อาจารย์สุวิมล

อาจารย์ยังเดินต่อเนื่องอยู่หรือป่าวคะ
จันทร์นี่เดินได้4วัน หยุดยาวอีกแล้วค่ะ แหะๆ


โดย: โฮมสเตย์ริมน้ำ วันที่: 29 มกราคม 2567 เวลา:16:35:15 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับอาจารย์



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 30 มกราคม 2567 เวลา:5:28:46 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
space

อาจารย์สุวิมล
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 46 คน [?]




เป็นครูสอนภาษาไทยที่เกษียณอายุราชการแล้ว สนใจเรื่องการเขียนหนังสือให้ความรู้ ชอบการท่องเที่ยว หากท่านที่เข้ามาชมและอ่านแล้ว มีความสนใจและต้องการสอบถามเรื่องความรู้ด้านภาษาไทย ถ้ามีความสามารถจะให้ความรู้ได้ ก็ยินดีค่ะ

http://i697.photobucket.com/albums/vv337/dd6728/color_line17.gif
space
space
space
space
[Add อาจารย์สุวิมล's blog to your web]
space
space
space
space
space