1 2
3 4 5 6 7 8 9
10 11 12 13 14 15 16
17 18 19 20 21 22 23
24 25 26 27 28 29 30
31
เพื่อนใหม่ "เพื่อนใหม่ " เป็นโจทย์ ตะพาบ กิโลเมตรที่ 223 ผู้ตั้งโจทย์ คือ น้องต่อ 36 ค่ะ พ่อของฉันถึงแก่กรรม ตั้งแต่ฉันยังเรียนอยู่ปี 1 เมื่อจบการศึกษาจาก วิทยาลัยวิชาการศึกษาแล้ว ก็ต้องดิ้นรน สอบบรรจุเข้ารับราชการเป็นครูสอนหนังสือ ตามสาขาวิชาที่ได้ร่ำเรียน มา ครอบครัวเรามีทั้งหมด มี 5 คน น้องสาว น้องชาย และหลานสาวอีก 1 คน ก็ดูอบอุ่น ตามประสา ครอบครัวเล็ก ๆ ต่อมา หลานสาว น้องสาว แต่งงานกันไปหมด ส่วนน้องชาย ก็ตามประสา วัยรุ่น กลับบ้านบ้าง ไม่กลับบ้าง ฉันกับแม่จึงอยู่ด้วยกันสองคนเป็นส่วนใหญ่ ช่วงมี 20 ฉันประสบปัญหาชีวิตค่อนข้างสาหัส ได้ย้ายโรงเรียนมาอยู่ ที่โรงเรียนมัธยมวัดธาตุทอง อีกอย่างเป็น เพราะเป็นโรงเรียนใกล้บ้านด้วย ไม่ต้องตื่นแต่เช้าเพื่อเดินทางไป ทำงาน ทำให้สุขภาพของฉันดีขึ้น เพราะได้พักผ่อนเพียงพอ วันไหนมีสอนนักศึกษาผู้ใหญ่ (ภาคค่ำ) ฉันก็ต้องกลับบ้านดึก คือประมาณ 3ทุ่มกว่า ปรกติ วันไหนถ้าไม่มีการสอน ภาคค่ำ แม่จะรอฉันกินข้าวมื้อเย็น ทุกวัน เราสองคนแม่ลูกจะนั่งกินข้าวพร้อมกัน ช่วงไหนที่สอนภาคค่ำ แม่ก็จะกินข้าวก่อนและรอฉันกลับจากสอน ภาคค่ำ โดยมีเพื่อนบ้านวัยเดียวกันกับแม่ มา ชุมนุมคุยกันที่หน้าบ้านฉัน แม่จึงไม่ค่อยเหงาเท่าไหร่ เมื่อมีเวลาว่าง ช่วงปิดเทอม บางครั้งฉันก็พาแม่ไปดูหนังบ้าง บางครั้ง พาแม่ไปเที่ยวชายหาดบางแสน เช่าเก้าอี้ผ้าใบนั่ง สั่งของทะเล กุ้ง หอย ปู ปลา กินกัน นั่งฟังเสียงคลื่นทะเล มองดูเด็ก ๆ ที่พ่อแม่พามาเที่ยวและเล่นน้ำ เป็นความสุขเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ฉันทำให้แม่ได้ เพราะว่า เงินเดือนครูนั้น น้อยนิดเดียว สอนมา 4-5 ปี เงินเดือน ก็เพียงสองพันเศษ ๆ แม่ก็เป็นคนประหยัด ไม่ค่อยยอมไปไหน คง สงสารลูกเหมือนกันเนาะ อิอิ ความสุขของเราสองแม่ลูก จึงเป็นไปอย่างเรียบง่าย ชีวิตเราสอง แม่ลูก จึงผูกพันกันมาก ๆ เป็นทั้งแม่ลูก เป็นทั้งเพื่อนสนิทที่ปรึกษาหารือกันได้ทุกเรื่อง ชีวิตเรา แม่ ลูก ก็มี ความสุขอย่างพอเพียงตามอัตภาพ และแล้วเวลาแห่งความสุขเล็ก ๆ น้อย ๆ ของฉัน ก็จบลงอย่างที่ฉัน ก็ ไม่นึกว่า มันจะเป็นเช่นนั้น แม่เป็นคนแข็งแรง ไม่ค่อยเจ็บป่วยอะไรมากนัก ในปี 29 ต้นเดือน มี.ค. แม่ปัสสาวะ ไม่ค่อยออก ปวดท้อง ฉันรีบพาไปหามหอ ในโรงพยาบาลของเอกชน ซึ่งจะรวดเร็วกว่าของรัฐ หมอบอกว่า แม่ เป็นโรคกระเพาะปัสสวะอักเสบ มีเบาหวานด้วย แต่หัวใจไม่มีปัญหา แม่นอนอยู่โรงพยาบาล 5 วัน หมออนุญาตให้ กลับบ้านได้ แต่กลับมาบ้านได้ 3-4 วัน แม่ก็มีอาการปวดท้อง เหมือนเดิม จึงต้องเข้าโรงพยาบาลอีกครั้งหนึ่ง อยู่เพียง 5 วัน แม่ ก็ถึงแก่กรรม หมอลงความเห็นว่า หัวใจวาย ทั้ง ๆ ที่แม่ไม่ได้มีโรคหัวใจ แค่เป็นโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ บ้า หรือเปล่านะ ถ้าลงความเห็นว่า เสียเพราะติดเชื้อ ยังน่าเชื่อถือกว่า สงสัยสมัยก่อน โรคติดเชื้อ คงไม่ดัง โรคหัวใจวาย คงลงง่ายที่สุด กระมัง เฮ้อ ! ฉันร้องไห้จนน้ำตาแทบ เป็นสายเลือด สมองว้าวุ่น สับสน อลหม่านไปหมด เป็นช่วงหนึ่งของ ชีวิตที่ทุกข์มาก ๆ ว้าเหว่ เหมือนขาดร่มโพธิ์ร่มไทร ที่เคยให้ความร่มเย็น อบอุ่น ตลอดมา โชคดีที่ ฉันมีเพื่อนดี หลายคน เพื่อนที่เป็นรอง ผอ. ให้คำปลอบใจ ให้ฉันตั้งสติให้ดีไว้ เรื่องวัด เรื่องงานศพ เขาและพี่ ๆ น้อง ๆ อีกหลายคน ช่วยจัดการให้ พี่ที่เป็นเพื่อนสนิทสมัยเรียนลัดด้วยกัน ช่วยจัดการ เรื่องโลงศพ เรื่องพิธีกงเต๊ก ตามประเพณีจีน แม่เคยสั่งเสียให้จัดงาน สวดสองคืน และพิธีกงเต๊ก 1 คืน ก็พอ แต่ฉันอยากอยู่กับแม่นานหน่อย สวด 5 คืน และพิธีกงเต๊ก 1 คืนแล้ว นำแม่ไปฝังที่สุสาน คู่กับพ่อ ซึ่งไปรอแม่อยู่ ตั้งแต่ ปี 14 แล้ว ค่ะ เมื่อแม่จากไปแล้ว ฉันก็เหมือนตัวคนเดียวใน โลกใบนี้ พี่น้องต่างก็มีหน้าที่ต่อครอบครัวของเขา ฉันก็มีหน้าที่รับผิดชอบต่ออาชีพของฉัน ฉันก็ยังโชคดี แม่เสียใหม่ ๆ มีลูกศิษย์บางคน ก็หมั่นแวะมาเยี่ยมเยียนกัน ส่วนรอง ผอ. ซึ่งเป็นเพื่อนรุ่นเดียวกัน ก็ดีกับฉันมาก กลัวฉันจะคิดมาก ก็มีการจัดไปเที่ยวต่างจังหวัดกันบ้าง กว่าจะเรียกสติสตังค์กลับมาสู่ภาวะปรกติก็ประมาณ 3-4 เดือน เป็นช่วง เวลาที่ผ่านพ้นไปยากมากทีเดียว ค่ะ ช่วงหลังจากที่แม่เสียแล้ว ฉันก็มุ่งมานะ สอนหนังสือ เตรียมการสอน และ รอง ผอ. เพื่อนรุ่นเดียวกันและสนิทกัน ได้ส่งเสริมให้ฉันไปอบรมและทำผลงานเพื่อเลื่อน วิทยฐานะทาง วิชาการ เพื่อทำให้หน้าที่การงานให้สูงขึ้น เงินเดือนจะได้ไม่ตัน ก็เป็นสิ่งดี เพราะมีงานศึกษา ค้นคว้า เพื่อทำ ผลงานเลื่อนตำแหน่ง ทำให้ฉันหายคิดถึงแม่ไปได้บ้าง ฉันทำผลงานผ่านและได้เลื่อนตำแหน่งหน้าที่ เป็นระดับ 8 ในปี 35 ชีวิตฉันก็ไม่ถึงกับเงียบเหงาจนเกินไปนัก เพราะมีงานสอน มีเด็กที่เรียนจากฉันจบไปแล้ว ก็แวะเวียนมาเยี่ยม บ้าง ตามเทศกาล หรือวันคล้ายวันเกิดของฉัน ในปี 40 ฉันก็ได้ "เพื่อนใหม่ " มาเป็นสมาชิกของบ้าน เพราะเจ้าของ เขาจะไปทำงานที่เมืองนอก ไม่มีใครเลี้ยง น้องชายจึงต้องนำมันมาให้ฉันที่บ้าน น่าจะประมาณ เดือนเศษ ๆ กำลัง ซุกซน วิ่งไปรอบ ๆ บ้าน กระโดดโลดเต้น เหมืองจิงโจ้ ตัวน้อย ๆ ฉันอดใจอ่อนรับเลี้ยงไม่ได้ ทั้ง ๆ ที่ตั้งใจแล้ว ว่าจะไม่เลี้ยงอีกแล้วหลังจากที่ตัวก่อนตายไป เจ้าของเดิม (แฟนน้องชาย) ตั้งชื่อ ว่า "ค้อกกี้" ตอนนี้ถ่ายตอนที่มัน หลายเดือนแล้ว หน้าตาหล่อเหลาไหม ลูกชายฉัน มันก็น่าสงสารมากเหมือนกัน ตอนมาอยู่ใหม่ ๆ กลางวัน ฉันไปสอน หนังสือ มันต้องอยู่ตัวเดียวที่บ้าน ฉันเปิดไฟ เปิดพัดลม ให้มัน ปรากฏว่า วันแรก ๆ มันก็อาละวาดหนักเอาการ รื้อเสื้อผ้าของ น้องชาย ลงมาที่พื้น ฉีกกระดาษหนังสือพิมพ์ เป็นชิ้นเล็ก ชิ้นน้อย แถม ฉี่ใส่เสื้อผ้าของน้องชายด้วย กลับมาจาก สอนหนังสือ มีงานเพิ่มขึ้น จึงต้องอบรมมัน ด้วยไม้เดียว และดุ สั่งสอนไปด้วย ว่า ฉันต้องไปทำงาน หาเงินมาเลี้ยงมัน ถ้า ยังเกเร ทำบ้านเลอะเทอะแบบนี้อีก ฉันจะไม่เลี้ยง จะเอาไปปล่อยวัดเลย ฟาดเบา ๆ ไป 2-3 แปะ โดนตีอย่างนี้ไปอยู่ ครั้งสองครั้ง นิสัยก็เริ่มดีขึ้น ฉันคิดว่า มันคงฟังฉันรู้เรื่อง ชีวิตฉันเริ่มหายเงียบเหงา มีมันเป็นเพื่อนใหม่ ตอนเย็นกลับจากสอน หนังสือ ก็มีมันมาต้อนรับ กระดิกหางอันน้อยนิด กระโดดให้ฉันอุ้ม หอมแก้มกัน เป็นความสุข หายเหนื่อย ได้จริง ๆ ค่ะ หายดีใจแล้ว จึงยอมลงจากการอุ้ม ฉันก็ถือสายจูง มันก็จะวิ่งมาหา ยืนให้ฉันใส่สายจูง เพื่อไปทำธุระ (ฉี่ อึ ) และเดิน เที่ยว เดินไป ฉี่ไปตามเสาไฟฟ้า ดมโน่นดมนี่ ดูมันก็มีความสุขเช่นเดียวกับฉันนะ เที่ยวจนพอใจแล้ว เราก็กลับบ้าน มากินข้าวกัน ฉันจะคลุกข้าวใส่ชาม เป็นตับ บ้าง เป็นกับข้าวเช่นผัดคะน้าใส่หมูบ้าง กินเหมือนฉัน บ้าง มันเป็นหมาที่ เลี้ยงง่าย ไม่ยุ่งยาก กินได้ทุกอย่างเหมือนคนเลย โดยเฉพาะผลไม้ที่ชอบ เช่น เขียวเสวย ทุเรียน นี่ชอบที่สุด กินเยอะ จนตาแฉะ เดือดร้อนต้องคอยเช็ดขี้ตาให้ อิอิ ยืนแอ๊กชั่นให้ถ่ายรูป อย่างสง่างาม เชียวนะ ลูกชายฉัน ใหม่ ๆ ฉันให้มันนอนนอกห้องนอน ต่อมาก็สงสาร มันมาตะกรุย ประตูดังแกรก ๆ บ่อย ๆ เลยสงสารเปิดให้เข้ามา แต่ให้นอนเบาะ ไม่ได้ให้ขึ้นเตียงนอนด้วย เพราะกลัวเห็บ หมัดเข้าหู นั่นเอง กลางวัน มันมีที่นอน คือ โซฟา ประจำที่ของมัน ปูด้วยผ้าสะอาด ตอนนี้ดูเหมือนเป็นหนุ่มเต็มตัวแล้ว เห่า เสียงดัง ใครเดินใกล้ประตู บ้าน เป็นต้องตกใจเสียงของมัน ถึงตัวจะเล็ก แต่เสียงดังเหมือนเสียงหมาตัวโตเลย เราเคยจากกันเป็นเวลา 1 เดือน ตอนฉันไปเรียนภาษาจีนที่มหา- วิทยาลัย หวินหนัน มณฑล คุนหมิง สงสารมันมาก เพราะไปฝากบ้านใคร มันก็ไม่ยอมอยู่ด้วย เห่าทั้งคืน และไม่ยอมกินข้าวเลย เหลนจึงต้องเอามัน มาอยู่ที่บ้านฉันเหมือนเดิม กลางคืนก็มานอนที่บ้านฉันเป็นเพื่อนมัน มันเป็นหมาที่ติดบ้านมาก ตอนฉันกลับจากคุนหมิง มันโผ กระโดดให้ฉันอุ้ม สี่ตีนเกาะติดตัวฉันไม่ยอมปล่อยเลย เลีย หน้าเลียตาให้วุ่นวายไปหมด หางกุดเล็ก ๆ สั่นกระดิกๆไม่หยุดเลย มันเป็นภาพที่น่าตื้นตันใจมาก หมาเป็นเพื่อน ที่ซื่อสัตย์ รักเจ้าของมาก กว่ามันจะยอมให้ฉันปล่อยมันลงพื้นได้ ก็น่าจะเกือบ 10 นาที นะ แล้วก็ไปนั่งเฝ้ากระเป๋าเดินทางของฉัน คงไม่อยาก ให้ฉันต้องจากมันไปอีกกระมัง อิอิ เฝ้าให้ดีนะ ลูกชาย อย่าให้ใครมายกกระเป๋าแม่ไป นะ อิอิ อากาศหนาวแล้ว ค้อกกี้ก็ยอมให้ใส่เสื้อตัวที่ฉันซื้อให้โดยดี มัน เป็นหมาขี้หนาว เพราะขนเกรียน นั่นเอง นอนหนาวอยู่บนโซฟา ประจำตัว ถ่ายรูป ลูกชายสุดหล่อ ของฉันใส่เสื้อหนาวอีกรูป ค่ะ "เพื่อนใหม่" ของฉัน ทำให้ชีวิตของฉัน มีชีวิตชีวามากขึ้น มีความ สุข มีกำลังใจมากขึ้น กลับจากทำงาน ก็มีมันมาต้อนรับดีอกดีใจ เป็นเพื่อน เป็นลูก ความรัก ความผูกพัน มากขึ้นทุกวัน ๆ แล้วการพลัดพรากก็เกิดขึ้น อีกครั้งหนึ่ง ด้วยวัย 13 ปี เป็นความโศกเศร้าที่ยิ่งใหญ่ในชีวิตของ ฉันอีกครั้งหนึ่ง หลังจากมันจากไป น้ำหนักตัวฉัน ลดไปสองกิโลกรัมน่าจะได้ และสัญญากับตัวเองและสัญญากับมัน ว่า ฉันจะเลี้ยงมันเป็นตัวสุดท้ายและจะไม่เลี้ยงหมาอีกเลย และฉันก็ได้ทำตามสัญญามาโดยตลอด ตั้งแต่มันจากฉันไป เมื่อวันที่ 18 มกราคม ปี 52 ฉันไม่เคยเลี้ยง หมาอีกเลย ค่ะ ลาก่อน ค้อกกี้ ลูกชายสุดที่รัก ถ้าชาติหน้ามีจริง มาเกิดเป็นลูกแม่ อีกนะจ๊ะ
Create Date : 04 มีนาคม 2562
Last Update : 5 มีนาคม 2562 23:21:19 น.
38 comments
Counter : 1235 Pageviews.
ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณRinsa Yoyolive , คุณซองขาวเบอร์ 9 , คุณNior Heavens Five , คุณสองแผ่นดิน , คุณkae+aoe , คุณ**mp5** , คุณhaiku , คุณtoor36 , คุณSai Eeuu , คุณสันตะวาใบข้าว , คุณเกศสุริยง , คุณโอน่าจอมซ่าส์ , คุณmcayenne94 , คุณชีริว , คุณอุ้มสี , คุณภาวิดา คนบ้านป่า , คุณกะว่าก๋า , คุณคนผ่านทางมาเจอ , คุณเรียวรุ้ง , คุณmambymam , คุณข้ามขอบฟ้า , คุณบาบิบูเบะ...แปลงกายเป็นบูริน , คุณเนินน้ำ
โดย: สองแผ่นดิน วันที่: 7 มีนาคม 2562 เวลา:8:20:46 น.
โดย: **mp5** วันที่: 7 มีนาคม 2562 เวลา:13:32:16 น.
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 7 มีนาคม 2562 เวลา:23:40:47 น.
โดย: Sai Eeuu วันที่: 8 มีนาคม 2562 เวลา:1:56:46 น.
โดย: เกศสุริยง วันที่: 8 มีนาคม 2562 เวลา:14:07:04 น.
โดย: mcayenne94 วันที่: 8 มีนาคม 2562 เวลา:19:15:14 น.
โดย: ชีริว วันที่: 8 มีนาคม 2562 เวลา:23:31:01 น.
โดย: อุ้มสี วันที่: 9 มีนาคม 2562 เวลา:1:35:00 น.
โดย: เพรางาย วันที่: 9 มีนาคม 2562 เวลา:11:17:34 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 9 มีนาคม 2562 เวลา:20:01:59 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 10 มีนาคม 2562 เวลา:6:37:45 น.
โดย: ๊อ้อมแอ้ม (คนผ่านทางมาเจอ ) วันที่: 10 มีนาคม 2562 เวลา:11:23:10 น.
โดย: เรียวรุ้ง วันที่: 10 มีนาคม 2562 เวลา:22:14:23 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 10 มีนาคม 2562 เวลา:22:21:30 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 11 มีนาคม 2562 เวลา:6:26:46 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 11 มีนาคม 2562 เวลา:10:20:07 น.
โดย: ชีริว วันที่: 11 มีนาคม 2562 เวลา:20:44:03 น.
โดย: สองแผ่นดิน วันที่: 11 มีนาคม 2562 เวลา:22:17:53 น.
โดย: ข้ามขอบฟ้า วันที่: 12 มีนาคม 2562 เวลา:0:07:22 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 12 มีนาคม 2562 เวลา:6:04:47 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 12 มีนาคม 2562 เวลา:15:19:38 น.
โดย: อุ้มสี วันที่: 13 มีนาคม 2562 เวลา:0:57:11 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 13 มีนาคม 2562 เวลา:6:45:03 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 14 มีนาคม 2562 เวลา:6:18:08 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 14 มีนาคม 2562 เวลา:10:05:46 น.
โดย: เนินน้ำ วันที่: 14 มีนาคม 2562 เวลา:10:28:50 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 15 มีนาคม 2562 เวลา:7:28:01 น.
BlogGang Popular Award#20
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 46 คน [? ]
เป็นครูสอนภาษาไทยที่เกษียณอายุราชการแล้ว สนใจเรื่องการเขียนหนังสือให้ความรู้ ชอบการท่องเที่ยว หากท่านที่เข้ามาชมและอ่านแล้ว มีความสนใจและต้องการสอบถามเรื่องความรู้ด้านภาษาไทย ถ้ามีความสามารถจะให้ความรู้ได้ ก็ยินดีค่ะ
http://i697.photobucket.com/albums/vv337/dd6728/color_line17.gif
หลายปี อยู่ด้วยกัน ยอมรับเลยว่ามีชีวิตชีวาอย่างมาก
รินก็ชอบเลี้ยงหมาแมว ตั้งแต่ตอนเรียน อยู่ด้วยแล้วสนุกมาก คุยกับหมาแมวมีความสุขดีค่า
แต่พอมันตายไปรินก็ไม่เคยเลี้ยงแมวอีกเลยนับได้เกิน 15 ปีแล้วค่ะไม่เคยเลี้ยง
มีแต่หมาแต่ไม่เอามาเลี้ยงที่บ้านนะคะ เป็นหมาจร เลี้ยงไว้ที่โรงงานดีกว่า และซื้ออาหารเม็ดไปให้บ่อยๆ ฝากคนงานไว้ให้ด้วย
เพราะมีพื้นที่โรงงานกว้างกว่า
เวลารินไปหาแต่ละที พวกจะกระโดดโลดเต้น วิ่งมาหาอย่างดีใจมากจริงๆค่า