คืนกำไรให้ชีวิต เพื่อพิชิตไปในโลกกว้าง
space
space
space
<<
มีนาคม 2562
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
space
space
4 มีนาคม 2562
space
space
space

เพื่อนใหม่


                              เพื่อนใหม่  

 
"เพื่อนใหม่ "  เป็นโจทย์ ตะพาบ กิโลเมตรที่  223  ผู้ตั้งโจทย์  คือ 
น้องต่อ  36  ค่ะ  
 
พ่อของฉันถึงแก่กรรม ตั้งแต่ฉันยังเรียนอยู่ปี 1 เมื่อจบการศึกษาจาก
วิทยาลัยวิชาการศึกษาแล้ว  ก็ต้องดิ้นรน
สอบบรรจุเข้ารับราชการเป็นครูสอนหนังสือ  ตามสาขาวิชาที่ได้ร่ำเรียน
มา  ครอบครัวเรามีทั้งหมด มี 5 คน  
น้องสาว  น้องชาย  และหลานสาวอีก 1 คน  ก็ดูอบอุ่น ตามประสา
ครอบครัวเล็ก ๆ  ต่อมา  หลานสาว  น้องสาว
แต่งงานกันไปหมด  ส่วนน้องชาย ก็ตามประสา วัยรุ่น กลับบ้านบ้าง
ไม่กลับบ้าง  ฉันกับแม่จึงอยู่ด้วยกันสองคนเป็นส่วนใหญ่
 
ช่วงมี 20  ฉันประสบปัญหาชีวิตค่อนข้างสาหัส  ได้ย้ายโรงเรียนมาอยู่
ที่โรงเรียนมัธยมวัดธาตุทอง  อีกอย่างเป็น
เพราะเป็นโรงเรียนใกล้บ้านด้วย  ไม่ต้องตื่นแต่เช้าเพื่อเดินทางไป
ทำงาน  ทำให้สุขภาพของฉันดีขึ้น 
เพราะได้พักผ่อนเพียงพอ  วันไหนมีสอนนักศึกษาผู้ใหญ่ (ภาคค่ำ) 
ฉันก็ต้องกลับบ้านดึก คือประมาณ 3ทุ่มกว่า
ปรกติ  วันไหนถ้าไม่มีการสอน ภาคค่ำ  แม่จะรอฉันกินข้าวมื้อเย็น
ทุกวัน  เราสองคนแม่ลูกจะนั่งกินข้าวพร้อมกัน 
ช่วงไหนที่สอนภาคค่ำ  แม่ก็จะกินข้าวก่อนและรอฉันกลับจากสอน
ภาคค่ำ  โดยมีเพื่อนบ้านวัยเดียวกันกับแม่ มา
ชุมนุมคุยกันที่หน้าบ้านฉัน  แม่จึงไม่ค่อยเหงาเท่าไหร่ 
 
เมื่อมีเวลาว่าง  ช่วงปิดเทอม  บางครั้งฉันก็พาแม่ไปดูหนังบ้าง บางครั้ง
พาแม่ไปเที่ยวชายหาดบางแสน  เช่าเก้าอี้ผ้าใบนั่ง
สั่งของทะเล กุ้ง หอย ปู ปลา กินกัน  นั่งฟังเสียงคลื่นทะเล มองดูเด็ก ๆ
ที่พ่อแม่พามาเที่ยวและเล่นน้ำ 
เป็นความสุขเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ฉันทำให้แม่ได้  เพราะว่า เงินเดือนครูนั้น
น้อยนิดเดียว  สอนมา 4-5   ปี เงินเดือน
ก็เพียงสองพันเศษ ๆ   แม่ก็เป็นคนประหยัด ไม่ค่อยยอมไปไหน คง
สงสารลูกเหมือนกันเนาะ  อิอิ 
ความสุขของเราสองแม่ลูก  จึงเป็นไปอย่างเรียบง่าย  ชีวิตเราสอง
แม่ลูก  จึงผูกพันกันมาก ๆ เป็นทั้งแม่ลูก
เป็นทั้งเพื่อนสนิทที่ปรึกษาหารือกันได้ทุกเรื่อง   ชีวิตเรา แม่ ลูก ก็มี
ความสุขอย่างพอเพียงตามอัตภาพ 
และแล้วเวลาแห่งความสุขเล็ก ๆ น้อย ๆ ของฉัน  ก็จบลงอย่างที่ฉัน ก็
ไม่นึกว่า  มันจะเป็นเช่นนั้น  แม่เป็นคนแข็งแรง
ไม่ค่อยเจ็บป่วยอะไรมากนัก ในปี 29   ต้นเดือน มี.ค.  แม่ปัสสาวะ
ไม่ค่อยออก  ปวดท้อง ฉันรีบพาไปหามหอ
ในโรงพยาบาลของเอกชน ซึ่งจะรวดเร็วกว่าของรัฐ  หมอบอกว่า  แม่
เป็นโรคกระเพาะปัสสวะอักเสบ  มีเบาหวานด้วย
แต่หัวใจไม่มีปัญหา  แม่นอนอยู่โรงพยาบาล 5 วัน  หมออนุญาตให้
กลับบ้านได้ แต่กลับมาบ้านได้  3-4 วัน แม่ก็มีอาการปวดท้อง
เหมือนเดิม  จึงต้องเข้าโรงพยาบาลอีกครั้งหนึ่ง  อยู่เพียง 5 วัน แม่
ก็ถึงแก่กรรม  หมอลงความเห็นว่า  หัวใจวาย 
ทั้ง ๆ ที่แม่ไม่ได้มีโรคหัวใจ  แค่เป็นโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ บ้า
หรือเปล่านะ  ถ้าลงความเห็นว่า เสียเพราะติดเชื้อ
ยังน่าเชื่อถือกว่า  สงสัยสมัยก่อน  โรคติดเชื้อ คงไม่ดัง  โรคหัวใจวาย
คงลงง่ายที่สุด กระมัง เฮ้อ ! ฉันร้องไห้จนน้ำตาแทบ
เป็นสายเลือด  สมองว้าวุ่น  สับสน อลหม่านไปหมด  เป็นช่วงหนึ่งของ
ชีวิตที่ทุกข์มาก ๆ  ว้าเหว่ เหมือนขาดร่มโพธิ์ร่มไทร
ที่เคยให้ความร่มเย็น  อบอุ่น ตลอดมา  โชคดีที่ ฉันมีเพื่อนดี หลายคน
เพื่อนที่เป็นรอง ผอ. ให้คำปลอบใจ  ให้ฉันตั้งสติให้ดีไว้
เรื่องวัด เรื่องงานศพ  เขาและพี่ ๆ น้อง ๆ อีกหลายคน ช่วยจัดการให้ พี่ที่เป็นเพื่อนสนิทสมัยเรียนลัดด้วยกัน ช่วยจัดการ
เรื่องโลงศพ  เรื่องพิธีกงเต๊ก ตามประเพณีจีน  แม่เคยสั่งเสียให้จัดงาน
สวดสองคืน และพิธีกงเต๊ก 1 คืน ก็พอ  
แต่ฉันอยากอยู่กับแม่นานหน่อย  สวด 5  คืน และพิธีกงเต๊ก 1 คืนแล้ว
นำแม่ไปฝังที่สุสาน คู่กับพ่อ ซึ่งไปรอแม่อยู่
ตั้งแต่ ปี  14  แล้ว ค่ะ  เมื่อแม่จากไปแล้ว  ฉันก็เหมือนตัวคนเดียวใน
โลกใบนี้  พี่น้องต่างก็มีหน้าที่ต่อครอบครัวของเขา
ฉันก็มีหน้าที่รับผิดชอบต่ออาชีพของฉัน  ฉันก็ยังโชคดี  แม่เสียใหม่ ๆ 
มีลูกศิษย์บางคน ก็หมั่นแวะมาเยี่ยมเยียนกัน 
ส่วนรอง ผอ. ซึ่งเป็นเพื่อนรุ่นเดียวกัน  ก็ดีกับฉันมาก กลัวฉันจะคิดมาก
ก็มีการจัดไปเที่ยวต่างจังหวัดกันบ้าง 
กว่าจะเรียกสติสตังค์กลับมาสู่ภาวะปรกติก็ประมาณ 3-4 เดือน เป็นช่วง
เวลาที่ผ่านพ้นไปยากมากทีเดียว  ค่ะ
ช่วงหลังจากที่แม่เสียแล้ว  ฉันก็มุ่งมานะ สอนหนังสือ เตรียมการสอน
และ รอง ผอ. เพื่อนรุ่นเดียวกันและสนิทกัน
ได้ส่งเสริมให้ฉันไปอบรมและทำผลงานเพื่อเลื่อน วิทยฐานะทาง
วิชาการ เพื่อทำให้หน้าที่การงานให้สูงขึ้น
เงินเดือนจะได้ไม่ตัน  ก็เป็นสิ่งดี  เพราะมีงานศึกษา ค้นคว้า เพื่อทำ
ผลงานเลื่อนตำแหน่ง ทำให้ฉันหายคิดถึงแม่ไปได้บ้าง 
ฉันทำผลงานผ่านและได้เลื่อนตำแหน่งหน้าที่ เป็นระดับ 8  ในปี 35 
ชีวิตฉันก็ไม่ถึงกับเงียบเหงาจนเกินไปนัก 
เพราะมีงานสอน  มีเด็กที่เรียนจากฉันจบไปแล้ว  ก็แวะเวียนมาเยี่ยม
บ้าง ตามเทศกาล หรือวันคล้ายวันเกิดของฉัน

ในปี 40  ฉันก็ได้  "เพื่อนใหม่ "  มาเป็นสมาชิกของบ้าน  เพราะเจ้าของ
เขาจะไปทำงานที่เมืองนอก ไม่มีใครเลี้ยง
น้องชายจึงต้องนำมันมาให้ฉันที่บ้าน  น่าจะประมาณ  เดือนเศษ ๆ
กำลัง ซุกซน  วิ่งไปรอบ ๆ บ้าน กระโดดโลดเต้น 
เหมืองจิงโจ้ ตัวน้อย ๆ  ฉันอดใจอ่อนรับเลี้ยงไม่ได้  ทั้ง ๆ ที่ตั้งใจแล้ว
ว่าจะไม่เลี้ยงอีกแล้วหลังจากที่ตัวก่อนตายไป 

เจ้าของเดิม (แฟนน้องชาย)  ตั้งชื่อ ว่า "ค้อกกี้"   ตอนนี้ถ่ายตอนที่มัน
หลายเดือนแล้ว หน้าตาหล่อเหลาไหม ลูกชายฉัน 
มันก็น่าสงสารมากเหมือนกัน  ตอนมาอยู่ใหม่ ๆ  กลางวัน ฉันไปสอน
หนังสือ  มันต้องอยู่ตัวเดียวที่บ้าน ฉันเปิดไฟ เปิดพัดลม
ให้มัน  ปรากฏว่า วันแรก ๆ  มันก็อาละวาดหนักเอาการ  รื้อเสื้อผ้าของ
น้องชาย ลงมาที่พื้น  ฉีกกระดาษหนังสือพิมพ์
เป็นชิ้นเล็ก ชิ้นน้อย  แถม ฉี่ใส่เสื้อผ้าของน้องชายด้วย  กลับมาจาก
สอนหนังสือ  มีงานเพิ่มขึ้น  จึงต้องอบรมมัน ด้วยไม้เดียว 
และดุ สั่งสอนไปด้วย ว่า  ฉันต้องไปทำงาน หาเงินมาเลี้ยงมัน ถ้า
ยังเกเร  ทำบ้านเลอะเทอะแบบนี้อีก ฉันจะไม่เลี้ยง
จะเอาไปปล่อยวัดเลย  ฟาดเบา ๆ ไป 2-3  แปะ  โดนตีอย่างนี้ไปอยู่
ครั้งสองครั้ง  นิสัยก็เริ่มดีขึ้น ฉันคิดว่า มันคงฟังฉันรู้เรื่อง
ชีวิตฉันเริ่มหายเงียบเหงา  มีมันเป็นเพื่อนใหม่  ตอนเย็นกลับจากสอน
หนังสือ  ก็มีมันมาต้อนรับ กระดิกหางอันน้อยนิด 
กระโดดให้ฉันอุ้ม หอมแก้มกัน เป็นความสุข  หายเหนื่อย ได้จริง ๆ ค่ะ
หายดีใจแล้ว จึงยอมลงจากการอุ้ม ฉันก็ถือสายจูง
มันก็จะวิ่งมาหา  ยืนให้ฉันใส่สายจูง  เพื่อไปทำธุระ (ฉี่  อึ ) และเดิน
เที่ยว  เดินไป ฉี่ไปตามเสาไฟฟ้า ดมโน่นดมนี่
ดูมันก็มีความสุขเช่นเดียวกับฉันนะ  เที่ยวจนพอใจแล้ว เราก็กลับบ้าน
มากินข้าวกัน  ฉันจะคลุกข้าวใส่ชาม  เป็นตับ บ้าง
เป็นกับข้าวเช่นผัดคะน้าใส่หมูบ้าง  กินเหมือนฉัน บ้าง  มันเป็นหมาที่
เลี้ยงง่าย ไม่ยุ่งยาก กินได้ทุกอย่างเหมือนคนเลย
โดยเฉพาะผลไม้ที่ชอบ เช่น เขียวเสวย  ทุเรียน  นี่ชอบที่สุด กินเยอะ
จนตาแฉะ  เดือดร้อนต้องคอยเช็ดขี้ตาให้  อิอิ


ยืนแอ๊กชั่นให้ถ่ายรูป อย่างสง่างาม เชียวนะ ลูกชายฉัน 
ใหม่ ๆ ฉันให้มันนอนนอกห้องนอน ต่อมาก็สงสาร มันมาตะกรุย
ประตูดังแกรก ๆ บ่อย ๆ เลยสงสารเปิดให้เข้ามา แต่ให้นอนเบาะ 
ไม่ได้ให้ขึ้นเตียงนอนด้วย เพราะกลัวเห็บ หมัดเข้าหู นั่นเอง

กลางวัน มันมีที่นอน คือ โซฟา ประจำที่ของมัน ปูด้วยผ้าสะอาด
ตอนนี้ดูเหมือนเป็นหนุ่มเต็มตัวแล้ว เห่า เสียงดัง ใครเดินใกล้ประตู
บ้าน เป็นต้องตกใจเสียงของมัน ถึงตัวจะเล็ก
แต่เสียงดังเหมือนเสียงหมาตัวโตเลย  
เราเคยจากกันเป็นเวลา 1 เดือน ตอนฉันไปเรียนภาษาจีนที่มหา-
วิทยาลัย หวินหนัน มณฑล คุนหมิง
สงสารมันมาก เพราะไปฝากบ้านใคร มันก็ไม่ยอมอยู่ด้วย เห่าทั้งคืน
และไม่ยอมกินข้าวเลย เหลนจึงต้องเอามัน
มาอยู่ที่บ้านฉันเหมือนเดิม กลางคืนก็มานอนที่บ้านฉันเป็นเพื่อนมัน
มันเป็นหมาที่ติดบ้านมาก ตอนฉันกลับจากคุนหมิง
มันโผ กระโดดให้ฉันอุ้ม สี่ตีนเกาะติดตัวฉันไม่ยอมปล่อยเลย เลีย
หน้าเลียตาให้วุ่นวายไปหมด หางกุดเล็ก ๆ 
สั่นกระดิกๆไม่หยุดเลย มันเป็นภาพที่น่าตื้นตันใจมาก หมาเป็นเพื่อน
ที่ซื่อสัตย์ รักเจ้าของมาก 
กว่ามันจะยอมให้ฉันปล่อยมันลงพื้นได้ ก็น่าจะเกือบ 10 นาที นะ
แล้วก็ไปนั่งเฝ้ากระเป๋าเดินทางของฉัน คงไม่อยาก
ให้ฉันต้องจากมันไปอีกกระมัง  อิอิ
เฝ้าให้ดีนะ ลูกชาย อย่าให้ใครมายกกระเป๋าแม่ไป นะ  อิอิ

อากาศหนาวแล้ว  ค้อกกี้ก็ยอมให้ใส่เสื้อตัวที่ฉันซื้อให้โดยดี มัน
เป็นหมาขี้หนาว เพราะขนเกรียน นั่นเอง 
นอนหนาวอยู่บนโซฟา ประจำตัว  
ถ่ายรูป ลูกชายสุดหล่อ ของฉันใส่เสื้อหนาวอีกรูป ค่ะ 

"เพื่อนใหม่" ของฉัน ทำให้ชีวิตของฉัน มีชีวิตชีวามากขึ้น มีความ
สุข  มีกำลังใจมากขึ้น กลับจากทำงาน
ก็มีมันมาต้อนรับดีอกดีใจ เป็นเพื่อน เป็นลูก ความรัก ความผูกพัน 
มากขึ้นทุกวัน ๆ แล้วการพลัดพรากก็เกิดขึ้น
อีกครั้งหนึ่ง ด้วยวัย 13 ปี เป็นความโศกเศร้าที่ยิ่งใหญ่ในชีวิตของ
ฉันอีกครั้งหนึ่ง หลังจากมันจากไป น้ำหนักตัวฉัน
ลดไปสองกิโลกรัมน่าจะได้ และสัญญากับตัวเองและสัญญากับมัน
ว่า ฉันจะเลี้ยงมันเป็นตัวสุดท้ายและจะไม่เลี้ยงหมาอีกเลย 
และฉันก็ได้ทำตามสัญญามาโดยตลอด
ตั้งแต่มันจากฉันไป เมื่อวันที่ 18 มกราคม ปี 52 ฉันไม่เคยเลี้ยง
หมาอีกเลย ค่ะ 
ลาก่อน ค้อกกี้ ลูกชายสุดที่รัก ถ้าชาติหน้ามีจริง มาเกิดเป็นลูกแม่
อีกนะจ๊ะ 

 




 

Create Date : 04 มีนาคม 2562
38 comments
Last Update : 5 มีนาคม 2562 23:21:19 น.
Counter : 1130 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณRinsa Yoyolive, คุณซองขาวเบอร์ 9, คุณNior Heavens Five, คุณสองแผ่นดิน, คุณkae+aoe, คุณ**mp5**, คุณhaiku, คุณtoor36, คุณSai Eeuu, คุณสันตะวาใบข้าว, คุณเกศสุริยง, คุณโอน่าจอมซ่าส์, คุณmcayenne94, คุณชีริว, คุณอุ้มสี, คุณภาวิดา คนบ้านป่า, คุณกะว่าก๋า, คุณคนผ่านทางมาเจอ, คุณเรียวรุ้ง, คุณmambymam, คุณข้ามขอบฟ้า, คุณบาบิบูเบะ...แปลงกายเป็นบูริน, คุณเนินน้ำ

 

เศร้าใจจริงๆค่ะ กับสัตว์เลี้ยงน่ารักที่เราผูกพันธ์มาแต่เด็กๆ
หลายปี อยู่ด้วยกัน ยอมรับเลยว่ามีชีวิตชีวาอย่างมาก
รินก็ชอบเลี้ยงหมาแมว ตั้งแต่ตอนเรียน อยู่ด้วยแล้วสนุกมาก คุยกับหมาแมวมีความสุขดีค่า

แต่พอมันตายไปรินก็ไม่เคยเลี้ยงแมวอีกเลยนับได้เกิน 15 ปีแล้วค่ะไม่เคยเลี้ยง
มีแต่หมาแต่ไม่เอามาเลี้ยงที่บ้านนะคะ เป็นหมาจร เลี้ยงไว้ที่โรงงานดีกว่า และซื้ออาหารเม็ดไปให้บ่อยๆ ฝากคนงานไว้ให้ด้วย
เพราะมีพื้นที่โรงงานกว้างกว่า
เวลารินไปหาแต่ละที พวกจะกระโดดโลดเต้น วิ่งมาหาอย่างดีใจมากจริงๆค่า

 

โดย: Rinsa Yoyolive 6 มีนาคม 2562 17:20:43 น.  

 

เลี้ยงสัตว์แบบนี้ต้องทำใจเลยค่ะอาจารย์
เพราะชีวิตเขาสั้นกว่าเรา
รักมากเขาจากเราไปเร็วเราก็เศร้า

ที่บ้านต้องเลี้ยงหมาตลอดค่ะ
เหมือนเคยชิน
ถ้าไม่มีหมาก็เหมือนขาดอะไรไป

เขาซื้อสัตย์และแสนรู้มาก

แต่ทำใจไว้แล้วค่ะตอนเลี้ยงดูเขา

พอเขาตายไปเราก็จะหามาใหม่ คิดว่าเป็นวาระที่เขาต้องไปเกิดใหม่ค่ะ

 

โดย: ซองขาวเบอร์ 9 6 มีนาคม 2562 20:43:56 น.  

 

สวัสดียามค่ำครับอาจารย์
ผมเข้าใจความรู้สึกการสูญเสียสัตว์เลี้ยงดีครับ
บ้านผมเคยมีแมวจรจัดมาอยู่ เป็นแมวลายสีส้ม ด้วยความที่ทางบ้านผมสงสารมันก็เลยเอามาเลี้ยง แต่น่าเสียดายที่มันอายุสั้นตายไปเสียก่อน
มันตายไปวันเดียวกับน้องพีทจากไปเลยครับ
โหวตครับ

 

โดย: Nior Heavens Five 6 มีนาคม 2562 22:36:43 น.  

 

สวัสดียามเช้าครับ อาจารย์สุ
เพื่อนใหม่น้องมะหมา เลี้ยงไว้มีแต่ประโยชน์ ถึงจะดื้อบ้าง เลอะเทอะบ้างก็เป็นไปตามวัย
ล่าสุดอ่านเจอ เลี้ยงน้องมะหมา หรือ สัตว์เลี้ยง ช่วยป้องกันโรคสมองเสื่อม
ที่บ้านตอนนี้ มีน้องมะหมาบีเกิล 1 ตัว แมวเปอร์เซีย 2 ตัว
เลี้ยงน้องมะหมาเหมียว เราดุด่า ก็ไม่โต้เถียงเรา 555
ถ้าเป็นเลี้ยงหลานเหลนบางคนเราดุด่า โดนสวนกลับ บางคนเป็นทรพีได้

 

โดย: สองแผ่นดิน 7 มีนาคม 2562 8:20:46 น.  

 

ส่งกำลังใจครับ

 

โดย: **mp5** 7 มีนาคม 2562 13:32:16 น.  

 

โรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบนี่ผู้หญิงเป็นกันเยอะนะครับ โดยเฉพาะผู้ที่สูงอายุ ต้องระวังในเรื่องการกั้นฉี่ให้ดีๆ ไม่ควรกั้น เสียใจเรื่องคุณแม่ด้วยนะครับ

หมาพันธุ์นี้พลังเยอะครับ ชอบกระโดดด้วย อายุยืนเหมือนกันนะ 13 ปีเลย สุนัขส่วนมากถ้าอยู่ได้สัก 10 ปีก็ถือว่าอายุยืนพอตัวแล้วล่ะครับ

 

โดย: คุณต่อ (toor36 ) 7 มีนาคม 2562 23:40:47 น.  

 

น่าประทับใจค่ะ เก็บไว้เป็นความทรงจำดีๆ นะคะ อาจารย์สุ

 

โดย: Sai Eeuu 8 มีนาคม 2562 1:56:46 น.  

 

สวัสดีค่ะ อาจารย์^^

เศร้านะคะ อยู่ด้วยกันมานาน และต้องไม่เห็นกันตลอดไป

แกงก็เคยมีความผูกพันแบบนี้ครั้งหนึ่งค่ะ เลี้ยงมาเกือบ 6 ปี
ทุกวันนี้ทุกครั้งที่กลับบ้านก็จะมอง ที่ๆเขาเคยนอน(หน้าบันได)
เหลือไว้เพียงกระดิ่งที่แขวนคอ
ณ ตอนนี้ไม่คิดเลี้ยงอะไรแล้วค่ะ ยังฝังใจอยู่ค่ะ

 

โดย: สันตะวาใบข้าว 8 มีนาคม 2562 10:22:41 น.  

 

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
เรียวรุ้ง Literature Blog ดู Blog
The Kop Civil Literature Blog ดู Blog
JinnyTent Book Blog ดู Blog
สายหมอกและก้อนเมฆ Photo Blog ดู Blog
kae+aoe Parenting Blog ดู Blog
Insignia_Museum Diarist ดู Blog
Sweet_pills Food Blog ดู Blog
อาจารย์สุวิมล Diarist ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น
แวะมาส่งกำลังใจให้คุณครูค่ะ

 

โดย: เกศสุริยง 8 มีนาคม 2562 14:07:04 น.  

 

คิดถึงครูค่ะ

 

โดย: โอน่าจอมซ่าส์ 8 มีนาคม 2562 14:14:13 น.  

 

เศร้าจังค่ะ
เลี้ยงตัวเล็กๆอีกก็น่ารักดีนะคะอาจารย์
ตอนนี้ว่างแล้วกลางวันไม่ต้องไปสอนหนังสือเขาก็ไม่เหงา

 

โดย: mcayenne94 8 มีนาคม 2562 19:15:14 น.  

 

เขาว่า สุนัขเป็นชาติสุดท้ายก่อนจะได้เกิดเป็นคน
ป่านนี้เค้าคงได้ไปเกิดใหม่และพูดได้แล้วนะคะ

ทุกชีวิตต้องผ่านการศูนย์เสียทั้งนั้นนะคะ

ไว้พี่กลับมาใหม่ค่ะ วุ่นๆหลายวัน ติดค้างเพื่อนๆเยอะแยะ
ต้องค่อยๆผ่อนค่ะ 55 วันนี้ตั้งใจมารับอาจารย์ไปชมดอกไม้ค่ะ

 

โดย: ภาวิดา คนบ้านป่า 8 มีนาคม 2562 19:20:32 น.  

 

สมัยก่อนเที่ยวทะเล บางแสนจะเป็นที่ยอดนิยมเลยครับ ไม่รู้เพราะหาดอื่นยังไม่เป็นที่รู้จักหรือยังไง บ้านผมก็ไปแต่บางแสน วันไหนว่างพอจะไปไกลหน่อยค่อยไปชะอำ-หัวหิน
ชีวิตที่อยู่กับคุณแม่ พอท่านจากไปอย่างไม่ทันตั้งตัวเป็นจุดพลิกผันของชีวิตเลยนะครับ อาจารย์ผ่านความยากลำบากมาเยอะจริงๆ เมือ่ไม่มีพ่อแม่แล้ว สิ่งสำคัญที่เหลือก็คือเพื่อนที่อยู่รอบข้างนี่แหละ ผมเสียคุณยายไปเมื่อสองปีก่อน ช่วงที่เสียคนรักมันเคว้งคว้างไปหมดจริงๆครับ กว่าจะกลับมาใช้ชีวิตปกติได้ก็กินเวลาพอสมควรเลย
ส่วนเพื่อนใหม่ นุ้งหมานี่ไม่คิดจะเลี้ยงเลยครับ ต้องดูแลอีก แต่ถ้าเลีย้งดีๆไม่ให้ก่อความเดือดร้อนให้ใคร มันก็เป็นเพื่อนหมายเลข 1 ของมนุษย์อย่างที่หลายคนบอก
แต่นุ้งหมาอายุขัยก็สิบปีหน่อยๆ ถ้าจะเลี้ยงต้องเตรียมใจตอนที่มันจากไปนี่ละครับ เรื่องยาก ถ้าคนที่เคยผูกพันกันได้วนเวียนกลับมาพบกันใหม่ในกาลข้างหน้าก็ดีนะครับ

 

โดย: ชีริว 8 มีนาคม 2562 23:31:01 น.  

 


บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ข้ามขอบฟ้า Klaibann Blog ดู Blog
อาจารย์สุวิมล Diarist ดู Blog

แวะมาดูค็อกกี้ค่ะ
ตาโปนน่ารักนะคะ
อ่านไปเศร้าไปค่ะครู
โหวตก่อนนอน

 

โดย: อุ้มสี 9 มีนาคม 2562 1:35:00 น.  

 

หลายคนยอมรับความตายของสัตว์เลี้ยงไม่ได้
ทั้งที่รู้ว่าอย่างไรความตายก็ต้องมาเยือน

เสียดายโอกาสของสัตว์เลี้ยงตัวอื่น
ที่อดมีเจ้านายดีๆ ไป

 

โดย: เพรางาย 9 มีนาคม 2562 11:17:34 น.  

 

โหวตครับอาจารย์

อ่านแล้วรู้สึกถึงความรัก ความผูกพัน และความพลัดพราก
ที่พร้อมจะเกิดขึ้นเสมอในชีวิตคนเรา

พี่ชายผมก็จากไปกระทันหันมากครับ
ทั้งๆที่เป็นคนแข็งแรงมาก
เขาสอนผมว่าชีวิตคนเรานั้นไม่แน่นอนจริงๆ

อาจารย์แวดล้่อมไปด้วยคนดี คนที่รักและคอยห่วงใย
ไม่ว่าจะเป็นหัวหน้า เพื่อนครู หรือแม้แต่ลูกศิษย์
ถือเป็นความรักที่อบอุ่นมากๆครับ

 

โดย: กะว่าก๋า 9 มีนาคม 2562 20:01:59 น.  

 



อรุณสวัสดิ์ครับอาจารย์


 

โดย: กะว่าก๋า 10 มีนาคม 2562 6:37:45 น.  

 

สวัสดีคะอาจารย์สุวิมล...

เพื่อนใหม่น่ารักจังคะ...อิอิ

 

โดย: ๊อ้อมแอ้ม (คนผ่านทางมาเจอ ) 10 มีนาคม 2562 11:23:10 น.  

 

สวัสดียามเย็นครับอาจารย์
ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตครับ

 

โดย: Nior Heavens Five 10 มีนาคม 2562 17:42:47 น.  

 

กราบงามๆที่ตักครูที่อบอุ่นค่ะ

 

โดย: โอน่าจอมซ่าส์ 10 มีนาคม 2562 18:23:08 น.  

 

การได้ผูกพัน และเมื่อวันสูญเสียมาถึง

เป็นเรื่องน่าเศร้าเสมอนะคะ

อ่านแล้วซึม

แต่ถึงแม้จะต้องเศร้า อย่างน้อยการได้พบเพื่อผูกพันก็ยังได้ทำให้เรามีความทรงจำดีๆ ให้ระลึกถึงเมื่อห่างไกล

 

โดย: เรียวรุ้ง 10 มีนาคม 2562 22:14:23 น.  

 

ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตครับอาจารย์

อาทิตย์สุดท้ายของเดือนมีนา
บ้านมาดามก็จะขึ้นมาเช็งเม้งที่เชียงใหม่ครับ
ของผมคิดว่าปีนี้ก็คงไม่ได้ลงไปที่ชลบุรี
เพราะหมิงหมิงเปิดเรียนพอดีครับ

ภาพชุดนี้ผมถ่ายตอนหน้าหนาว
บนยอดดอยฟ้าจะสีฟ้าเข้มครับ

 

โดย: กะว่าก๋า 10 มีนาคม 2562 22:21:30 น.  

 

สวัสดียามเช้าครับอาจารย์

 

โดย: กะว่าก๋า 11 มีนาคม 2562 6:26:46 น.  

 

ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตครับอาจารย์

ผมเองในสมัยก่อนก็ไม่ได้เป็นคนน่ารักครับ 555
เพื่อนทำงานด้วยยบากพอสมควร
ใจร้อนมากด้วย

แต่สุดท้ายก็เปลี่ยนครับ
เพราะผมรู้ดีว่า
หากยังรักษานิสัยแบบนี้ไว้กับตัว
คนรอบข้างหรือคนที่ทำงานด้วย
คงไม่มีความสุขแน่นอน

 

โดย: กะว่าก๋า 11 มีนาคม 2562 10:20:07 น.  

 

ที่นี่บนด้วยปลากริมไข่เต่า วัดธาตุทองบนด้วยสาคูมะพร้าวอ่อน
อยากรู้จริงๆว่าใครเป็นต้นคิดคนแรกนะครับ อาจเป็นแม่ค้าขายขนมแถวนั้นก็ได้

 

โดย: ชีริว 11 มีนาคม 2562 20:44:03 น.  

 

สวัสดีค่ำๆครับ อาจารย์สุ
อัพบล็อกใหม่แล้วครับ



 

โดย: สองแผ่นดิน 11 มีนาคม 2562 22:17:53 น.  

 

สวัสดีค่ะอาจารย์
เพื่อนใหม่น่ารักจังเลยค่ะ
หวังว่าจะช่วยให้คลายเหงาได้นะคะ
มีเพื่อนใหม่แบบนี้ แล้วจะเดินทางไหท่องเที่ยวได้ยังไงค่ะ
หรือว่ามีคนรับอากาศดูแล
ไม่ได้คุยกันนานอาจารย์สบายดีนะคะ

 

โดย: ข้ามขอบฟ้า 12 มีนาคม 2562 0:07:22 น.  

 

สวัสดียามเช้าครับอาจารย์

 

โดย: กะว่าก๋า 12 มีนาคม 2562 6:04:47 น.  

 

ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตครับอาจารย์

ผมเคยมีเพื่อนที่เคยเป็นเด็กเรียน
เรียนเก่งมาก
พอเปลี่ยนที่เรียน เปลี่ยนเพื่อนใหม่
ชีวิตเปลี่ยนเลยครับ
กลายเป็นคนติดเหล้า
ผลการเรียนตกต่ำ
ไม่น่าเชื่อเลยครับ
ว่าวิธีคิดจะส่งผลมากมายต่อชีวิต


 

โดย: กะว่าก๋า 12 มีนาคม 2562 15:19:38 น.  

 

สวัสดียามเย็นครับอาจารย์
ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตครับ

 

โดย: Nior Heavens Five 12 มีนาคม 2562 17:20:25 น.  

 

เข้ามาอีกรอบ
น้องตาใสมากกกกกกกกกกกกก
ราตรีสวัสดิ์ค่ะ

 

โดย: อุ้มสี 13 มีนาคม 2562 0:57:11 น.  

 


สวัสดียามเช้าครับอาจารย์


 

โดย: กะว่าก๋า 13 มีนาคม 2562 6:45:03 น.  

 

มีน้องหมาเป็นเพื่อนก็ช่วยให้คลายเหงาไปได้ แต่พอเค้าจากไปก็ทำให้ยิ่งเศร้า เข้าใจเลยค่ะ

 

โดย: บาบิบูเบะ...แปลงกายเป็นบูริน 13 มีนาคม 2562 12:56:04 น.  

 

สวัสดียามเช้าครับอาจารย์

ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในชีวิต
ผมว่ามันเป็นบทเรียนที่ดีเลยครับ
ถ้าเรายอมรับความจริงที่เกิดขึ้นได้
ไม่ว่าจะเรื่องร้ายหรือดี
เราก็ได้เรียนรู้อะไรบางอย่างจากมันเสมอ

ช่วงนี้เน็ตผมเสียเกือบตลอดเวลา
ไม่ได้หงุดหงิดเลยครับ
อ่านหนังสือแทน 555


ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตครับ


 

โดย: กะว่าก๋า 14 มีนาคม 2562 6:18:08 น.  

 

ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตครับอาจารย์

24 มีนาคม
ถ้าเป็นการเลือกตั้งอย่างโปร่งใส
ผมคิดว่าจะเป็นการสะท้อนความรู้สึกประชาชนได้ดีที่สุดครับ
ว่า 5 ปีที่ผ่านมารู้สึกอย่างไร

 

โดย: กะว่าก๋า 14 มีนาคม 2562 10:05:46 น.  

 

สุนัขซื่อสัตย์ รักเจ้าของ
เลี้ยงแล้วก็รัก ไม่อยากพรากจากกัน
แต่มันก็เป็นสัจจธรรมนะคะ

 

โดย: เนินน้ำ 14 มีนาคม 2562 10:28:50 น.  

 


สวัสดียามเช้าครับอาจารย์

 

โดย: กะว่าก๋า 15 มีนาคม 2562 7:28:01 น.  

 

มาชวนอาจารย์ไปชิมแกงขี้เหล็กค่ะ
ถ้าไม่กลัวขมนะคะ 55

 

โดย: ภาวิดา คนบ้านป่า 15 มีนาคม 2562 14:30:55 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

space

อาจารย์สุวิมล
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 46 คน [?]




เป็นครูสอนภาษาไทยที่เกษียณอายุราชการแล้ว สนใจเรื่องการเขียนหนังสือให้ความรู้ ชอบการท่องเที่ยว หากท่านที่เข้ามาชมและอ่านแล้ว มีความสนใจและต้องการสอบถามเรื่องความรู้ด้านภาษาไทย ถ้ามีความสามารถจะให้ความรู้ได้ ก็ยินดีค่ะ

http://i697.photobucket.com/albums/vv337/dd6728/color_line17.gif
space
space
space
space
[Add อาจารย์สุวิมล's blog to your web]
space
space
space
space
space