1 2 3 4 5
6 7 8 9 10 11 12
13 14 15 16 17 18 19
20 21 22 23 24 25 26
27 28 29 30
มหาลัยวัยซน "มหาลัยวัยซน" เป็นโจทย์ ตะพาบกิโลเมตรที่ 280 ผู้ตั้งโจทย์ คือ คุณ nonnoiGiwGiw จากหัวข้อเรื่อง ขอตีความหมายของโจทย์ก่อน ค่ะ "มหาลัยวัยซน" เป็นคำที่เกิดจากการรวมคำสองคำมารวมกัน เรียกการรวมคำ วิธีนี้ว่า "สนธิ" ซึ่งเป็นการนำคำที่มาจาก ภาษาบาลี และ สันกฤกต มา รวมกันแล้วเกิดความหมายใหม่ขึ้น มหาลัย มาจาก คำว่า มหา มารวมกับคำ อาลัย เป็น มหาลัย มหา แปลว่า ยิ่งใหญ่ อาลัย แปลว่า ที่อยู่ (ไทยเรานำมา ใช้ในอีกความหมายหนึ่งว่า เสียใจ) ดังนั้น ศัพท๋คำนี้ รวมแล้ว จีงแปล ได้ใจความว่า "ที่อยู่อันยิ่งใหญ่" แล้วไปรวมกับคำว่า วัยซน จึงมีความหมายว่า "ที่อยู่อันยิ่งใหญ่ของวัยซน" ซึ่งฉันคิดว่า เจตนา หรือจุดประสงค์ของผู้ตั้งโจทย์ ไม่น่าจะให้หมายถึง ความหมายดังกล่าว น่าจะต้องการให้หมายถึง ชีวิตวัยซนในขณะที่ เรียนอยู่ในมหาวิทยาลัยมากกว่า ที่ตั้งโจทย์ว่า มหาลัยวัยซน คงใช้คำสั้น ๆ ให้เหลือ "มหาลัย" เหมือนที่เคยเห็นใช้ กันมากมายในโซเชียล ซึ่งทำให้ความหมายเดิม เปลี่ยนแปลงไป ฉันจึงเห็นว่า ควรใช้ว่า "มหาวิทยาลัยวัยซน" ซึ่งจะ แปลว่า "ชีวิตวัยซนในมหาวิทยาลัย " จะทำให้ ตรงกับจุดประสงค์ในการเขียน ตะพาบ ครั้งนี้ ค่ะ ความคิดเห็นอีกเรื่องหนึ่ง ฉันคิดว่า การเรียนในขั้นอุดมศึกษาแล้ว วัยของเรา ไม่น่าจะเป็นวัยซนแล้ว มั้ง อิอิ ดังนั้น ฉันจึงจะเขียนถึงเหตุการณ์ต่าง ๆ ของฉันในการใช้ชีวิตในวัยที่เรียนอยู่ ในมหาวิทยาลัยของฉัน นะคะ ฉันสอบเอ็นทรานซ์ ได้ที่ วิทยาลัยวิชาการศึกษา บางแสน (ปัจจุบัน เป็นมหาวิทยาลัย บูรพา ค่ะ ) ซึ่งในสมัยนั้น วิทยาลัยวิชา การศึกษา มีทั้งหมด 8 แห่ง เรียกว่า 8 ว.ศ. มีหน้าที่ผลิตครูโดยตรง มีอยู่ไม่กี่คณะ ทุกคนต้องเลือกเรียนวิชาเอก และ วิชาโท สมัยนั้นการเรียนครูไม่ได้เป็นเรื่องง่ายเลย นักศึกษาทุกคนจะต้องทำ คะแนนเฉลี่ยเมื่อถึงปลายปีสอง ให้ได้ 2.5 มิฉะนั้น จะต้องถูกรีไทร์ ไม่มีโอกาสได้เรียนต่อปี 3 คือได้วุฒิแค่ อนุปริญญา ชีวิตฉันในรั้ววิทยาลัยวิชาการศึกษา ไม่ใช่เป็นวัยซน ค่ะ แต่เป็นวัยที่ ต้องตั้งใจเรียน ขยันมากกว่าเพื่อนร่วมรุ่น เพราะว่า ฉันเป็นเด็กสอบเทียบทั้งมัธยมต้นและมัธยมปลาย ดังนั้น ความรู้ที่มี จึงไม่แน่นเหมือนเพื่อน ๆ ที่เขาเรียนภาคกลางวันมา นอกจากนี้ ฐานะทางบ้านก็เปลี่ยนแปลงไป พ่อป่วย กิจการค้าต้องเลิก กิจการไป ฉันต้องใช้จ่ายอย่างประหยัด นับเป็นความโชคดีของฉัน ในสมัยนั้น ทางวิทยาลัย ไม่มีการเก็บค่า หน่วยกิต ค่าอาหารสามเทอม ก็ถูกมาก ปีละ สองพันบาท ค่าหอพักก็แสนจะถูก สี่ปี เสียเงินเพียงพันสองร้อยบาท นี่เป็นบุญของ ฉันในยามนั้น ถ้าต้องเสียค่าใช้่จ่ายในการเรียนมาก เหมือนปัจจุบัน ฉันคงต้องแย่แน่ ๆ ค่ะ ฉันจึงสำนึกบุญคุณของรัฐ เสมอ ที่ได้ให้นิสิตได้เรียน เหมือนหนึ่งเป็นนักเรียนทุน ฉันจึงไม่เคยคิดที่จะออกจากอาชีพครู ทั้ง ๆ ที่บริษัทเอกชนเสนอเงิน เดือนมากกว่าเป็นพัน เพราะฉันมีพื้นฐานภาษาจีนอยู่บ้าง และครูอาจารย์แต่ละท่าน ก็ตั้งใจสอน อบรมบ่มนิสัยพวกเราให้มีความรู้ มีจรรยาบรรณของอาชีพครู ที่นี่ระเบียบเคร่งครัดมาก แยกหอหญิง หอชาย และรับนิสิตเข้าเรียนตามจำนวนห้องพักที่ว่าง อย่างรุ่นของฉัน รับเพียง 199 คน เท่านั้นค่ะ หอชายและหอหญิงอยู่ห่างกัน หอชายจะอยู่ด้านหน้าของวิทยาลัยฯ ส่วนหอหญิงจะอยู่ด้านในของวิทยาลัย ฯ นิสิตทุกคนจำเป็นต้องมีรถจักรยาน เพราะว่า เวลาไปเรียนจากหอไป ยังตึกเรียนไกลมากพอควร เมื่อเจอนิสิตหญิง นิสิตชายต้องลงจากรถมาเดินด้วย แต่ถ้ามีเรื่องรีบด่วน ต้องขออนุญาต นิสิตหญิงไปก่อนตามมารยาทธรรมเนียมของที่นี่ ค่ะ ระเบียบหอหญิง เคร่งครัดมาก คือ จะต้องเข้าหอพักไม่เกิน 6 โมงเย็น นิสิตชายก็ไม่สามารถมาที่หอหญิงได้ในเวลาดังกล่าว กิจกรรมของนิสิตปีหนึง มีมากมายที่เดียว เทอมแรก ทุกคนต้องตื่น แต่เช้า เพราะว่า จะมีรุ่นพี่มานำไปวิ่งออกกำลังกายตั้งแต่ ตีห้าครึ่ง ใครไม่ลงวิ่งมีการลงโทษ ถ้าเจ็บป่วยต้องแจ้งให้ทราบ มี การเช็คชื่อทุกเช้า ค่ะ เป็นกิจกรรมที่ช่วยให้ร่างกาย แข็งแรง ปีหนึ่งนิสิตหญิงต้องใส่รองเท้าสีขาวอย่างเดียว นิสิตชายจะ ต้องผูกเน็คไท สีเทา (มีปักสีทอง) เป็นสีของบางแสนเรา อีกกิจกรรมหนึ่ง คือ กิจกรรมร้องเพลงเชียร์ ค่ะ จะมีรุ่นพี่มาซ้อมให้ทุก เย็น ค่ะ เป็นการปลูกฝังให้รักสถาบัน การรับน้อง ก็น่ารัก ไม่มีรุนแรงเหมือนสมัยนี้ มีการเขียนหน้า ปะแป้ง ให้กินขนมโก๋ มีให้ดิ่มน้ำ มีการหลอกให้กราบตอมะพร้าว ฯ,ลฯ หอพักหญิง ค่ะ ห้องหนึ่งพักกันสองคน เป็นเตียงสองชั้น ค่ะ จักรยานคู่ชีพ ค่ะ กิจกรรมซ้อมเชียร์ตอนเย็น ประมาณ 6 โมงเย็นถึงสองทุ่ม ค่ะ ประชุมเพื่อเลือกสัญลักษณ์ของปี ค่ะ รุ่นเรามีสัญลักษณ์ คือ พิราบขาว กิจกรรมอื่น ๆ ก็มี เช่น ไปเรียนภาคปฏิบัตินอกสถานที่ เรียนวิชาอาร์ต (วาดรูปนอกสถานที่ ค่ะ ) บางครั้งอาจารย์ก็จัดทัศนศึกษาด้วยค่ะ แต่ฉันไม่ค่อยได้ไปหรอกค่ะ เพราะต้องใช้เงิน ฉันจึงไปบ้างเป็นบางครั้งเท่านั้น ค่ะ ทัศนศึกษาที่ หาดผาแดง ค่ะ กิจกรรมช่วงกลางคืน ค่ะ ชีวิตในมหาวิทยาลัย เป็นชีวิตที่สนุกสนานพอสมควร ฉันร่วมกิจกรรม ตามที่วิทยาลัยฯจัด บ้าง รุ่นของตัวเองจัดบ้าง ช่วงวันหยุด ฉันก็ขี่จักรยานคู่ชีพ มีวิทยุทรานซิเตอร์ 1 เครื่อง สื่ออีก 1 ผืน ไปนั่งอ่านหนังสือที่ชายหาดบางแสน ฟังเพลงไปและดูตำรับตำราไปด้วย ช่วงชีวิตนี้ ฉันว่า เป็นช่วงชีวิตที่มี ความสุขที่สุด ค่ะ จะกลับบ้านเดือนละครั้ง เพื่อเยียมแม่ ช่วงวันหยุดขี่จักรยานคู่ชีพ ไปอ่านหนังสือที่ชายหาดบางแสน ฟัง เสียงคลื่น สายลม ที่พัดผ่าน สุขใจจริง ๆ ค่ะ เพื่อนฝูงมีจดหมายไปที่วิทยาลัยฯบ้าง ทำให้หายเหงาได้บ้าง บางครั้ง เพื่อน ๆ ที่เรียนลัดด้วยกันก็แวะไปเยี่ยมบ้าง เพื่อนที่เรียนลัดด้วยกันมาเยี่ยมที่วิทยาลัย ฯ ค่ะ ในช่วงปี 4 ก็ต้องฝึกสอน 1 เทอม ฉันเลือกฝึกสอนที่โรงเรียนสุขบท ช่วงฝึกสอนก็เป็นช่วงที่มีความสุขอยู่กับเด็ก ๆ ได้ประสบการณ์มากทีเดียว เตรียมทำแผนการสอน การจัดทำอุปกรณ์ การสอน สื่อการสอน เด็ก ๆ ที่สอน เป็นชั้นม.ศ.2 กำลังอยู่ในวัยซน วัยหัวเลี้ยวหัวต่อ ชอบลองดี ดื้อ แต่ฉันก็ใชกลยุทธ เทคนิคการสอนและจิตวิทยาเด็กวัยรุ่นที่เรียนมาใช้ ผ่านไปสักอาทิตย์ ก็สามารถสนิทสนมกับพวกเขาได้เป็นอย่างดี ค่ะ มีการจัดทัศนศึกษา พาพวกนักเรียนไปเที่ยวกันด้วย เด็ก ๆ ทุกคนสนุกสนาน หน้าตายิ้มแย้มแจ่มใส ค่ะ หลังจากจบการฝึกสอนแล้วทางโรงเรียนก็มีการจัดงานเลี้ยงส่งพวกเรา เด็ก ๆ น้ำดอกไม้ มาลัย มาไหว้อำลา บางคนก็ร้องไห้ ทำให้ฉันพลอยน้ำตารื้นไปด้วย หลังจากที่จบการฝึกสอน วันหยุด เด็ก ๆ ก็ยังแวะเวียนไปเยี่ยมฉัน ที่วิทยาลัยฯ บ้าง ค่ะ เรียกว่า เป็นความผูกพันกัน ระหว่างครูฝึกสอนกับนักเรียน นั่นเอง ทั้งหมดที่เขียนมา เป็นชีวิตในมหาวิทยาลัย ตามจุดมุ่งหมายของ ตะพาบ ในครั้งนี้ ค่ะ สวัสดี ค่ะ
Create Date : 24 มิถุนายน 2564
Last Update : 24 มิถุนายน 2564 18:31:03 น.
37 comments
Counter : 1271 Pageviews.
ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณโอน่าจอมซ่าส์ , คุณสองแผ่นดิน , คุณhaiku , คุณกะว่าก๋า , คุณไวน์กับสายน้ำ , คุณสายหมอกและก้อนเมฆ , คุณจันทราน็อคเทิร์น , คุณหอมกร , คุณtoor36 , คุณคนผ่านทางมาเจอ , คุณnewyorknurse , คุณเริงฤดีนะ , คุณSweet_pills , คุณ**mp5** , คุณชีริว
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 24 มิถุนายน 2564 เวลา:20:30:04 น.
โดย: สองแผ่นดิน วันที่: 24 มิถุนายน 2564 เวลา:23:06:05 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 25 มิถุนายน 2564 เวลา:6:20:20 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 25 มิถุนายน 2564 เวลา:20:37:00 น.
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 25 มิถุนายน 2564 เวลา:21:57:05 น.
โดย: อ้อมแอ้ม (คนผ่านทางมาเจอ ) วันที่: 25 มิถุนายน 2564 เวลา:22:58:39 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 26 มิถุนายน 2564 เวลา:6:54:20 น.
โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 26 มิถุนายน 2564 เวลา:6:58:38 น.
โดย: Sweet_pills วันที่: 26 มิถุนายน 2564 เวลา:8:49:52 น.
โดย: **mp5** วันที่: 26 มิถุนายน 2564 เวลา:12:58:36 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 26 มิถุนายน 2564 เวลา:17:39:17 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 27 มิถุนายน 2564 เวลา:6:52:17 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 27 มิถุนายน 2564 เวลา:14:02:54 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 28 มิถุนายน 2564 เวลา:5:42:49 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 28 มิถุนายน 2564 เวลา:21:40:24 น.
โดย: ชีริว วันที่: 28 มิถุนายน 2564 เวลา:23:06:45 น.
โดย: Sweet_pills วันที่: 28 มิถุนายน 2564 เวลา:23:12:32 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 29 มิถุนายน 2564 เวลา:5:50:18 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 29 มิถุนายน 2564 เวลา:15:09:50 น.
โดย: อุ้มสี วันที่: 29 มิถุนายน 2564 เวลา:21:51:08 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 30 มิถุนายน 2564 เวลา:6:05:14 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 30 มิถุนายน 2564 เวลา:15:18:39 น.
โดย: ชีริว วันที่: 30 มิถุนายน 2564 เวลา:21:34:49 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 1 กรกฎาคม 2564 เวลา:6:14:46 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 1 กรกฎาคม 2564 เวลา:12:00:07 น.
โดย: อ้อมแอ้ม (คนผ่านทางมาเจอ ) วันที่: 1 กรกฎาคม 2564 เวลา:21:10:11 น.
โดย: Sweet_pills วันที่: 1 กรกฎาคม 2564 เวลา:23:35:31 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 2 กรกฎาคม 2564 เวลา:6:18:57 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 2 กรกฎาคม 2564 เวลา:11:01:37 น.
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 46 คน [? ]
เป็นครูสอนภาษาไทยที่เกษียณอายุราชการแล้ว สนใจเรื่องการเขียนหนังสือให้ความรู้ ชอบการท่องเที่ยว หากท่านที่เข้ามาชมและอ่านแล้ว มีความสนใจและต้องการสอบถามเรื่องความรู้ด้านภาษาไทย ถ้ามีความสามารถจะให้ความรู้ได้ ก็ยินดีค่ะ
http://i697.photobucket.com/albums/vv337/dd6728/color_line17.gif
ล้างจานแพ้บนึงเดี๋ยวกลับมาครับ แฟนตามแว้ววววว