1 2
3 4 5 6 7 8 9
10 11 12 13 14 15 16
17 18 19 20 21 22 23
24 25 26 27 28
คู่หูของฉัน "คู่หู" เป็นโจทย์ ตะพาบกิโลเมตรที่ 221 ผู้ตั้งโจทย์ครั้งนี้ คือ น้องต่อ 36 ค่ะ เธอมีนามว่า นางสาวนิทรา วรรณะ ค่ะ น่ารัก ใจดี ทำงานเก่ง ขยัน ลองเดาดูว่า คนไหนเอ่ย เป็น เพื่อนคู่หู ของฉัน ชั่วชีวืตของคนเรา ย่อมต้องมีเพื่อน จะมาก จะน้อย ก็ตามแต่ที่เราจะ เลือกคบ และเพื่อนที่เราคบ ก็มีหลายระดับ ไม่ใช่ระดับของฐานะหรอกนะ แต่หมายถึงระดับของความสนิท ความ ผูกพันที่มีต่อกันและกัน ค่ะ เพื่อนที่สนิทและผูกพันย่อมมีน้อยกว่าเพื่อนธรรมดา ๆ ทั่ว ๆ ไป เช่น เพื่อนที่ร่วมงานกัน เพื่อนบ้าน เป็นต้น ประมาณปี 2517 ฉันเรียนจบ ก.ศบ. (ปีการศึกษา 2516) เป๊นปีที่รู้สึก เหนื่อยมาก เพราะต้องเตรียมตัวสอบ บรรจุเข้ารับราชการเป็นครู ถ้าสอบไม่ติด ก็ต้องตกงาน และก็เป็นความ ทุกข์อย่างหนักอีก เพราะผลสอบปรากฏว่า ครูภาษาไทย ทั่วประเทศรับบรรจุ 80 คน ฉันสอบได้ที่ 81 ต้องรอเรียก บรรจุในรอบสองต่อไป ตอนนี้ ก็มีความทุกข์ ในการวิ่งสมัครตามโรงเรียนราษฎร์ต่าง ๆ รูปถ่ายที่นำไปสมัครต้องอัด เป็นโหลเลย เพราะสมัครไป น่าจะ 4-5 โรงเรียน แล้วก็มานั่งรอว่า โรงเรียนราษฎร์โรงเรียนไหนจะเรียกเราไป รอเป็น สัปดาห์ผ่านไปแล้ว ไม่มีสักโรงเรียกเลย เฮ้อ ! ทั้ง ๆ ที่โรงเรียนทุกแห่งก็เปิดเรียนแล้ว ตั้งแต่วันที่ 16 พฤษภาคม ความทุกข์ช่วงตกงาน มีความรู้สึกว่า เวลามันช่างผ่านไป ช้าเหลือเกิน ช่วงเวลาที่ตกงานอยู่ประมาณ 21 วัน ทางกระทรวงก็มี จดหมายมาที่บ้านเรียกไปรับคำสั่งแต่งตั้งบรรจุ เฮ้อ !เหมือนความทุกข์นั้นได้ถูกยกออกจากอกไปอย่างปลิดทิ้งทีเดียว ฉันรีบแต่งตัวออกจากบ้านแต่เช้า เพื่อไปที่กระทรวงศึกษาธิการ เจ้าหน้าที่ให้การต้อนรับข้าราชการครู บรรจุใหม่ด้วยไมตรีจิตที่ดี มีสองโรงเรียนให้ฉันเลือก คือ โรงเรียนศรีบุณยานนท์ และ อิสลามวิทยาลัยแห่งประเทศไทย เจ้าหน้าที่พยายามแนะนำว่า ให้เลือกอิสลามวิทยาลัยฯ ซึ่งก็ตรงกับความคิดของฉัน เพราะว่า โรงเรียนศรีบุณยานนท์ นั้น อยู่ ต่างจังหวัด คือ นนทบุรี แต่ อิสลามวิทยาลัยฯ อยู่จังหวัดธนบุรี ซึ่งฉันเคยสอนโรงเรียนราษฎร์ในสมัยที่หาเงินเรียนภาค ค่ำ อยู่หลายปี คือรู้จัก ธนบุรี มากกว่า เมืองนนทบุรี ฉันจึงเลือก อิสลามวิทยาลัยฯ ตามที่เจ้าหน้าที่แนะนำ มาทราบภาย หลังว่า ที่อิสลาม ฯนั้น มีครูเอกภาษาไทยที่ส่งไปบรรจุแล้ว 3 คน ไม่มีใครยอมสอนที่นี่เลยสักคน เพราะหนทางไปลำบากมาก ไกล ปืนเที่ยง เด็กที่สอนโดยเฉพาะ ม.ปลาย เป็นนักเรียนคัดเลือกมาจาก 4 จังหวัดภาคใต้ เพื่อให้มาเรียนที่กรุงเทพฯ ให้พวกเขาได้เรียนภาษาไทย และพวกนี้จะได้อยู่หอพัก ของโรงเรียนด้วย เด็กนักเรียนแต่ละคน ตัวโตมาก บางคนมีหนวดเครา บางคนอายุก็ 25-26 ปี แก่กว่าครูอีก น่าจะเป็นสาเหตุที่ ครูบรรจุใหม่ ท้อใจ ถอนตัวสละสิทธิ์ไปแหละนะ แต่ สำหรับฉันซึ่งเป็นคนที่ 4 ที่เขาส่งมา บรรจุที่นี่ ผอ.บอกว่า หวังว่า อาจารย์คงจะสงสารเด็ก ไม่หนีเด็กไปอีก คน นะ (พูดน่าสงสาร) เอาแหละนะ ลองสู้กันสักตั้ง อิอิ ฉันสอนอยู่ที่นี่ น่าจะประมาณ 1 สัปดาห์ ก็มีครูมาบรรจุ อีกคน วิชาเอก สังคมศึกษา เธอเป็นมุสลิม รูปร่างท้วมนิด ๆ ฉันรู้สึกดีใจ ที่มีเพื่อนร่วมบรรจุใกล้เคียงกับฉัน วัยก็ใกล้เคียงกัน แก่อ่อน กว่ากันไม่กี่ปี (ฉันแก่กว่าเขา เพราะเรียน ป. 1 เอาตอนอายุ 9 ขวบ เนื่องจากป่วยออด ๆ แอด ๆ ในตอนเด็ก นั่นเอง ) ฉันกับนิทราเริ่มพูดคุยกันถูกคอ สนุกสนาน เขากับฉัน มีอะไรต่างกัน หลาย ๆ อย่าง ทั้งด้าน ศาสนา ด้านนิสัยใจคอ เขาเป็นมุสลิมที่เคร่งครัดในศาสนามาก มาบ้านฉัน เขาจะไม่ยอมดื่มน้ำ ในแก้วน้ำบ้านของฉันเลย ด้านนิสัยใจคอ เขาเป็นคนน่ารัก ใจเย็น ไม่ค่อยโกรธใครง่ายนัก ผิดกับฉัน ฉันเป็นคน โกรธง่าย อารมณ์ร้อน ไม่พอใจจะแสดง ออกทางสีหน้าทันที (เป็นข้อเสีย ห้ามนำไปเป็นตัวอย่าง ค่ะ) พอวัย ผ่านไปมากเข้า ฉันก็พยายามปรับตัวเอง นะ ในเรื่องรูปร่าง ฉันเป็นคนผอมบาง เขาจะเป็นคนท้วมหน่อย ดังนั้น เวลาเดินคู่กันไปไหน พวกพี่ ๆ ที่โรงเรียน จะเรียกเราสองคนว่า อ้วน ผอม มาแล้ว บางวันเราจะนำอาหารกลางวัน มาทานกันที่โรงเรียน นิทร์จะทำอาหาร ที่ฉันทานได้ เช่น ทอดมันปลา (ฉันไม่ทานเนื้อ เขาทานหมูไม่ได้ ห้าห้า) เขาทำอาหารมาเผื่อพี่ ๆ ด้วย แต่เขา ทานอาหารจากฉันและพี่ ๆ ไม่ได้ อาหารที่โรงเรียนขายก็มีน้อยเจ้า มีก๋วยเตี๋ยวไก่ ข้าวมันไก่ที่ฉันกินได้ กินไปหลายวัน ฉันก็เบื่อเอามาก ๆ บางวันจึงต้องนำอาหารมาทานกัน ที่โรงเรียน หรือบางครั้งก็เฉลี่ยเงินกัน ให้คนทำอาหารมาให้พวกเราทานมื้อกลางวันกัน นั่งทานข้าวกับพวกพี่ ๆ คือ พี่เสริม พี่ประสพศรี ซึ่งเป็นคน สอน ม.ปลาย ในอาคาร 2 ส่วน ม.ต้น จะอยู่อาคาร 1 ซึ่งอยู่ห่างกันพอควรทีเดียว สมัย นั้นลำบากมาก เพราะไม่มีโทรศัพท์สายพ่วง เวลามีโทรศัพท์มาถึงเรา เราต้องวิ่งจาก อาคาร 2 มารับโทรศัพท์ที่ อาคาร 1 เล่นเอาหอบเหมือนกัน บ้านของนิทรา อยู่แถววัดพระยาไกรไปทางถนนตก ส่วนฉันอยู่ที่สุขุมวิท ตอนเย็น เราสองคนจะกลับบ้านพร้อมกัน ขึ้นรถเมล์ไปด้วยกัน แล้วแยกไปต่อรถกลับบ้านอีกต่อหนึ่ง เป็นเช่นนี้ ความแตกต่างดังกล่าวมาของเราสองคน ไม่ได้เป็นอุปสรรคในความเป็นเพื่อนสนิท เพื่อนซี้ของเราเลย เสาร์ อาทิตย์ บางครั้ง เราก็นัดกันไปเที่ยวเดินซื้อผ้ามาตัดชุดใส่ ตาม ประสาคนโสด แต่พวกเราเงินเดือนน้อย นาน ๆ จะตัดชุดสักชุดหนึ่ง ตัดรองเท้าใส่สักคู่หนึ่ง สืบเสาะว่า ร้านไหน ตัดถูก เราสองคนก็จะดั้นด้นไปหาร้านนั้น ๆ อิอิ นิทร์ ชอบใส่กระโปรง แต่ฉันชอบใส่กางเกง นี่เป็นความต่างกันอีกอย่าง ของเราสองคน ฉันว่าใส่กางเกงมันสะดวก ในการเดินเหิน แต่นิทร์บอกว่า นุ่งกระโปรง มันเย็นดี ไม่ร้อน ห้าห้า มีอยู่ครั้งหนึ่ง เรานัดเจอกัน เพื่อจะไปเดินเที่ยวและซื้อของกัน เขามา สายน่าจะเกือบครึ่งชั่วโมง ฉันโกรธ เลยกลับบ้านไป วันจันทร์ เจอหน้ากัน ฉันก็ไม่พูดกับเขาเลย เขาก็มา ขอโทษ บอกว่า เขามาช้า เพราะรถติดมาก เขาก็ง้อ มาพูดด้วยก่อน นำทอดมันมาใส่จานข้าวของฉัน นี่คือ ความ น่ารักของเขา เวลาโกรธกัน เขาจะเป็นฝ่ายง้อก่อนเสมอ น้อยครั้งนักจะเห็นเขาโกรธ มีอยู่ครั้งหนึ่ง เราสองคนใส่ชุดใหม่ นัดกัน จะไปเบิกเงินเดือนที่ธนาคารแถวสะพานพุทธ ขณะที่เราสองคนกำลังรอข้ามถนน ก็มีรถเก๋งคันหนึ่งแล่นมาอย่างเร็ว ถนน ตรงนั้นมีหลุมน้ำอยู่ ฉันเห็นท่าไม่ดี เลยรีบถอยห่าง เข้ามาทางเท้ามากขึ้น แต่นิทร์ไม่ทันเสียแล้ว น้ำโคลนจากหลุมก็ กระเด็นใส่ชุดใหม่ของเขา เลอะเทอะไปหมด ฉันได้ยินนิทร์ตะโกนด่าออกไปว่า "จะรีบขับไปหาพ่อเอ็งหรือไง" ฉัน กำลังจะด่าเจ้าคนขับเหมือนกัน พอได้ยินนิทร์ด่าไปแล้ว และเห็นชุดใหม่เลอะเทอะของนิทร์ เลยกลาย เป็นขำ หัวเราะออกไป นี่เป็นครั้งแรก ที่ฉันเห็นเขาโกรธมาก โธ่! ก็น่าโกรธหรอก เพราะว่า ชุดใหม่เพิ่งได้มา ใส่ครั้งแรก วันแรก ก็มาเจอดี เฮ้อ! อีกครั้งหนึ่ง ฉันซึ้งในน้ำใจความเป็นเพื่อนของเขามาก ก็คือ น่าจะเป็น ปี 18 ฉันไม่สบาย เป็นลมอยู่ที่โรงเรียน รถโรงเรียนก็ไม่อยู่ไปราชการ จึงต้องกลับแท้กซี่ นิทร์ นั่งรถมาส่งฉัน ถึงบ้านด้วยความห่วงใย นี่แหละความเป็นเพื่อนแท้ของเขา ฉันสอนอยู่ที่ อิสลามวิทยาลัยถึง 3 ปี จึงขอย้ายโรงเรียน เพราะว่า สุขภาพของฉันไม่ดีเลย ผอมมาก จาก 41 กิโลกรัม เหลือเพียง 37 กิโลกรัม ประกอบกับช่วงนั้น ประสบกับ มรสุมในเรื่องของความรักด้วย จึงตัดสินใจ ขอย้ายมาอยู่ที่มัธยมวัดธาตุทอง ต้องไปรายงานตัวกับ ผอ.คนใหม่ของ มัธยมวัดธาตุทอง นิทร์ก็ห่วงใย ตามมาส่งฉันที่ มัธยมวัดธาตุทอง เพื่อให้เห็นว่า เพื่อนรักมาอยู่ที่ โรงเรียนใหม่อย่างปลอดภัยดีแล้ว อีกครั้งหนึ่ง ตอนที่แม่ของฉันถึงแก่กรรม ปี 29 เขาก็มางานศพแม่ของ ฉัน ทั้ง ๆ ที่ ตามปรกติ ชาวมุสลิมจะไม่มา งานสวดศพของชาวพุทธ แต่เขาก็ให้เกียรติแม่ เขามางานศพแม่ของ ฉัน นี่เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ฉันซาบซึ้งในน้ำใจของเขา มิตรภาพของเรา เริ่มด้วยกุารคุยคอ ถูกใจ ผูกพันกันด้วยสายใจของ ความห่วงใยที่มีต่อกัน นั่นเอง ถึงเราจะอยู่กันคนละโรงเรียน ต่างต้องปฏิบัติหน้าที่ของตนในโรงเรียน ที่ตนสอน แต่เราก็มีการโทรคุยกันบ้าง เจอกันในเวลาโรงเรียนส่งพวกเราไปอบรม เพื่อพัฒนาเรื่องหลักสูตร หรือเรื่องวิธีการสอนแบบใหม่ ๆ ต่างคนต่างทำหน้าที่ของตนกันไป เวลาที่จะเจอกันก็มีน้อย จนกระทั่ง ฉันเกษียณก่อนเขา 3-4 ปี มีโอกาสกลับไปเยือนถิ่น อิสลามวิทยาลัยฯ ซึ่งเขาสอนอยู่ที่นี่โดยไม่ได้ย้ายไปไหนเลย แต่กลับ มาซื้อที่ปลูกบ้านให้ใกล้กับโรงเรียน เพื่อสะดวกแก่การเดินทาง และเป็นคนจัดการประสานให้ทางโรงเรียนมี หนังสือเชิญพวกครูเก่า ๆ กลับไปเยือนถิ่น อิสลามวิทยาลัย ฯ ทุกปี ตั้งแต่ฉันเกษียณมาแล้ว ที่เขียนมาทั้งหมด เป็นความหมาย ตอบโจทย์ เรื่อง คู่หู ค่ะ เพราะ ความหมายของ คู่หู คือ "เพื่อนที่ถูกคอกัน ที่สนิทสนมกัน ไปไหนไปด้วยกัน เพื่อนที่รู้ใจกัน ผูกพันกันมาเป็นเวลายาวนาน" ภาพเฉลย "คู่หู ของฉัน" ค่ะ เป็นไง คะ มีใครทายจากภาพแรกถูกบ้าง ไหมล่ะ คะ อิอิ
Create Date : 02 กุมภาพันธ์ 2562
Last Update : 4 กุมภาพันธ์ 2562 19:25:46 น.
28 comments
Counter : 1451 Pageviews.
ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณกะว่าก๋า , คุณเรียวรุ้ง , คุณmambymam , คุณภาวิดา คนบ้านป่า , คุณสายหมอกและก้อนเมฆ , คุณชีริว , คุณhaiku , คุณtoor36 , คุณtuk-tuk@korat , คุณเกศสุริยง , คุณโอน่าจอมซ่าส์ , คุณบาบิบูเบะ...แปลงกายเป็นบูริน , คุณอุ้มสี , คุณสันตะวาใบข้าว
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2562 เวลา:20:08:41 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2562 เวลา:6:29:43 น.
โดย: เรียวรุ้ง วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2562 เวลา:10:06:14 น.
โดย: ภาวิดา (คนบ้านป่า ) วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2562 เวลา:18:17:07 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2562 เวลา:20:04:50 น.
โดย: ชีริว วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2562 เวลา:21:25:00 น.
โดย: สองแผ่นดิน วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2562 เวลา:23:29:24 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 6 กุมภาพันธ์ 2562 เวลา:6:42:26 น.
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 6 กุมภาพันธ์ 2562 เวลา:17:15:18 น.
โดย: ภาวิดา (คนบ้านป่า ) วันที่: 6 กุมภาพันธ์ 2562 เวลา:21:37:48 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 6 กุมภาพันธ์ 2562 เวลา:22:33:41 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 7 กุมภาพันธ์ 2562 เวลา:5:52:52 น.
โดย: เกศสุริยง วันที่: 7 กุมภาพันธ์ 2562 เวลา:9:48:58 น.
โดย: ภาวิดา (คนบ้านป่า ) วันที่: 7 กุมภาพันธ์ 2562 เวลา:20:41:05 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 7 กุมภาพันธ์ 2562 เวลา:22:34:51 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 8 กุมภาพันธ์ 2562 เวลา:6:33:21 น.
โดย: อุ้มสี วันที่: 8 กุมภาพันธ์ 2562 เวลา:10:18:56 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 8 กุมภาพันธ์ 2562 เวลา:20:34:26 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2562 เวลา:6:30:21 น.
BlogGang Popular Award#20
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 46 คน [? ]
เป็นครูสอนภาษาไทยที่เกษียณอายุราชการแล้ว สนใจเรื่องการเขียนหนังสือให้ความรู้ ชอบการท่องเที่ยว หากท่านที่เข้ามาชมและอ่านแล้ว มีความสนใจและต้องการสอบถามเรื่องความรู้ด้านภาษาไทย ถ้ามีความสามารถจะให้ความรู้ได้ ก็ยินดีค่ะ
http://i697.photobucket.com/albums/vv337/dd6728/color_line17.gif
ปีที่อาจารย์เรียนจบ ก.ศบ. ผมเกิดพอดีครับ
อ่านจนจบ รู้สึกได้ถึงมิตรภาพอันยาวนานของอาจารย์และคุณนิทรา
ผมเดาว่าเป็นคนที่ยืนซ้ายสุดในภาพ
เพราะอาจารย์บอกว่าคุณนิทราร่างท้วมครับ
อาจารย์หนัก 37 กิโล
โห...ถือว่าผอมมากจริงๆครับ
ปล. ผมไหว้เสร็จเรียบร้อยครับ
ปีนี้ไหว้เงียบๆ
ไม่จุดประทัดครับ 5555