คืนกำไรให้ชีวิต เพื่อพิชิตไปในโลกกว้าง
space
space
space
<<
มิถุนายน 2568
 
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
space
space
16 มิถุนายน 2568
space
space
space

พาเพื่อนไปคลายเครียด ที่สุพรรณบุรี

  พาเพื่อนไปคลายเครียด ที่สุพรรณบุรี  

เมื่อวันที่  31 พ.ค. จอย  (เพื่อนที่รู้จักกันตอนไปทริป แสวงบุญที่อินเดีย  โทร.มาหาฉัน
  เล่าว่า เอม  เพื่อนที่ไปอินเดียและเที่ยวด้วยกัน
หลายทริป  โทรหาจอย บอกว่า  เขาเครียดมาก   เพราะน้องสาวที่อยู่ด้วยกัน  หกล้ม
เป็นแผล ทิ้งไว้เป็นอาทิตย์   เป็นแผลใหญ่มาก 
เป็นเบาหวานด้วย  แถม แผลติดเชื้อ  เอม เลยเครียดมาก กลัวน้องสาวโดนตัดขา
  แล้วจะทำอย่างไร  ห่วงน้องสาว  เขาอยู่กับน้องสาวเพียงสองคน 
แถมน้องสาวดื้อเงียบ  เตือนอะไรก็ไม่ค่อยเชื่อฟัง  เอมจึงเครียดมาก  เขาระบายให้
จอยฟัง ฉันได้ฟังจากจอย  ในฐานะเพื่อน  ได้ฟังจอยแล้ว ก็ต้อง
รีบโทรถามเอมเพื่อปลอบใจเพื่อน  เพื่อให้เขาคลายเครียด  คลายความกังวล 
เอมรับโทรศัพท์ฉัน  ฉันบอกเขาว่า  จอยเล่าเรื่องน้องสาวให้ฟัง
  ด้วยเสียงสั่นเครือเล็กน้อย   เขาน้อยใจน้องสาวที่ดื้อ  สอนไม่ฟังเขาเลย  ฉันได้แต่
ปลอบใจเอม ให้เขาปล่อยวาง  อย่าเครียด  ถึงมือหมอ
พักที่ ร.พ. แล้วไม่ต้องเป็นห่วง   ถ้าเครียดมาก ๆ ความดันขึ้นเจ็บป่วยอีกคน  จะยิ่ง
ลำบาก  น้ำเสียงเอมก็ดีขึ้น  และบอกว่า   ตอนนี้
เขาต้องการ  ไปหาสถานที่ที่บรรยากาศดี ๆ สดชื่น  เป็นชายทะเล ไปกินอาหารทะเล
อร่อย ๆ  นั่งชมบรรยากาศ  นั่งคุยกันนาน ๆ  แล้วก็อยากกิน
ทุเรียนมากด้วย   ฉันเลยรับปากเขาว่า  จะบอกจอยจัดทริปพาเอมไปเที่ยวตามที่เขา
ปรารถนา  เพื่อเป็นการผ่อนคลายความเครียด  คลายกังวลในครั้งนี้  ค่ะ
ทริปนี้ จึงได้เกิดขึ้น  เพื่อพาเพื่อนที่กำลังเครียดไปเที่ยวให้หายเครียด ค่ะ  อิอิ 

หลังจากที่วางสายจากเอมแล้ว   ฉันก็โทรหาจอยทันที  เล่าถึงความต้องการของเอม
 ช่วงนี้ เป็นวันหยุดยาวอยู่  จอยบอกไปวันที่ 2  มิ.ย. ได้เลย 
ฉันบอกว่าขอเป็นวันที่ 3 เพราะวันที่ 2 เป็นวันสถาปนาโรงเรียน มีการทำบุญ เลี้ยงพระ
ถวายสังฆทาน  มีการแจกทุนการศึกษา   ฉันต้องไปงานนี้ด้วย
  จึงตกลงไปวันที่ 3 มิ.ย.หลังจากคุยกับจอยเสร็จ  ก็โทรไปบอกเอมว่า  เราจะพาเอม
ไปคลายเครียด ในวันที่  3 มิ.ย.  เอมดีใจที่จะได้ไปเที่ยวแล้ว  ค่ะ
คงหายเครียดไปบ้างแหละ นะ 
         
วันที่  3 มิ.ย.  จอย มารับฉันที่บ้านประมาณ 10  โมง  มีจุ๊ ไปด้วย  ทักทายกันแล้ว ก็ออกรถ
ไปรับเอม แถวการไฟฟ้าที่คลอดเตย   แล้วมุ่งหน้าไปที่  อำเภอ บางบัวทอง
จังหวัด นนทบุรี   ไม่ได้มาชมสวนอินทผาลัมหรอก   มากินก๋วยเตี๋ยวร้าน  อากง  พวกจอย
เคยมากิน บอกว่าอร่อย  เลยมากินที่นี่รองท้องไปก่อน
   จอยแวะซื้อทุเรียนที่แกะเสร็จแล้ว1 แพ็ค  ราคา 500 บาท  เพื่อเลี้ยงเอม  พวกเราเลยพลอย
ได้กินไปคนละเม็ดด้วย  ให้เอมซึ่งชอบกินมาก 
 ได้กินจุใจหน่อย  อิอิ  พวกเราสั่งก๋วยเตี๋ยวร้านอากง  ฉันกินเกาเหลา  คนอื่นก็สั่งตาม
ที่ตนชอบ  มื้อนี้ จ่ายไป 540 บาท ค่าทริป 20 บาท  ทริปนี้ ลงขันกัน
คนละ 1000 บาท  จอย ให้ฉันถือเงินและเป็นคนจ่ายเงินกองกลางนี้  มาชม บรรยากาศที่โต๊ะอาหาร



เอม โชว์ทุเรียนหมอนทองที่ จอย ซื้อมาให้เอม กินโดยเฉพาะ พวกเราได้กินกัน พู เล็ก ๆ
คนละ พู เท่านั้น นอกนั้น เอม กินสองพู ไป ค่ะ 



เกาเหลาหมูตุน ค่ะ 



ขนมต้ม จอย.ซื้อมาให้พวกเรากิน  รสชาติก็อร่อย ดี



ร้านนี้  เขาจัดร้านและบริเวณร้าน  มีจุดให้คนมากินอาหารที่นี้  ได้เดินชมและถ่ายรูปด้วย  จ้ะ
  เอม ชวนฉันไปถ่ายรูป  โดยตัวเองไม่ยอมถ่าย  แต่จะถ่ายให้ฉัน 
เพราะรู้ว่าฉันชอบเขียนหนังสือ และมีรูปประกอบการเขียน และทำวิดิโอเวลาไปเที่ยว
  มาชม รูปบริเวณจุดถ่ายรูปที่ร้านก๋วยเตี๋ยวอากง  ค่ะ



หน้าร้านอาหาร เกาเหลา อากง ค่ะ 



ต้นอินทผาลัม มีลูกอินทผาลัม เป็นพวงใหญ่มาก ค่ะ 



มุมที่จัดบริเวณร้านอาหาร หมูตุ๋น อากง   เพื่อให้คนมากินอาหาร ถ่ายรูป ค่ะ 






มุมสวยที่ตกแต่งที่ผนังในร้านอาหาร ค่ะ 





นี่เป็นตุ๊กตาแม่ลูกอ่อน หรือ แม่ลูกดก หนึ่งในสัญลักษณ์ของรัสเซีย  ฉันก็ซื้อมา 1 ชุด
เป็นตัวใหญ่ 1 ตัวและบรรจุตัวเล็ก ใหญ่ ไล่กันไปได้ถึง 12 ตัว ค่ะ 

เมื่อถ่ายรูปมุมต่าง ๆ ตามที่เอมจัดให้แล้ว  จอยก็พาไปร้านน้ำปั่นซึ่งอยู่บริเวณใกล้ ๆ  ร้านอาหาร 
 จอยบอกว่า  น้ำปั่นอินทผาลัมที่นี่อร่อยมาก   ฉัน เอม จุ๊ 
สั่งอินทผาลัมปั่น  แก้วละ70 บาท  ส่วนจอยสั่ง อะโวคาโด   90 บาท  จ่ายไป  300 บาท
   ดูดดื่มดู  รสชาติอร่อยใช้ได้ ค่ะ สมราคาเขา ค่ะ  



ร้านน้ำปั่นในบริเวณ  สวนอินทผาลัม  ของลุงปรีชา 



น้ำปั่น อินทผาลัม  แก้วละ 70 บาท หวานน้อย  รสชาติอร่อย สมราคา ค่ะ 

ออกจาก ที่สวนอินทผาลัมแล้ว  จอยพาไปเที่ยวสะพานแก้วที่ยาวที่สุดในประเทศไทย 
(น่าเสียดายที่ยังไม่เปิดให้เดินชม)    มาถึงที่นี้  มีนักท่องเที่ยว
มาชมมากมายพอสมควร  เนื่องจากเป็นวันหยุดยาว   มีรถจอดอยู่มากมายในลานจอดรถ
    เราโชคดี  ไปถึง พอดีมีรถคันหนึ่งออก  รถเราจึงได้ที่จอดรถ
  และโชคดีอีกชั้นหนึ่ง  คือ  มีรถกอล์ฟพานักท่องเที่ยวชมบริเวณมาทราบความเป็นมาของ
“SKY WALK” สกายวอล์ค แห่งนี้ ค่ะ 
           
  SKY WALK” สกายวอล์ค สุพรรณบุรี ตั้งอยู่ที่วัดเขาทำเทียม อำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี 
มีการก่อสร้างไปกว่า 50 % เคยเปิดให้นักท่องเที่ยวเมื่อปลายปี
  2566  จนถึง 2  มกราคม 67แล้วก็ปิดสกายวอร์ค  เพื่อดำเนินการก่อสร้างส่วนที่เหลือ
อีก 50% ต่อ  คาดว่า จะสร้างเสร็จและเปิดให้เข้าชม ได้สมบูรณ์ ปี 68 
 ซึ่งพวกเราครั้งนี้  ก็ยังไม่เปิด สกายวอร์คให้ขึ้นไปชม  ได้ทราบจากคนขับรถกอล์ฟ  ว่า 
 คณะกรรมการยังตกลงในเรื่องต่าง ๆ (น่าจะเองผลประโยชน์ มั้ง)
ไม่เรียบร้อย   พวกเราเลยไม่มีโอกาสขึ้นไปเดินบนสกายวอล์ค  ได้แต่ชมอยู่ด้านล่าง 
ซึ่งมีให้ไหว้พระตามจุดต่าง ๆ มีร้านค้า  มีที่ให้ทำบุญ
   หยอดเงินใส่ตู้   มีเจ้าหน้าที่ที่ขับรถกอล์ฟ บรรยายให้ความรู้   ด้านหลังของรถมีตู้
ให้นักนักเที่ยวหยอดเงินทำบุญด้วย  จอย หยอดเงิน
ทำบุญไปแล้วและ เราใช้เงินกองกลาง เป็น ติ๊บให้กับคนขับรถ  100 บาท 
เขา น่ารัก นอกจากแนะนำ บรรยาย ให้ความรู้  มีน้ำใจถ่ายรูป
ให้พวกเรา  เลือกมุมสวย ๆ ถ่ายรูปให้เรา  เขามีชื่อว่า  สมเกียรติ  มูลพันธุ์ 


 
สกายวอล์ค สุพรรณบุรี มีข้อห้ามและข้อปฏิบัติในการเข้าชม ซึ่งควรปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่
เพื่อความปลอดภัยของตัวเราและนักท่องเที่ยวทุกคน

1. ห้ามผู้ที่กลัวความสูง หรือมีโรคประจำตัวขึ้น (เตือนแล้วนะ)
2. ห้ามนำเครื่องดื่มหรืออาหารทุกชนิด ขึ้นไปบน sky walk เด็ดขาด 
3. ห้ามนำสิ่งของขึ้นไป เช่น กระเป๋าที่มีพวงกุญแจโซ่ ร่ม ไม้เท้า ของแข็งต่างๆ (เดี๋ยวเป็น
ขีดข่วนหรือสร้างความกระทบกับกระจกได้)
4. ไม่รับฝากสิ่งของมีค่า (ยังไม่มีจุดฝากสัมภาระ ควรไว้ในรถ หรือทำตัวให้โล่งๆ ไว้)
5. ห้ามวิ่ง กระโดด หรือปีนปายเกาะขอบเกาะจก 
6. ห้ามทิ้งขยะ
7. ห้ามสูบบุหรี่
8. ห้ามเด็กที่อายุต่ำกว่า 5 ขวบขึ้น กรณีที่มีเด็กเล็กผู้ปกครองต้องดูแลอย่างใกล้ชิด
เด็กหนึ่งคนต่อผู้ปกครองหนึ่งคน (เนื่องจากไซส์ถุงเท้ามีไซส์เดียว)
9. ห้ามใส่รองเท้าส้นเข็มหรือรองเท้ามีส้น
หมายเหตุ : การใช้บริการต้องเดินขึ้นบันไดเท่านั้น ประมาณ 150 ขั้น (ความสูงเทียบเท่ากับ
ตึก 12 ชั้น)เนื่องจากลิฟต์อยู่ในระหว่างดำเนินการ และไม่เหมาะสมกับผู้ใช้รถเข็น
 ผู้สูงอายุและผู้มีโรคประจำตัว แต่ถ้าใครรู้ตัวช้า ด้านล่างมี
รถพยาบาลและเจ้าหน้าที่รองรับ   (ขอบคุณ ข้อมูลที่รวบรวมจากอินเทอร์เน็ต)
มาชมภาพในบริเวณ วัด เขาทำเทียม  ค่ะ
 





มาไหว้พระที่นี่ เป็นจุดแรก ค่ะ 



ที่นี่มีองค์เจ้าแม่กวนอิม  มีกล่องให้หยอดืำบุญด้วย ค่ะ 



มีพระลงยันต์ที่ฝ่ามือให้เป็นสิริมงคลด้วยค่ะ อิอิ ทำบุญแล้วแต่ศรัทธาใส่ลงในพานค่ะ 





ถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึก ค่ะ อิอิ







มุมสวยที่จัดไว้ให้นักท่องเที่ยวมาถ่ายรูปด้วย ค่ะ 





มีไม้รวก ให้เขียนชื่อ แล้วไปวางไว้ ค้ำต้นไม้ เป็นการถือเคล็ด ว่า  พวกเรามีผู้ค้ำชู  
ไม้ละ 100  บาท เราเขียนทั้ง 5 ชื่อ ใช้เงินกองกลางทำบุญไป 




สมเกียรติเซลฟี่เวลาอยู่บนรถที่เขาขับ ค่ะ 



พระพุทธรูปที่แกะสลักที่แผ่นหิน บนเขา มีนามว่า  พระพุทธบุษปคีรีศรีสุวรรณภูมิ ค่ะ 



มุมสวยตามที่ สมเกียรติแนะนำและถ่ายให้พวกเรา ค่ะ 











ด้านบนเป็นสกายวอล์ค  ค่ะ มีลีฟท์ให้ขึ้นด้วย ค่ะ 





ต้นไม้สวย  ค่ะ 



ต้นนี้ จอยบอกว่า  เป็นต้นโพธิ์เงิน  ค่ะ 


พวกเราน่าจะเที่ยวที่นี่ประมาณ 2  ชั่วโมงเศษ ๆ ได้ ก็เตรียมตัวไปกินข้าวมื้อเย็นที่อยุธยา 
ซึ่ง จุ๊ หมายใจว่า  จะไปกินกุ้ง ที่บางปะหัน   เป้าหมาย  คือ 
จะสั่งกุ้งธรรมดา  สอง กิโล   นำไปต้มยำกุ้ง  ส่วนหนึ่ง  อีกส่วนหนึ่งนำไปย่าง  จิ้มน้ำจิ้มซีฟู้ด
  แล้วสั่งปลาทอดน้ำปลาอีกตัว  นั่นเป็น ความต้องการของจุ๊ 
ฉันก็เห็นด้วยนะ  เงินที่ลงไว้เป็นกองกลาง เหลืออยู่แค่พันเศษ   ๆ  เพราะจ่ายค่าแก๊ส
เติมไป -กลับ เติมไปน่าจะพันเศษ ๆ 
จ่ายค่าสึกหรอ  รถของจอย ห้าร้อย และให้ฑูรย์อีก ห้าร้อย เป็น หนึ่งพันบาท   จึงเหลือเงิน
หนึ่งพันหนึ่งร้อยหกสิบบาท  เลยไม่อยากไปกินร้านอาหาร
ที่อยุธยาร้านหรู ๆ ราคาแพง สิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ    แต่ความหวัง  ความฝันจะกินกุ้งของจุ๊
ฝันสลาย  เพราะ จุ๊  ไม่ได้ดูทางไปเอง  จอยก็ไม่บอกทาง
เมื่อถึง บางปะหัน  เลยมาไกลเลย  ทำให้ไม่ได้ร้านราคาถูกที่จุ๊แนะนำ   จุ๊ ก็หิวข้าวมาก 
และพากันตัดสินใจว่า  ไปกินที่ตลาดไอยราและกินข้าวมื้อเย็น
ที่แถวนั้นก็ได้  ฉันก็เห็นด้วย เพราะเหลือเงินกินแค่พันกว่านิด ๆ  จะได้ไม่ต้องเก็บเงินเพิ่มอีก 
ไปถึงตลาดไอยรา  จอยว่า  มีอยู่สองร้าน  อีกร้านนึ่งหรูหรา
  มีแอร์ ราคาแพง  เพราะเคยกินมาแล้ว  ส่วนอีกร้านที่ใกล้ ๆ กัน  เป็นร้านชาวบ้าน ๆ ไม่มีแอร์
ไม่เคยกิน  ทุกคนสงความเห็นว่า กินที่ร้านชาวบ้าน ๆ นี่แหละ  ห้าห้าห้า  
       สภาพร้าน  โต๊ะเก้าอี้  ก็เหมือนโรงอาหารแหละ อิอิ  ทุกคนหิวมาก  เพราะกินก๋วยเตี๋ยวร้านอากง
มาตั้งแต่ตอน 11 โมง มั้ง   เราสั่งกับข้าว 4 อย่าง  มีต้มยำปลาคัง
ผัดผักบุ้ง  ผัดบวบ และปลาตะเพียงตัวใหญ่ทอดกรอบ  ข้าว 1 หม้อ  น้ำเปล่าและน้ำแข็งเปล่า
  กับข้าวรอไม่นาน  เพราะในร้านมีพวกเรามากินเจ้าเดียว  ห้าห้า ห้า
รสชาติหมู่หรือ จ่า  เดี๋ยวก็รู้ ผัดบวบมาเป็นจานแรก  พวกเรา ก็เริ่มตักชิม ยังไม่ได้ถ่ายรูป
นึกได้ ผักบวบก็แหว่งไปเยอะ  อาหารแต่ละจาน  เขาให้เยอะมากนะ
กับข้าวทยอยกันมา  ตักข้าวแล้ว ก็ชิมอาหารแต่ละอย่าง  อร่อยใช้ได้ทีเดียว (อาจหิวด้วย)
   อาหารทุกจานเกลี้ยง ค่ะ  อิอิ  ค่าใช้จ่ายมื้อนี้  1060 บาท ค่ะ
  เหลือ 100 บาทให้จอยไปเป็นค่าทางด่วนกลับบ้าน  ค่ะ 




           อิ่มท้องแล้ว  รายการสุดท้าย  คือ ตลาดไอยรา  เพื่อซื้อทุเรียน  ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 
ฉันซื้อทุเรียนพันธุ์ ศรีษะเกษ ที่จอยบอกว่าอร่อย  เขาชิมมาแล้ว
ราคาขีดละ 50 บาท  แพงที่สุด  ของฉันซื้อไป 3  พูใหญ่  กิโลกับ 1 ขีด จ่ายไป 550 บาท 



ทุเรียนหมอนทอง ศรีษะเกษ   550 บาท ค่ะ 

จะซื้อไปไหว้พ่อไหว้แม่  ตอนพวกท่านมีชีวิต  ชอบกิน
ทุเรียนมาก ค่ะ ส่วนหมอนทาง  45 บาท  ส่วนหมอที่เหลือสุดท้ายพูเล็กเหลือน้อยเพราะเขา
เลือกกันไปแล้ว เหลือ 35 บาท มีคนซื้อเหมือนกัน 
 ฉันว่าจะไม่ซื้อ เพราะดูไม่สวยแล้ว   คนขะยั้นคะยอ ให้ซื้อ  ลดให้ฉัน ขีดละ 30 บาท
  เลยซื้อไป 2 พู จ่ายไปอีก 100 บาท  ส่วนเอม ซื้อหมอนทอง
พูใหญ่ ๆ 1 พูน่าจะร้อยเศษ ๆ มั้ง กินตรงหน้าร้านเกลี้ยงเลย  เอม ชอบกินทุเรียนมาก
จริง ๆ  เขากินอย่างมีความสุขค่ะ ส่วนจอย  ซื้อมากเป็นพิเศษ 
เพราะเขามีคนรู้จักเยอะ  ซื้อไปฝากคนอื่น  จุ๊ก็ซื้อไปน่าจะเกือบพัน มั้ง  ได้ทุกเรียนกัน
สมใจแล้ว  ก็ขึ้นรถกัน  ทุกคนอิ่มท้อง คุยกันอย่างมีความสุข
ส่งเอมก่อนที่คลองเตย  แล้วก็มาส่งฉัน  จุ๊ ซื้อโจ๊กกลับบ้าน 2ถุง ไว้กินตอนเช้าด้วย 
ซื้อไข่เพิ่ม  2  ฟอง   110 บาท  เอ๋ ลดให้เหลือ 100 บาท 
     ทริป พาเพื่อนไปคลายเครียดวันนี้  ประสบความสำเร็จ  ดูเอม มีความสุข คุย กินทุเรียนอย่างมี
ความสุข  เพื่อน ๆ เราทุกคนก็สบายใจที่เห็นเขาหายเครียด
อีกอย่างน้องสาวที่อยู่ ร.พ.โทรมาบอกว่า  หมอให้กลับบ้านได้แล้ว  เอม ก็จะไปรับน้องสาว
กลับบ้านพรุ่งนี้  ทุกอย่างก็คลี่คลายไปในทางดี ขึ้น ค่ะ  จบทริป ค่ะ



 
 


 


 
 
 




 

Create Date : 16 มิถุนายน 2568
26 comments
Last Update : 17 มิถุนายน 2568 21:49:04 น.
Counter : 393 Pageviews.
(โหวต blog นี้) 

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณสองแผ่นดิน, คุณtoor36, คุณกะว่าก๋า, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณร่มไม้เย็น, คุณชีริว, คุณหอมกร, คุณโฮมสเตย์ริมน้ำ, คุณนายแว่นขยันเที่ยว, คุณปัญญา Dh, คุณmultiple, คุณThe Kop Civil, คุณดอยสะเก็ด, คุณสมาชิกหมายเลข 3902534

 

ตามเที่ยวไหว้พระด้วยครับ อาจารย์สุ
หลวงพ่อองค์ใหญ่ผมไปตั้งแต่ยังไม่มีสกายวอล์ค พื้นที่กว้างใหญ่ยังร้อนเหมือนเดิมไหมครับ

 

โดย: สองแผ่นดิน 17 มิถุนายน 2568 22:19:28 น.  

 

เมืองไทยเรามีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายจริงๆครับ
แม้แต่วัดตอนนี้ก็ยังน่าเดินเที่ยว

ร้านก๋วยเตี๋ยวดูใหญ่โตและมีมุมให้ถ่ายภาพเยอะมากเลยครับ
ถือว่าเจ้าของร้านเข้าใจเทรนด์ของคนรุ่นใหม่
เป็นช่องทางโปรโมทร้านไปในตัวด้วยนะครับอาจารย์

 

โดย: กะว่าก๋า 18 มิถุนายน 2568 5:27:23 น.  

 

ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตครับอาจารย์

การจดบันทึก
ได้ประโยชน์ทั้งได้ช่วยจำว่าเราเคยทำอะไร ที่ไหน อย่างไร
และอีกรูปแบบหนึ่งคือการบันทึกความคิด

งานของคุณเอ๋ นิ้วกลมเป็นบันทึกเยอะมากครับ
จริงๆบางเล่มก็ทำให้นึกถึงการจดบันทึกการท่องเที่ยวของอาจารย์ด้วยนะครับ
อาจารย์จดรายละเอียดในแต่ละทริปไว้ได้ดีมากๆครับ

 

โดย: กะว่าก๋า 18 มิถุนายน 2568 14:40:58 น.  

 

ไม่ได้ไปสุพรรณมาพักใหญ่ๆ แล้วครับ คิดว่าครั้งหน้าอยากไปวัดเขาทำเทียมดูพระสลักหินนี่แหละ

ช่วงนี้ฝนตก อากาศไม่ร้อนมาก แถมมีทุเรียนกินด้วยนะครับ น่าออกเดินทางช้อปทุเรียน
อยากลองอินทผาลัมปั่นแฮะ น่าจะเปรี้ยวปะแล่มๆ ดี

สกายวอล์คยังไม่เปิดเหรอครับ งั้นรอไปก่อนละกัน
เดินขึ้นบันได 150 ขั้น คนไม่แข็งแรงขึ้นไม่ไหวนะเนี่ย
ตลาดไอยราคือแถวตลาดไทเหรอครับ เลยตลาดกลางไปไกลเหมือนกันนะนั่น
ทุเรียนแกะแล้วขีดละ 50 บาท ผมไปตลาดสดธนบุรีเมื่อวันเสาร์ ทุเรียนแกะแล้วขีดละ 100 อย่างโหด!

 

โดย: ชีริว 18 มิถุนายน 2568 21:45:28 น.  

 

อรุณสวัสดิ์ครับอาจารย์

 

โดย: กะว่าก๋า 19 มิถุนายน 2568 4:47:29 น.  

 

ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตครับอาจารย์

ผมคิดว่าชีวิตเป็นการเรียนรู้ที่ไม่จบสิ้นเลยครับ
ถ้าเราสังเกตดูดีดี ก็จะเห็น "ความเปลี่ยนแปลง"
วึ่งเกิดขึ้นในทุกช่วงวัยของชีวิตด้วย

บางคนเคยบ่นกับผมว่าไม่ชอบความแก่เลย
แต่ผมกลับชอบนะครับ
แม้จะทำอะไรได้ไม่ดีเท่าตอนหนุ่มๆ
แต่สิ่งที่ได้มาก็เป็นการมองโลกในอีกมุม
ช้าลง แต่เย็นขึ้น
วางความทุกข์ได้เร็วขึ้น

นี่เป็น "บทเรียนล้ำค่า" ที่ชีวิตมอบให้เราทุกคนจริงๆครับ

 

โดย: กะว่าก๋า 19 มิถุนายน 2568 12:48:56 น.  

 

งวดนี้เที่ยวเมืองไทยนะคะอาจารย์

 

โดย: หอมกร 19 มิถุนายน 2568 21:20:05 น.  

 

เบาหวานรักษาได้ หลักๆ เรื่องของการควบคุมอาหารการกินครับ แล้วก็ออกกำลังกายด้วยการเดิน เดินให้บ่อยขึ้น มันอาจเห็นผลช้า แต่ช่วยได้มากในระยะยาว แต่ยังไงก็ต้องรักษาควบคู่การแพทย์ปัจจุบันไปด้วย

คนไม่ฟังก็ต้องปล่อยครับ ถือว่าเตือนกันแล้ว บอกกันแล้ว พอ!!

การท่องเที่ยวช่วยห้ผ่อนคลายความเครียดลงได้ได้พูดคุย ได้ทานอาหาร ใช้เวลาทำกิจกรรมร่วมกันช่วยให้ผ่อนคลายได้


ทุเรียนเดี๋ยวนี้แพงครับ กินไม่ลงเลยทีเดียว แต่ที่น่าห่วงยิ่งกว่าคือ ทุเรียนถูกที่นำเข้าจากเวียดนาม เห็นว่ามันมีสารเคมีอะไรสักอย่างที่เกินมาตรฐาน



จากบล็อก ดีใจที่อาจารย์ยังจำภาษาจีน ยังพอทายได้บ้างเกมนี้ดูท่าจะยากสหรับคนที่เพิ่งเรียนไม่นาน แต่เกมนี้เป็นเกมของเด็กประถมนะครับ^^

 

โดย: คุณต่อ (toor36 ) 19 มิถุนายน 2568 22:48:18 น.  

 

อรุณสวัสดิ์ครับอาจารย์

 

โดย: กะว่าก๋า 20 มิถุนายน 2568 5:12:26 น.  

 

ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตครับอาจารย์

คุณเอ๋ นิ้วกลม มักจะออกหนังสือเป็นชุดครับ
ส่วนใหญ่จะมีสองเล่ม
ชุดถามตอบก็มีสองเล่ม
งานชุดนี้ก็มีสองเล่มเช่นกันครับ

อาจารย์มีความรักจากเพื่อน จากลูกศิษย์รายล้อมแบบนี้
ผมว่าหลายคนที่มีคู่ชีวิตอาจจะอิจฉาอาจารย์อยู่ก็ได้ครับ

 

โดย: กะว่าก๋า 20 มิถุนายน 2568 13:57:20 น.  

 

ชอบทุเรียนเหมือนกันค่าาาา

อยากเกษียณบ้างแล้วอ่ะคะ อยากไปเที่ยวแบบนี้บ้าง

 

โดย: babyL' 20 มิถุนายน 2568 22:05:51 น.  

 

สวัสดีครับอาจารย์

 

โดย: ปัญญา Dh 20 มิถุนายน 2568 22:08:50 น.  

 

อรุณสวัสดิ์ครับอาจารย์

 

โดย: กะว่าก๋า 21 มิถุนายน 2568 5:18:50 น.  

 

ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตครับอาจารย์

เข้าใจว่าคุณเอ๋คงตั้องการเล่นคำ
เพื่อสื่อว่าภาพทุกภาพมี "สาระ" ซ่อนอยู่ในภาพครับ
ก็เลยตั้งชื่อหนังสือว่า "สาระภาพ"
ผมอ่านครั้งแรกนึกถึงคำว่า "สารภาพ" มากกว่าครับ 555

คนที่อวดแล้วมักจะทำให้ตัวเองมีปัญหา
คือดารา กับ คนที่ทำธุรกิจเทาๆ
แต่ใช้ชีวิตแบบรวยๆ
สองกลุ่มนี้ผมว่ามีปัญหากับคอมเม้นท์เยอะที่สุดครับ

ส่วนคนทั่วไป เช่น อย่างผมนั้น
คนเม้นท์คงไม่ได้มีอะไรจะต้องมาด่าหรือชมเป็นพิเศษครับ 555



 

โดย: กะว่าก๋า 21 มิถุนายน 2568 11:56:15 น.  

 

โอ้ คนเป็นเบาหวานแล้วเป็นแผลที่ขานี่ อันตรายมากเลยนะครับ

อาจารย์เต๊ะ เป็นเบาหวานมาน่าจะ 20ปีได้ แรกๆก็ลั้นลา
ปล่อยตัวปล่อยใจกินแต่ของอร่อยๆไปเรื่อย
จนมาถึงขีดสุด น้ำตาลขึ้นไป 200กว่า น้ำตาลสะสม 12
หมอบอกให้โอกาส แก้ตัวครั้งสุดท้าย ถ้าน้ำตาลไม่ลง อาจจะต้องฉีดอินซูลิน ทุกวัน โอ๊ย ตายแน่
ตั้งแต่นั้นมา อาจารย์เต๊ะ ก็พยายามลดของหวานไม่กินของอร่อย
เพราะกลัวจะโดนตัดขา กับตาบอดนี่แหละครับ ตอนนี้
ครั้งสุดท้าย น้ำตาลลงมาเท่าคนปกติ 5.6แล้ว น้ำหนักจาก 96 ก็ลงมา 74 ชั่งเมื่เช้า
ทุเรียนได้มา 2เข่ง อาจารย์เต๊ะ ชิมไปแค่ 3พูเองครับ 555

ร้านแรกที่ไปนี่ เกาเหลาอากง แต่งร้านสวย วิวถ่ายเซลฟี่เพียบ
แต่ อินทผาลัม นี่ ของต้องห้าม คนเบาหวานเลยนะครับ
โชคดี อาจารย์สุไม่ได้เป็นนะครับ

แล้วก็ SKY WALK ทางเดินพื้นกระจกใสๆนี่อาจารย์เต๊ะ ไม่กล้าขึ้นไปเดินแน่
หวาดเสียว กลัวความสูงอะครับ แล้วยิ่งตัวยังกะคิงคอง
กลัวกระจกจะร้าว ตายแน่ๆเลยเชียว 555

แล้วก็ พระลงยันต์ที่ฝ่ามือให้ อาจารย์สุนี่ ปรากฎว่าท่านลืม เอาเมจิคถาวรมาเขียน ป่านนี้ไม่รู้อาจารย์ล้างออกหรือยังนะครับ เย้ย 555
อาจารย์สุ บอก โชคดี ทีแรกข้าจะให้ท่านเขียนที่หน้าผากด้วย ไม่งั้นละงามไส้เลย 555

แล้วก็มื้อเย็นนี่เสียดาย เลยร้านอร่อยไปนะครับ
แต่ก็ไม่เป็นไร ร้านบ้านๆ แม่ครัวท้องถิ่นนี่แหละอร่อยเด็ดนะครับ
ของโปรดอาจารย์เต๊ะท้างน้าน ต้มยำปลาคัง ผัดผักบุ้ง ปลาทอดกรอบๆ กินตอนหิวๆนี่อร่อยเหาะ เอากุ้งเผามาแลกก็ยอม เอ๊ย ไม่ยอมซี้ 555

ส่วนทุเรียนนี่ ไม่เป็นเบาหวาน กินได้กินไปเลยครับอย่าไปเสียดายตัง
ไม่เหมือนอาจารย์เต๊ะ มีตังแต่กินไม่ได้ ได้แต่นั่งดูเค้ากิน น้ำลายยืดนะครับ 5555



 

โดย: multiple 21 มิถุนายน 2568 16:11:43 น.  

 

อรุณสวัสดิ์ครับอาจารย์

 

โดย: กะว่าก๋า 22 มิถุนายน 2568 5:48:02 น.  

 

อนุโมทนาสาธุบุญด้วยครับอาจารย์ ผมว่าได้เจอเพื่อน ได้ท่องเที่ยวแบบนี้เพื่อนอาจารย์น่าจะหายเครียดนะครับ ร้านเกาเหลาอากงใหญ่โตกว้างขวางจริง ๆ ครับ จุดถ่ายรูปเยอะด้วยครับ ผมอยากไปสุพรรณอีก ตอนนั้นที่ไปมีแต่พระใหญ่อย่างเดียวเลยครับ

 

โดย: The Kop Civil 22 มิถุนายน 2568 9:25:26 น.  

 

ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตครับอาจารย์

วันนี้ผมหยุด
แต่เป็นวันที่ไม่ได้หยุดเลยครับ
ส่งหมิงไปถ่ายภาพสองที่ก็ครึ่งวัน
กลับมาหมิงไปซ้อมดนตรีต่ออีก 555
พักก็เหมือนไมไ่ด้พักเลยครับ

 

โดย: กะว่าก๋า 22 มิถุนายน 2568 21:59:11 น.  

 

อรุณสวัสดิ์ครับอาจารย์

 

โดย: กะว่าก๋า 23 มิถุนายน 2568 4:45:27 น.  

 

555 ยังครับ มันยังไม่จบ
อาจารย์เต๊ะ ยังต้องช่วยหมอฟันเค้าผ่อนรถ ผ่อนบ้านอีกหลายงวดเลยครับ
ยังต้องถอน ต้องทำยังหลายซี่เลยครับ มัวแต่รักษาโรคอื่น
ฟันเลยน้อยใจ บอก เหงือกจ๋า ฟันขอลาก่อนจ้าาาา 555


 

โดย: multiple 23 มิถุนายน 2568 7:38:14 น.  

 

ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตครับอาจารย์

เช้านี้ผมอ่านหนังสือไปประมาณ 1 ชั่วโมง
แล้วก็เปิดคอมนั่งดูเม้นท์ต่างๆครับ

ที่ร้านเงียบมาก
ไม่มีนักท่องเที่ยวเลยครับ
แต่มองให้แง่ดี
ก็ทำให้ผมมีเวลานั่งทำอะไรได้มากทั้งวันเลยครับ 555

 

โดย: กะว่าก๋า 23 มิถุนายน 2568 11:00:45 น.  

 

เพื่อนอ้วนหมดแล้ว
มีอาจารย์หุ่นดีคนเดียวค่ะ

 

โดย: หอมกร 23 มิถุนายน 2568 11:55:27 น.  

 

อรุณสวัสดิ์ครับอาจารย์

 

โดย: กะว่าก๋า 24 มิถุนายน 2568 4:39:55 น.  

 

ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตครับอาจารย์

คุณเอ๋ นิ้วกลม
ตั้งชื่อหนังสือเก่งครับ
ทำหนังสือสวยด้วย

ที่สำคัญผมว่าเจ้าตัวก็คงอยากลอง
เขียนหนังสือด้วยเทคนิคหลายๆแบบ
ไม่งั้นคงจะเบื่อแย่เลยครับ
เพราะออกหนังสือทุกปี
เขียนมา 20 ปีแล้ว
ถ้าเขียนแบบเดียว แนวเดียว
คงไม่สนุกแน่ๆครับ

 

โดย: กะว่าก๋า 24 มิถุนายน 2568 12:54:19 น.  

 

เราเองจ้ะ ทักทายนะจ้ะ

 

โดย: teawpretty 24 มิถุนายน 2568 15:57:40 น.  

 

อรุณสวัสดิ์ครับอาจารย์

 

โดย: กะว่าก๋า 25 มิถุนายน 2568 5:40:32 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

space

อาจารย์สุวิมล
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 47 คน [?]




เป็นครูสอนภาษาไทยที่เกษียณอายุราชการแล้ว สนใจเรื่องการเขียนหนังสือให้ความรู้ ชอบการท่องเที่ยว หากท่านที่เข้ามาชมและอ่านแล้ว มีความสนใจและต้องการสอบถามเรื่องความรู้ด้านภาษาไทย ถ้ามีความสามารถจะให้ความรู้ได้ ก็ยินดีค่ะ

http://i697.photobucket.com/albums/vv337/dd6728/color_line17.gif
space
space
space
space
[Add อาจารย์สุวิมล's blog to your web]
space
space
space
space
space