|
|
| 1 | 2 |
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |
31 | |
|
 |
|
เพื่อนจอยพาเที่ยวสวน ทำบุญ ไหว้พระ ค่ะ |
|
เพื่อนจอยพาเที่ยวสวน ทำบุญ ไหว้พระ ค่ะ
ปี 2564 การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ยังคงระบาด ไม่หยุดหย่อน เลย ตั้งแต่ เดือน เมษายน รัฐบาลมีการประกาศ ล็อกดาวน์ ไม่ให้เดินทางไปต่างจังหวัด มีเคอร์ฟิว เพิ่งมาคลายล็อก ดาวน์เดือน ตุลาคม นี้เอง ค่ะ ขาเที่ยวอย่างฉัน ก็ค่อนข้างอึดอัดแหละนะ ปีนี้ ได้ไปทอดผ้าป่าที่จังหวัดเลยในเดือน กุมภาพันธ์ เพียงแห่งเดียว กลับมาไม่นาน เมษายน โควิด 19 ก็ระบาดหนัก ร้านอาหารก็นั่งกินไม่ได้ ซื้อกลับบ้าน ได้อย่างเดียว เท่านั้น พอดี ฉันอ่านเรื่อง โฮมสเตย์ ที่เจ้าของเขารีวิว เป็นสภาพธรรมชาติมาก บ้านพัก มีลำธารไหลผ่าน มีพันธุ์ไม้เขียวขจี ทรงบ้านก็ดูโบราณ เหมือนบ้าน ที่ตั้งอยู่ในป่าเขาลำเนาไพร บรรยากาศดูเงียบสงบ เหมาะสำหรับการ ไปพักผ่อนเพื่อเติมพลังชีวิตอย่างมากทีเดียว เลยส่งโฮมสเตย์ดังกล่าวไปให้เพื่อนที่เคยอยู่ในแก๊งค์เที่ยวด้วยกัน รวม ถึงเพื่อนจอย (เพื่อนที่ไปแสวงบุญที่อินเดียด้วยกัน) จอย ตอบกลับมาว่า ไม่ต้องไปถึงโฮมสเตย์นี้หรอก ไปเที่ยวบ้านสวน ของเขาก็จะได้พบธรรมชาติเช่นนี้ มีความร่มรื่น เช่นนี้เหมือนกัน แล้วก็ถามว่า ไปไหมล่ะ จะพาไปเที่ยวบ้านสวนของ เขา ให้ชวน เพื่อนเอมไปด้วย (เพื่อนเอม ที่ฉันรู้จัก กัน เพราะไปเรียนภาษาจีนด้วยกันที่ศูนย์วิทยาศาสตร์ ท้องฟ้าจำลอง) เอม ก็เหมือนฉัน เขาก็อุดอู้อยู่กับบ้าน เบื่อเต็มที่เช่นกัน ก็รับปากทันทีที่จะไปด้วย เพื่อนจอย บอกเขาจะไปชวนเพื่อนไปด้วย (ปรากฏว่า ไม่มีใครไปด้วย มีเรา 3 คนเท่านั้น)
ครั้งแรก นัดกันจะไปวันพุธที่ 29 ก.ย. แต่ฉันติดงานมุทิตาจิต ของน้อง ที่โรงเรียนเก่า จึงต้องไปวันที่ 4 ต.ค. แทน เช้าวันที่ 4 ต.ค. จอยมารับฉันที่บ้าน มาเร็วกว่าเวลานัดประมาณ ครึ่ง ชั่วโมงกว่า (นัดกัน 6 โมงเช้า) รับฉันเสร็จก็ไปรับเอม ที่คลองเตย เอมมายืนรออยู่ปากทางที่เขาเคยนัดกับจอยไว้แล้วเราจึง ออกจากกรุงเทพฯ น่าจะประมาณ 6 โมงเศษ ๆ รายการวันนี้ จอยเพิ่งมาเฉลยว่า จะพาพวกเราไปที่ไหนบ้าง นั่นคือ ไหว้พระ ทำบุญ เอาสิ่งของไปบริจาคโรงเจ และวัดด้วย มีการไปซื้อปลาไปปล่อยด้วย ก็เป็นสิ่งดีนอกจากได้ไป เที่ยวสวนเพื่อนแล้ว ยังได้ทำกิจกรรม (ทำบุญ) ต่าง ๆ ด้วย เป็นการสั่งสมเสบียงบุญกันด้วย นั่นเอง ก่อนไป ฉันได้คุยกับเอมว่า การไปเที่ยวครั้งนี้ ให้ใช้วิธีแชร์กันทั้ง ค่าน้ำมันรถทั้งอาหารการกินด้วย จะได้ไม่มีปัญหากันเป็นสิ่งที่ ดีที่สุด เอม เห็นด้วย โดยให้ฉันเป็นคนจดรายจ่ายในการเที่ยวครั้งนี้
ประมาณเวลาน่าจะ เจ็ดโมงกว่า ๆ เราก็ถึงวัดโสธร จอยพาเรามาไหว้ หลวงพ่อโสธร ซึ่งฉันกับเอมก็ไม่ได้มาวัดโสธร นานหลายปีเหมือนกัน จอยบอกว่า เรามาไหว้แต่เช้า ประมาณโมงกว่า นี่เป็นฤกษ์ดีที่สุด ขอพรได้ดีที่สุด มาถึงจอยจอดรถไปซื้อไข่ไก่ที่เขาต้มแล้ว (ชาวบ้านแถวนั้นต้มไข่ขาย กันหลายบ้าน เพราะคนมาไหว้หลวงพ่อโสธร จะบนด้วยไข่ไก่และการรำแก้บนซึ่งก็จะมีคณะนางรำให้จ้างไปรำแก้บน ได้ จอยเป็นคนจัดการซื้อไข่ไก่ (เล็กมาก) 1 ตะกร้า มี 100 ฟอง สำหรับเรา 3 คน ราคา 340 บาท จอยขับรถไปที่ทางเข้าวัด ให้ฉันกับเอมลงก่อน เขาจะเอารถไปจอดที่ ลานจอดรถ ฉันกับเอมจะได้ไม่ต้องเดินไกล เราเดินไปที่ทางเข้า เขามีการวัดอุณหภูมิและเจลล้างมือด้วย ไปที่เขา ขายดอกไม้ เขาให้ซื้อดอกไม้ ธูปเทียน ราคา 20 บาท โดยให้คนซื้อหยอดใส่กล่อง ค่ะ ดีเหมือนกันป้องกันการทุจริตได้ เรา ยังไม่ได้ซื้อ รอจอยก่อน ฉันก็ถ่ายรูปบริเวณนั้นไปพลาง ๆ ก่อน

ซื้อไข่ไก่ไปถวายหลวงพ่อโสธร ค่ะ

รอจอยอยู่บริเวณขายดอกไม้ ก่อนไปไหว้พระ

บริเวณขายดอกไม้และฝากรองเท้า ค่ะ
จอยมาถึง พวกเราต่างก็เลือกดอกไม้และนำเงิน 20 บาท หยอดใส่ กล่องตามที่เขาเขียนไว้ ค่ะ จากนั้นก็เข้าไปไหว้ มีการเสี่ยงเซียมซีด้วย ฉันไม่ค่อยนิยมเสี่ยงนัก แต่จอยคะยั้นคะยอให้ เสี่ยง ให้เหมือนกับเขาสองคนที่เสี่ยงไปเรียบร้อยแล้ว เอ้า!เสี่ยงก็เสี่ยง ได้เบอร์หนึ่งค่ะ เนื้อหาบอกว่าใครได้เบอร์หนึ่งดีมาก (จอยไปเอาใบเซียมซีมาให้) กราบพระ ทำบุญซื้อที่ดินให้ หลวงพ่อโสธร ฉันทำเผื่อ เพื่อนเยาว์และเพื่อนจ๋าคนละ 100 บาท รวม 300 บาท ได้สายสิญจน์ และหนังสือสวดมนต์มา 3 เล่มด้วย ค่ะ

หนังสือสวดมนต์ที่เราทำบุญไป คนละ 100 บาท ค่ะ

เพื่อนจอยสอนวิธีการเสี่ยงเซียมซี อิอิ

เสี่ยงเซียมซีได้เบอร์หนึ่ง ค่ะ

เซลฟี่กันไว้เป็นที่ระลึก ด้วย ค่ะ

ถ่ายรูปกับเพื่อนจอย ค่ะ
ไหว้พระเสร็จแล้ว จอยก็พาไปที่โรงเจ ซึ่งอยู่บริเวณวัดนั่นเอง เพื่อนำ ของไปบริจาค มีไช่โป๊วถุงใหญ่ แตงกวาจากสวนของเขาเอง มีหน่อไม้ และเต้าหู้ยี้ ให้เจ้าหน้าที่มารับของและถ่ายรูปตอนมอบ อาหารด้วย ค่ะ มอบของเสร็จ เราก็ไหว้พระ เป็นพระสังขจาย องค์ใหญ่มาก ฉันบริจาคเพื่อทำบุญโลงศพไป 100 บาท ด้วย ค่ะ

นำอาหารมาบริจาคโรงเจ ในวัดโสธร ค่ะ

เจ้าหน้าที่โรงเจ เป็นผู้รับมอบอาหารบริจาค ค่ะ

กราบพระสังขจาย ค่ะ
ออกจากโรงเจ จอยก็พาไปวัดเมืองเพื่อนำของไปบริจาค แก่วัดนี้ จอย น่าจะมาบ่อย เพราะดูคุ้นเคยกับหลวงพ่อวัดนี้ เราไปถึงวัด พระเณรกำลังสวดมนต์กันอยู่ ค่ะ
ประวัติวัดปิตุลาธิราชรังสฤษฏ์ (วัดเมือง) วัดปิตุลาธิราชรังสฤษฎิ์หรือวัดเมืองเป็นโบราณสถานที่สำคัญอีกแห่งหนึ่ง ที่สร้างขึ้นเมื่อเกิดการสร้างบ้านแปลงเมือง ของฉะเชิงเทราใน พ.ศ. 2377 พร้อม ๆ กับการสร้างป้อมและกำแพง เมืองเพื่อกำหนดขอบเขตของแปดริ้ว เป็นปราการรักษาพระนคร และชาวบ้านชาวเมืองให้ปลอดภัยจากข้าศึก ศัตรูโดยช่างฝีมือจากเมืองหลวงมีรูปแบบ สถาปัตยกรรม ใกล้เคียงกับพระปรางค์วัดพระศรีรัตนศาสดารามที่ กรุงเทพมหานคร ต่างกันที่รายละเอียดปลีกย่อยเท่านั้น นอกจากนี้ชาวบ้านที่ศรัทธาในพระพทุธศาสนาได้ทำให้มีการสร้างวัดขึ้นมาด้วย เพื่อเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่เมืองและ เป็นที่พึ่งทางใจในยามสงคราม เนื่องจากวัดนี้ตั้งอยู่ในเมือง ชาวบ้าน จึงเรียกกันโดยทั่วไปว่า " วัดเมือง " ต่อมาในปี พ.ศ. 2451 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้เสด็จประพาส ฉะเชิงเทรา จึงได้พระราชทานนามวัดว่า " วัดปิตุลาธิราชรังสฤษฎิ์ " ซึ่งมีความหมายว่า วัดที่ลุงของพระเจ้าแผ่น ดิน (ข้อมูลจาก กูเกิ้ล) หลวงพ่อออกมารับของที่เราบริจาค มีของเอมซึ่งจะนำมาให้จอย แต่จอยบอกว่าให้ถวายพระ เณร ที่วัดด้วยเลย พวกเรามีการประเคน พระท่านก็มีสวดมนต์ กรวดน้ำและอวยพรให้ พวกเราด้วย มีพระลูกวัดช่วยถ่ายรูปให้พวกเรา ค่ะ

หลวงพ่อมารับประเคนอาหารที่บริจาค ค่ะ

หลวงพ่อรับอาหารที่บริจาคแล้ว มีการกรวดน้ำด้วย ค่ะ

พวกเรารับคำอวยพรจากหลวงพ่อ ค่ะ
หลังจากที่บริจาคสิ่งของที่วัดนี้แล้ว พวกเราก็ออกเดินทางต่อไป จอย บอกว่า เมื่อทำบุญแล้ว ก็ต้องไปทำทานต่อ โดยการไปปล่อยปลา เธอก็ขับรถพาไปที่บ่อเลี้ยงปลา ดูจากการพูดคุย กับเจ้าของบ่อเลี้ยงปลา แสดงว่าคงมาซื้อปลา ที่บ่อนี้บ่อย ๆ ชื่อบ่อปลาว่า "ประทุมพันธุ์ปลา" จอย เป็นคนสั่งปลาที่ จะไปปล่อย มีปลาตะเพียน ปลานวลจันทร์ ปลาบึก(แพงกว่าเพื่อน โลละ 60บาท ส่วนปลาอื่น ๆ กิโลละ 50 บาท) ปลานิล เจ้าของบ่อก็ใช้คนงานไปตักปลาที่เลี้ยง ตามที่จอยสั่งไป พวกเราก็เดินไปชมกระชังที่เลี้ยงปลาซึ่งมากมาย เราก็ไปถ่ายรูปกัน ขณะที่คนขายจัดปลาใส่เป็นถุง ๆ ให้พวกเราตามชนิดของปลาที่เราสั่ง ค่าปลาครั้งนี้ รวมแล้ว 550 บาท มาชมรูปของพวกเรา ค่ะ

ปลาที่่เราซื้อไปปล่อย ค่ะ


บ่อปลาที่เขาเพาะไว้ขาย ค่ะ

ชื่อปลาที่ซื้อไปปล่อย ค่ะ
ออกจากบ่อเลี้ยงปลา เอม บ่นหิวมาก ขอกินอะไรลงท้องก่อนที่จะ ไปเที่ยวบ้านสวนของจอย จอยบอกจะพาไป กินก๋วยเตี๋ยวเป็ด เจ้าอร่อย แต่ปรากฏว่า ร้านก๋วยเตี๋ยวเป็ดไม่ขาย เห็นร้านก๋วยเตี๋ยวหมูเปิดอยู่ พวกเราจึงไป กินร้านนี้แหละ ฉันสั่นบะหมี่แห้งกิน ส่วนเอมสั่งบะหมี่น้ำ จอยคงหิว มากกว่าเพื่อน กินต้มยำสองชามเลย อิอิ
 กินเสร็จแล้ว เดินชมตลาดแถวนั้น แม่ค้าเริ่มขายของเจแล้ว เพราะจะ กินเจ วันที่ 6 แล้ว จอยอยากให้เรากินน้ำยาปู ซึ่งเขาว่าเจ้านี้อร่อยมาก ปรากฏว่า วันนี้ไม่ขาย เพราะจะเตรียม ขายอาหารเจแล้ว นั่นเอง จอยขับรถไปสวนของเขา น่าจะอยู่พนัสนิคม นะ ไปไกลเหมือนกัน น่าจะครึ่งชั่วโมงกว่า ก็ถึงสวนของจอย ดูแล้วกว้างมาก เห็นบอกว่า ประมาณ 38 ไร่ มีลูกน้องอยู่คอยดูแลให้ เขาสร้างบ้านไว้ 1หลัง เพื่อเวลามาบ้านสวน ก็จะค้างคืนจะได้พัก ให้เราไปดูต้นมะนาวญี่ปุ่น ผลโตเหมือนส้มโอลูกเล็ก ๆ เลย ฉันกับเอมถ่ายรูปกับต้นมะนาวนี้ จอยปลูกไว้หลายต้น พวกเราขอจอยคนละ 6 ผล เพราะอยากจะไปฝากเพื่อนบ้านด้วย เธอก็ให้ลูกน้องไปตัดให้ ตามที่ขอ อิอิ เอม อยากินมะพร้าวด้วย จอยให้ลูกน้องไปตัดลูกมะพร้าวมา 1 ทะลาย ลูกน้องเฉาะ ให้กินคนละลูก น้ำหอมหวานมาก เนื้อก็ไม่แก่จนเคี้ยวยาก ลูกน้องเธอก็เตรียมช้อนให้พวกเราได้ตักเนื้อมะพร้าวกิน น่ารักมากเลย ค่ะ พักดื่มน้ำมะพร้าวแล้ว เราก็ถ่ายรูป ฉันชอบต้นไผ่ที่สูง เขียวขจี ดูแล้ว สดชื่นมาก ถ่ายรูปกัน ผลัดกันถ่ายกับเอม จากนั้น จอยก็ชวนไปปล่อยปลาที่สระน้ำของเขา เรามาชมภาพการ ปล่อยปลาของพวกเรา ค่ะ มีห่านที่จอยเลี้ยงไว้หลายตัว เดินตามพวกเราไปด้วย


ความร่มรื่นของสวนจอย มีต้นไผ่เขียวขจี สวยงามมาก ค่ะ





พวกเราช่วยกันปล่อยปลาลงสระน้ำบ้านสวนของจอย ค่ะ
หลังจากปล่อยปลาทุกชนิดลงสระน้ำของจอยแล้ว ก็เดินชมสวนของ จอย ไปชมวัวและควายหลายตัว ถ่ายรูปกับพวกมัน ชมไร่แตงกวาที่ปลูกไว้ จอยให้ลูกน้องเขาเก็บแตงกวาให้ฉันและเอม คนละถุง เราถ่ายรูปกับไร่ หลังจากชมสวนของจอยแล้ว จอยพาไปห้องพักของเขา ซึ่งเสาร์ อาทิตย์เขาจะมาที่ไร่และพักที่นี่ มี ห้องพระที่จอยชวนไปกราบพ่อปู่ด้วย ฉันก็ได้ขออนุญาตถ่ายรูปที่ห้องพระของจอยด้วย 1 รูป ด้วย ค่ะ กราบ พระขอพรให้มีสุขภาพแข็งแรง ห่างไกลโรคภัยไข้เจ็บ

สวนแตงกวาของจอย ค่ะ

โชว์แตงกวาสักผล สวนของจอย ค่ะ

ที่สวน มีเลี้ยววัวและความหลายตัว ค่ะ

ที่สวนมีเลี้ยงห่านหลายตัว มีน้องหมาอีกหลายตัว ค่ะ

กราบพระและพ่อปู่ที่ห้องพระของจอย ค่ะ

ห้องนอนของจอย ค่ะ
นั่งคุยพักผ่อนอยู่ที่สวนได้พักใหญ่ ๆ ก็ขนของฝากของจอย ขึ้นรถ มี ปลาทูฝากฉันกับเอมคนละ 2 ตัวด้วย ต้องนำไปใส่ช่องฟิตกินหลังเจเสียแล้ว ค่ะ อิอิ
เที่ยงกว่าแล้ว จอยพาไปร้านขายอาหารที่จอยเคยไปกินและบอกว่าอร่อย ก่อนถึงร้านอาหาร จอยแวะซื้อปูม้า 1 กล่อง ราคา 700 บาท แกะเสร็จมีกรรเชียงปูเป็นหลายอันอยู่ ฉันกินกรรเชียงปู อย่างเดียว น่าจะกินไป 4-5 ชิ้น มันไม่ร้อน และน้ำจิ้มไม่แซ่บ เลยไม่อร่อยเท่าที่ควร เอม กับ จอย ชอบมาก กิน อย่างเอร็ดอร่อย สั่งข้าวผัดปู 1 จาน แกงส้มปลาช่อนมั้ง ใส่ไข่ปลาคาร์เวีย (น่าจะใช่นะ) มีหอยจ๊อ อีก 5 ลูก ร้านที่มากิน ชื่อว่า ร้าน ข้าวผัดปู ปลาลวกอีก 1 จาน จานนี้ฉันกินไปเพียงชิ้นเดียวเท่านั้น ฉันว่าน้ำจิ้มไม่แช่บ จอยคงชอบปลามาก กินอย่างเอร็ดอร่อย สิ่งที่เหลือ คือ ข้าวผัดเหลือค่อนข้างมากและเหลือปูที่ซื้อมาต้องให้ จอยเอากลับบ้านไป เพราะที่บ้านจอย มีลูกน้องช่วยกินได้ ฉันกับเอมจะเริ่มกินเจวันที่ 5 แล้วด้วย

อาหารที่พวกเราสั่ง ค่ะ
ออกจากร้านอาหาร ข้าวผัดปูแล้ว เหลืออีกแห่งหนึ่งที่จอยจะไปทำบุญ บริจาคของกินที่ วิหารเทพสถิตพระกิติเฉลิม หรือ ศาลเจ้าหน่าจาซาไท้จื้อ หรือ ศาลเจ้านาจา อ่างศิลา ที่นี่เป็นหนึ่ง ในวัดสวยของจังหวัดชลบุรี ความโดดเด่นของที่นี่ก็คือ วิหารที่มีสถาปัตยกรรมแบบจีน สูงถึง4ชั้น มีอาคารหลัก 3 หลัง และหอฟ้าดิน 1 หลังค่ะ และยังเป็นที่ประดิษฐาน องค์เทพเจ้าครบทุกพระองค์ ตามความเชื่อ แบบจีนอีกด้วย โดยเฉพาะ องค์เทพเจ้าหน่าจาซาไท้จื้อ และ องค์ไท้ส่วยเอี้ย ที่เป็นที่เคารพศรัทธาของชาวจีน และชาวไทย เชื้อสายจีน (ข้อมูลจากกูเกิล) ช่วยกันขนของที่จะบริจาคให้โรงเจ ถ่ายรูปตอนมอบของแล้ว พวกเราก็ไปชมความสวยงามของวิหารนี้ ซึ่งมีความงดงามมาก พวกเราผลัดกันถ่ายรูปกันอย่างมีความสุขเพื่อ เก็บภาพแห่งความทรงจำที่เราได้มาทำบุญกันค่ะ มาชมภาพพวกเราค่ะ

เจ้าหน้าที่ที่ วิหารเทพสถิตพระกิติเฉลิมหรือ ศาลเจ้าหน่าจาซาไท้จื้อ มารับของที่เรามาบริจาค ค่ะ












ผลไม้ที่ตั้งบูชา องค์เทพหน่าจา ค่ะ
ออกจากวิหารหรือศาลเจ้าหน่าจาแล้ว เอม บ่นอยากินทุเรียน จอยก็ ใจดี พาไปร้านแถวอ่างศิลา มีร้านขายทุเรียน ที่มีทั้งแกะแล้วและขายเป็นลูก ๆ แต่ขายแพงมากกิโลละ 180 บาท แต่ถ้าเป็นทุเรียน ป่าละอู 220 บาท แล้วก็ไม่มีลูกเล็ก ถึงมีก็ไม่สุก เลยต้องไปซื้อที่เขาแกะแล้ว 1 พู มี 3 ลูกเล็ก แบ่งกัน คนละพู พอดี แต่ไม่อร่อยเลย จืดสนิท เนื้อก็แข็ง หมดอารมณ์อยากเลย จอยบอกไม่ต้องหาร เขาเลี้ยงเอง ขับรถไป สักพัก ก็เจอร้านขายทุเรียนอีกร้าน เป็นทุเรียน ที่ตั้งขายอยู่หน้าบ้าน จอยก็แวะอีกพวกเราบอกไม่เอาแล้ว กลัวเจอ เหมือนเมื่อกี้นี้ แต่จอยก็ลงจากรถไป เราอยู่ในรถไม่ได้ลงไปด้วย แล้วก็ได้ทุเรียนมาอีก 1 กล่อง เอม ได้กิน สมใจอยากเลย จอยคนซื้อกินไปพูเดียว น่าจะ 5 พู ให้ฉันและเอมคนละ 2 พู ฉันกินไม่หมดทีเดียวเอากลับ บ้านอีก 1 พู ส่วนเอม กินหมดเลย จอยบอกขอเลี้ยงเอง เขาเป็นคนใจกว้างอย่างนี้เสมอ ระหว่างทางกลับบ้าน ฉันก็เริ่มคิดค่าใช้จ่ายที่เราใช้ในวันนี้ ดังนี้ ค่าน้ำมันและแก๊ส 900 บาท ไข่ 340 บาท ปล่อยปลา 550 บาท ปู 700 บาท อาหารร้าน ข้าวผัดปู 685 บาท รวมค่าใช้จ่ายทั้งหมด 2,835 บาท หารด้วย 3 จ่ายคนละ 945 บาท จอยบอกให้เราเพิ่ม อีกคนละ 100 บาท เพิ่งสมทบของที่นำมาบริจาค จุดประสงค์ก็คง ต้องการให้ฉันกับเอม มีส่วนร่วม จะได้บุญร่วมกับเขา นั่นเอง ต้องขอบใจเธอเป็นอย่างมากที่พามาทำบุญ มาเที่ยว แล้วยังมีขอฝาก จากสวนมาให้อีก พวกเรามุ่งหน้ากลับกรุงเทพฯ มาถึงกรุงเทพฯ น่าจะประมาณ 5 โมงเย็น จอยไปส่งเอมปากซอย บ้านเอมก่อนแล้วจึงมาส่งฉันที่บ้าน พร้อมกับสั่งโจ๊ก 2 ถุง เอ๋ไม่ยอมเก็บค่าโจ๊ะ จอยเลยนำมะพร้าวจาก สวนเขาให้ไป 4 ผล ช่วยฉันหิ้วของฝาก มาไว้หน้าบ้าน ฉันแบ่งไข่ไก่มา สิบกว่าฟอง จะไปฝากเพื่อนบ้านกิน เฮง ๆ ด้วย ให้มะนาว และแตงกว่า แบ่งให้บ้านโจ๊ก บ้านเหมียวและบ้านของพี่แม่น้องออม 3 บ้าน แบ่งให้ชัย ช่างซ่อม 8 ฟอง ค่ะ เหลือของตัวเอง หน่อย เก็บใส่ตู้เย็น การไปเที่ยววันนี้ ได้ทั้งความสนุกสนาน คลายเครียดหลังจากที่ไม่ได้ ไปไหนเลยหลายเดือนแล้ว นอกจากความเพลิดเพลิน คลายเครียดแล้ว ยังได้ไปร่วมทำบุญไหว้พระหลายที่ด้วย ต้องขอบใจ เพื่อนจอยที่พาเที่ยว พากิน ไหว้พระ และของฝากจากสวน ค่ะ

ของฝากจากสวนของจอย ค่ะ
หวังว่า ข้อเขียนบล็อกนี้ คงให้ความเพลิดเพลิน ได้ความรู้เรื่องประวัติ ของวัดที่เราไปทำบุญ และขอแบ่งบุญกุศลครั้งนี้ มาให้เพื่อน ๆ ชาวบล็อกทุกคน ค่ะ สวัสดี ค่ะ
Create Date : 16 ตุลาคม 2564 |
Last Update : 26 ตุลาคม 2564 22:44:42 น. |
|
25 comments
|
Counter : 613 Pageviews. |
 |
|
|
ผู้โหวตบล็อกนี้... |
คุณอุ้มสี, คุณkae+aoe, คุณนกสีเทา, คุณกะว่าก๋า, คุณกิ่งฟ้า, คุณชีริว, คุณnewyorknurse, คุณเริงฤดีนะ, คุณmariabamboo, คุณtoor36, คุณ**mp5**, คุณNoppamas Bee, คุณSweet_pills, คุณhaiku, คุณหอมกร, คุณตะลีกีปัส, คุณสองแผ่นดิน |
โดย: อุ้มสี วันที่: 27 ตุลาคม 2564 เวลา:9:24:41 น. |
|
|
|
โดย: kae+aoe วันที่: 27 ตุลาคม 2564 เวลา:10:50:39 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 27 ตุลาคม 2564 เวลา:19:28:46 น. |
|
|
|
โดย: กิ่งฟ้า วันที่: 27 ตุลาคม 2564 เวลา:20:43:47 น. |
|
|
|
โดย: ชีริว วันที่: 27 ตุลาคม 2564 เวลา:21:37:23 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 28 ตุลาคม 2564 เวลา:5:34:02 น. |
|
|
|
โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 28 ตุลาคม 2564 เวลา:7:46:19 น. |
|
|
|
โดย: กิ่งฟ้า วันที่: 28 ตุลาคม 2564 เวลา:19:07:35 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 28 ตุลาคม 2564 เวลา:21:30:52 น. |
|
|
|
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 28 ตุลาคม 2564 เวลา:23:50:20 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 29 ตุลาคม 2564 เวลา:6:29:14 น. |
|
|
|
โดย: **mp5** วันที่: 29 ตุลาคม 2564 เวลา:10:02:27 น. |
|
|
|
โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 29 ตุลาคม 2564 เวลา:11:04:23 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 29 ตุลาคม 2564 เวลา:13:20:39 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 30 ตุลาคม 2564 เวลา:5:58:17 น. |
|
|
|
โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 30 ตุลาคม 2564 เวลา:8:00:50 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 30 ตุลาคม 2564 เวลา:13:56:45 น. |
|
|
|
โดย: Sweet_pills วันที่: 30 ตุลาคม 2564 เวลา:23:22:41 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 31 ตุลาคม 2564 เวลา:6:27:53 น. |
|
|
|
โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 1 พฤศจิกายน 2564 เวลา:13:21:10 น. |
|
|
|
โดย: ชีริว วันที่: 2 พฤศจิกายน 2564 เวลา:21:37:50 น. |
|
|
|
โดย: หอมกร วันที่: 3 พฤศจิกายน 2564 เวลา:14:01:28 น. |
|
|
|
โดย: ตะลีกีปัส วันที่: 3 พฤศจิกายน 2564 เวลา:17:38:28 น. |
|
|
|
โดย: ตะลีกีปัส วันที่: 4 พฤศจิกายน 2564 เวลา:9:39:02 น. |
|
|
|
|
|
 |
|
|
|
 |
ฝากข้อความหลังไมค์ |
 |
Rss Feed |
 | Smember |  | ผู้ติดตามบล็อก : 45 คน [?]

|
เป็นครูสอนภาษาไทยที่เกษียณอายุราชการแล้ว สนใจเรื่องการเขียนหนังสือให้ความรู้ ชอบการท่องเที่ยว หากท่านที่เข้ามาชมและอ่านแล้ว มีความสนใจและต้องการสอบถามเรื่องความรู้ด้านภาษาไทย ถ้ามีความสามารถจะให้ความรู้ได้ ก็ยินดีค่ะ
http://i697.photobucket.com/albums/vv337/dd6728/color_line17.gif |
|
 |
|
ตามเพื่อนจอยคุณครูมาเที่ยว
ด้วยคนนะคะ