|
|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 |
7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
28 | 29 | 30 | 31 | |
|
![space](../template/theme/11/images/spacer.gif) |
|
ชวนไปเที่ยว เลห์ ลาดัก ในประเทศอินเดีย ตอน 3 |
|
ชวนไปเที่ยวเลห์ ลาดักในประประเทศอินเดีย ตอน 3
บล็อกนี้ จะพาเที่ยวอีก 2 วัน ค่ะ คือ วันที่ 26-27 ต.ค. วันที่ 28 ต.ค. เราก็ต้อง อำลาเลห์ ลาดัก บินไปที่ เดลลี และต่อเครื่อง ที่สนามบินเดลลเที่ยวประมาณ เกือบเที่ยงคืน กลับถึงกรุงเทพฯ ประมาณ น่าจะ สองโมงเช้า กว่า ค่ะ เรามาเริ่มไปเที่ยวกัน ค่ะ วันที่ 26 วันนี้ เราออกจาก โรงแรม สายหน่อย ให้ทุกคนได้นอนและพักเหนื่อย จากการไปเที่ยว ทะเลสาบ โมริริ ซึ่งต้องใช้เวลา ในการเดินทางนานมาก วันนี้ ก็เดินทางไกลเช่นกัน ระหว่างทาง ทิวทัศน์มี ความสวยงาม พวกเราก็ถ่ายรูปธรรมชาติที่สวยงามมาฝาก ค่ะ
![](https://www.bloggang.com/data/s/suvimol/picture/1706454252.jpg)
![](https://www.bloggang.com/data/s/suvimol/picture/1706454637.jpg)
![](https://www.bloggang.com/data/s/suvimol/picture/1706454688.jpg)
![](https://www.bloggang.com/data/s/suvimol/picture/1706454730.jpg)
![](https://www.bloggang.com/data/s/suvimol/picture/1706454772.jpg)
ถนนที่วิ่งผ่านหน้าผาไป คดเคี้ยวมาก คนขับต้องมีความชำนาญมาก
![](https://www.bloggang.com/data/s/suvimol/picture/1706455037.jpg)
ระหว่างที่ผ่าน บางช่วง มีแอ่งน้ำด้วย ค่ะ
![](https://www.bloggang.com/data/s/suvimol/picture/1706455068.jpg)
บางแห่งที่รถผ่าน มีหิมะปกคลุม เป็นช่วง ๆ ค่ะ
![](https://www.bloggang.com/data/s/suvimol/picture/1706455093.jpg)
อาหารกลางวัน กินเอาบ่ายกว่ามาก ๆ เป็นร้านอาหารตามทางที่ผ่าน เป็นร้านชาวบ้าน ก็เป็นอาหารอินเดีย ที่เรากินกันทุกมื้อ นั่นแหละ ค่ะ
![](https://www.bloggang.com/data/s/suvimol/picture/1706496657.jpg)
![](https://www.bloggang.com/data/s/suvimol/picture/1706496717.jpg)
น้อง คงหนาวมาก ดูปากสั่น นะเนี่ย อิอิ
![](https://www.bloggang.com/data/s/suvimol/picture/1706496776.jpg)
อาหารที่สั่งมากิน ค่ะ
![](https://www.bloggang.com/data/s/suvimol/picture/1706496831.jpg)
![](https://www.bloggang.com/data/s/suvimol/picture/1706496860.jpg)
สองหมาน้อย มองตาปริบ ๆ มาคอยขออาหารจากพวกเรา ค่ะ
กินเสร็จเข้าห้องน้ำของร้านค้าเขา ก็ดีกว่าห้องน้ำตามทางผ่าน อิอิ ก็ค่อยยังชั่ว ไม่ต้องกลัวตกลงไปในหลุมส้วม ห้าห้าห้า ในที่สุด น่าจะประมาณบ่ายสามน่าจะได้ก็มาถึง เมือง นูบร้า และไปที่ทะเลทรายเกดพาไป ขี่อูฐ ค่ะ มารู้จัก เมืองนูบร้า สักเล็กน้อย ค่ะ
นูบรา หมายถึงหุบเขาแห่งดอกไม้ เป็นแหล่งปลูก Apricot และผลไม้หลากหลายของลาดัก เป็นที่อยู่อาศัยของนกนานาชนิด อยู่ห่างจากเลห์ ไปทางเหนือ 125 km ใช้เวลาประมาณ 6 ชั่วโมง นูบร้าถูกโอบล้อมด้วย เทือกเขาหิมาลัยและเทือกเขาคาราโครัม (Karakoram Range) ซึ่งเทือกเขาคาราโครัมนี้ เป็นเขตแดนตามธรรมชาติกั้นอินเดียกับปากีสถาน และก่อนหน้าปี ค.ศ. 1994 ทางการอินเดียไม่อนุญาต ให้นักท่องเที่ยวเข้ามาในหุบเขานี้เลย การเดินทางไปนูบร้า ต้องเดินทางบนถนนสูงชัน เลี้ยวลดคดเคี้ยวไต่ไปตามไหล่เขาซึ่งไม่มีรั้วกั้น เส้นทางที่น่าหวาดเสียว แต่ภูเขารูปทรงประหลาดและสีสันแปลกตาสองข้างทาง ทำให้รู้สึกตื่นตาตื่นใจและสร้างความประทับใจ รถเราวิ่งตามเส้นทางไต่ระดับขึ้นไปสูงขึ้นเรื่อยๆ เห็นได้จากทัศนียภาพที่ แปลกตาไปตลอดทาง แนวเขาออกสีดินน้ำตาลอ่อนๆ ดูแห้งแล้งเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลเข้มขึ้นเรื่อยๆ จากนั้นจึงค่อยๆ เห็นสีขาวจากหิมะด้วย สวยงามมาก บนเขาสูงปกคลุมด้วยหิมะสีขาวโพลน ค่ะ เกือบตลอดเส้นทางมีการซ่อมปรับปรุงถนน ถนนแถบนี้ต้องซ่อมแซมบำรุง อยู่ตลอดเวลา เนื่องจากมักได้รับความเสียหาย จากหินถล่ม การกัดกร่อนของหิมะหรือไม่ก็จากการกัดเซาะของน้ำอยู่ตลอด ป้ายริมทาง เขียนข้อความคล้ายเป็นคำคมให้ขับรถไม่ประมาท มักมีตัวอักษร ‘BRO’ สอดแทรกอยู่ในข้อความเสมอ สืบเสาะไปมาจึงได้รู้ว่า BROย่อมาจาก Border Roads Organisation ถนนทุกสายที่สร้างขึ้น บนที่สูงแถบภูมิภาคลาดักห์ของอินเดียเหนืออยู่ภายใต้โครงการ Himank Project โดยเริ่ม การก่อสร้างต้นตั้งแต่เดือนสิงหาคม ค.ศ.1985 เป็นต้นมา หลังอินเดียเปิดให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามายังพื้นที่แถบนี้ได้ในช่วงปี ค.ศ.1974
![](https://www.bloggang.com/data/s/suvimol/picture/1706497722.jpg)
ระหว่างทาง เราจะพบกับการซ่อมถนน เป็นระยะ ๆ ค่ะ และมักมีหินถล่ม ค่ะ
แล้วเราก็มาถึงทะเลทรายสีเงินที่หมู่บ้าน Hunder (ฮุนเดอร์) รถวิ่งขนานไปตามแนว ทะเลทรายทอดยาวไปราว 3 กิโลเมตร เชื่อมต่อระหว่างหมู่บ้าน Hunder กับ Diskit แม้ไม่ใช่ระยะทางที่ยาวนัก แต่ก็มีพื้นที่ พอให้ทำกิจกรรมกลางแจ้ง คือ การขี่อูฐ ค่ะ เราต้องเดินลุยเข้าทะเลทรายไกลไม่น้อย จึงได้พบ กลุ่มอูฐซึ่งนอนอยู่เป็นฝูงใหญ่ มีเจ้าของอูฐกำลังคุยกับนักท่องเที่ยวที่จะมาขี่อูฐด้วย เกดถามพวกเราว่าสนใจจะขี่อูฐไหม ฉัน จอย น้อง และแต๋ว ตกลงขี่อูฐ 4 คน ส่วนเกด กับ เมล น่าจะเคยขึ่มาแล้ว เลยไม่ขี่ด้วย ราคาขี่อูฐ 1 ชั่วโมง 500 รูป ก็ไม่แพงนะ เท่ากับเงินไทยประมาณ 250 บาท ต่อ 1 ชั่วโมง โดยมีคนจูงอูฐที่เราขี่เดินไปในทะเลทราย จูงเป็นฝูงนะ ไม่ใช่จูงทีละคน อูฐ ก็แสบนะ เดินไป มันก็ไปสีกับอูฐเพื่อนมันไปด้วย ทำให้เราคนขี่ ตกใจ เหมือนกัน เพราะว่าขาเรา อยู่ข้าง ๆ ตัวอูฐ นั่นเอง อิอิ กลัวตกเหมือนกัน ก็ต้องจับเชือกไว้แน่น ๆ สนุกสนาน มีน้องช่วยถ่ายรูปบ้าง เกด ถ่ายให้บ้าง มาชมรูปพวกเรา ค่ะ
รถของเราต้องจอดอยู่ที่ถนนที่เป็นที่จอดรถ ข้ามสะพานไม้ เข้าสู่ทะเลทราย
![](https://www.bloggang.com/data/s/suvimol/picture/1706498503.jpg)
ทะเลทรายนี้ มีอูฐจำนวนหลายตัวรอทำงานตามหน้าที่ของมัน ค่ะ
![](https://www.bloggang.com/data/s/suvimol/picture/1706498549.jpg)
ทิวทัศน์ส่วนหนึ่งของบริเวณทะเลทราย Hunder Sand Dune ซึ่งเป็นทะเลทรายที่ซ่อนตัวอยูใน หุบเขา รูปร่างแปลกตา ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางหุบเขาสูง ทิวทัศน์ทะเลทรายสีเงินที่สวยงาม สูงถึง 4000 เมตร ค่ะ
![](https://www.bloggang.com/data/s/suvimol/picture/1706498594.jpg)
ทิวทัศน์ อีกมุมหนึ่งของทะเลทรายแห่งนี้ ค่ะ
![](https://www.bloggang.com/data/s/suvimol/picture/1706498715.jpg)
มุมสวยงามมุมหนึ่งของทะเลทรายแห่งนี้ ค่ะ
![](https://www.bloggang.com/data/s/suvimol/picture/1706509052.jpg)
ผลัดกันถ่ายรูปให้ ค่ะ
![](https://www.bloggang.com/data/s/suvimol/picture/1706509124.jpg)
มาถึงแล้วนะ ทะเลทราย ที่รัก
![](https://www.bloggang.com/data/s/suvimol/picture/1706509172.jpg)
อูฐ นูบร้า เป็นอูฐสองหนอก พันธุ์ Bactrain ตัวไม่ใหญ่เท่าอูฐแถบโอมานหรือ อิยิปต์ อูฐสองหนอกพบได้ในพื้นที่อื่นทางตอนเหนือของอินเดีย เช่นกัน แต่เดิมใช้เป็นพาหนะหลักสำหรับขนส่งสินค้าตามเส้นทางแถบเอเซียกลาง
![](https://www.bloggang.com/data/s/suvimol/picture/1706509539.jpg)
เจ้าหน้าที่เจ้าของอูฐ รอให้บริการที่ลูกค้าที่ต้องการมาขี่อูฐ ค่ะ
![](https://www.bloggang.com/data/s/suvimol/picture/1706509656.jpg)
![](https://www.bloggang.com/data/s/suvimol/picture/1706509703.jpg)
อูฐจะหมอบอยู่ เจ้าของอูฐมาคอยช่วยให้พวกเราขึ้นอูฐและลงจากตัวอูฐ ค่ะ
![](https://www.bloggang.com/data/s/suvimol/picture/1706511663.jpg)
ขอฉันถ่ายรูปใกล้ ๆ กับเธอหน่อยนะ อูฐ จ๋า อิอิ
![](https://www.bloggang.com/data/s/suvimol/picture/1706511737.jpg)
แต๋ว เอาบ้าง ท่ากลัว ๆ อูฐ อยู่นะ อิอิ
![](https://www.bloggang.com/data/s/suvimol/picture/1706511791.jpg)
จอย ใจกล้าที่สุด ยืนใกล้ ๆ น้องอูฐ มากที่สุด
![](https://www.bloggang.com/data/s/suvimol/picture/1706511836.jpg)
![](https://www.bloggang.com/data/s/suvimol/picture/1706511876.jpg)
มีนักท่องเที่ยวกลุ่มอื่นมาขี่อูฐด้วย ค่ะ
![](https://www.bloggang.com/data/s/suvimol/picture/1706511925.jpg)
ท่าขี่อูฐของเสี่ยจอย เท่ มาก มั่นใจสุด ๆ เลย
![](https://www.bloggang.com/data/s/suvimol/picture/1706512000.jpg)
เตรียมพร้อมกับการขี่อูฐแล้ว ค่ะ
![](https://www.bloggang.com/data/s/suvimol/picture/1706512049.jpg)
จับเชือกให้แน่น ๆ กัน นะ ห้าห้าห้า กลัวหล่น
![](https://www.bloggang.com/data/s/suvimol/picture/1706512128.jpg)
จอยและแต๋ว เตรียมพร้อม เช่นกัน
![](https://www.bloggang.com/data/s/suvimol/picture/1706512164.jpg)
อูฐ ก็เตรียมพร้อม ยืนขึ้น รอคำสั่งและจูงจาก นายของมัน ค่ะ
![](https://www.bloggang.com/data/s/suvimol/picture/1706512206.jpg)
สู้ ๆ ค่ะ
![](https://www.bloggang.com/data/s/suvimol/picture/1706512267.jpg)
สู้ ๆ เช่นกัน นะ
![](https://www.bloggang.com/data/s/suvimol/picture/1706512300.jpg)
รองเท้าจะหลุด ค่ะ ขอใส่ก่อน นะ
![](https://www.bloggang.com/data/s/suvimol/picture/1706512346.jpg)
ใส่รองเท้าเรียบร้อยแล้ว เตรียมตัว ค่ะ
![](https://www.bloggang.com/data/s/suvimol/picture/1706512398.jpg)
![](https://www.bloggang.com/data/s/suvimol/picture/1706512442.jpg)
สี่คน สองคู่ เตรียมพร้อม อูฐ เดินตามที่เจ้านายเขาจูงไป ค่ะ
![](https://www.bloggang.com/data/s/suvimol/picture/1706512485.jpg)
![](https://www.bloggang.com/data/s/suvimol/picture/1706512561.jpg)
![](https://www.bloggang.com/data/s/suvimol/picture/1706512648.jpg)
![](https://www.bloggang.com/data/s/suvimol/picture/1706512736.jpg)
ท่า เสี่ยจอย สุดเท่ เลย
![](https://www.bloggang.com/data/s/suvimol/picture/1706512767.jpg)
![](https://www.bloggang.com/data/s/suvimol/picture/1706512799.jpg)
เกด คอยถ่ายรูปให้พวกเรา ค่ะ
![](https://www.bloggang.com/data/s/suvimol/picture/1706512832.jpg)
ยิ้มกับกล้องของเกด มั้ง
![](https://www.bloggang.com/data/s/suvimol/picture/1706512871.jpg)
![](https://www.bloggang.com/data/s/suvimol/picture/1706512898.jpg)
![](https://www.bloggang.com/data/s/suvimol/picture/1706512927.jpg)
รูปนี้ น้องเซลฟี่ให้พวกเรา ค่ะ
หลังจากที่ขี่อูฐเสร็จ สนุกสนานแล้ว ก็เป็นเวลา น่าจะ 17.00 น. กว่าได้แล้ว พวกเราต้องกลับที่พักที่จองไว้ที่นูบร้า ไม่ได้กลับ ไปนอนที่เล่ห์เหมือนทุกวันเพราะทุกคนตกลงที่จะไปเที่ยวทะเลสาบปันกอง ในวันพรุ่งนี้ จะได้ไม่เสียเวลาเดินทางและผ่านที่สูง ที่ทุกคนกลัว นั่นเอง ระหว่างเดินทางไป โรงแรมที่เกดให้โรงแรมที่เลห์จองให้ ได้ผ่าน วัด Samstanling เกดให้จอดรถแล้ว ให้พวกเราขึ้นไปไหว้พระไม่ได้เดินชมอะไร เพราะว่ามันไม่มีเวลาแล้ว ตอนนั้น ก็ประมาณ 18.00 น. กว่าแล้ว ได้แต่เดินขึ้นไปไหว้พระองค์ใหญ่ เห็นมีกล่องให้บริจาค ทำบุญด้วย ฉันก็หยอด แบงค 20 บาท ค่ะ เรามาทราบความเป็นมาของวัดนี้สักเล็กน้อยเป็นความรู้ ค่ะ Samstanling Gompa ตั้งอยู่ในหมู่บ้าน Sumur ใน Nubra Valley ของ Ladakh เป็นวัดพุทธสไตล์ธิเบตของนิกายหมวกเหลือง ตั้งอยู่ระหว่างหมู่บ้าน Kyagar และ Sumur สร้างขึ้นในช่วงปี ค.ศ. 1841 โดยลามะ Lama Tsultrim Nima อารามก่อตั้งขึ้น เมื่อเกือบ 150 ปีที่แล้ว สถานที่แห่งนี้อยู่ท่ามกลางความงามของทิวทัศน์ที่น่ารื่นรมย์ และล้อมรอบด้วยเฉดสีทองแดงและขาวแบบดั้งเดิม มีรถประจำทางและรถแท็กซี่สาธารณะที่มาเยี่ยมหมู่บ้านนี้เป็นประจำ จากสถานที่ สำคัญทั้งหมด วัดนี้ ปัจจุบันมีพระธิเบตอยู่ประมาณ 50 รูป แต่เดิมหุบเขาแห่งนี้ มีชื่อว่า Ldumra ซึ่งแปลว่า ภูเขาแห่งดอกไม้ เป็นพื้นที่ อุดมสมบูรณ์เหมาะแก่การเพาะปลูกผลไม้ เช่น แอปเปิ้ล และ แอปปริคอต เป็นต้น
![](https://www.bloggang.com/data/s/suvimol/picture/1706517341.jpg)
![](https://www.bloggang.com/data/s/suvimol/picture/1706517404.jpg)
![](https://www.bloggang.com/data/s/suvimol/picture/1706517520.jpg)
![](https://www.bloggang.com/data/s/suvimol/picture/1706517699.jpg)
ความสวยงามของวัดที่มองลงมาจากที่สูง ค่ะ
โรงแรมที่เราพักคืนนี้ ค่อนข้างลำบาก เพราะว่าไม่มีฮีสเตอร์ ไม่มีน้ำอุ่น เสื้อผ้าเรา ก็ไม่ได้เตรียมมาเปลี่ยน ยาสีฟัน แปรงสีฟันก็ไม่มี ต้องซื้อใหม่หมด พวกเรา กินข้าวเย็นที่โรงแรมเรียบร้อยแล้ว คืนนี้พวกเรา จึงซักแห้งล้างหน้าด้วยผ้าเปียกอย่างเดียว แปรงฟัน ด้วยน้ำเย็นเจี๊ยบ นอนคลุมโปง ผ้าพันคอที่ชุติมา ลูกศิษย์ซื้อมาให้จากญี่ปุ่น พันคอได้อุ่นมาก เสื้อยูนิโค่ที่ใส่มา ก็นอนทั้งชุดนั้น ก็ไม่หนาวมากนัก ค่ะ
![](https://www.bloggang.com/data/s/suvimol/picture/1706518023.jpg)
![](https://www.bloggang.com/data/s/suvimol/picture/1706518248.jpg)
ห้องนอนของโรงแรมนี้ ก็สวยงาม ผ้าห่มหนา อุ่นดี ค่ะ
27 ต.ค. เช้านี้ ภารกิจ ก็เหมือนกับเมื่อคืน ค่ะ ล้างหน้าด้วย ผ้าเปียก แปรงฟัน ด้วยน้ำเย็น ทาครีมกันแดง แป้ง ไม่ต้องแต่งตัว เพราะเป็นชุดเดิมของเมื่อวาน นั่นเอง ค่ะ พวกเรากินข้าวที่โรงแรมเหมือนเดิม กินเสร็จก็ออกเดินทาง วันนี้ ก็ต้อง เดินทางไกลเช่นกัน เส้นทางที่ไปไม่ได้ไปทางเก่า เป็นทางใหม่ที่คนขับรถพาไปหนทางวิบากมาก เป็นถนนที่เป็นหินบางส่วน รถกระโดดไปตามความขรุขระของถนน ต้องจับที่จับ ของพนักเก้าอี้ไว้ให้แน่ เพื่อไม่ให้ด้านหลังของเราถูกกระแทกแรง ๆใครที่มัวแต่หลับ ก็จะถูกกระแทกด้านหลังโดยอัตโนมัติ ในนี้ ดูเหมือน มีแต๋วที่กลับมาจากเที่ยวแล้ว บ่นว่าปวดหลัง ส่วนฉันซึ่งเป็นโรคปวดหลังอยู่แล้ว จึงต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ ค่ะ กลับมาไม่นานนัก ก็ต่อด้วยทริปจอร์แดน เดินมาก ๆ เลยไปลองหาหมอกายภาพ อิอิ ระหว่างทางที่จะไปที่ทะเลสาบปันกอง อันเป็นเป้าหมายที่จะไปเที่ยววันนี้ มีจอดให้ลงไป เข้าห้องน้ำบ้าง ถ่ายวิวความสวยงามระหว่างทางที่ผ่านไป เกด มีซื้อขนม มาแจกลูกทัวร์กินเล่นบนรถด้วย เช่น พวกบ๊วย ขนม ก๊อบแก๊บ มาชมภาพระหว่างทาง ค่ะ
![](https://www.bloggang.com/data/s/suvimol/picture/1706521714.jpg)
![](https://www.bloggang.com/data/s/suvimol/picture/1706521750.jpg)
![](https://www.bloggang.com/data/s/suvimol/picture/1706521780.jpg)
![](https://www.bloggang.com/data/s/suvimol/picture/1706521813.jpg)
![](https://www.bloggang.com/data/s/suvimol/picture/1706521863.jpg)
![](https://www.bloggang.com/data/s/suvimol/picture/1706521900.jpg)
มื้อกลาววันนี้ เกดไม่ได้ทำอาหารมาจากโรงแรม กินตามร้าน ระหว่างทาง อากาศหนาวมาก ร้านนี้เราลืมถ่ายรูปเอาไว้ ค่ะ หลังจากที่เรานั่งรอกินอาหารมื้อกลางวันก็มีคณะท่องเที่ยวอีกกลุ่มเข้ามา กินอาหารเหมือนกัน ค่ะ กินเสร็จก็เดินทางต่อไป ในที่สุดก็ถึง ทะเลสาบปันกอง ถือว่าเป็น คิง แห่งทะเลสาบ คู่กับ ทะเลสาบ โตริริ ที่พวกเรา ไปเที่ยวมาเมื่อวันก่อน มาทราบความรู้เกี่ยวทะเลสาบปันกองสักหน่อย ค่ะ
ปันกอง เป็นทะเลสาบน้ำเค็มที่ตั้งอยู่บนความสูง 4350 เมตร เนื้อที่ 40% เป็นของ ประเทศอินเดีย อีก 60% เป็นของประเทศจีน (เป็นทะเลสาบแบบ endorheicคือ แบบปิดหรือ จม เป็นแหล่งน้ำไม่ไหลลงสู่ทะเล) มีความสวยงามมาก ตั้งอยู่ในเทือกเขาหิมาลัย มีความยาว 134 กิโลเมตร แบะมีส่วนกว้างที่สุด เพียง 5 กิโลเมตรเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยว ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศอินเดีย เป็นทะเลสาบที่มีสีหลากสี ซึ่งได้รับอิทธิพลจากแสงอาทิตย์ ที่ตกกระทบและสะท้อนขึ้นมาสู่ผิวน้ำ ทำให้มองเห็น สีของแม่น้ำเป็นสีขาวใสราวกับกระจก บ้างก็เห็น เป็นสีเขียวเทอร์ควอยช์สีฟ้าและสีน้ำเงินเข้ม
ทะเลสาบปันกอง เรามาถึงจุดหมายปลายทางประมาณ บ่ายสามแล้ว ค่ะ สำหรับ ทะเลสาบปันกอง ที่มาเห็นนั้น เมื่อเปรียบเทียบแล้ว ฉันว่า มันไม่ได้สวยเหมือนที่ทะเลสาบ โตริริ ที่ไปมาแล้ว ต้องเดินไกลจาก ที่จอดรถมากทีเดียว ทางลงค่อนข้างชันด้วย ฉันไม่กล้าลงไป ได้แต่ยืนอยู่ข้างบน มีจอย แต๋ว และน้อง ลงไปด้านล่างถ่ายรูปกัน ฉันอยู่ด้านบน เลยไม่ได้รูปตัวเองสักรูปเลย ได้แต่วิว ทิวทัศน์ รอบ ๆ ทะเลสาบและถ่ายรูปอยู่ด้านบน ให้เพื่อน ๆ ถ่ายรูปนกนางนวลที่บินมา อยู่บริเวณทะเลสาบอยู่ที่นี่ได้ไม่น่าถึงครึ่งชั่วโมงก็กลับกันแล้ว อาจเป็นเพราะไม่มีหิมะ ไม่สวยเท่าทะเลสาบโตริริ และเวลาก็ไม่อำนวยแล้ว นั่นเอง
ระหว่างที่เดินทางกลับ ได้ผ่านป้ายชื่อ ที่เขียนไว้ว่าเป็นจุดสูงสุด เหมือนเรามา พิชิตจุดสูงสุดของเลห์ ลาดัก ซึ่งคนที่มาเที่ยว เลห์ ลาดัก ต้องมายืนถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึก พวกเราก็ลงไปถ่ายรูปเช่นกัน เข้าคิวรอกัน กับนักท่องเที่ยวอื่น ถ่ายรูปเดี่ยวบ้าง รูปคู่บ้าง รูปหมู่บ้าง อยู่กันสัก 10 นาทีก็ขึ้นรถเดินทางต่อไปเพื่อกลับเลห์ โรงแรมเดิม ค่ะ
![](https://www.bloggang.com/data/s/suvimol/picture/1706531903.jpg)
เสี่ยจอย สนุกกับทะเลสาบปันกอง ค่ะ
![](https://www.bloggang.com/data/s/suvimol/picture/1706532000.jpg)
![](https://www.bloggang.com/data/s/suvimol/picture/1706532037.jpg)
![](https://www.bloggang.com/data/s/suvimol/picture/1706532071.jpg)
![](https://www.bloggang.com/data/s/suvimol/picture/1706532104.jpg)
![](https://www.bloggang.com/data/s/suvimol/picture/1706532150.jpg)
สนุกสนาน โต้ลมหนาว ค่ะ
![](https://www.bloggang.com/data/s/suvimol/picture/1706532185.jpg)
หนาวจัง ค่ะ
![](https://www.bloggang.com/data/s/suvimol/picture/1706532225.jpg)
![](https://www.bloggang.com/data/s/suvimol/picture/1706532267.jpg)
![](https://www.bloggang.com/data/s/suvimol/picture/1706532304.jpg)
![](https://www.bloggang.com/data/s/suvimol/picture/1706532339.jpg)
ความสวยของ ทะเลสาบ ปันกอง ค่ะ
![](https://www.bloggang.com/data/s/suvimol/picture/1706532381.jpg)
![](https://www.bloggang.com/data/s/suvimol/picture/1706532411.jpg)
![](https://www.bloggang.com/data/s/suvimol/picture/1706532452.jpg)
![](https://www.bloggang.com/data/s/suvimol/picture/1706532493.jpg)
![](https://www.bloggang.com/data/s/suvimol/picture/1706532527.jpg)
![](https://www.bloggang.com/data/s/suvimol/picture/1706532594.jpg)
![](https://www.bloggang.com/data/s/suvimol/picture/1706532647.jpg)
![](https://www.bloggang.com/data/s/suvimol/picture/1706532691.jpg)
นกนางนวล น่ารักมาก ค่ะ
![](https://www.bloggang.com/data/s/suvimol/picture/1706532741.jpg)
![](https://www.bloggang.com/data/s/suvimol/picture/1706532820.jpg)
![](https://www.bloggang.com/data/s/suvimol/picture/1706532860.jpg)
ทิวทัศน์อันสวยงามของ ทะเลสาบ ปันกอง ค่ะ
ระหว่างที่เดินทางกลับ ได้ผ่านป้ายชื่อ ที่เขียนไว้ว่าเป็นจุดสูงสุด เหมือนเรามาพิชิต จุดสูงสุดของเลห์ ลาดัก ซึ่งคนที่มาเที่ยว เลห์ ลาดัก ต้องมายืนถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึก พวกเราก็ลงไปถ่ายรูปเช่นกัน เข้าคิวรอกันกับนักท่องเที่ยวอื่น ถ่ายรูปเดี่ยวบ้าง รูปคู่บ้าง รูปหมู่บ้าง อยู่กันสัก 10 นาที ก็ขึ้นรถเดินทางต่อไปเพื่อกลับเลห์ โรงแรมเดิม ค่ะ
![](https://www.bloggang.com/data/s/suvimol/picture/1706535933.jpg)
![](https://www.bloggang.com/data/s/suvimol/picture/1706535993.jpg)
![](https://www.bloggang.com/data/s/suvimol/picture/1706536029.jpg)
![](https://www.bloggang.com/data/s/suvimol/picture/1706536067.jpg)
![](https://www.bloggang.com/data/s/suvimol/picture/1706536196.jpg)
![](https://www.bloggang.com/data/s/suvimol/picture/1706536256.jpg)
ก่อนเข้าโรงแรม เราไปเดินตลาดที่เราเคยไปตอนมาถึงวันแรก ทุกคนต้องการไป ซื้อของเพื่อเตรียมกลับเมืองไทย เดินไกลมาก เพราะที่จอดรถ อยู่ไกลจากตลาดนี้ ต้องเดินเข้าซอกเข้าซอย เดินจนลิ้นห้อย หิวน้ำมาก ทุกคนเลือกผ้าพันคอจากร้านที่ แต๋ว จอย เคยซื้อ เมื่อครั้งแรก ราคาไม่ยอมลดให้เลย ถึงจะบอกว่าจะซื้อหลายผืนก็ตาม ผืนละ 500 รูปี ฝืนที่ใหญ่กว่านี้อีกนิด คิดผืนละ 600 รูปี ฉันเหนื่อยจนไปเลือกกับเขาไม่ไหว ให้เกดเลือกให้ รวม 4 ฝืน เพื่อจะไปฝากหมอที่รักษาฉัน 3 คน และฝากรุ่ง มีการซื้อพวกกุญแจอีก ต่อรองได้ พวงละ 100 รูปี ฉันซื้อไป 10 อัน ให้เกดและเมล เลือกให้ เพราะตัวเองเดินมาเหนื่อย นั่งดูความวุ่นวายของเพื่อน ๆ ที่นั่งเลือกกัน หิวน้ำมากด้วย เลือกเสร็จก็มืดมากแล้ว ดีนะที่ได้ซื้อยาและของจากร้าน หิมาลายันตั้งแต่วันก่อน ๆ แล้ว ไม่งั้น คงต้องดึกกว่านี้ ได้ของกันแล้ว ต่างคนต่างหอบสมบัติที่ซื้อ เดินกลับไป ที่จอดรถ ส่วนของของฉัน เกดและเมลช่วยหิ้ว ไม่งั้นคงแย่ แค่เดินอย่างเดียวยังปวดหลังจะแย่เพราะเดินไกลมาก ประกอบกับเป็นวันเที่ยวสุดท้ายแล้ว มันล้าสะสมมาหลายวันแล้ว ตามสังขาร มันก็จะเดินช้า มีเกดคอย ช่วยลาก และ คอยเวลาเหนื่อย ก็พักหน่อยแล้วเดินต่อ ระหว่างทาง ก็มีร้านที่เราเดินผ่าน ตอนมา ไม่ได้สนใจร้านเหล่านั้นเลย ตอนขากลับ ผ่านร้านเขา เขาก็เชื้อเชิญอีกให้เข้าชมร้านเขาบ้าง เพื่อเป็นการพักเหนื่อยและอีกอย่าง เขาก็มีผ้าพันคอที่เราซื้อจากร้านแรกด้วย เกดเลยถามราคา เขาไม่บอกผ่านเหมือนร้านแรกที่เราซื้อกัยเยอะ ๆ นะ บอกว่า ผืนละ 500 รูปี เอ้า ! เจ้าร้านแรกบอกตั้ง600-700 รูป ต่อเหลือ 500 รูปี เกดเลยลองต่อดูว่า 400 รูปี ได้ไหม เขาก็พูดน่าสงสาร นะว่า เขาไม่ได้บอกผ่านเลยนะ ขอเพิ่มเป็น 450 รูปีนะ เขาจะได้มีกำไร บ้าง ฉันก็เห็นใจนะ เลยให้เกดเลือกให้ฉัน อีกสอง ผืน ซื้อทิ้ง ๆ ไว้ เผื่อเป็นของขวัญให้ลูกศิษย์ที่ พาฉันไปกินข้าวและส่งของกินมาให้ฉันบ่อย ๆ ด้วย ค่ะ ส่วนเกด น่าจะซื้อเพิ่มอีก 2 ผืนเหมือนฉัน นะ ถ้าจำไม่ผิด ค่ะ กว่าจะกลับถึงโรงแรม แต่ละคนก็อ่อนล้าและหิวกันมากโขอยู่ เจ้าหน้าที่ที่ประจำ ในการบริการที่ห้องอาหาร ก็เตรียมอาหารให้ อาหารก็เดิม ๆ แต่วันนี้ มีพิเศษ น่าจะเป็นหมูสตูหรืออะไรสักอย่าง ฉันก็ชิมนิดเดียว หลายคนเขาว่าอร่อย แล้วก็มีการทอดไข่ดาวกัน ฉันก็ขอฟองเดียว ส่วนจอย ชอบกินไข่มาก กินได้ถึง 3 ฟอง อิอิ กินมื้อเย็นแล้ว ต่างคนต่างกลับห้องตัวเอง เพื่อเตรียมจัดกระเป๋า เพราะว่าซื้อกันเยอะแยะ เขาให้แค่ 20 กิโล เท่านั้นนำของขึ้นเครื่องได้อีก 7 กิโลกรัม ของฉันเกินไปน่าจะกิโลกว่า ต้องนำมาใส่เป้ เพื่อหิ้วขึ้นเครื่อง จะได้ไม่วุ่นวายตอนชั่งน้ำหนัก ของแต๋วก็เกิน เกดมาช่วยจัดการให้ จอยก็เกิน ของเกดมีกระเป๋าว่างถ่ายเทกันจนไม่มีปัญหา 28 ต.ค. รุ่งเช้า เราก็กินข้าวมื้อเช้าที่โรงแรม ฉันให้เงิน 100 รูปีแก่บริกรที่มาบริการเราทุกมื้อ และให้แบงค์ 50 บาทไทย ให้เขาเก็บไว้เป็นที่ระลึก เกดขอ อีก100 รูปี ให้พวกช่วยยกกระเป๋า
บริกรหนุ่มที่คอยบริการเราที่ห้องอาหาร มาบอกว่า จะพาไปถ่ายรูปกับต้นแอปเปิ้ล เพราะเห็นแต๋วตื่นเต้นกับต้นแอปเปิ้ลเหลือเกิน อยากถ่ายรูปกับ ต้นแอปเปิ้ล กินข้าวเสร็จเขาเลยพาแต๋วไปที่ต้นแอปเปิ้ลใกล้ ๆ โรงแรมเขา น่าจะเป็นของโรงแรมแต่คนละส่วนแยกออกไป เดินไม่ไกล แต๋วชวนไปเป็นเพื่อนด้วย เลยเดินไปกับเขา โถ! มีต้นแอปเปิ้ลอยู่ต้นเดียว มีลูกแอปเปิ้ลอยู่ ลูกสองลูก แถม มีหมาตัวใหญ่มาก ดุหรือเปล่า ดูน่ากลัว บริกร ไล่มัน แต่มันก็อยู่ด้วย คงไม่ดุ ไม่กัด นะ พูดดี ๆ กับมัน ขอถ่ายรูปกับต้นแอปเปิ้ลหน่อยนะ อิอิ เลยได้รูปมาฝาก 2-3 รูป ค่ะ
![](https://www.bloggang.com/data/s/suvimol/picture/1706538307.jpg)
![](https://www.bloggang.com/data/s/suvimol/picture/1706538367.jpg)
![](https://www.bloggang.com/data/s/suvimol/picture/1706538408.jpg)
![](https://www.bloggang.com/data/s/suvimol/picture/1706538726.jpg)
รถที่จะมารับเราไปสนามบินเลห์ เพื่อไปต่อเครื่องที่ เดลลี มาแล้ว บริกรที่นี่ ช่วยกัน หิ้วกระเป๋าพวกเรามาขึ้นรถ แล้วก่อนอำลากัน ก็มีการถ่ายรูปหมู่กันที่ป้ายหน้าโรงแรม ค่ะ อำลาจากโรงแรมนี้ เพื่อมุ่งหน้าไปที่สนามบิน ก่อนขึ้นรถ ฉันให้แบงค์ไทย 50 บาท แก่คนขับรถเป็นที่ระลึกด้วย เขาดีใจ ขอบอกขอบใจ
![](https://www.bloggang.com/data/s/suvimol/picture/1706539436.jpg)
![](https://www.bloggang.com/data/s/suvimol/picture/1706539490.jpg)
![](https://www.bloggang.com/data/s/suvimol/picture/1706539534.jpg)
ประมาณ 9.30 น. มาถึงสนามบินเลห์ เช็คอิน และโหลดกระเป๋า ประมาณ 12.00 น. ออกเดินทางจากเลห์ เพื่อไปต่อเครื่องที่สนามบิน เดลลี เครื่องจากเลห์ ถึงสนามบิน ประมาณ 13.30 น. เตรียมรอรับประเป๋า ก่อน แล้วเข็นกันไป เดินเที่ยวกันอยู่รอเวลาที่จะเช็คอิน วันนี้เตร่อยู่ที่สนามบินเดลลี หลายชั่วโมงเพราะว่า ไฟล์บินกลับกรุงเทพฯของเรา คือ 23.15 น. มื้อเย็น พวกเรากินอาหารในร้านอาหารของสนามบิน มีร้านอาหารจีนด้วย นึกว่าจะได้กิน อร่อยละ เอ้า ! รสชาติเค็มเหลือหลายแถมชามใหญ่มาก กินเหลือเป็นครึ่งต่อครึ่งเลย อิ่มแล้ว ก็เดินช้อปปิ้งในสนามบินกัน เทเงินอินเดียที่เหลือ ซื้อขนมกลับบ้านหลายร้อยรูปี ส่วนใหญ่เป็นถั่วรวม หรือเรียกว่าธัญพืช ไม่ถูกนะ บางห่อ 400 รูปี คิดเป็นเงินไทยก็ประมาณ 200 บาท เห็นรถในสนามบินสวยดี พวกเราก็ถ่ายรูปกับรถด้วย ค่ะ
![](https://www.bloggang.com/data/s/suvimol/picture/1706540151.jpg)
![](https://www.bloggang.com/data/s/suvimol/picture/1706540214.jpg)
![](https://www.bloggang.com/data/s/suvimol/picture/1706540263.jpg)
![](https://www.bloggang.com/data/s/suvimol/picture/1706540301.jpg)
![](https://www.bloggang.com/data/s/suvimol/picture/1706540364.jpg)
พวกเราต้องอยู่สนามบินนานมาก เดินช้อปปิ้งก็แล้ว นั่งคุยกันก็แล้ว เป็นช่วงเวลา นั่งรอเครื่องบินที่น่าเบื่อหน่ายที่สุด เพราะใจของเราทุกคน อยากจะกลับเมืองไทยกันแล้วใจมันถึงเมืองไทยกันแล้ว ตอนมาก็สนุกสนาน เพราะจะได้เที่ยว ได้เห็นอะไรที่แปลกใหม่ของสถานที่ ที่เราอยากมาเห็น มาชม เมื่อได้เที่ยวจบทริปถึงวันกลับก็อยากกลับให้ถึงประเทศ บ้านเกิดของเรา คิดว่า อารมณ์เช่นนี้คงเหมือนกันทุกคน ค่ะ ในที่สุด ก็เรียกผู้โดยสารขึ้นเครื่อง พวกเราก็ดีใจ เตรียมขึ้นเครื่องกันไป ระหว่างอยู่ในเครื่องบิน ไม่ได้คุยกันมากมายนัก สักพักพวกเราก็พักผ่อนสายตากันตามอัธยาศัยผ่านไปประมาณ ชั่วโมงเศษ ๆ บริกรของเครื่องบิน ก็มาปลุกให้ตื่นกินข้าวกัน ค่ะ อาหารของการบินไทย ก็อร่อยพอควร นะ กินเสร็จกันแล้ว ก็มีการเข้าห้องน้ำ บนเครื่องบินก่อนแล้วกลับมานั่งหลับต่อ ค่ะ และแล้ว พวกเราก็มาถึงประเทศไทย สนามบินสุวรรณภูมิของเราโดยสวัสดิภาพ รับกระเป๋าเดินทางกันแล้ว ก็อำลาจากกันและแยกย้ายกัน ไปตามบ้านของตนเอง ฉันกลับกับจอย โดยจอยให้ทูน คนขับรถของเขามารับ และมาส่งฉันที่บ้านก่อน ฉันให้ทิปน่าจะ 200 บาท ทูนช่วยหิ้วกระเป๋าเข้าบ้านให้ฉันเป็นที่เรียบร้อย ฉันมีโอกาสได้นอนต่ออีก ประมาณ ชั่วโมงเศษ ๆ ก็ต้องตื่นขึ้นมาอาบน้ำ แต่งตัว เพราะว่านัดกับบูลย์ มารับ 10 โมง เพื่อไปประชุมสมาคมฯ จัดงานคืนสู่เหย้า ซึ่งจะจัดในวันเสาร์ที่ 11 พ.ย. เหนื่อยสุด ๆ เลยค่ะ แต่ทำไงได้ เมื่อเลือกลูกศิษย์เขาเป็นนายกสมาคมฯ ก็ต้องไปช่วยเขาทำงานนั่นเอง เขายังใหม่ต่องานสมาคมฯ อยู่ค่ะ ทริปเที่ยวเลห์ ลาดัก ก็จบลงไปด้วยความสุข ได้ท่องเที่ยวตามสถานที่ที่สวยงาม ได้ไปเห็นธรรมชาติอันสวยงามของเมือง เลห์ ซึ่งถือว่า เป็นกำไรของชีวิต ถึงจะเหนื่อยกับการเดินทาง แต่ก็คุ้มค่ากับความสวยงามของสิ่งที่ เราได้ไปพบเห็นมา ค่ะ สวัสดี ค่ะ
ฝาก วิดิโอ การท่องเที่ยวเลห์ ตอนที่ 3 ให้ฟัง ค่ะ
Create Date : 28 มกราคม 2567 |
Last Update : 30 มกราคม 2567 11:17:13 น. |
|
40 comments
|
Counter : 986 Pageviews. |
![](../images/bg-follower.png) |
|
|
ผู้โหวตบล็อกนี้... |
คุณร่มไม้เย็น, คุณจันทราน็อคเทิร์น, คุณThe Kop Civil, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณโฮมสเตย์ริมน้ำ, คุณทนายอ้วน, คุณโอน่าจอมซ่าส์, คุณกะว่าก๋า, คุณปัญญา Dh, คุณhaiku, คุณtoor36, คุณสองแผ่นดิน, คุณนายแว่นขยันเที่ยว, คุณSleepless Sea, คุณหอมกร, คุณkae+aoe, คุณkatoy, คุณmultiple, คุณSweet_pills, คุณอุ้มสี, คุณRain_sk, คุณชีริว, คุณtanjira, คุณ**mp5** |
โดย: หอมกร วันที่: 30 มกราคม 2567 เวลา:16:07:26 น. |
|
|
|
โดย: ทนายอ้วน วันที่: 30 มกราคม 2567 เวลา:19:37:36 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 30 มกราคม 2567 เวลา:19:46:24 น. |
|
|
|
โดย: ปัญญา Dh วันที่: 30 มกราคม 2567 เวลา:20:53:08 น. |
|
|
|
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 30 มกราคม 2567 เวลา:21:59:16 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 30 มกราคม 2567 เวลา:22:13:36 น. |
|
|
|
โดย: สองแผ่นดิน วันที่: 30 มกราคม 2567 เวลา:22:47:56 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 31 มกราคม 2567 เวลา:4:47:01 น. |
|
|
|
โดย: multiple วันที่: 31 มกราคม 2567 เวลา:19:49:14 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 31 มกราคม 2567 เวลา:20:01:56 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา:5:08:20 น. |
|
|
|
โดย: Sweet_pills วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา:8:49:45 น. |
|
|
|
โดย: อุ้มสี วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา:13:39:06 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา:14:10:56 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา:5:23:43 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา:10:08:29 น. |
|
|
|
โดย: Rain_sk วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา:3:03:13 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา:6:49:00 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา:11:22:22 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา:6:05:17 น. |
|
|
|
โดย: ชีริว วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา:10:01:41 น. |
|
|
|
โดย: tanjira วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา:18:28:07 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา:18:58:16 น. |
|
|
|
โดย: Sweet_pills วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา:23:55:17 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา:5:35:57 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา:12:54:41 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 6 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา:5:23:59 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 6 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา:10:59:29 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 7 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา:5:18:08 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 7 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา:13:11:42 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 8 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา:5:25:16 น. |
|
|
|
โดย: Rain_sk วันที่: 8 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา:23:58:16 น. |
|
|
|
|
|
![space](../template/theme/11/images/spacer.gif) |
|
|
|
![](../template/theme/11/images/bloggang-theme-home_45.png) |
ฝากข้อความหลังไมค์ |
![](../template/theme/11/images/bloggang-theme-home_53.png) |
Rss Feed |
![](../template/theme/11/images/bloggang-theme-home_59.png) | Smember | ![](../template/theme/11/images/bloggang-theme-home_67.png) | ผู้ติดตามบล็อก : 46 คน [?]
![](../images/butt-follow.png)
|
เป็นครูสอนภาษาไทยที่เกษียณอายุราชการแล้ว สนใจเรื่องการเขียนหนังสือให้ความรู้ ชอบการท่องเที่ยว หากท่านที่เข้ามาชมและอ่านแล้ว มีความสนใจและต้องการสอบถามเรื่องความรู้ด้านภาษาไทย ถ้ามีความสามารถจะให้ความรู้ได้ ก็ยินดีค่ะ
http://i697.photobucket.com/albums/vv337/dd6728/color_line17.gif |
|
![space](../template/theme/11/images/spacer.gif) |
|
มาอ่านทีไรก็อยากไปเลห์ ลาดัก ตามรอยอาจารย์มากครับ
แต่แฟนคงไม่ไปด้วยแน่ๆ 5555 ผมคงต้องไปกับเพื่อนแล้ว
แต่ผมกับเพื่อนกำลังจะมีแพลนไปรัสเซียกัน ผมละกลัวสงคราม......
วิวทิวเขาสวยมาก ๆ ครับ เหมือนภาพวาดเลยครับ
มองดูแล้วรู้สึกเราเป็นแค่จุดเล็ก ๆ ในธรรมชาติ แต่อากาศน่าจะสดชื่นมาก ๆ ถึงจะหนาวมากก็ตาม
มีหมาเขาด้วย 5555 อาหารน่าทานมากครับ ได้ทานอะไรอุ่นๆ ตอนอาหารหนาวจัดๆ คงฟินมาก
ขอบคุณความรู้ เรื่อง BRO มากครับ แต่ผมขับรถไม่เก่ง ต้องมีคนขับพื้นที่ชับให้แน่นอน ขับเองคงไม่ไหวแน่ๆ แต่เค้ามีคนขับพื้นที่ให้ใช่ไหมครับ
อูฐขนอุกอุยมากครับ 5555 น่ารักดี เค้าว่าขี่ยาก อาจารย์คิดว่าเป็นยังไงบ้างครับ
ยิ่งผมเป็นคนกลัวสัตว์ 55555
โรงแรมไม่มีฮีสเตอร์ ไม่มีน้ำอุ่น นี่จ๊ากเลยนะครับ อาบน้ำทีนี่จ๊ากจริงๆ
อาจารย์เก่งมาก ๆ ครับ ผมคิดออกเลยที่ต้องแปรงฟันด้วยน้ำเย็นจัด ๆ
ภาพที่ทะเลสาปปันกอง เห็นแล้วหนาวไปด้วยเลยครับ
ดูแล้วเป็นทริปที่ทรหดน่าดูนะครับอาจารย์ อาจารย์กับเพื่อนร่วมทริปเก่งมาก ๆ ครับ
เป็นทริปที่น่าประทับใจมาก ๆ ครับ ขนาดผมเป็นคนติดตามยังรู้สึกแบบนั้นเลย
แต่อาจารย์รับผิดชอบมาก ๆ ครับ กลับมาก็มีงานที่นัดไว้ต่อ สุดยอดครับ