คืนกำไรให้ชีวิต เพื่อพิชิตไปในโลกกว้าง
space
space
space
<<
พฤษภาคม 2565
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
space
space
16 พฤษภาคม 2565
space
space
space

ชวนเป็นเจ้าภาพบวชพระ บวชเณร และเที่ยวัด ไหว้พระ ตอนที่ 2

  ชวนเป็นเจ้าภาพบวชพระ บวชเณร และเที่ยววัด
ไหว้พระ ตอนที่ 2 


ทริปนี้ พวกเราได้เห็นพิธีบวชพระ บวชเณร ที่ละเอียด ตามประเพณีการ
บวช  มีพระลูกศิษย์อธิบายและให้ข้อมูลเกี่ยวกับ
การบวช  ฉันจึงคิดว่า  ในฐานะเราเป็นคนไทย  การบวชเป็นประเพณี
ไทยอันดีงามที่ปฏิบัติกันมานมนานแต่โบราณกาล
ถ้าเราได้ความรู้  ข้อมูลเกี่ยวกับพิธีบวชจะได้ประโยชน์ดี เพราะเป็นการ
ช่วยกันดำรงศาสนาพุทธให้ยั่งยืนต่อไปอีกวิธีการหนึ่ง ค่ะ  
       
  กำหนดบวชพระ บวชเณร ที่พวกเราเป็นเจ้าภาพ  แต่เดิมกำหนดไว้วัน
ที่ 31 มี.ค. เวลาประมาณ 8.30  น. แต่แล้ว
  เมื่อตอนประมาณตีสี่น่าจะได้  รุ่ง ก็มาเคาะประตูห้องฉัน  ฉันตื่นขึ้นมา
เปิดประตู   เจอรุ่ง  มาบอกว่า  พระตู่โทรมาบอกว่า
  หลวงพ่อเปลี่ยนเวลาบวช  จาก 8.30 น. เป็น ตี 5  เฮ้อ!  พวกเราต้อง
รีบอาบน้ำแต่งตัว มีเวลาแค่ชั่วโมงเดียว 
ดีที่ห้องน้ำมีหลายห้อง และไม่มีคนอื่นมาพักมากนัก  พวกเราแต่งตัว
เสร็จก็ใกล้ตี 5 แล้ว  เดินกันไปที่โบสถ์
ซึ่งจะเป็นที่ทำพิธีบวช  จอยกำลังเตรียมซองเพิ่ม  เพราะพระตู่บอกว่า 
หลวงพ่อนิมนต์พระมาจากวัดอื่นมาร่วมพิธีบวชด้วย
  เรียกว่า  พระอันดับ (แต่เดิม ไม่มีพระอันดับ) 
ให้ใส่ซองละ 500 บาท เตรียมไว้ 10 ซอง   จอย ให้ฉัน  เอม และรุ่ง
ใส่ซอง คนละ 500 บาท  เหลือ อีก 5 ซอง  เสี่ยจอย
ใส่เองหมด  สาธุ ขอให้เสี่ยจอยได้บุญและร่ำรวยยิ่ง ๆ ขึ้น นะคะ   

พระตู่ท่านมาจัดการเรื่องเครื่องบวชแต่เช้า  เตรียมเครื่องบวชของกลุ่ม
เรา  (ปรากฏว่า  วันนี้ มีอีกกลุ่มหนึ่งมาร่วมบวชพระด้วย
อีก 4 รูป  วันนี้เลยมีบวชพระทั้งหมด 5 รูป บวชเณรอีก 3 รูป ค่ะ
  เมื่อพวกเราจัดซองและปัจจัยที่จะถวาย
องค์อุปัชฌย์  พระคู่สวด และพระอันดับ เรียบร้อย  โดยใส่พานไว้
เตรียมถวายหลังพิธีบวช  หลวงพ่อ องค์อุปัชฌาย์
และพระรูปอื่น ๆ ยังไม่มา พวกเราเลยมีโอกาสได้ถ่ายรูปที่โบสถ์ไว้
เป็นที่ระลึก ค่ะ 









โบสถ์ของวัดเขาศาลาอตุลฐานะจาโร ที่ใช้เป็นสถานที่บวชพระ เณร




เตรียมผ้าไตร เครื่องบวช พร้อม  ค่ะ 



ถ่ายกับพระประธานที่พระอุโบสถก่อนที่ถึงพิธีบวชพระ เณร ค่ะ 



จัดสถานที่สำหรับพิธีบวชพระเณร  ค่ะ อาสนะ ตรงกลางสุด เป็น
อาสนะสำหรับพระอุปัชฌาย์  ทางซ้ายมือที่มีอาสนะเดี่ยว
เป็นอาสนะของพระคู่สวด (มีรูปเดียว)  ที่อาสนะที่เหลือรอบ ๆ พิธี เป็น
อาสนะของพระอันดับ  ค่ะ 

 ประมาณตี 5 กว่า  คณะพระสงฆ์ ที่จะมาทำพิธีบวชพระบวชเณร ก็มา
ถึงที่โบสถ์  เข้านั่งตามอาสนะที่จัดเตรียมไว้
ที่หน้าองค์พระประธานซึ่งจัดไว้เรียบร้อยแล้ว หลวงพ่อเยื้อนเจ้าอาวาส
  เป็นองค์อุปัชฌาย์จารย์ในวันนี้  นั่งอยู่ตรงกลาง 
มีพระคู่สวด นั่งห่างออกมา  แวดล้อมด้วยพระอันดับรอบ ๆ 10 รูป ก่อน
ถึงพิธีบวช  มาทราบความรู้คร่าว ๆ เกี่ยวกับ
ขั้นตอนในการบวช  (พระตู่ให้ความรู้มา ค่ะ )  
       
สิ่งของที่ต้องเตรียมไว้ใช้ในพิธีบวช  มีดังนี้  ค่ะ 
        1. ไตรแบ่ง ได้แก่ สบง จีวร ประคตเอว อังสะ  ผ้ารัดอก  ผ้ากราบ
 2. ไตรอาศัยหรือสำรอง   มี จีวร  สบง อังสะ  ผ้าอาบ 2 ผืน
3. ย่าม  ผ้าเช็ดหน้า  นาฬิกา  
       4. บาตร  แบบมีเชิงรองพร้อมด้วยฝาบาตร
       5. ร่ม  รองเท้า 
       6.ที่นอน เสื่อ หมอน มุ้ง ผ้าห่ม  
       7. จานข้าว  ช้อนส่อม  แก้วน้ำ ผ้าเช็ดหน้า  ปิ่นโต  กระโถน
       8. ขันน้ำ  สบู่  กล่องสบู่ แปรง  ยาสีฟัน  ผ้าเช็ดตัว
       9. ธูป เทียน ดอกไม้  (ใช้สำหรับบูชา)  
      ก่อนบวช  มีการไปขอขมา บิดา  มารดา  ญาติผู้ใหญ่  เพื่อลาบวช 

สถานที่ทำการบวชพระ เณร  คือ อุโบสถ  ประชุมสงฆ์ มี 28 รูป   คือ 
1. พระอุปัชฌาย์  (ประธานในการบวช)   2. พระกรรมวาจารย์  พระผู้
มีหน้าที่สวดประกาศในท่ามกลางสงฆ์เวลาทำ
พิธีอุปสมบทเพื่อให้ทราบรายละเอียดเกี่ยวกับตัวผู้บวชและถามมติ
ของสงฆ์ว่า  จะยอมรับผู้ขอบวชให้เป็นภิกษุหรือไม่
3. อนุสาวนาจารย์  พระผู้ทำหน้าที่อธิบายเกี่ยวกับระเบียบวินัยเบื้องต้น
แก่ผู้บวชที่เป็นภิกษุผู้บวชใหม่   ปัจจุบัน 
ทั้งพระกรรมวาจารย์และพระอนุสาวนาจารย์ ถือว่า ได้ทำหน้าที่อย่าง
เดียวกัน  จึงเรียกว่า  "พระคู่สวด"   พระอีก 25 รูป
เรียกว่า  พระอันดับ  ซึ่งมี 10 รูปขึ้นไป  ไม่ต้องถึง 25 รูป ก็ได้ ค่ะ 
         
ขั้นตอนในการบวช   เริ่มจาก ผู้บวชต้องท่องบทสวดในการบวชให้ได้ 
เมื่อถึงเวลาทำพิธีบวช  ผู้บวชรับผ้าไตร  อุ้มผ้าไตร 
ประนมมือเข้าไปในพิธี  วางผ้าไตรไว้ข้างตัวด้านซ้าย  ถวายเครื่อง
สักการะพระอุปัขฌาย์ กราบด้วยท่า
เบญจางคประดิษฐ์ 3 ครั้ง  แล้วนั่งคุกเข่าอุ้มผ้าไตรประนมมือ 
พระอุปัฌาย์ให้โอวาทแล้ว  ดึงอังสะออกจาก
ผ้าไตรสวมให้ผู้บวช  แล้วให้ออกไปครองผ้าไตร จีวรตามระเบียบ 
(พระพี่เลี้ยงจะคอยสอนให้ห่มผ้าไตรจีวร) 
เสร็จแล้ว  ก็เข้าไปหาพระกรรมวาจาจารย์  รับเครื่องสักการะถวาย
ท่านแล้ว  กราบ 3 ครั้ง  นั่งคุกเข่าประนมมือ
เปล่งวาจาขอสรณะและศีล  พระกรรมวาจาจารย์กล่าวคำนมัสการให้
ผู้บวชว่าตาม  (เป็นภาษาบาลี)  คำสวดต่อไป 
ถ้าเป็นสามเณร  จะสมาทานสิกขาบท 10 ประการ แล้วรับบาตรอุ้ม
เข้าไปหาพระอุปัชฌาย์ วางไว้ข้างซ้ายรับเครื่อง
สักการะถวายพระอุปัชฌาย์  กราบ 3 ครั้งนั่งคุกเข่า กราบ 3 ครั้ง
กล่าวบทขอบวช  แล้วออกไปครองผ้าบวชเหมือนพระ
   แล้วกลับมาหาพระคู่สวด  ทั้งพระและเณร มีบทคำถาม ตอบ เป็น
ภาษาบาลี เมื่อสวดซ้อมแล้ว  พระคู่สวดจะกลับ
เข้ามาสวดที่เรียกว่า  อุปสัมทา  คุกเข่าเข้าหาพระอุปัชฌาย์ กล่าว
เผดียงสงฆ์  ( คือ คำสวดประกาศเป็นภาษาบาลีเสนอให้
ที่ประชุมสงฆ์ทราบ เพื่อทำกิจของสงฆ์ร่วมกัน)  แล้วพระคู่สวด  สวด
สมมติตนซักซ้อมนาค ถามอันตรายิกธรรม  (คือ เหตุ
ขัดขวางการอุปสมบท 13 อย่าง ในพิธีบวชว่า
มีอะไรบ้าง เช่น เป็นโรคเรื้อนหรือไม่  เป็นขี้กลากไหม  เป็นฝี เป็นหิด 
ไหม เป็นต้น )  เสร็จแล้ว นำบาตรออกจากตัวผู้บวช
กราบ 3 ครั้ง    นั่งพับเพียบ ฟังพระอุปัชฌาย์จนจบ  กราบ 3 ครั้ง  จาก
นั้นถวายสังฆทาน  กรวดแล้ว  เป็นเสร็จพิธี ค่ะ 
  พวกเรานั่งอยู่คนละฝั่งกับอีกคณะหนึ่งที่มาร่วมบวชวันนี้ด้วย แล้วคณะ
ของเราที่จะบวชเช้านี้  ก็มาถึง  พระตู่ให้ฉันยกผ้าไตร
  บาตร และเครื่องบวช ถวาย นาคคิว เสียดาย ไม่มีรูปตอนถวาย  อิอิ 
จากนั้น  ก็เริ่มพิธีบวช  



พระตู่ ให้ฉันยกผ้าไตรและพานเครื่องบวชให้นาค คิว ค่ะ 

   พิธีบวชเริ่มไปตามขั้นตอนที่ฉันได้เขียนอธิบายไว้  พวกเราก็ได้แต่นั่ง
ดู นั่งชม อิ่มบุญไปด้วย  ถ่ายรูปพิธีบวชมาให้ชม ค่ะ  



เตรียมปัจจัยที่จะถวายในงานบวช 









แต่ฉันก็ไม่ได้ยินว่า  พระอุปัชฌาย์พูด ถาม อะไรกับพระ ที่บวช
พระคู่สวด  ในงานนี้ น่าจะมีรูปเดียว  มีพระตู่เป็นผู้ช่วย
อยู่อีกมุมหนึ่ง  เราไม่ได้ยินหรอกว่า  ผู้ที่บวชและพระอาจารย์ที่ทำ
หน้าที่บวช กล่าวอะไรกันบ้าง  ได้แต่ดูและถ่ายรูปเอาไว้
เป็นที่ระลึกเท่านั้นเอง  จนเสร็จพิธี  ฉันก็เป็นตัวแทนนำปัจจัยที่เตรียม
ไว้ทั้งหมดไปถวายให้หลวงพ่อเยื้อน และเลขา
ท่านเป็นผู้รับไป ค่ะ พิธีเสร็จประมาณ 6.19  น. (พระตู่บอกค่ะ )





คณะนาคที่จะบวช  มีพระ 4 รูป เณร 3 รูป มากราบพระอุปัชฌาย์





นาคนำผ้าไตรกราบพระอุปัชฌาย์ 



ดึงอังสะ คล้องให้นาค





พระพี่เลี้ยงช่วยและสอนเปลี่ยนชุดนาคเป็นครองไตร จีวร

























เสร็จพิธีบวช  ถวายสังฆทานแล้ว  กรวดน้ำ เป็นอันเสร็จพิธี


  หลังจากที่ฉันถวายปัจจัยเสร็จเรียบร้อย  รุ่งจะนำปัจจัยถวายหลวงพ่อ
ด้วย  แต่หลวงพ่อเดินจากไปลงโบสถ์ไปแล้ว
  จึงถวายให้พระที่เป็นเลขาแทน และให้ฉันถ่ายรูปให้


     
พวกเราลงจากโบสถ์  ปรากฏว่า  เอม หารองเท้าตัวเองไม่เจอ  จอย
น่ารักมาก เอารองเท้าของตัวเองให้เอมใส่ไปก่อน
  ตัวเองเดินเท้าเปล่า  (ในที่สุด เอม ก็ไปหารองเท้าอีกครั้ง  ไปเจอเอา
ทางออกอีกทางหนึ่ง   แสดงว่า ไปถอดรองเท้า
ทางขึ้นอีกทางหนึ่ง  แล้วตัวเองลืม นั่นเอง ไม่ใช่ใครใส่รองเท้าผิดไป 
      พระตู่งานยุ่งมาก  พวกเราก็ไม่รู้จะไปทางไหน
  ฉันจึงต้องโทรถามว่า  จะให้พวกเราทำอะไรต่อไป  ท่านบอกว่า  ให้
รอท่านที่ หอฉัน  เดี๋ยวท่านจะตามไป 
พวกเราเลยต้องถามแม่ชีที่เห็นจัดโรงทานอยู่ว่า โรงทานอยู่ไหน 
จึงได้รู้ว่า หอฉัน ตึกนี้ ก็อยู่ตรงที่ เขาจัดโรงทาน นั่นเอง
   โรงทานของเรา ก็ คือ ขนมจีนน้ำยา  ค่ะ 



ตึกหอฉัน ที่พระสงฆ์ เณร บิณฑบาตแล้ว จะมารวมตัวกันฉัน
ภัตตาหาร ที่หอฉันนี้  ค่ะ 

 ช่วงนี้  พวกเราตักข้าวใส่ชาม  เพื่อเตรียมใส่บาตรพระในวัดและใส่
บาตรพระบวชใหม่วันนี้ด้วย ค่ะ  ประมาณ 7.30  น. 
พระจะตั้งแถวเดินรับบาตรตรงหน้ากุฏิเจ้าอาวาสหลวงพ่อเยื้อน  ฉันกับ
รุ่งไปยืนอยู่ใกล้ ๆ กุฏิ ท่าน รอใส่บาตร ค่ะ
  ชาวบ้านและเจ้าภาพที่มาบวชพระ บวชเณร มารอใส่บาตรตั้งแถว
มากมายพอสมควร ค่ะ มาชมภาพ ค่ะ 




 






พระและเณร  เมื่อรับข้าวของผู้ใส่บาตรแล้ว  ก็เดินมาตักกับข้าวที่ตั้ง
เป็นซุ้ม ๆที่หน้าหอฉัน  ซุ้มกับข้าว  น่าจะเป็นของ
เจ้าภาพบวชพระและของชาวบ้านที่นำมาร่วมใส่บาตรอาจจะมีของโรง
ครัวที่นี่ร่วมด้วย  ฉันเดาเอา  น่าจะประมาณ 7-8 ซุ้ม
  ธรรมเนียมของพระป่า  จะตักกับข้าวใส่บาตรฉันรวมกันในบาตร  ค่ะ

      เมื่อพระเณรตักกับข้าวใส่บาตรเรียบร้อยแล้ว  ก็ขึ้นไปที่ตึกหอฉัน 
ชาวบ้านรวมทั้งพวกเราก็ขึ้นไปที่หอฉันเพื่อดู
พิธีการฉันภัตตาหารของพระภิกษุ  มีการสวดมนต์ก่อนฉัน ฉันกับเอม
  นั่งอยู่ใกล้ประตู เพราะชาวบ้านจองที่นั่งกลางลานหมดแล้ว 
ส่วนรุ่งขึ้นมาก่อนได้นั่งอยู่กลางลาน มีโอกาสได้ถ่ายรูปง่ายกว่า 
   








 
หลังจากการฉันภัตตาหารกันแล้ว  ชาวบ้านและพวกเราก็ลงจากหอฉัน 
ต้องให้พวกแม่ชีตักอาหารก่อน  ชาวบ้านและพวกเรา
จึงไปตักข้าวและกับข้าวกันต่อไป  อาหารก็กินเป็นบ้างไม่เป็นบ้าง ตาม
แต่คนชอบ ส่วนใหญ่ฉันตักอาหารแห้งมากกว่า 
แล้วก็ไปตักขนมจีนน้ำยาที่พวกเราเป็นเจ้าภาพกิน 1 จาน ก็อิ่มแล้ว  
       พระตู่นัดไว้ว่า  9.30  น. เพื่อจะไปสวนมะม่วง
ของพระส่า  เพื่อนของพระตู่  ซึ่งชวนพระตู่และพวกเราไปเก็บมะม่วงที่
สวนของท่าน  มะม่วงที่นี่ มีพันธุ์เขียวเสวย  แรด ทองดำ 
ที่บ้านเขาไม่ได้เอามะม่วงไปขาย  เนื่องจากมีที่ดินมากเลยต้องปลูก
ต้นไม้มากมาย โดยเฉพาะมะม่วงค่ะ 
พวกเราไปถึงสวนของพระส่า  น่าจะประมาณ 10 โมงกว่า  ได้พบพ่อ
แม่  ญาติของพระส่าให้การต้อนรับเป็นอย่างดี
ไปขึ้นต้นมะพร้าว  เฉาะมะพร้าวมาให้พวกเรากินกัน พอดีมีรถไอศกรีม
มาจอดขาย  จอย ก็เลยสั่งไอศกรีมกินกันคนละถ้วย
เณรน้อยฝาแฝดชอบมาก ตามประสาเด็ก  เด็ก ๆ ที่บ้านพระส่า ก็ได้กิน
กันไปทั่วหน้ากัน  คนขายไอศกรีมสบายไปเลย
  ขายเจ้าเดียวก็ได้หลายตังค์เลย   พวกเราอิ่มแล้ว  ก็เดินเข้าสวนเพื่อ
ไปเก็บมะม่วงกัน  เดินไกลมากพอสมควรกว่าจะถึง
สวนที่มีมะม่วง   พวกเราก็เริ่มลงมือ  ฉันกับเอมเก็บไม่ถึงหรอก  มีหน้า
ที่ช่วยเก็บมะม่วงที่จอยและรุ่ง สอยด้วยไม้ตระก้อ
นั่นแหละ  แดดตอนนี้ ร้อนมาก ๆ  ฉันอยู่ได้พักใหญ่ ๆ ก็เดินไปหลบ
แดดรวมกลุ่มกับ พระตู่ พระคิวและเณร
ส่วนทูลก็เก็บได้ถุงใหญ่ของตนเอง  ส่วนของพวกเรา  ญาติของพระ
ส่า  นำถุงปุ๋ยและรถไปเข็นมะม่วงที่เราเด็ดเอาไว้ 
ส่วนรุ่งและจอย เดินตามกันมาหลบแดดเหมือนกัน









 ออกจากที่สวนของพระส่า  พวกเราก็ไปเที่ยวบ้านช้าง  ช่วงนั้น เป็น
เวลาบ่ายสองจะบ่ายสามแล้ว  การแสดงชุดสุดท้าย
กำลังแสดงใกล้จบด้วย  เขาเลยเก็บคนละ 20 บาท ส่วนอายุเกินไม่เสีย
ดูเหมือนว่าพระ เณร จะยกเว้นด้วย  เลยน่าจะเสียแค่ วรรณ
คนเดียวที่ยังไม่ถึง 60 ปี  ส่วนทูลไม่เข้าไป ค่ะ   เอม ซื้อข้าวเกรียบ 1
ถุง  พวกเราเลยนั่งที่เก้าอี้แถวนั้น กินไป
คุยกันไป  เพื่อรอ พระตู่  พระคิว และเณร  ชมช้างกันไป  เณร ฝาแฝด
คงชอบมากกว่าเพื่อน  อิอิ 





น่าจะประมาณบ่ายสามกว่าแล้ว  พวกเราก็เดินทางกลับวัด  ก่อนเข้าวัด 
แวะร้านที่ทำขนมจีนน้ำยาให้พวกเรา  เพราะเขาบอกว่า
  ช่วงเช้า นอกจากขนมจีนน้ำยาแล้วยังมีข้าวคลุกกะปิ ให้พวกเราด้วย 
แต่เนื่องจากเปลี่ยนเวลาบวชเลยทำไม่ทัน
  เย็นนี้  เราจึงแวะไปที่ร้านนี้  เจ้าของร้าน รู้จักกับพระตู่ดี  เห็นจากการ
พูดคุยกันอย่างสนิทสนม  เราได้ข้าวคลุกกะปิ
6 กล่อง  6 คน  จอย อุดหนุนแกง  ปลาทู แลน้ำพริกด้วยมั้ง  มีสาคู
ของใต้ด้วย  เจ้าของร้านใจดี แถวน้ำพริกกะปิ
และผักให้พวกเราด้วย ค่ะ   กลับถึงวัด ก็เย็น ได้เวลาอาหารมื้อเย็น 
พวกเรานั่งกินกันที่ลานกว้างที่ใกล้ ๆ กับหอฉัน 
มีโต๊ะ เก้าอี้พร้อม  พวกเรากินไป  คุยไป บางอย่างที่ซื้อมาก็ไม่ได้กิน 
เลยคิดนำไปให้พระตู่ไว้ฉันมื้อเช้า  (ใส่ตู้เย็นได้) 
 หลังจากที่กินข้าวมื้อเย็นกันเรียบร้อยแล้ว   ชวนทุกคนไปที่กุฏิพระตู่ 
เพื่อนำปัจจัยและหมวกไหมพรมของฉันไปถวายด้วย 
ปรากฏว่า จอย  เอมและวรรณ ไม่ไปแล้ว  เหลือฉันกับรุ่ง และทูลไปกัน
3 คน เท่านั้น  ถวายปัจจัยค่าวิทยากรและหมวก
ไหมพรม เสร็จแล้ว นั่งคุยกัน  พระตู่ฝากข้าวสารออแกรนิคให้ฉันด้วย 
มีขนมกลีบลำดวนที่มีคนส่งมาถวายพระตู่อีก 1 กล่อง
ท่านแบ่งให้ฉันด้วย (คงในฐานะที่ฉันเป็นสะพานบุญให้ท่าน นั่นแหละ) 
ฉันจัดการแบ่งให้เพื่อน ๆ และทูล คนละ 1 ห่อ
รวม 5 ห่อเหลือ 2 ห่อ เป็นของฉัน  ส่วนขนมกลีบลำดวนก็แจกไป
คนละ 2   บ้าง  4  บ้าง  แจกของเสร็จแล้ว 
ฉันก็กลับเข้าห้อง  อาบน้ำ จัดกระเป๋า แล้วเข้านอน เพราะพรุ่งนี้ตกลง
กันว่าเราจะใส่บาตรพระ  เณรก่อนที่จะเดินทางกลับกรุงเทพฯ   





วันที่ 1 เมษายน  เช้านี้  พวกเราอาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้ว  ก็เตรียมยก
กระเป๋าออกจากห้องพัก  ลงมาที่ใกล้ ๆ หอฉัน
เพื่อเตรียมรอใส่บาตรพระ เณร อีกครั้ง  ช่วงนี้มีเวลาว่างอยู่ก็จัดแจง
แบ่งมะม่วงที่เก็บมาจากสวนของพระส่า แยกเอาไว้
เป็นคน ๆ ไป เพื่อเวลาถึงบ้านแล้วจะได้ขนของได้ง่าย  นั่นเอง  

ประมาณ 7.30 น. พระ เณร  ก็เดินรับบาตรจากญาติโยมเหมือนเมื่อวาน
  ฉันกับรุ่งไปรอใส่บาตรที่เดิมเหมือนเมื่อวาน  ค่ะ 
มีญาติโยมมารอใส่บาตรไม่น้อยเหมือนกัน  เพราะวันนี้ช่วงเช้ามีการ
บวชพระเณร อีกหลายรูป  ค่ะ  หลวงพ่อเยื้อนมาเดิน
ตรวจพระเณร  ทักทาย เณรเล็ก ๆ ด้วยความเมตตา   มาชมภาพ ค่ะ 


















หลวงพ่อเยื้อนเจ้าอาวาส เดินสำรวจ ทักทาย พระ เณร บวชใหม่
ด้วยความเมตตา  ค่ะ 

ใส่บาตรเสร็จแล้ว พระ เณร ก็เดินมาตักกับข้าวใส่บาตรเหมือนเมื่อวาน 
แล้วขึ้นไปที่หอฉัน ฉันภัตตาหารพร้อม ๆ กัน
  วันนี้พวกเราไม่ได้ขึ้นไปที่หอฉัน  อยู่ด้านล่าง  เตรียมพร้อมให้ แม่ชี
ตักข้าวก่อน แล้วพวกเราและชาวบ้านที่มาร่วมทำบุญ
ก็ต่อแถวกันตักข้าว กับข้าว  (ฉันเลือกกินของแห้ง ๆ เหมือนเดิม)   

กินข้าวเสร็จแล้ว  พอดีหลวงพ่อเยื้อนเดินมาตรงศาลาที่พวกเรานั่งอยู่
จอยรีบไปขอถ่ายรูปกับหลวงพ่อก่อน
ที่พวกเราจะกลับกรุงเทพ ฯ  พวกเราเลยได้ถ่ายรูปกับหลวงพ่อเยื้อน
อีกรูปหนึ่งก่อนที่จะอำลาท่านกลับกรุงเทพฯ ค่ะ 



ถ่ายรูปกับหลวงพ่อเยื้อน เจ้าอาวาสก่อนอำลากลับกรุงเทพฯ ค่ะ 

 เมื่ออิ่มข้าว  อิ่มขนมกันแล้ว  ก็นมัสการลาหลวงศิษย์ตู่  จอยและ
วรรณได้ถวายปัจจัยแด่พระตู่เป็นการส่วนตัวอีกด้วย
  เมื่ออำลากันแล้ว  พวกเราให้ทูลขับรถไปรอที่ปากทางหัวพญานาค
  ส่วนพวกเราก็เดินลอดท้องพญานาค  ซึ่งมีความยาว
ประมาณ 200 เมตร  ระหว่างทางอุโมงค์ มีเจาะเป็นช่องหน้าต่าง เพื่อ
ให้ลมเข้า  อุโมงค์ท้องพญานาคจะได้ไม่ชื้น
มีการวาดลวดลายตามผนังด้วย ค่ะ  ระหว่างทาง  จอยก็ถ่ายรูปให้ฉัน
ด้วย  พวกที่เดินเร็วก็เลยไม่ได้รูป  อิอิ 
พวกเราถ่ายหมู่ที่ปากทางพญานาค  มาชมรูป ค่ะ 


       






ปากถ้ำพญานาค  ค่ะ 


รุ่ง เชลฟี่รูปหมู่อีก 1 รูป  ค่ะ 

ส่วนรุ่งขับรถลงมาเลยไม่ได้เดินลอดอุโมงค์พญานาค  มารอกันที่หน้า
ปากอุโมงค์พญานาค  พวกเราถ่ายรูปหมู่กันแล้ว 
ก็อำลากัน  เพราะรุ่งขับรถมาเลยกลับคนเดียว  พวกเราขึ้นรถตู้เดินทาง
กลับกรุงเทพฯ ไม่ได้แวะเที่ยวที่ไหน  ไม่อยาก
กลับบ้านเย็นเกินไป 
       
 ระหว่างทาง  เห็นมีมะนาวขายด้วย  คนขายบอกว่า เป็นมะนาวที่มา
จากฝั่งเขมร  กิโลละ 60 บาท  ก็เรียกว่าถูกกว่า
กรุงเทพฯตอนนี้  เลยซื้อมา 1 โล  ส่วนจอยซื้อเป็นถุงใหญ่ 10 โล 
500  บาท  ซื้อผักกลับบ้านด้วย  
    อาหารมื้อกลางวัน  เราเข้าไปกินที่ปั๊มเติมแก๊ส  มีร้านขายก๋วยเตี๋ยว 
ขายข้าว ทั่ว ๆ ไป ฉัน เอม และจอย  กินก๋วยเตี๋ยวกัน 
ช่วงนี้ จอยปรึกษาว่า  เราจะให้ค่าทริปคนขับรถคนละ 400 บาท 
เท่ากับวันละ 400 บาท  ฉันก็เห็นด้วย  เท่ากับทริปนี้ 
เราแชร์กันออกคนละ 2400 บาท  ทำบุญและใส่ซองเรื่องการบวชอีก
คนละ 3,000บาท   งานนี้ต้องขอบใจจอย
  เพราะเขาไม่ได้คิดค่าเช่ารถ  ให้ช่วยแชร์ค่าเติมแก๊สเท่านั้นเอง  ค่ะ 
 กินเสร็จบริเวณนั้นมีน้ำตกเทียมเล็ก ๆ
จอยชวนถ่ายรูปกัน  มาชม ค่ะ 






      
ระหว่างทางผ่านร้านขนมของฝาก จอยบอกว่า เป็นร้านขนมที่อร่อย 
เป็นพวกขนมปัง  พวกขนมไทย  ชื่อร้าน ปู&เอ  ค่ะ 
  ฉันซื้อขาไก่และขนมปังลูกเกด สองอย่าง เอม ซื้อขนมปัง  ส่วนจอย
และวรรณซื้อหลายอย่าง  คงซื้อกินและฝากคนที่บ้านเขา นั่นเอง 
     
 รถของจอย  มาส่งเอมที่แถวคลองเตยเสร็จแล้ว ก็มาส่งฉันที่บ้าน  น่า
จะประมาณ 6 โมงได้นะ  ทูลช่วยหิ้วของเข้าบ้าน
  มีมะม่วง กระเป๋าเสื้อผ้า และของที่ฉันซื้อ  ฉันขอบใจเขาขอบใจจอย
ที่เอื้อเฟื้อเรื่องรถไปทำบุญครั้งนี้  ดีใจที่ได้
ญาติธรรมเพิ่มขึ้น   เอมเองก็บอกว่า  ทริปนี้เขาชอบมาก ขอบใจฉันที่
ได้จัดทริปไปบวชพระ บวชเณรและทัวร์วัดไหว้พระที่
วัดต่าง ๆ ในจังหวัดสุรินทร์  พวกเราคงมีวาสนาต่อกัน  จึงได้เดินทาง
ไปแสวงบุญที่อินเดียและมาเป็นเจ้าภาพ
บวชพระ เณร ในครั้งนี้ อีกด้วย ค่ะ

ก่อนจบทริปนี้  พวกเรา ขอถวายมุทิตาสักการะและแสดงความยินดียิ่งแด่หลวงศิษย์ตู่ (พระศักดิเดชน์) ที่ท่านได้
เลื่อนสมณศักดิ์เป็น "
 พระครูสมุห์  " ดังภาพการรับตราตั้งจากหลวงพ่อ
เยื้อน  เจ้าอาวาสวัดเขาศาลาอตุลฐานะจาโร



หลวงศิษย์ รับตราตั้ง พระครูสมุห์   จากหลวงพ่อเยื้อน ค่ะ 


 
พระครูสมุห์ ค่ะ 



หลังรับตราตั้ง พระครูสมุห์   จากหลวงพ่อเยื้อน ถ่ายรูปกับพระประธาน 
ซึ่งมีนามว่า 
 "พระพุทธเมตตา"  สร้างตามแบบพระประธาน
ที่ พุทธคยา  ประเทศอินเดีย




พระคิวและหลาน ๆ ที่พวกเราเป็นเจ้าภาพ บวชพระและเณร ครั้งนี้
ถ่ายกับพระอาจารย์ ศักดิเดชน์ ผู้ดูแล  ค่ะ 
  

รูปกลางที่นั่ง  คือ พระคิว ผู้เป็นน้าของ สามเณรทั้ง 3 รูป ค่ะ 
 
 การชวนสมาชิกเพื่อนชาวบล็อกแก๊งมาอ่าน มาร่วมอนุโมทนาบุญใน
การบวชพระ เณร ทริปนี้  ก็จบลงด้วยความสุข
อิ่มใจ อิ่มบุญ  และขอผลบุญที่พวกเราได้ทำในครั้งนี้จงส่งผลให้ผู้อ่าน
ทุกคน มีความสุข สดชื่น สุขภาพแข็งแรง ๆ  ตลอดไป นะคะ 
สวัสดี ค่ะ
 
      



Create Date : 16 พฤษภาคม 2565
Last Update : 20 พฤษภาคม 2565 7:32:17 น. 36 comments
Counter : 850 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณtoor36, คุณhaiku, คุณกะว่าก๋า, คุณkatoy, คุณอุ้มสี, คุณเริงฤดีนะ, คุณmultiple, คุณSweet_pills, คุณnewyorknurse, คุณKavanich96, คุณร่มไม้เย็น, คุณkae+aoe, คุณกิ่งฟ้า, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณทนายอ้วน, คุณหอมกร, คุณNior Heavens Five, คุณชีริว


 
ได้ทำบุญ ทํานุบํารุงศาสนาแล้วก็ถือโอกาสเที่ยวด้วยเลย เป็นเรื่องดีครับ แม้ช่วงนี้ศาสนาพุทธจะมีเรื่องไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พระ สมี อลัชชี ก็ต้องกำจัดออกไปอย่าให้เป็นเหลือบไรที่มาคอยสร้างความเสียหายกับศาสนา

อนุโมทนาบุญด้วยครับ


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 20 พฤษภาคม 2565 เวลา:0:16:42 น.  

 

อรุณสวัสดิ์ครับอาจารย์

ขอร่วมอนุโมทนาบุญด้วยครับ



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 20 พฤษภาคม 2565 เวลา:6:09:49 น.  

 
ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตครับอาจารย์

ผมเคยเขียนรีวิวเรื่องสิทธารถะในบล็อกสองรอบ
ครั้งนี้ก็เลยไม่ได้รีวิวเพิ่มเติมครับ
เนื้อหาของหนังสือ
ก็พูดถึงการหลุดพ้นด้วยตัวเองของสิทธารถะนี่ล่ะครับ
เป็นหนังสือที่ผมชอบมากที่สุดเล่มหนึ่งเลยครับ




โดย: กะว่าก๋า วันที่: 20 พฤษภาคม 2565 เวลา:14:54:16 น.  

 
สาธุ สาธุ สาธุ


โดย: อุ้มสี วันที่: 20 พฤษภาคม 2565 เวลา:23:25:21 น.  

 

พระคิวและหลานๆงดงามนัก
ปากอุโมงพญานาคก็งดงาม
อนุโมทนาบุญค่ะ อจ.สุวิมล


โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 21 พฤษภาคม 2565 เวลา:5:35:51 น.  

 

สวัสดียามเช้าครับอาจารย์



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 21 พฤษภาคม 2565 เวลา:6:57:11 น.  

 
ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตครับอาจารย์

หลายคนไม่ชอบอ่านหนังสือธรรมะ
แต่ผมโชคดีที่อ่านแล้วชอบครับ
แต่ถ้าเป็นบาลีหนักๆเยอะๆก็ไม่สู้ครับ 555



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 21 พฤษภาคม 2565 เวลา:20:33:09 น.  

 
พิธีบวชสงบงามน่าอิ่มเอิบใจมากค่ะอาจารย์
ต๋าขออนุโมทนาบุญด้วยนะคะ


โดย: Sweet_pills วันที่: 22 พฤษภาคม 2565 เวลา:0:13:24 น.  

 

อนุโมทนาบุญด้วยค่ะ


โดย: newyorknurse วันที่: 22 พฤษภาคม 2565 เวลา:3:42:49 น.  

 
ขอบคุณที่แบ่งปัน


โดย: Kavanich96 วันที่: 22 พฤษภาคม 2565 เวลา:4:59:04 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับอาจารย์






โดย: กะว่าก๋า วันที่: 22 พฤษภาคม 2565 เวลา:7:01:55 น.  

 
อ.เต๊ะ มาช้าหน่อยนะครับ เมื่อคืนจะเม้นท์ซักหน่อย
เน๊ตก็มาเสียอีก นี่พึ่งจะซ่อมเสร็จครับ

เรื่องบวชนี่ ถ้านับถือพุทธ ต้องมีซักครั้งในชีวิต ลูกผู้ชาย
แต่จะว่าไป เดี๋ยวนี้เห็นในข่าวยังมี หลวงเจ๊ ทาปากแดงๆเลยนะครับ555

อ.เต๊ะ เคยบวชสมัยหนุ่มๆแต่บวชให้แม่ที่เสีย ไม่กี่วันเองครับ
บวชวัดใหญ่ๆสมัยนี้ จ่ายแต่สตางค์ อย่างเดียว
เดี๋ยวทางวัด เค้าดำเนินการให้ทุกอย่าง บทสวดก็ไม่ต้องท่อง
มีพระพูดนำให้ว่าตามอย่างเดียว
สะดวกสบายมาก แต่ไม่ขลังเหมือนสมัยก่อน
ที่ใครจะบวชที่ต้องจำบทสวดให้ได้ก่อนนะครับ

แล้วก็เมื่อปีที่แล้ว มีคนมาบอกบุญ บวชพระ อ.เต๊ะ เหมือนกัน
ทำบุญ องค์ละ 3000 บาท อ.เต๊ะ เลยลองไปค้นหาดู
ชุดเครื่องบวช ครบชุดใน shopee มีชุดใหญ่ ชุดเล็ก
แต่เบาะๆก็ไม่ต่ำกว่า 3000 เลยนะครับ ราคาไม่ถูกเลยนะครับ
แต่ทำบุญก็ไม่ต้องไปคิดมากนะครับ ก็ทำกันไป

แล้วก็ พิธี ฉันภัตตาหาร ที่อาจารย์ไปมานี่ ดีแล้วละครับ
ที่อาจารย์ไม่มาเร็ว ถ้ามาเร็ว นั่งข้างหน้า จะเมื่อยมาก
เพราะต้องนั่งกับพื้น พับเพียบเรียบร้อย
นั่งแบบนี้คนแข้งขาไม่ดี มันจะปวดทรมาณมาก
อ.เต๊ะ ก็นั่งไม่ได้เหมือนกัน เพราะติดพุงค้ำ555

พอหลังๆไปวัดต้องพยายามหาเก้าอี้ หรือขั้นบันไดนั่ง
จะค่อยยังชั่วหน่อย

แล้วก็ก่อนกลับ ได้รอดพุง พญานาคออกมาทางปากด้วย
ทีแรก อ.เตีะ คิดว่าจะเหมือนในถ้ำที่มืดๆ น่ากลัว
ดูจากรูปแล้วเหมือนเดินข้ามสะพานลอยใน กทม เพราะมีช่องแสงสว่างดีนะครับ

ทริปนี้อิ่มบุญ ขากลับได้มะนาวราคาถูกมาอีก
ร้อนๆแบบนี้ น้ำผึ้งผสมมะนาวซักแก้ว เย็นชื่นใจเลยนะครับ
ฝนเริ่มมาอีกแล้ว ดูแลสุขภาพนะครับอาจารย์



โดย: multiple วันที่: 22 พฤษภาคม 2565 เวลา:13:16:40 น.  

 
อนุโมทนาบุญค่ะอาจารย์


โดย: sawkitty วันที่: 22 พฤษภาคม 2565 เวลา:15:22:05 น.  

 
ผมชอบบทกวีของคุณเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ครับ
แต่ถ้าสายนิยาย
ผมแทบจะไม่ได้อ่านเลย
มีช่วงแรกๆผมอ่านงานเขียนของคุณโบตั๋นอยู่สองสามเรื่อง
แล้วก็ชอบครับ แต่พอโตมาอีกหนิด
ก็เลิกอ่านนิยาย เพระาเปลี่ยนแนวไปอ่านอย่างอื่นนี่ล่ะครับ



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 22 พฤษภาคม 2565 เวลา:17:53:15 น.  

 
สวัสดีค่ะอาจารย์ มาอนุโมทนาบุญในการบวชพระด้วยค่ะ

ได้มางานบวชพร้อมกับไปเที่ยวสวนมะม่วงด้วยน่าสนุกนะคะ

ได้ไปงานบวชพระถือว่าเป็นบุญมากเลยค่ะ ได้เห็นภาพปลื้มปิติไปด้วยเลยค่ะ

โหวต Diarist นะคะ




โดย: กิ่งฟ้า วันที่: 22 พฤษภาคม 2565 เวลา:22:14:51 น.  

 

อรุณสวัสดิ์ครับอาจารย์



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 23 พฤษภาคม 2565 เวลา:5:49:56 น.  

 
ได้เที่ยวแล้วได้บุญด้วยค่ะอาจารย์



โดย: หอมกร วันที่: 23 พฤษภาคม 2565 เวลา:9:40:30 น.  

 
ขอบคุณสำหรับคะแชมครับอาจารย์

แม้จะอยู่เชียงใหม่มานาน
แต่ผมก็ยังพูดกำเมืองไม่เหมือนคนเชียงใหม่ครับ 5555
เวลาร้องเพลงถ้าคนเหนือแท้ๆฟัง
ก็จะรู้ครับ ฟังออกครับว่าร้องไม่เหมือนคนเหนือเท่าไหร่

เพลงอุ้ยคำเป็นเพลงหนึ่งซึ่งโด่งดังมากๆของครูจรัลเช่นกันครับ



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 23 พฤษภาคม 2565 เวลา:15:27:31 น.  

 
ขอบคุณข้อคิดดีๆที่อาจารย์ฝากให้นะคะ
อาจารย์นอนหลับฝันดีคืนนี้ค่ะ



โดย: Sweet_pills วันที่: 23 พฤษภาคม 2565 เวลา:23:53:01 น.  

 

อรุณสวัสดิ์ครับอาจารย์



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 24 พฤษภาคม 2565 เวลา:5:37:51 น.  

 
สาธุ ค่ะ


โดย: kae+aoe วันที่: 24 พฤษภาคม 2565 เวลา:8:02:29 น.  

 
ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตครับอาจารย์

หนังสือฮาวทู
มีข้อดีอย่างหนึ่งที่ผมชอบ
คือ การคิดอย่างเป็นระบบ
มีขั้นตอน มีบททดสอบ และมีการวัดผล

บางอย่างสามารถปรับใช้กับตัวเราได้จริงด้วยครับ



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 24 พฤษภาคม 2565 เวลา:10:47:28 น.  

 
สวัสดีค่ะอาจารย์ ขอบคุณมากนะคะที่ไปให้กำลังใจหมูผัดหน่อไม้ไผ่ตงนะคะ

มาอนุโมทนาบุญในงานบวชพระอีกครั้งค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ



โดย: กิ่งฟ้า วันที่: 24 พฤษภาคม 2565 เวลา:12:57:35 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับอาจารย์



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 25 พฤษภาคม 2565 เวลา:5:50:29 น.  

 
ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตครับอาจารย์

ที่ผมทึ่งมากๆคือในขณะที่ป่วยที่สุด
ครูมอร์รียังคงเขียนหนังสือได้ด้วยนี่ล่ะครับ
จนกลายเป็นหนังสือคู่มือชีวิตที่ดีมากๆเลยครับ



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 25 พฤษภาคม 2565 เวลา:16:22:26 น.  

 

อรุณสวัสดิ์ครับอาจารย์



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 26 พฤษภาคม 2565 เวลา:5:39:56 น.  

 
ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตครับอาจารย์

ผมชอบอ่านหนังสือคำคมมากเป็นพิศษเลยครับอาจารย์
ถ้อยคำสั้นๆ ความหมายดี
ผมคิดว่าเตือนสติเราได้ดีมากๆเลยครับ



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 26 พฤษภาคม 2565 เวลา:13:17:05 น.  

 

สวัสดียามเช้าครับอาจารย์



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 27 พฤษภาคม 2565 เวลา:6:07:26 น.  

 
ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตครับอาจารย์

เห็นเม้นท์ของอาจารย์
ทำให้ผมนึกถึงวันก่อน
ที่ผมเพิ่งเขียนประโยคนึงเอาไว้
ว่า "พุทธธรรมอยู่กลางอก นรกอยู่กลางใจ" เลยครับ




โดย: กะว่าก๋า วันที่: 27 พฤษภาคม 2565 เวลา:13:15:16 น.  

 

สวัสดียามเช้าครับอาจารย์



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 28 พฤษภาคม 2565 เวลา:6:21:19 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับอาจารย์
อนุโมทนาบุญด้วยคนครับอาจารย์
อาจารย์สบายดีนะครับ เนียร์ไม่ได้เข้าบล็อกมานานเลย
โหวตครับ


โดย: Nior Heavens Five วันที่: 28 พฤษภาคม 2565 เวลา:8:37:50 น.  

 
ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตครับอาจารย์

ย้อนไปเมื่อหนังสือของคุณอรุณวดีได้เข้ารอบซีไรต์
ปีนั้นเดือดมากครับ
วิจารณ์กันหนักหน่วงเลยว่าเนื้อหารุนแรงและล่อแหลมต่อศีลธรรมมากๆ
ผมอ่านแล้วก็รู้สึกว่าแรง แต่ก็ไม่มีคนเขียนแนวนี้
เพราะฉะนั้นก็อาจนับได้ว่าเป็นความแปลกใมห่ในวงการวรรณกรรมขณะนั้นเลยครับ



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 28 พฤษภาคม 2565 เวลา:14:02:59 น.  

 

อรุณสวัสดิ์ครับอาจารย์



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 29 พฤษภาคม 2565 เวลา:4:44:43 น.  

 
ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตครับอาจารย์

หนังสือเล่มนี้ผมน่าจะอ่านไปสามรอบแล้วครับ
อ่านทุกครั้ง
ก็ยังคงชอบทุกครั้งเลยครับ



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 29 พฤษภาคม 2565 เวลา:11:24:35 น.  

 
ไม่ได้อ่านตอนแรก ขอกระโดดมาตอนสองเลยนะครับ คราวนี้ไปไกลกันถึงสุรินทร์

โอ้โฮ บวชตีห้า! ตื่นเช้ากันถ้วนหน้าเลยครับ
บล็อกนี้ได้ความรู้เรื่องการบวชแบบละเอียดเลย
นอกจากท่องบทสวดให้ได้แล้ว ต้องถามตอบเป็นภาษาบาลีด้วยเหรอครับ

บวชเช้าก็ดีตรงที่ได้บรรยากาศยามเช้า สดชื่นดีครับ
อยากเห็นเหือนกันว่ากับข้าวที่เราใส่บาตรกันพอถึงวัดแล้วเขาไปแบ่งกันยังไงนะ สุ่มกินเหรอครับ

มีกิจกรรมเก็บมะม่วง ให้อาหารช้างต่อ ไปรอบนี้คุ้มจริงๆ

ถ้ำพญานาคยาว 200 เมตร จัดว่ายาวเลยครับ อีกหน่อยมีทุนมากขึ้นคงสร้างอะไรเพิ่มติมอีกเยอะ
มะนาวโลละ 60 ได้กี่ลูกครับ ตอนนี้มะนาวในตลาดกำลังแพงเลย


โดย: ชีริว วันที่: 29 พฤษภาคม 2565 เวลา:17:00:17 น.  

 

อรุณสวัสดิ์ครับอาจารย์



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 30 พฤษภาคม 2565 เวลา:5:45:49 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
space

อาจารย์สุวิมล
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 46 คน [?]




เป็นครูสอนภาษาไทยที่เกษียณอายุราชการแล้ว สนใจเรื่องการเขียนหนังสือให้ความรู้ ชอบการท่องเที่ยว หากท่านที่เข้ามาชมและอ่านแล้ว มีความสนใจและต้องการสอบถามเรื่องความรู้ด้านภาษาไทย ถ้ามีความสามารถจะให้ความรู้ได้ ก็ยินดีค่ะ

http://i697.photobucket.com/albums/vv337/dd6728/color_line17.gif
space
space
space
space
[Add อาจารย์สุวิมล's blog to your web]
space
space
space
space
space