|
|
| 1 |
2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 |
9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 |
16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 |
23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 |
30 | 31 | |
|
 |
|
ทริปเที่ยวเชียงใหม่ ลำพูน ตอนที่ 2 |
|
ทริปเที่ยวเชียงใหม่ ลำพูน ตอนที่ 2 ทริปเที่ยวเชียงใหม่ ลำพูน ตอนที่ 1 เขียนบล็อกไปนานพอสมควร เพิ่งมาเริ่ม ตอนที่ 2 เพราะมีเรื่องราวต่าง ๆ ที่ต้องบันทึก ให้ทันเวลาที่กำหนด คือ รายการ ตะพาบ ค่ะ อีกเหตุผลหนึ่ง คือ พอรัฐบาลเปิดให้เที่ยวได้ เลยมีทริปเที่ยวติด ๆ กัน กลางเดือน ต.ค. แล้วก็ตามด้วยปลายเดือน อิอิ ทริปเชียงใหม่ตอนที่ 2 เลยทิ้งห่างจากตอนที่ 1 นานพอสมควร ค่ะ เช้าวันที่ 18 ต.ค. เป็นวันที่ 2 โปรแกรมวันนี้ ต้องตื่นแต่เช้า เพราะว่า เราจ้างรถที่แม่กำปอง เพื่อไปชมพระอาทิตย์ขึ้นและชม ทะเลหมอกที่ กิ่วฝิ่น เรานัดรถมารับไปที่จุดชมวิวแห่งนี้ เวลา ตีห้าครึ่ง ค่ารถเราเหมาไป 500 บาท ไปกลับ มีจุดแวะบางแห่งที่ผ่าน เช่น น้ำตกแม่กำปอง เป็นต้น มารู้จัก จุดชมวิว กิ่วฝิ่นสักเล็กน้อย ค่ะ จุดชมวิว กิ่วฝิ่น ยอดดอยกิ่วฝิ่น หรือดอยล้าน แห่งนี้ ตั้งอยู่ที่หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ จซ.7 ในเขตพื้นที่ “อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน” จังหวัดลำปาง ที่นี่สามารถมาเที่ยวได้ตลอดทั้งปี แต่ถ้ามาในช่วงหน้าหนาว จะได้ ชื่นชม สัมผัสความหนาวได้มากกว่า ดอยกิ่วฝิ่น อยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเล 1,517 เมตร
ถึงแม้ว่า ยอดดอยกิ่วฝิ่นจะขึ้นอยู่กับ จังหวัดลำปาง ก็จริง แต่การเดิน ทางไปที่ดอยนี้ แนะนำให้มาจาก “เชียงใหม่” เพราะที่นี่อยู่ห่างจาก “แม่กำปอง” เพียง 4 กิโลเมตรเท่านั้นและสภาพ ถนนก็ค่อนข้างปลอดภัย สามารถขับขึ้นมาได้แบบชิล ๆ แต่ก็จะมีทางโค้งบางช่วงให้ต้องระวังกันด้วย พอมาถึงจุดหมาย “อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน” ก็จอดพักรถและติดต่อเจ้าหน้าที่ เตรียมเดินขึ้นดอยกันได้เลย
รถที่เราเช่า พาพวกเรามาถึงเชิงดอย แล้วพวกเราก็ต้องเดินตามทาง เดินที่ลาดด้วยปูนซิเมนต์ไปอีกประมาณ 200 เมตร ถึงจะไม่ไกลแต่มันเป็นทางลาดขึ้น ขาขึ้นเมื่อยน่องมาก แถมทางก็ยัง มืดอยู่ ฉันก็ไม่ได้นำไฟฉายมาด้วย เขียด ศิษย์เขย เปิดไฟฉายในมือถือส่องทางให้เดินด้วย ส่วนแดง ลูกศิษย์ก็คอย ช่วยเหลืออยู่ข้าง ๆ เหนื่อยมาก ก็พักหน่อย หายใจฟืดฟาดเหมือนหายใจไม่ทัน แต่ในที่สุด พวกเราก็ขึ้นไปถึง ยอดดอยกิ่วฝิ่น ฟ้ายังมืดสลัว ๆ อยู่ มองเห็นลาง ๆ พวกเราลองถ่ายรูปดู ขนาดใช้แสงแฟกซ์จากกล้อง ก็ยังไม่ชัดเจน พวกเราขึ้นมาเป็นกลุ่มแรก ประมาณสัก 10 นาที ก็มีนักท่องเที่ยวตามขึ้นมาอีกกลุ่มสองกลุ่ม แล้วก็เริ่มมากขึ้น พวกเรา ก็ยังถ่ายรูปกัน ช่วงนั้น ฉันเกิดปวดท้อง ทนจนทนไม่ไหว จึงต้องแอบเข้าป่าแถวนั้น โชคดี ที่ยังมีทางเดิน เข้าป่าให้ฉันไปปลดทุกข์ได้ ห้าห้า เหมือนท้องจะเสียเล็กน้อยพอปลดทุกข์เสร็จเหมือนยกภูเขาออก จากอกเลยทีเดียว อิอิ แล้วก็เดินมาหาพวกเรา ฟ้าเริ่มสว่างมากแล้ว ถ่ายรูปกันได้สวยงาม พระอาทิตย์เริ่มขึ้นรำไร เสียดาย ไม่มีหมอกให้ชื่นชมเลย สำหรับใครที่มาถึงในช่วงเย็น ๆ และอยากมานอนค้าง ต้องบอกว่าที่ “กิ่วฝิ่น” แห่งนี้ จะไม่มีบ้านพักหรือโฮมสเตย์ให้เช่านะครับ แต่สามารถมานอนกางเต็นท์ได้ เพียงติดต่อเจ้าหน้าที่ของ “อุทยาน แห่งชาติแจ้ซ้อน” ให้เรียบร้อย ก็เตรียมสัมผัส อากาศหนาว ๆ และดู “ดวงดาวเต็มท้องฟ้า” มาชมรูปของพวกเรา ที่ถ่ายบรรยากาศ ที่ดอยกิ่วฝิ่น ค่ะ

มีรอยเท้าใหญ่เป็นจุดให้นักท่องเที่ยวมายืนทับเท้าถ่ายรูป

ขอรูปเดี่ยวบ้าง ค่ะ

รูปคู่กันบ้าง ค่ะ

ป้ายชื่อ ที่คนมาชอบมาถ่ายรูปกัน ค่ะ



มุมสวยอีกมุมหนึ่ง ค่ะ ไม่เห็นแสงแรก ไม่มีหมอกสวย ค่ะ



 ทางเดินที่จะเดินไปยังยอดดอยกิ่วฝิ่น ค่ะ
 พวกเราเก็บรูปหมู่ โดยมอมตั้งขากล้องถ่ายรูปหมู่ เลยได้รูปหมู่สวย ๆ
เราสนุกสนาน ชื่นชมกับบรรยากาศน่าจะประมาณสองชั่วโมง ก็เดินทาง กลับที่เดิม โดยรถที่เราจ้างไว้รออยู่ด้านล่าง ขาลงไม่ลำบากเพราะว่า ทางลาดเวลาลงจะไม่เมื่อยน่องและไม่ปวด หลัง เดินได้เร็ว ไม่เหนื่อยมากด้วย จากที่ดอยกิ่วฝิ่นนี้ คนรถก็พาเราไปที่น้ำตกแม่กำปอง ซึ่งเป็นน้ำตกที่ ใหญ่มาก ไหลไปไกลทั่วหมู่บ้าน “น้ำตกแม่กำปอง” น้ำตกสุดอลังการท่ามกลางขุนเขา จัดว่าเป็นหนึ่งใน สถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญที่สุดในบริเวณบ้านแม่กำปอง น้ำตกแม่กำปองมีความสูงทั้งหมด 7 ชั้น มีผู้มาเดินสำรวจ จนสุดเส้น ทางแล้ว บอกว่าไม่สามารถแยกว่า ชั้นไหนเป็นชั้นไหน เพราะน้ำตกที่นี่มีทางน้ำไหลดิ่งลงเบื้องล่างเพียงอย่างเดียว เราจะหา แอ่งย่อยๆ ให้พอสังเกตและแยกชั้นน้ำตก แทบไม่ได้เลย ผู้สำรวจบอกว่า จะมีที่เห็นชัดเจนหน่อยก็แค่เพียงช่วง แรกๆ เท่านั้น หนึ่งในจุดเด่นของน้ำตกแม่กำปอง คือ เราสามารถอยู่กับธรรมชาติได้อย่างแนบชิดสนิทสนม เพราะบริเวณ น้ำตกนั้นไม่มีร้านค้า ร้านอาหาร หรือร้านขายของที่ระลึก ใดๆ ทั้งสิ้น (หมายถึงช่วงของน้ำตกแต่ละชั้นนะ) เป็นน้ำตกแบบเพียวๆ ที่มีเพียงต้นไม้ใบหญ้า โขดหิน และเหล่าแมลงตัวน้อย อยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข บรรยากาศโดยรวมเงียบสงบ มีเสียงนก เสียงน้ำ คอยประสานเสียงเหมือนดังเพลงไพเราะ พาให้นักท่องเที่ยวที่มาเยือนให้เคลิบเคลิ้มไปกับมนตร์สะกดของที่นี่ (รวบรวมข้อมูลจาก อินเทอร์เน็ต ขอบคุณ ข้อมูลจาก อินเทอร์เน็ต )



น้ำตกแม่กำปอง ต้นน้ำ น่าจะอยู่ที่นี่ ค่ะ
จากน้ำตก เราก็กลับที่พัก เพื่อกินอาหารเช้า ซึ่งทางโฮมสเตย์ มี อาหารเช้าให้ด้วย ค่ะ เขาจัดเป็นชุดให้ มีข้าวต้ม 1 ชาม มีอาหารแบบฝรั่ง คือไส้กรอกสลัด ไข่ดาว กาแฟ โอวัลตินขนม หยิบและชงเอง ค่ะ ถ้าไม่อิ่ม ขอข้าวต้มเพิ่มได้ ค่ะ อิ่มแล้ว เราถ่ายรูปหน้าห้องพักและรอรถที่เรา จ้างต่ออีก 400 บาท เพื่อไปแม่อาย ไปชิมเค้ก กาแฟ น้ำดื่ม ที่ ร้านอุษาชง และร้าน Ted du ไฮไลท์ คือ ไปเดินที่สะพาน เชือก นั่นเอง
 ห้องอาหารของโฮมสเตย์ ค่ะ


มีข้าวต้มเครื่อง 1 ชาม อาหารฝรั่งอีก 1 ชุด ค่ะ


อาหารเช้าที่นี่ อร่อย ใช้ได้ มีปริมาณมากพอสมควร ค่ะ


กินข้าวมื้อเช้าเสร็จ ก็มาถ่ายรูปหน้าห้องพักเป็นที่ระลึกก่อนอำลา แม่กำปอง ค่ะ
ประมาณ 9.30 น. รถที่เราจ้างไว้ ก็มารับเราไปที่ อ. แม่อาย เพื่อ ที่จะไปชม ชิม กาแฟ เค้ก น้ำดื่มอื่น ๆ ที่ ร้าน อุษาชง แดงดูจากรีวิวในโซเชี่ยล เรียกว่า มาชิม กาแฟ เพื่อกินบรรยากาศไป ด้วย ลงจากรถ ก็ต้องเดินลงไปที่ร้าน อุษาชง น่าจะประมาณ หลายสิบเมตรเหมือนกัน ทางลาดเหมือนเดิม แต่ไม่มากเท่าตอนเช้าที่ไป จุดชมวิว ดอยกิ่วฝิ่น ค่ะ เป็นร้านที่มีน้ำตกแม่กำปองไหลผ่าน มีโต๊ะทั้งด้านบนและด้านล่าง กิน ลมชมวิว เรามาถึง ปรากฏว่า มีนักท่องเที่ยวมาถึงก่อนเรา หลายโต๊ะแล้ว แดงเป็นคนสั่งขนมและน้ำดื่ม น่าจะเป็นน้ำสตรอเบอรี่ พวกเราเดินลงไปด้านล่าง ซึ่งทิวทัศน์ บรรยากาศร่มรื่นมาก มีโต๊ะให้นั่ง บริเวณนั้น เป็นโขดหินเล็ก ๆ ต้นไม้ มากมาย เขียวขจี อากาศเย็นสบาย

หน้าร้าน อุษาชง คาเฟ่ ค่ะ
บรรยากาศด้านล่าง มีน้ำตกแม่กำปองไหลผ่าน ค่ะ


ของกินที่เราสั่งกันมากิน ค่ะ



ราดน้ำผึ้งใส่ขนมเค้ก ค่ะ

เริ่มกินขนม กินบรรยากาศกันไป ค่ะ

มอม ชอบถ่ายใบไม้ ใบหญ้าแปลก ๆ ค่ะ

ดอกเห็ดใหญ่มากที่ขอนไม้บริเวณ นี้ ค่ะ

เขียดถ่ายรูปให้ 3 สาว ค่ะ
เราอยู่ที่นี่ ชื่นชมธรรมชาติพร้อมกับดื่ม กิน ขนมที่สั่ง และถ่ายรูปกันได้ ประมาณ ชั่วโมงน่าจะได้ แล้วก็กลับขึ้นด้านบน ขึ้นรถ เพื่อเดินทางไปร้านกาแฟอีกร้านหนึ่ง คือ Ted du ที่ต้องลงทางหนึ่ง ขากลับ กลับอีกทาง คือ เดินทางที่สะพานเชือก ซึ่งทางร้านได้ลงทุนไว้ เท่ากับว่าถ้าต้องการมาชม ถ่ายรูปที่สะพานเชือก ต้องซื้อของกินที่ร้านนี้ แล้วเขาก็จะมีบัตรทางผ่านไปที่สะพานขึ้นอีกทางหนึ่ง ตรงสะพาน เชือกเป็นไฮไลท์ให้ลูกค้าถ่ายรูปกัน แล้วไปออกสู่ถนนทางเดินไปยังที่พักของเราได้ ซึ่งเดินไปไม่ไกล เท่าไร ที่นี่ ตอนที่เราไปถึง มีลูกค้ามานั่งดื่มกินกัน มากพอสมควร ค่ะ เรามาชมบรรยากาศของร้าน Ted du ที่เราถ่าย รูปมาฝาก ค่ะ

ร้านที่เราต้องซื้อของกินของเขา ค่ะ ชื่อ Ted du

ซื้อของกินแล้ว ก็มานั่งกินกันสักพัก แล้วค่อยเดินถ่ายรูป

บรรยากาศของร้าน Ted du ค่ะ มีน้ำตกแม่กำปองไหลผ่าน

บรรยากาศร่มรื่น มีต้นไม้มากมาย เขียวขจี

บริเวณร้าน มีน้ำตกแม่กำปอง ไหลผ่าน เราลงไปถ่ายรูปได้ ค่ะ

แดง ถ่ายรูปเดี่ยวให้ ค่ะ

ถ่ายคู่ให้ แดงและศิษย์เขยเขียด ค่ะ


กินสักพักใหญ่ ถ่ายรูปด้านล่างแล้ว ก็เริ่มไปถ่ายรูปที่สะพานเชือก



เซลฟี่ หมู่ สักรูป โดยน้องมอม ค่ะ


ขอรูปเดี่ยวสักรูป นะ ให้สมกับเสียเงินมาไฮไลท์สะพานเชือก ค่ะ อิอิ
เราอยู่ที่นี่น่าจะประมาณชั่วโมงได้ ถ่ายรูป บริเวณร้าน และสะพาน เชือก เดินไปสุดทางของสะพานเชือก จะมีคนคอย ตรวจบัตรผ่านและเก็บบัตรไปเราจึงจะขึ้นไปสู่บนถนน และเดินกลับ ที่พักของเรา กลับถึงที่พัก กระเป๋าที่เราเช็คเอ้าแล้ว ฝากไว้ที่ห้องกินข้าว เรานั่ง คุยอยู่ที่นี่ ก่อน เพื่อรอขึ้นรถประจำทาง ซึ่งจะมารับพวกเราที่ท่ารถ ตรงที่เขามาส่งเราเมื่อวาน ค่ะ ใกล้เที่ยง แล้วเราก็ลากกระเป๋ามารอรถที่ท่ารถ ประมาณเที่ยง รถประจำทางที่เป็นรถตู้ก็มารับ มีสมาชิกเต็มรถตู้เหมือนขามา รถพา เรากลับมาถึงท่ารถที่เรามาครั้งแรก เพราะเรานัดรถที่เช่าไว้เพื่อขับเอง ในการไปเที่ยวลำพูนแลเชียงใหม่ ในตัวเมือง ค่ะ เรานัดรถเช่ามาส่งรถประมาณ 3 โมงเย็น ได้รถแล้ว เขียดก็ขับเดินทางไปสู่จังหวัด ลำพูน ที่พัก ชื่อ คำโฮม ไป ถึงลำพูนก็โทรหาเจ้าของบ้านที่เรามาเช่าที่พัก เจ้าของบ้านมาต้อนรับเรา เอากุญแจมาให้เรา (เจ้าของบ้านไม่ได้พัก อยู่ที่นี่ ) เจ้าของบ้าน ชื่อ ครูเหน่ง เป็นครูเกษียณแล้ว กิจกรรมบ้านพักนี้ มีเพียง 2-3 หลังไม่ได้ทำมากมาย เจ้าของบ้าน ต้อนรับพวกเราดีมากเลย ค่ะ ให้คำแนะนำ เรื่องอาหารเจ้าอร่อย เช่น ข้าวเหนียว หมูทอด แนะนำสถานที่ท่อง เที่ยวในเมืองลำพูนมีน้ำดื่มกระเจี๊ยบมาต้อนรับพวกเรา มีจาน ชาม อ่างล้างชาม ไมโครเว็บ มีชา กาแฟ ให้เราพร้อมเลย ค่ะ เรียกว่า มีเครื่องอำนวยสะดวกแก่คนมาพักมากมาย ค่ะ ห้องก็น่าอยู่ บริเวณที่พัก มีต้นไม้มากมาย มีร่องน้ำ มีสะพานเชื่อมให้ เดินชมสวนด้วย ค่ะ มาชื่นชมภาพที่ถ่ายมาให้ชม ค่ะ

ครูเหน่ง เจ้าของบ้าน กำลังอธิบายสถานที่เที่ยว ที่กิน ให้เรา ค่ะ

บริเวณบ้าน มีต้นไม้ ร่มรื่น มีคลองเล็ก ๆ สะพานเล็ก ๆ

บริเวณนอกบ้าน มีเก้าอี้ มีกาแฟ ชา โอวัลติน ตั้งให้ชงดื่มได้ ค่ะ ประมาณ 6 โมงเย็น ตามที่ ครูเหน่ง แนะนำ ให้ไปเดินตลาดโต้รุ่ง มีข้าว เหนียวหมูทอดของจ่าเหลา ที่มีชื่อ ต้องเข้าคิวซื้อกัน เราไปถึงที่ตลาดโต้รุ่ง ข้ามถนนไปอีกฟาก เป็นอนุสาวรีย์ของพระนาง จามเทวี มีงานที่นี่ด้วย พวกเราซื้อโคมไฟถวายคนละ 1 ใบ น่าจะ 59 บาท เพื่อบูชาพระนางจามเทวี ค่ะ คนมาเที่ยวงานและถวาย โคมกันมากพอสมควร พวกเราก็ไปไหว้พระนางจามเทวี แล้วก็มาแขวนโคมไฟเรามาทราบพระประวัติของพระนางจามเทวี ค่ะ
อนุสาวรีย์พระนางจามเทวี ตั้งอยู่ ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัด ลำพูน บริเวณสวนสาธารณะหนองดอก ห่างจากศาลากลาง จังหวัดประมาณ 1 กิโลเมตร สร้างขึ้นเป็นอนุสรณ์ แด่พระนางจามเทวีองค์ปฐมกษัตริย์ แห่งนครหริภุญไชย “พระนางจามเทวี” วีรสตรีปฐมกษัตริย์ผู้ครองนครหริภุญไชย มีปรากฏ โดดเด่นอยู่ในตำนานต่าง ๆ ของล้านนา ที่กล่าวถึงพระนางกษัตริย์พระองค์นี้ว่าทรงเป็นสตรีที่มีพระสิริโฉม งดงามเป็นปราชญ์ที่มีคุณธรรม แต่ขณะเดียวกันก็ทรงมี ความเด็ดขาด ถึงขนาดเคยนำกองทัพทหารออกรบด้วยพระองค์เอง สามารถชนะข้าศึกศัตรูได้ครั้งแล้วครั้งเล่า พระองค์ทรงเป็นผู้นำที่สร้างความรุ่งเรืองให้บังเกิดบนแผ่นดินล้านนา และได้นำพุทธศาสนาศิลปวัฒนธรรมมาเผยแพร่ ในดินแดนแถบนี้จนมีความรุ่งเรืองสืบมาจนถึงปัจจุบัน นอกนี้ยังทรงเป็นต้นวงศ์กษัตริย์ หริภุญไชย ที่มีการสืบทอดครองราชย์ ต่อเนื่องกันมากว่า 600 ปี จนถือเป็นรัฐที่มีอายุเก่าแก่ที่สุด แห่งหนึ่งของประเทศสยามครั้งอดีต นอกจากที่ อนุสาวรีย์พระนางจามเทวี จะสร้างขึ้นมาเพื่อความเป็น สิริมงคลของชาวตำบลบ้านกลางแล้วนั้น ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ของทุกปีก็จะมีพิธีบวงสรวง กราบไหว้ขอพร องค์อนุสาวรีย์พระนางจามเทวี และในวันครบรอบ การสวรรคตตามปฏิทินจันทรคติ ก็จะมีพิธีบวงสรวงกราบไหว้ เพื่อรำลึก ถึงพระมหากรุณาธิคุณ ของปฐมกษัตรีแห่งนครหริภุญชัยเช่นเดียวกัน (รวบรวมข้อมูล จากอินเทอร์เน็ต ขอบคุณ ค่ะ )

อนุสาวรีย์ พระนางจามเทวี ซื้อโคมถวายพระนางจามเทวี ค่ะ






หลังจากที่เราสักการะพระนางจามเทวีแล้ว พวกเราก็ไปเข้าแถวเพื่อ ซื้อข้าวเหนียวหมูทอด เจ้าอร่อย คนต่อคิวยาวอยู่ มอม ชวนไปซื้อเย็นตาโฟ แดง ซื้อโรตี กลับมาที่พัก กินกัน (แต่ไม่ หมด กินได้ถึงมื้อเช้าเลย อิอิ ) คืนนี้ เราได้ไปไหว้พระธาตุหริภุญชัย ทำบุญที่วัดนี้ 4 คน คนละ 20 บาท โดยการหยอดใส่ตู้ ที่เขาตั้งไว้ให้คนมาไหว้ พระธาตุทำบุญ เราเดินเวียนรอบพระธาตุ 3 รอบ ด้วย พระธาตุยาม ค่ำคืน ประดับแสงไฟ สว่างไสว งดงาม ยิ่งนัก เรามาทราบประวัติสักเล็กน้อย ค่ะ

บรรยากาศของตลาดโต้รุ่ง ค่ะ

 ร้านข้าวเหนี่ยวหมูทอด ร้านจ่าเหลา คนเข้าคิวยาวพอสมควร ค่ะ
วัดพระธาตุหริภุญไชยวรมหาวิหาร เป็นปูชนียสถานสำคัญในภาคเหนือ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่คู่เมืองลำพูนมาอย่างยาวนานตั้งอดีต นับเวลามากกว่าพันปี ตั้งอยู่ใจกลางเมืองลำพูน ห่างจากศาลากลาง จังหวัดประมาณ 150 เมตร มีถนนล้อมรอบสี่ด้าน คือ ถนนอัฏฐารสทางทิศเหนือ ถนนชัยมงคลทางทิศใต้ ถนนรอบเมือง ทางทิศตะวันออก นอกจากนั้นยังเป็นองค์พระธาตุ ประจำปีเกิดของคนเกิดปีระกาอีกด้วยองค์เจดีย์พระบรมธาตุหริภุญไชย เป็นเจดีย์แบบล้านนาไทยแท้ๆ ที่ลงตัวสวยงาม ภายในบรรจุพระเกศบรมธาตุบรรจุในโกศทองคำ ประดิษฐานในพระ เจดีย์ ประกอบด้วยฐานปัทม์ แบบฐานบัวลูกแก้ว ย่อเก็จ ต่อจากฐานบัวลูกแก้วเป็นฐานเขียงกลมสามชั้น ตั้งรับองค์ระฆังกลม บัลลังก์ย่อเหลี่ยม เจดีย์มีลักษณะใกล้เคียงกับ พระธาตุดอยสุเทพที่จังหวัดเชียงใหม่ สูง 25 วา 2 ศอก ฐานกว้าง 12 วา 2 ศอก 1 คืบ มีสัตติ- บัญชร (รั้วเหล็กและทองเหลือง) 2 ชั้น สำเภาทอง ประดิษฐานอยู่ประจำรั้วชั้นนอกทั้งทิศเหนือและทิศ ใต้ มีซุ้มกุมภัณฑ์ และฉัตรประจำสี่มุม และหอคอยประจำทุกด้านรวม 4 หอ บรรจุพระพุทธรูป นั่งทุกหอ นอกจากนี้ยังมีโคมประทีป และแท่นบูชา ก่อประจำไว้เพื่อเป็นที่สักการะบูชาของพุทธศาสนิกชนทั่วไป
(รวบรวมข้อมูล จาก อินเทอร์เน็ต)

บริเวณรอบ ๆ วัดพระธาตุหริภุญชัย




กราบพระในอุโบสถ ค่ะ

เป็นสิงห์ที่หน้าวัดพระธาตุหริภุญไชย ค่ะ

พวกเราไหว้พระ เวียนรอบพระธาตุ เสร็จแล้ว ก็กลับที่พัก ค่ะ อาบน้ำ และได้ดูละครโทรทัศน์ก่อนนอน ทริปเที่ยวเชียงใหม่ ตอนที่ 2 ได้จบลงไปอีก 1 ตอน บล็อกหน้าจะ เป็นตอนที่ 3 เป็นทริป ปิดบล็อก ค่ะ
Create Date : 08 มกราคม 2565 |
Last Update : 8 มกราคม 2565 22:45:03 น. |
|
38 comments
|
Counter : 1218 Pageviews. |
 |
|
|
ผู้โหวตบล็อกนี้... |
คุณทนายอ้วน, คุณสองแผ่นดิน, คุณhaiku, คุณจันทราน็อคเทิร์น, คุณKavanich96, คุณกะว่าก๋า, คุณเริงฤดีนะ, คุณร่มไม้เย็น, คุณชีริว, คุณนายแว่นขยันเที่ยว, คุณSweet_pills, คุณnewyorknurse, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณThe Kop Civil, คุณkae+aoe, คุณtoor36, คุณ**mp5**, คุณmariabamboo, คุณTurtle Came to See Me, คุณtuk-tuk@korat |
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 8 มกราคม 2565 เวลา:23:04:50 น. |
|
|
|
โดย: ทนายอ้วน วันที่: 8 มกราคม 2565 เวลา:23:18:24 น. |
|
|
|
โดย: สองแผ่นดิน วันที่: 9 มกราคม 2565 เวลา:0:21:39 น. |
|
|
|
โดย: Kavanich96 วันที่: 9 มกราคม 2565 เวลา:5:06:16 น. |
|
|
|
โดย: กิ่งฟ้า วันที่: 9 มกราคม 2565 เวลา:13:56:01 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 9 มกราคม 2565 เวลา:14:29:48 น. |
|
|
|
โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 9 มกราคม 2565 เวลา:15:12:41 น. |
|
|
|
โดย: ชีริว วันที่: 9 มกราคม 2565 เวลา:19:57:32 น. |
|
|
|
โดย: Sweet_pills วันที่: 10 มกราคม 2565 เวลา:0:47:45 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 10 มกราคม 2565 เวลา:6:54:49 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 10 มกราคม 2565 เวลา:16:05:41 น. |
|
|
|
โดย: ทนายอ้วน วันที่: 10 มกราคม 2565 เวลา:20:30:39 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 11 มกราคม 2565 เวลา:6:46:51 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 11 มกราคม 2565 เวลา:19:01:58 น. |
|
|
|
โดย: ทนายอ้วน วันที่: 11 มกราคม 2565 เวลา:20:19:10 น. |
|
|
|
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 11 มกราคม 2565 เวลา:22:01:32 น. |
|
|
|
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 11 มกราคม 2565 เวลา:22:01:52 น. |
|
|
|
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 11 มกราคม 2565 เวลา:22:03:03 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 12 มกราคม 2565 เวลา:6:49:14 น. |
|
|
|
โดย: **mp5** วันที่: 12 มกราคม 2565 เวลา:10:52:29 น. |
|
|
|
โดย: อ้อมแอ้ม (คนผ่านทางมาเจอ ) วันที่: 12 มกราคม 2565 เวลา:12:55:47 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 12 มกราคม 2565 เวลา:14:31:23 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 13 มกราคม 2565 เวลา:6:12:53 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 13 มกราคม 2565 เวลา:16:59:54 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 14 มกราคม 2565 เวลา:6:13:35 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 14 มกราคม 2565 เวลา:13:39:31 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 15 มกราคม 2565 เวลา:7:08:00 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 15 มกราคม 2565 เวลา:18:56:22 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 16 มกราคม 2565 เวลา:6:52:48 น. |
|
|
|
โดย: ชีริว วันที่: 16 มกราคม 2565 เวลา:10:03:40 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 16 มกราคม 2565 เวลา:20:11:15 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 17 มกราคม 2565 เวลา:5:56:30 น. |
|
|
|
โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 17 มกราคม 2565 เวลา:8:43:31 น. |
|
|
|
|
|
 |
|
|
|
 |
ฝากข้อความหลังไมค์ |
 |
Rss Feed |
 | Smember |  | ผู้ติดตามบล็อก : 47 คน [?]

|
เป็นครูสอนภาษาไทยที่เกษียณอายุราชการแล้ว สนใจเรื่องการเขียนหนังสือให้ความรู้ ชอบการท่องเที่ยว หากท่านที่เข้ามาชมและอ่านแล้ว มีความสนใจและต้องการสอบถามเรื่องความรู้ด้านภาษาไทย ถ้ามีความสามารถจะให้ความรู้ได้ ก็ยินดีค่ะ
http://i697.photobucket.com/albums/vv337/dd6728/color_line17.gif |
|
 |
|
ดูจากในรุป
วิวสวยมากครับ
น้ำตกแม่กำปองผมเคยไปเดินสองรอบ
เดินจนสุดเลยครับ
วัดพระธาตุหริภุญชัยเป็นวัดที่สวยงาม
ผมไปถ่ายภาพสองสามครั้งครับ