คืนกำไรให้ชีวิต เพื่อพิชิตไปในโลกกว้าง
space
space
space
<<
พฤศจิกายน 2564
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
space
space
10 พฤศจิกายน 2564
space
space
space

ทริปเที่ยว เชียงใหม่ ลำพูน ตอนที่ 1

  ทริปเที่ยว เชียงใหม่ ลำพูน  ตอนที่ 1 

 เมื่อเดือน ก.พ. 64  สายการบินแอร์เอเซียเปิดขาย ตั๋วเหมา  ราคา
ประมาณ สี่พันบาท  แดง ลูกศิษย์โทรมาถามว่า 
อาจารย์ จะซื้อตั๋วเหมาของแอร์เอเซียไหมตั๋วนี้เที่ยวในประเทศจะไป
กี่ครั้งก็ได้ มีเวลาถึงเดือนธันวาคม
ไปแต่ละครั้งก็เสียเฉพาะภาษีสนามบินและถ้าหลายวันก็ซื้อน้ำหนักจะ
ได้ไม่ต้องหิ้วกระเป๋าขึ้นเครื่อง
ฉันตกลงซื้อตั๋วเหมาดังกล่าว  แดงจะเป็นคนหาสถานที่เที่ยวที่จังหวัด
ต่าง ๆ จองที่พัก  ฉันมีหน้าที่จ่ายเงินอย่างเดียว
มีลูกศิษย์ดี ก็โชคดีอย่างนี้แหละ ค่ะ 
         
 ทริปแรกที่จอง คือ ไปนครศรีธรรมราช และ สุราษฎร์ธานี ไปวันที่ 23-27   พ.ค.  ปรากฏว่า  ทริปแรก ใกล้เวลาก็โดนยกเลิก
  เพราะโควิดกำลังระบาดหนัก  แดงต้องจองวันที่ที่จะไปใหม่  คือ ไป
เดือนกันยายน  พอใกล้วัน ก็ถูกยกเลิกไปอีก  เฮ้อ !  
ทริปเที่ยวเชียงใหม่ ลำพูน เป็นทริปที่สองที่เราจอง  เป็นช่วงที่ รัฐบาล
ผ่อนปรนให้เดินทางท่องเที่ยวได้  คือ ช่วงตุลาคม
  ทริปนี้ เราจองไปวันที่16-19 ต.ค.ทริปนี้ไม่โดนยกเลิก แต่โดนเปลี่ยน
วันและเวลาเล็กน้อย  คือ เปลี่ยนเป็น 17-20  ต.ค.
เป็นไฟล์ 7 โมงเช้า  ค่ะ ก็ยังดีกว่า โดนยกเลิก  ค่ะ 
       
 คืนวันที่ 16  แดงมารับฉันไปนอนที่บ้าน  เพราะเราจะต้องออกจากบ้าน
ไปสนามบิน ตั้งแต่ ตีห้า  ส่วนมอห์มพี่สาวศิษย์เขย
จะขับรถมาที่บ้านของแดงตอนเช้า แล้วไปด้วยกัน โดยให้ลูกชายของ
แดงไปส่ง ที่ดอนเมือง ค่ะ 
 เช้าวันที่  17  ฉันตั้งนาฬิกาในมือถือ ให้ปลุกตั้งแต่ตีสามครึ่ง เพื่อเข้า
ห้องน้ำ อาบน้ำก่อน  ตามด้วยแดง  บ้านแดงมีห้องน้ำ
หลายห้อง ก็สะดวกสบาย ไม่ต้องเร่งรีบ
แต่งตัวเสร็จ  เตรียมพร้อมกันแล้ว  แดงกินข้าว ชวนฉันกินด้วย เป็นข้าว
หมูแดงที่ แดงทำเอง  ฉันกินไปเล็กน้อยรองท้อง
เพราะว่า ต้องกินยา นั่นเอง

ประมาณ ตีห้า มอห์มก็ขับรถมาถึงบ้านแดง  พวกเราเตรียมพร้อม ขน
กระเป๋าขึ้นรถแวน  วันนี้ เขียด (ศิษย์เขย) เป็นคนขับ
  ขากลับให้ เก๊ท ลูกชายคนโตขับรถกลับบ้านวันนี้ เราให้ วาคิว(น้อง
หมา) ไปด้วย  มันดีใจที่ได้ไปเที่ยวเหมือนสมัยเจ้ากี้
หมาของฉันเลย  
     
เราไปถึงที่สนามบิน  ยังไม่ 6 โมง จัดการเรื่องตั๋วเครื่องบิน ครั้งนี้ ค่อน
ข้างยุ่งยาก  ต้องมีใบแสดงว่าได้ฉีดวัคซีนโควิด 19
  มีการถ่ายรูปคิวอาโค้ต เพื่อเช็คอินเข้าเชียงใหม่พวกน้อง ๆ จัดการให้
ฉันหมด ถ้าฉันเดินทางคนเดียว  คงต้องถามกัน
วุ่นวายแน่นอน ค่ะ 
เครื่องกระเป๋าต้องผ่านเครื่องเอกซเรย์  ของฉันและมอห์โดยกักกระเป๋า
ตรวจอีกครั้ง แต่ก็ผ่านไปด้วยดี  พวกเราเดินอยู่
ในเกท 34 ได้ที่นั่ง 30 เอ  ท้ายเครื่องเลย เพราะแดงลืมเช็คอินก่อน
นั่นเอง   เครื่องบินวันนี้ตรงเวลาดี  เรียกขึ้นเครื่องก่อนเจ็ดโมง
น่าจะ 15  นาที  อุ่นเครื่องประมาณ 10 นาที  ก็บินสู่ท้องฟ้ามุ่งไปยัง
เชียงใหม่ใช้เวลาประมาณ1  ชั่วโมงเท่านั้น ค่ะ
 
 เมื่อถึงสนามบิน  เราจ้างแท็กซี่ให้ไปส่งที่ท่ารถที่เราจะเดินทางไป แม่
กำปอง  เอากระเป๋าไปฝากไว้ที่ท่ารถนี้ 
ซึ่งมีชื่อท่ารถว่า  "ท่ารัก"  (เราได้จองรถตู้ประจำทางที่จะไปยังที่พักแม่
กำปองแล้ว)  เจ้าหน้าที่ที่ท่ารถ ก็น่ารักมาก
แนะนำร้านอาหารแถวนั้นให้ว่า เป็นร้านอาหารอร่อย มีขายอาหารหลาก
หลาย เช่น ข้าวมันไก่โจ๊ก  ปาท่องโก๋  น้ำเต้าหู้ 
 บริเวณนี้ ก็คือ แถวตลาดวโรรส  ที่มีชื่อเสียงของเชียงใหม่  นั่นเอง
           ฉันกับมอห์มสั่งข้าวมันไก่คนละจาน 
แดงกับเขียดสั่ง โจ๊ก  เราสั่งปาท่องโก๋ ที่ปั้นเป็นรูปต่าง ๆ  สั่งมา 4 ตัว
แต่ได้มาทีละตัว  คือ รูปช้าง และ รูปมังกร  ตัวใหญ่มาก
จิ้มกับนมข้น  รสชาติอร่อย  อีก 2 ตัว ขอยกเลิก เพราะเขายังไม่ได้ทำ 
พวกเราอิ่มมาก  มื้อนี้ เริ่มใช้เงินกองกลาง 
ซึ่งเก็บคนละ 4,000 บาท จ่ายค่าแท็กซี่ไป 200 บาท 



ท่ารถที่เราจะต้องมาขึ้นรถตู้ประจำทาง มีเก้าอี้ให้นั่งพักด้วย ค่ะ
ฝากกระเป๋าเดินทางไว้ที่นี่ได้ ค่ะ 



กินข้าวมื้อเช้าที่ร้านโกเหน่งตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ท่ารถ 



ร้านนี้ สมเด็จพระเทพฯ เคยเสด็จมาเสวยปาท่องโก๋  ค่ะ 
เขาปั้นปาท่องโก๋เป็นรูปสัตว์ต่าง ๆ ทำให้เป็นจุดขายดี 

หลังจากกินมื้อเช้าอิ่มแล้ว  ก็เดินตลาดวโรรส  ซึ่งเงียบมาก  ได้ส้มมา
สามกิโล ร้อยบาท  ส่วนมอห์มอยากกิน อะโวคาโด  แต่ว่า
ไม่มีเจ้าไหนสุกเลย  แม่ค้าเลือกให้สามลูกบอกว่าพรุ่งนี้ 3 ลูกนี้ จะสุก
แต่ปรากฏว่า โดนหลอก เพราะไม่สุก  เลยอดกินกันไป 
กินข้าวเสร็จ ยังมีเวลาเหลืออีกมากมาย  แดงชอบเดินร้านขายเสื้อผ้า
ร้านที่เข้าไปดูเสื้อผ้า มีคนละครึ่งด้วย ทุกคนซื้อหมด
ยกเว้นฉัน ไม่ได้ซื้อเลย เพราะไม่ถูกใจสักตัว อิอิ แดงได้เสื้อและหมวก
เอียดก็ได้เสื้อ ส่วนมอห์มได้เสื้อและหมวกด้วย ค่ะ 



ร้านเสื้อผ้าและบริเวณแถวนั้นตกแต่งด้วยดอกไม้แห้งสวยดี ค่ะ 
       
รถประจำทางที่เราซื้อไว้นั้น  จะออกประมาณ 11.30 น.  พวกเรากินข้าว
มื้อเช้าเสร็จ เพิ่ม  9 โมงกว่า   เลยไปเที่ยววัดที่ต้อง
ข้ามสะพานลอย  แล้วเดินข้ามสะพานข้ามน้ำปิงไปอีกฟากหนึ่ง ข้าม
ถนนไปยังวัดนี้  วัดนี้มีชื่อว่า  วัดเกตการาม สะพานนี้
ก็มีประวัติเล่าไว้  ฉันถ่ายรูปประวัติมาให้อ่านด้วย ค่ะ มาทราบ
ประวัติของวัด ค่ะ 

ประวัติของวัดเกตการาม    ตั้งอยู่ที่ตำบลวัดเกต อำเภอเมืองเชียงใหม่
จังหวัดเชียงใหม่ ตั้งอยู่ใกล้กับถนนเลียบริมแม่น้ำปิง
เป็นวัดเก่าแก่ทางฝั่งตะวันออกของแม่น้ำปิง ตามศิลาจารึก วัดนี้ได้
สร้างเมื่อสมัยกษัตริย์ราชวงศ์มังรายพญาสามฝั่งแกน
พระราชบิดาของพญาติโลกราช ชื่อเดิมคือ วัดสระเกษ พญาสามฝั่งแกนโปรดฯ ให้พระยาเมือง พระยาคำ
และพระยาลือ สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 1971 ภายในวัดมีพระเจดีย์เกศแก้ว
จุฬามณี ซึ่งเป็นที่สักการะของชุมชน 
เป็นเจดีย์บูชาโดยผู้ที่เกิดในปีของสุนัข เจดีย์จุฬามณี หรือพระธาตุ
วัดเกต ประดิษฐานอยู่บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์
ซึ่งเป็นสวรรค์ที่อยู่บนยอดเขาพระสุเมรุ เป็นเจดีย์ที่บรรจุเครื่องทรงและ
พระเมาฬีของเจ้าชายสิทธัตถะ ซึ่งทรงสละทิ้ง
เมื่อคราวออกผนวช และยังเป็นที่เก็บรักษาพระเขี้ยวแก้วของพระพุทธ
องค์  หลังการถวายพระเพลิง...(ครองราชย์ พ.ศ. 1954-1985) 
ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่น่าสนใจภายในวัดเกตการาม
      ในสมัยก่อน วัดเกตเป็นย่านการค้าที่มีความเจริญรุ่งเรืองมาก เป็น
ชุมชนใหญ่เนื่องจากย่านนี้ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำปิง
ที่เปรียบเสมือนเส้นเลือดใหญ่ที่มาหล่อเลี้ยงประชากร
ที่อาศัยอยู่ทั้งสองฟากฝั่ง ทุกบ้านที่ทำการค้าจะมีท่าเรือเป็นของตนเอง ใช้เรือหางแมงป่อง (หรือเรือสะดอ เรือสีดอ
เรือแม่ปะ) เป็นพาหนะขึ้นล่องตามลำน้ำปิง ความเจริญรุ่งเรืองของย่านวัดเกตเริ่มซบเซาลง นับตั้งแต่กบฏ
พระยาปราบสงคราม(พญาผาบ) พ.ศ. 2432 เนื่องจากคนไทยภาคกลางขึ้นมาข่มเหง และถูกคนจีน
ที่เป็นนายอากรเก็บภาษีต้นหมากต้นพลู ก่อให้เกิดความเดือดร้อนไปทั่ว พญาผาบจึงได้รวบรวมผู้คนก่อการกบฏขึ้น
และคิดฆ่าคนจีนที่วัดเกตให้หมด คนจีนและลูกหลานคนจีนเกิดความ
เกรงกลัว  พากันลี้ภัยข้ามไปอยู่ฝั่งตะวันตก
คงเหลือแต่เพียงครอบครัวนายหน้อย แซ่แต้เท่านั้นที่ยังอยู่ เพราะเคย
ช่วยเหลือรับซื้อครั่งจากพญาผาบ
และชาวบ้านอำเภอสันทราย จึงมีความรักใคร่ชอบพอกัน ต่อมาในปี
พ.ศ. 2464  มีการสร้างทางรถไฟมาถึงเชียงใหม่
และเมื่อวันที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2477 มีอากาศยานมาลงที่สนามบิน
เชียงใหม่เป็นครั้งแรก การคมนาคมทางน้ำ
ถูกลดบทบาทเนื่องจากมีความยากลำบากกว่า ทั้งยังกินเวลาและเสีย
ค่าใช้จ่ายสูง ย่านวัดเกตจึงลดบทบาท
ทางการค้ากลายเป็นย่านที่อยู่อาศัยเพียงอย่างเดียว คนที่อยู่ในย่านนี้
ส่วนใหญ่ก็คือลูกหลานของคนที่มาตั้งถิ่นฐานดั้งเดิม
และแม้จะมีบางคนย้ายออกไปอยู่ที่อื่นแล้วก็ตาม แต่ยังคงมีสายใย
ผูกพันกับย่านนี้อยู่    
  ข้อสังเกต   ปลายยอดของเจดีย์จะมีลักษณะเอนเอียงเล็กน้อย ผู้สร้าง
ต้องการสร้างให้เจดีย์มีลักษณะเอียง
เพราะไม่ประสงค์ที่จะให้ยอดของเจดีย์ชี้ขึ้นไปยังสวรรค์อันเป็นที่ตั้ง
ของพระธาตุเกศแก้วจุฬามณี
เพราะถือเป็นการไม่สมควร    (ข้อมูลจาก อินเทอร์เน็ต)  
       
พวกเราเดินชมและซื้อดอกไม้ธูปเทียนไหว้พระธาตุแล้วเดินชมความ
งาม ภายในบริเวณวัด  ถ่ายรูปมาฝากด้วย ค่ะ 



สะพานที่เราข้ามไปที่วัดเกตการาม  ค่ะ 



มอห์มเซลฟี่่เรา 3 คน กลางสะพาน สักรูป ค่ะ 



บริเวณวัด มีพระธาตุให้เราได้กราบไหว้ ขอพร พวกเราซื้อดอกไม้
ธูปเทียนไหว้พระธาตุอยู่ด้านล่าง ค่ะ 







บริเวณวัดร่มเย็น  สวยงาม ค่ะ 







เจดีย์ที่บรรจุพระบรมธาตุ ค่ะ 


เมื่อถึงเวลาที่รถตู้ที่เราซื้อตั๋วไว้  คือ 11.30 น.  พวกเราได้ราคาโปรโม
ชั่น  111 บาท แดงจองในช่วงนั้นพอดี ราคาเต็ม
ฉันจำไม่ได้ ค่ะ รถตู้มาแล้ว  พวกเราขึ้นรถตู้ แดงบอกคนขับ ขอผู้สูงวัย
นั่นแถวหน้า โชเฟอร์โอเค  เราได้นั่งแถวแรก 
เอียดนั่งหน้ากับคนขับ  พวกเรากำลังจะเดินทางไปเที่ยวที่ แม่กำปอง 
ระหว่างทาง  รุ่ง โทรหา ถามถึงการเดินทาง
  นัดเจอกันตอนวันที่ 19 ซึ่งเราจะพักที่เชียงใหม่  
       
ประมาณ  12.30 น. พวกเราก็มาถึงที่จอดรถของรถตู้  ที่พักเราต้องเดิน
ไปอีกเล็กน้อย  แดงช่วยลากกระเป๋าให้ฉัน
ส่วนเอียดลากกระเป๋าของตนเองและมอห์มไปที่พักที่พักชื่อว่า April 
 Cottage   เจ้าของที่พักมาช่วยหิ้วกระเป๋า
ขึ้นบันไดที่พักด้วย  เป็นห้องรวม  4 คน  3,000 บาท  เนื่องจากไฟล์
เลื่อนวัน  จึงไม่ได้ห้องพักแบบสองคน  สภาพห้อง
ค่อนข้างแคบ  แต่ห้องน้ำกว้างมาก  เป็นเตียงใหญ่ สองเตียง  ค่ะ มา
ชมสภาพห้องค่ะ  บริเวณที่พักร่มรื่นด้วยต้นไม้มากมาย
  เหมือนอยู่ท่ามกลางธรรมชาติอันเขียวขจี ค่ะ 



สภาพในห้องพัก ค่ะ 





บริเวณที่พักรอบ ๆ  มีต้นไม้ใหญ่น้อยมากมาย  ที่สำคัญ มีธารน้ำจาก
น้ำตกแม่กำปองไหลผ่าน ได้ยินเสียงของน้ำตกตลอดเวลา ค่ะ
อาการเย็นสบายและบริสุทธิ์ มากเลย ค่ะ 


บริเวณหน้าห้องพักของพวกเรา ค่ะ มีม้านั่งให้เรานั่งเล่นด้วย ค่ะ 



ทางขึ้นที่พัก  ค่ะ 

หลังจากที่เราเข้าที่พักเรียบร้อยแล้ว  ท้องก็เริ่มหิว  เดินไปตามถนนใน
หมู่บ้าน  ซึ่งมีร้านค้าขายของสองข้างทางมากมาย
  เราเข้าไปร้านไส้อั่วป้านิ่ม  เริ่มสั่งอาหารพื้นเมืองหลาย ๆ อย่างเต็ม
โต๊ะเลยค่ะ มาดูอาหารมื้อเที่ยง (แต่กินเอาเกือบบ่ายสองเห็นจะได้ ค่ะ )



รายการอาหารมื้อเที่ยง กินเอาประมาณบ่าย 2  ค่ะ 



กินข้าวมื้อนี้เสร็จ ก็เดินถ่ายรูปตามจุดที่คนนิยมไปถ่ายกัน ค่ะ เจอร้านไอติมกะทิ  ก็แวะเข้าไปกินด้วย  รสชาติก็พอกินได้
มีใส่เนื้อมะพร้าวอ่อนในไอติมด้วย  นั่งที่ก้าวอี้ยาวหันหน้าไปทางน้ำตก
ไหลผ่าน  บริเวณที่สายธารน้ำ ร่มรื่นด้วยต้นไม้ใหญ่น้อย



ร้านไอติมกะทิ ค่ะ 




ถนนสายยาว มีมุมที่คนนิยมไปถ่ายรูป ค่ะ 



มุมนี้ คนนิยมมาถ่ายรูปมากมาย รอคิวกันถ่ายเลย ค่ะ 







ถ่ายรูปคู่กันบ้าง  ค่ะ 



ป้ายหน้าที่พักของเรา  ค่ะ 



ศิษย์เขยเอียด  ค่ะ 



สาม สาว สาว สาว  ค่ะ 





หน้าร้านขายของแฮนด์เมค  ค่ะ  




ถ่ายที่หน้าห้องพัก  ค่ะ 
 
กินไอติมกันคนละถ้วยเสร็จ  ฟ้ามืดครื้มมาเชียว  พวกเราจึงรีบเดินกลับ
ที่พัก  เข้าที่พักได้สักครู  ฝนก็เทลงมา หนักพอสมควร
  พวกเราเลยนอนพักผ่อนอยู่ในห้องน่าจะตกประมาณชั่วโมงเศษ ๆ
ก็หยุดตก  พวกเราก็ออกจากที่พัก เพื่อไปเดินชม
ร้านค้าและเดินไปถึงวัดด้วย  ชื่อ วัด คันธาพฤกษา  มารู้ประวัติของวัดนี้
สักหน่อยค่ะ 

         วัด คันธาพฤกษา  
วัดคันธาพฤกษา ตั้งอยู่ในหมู่บ้านแม่กำปอง  ซึ่งตั้งอยู่ทางทิศตะวัน
ออกของ จ.เชียงใหม่ ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่
โดยผ่านอ.สันกำแพงระยะทาง 50 กิโลเมตร และห่างจากตัว อ.แม่ออน
20 กิโลเมตร และอีกเส้นทางหนึ่งผ่าน อ.ดอยสะเก็ด
เลี้ยงขวาตรงสามแยกโป่งดิน ระยะทาง 51 กิโลเมตร ส่วนใหญ่เป็น
ถนนลาดยางและเทคอนกรีต
ดังนั้น สามารถเดินทางไปมาได้สะดวกสบายทุกฤดู และสามารถใช้
พาหนะรถได้ทุกชนิด เข้ามาในหมู่บ้านแม่กำปอง
ผ่านร้านฮิมห้วย ขึ้นเนินเขามาเล็กน้อย จะถึงวัดคันธาพฤกษา  ซึ่งอยู่
ซ้ายมือติดถนนวัดนี้ ตั้งอยู่บนเนื้อที่ 2 งาน 55 ตารางวา
แม้จะไม่มากเท่าใดนัก แต่ก็เป็นศูนย์รวมใจชาวแม่กำปองสืบมาจากรุ่น
สู่รุ่น นอกจากวิหารเหนือฟ้าที่มีมนต์ขลัง
ที่แห่งนี้ยังมี “พระอุโบสถ” ที่เป็นศูนย์รวมศรัทธาประกอบพิธีกรรมต่างๆ
และยังได้ชื่อว่าเป็นอันซีนไทยแลนด์ ด้วยตั้งอยู่
กลางลำธารแห่งสายน้ำแม่กำปองที่ไหลผ่านหมู่บ้าน  ที่มาของชื่อ
“วัดคันธาพฤกษา” ชาวบ้านเอาฉายาของครูบาอินสม
คนฺธรโส ท่านเป็นผู้ริเริ่มสร้างขึ้นบนที่ดินของพี่สาวท่าน และอยู่
ท่ามกลางพฤกษา คือป่าเขาลำเนาไพร
จึงมีชื่อว่า “วัดคันธาพฤกษา แม่กำปอง”   วัดนี้  มีสถาปัตยกรรมแบบ
ล้านนาโบราณ มีวิหารที่ทำด้วยไม้สักทองทั้งหลัง
แกะสลักลวดลายอันวิจิตรงดงาม เป็นงานสถาปัตยกรรมที่สำคัญของ
ชุมชนบ้านแม่กำปอง ซึ่งวัดคันธาพฤกษาแห่งนี้
ยังถือเป็นวัดประจำหมู่บ้านแม่กำปองอีกด้วย หลังคาของวิหารไม้สักถูก
ปกคลุมไปด้วยมอสสีเขียวเต็มทั้งหลังคา
 บ่งบอกถึงสภาพความชื้นและอากาศที่เย็นตลอดทั้งปีของบ้านแม่กำปอง รวมถึงวัดที่ตั้งอยู่หมู่บ้านเล็กๆ ในอำเภอ
แม่ออนแห่งนี้ ยังถือเป็นศูนย์รวมจิตใจชาวบ้านแม่กำปอง มาเป็นเวลา
ยาวนาน เนื่องจากวัดคันธาพฤกษาก่อสร้าง
ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2473 นับถึงวันนี้ก็มีอายุมากถึง 85 ปีแล้ว (ข้อมูลเมื่อ
พ.ศ.2558)
  ชาวชุมชนแม่กำปอง เล่าว่า ดั้งเดิมวัดแห่งนี้เป็นอาศรมตั้งอยู่เชิงเขา
ห่างจากหมู่บ้านราวๆ 300 เมตร เมื่อปี 2468...
จากนั้นก็ย้ายมาตั้งอยู่กลางหมู่บ้าน แต่เดิมมีถนนผ่านด้านทิศเหนือ
เท่านั้นแต่ปัจจุบันความเจริญมากขึ้นก็มีถนนตัดผ่าน
ด้านทิศใต้ของวัด  ส่วนชื่อของชุมชน แม่กำปอง  มีที่มาจากการตั้งชื่อ
ตามดอกไม้ชนิดหนึ่ง ซึ่งก็คือ “ดอกกำปอง”
บวกกับบริเวณที่ตั้งชุมชนมีแม่น้ำไหลผ่านจึงมีคำว่า “แม่” อยู่ด้านหน้า
สภาพแวดล้อมทางภูมิศาสตร์ กลายมาเป็นชื่อชุมชน
“บ้านแม่กำปอง” ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของตัวเมือง
เชียงใหม่ 
 สืบสาวราวเรื่องสาเหตุที่อุโบสถตั้งอยู่กลางลำธาร เนื่องมาจากดำริเจ้า
อาวาสรูปแรกให้สร้าง ตามพุทธหลักการ...คือให้มี
ลำน้ำล้อมรอบแทนใบเสมาเหมือนวัดโดยทั่วไปและทั้งหมู่บ้านแม่
กำปองมองทางไหนก็เห็นเป็นสีเขียวสบายตา
วันเวลาผ่านมาเนิ่นนานแล้วอาจจะเก่า ทรุดโทรมไปตามกาลเวลา
แต่ยังคงความสวยงาม...มีมนต์ขลัง เป็นที่น่าเลื่อมใสเชื้อเชิญ
ให้ผู้คนที่มีโอกาสได้แวะเวียนผ่านไปพิสูจน์ศรัทธาไม่เสื่อมคลาย
       
 จุดเด่นที่น่าสนใจของวัดนี้ นั้นก็คือมีสถาปัตยกรรมแบบล้านนาโบราณ
มีวิหารที่ทำด้วยไม้สักทองทั้งหลัง แกะสลักลวดลาย
อันวิจิตรงดงาม เป็นงานสถาปัตยกรรมที่สำคัญของชุมชนบ้านแม่กำ
ปองซึ่งวัดคันธาพฤกษาแห่งนี้ยังถือเป็นวัดประจำหมู่บ้าน
แม่กำปองอีกด้ว “วิหารไม้สักทอง” ในส่วนของหลังคาได้ชื่อว่า
อยู่บนที่สูงสุดของขุนเขา อากาศเย็นชื้นตลอดทั้งปี
จึงถูกปกคลุมด้วยมอสสีเขียวเต็มทั้งหลังคา อย่างสภาพที่เห็น
ดูสงบเย็นสบายใจ  (สรุปข้อมูล จากอินเทอร์เน็ต ค่ะ)



บันไดที่จะขึ้นไปไหว้พระที่วัด คันธาพฤกษา



ที่บริเวณนี้ มีตู้ให้ทำบุญด้วย ฉันหยอดตู้ไป 60 บาท อธิษฐาน ทำบุญ
ใหเเยาว์ จ๋า คนละ 20  บาทเท่ากันทุกคน



กราบพระขอพรให้สุขภาพแข็งแรง ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บมาเบียดเบียน



มอห์มถ่ายรูปให้ฉันกับป้ายชื่อวัด ไว้เป็นที่ระลึก ค่ะ 



กราบพระในวัดนี้  ค่ะ 

 หลังจากที่เดินชมรอบ ๆ วัด  กราบพระ  ทำบุญหยอดตู้แล้ว   แดงกับ
เอียด ไปเดินต่อ  ส่วนฉันกับมอห์ม เดินกลับที่พัก 
ระหว่างทาง  ก็ซื้อขนมก๊อปแก๊ป ซื้อน้ำแป๊ปซี่น้ำไวตามิ้น  เดินมาถึง
ร้านไอติม  ก็ซื้อบัวลอยไข่หวานเจ้านี้ไป
สองถ้วย 100 บาท  ออกเงินไปก่อน แล้วไปเบิกเงินกองกลางจาก
เหรัญญิกแดง ค่ะ 



ระหว่างเดินทางกลับที่พัก  ถ่ายรูปกับป้ายอีกรูป ค่ะ 

          น่าจะ 6 โมงกว่าแล้ว  พวกเราออกมาจากที่พักอีกครั้ง  เพื่อหาอะไรลองท้องมื้อค่ำ   ได้กินข้าวซอย  ฉันกับแดงแบ่งกัน  เพราะกินชามเดียวไม่หมด แดงก็ยังอิ่มเหมือนฉัน
ข้าวซอยร้านนี้  รสชาติก็โอเค ค่ะ เขียดกับมอห์มกินก๋วยเตี๋ยวหมู มั้ง 

         คืนนี้นอนกันแต่หัวค่ำ  เพราะไม่มีโทรทัศน์ให้ดูเลย น่าจะ 3 ทุ่ม พวกเราก็นอนกันแล้ว  เพราะรุ่งเช้า เรานัดรถรับจ้างเหมารถ เพื่อไปเที่ยวกิ่วฝันและแม่น้ำกำปอง ค่ะ 
ทริปวันแรก ก็จบเพียงเท่านี้ ค่ะ โปรดติดตามทริปเชียงใหม่ลำพูนในตอนที่สอง ค่ะ 











         


 




 

Create Date : 10 พฤศจิกายน 2564
38 comments
Last Update : 11 พฤศจิกายน 2564 16:48:32 น.
Counter : 1291 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณกะว่าก๋า, คุณkatoy, คุณเริงฤดีนะ, คุณhaiku, คุณKavanich96, คุณหอมกร, คุณจันทราน็อคเทิร์น, คุณtoor36, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณtuk-tuk@korat, คุณทนายอ้วน, คุณอุ้มสี, คุณกิ่งฟ้า, คุณmariabamboo, คุณmambymam, คุณสองแผ่นดิน, คุณเจ้าหญิงไอดิน, คุณnewyorknurse, คุณ**mp5**, คุณนายแว่นขยันเที่ยว, คุณSertPhoto, คุณชีริว, คุณนกสีเทา

 

ร้านโกเหน่งดังมากครับอาจารย์
ผมก็ชอบกินปาท่องโก๋ของร้านนี้
อร่อย ราคาไม่แพงเลย

อาจารย์โชคดีมากครับ
ขึ้นมาเที่ยวเชียงใหม่ได้พอดี
หลังจากอาจารย์กลับ
ตัวเลขผู้ติดเชื้อพุ่งสูงมากจนถึงวันนี้ก็ยังสูงครับ
ตลาดเกือบทุกแห่งมีผู้ติดเชื้อ

แม่กำปองอากาศดี
บรรยากาศร่มรื่น
หลายปีที่ผ่านมากลายเป็นที่ท่องเที่ยวสุดฮิต
ผมก็ชอบวัดคันธาพฤกษา
บรรยกาศสวยงามมากครับ

 

โดย: กะว่าก๋า 11 พฤศจิกายน 2564 17:32:23 น.  

 


ตามมาเที่ยว เชียงใหม่และแม่กำปองด้วยค่ะ
จำๆๆภาพที่เคยมาตาอาจารย์ไปด้วย
มาทุกที่ทุกวัด(เกตุ และวัดเจดีย์กลางน้ำ ณ แม่กำปอง

อ้อ..ตอนอ้อมา ช่วงลอยกระทงปีกลาย 30 ตุลา- 4 พ.ย 63
ขึ้นรถตู้มาแม่กำปองเช่นกัน..คนเชียร์แขก เป็นเพศที่ 3
อธิบายที่เที่ยว แบบ เลคเชอร์ ก่อนขึ้นรถด้วย
จำได้ไงค่ะ


รอติดตามตอนต่อไป..

 

โดย: เริงฤดีนะ 11 พฤศจิกายน 2564 19:05:19 น.  

 

ขอบคุณที่แบ่งปัน

 

โดย: Kavanich96 12 พฤศจิกายน 2564 5:06:44 น.  

 


สวัสดียามเช้าครับอาจารย์

 

โดย: กะว่าก๋า 12 พฤศจิกายน 2564 6:19:10 น.  

 

เผลอไม่ได้อาจารย์อัพบล็อกอีกแล้วจ้า

 

โดย: หอมกร 12 พฤศจิกายน 2564 9:27:05 น.  

 

สวัสดีครับอาจารย์

อ่านมาหลายบล๊อกแล้วรู้สึกว่าอาจารย์โชคดีมาก ๆ เลยครับที่มีลูกศิษย์ที่น่ารัก เรียนจบแล้วก็ไม่ลืมอาจารย์ ยังแวะเวียนมาทักทาย คุยชวนไปเที่ยว เห็นอาจารย์ของเราเป็นเหมือนญาติผู้ใหญ่ของเราคนนึง แต่ผมเชื่อว่า เป็นเพราะอาจารย์เป็นครูที่น่ารัก เข้าใจลูกศิษย์และเข้าถึงง่าย ลูกศิษย์เลยรักและอยากจะใกล้ชิดกับอาจารย์ ถึงจะเรียนจบกันมากนานนนนนนนนนแล้ว ไม่ทราบว่าความสำเร็จในการเป็นครูคืออะไร แต่สำหรับผม ผมว่านี่แหละครับ ความสำเร็จในการเป็นครู

ตั๋วเหมาคือดีมากครับ คนที่มีเวลา ได้เดินทางบ่อยๆ คุ้มมาก ๆ ครับ แต่คงจะมีแค่ระยะนี้แหละที่อยากให้คนกลับมาเดินทางกันมากขึ้น ถือว่าเป็นการกระตุ้นที่ดีครับ

แต่ตื่นตี 3 นี่...........ผมตื่นไม่ไหวแน่นอน ถ้าแบบนี้ต้องไม่นอน นอนแล้วเพลีย ไม่ตื่นอีกครับ 555555 ข้าวหมูแดงผมชอบครับ มีกุนเชียงดีๆ ไข่ต้มอร่อยมาก

ชื่อท่ารถน่ารักมากเลยครับ “ท่ารัก” ท่าจะน่ารักน่าดู ^^ ไปแม่กำปองซะด้วย ผมอยากไปมากเลย ยังไม่มีโอกาสไปเลยครับ ไปถึงเชียงใหม่แต่เช้าแบบนี้ได้บรรยากาศมาก ๆ เลยครับ ตลาดวโรรสเป็นกาดใหญ่ของเชียงใหม่ ครั้งล่าสุดที่ผมไปกับแฟน ไม่ได้ไปครับ ผมป่วยนอนสั่นหงักๆ อยู่ในรถ ทำอะไรไม่ได้เลย ปาท่องโก๋รูปร่างน่ารักก็ไม่เคยทานครับ แต่เพื่อนบอกว่า เอามาถ่ายรูปน่ะโอเค แต่กินไม่เท่าไหร่


เจ้าของที่พัก April Cottage น่ารักจังครับ มาช่วยยกประเป๋าด้วย ที่พักดูร่มรื่นมา ๆ ด้วยครับ เช้าตื่นมารับลมหนาวๆ สบายๆ ถึงห้องจะแคบไปหน่อย แต่เราตั้งหลักเที่ยวแล้วเอาห้องไว้แค่อาบน้ำนอนก็โอเคครับ ผมไปเชียงใหม่นี่ก็หาห้องพักถูกมาก เป็น Service apartment ด้วยครับ เพราะโปรแกรมเที่ยวเราเยอะมาก ๆ กลับห้องมา 4-5 ทุ่ม 7 โมงนิด ๆ ก็ออกไปเที่ยวแล้ว ถ้าจองโรงแรมดีๆ ก็คงไม่ได้นอนให้คุ้ม ^^ แต่ที่พักดีมากครับ ผมป่วยมาก พนักงานเค้าขึ้นมาดูที่ห้อง หายามาให้ ให้เยอะด้วยกะให้กินได้ถึง กทม แล้วหาโรงพยาบาลให้ด้วย แต่ผมไปอดทนกลับไป กทม เอาดีกว่า แถมให้ late check out ด้วยครับ ผมเพราะนอนจนถึงใกล้ Check-in ขึ้นเครื่องเลย

โห ร้านไอติมนี่ สาวๆ เยอะเลยครับ 55555555555 วัยรุ่นคงชอบถ่ายรูปฮิปสเตอร์ๆ กันหน่อย อยากไปเลย

แม่กำปองชิลมากครับ เห็นแล้ว อยากไปนั่งหายใจช้า ๆ สูดอากาศสดชื่นที่นั่น ทิ้งเรื่องวุ่นวายไปที่ กทม แล้วไปใช้ Slow life ที่นั่น แบบนี้แทบไม่อยากกลับมา กทม เลยครับ เหมือนโลกแห่งความฝัน

แล้วก็มาสะดุดกับคำว่า บัวลอยไข่หวาน วาวๆ ผมชอบจังครับ ^^

 

โดย: จันทราน็อคเทิร์น 12 พฤศจิกายน 2564 14:44:55 น.  

 

ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตครับอาจารย์

ผมชอบฟังเวลาเด็กตัวเล็กๆถาม
ผมว่าคำถามเค้าชวนคิดดีครับ
แล้วคำถามง่ายๆของเด็ก
บางทีผู้ใหญ่อย่างเราก็ไม่รู้จะตอบยังไงก็มีครับ 555

 

โดย: กะว่าก๋า 12 พฤศจิกายน 2564 20:09:56 น.  

 

ได้ไปเที่ยวในบรรยากษสแบบนี้ดีจริงๆ ครับ อาจารย์ลูกศิษย์รักน่าดูเลย

ที่พักราคาก็น่าจะประมาณนี้ แต่ในความรู้สึกผม จากภาพที่เห็นผมรู้สึกว่าไม่ค่อยสมราคา ถ้าราคานี้ห้องควรดีกว่านี้หน่อย ผมไม่เห็นเตียงด้วยเลยไม่ขอวิจารณ์มากครับ

ท่ารัก ผมเดาว่าเขาต้องเล่นคำกับคำว่า ถ้ารัก แน่ๆ

 

โดย: คุณต่อ (toor36 ) 12 พฤศจิกายน 2564 20:49:12 น.  

 


สวัสดียามเช้าครับอาจารย์

 

โดย: กะว่าก๋า 13 พฤศจิกายน 2564 7:10:33 น.  

 


สวัสดีวันเสาร์ค่ะ อาจารย์สุวิมล
ช่วงนี้อ้อเก็บเนื้อเก็บตัว
พักแข้งพักขา



งดคาร์โบไฮเดรด..เพื่อควบคุม นน. อีกทางหนึ่ง

 

โดย: เริงฤดีนะ 13 พฤศจิกายน 2564 9:30:49 น.  

 

ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตครับอาจารย์

เมื่อคืนผมนอนเกือบตี 1 ครับ
เลยตื่นสายเลย 555

คำสอนเรื่องทางสายกลาง
เป็นคำสอนที่ดีจริงๆครับ

แต่พอเอามาใช้จริง
อคติในใจเรา
ก็ทำให้ทางสายกลางเริ่มจะเอียงๆไปบ้างครับ 555

 

โดย: กะว่าก๋า 13 พฤศจิกายน 2564 11:10:23 น.  

 

สวัสดีค่ะอาจารย์
ยินดียิ่งแล้ว แขกแก้วมาเยือน
หนูตุ๊กค่ะ

 

โดย: tuk-tuk@korat 13 พฤศจิกายน 2564 14:25:23 น.  

 

ตามมาเที่ยวเชียงใหม่ด้วยคนครับ

ยังไม่เคยไปแม่กำปองครับ เห็นว่าพื้นเป็นเนินสูงๆ ต่ำๆ เกรงว่าแม่จะเดินไม่สะดวกครับ เลยต้องอดไปเที่ยวก่อน อิอิ

 

โดย: ทนายอ้วน 13 พฤศจิกายน 2564 14:53:52 น.  

 

ขอบคุณสำหรับกำลังใจให้บล็อก 3 F - แกงส้มปลากระบอกใส่ดอกขจร ด้วยครับ

 

โดย: ทนายอ้วน 13 พฤศจิกายน 2564 21:20:02 น.  

 


สวัสดียามเช้าครับอาจารย์

 

โดย: กะว่าก๋า 14 พฤศจิกายน 2564 6:34:44 น.  

 

ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตครับอาจารย์

ผมศึกษาแนวคิดของทุกศาสนา
พบว่ามีความเชื่อมโยงกันหลายแนวคิด
โดยเฉพาะความรัก ความเมตตา
และการศรัทธาในความดี
แต่ที่ทุกวันนี้ศาสนามีความขัดแย้งกัน
ส่วนใหญ่เป็นเพระาการตีความผิดๆของสาวก
แล้วนำความเชื่อผิดๆนั้นมาทะเลาะกันนะครับ

ส่วนเรื่องรักแล้วทุกข์นั้น
ผมก็เห็นว่าพระพุทธองค์กล่าวไว้อย่างชัดเจนเลยครับ
ว่า "ที่ใดมีรัก ที่นั่นมีทุกข์"
ในฐานะปุถุชนคนหนึ่ง
เราก็อาจนำความทุกข์จากความรักนี้
มาสอนใจตนได้ด้วยเช่นกันครับ

 

โดย: กะว่าก๋า 14 พฤศจิกายน 2564 11:49:55 น.  

 

สวัสดีค่ะอาจารย์ ตามมาเที่ยวเชียงใหม่ด้วยค่ะ ชอบอาจารย์เขียนบรรยายการออกเดินทางเพลินเลยค่ะ บรรยายได้ละเอียดมาก และภาพก็สวยงามทุกภาพค่ะอ่านแล้วรู้สึกเพลินและสนุกไปกับอาจารย์เหมือนได้ไปเที่ยวด้วยจริงๆค่ะ

โหวตท่องเที่ยวนะคะ

มีความสุขยามบ่ายค่ะ

 

โดย: กิ่งฟ้า 14 พฤศจิกายน 2564 13:39:43 น.  

 

ปีนี้ก็ยังไม่ได้ไปเลยค่ะแม่กำปอง

 

โดย: mariabamboo 14 พฤศจิกายน 2564 13:51:29 น.  

 

สวัสดีค่ะอาจารย์
คำว่ายินดียิ่งแล้วแขกแก้วมาเยือน
ทางเหนือใช้กล่าวต้อนรับคนมาแอ่วบ้าน
ไม่ทราบว่าใครเป็นคนต้นคิดค่ะ
หนูตุ๊กค่ะ

 

โดย: tuk-tuk@korat 14 พฤศจิกายน 2564 15:46:16 น.  

 

สวัสดีค่ะอาจารย์
คุณป้าแอ๊ด รูจักเพราะเป็นสมาชิกบล็อกแก้ง
ท่านชอบลงเจื่องการเย็บผ้าเป็นของใช้ต่าง ๆ เช่นกระเป๋า
สอนเย็บด้วยค่ะ
หนูตุ๊กค่ะ

 

โดย: tuk-tuk@korat 14 พฤศจิกายน 2564 18:34:14 น.  

 

สวัสดีครับ อาจารย์สุ
ตามมาเที่ยวเชียงใหม่ แม่กำปอง ไหว้พระด้วยครับ
ในอนาคตจะตามรอยไปเที่ยวบ้างครับ

 

โดย: สองแผ่นดิน 14 พฤศจิกายน 2564 20:18:47 น.  

 


สวัสดีค่ะ อจ.
มาเที่ยวด้วยค่ะ

 

โดย: newyorknurse 15 พฤศจิกายน 2564 5:16:39 น.  

 

อรุณสวัสดิ์ครับอาจารย์

 

โดย: กะว่าก๋า 15 พฤศจิกายน 2564 5:50:16 น.  

 

ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตครับอาจารย์

กุหลาบในบล็อกวันนี้
เป็นกุหลาบปลอมครับ
แต่พอใช้แอพแต่งภาพ
ก็ทำให้ภาพดูแปลกตาดีครับ

 

โดย: กะว่าก๋า 15 พฤศจิกายน 2564 12:54:49 น.  

 

แวะมาเยี่ยมและส่งกำลังใจครับ

 

โดย: **mp5** 15 พฤศจิกายน 2564 16:16:42 น.  

 

สวัสดีค่ะอาจารย์ ขอบคุณมากนะคะที่ไปทักทายให้กำลังใจและตราจบรู๊ฟให้ด้วยค่ะ อิอิ เจอคำผิด 2 คำ อาจารย์สายตาดีมากๆเลยค่ะและอีกอย่างดีใจที่อาจารย์อ่านทุกตัวอักษรนะคะ ขอบคุณมากๆค่ะ กิ่งแก้ไขเรียบร้อยแล้วค่ะ

มารอเที่ยวเชียงใหม่ลำพูนอีกรอบค่ะชอบอาจารย์บรรยายได้ละเอียดอ่านแล้วเพลินเหมือนได้ไปด้วยเลยค่ะ

คืนนี้หลับฝันดีค่ะ

 

โดย: กิ่งฟ้า 15 พฤศจิกายน 2564 20:48:33 น.  

 


สวัสดียามเช้าครับอาจารย์


 

โดย: กะว่าก๋า 16 พฤศจิกายน 2564 6:51:38 น.  

 

อาจารย์บันทึกความทรงจำ
ได้ละเอียดครับ

 

โดย: SertPhoto 16 พฤศจิกายน 2564 7:14:47 น.  

 

เชียงใหม่ เพิ่งได้ไปเมื่อตอนปีใหม่ แต่ขึ้นไปดอยอ่างขาง ฝั่งสันกำแพงยังไม่เคยไปเลยครับ มีพื้นที่ให้เปิดหูเปิดตาเยอะเหมือนกัน

ตอนเตรียมตัวจะไปอยู่แล้ว ทริปถูกยกเลิกเพราะโควิดเซ็งเลยครับ แต่อย่างน้อยเขาก็คิดถึงความปลอดภัย
ปาท่องโก๋น่ากินครับอาจารย์ เคยเห็นร้านขายปาท่องโก๋ในถนนคนเดินที่ไหนสักแห่งที่บอกว่าเคยขึ้นโต๊ะเสวย ไม่รู้เจ้าเดียวกันไหม

วัดในเชียงใหม่เก่าถึงสมัยล้านนาก็เยอะเลยนะครับ เขาก็รักษามาจนถึงทุกวันนี้
ที่พักเขียวขจีท่าทางสดชื่นเลยครับ
ส่วนวัดคันธาพฤกษา ไม่ถึงร้อยปี ไม่นับว่าเก่า อิอิ
และเพิ่งรู้วันนี้เองครับว่าชื่อแม่กำปองมาจากชื่อดอกไม้ เป็นจุดหมายยอดนิยมของคนท่องเที่ยวชมธรรมชาติเลยครับ

 

โดย: ชีริว 16 พฤศจิกายน 2564 21:52:39 น.  

 

ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตครับอาจารย์

เห็นด้วยกับอาจารย์ครับ
คนดี ดีจริง ไม่ต้องอวด
คนก็เห็นความดีที่เขาทำ

ส่วนคนเลว คนชั่ว
พยายามทำดี เพื่ออวดคน
สุดท้ายคนก็รูั้ว่าเขาไม่ได้ดีจริงอย่างที่เขาอวด

อันนี้เป็นเรื่องจริงที่พบเห็นได้ทั่วไปด้วยนะครับ

 

โดย: กะว่าก๋า 16 พฤศจิกายน 2564 21:56:53 น.  

 


สวัสดียามเช้าครับอาจารย์

 

โดย: กะว่าก๋า 17 พฤศจิกายน 2564 6:17:27 น.  

 

ยอดเยี่ยมค่ะ

 

โดย: นกสีเทา 17 พฤศจิกายน 2564 7:41:24 น.  

 

ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตครับอาจารย์

โควิดเกิดขึ้นสองปี
มีคนที่ผมรู้จัก รวมทั้งญาติ
ตายไปมากกว่า 20 คน
ไม่น่าเชื่อนะครับอาจารย์
เจอเหตุการณ์การจากลาเป็นระยะๆ
ทำให้ผมรู้สึกปลงชีวิตขึ้นเยอะเลยครับ

 

โดย: กะว่าก๋า 17 พฤศจิกายน 2564 13:40:33 น.  

 

ขอบคุณที่แวะมาเที่ยวระนองด้วยกันครับอาจารย์ ที่บ้านสะสมเปลือกหอยไว้เยอะเลยครับ มีอยู่ช่วงนึงห้ามเก็บ แต่ระยะหลัง เปลือกหอยกลับมาเยอะปกติแล้ว เลยให้กลับมาขายได้
ตัวเล้กๆน้อยๆก็สวยนะครับ ธรรมชาติช่างสร้างสรรค์จริงๆ
ฟาร์มเฮ้าส์ไม่รู้ใช้สิทธิ์เราเที่ยวด้วยกันได้ไหมนะครับ ปีนี้ไม่ได้ใช้โปรแกรมอะไรที่เขามีให้เลย
อยากใช้คนละครึ่งขึ้นมาเลยเนี่ย ซาลาเปาลูกละ 3.50 บาท ถูกม้ากกกก

 

โดย: ชีริว 17 พฤศจิกายน 2564 20:38:16 น.  

 


อรุณสวัสดิ์ครับอาจารย์

 

โดย: กะว่าก๋า 18 พฤศจิกายน 2564 6:06:30 น.  

 

ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตครับอาจารย์

ผมเห็นด้วยกับอาจารย์ครับ
ว่าความตั้งใจและความอดทนก็เป็นสิ่งสำคัญ
สำหรับคนที่ต้องการประสบความสำเร็จ
โดยเฉพาะคนที่สามารถอดทนรอได้
ผมว่ามีโอกาสประสบความสำเร็จสูงเลยครับ

 

โดย: กะว่าก๋า 18 พฤศจิกายน 2564 10:27:37 น.  

 

สวัสดีค่ะอาจารย์
แม่กำปอง ณ เวลานี้คิดถึงบรรยากาศตอนไปเที่ยว ยูฟูอิน เลย
หนูตุ๊กค่ะ

 

โดย: tuk-tuk@korat 18 พฤศจิกายน 2564 14:13:52 น.  

 


สวัสดียามเช้าครับอาจารย์

 

โดย: กะว่าก๋า 19 พฤศจิกายน 2564 6:20:44 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

space

อาจารย์สุวิมล
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 46 คน [?]




เป็นครูสอนภาษาไทยที่เกษียณอายุราชการแล้ว สนใจเรื่องการเขียนหนังสือให้ความรู้ ชอบการท่องเที่ยว หากท่านที่เข้ามาชมและอ่านแล้ว มีความสนใจและต้องการสอบถามเรื่องความรู้ด้านภาษาไทย ถ้ามีความสามารถจะให้ความรู้ได้ ก็ยินดีค่ะ

http://i697.photobucket.com/albums/vv337/dd6728/color_line17.gif
space
space
space
space
[Add อาจารย์สุวิมล's blog to your web]
space
space
space
space
space