1 2
3 4 5 6 7 8 9
10 11 12 13 14 15 16
17 18 19 20 21 22 23
24 25 26 27 28 29 30
ไม่สายเกินไปที่จะมีความสุข
ไม่สายเกินไปที่จะมีความสุข "ไม่สายเกินไปที่จะมีความสุข " เป็นโจทย์ตะพาบ กิโลเมตรที่ 241 ค่ะ ผู้ตั้งโจทย์ นี้ คือ น้อง กะว่าก๋า คำว่า ไม่สายเกินไปที่จะ.........เราจะได้ยินได้อ่านบ่อย ๆ ในเวลาที่ เรากำลังมีปัญหา เช่น คนเราไม่สายเกินไป ที่จะเรียนหรอก นะ คนเราไม่สายเกินไปที่จะรวยให้ได้สักวันหนึ่ง คนเราไม่สายเกินไปที่จะแก้ไขสิ่งที่ผิดพลาดไปแล้ว ... และอีกหลาย ๆ ความหวัง ที่เราจะปลอบใจคนที่กำลังประสบปัญหา สำหรับ "ไม่สายเกินไปที่จะมีความสุข" ก็เป็นหนึ่ง ในคำปลอบใจของคนที่เราไปปรับทุกข์ ไปเล่าปัญหาของเราให้เขาฟัง ความสุข กับ ความทุกข์ เป็นของคู่กันเสมอ ความสุขก็เป็นที่พึงพอใจของทุกคน ตรงข้ามกับความทุกข์ซึ่งไม่มีใครปรารถนา ความสุข ความทุกข์ ของคนเรา มักเน้นหนักไปในเรื่องของความรัก ระหว่างหนุ่มสาวเป็นหลักใหญ่มากกว่าเรื่องอื่น ๆ ใครที่สมหวังในเรื่องของความรักและลงเอยด้วยการแต่งงาน สร้าง ครอบครัวกัน มีลูกมีเต้ากัน ก็ใช่ว่า จะมีความสุขตลอดไป ก็หาไม่ บางคู่ ก็มีการหย่าร้างกันไป ก็มีไม่น้อย ไม่มีอะไรจีรังยั่งยืน มีความสุขตลอดไป เช่นเดียวกับความทุกข์ก็เหมือนกัน มันก็ไม่ได้จะอยู่กับเราถาวรตลอดไปเช่นกัน ฉันจึงคิดว่า ทุกคนควร เรียนรู้เรื่อง ความสุข ความทุกข์ ว่า มันเป็นเรื่องอนิจจัง ไม่เที่ยงแท้แน่นอน อย่ายึดติด ความสุข ความทุกข์ นั่นแหละจะเข้า กับ หัวข้อเรื่องของตะพาบ หัวข้อ "ไม่สายเกินไปที่จะมีความสุข" ฉันเชื่อว่า ทุกคน ล้วนแต่เคยผ่านเรื่องของ ความทุกข์มาทั้งนั้น ทุกข์ ที่รักไม่สมหวัง ทุกข์ที่ต้องพลัดพรากจากคนที่เรารัก ทุกข์ที่เงินเดือนไม่พอใช้ ทุกข์จากโรคภัยไข้เจ็บที่เบียดเบียนเรา ฯลฯ แต่ในความทุกข์เหล่านั้น ถ้าไตร่ตรองให้ดี ๆ มันก็เป็นบทเรียนให้เราไม่ก้าวพลาด มีภูมิคุ้มกันยามเราพบกับปัญหา เดิมที่เคยพบ จะได้สามารถแก้ไขเหตุการณ์นั้น ๆ ได้ ดี เวลาเราได้สมหวังในสิ่งที่หวัง ใบหน้าจะระบายไปด้วยรอยยิ้มแห่ง ความสุข ร่าเริง โลกเต็มไปด้วยความสวยงามเสมอ ความสมหวังในความรัก โลกทั้งโลกสดใสด้วยรอยยิ้ม ความสุขจากธรรมชาติที่งดงาม ด้วยสายน้ำเย็นฉ่ำ ผืนหญ้าเขียวขจี ครอบครัวที่มีความรัก มีสายใยผูกพันด้วยโซ่คล้องใจพ่อแม่ เป็นตัว ผูกสายสัมพันธ์ของความสุขให้ยั่งยืนมากยิ่งขึ้น ถ้าเป็นความไม่สมหวังล่ะ อะไรจะเกิดขึ้น นั่นก็คือ ความทุกข์ อันเป็น ธรรมดาของโลกธรรมทั้ง 8 นั่นเอง ( สุขคู่ทุกข์ ยศคู่เสื่อมยศ ลาภคู่เสื่อมลาภ สรรเสริญคู่นินทา) ความทุกข์อันเกิดจากโลกธรรม ทั้งหมด ดังกล่าว ก็มักจะแสดงอาการออกมาด้วย การร้องไห้ สีหน้าหม่นหมอง ฟูมฟาย บางรายอาการหนัก ก็จะกลาย เป็นโรค ที่เรียกว่า โรคซึมเศร้า ถ้าหนักมาก ก็อาจจะถึงกับฆ่าตัวตาย ดังที่เราได้ยินข่าวต่าง ๆ จาก หนังสือพิมพ์ จากโทรทัศน์ อยู่บ่อย ๆ ซึ่งเป็นเรื่องน่าเศร้าและสลดใจ เป็นอย่างยิ่ง ความเสียใจ ทุกข์ใจ ส่วนใหญ่ก็ระบายออกมาทางการร้องไห้ สรุปแล้ว ฉันคิดว่า ถ้าใครที่มีความรู้เรื่อง อนิจจังไม่เที่ยง และเรื่อง ของโลกธรรมแปดแล้ว สามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน ได้เป็นอย่างดี ก็จะสนองโจทย์ตะพาบครั้งที่ 241 ที่ว่า"ไม่สายเกินไปที่จะมีความสุข" นะคะ เหมือนดั่งชีวิตตัวของฉันเอง ซึ่งก็เคยผ่านความทุกข์อย่างแสนสาหัสมา หลายครั้ง แต่ด้วยอาศัยหลักธรรมดั่งกล่าวทั้งสองเรื่อง ศึกษาให้ เข้าใจและแก้ปัญหาต่าง ๆ ที่ประสบมาให้ผ่านพ้น วิกฤตของเหตุการณ์เหล่านั้นไปด้วยดี ไม่สายเกินไปเลยที่จะมีความสุข อยู่กับการสอนหนังสือ ให้ความรู้ ให้การอบรมสั่งสอน ให้ลูกศิษย์เป็นคนดีของสังคม ได้เป็นใหญ่เป็นโตไป ก็ไม่น้อย และ ผลแห่งความตั้งใจดีในการทำงานและสอนหนังสือ ฉันก็ได้รับผลดีตามมาด้วย นั่นคือ ยามเจ็บไข้ได้ป่วย ยามมีปัญหา เด็ก ๆ ก็ให้ความเอื้อเฟื้อช่วยเหลือเป็นอย่างดี ค่ะ นี่คือยังไม่สายเกินไปที่จะมีความสุข หลังจากผ่านมรสุมของชีวิตมาแล้ว ชีวิตของฉันก็มีความสุขได้ ถึงจะไม่มากมาย แต่ถ้าเรารู้จักพอเพียง พอใจ ในสิ่งที่เราได้รับ ความทุกข์ก็ไม่สามารถ ทำร้ายเราได้อีกเลย นะคะ หวังว่า ข้อคิดเล็ก ๆ น้อย ๆ ในการเขียน โจทย์ ตะพาบ เรื่อง "ไม่สายเกินไปที่จะมีความสุข" คงจะให้ความบันเทิงแก่เพื่อน ๆ ชาวบล็อกได้บ้างพอสมควร ค่ะ ขอขอบคุณภาพจากอินเทอร์เน็ต ค่ะ
Create Date : 26 พฤศจิกายน 2562
Last Update : 28 พฤศจิกายน 2562 10:48:44 น.
13 comments
Counter : 2049 Pageviews.
ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณJinnyTent , คุณโอน่าจอมซ่าส์ , คุณสองแผ่นดิน , คุณtoor36 , คุณภาวิดา คนบ้านป่า , คุณอุ้มสี , คุณSai Eeuu , คุณชีริว , คุณtuk-tuk@korat , คุณhaiku , คุณRananrin
โดย: JinnyTent วันที่: 26 พฤศจิกายน 2562 เวลา:19:49:18 น.
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 26 พฤศจิกายน 2562 เวลา:23:49:06 น.
โดย: อุ้มสี วันที่: 29 พฤศจิกายน 2562 เวลา:0:48:44 น.
โดย: Sai Eeuu วันที่: 30 พฤศจิกายน 2562 เวลา:22:27:56 น.
โดย: ชีริว วันที่: 30 พฤศจิกายน 2562 เวลา:23:45:10 น.
โดย: ชีริว วันที่: 1 ธันวาคม 2562 เวลา:20:03:40 น.
โดย: Rananrin วันที่: 4 ธันวาคม 2562 เวลา:14:05:31 น.
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 46 คน [? ]
เป็นครูสอนภาษาไทยที่เกษียณอายุราชการแล้ว สนใจเรื่องการเขียนหนังสือให้ความรู้ ชอบการท่องเที่ยว หากท่านที่เข้ามาชมและอ่านแล้ว มีความสนใจและต้องการสอบถามเรื่องความรู้ด้านภาษาไทย ถ้ามีความสามารถจะให้ความรู้ได้ ก็ยินดีค่ะ
http://i697.photobucket.com/albums/vv337/dd6728/color_line17.gif
โจทย์นี้ ให้ข้อคิดได้หลายแง่มุมมากค่ะ
เห็นด้วยกับที่อาจารย์เขียนออกมา
ความสุขอยู่รอบ ๆ ตัวเรา
ถ้าเราเรียนรู้ที่จะอยู่กับมันอย่างมีความสุข
จินมีหนังสือดี ๆ สักเล่มก็มีความสุข
ไปเที่ยว ไปทำบุญ ไปออกกำลังกาย ไปนวดแผนไทย
บางครั้งการได้คุยกับเพื่อนผ่านโลกโซเซี่ยลก็มีความสุข
ความทุกข์เป็นความจริงที่เราห้ามมันไม่ให้เกิดไม่ได้
แต่ถ้าเราเรียนรู้ที่จะยอมรับ และอยู่กับความจริงอย่างที่เป็น
มันก็จะไม่ทุกข์มาก ทุกข์ สุข ล้วนเกิดขึ้นดับไป วนเวียนไม่สิ้นสุด
ตั้งแต่ศึกษาพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า
ปฏิบัติตามคำสอนของพระอาจารย์ ทำให้เวลาเจออะไรที่มากระทบ
รู้เท่าทันมากขึ้น ทุกข์น้อยลงมากกว่าเมื่อก่อนค่ะ
เชียงใหม่อากาศหนาวแล้ว โดยเฉพาะเช้า ๆ
อาจารย์รักษาสุขภาพด้วยนะคะ