BlogGang.com : : อาจารย์สุวิมล : คืนที่ฝนตกหนัก

คืนที่ฝนตกหนัก

"คืนที่ฝนตกหนัก" เป็น โจทย์ถนนสายนี้มีตะพาบ หลักกิโลเมตรที่
311 ผู้ตั้งโจทย์ คือ คุณ NENE77

คำอธิบายโจทย์

ในคืนที่ฝนตกหนักทำอะไรกันอยู่บ้าง หลายคนอาจกำลังเดินทางกลับ
จากการทำงาน แล้วพบเจอเรื่องราวต่างๆ นานา
หรือนอนอยู่ที่บ้าน แต่ก็อาจมีเหตุการณ์ เช่น ฝนตกหนักจนน้ำท่วม
บ้านอะไรแบบนี้ มาเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับ
คืนที่ฝนตกหนักในแบบของคุณกันเถอะ

เรื่องฝนตกนั้น ฉันเชื่อว่า เป็นเรื่องที่ทุกคนไม่ชอบใจ โดยเฉพาะคน
ที่ต้องไปทำงาน ชาวนา ชาวไร่ อาจจะชอบใจ
แต่ถ้าฝนตกมากไป จนทำให้พืชผลเสียหาย ก็ต้องไม่ชอบเหมือนกัน
ยิ่งชาวกรุง เวลาฝนตกหนักทีใด น้ำท่วมทุกที ไม่ว่า
ผู้ว่า กทม. คนไหนก็ยังแก้ไขไม่ได้สักที เฮ้อ !

โจทย์ครั้งนี้ ให้เขียนถึงเหตุการณ์ "คืนที่ฝนตกหนัก" ทำอะไรกันอยู่
บ้าง สำหรับฉัน ฉันจำคืนนั้นได้ไม่มีวันลืมแน่นอน
เพราะมันทำให้บ้านฉัน สิ่งของต่าง ๆ ของฉันเสียหายเป็นจำนวน
มากมาย โดยเฉพาะ หนังสือในตู้ชั้นล่างสุด เสียหายหมด
ใช้ไม่ได้แม้แต่เล่มเดียว ของกินที่ลูกศิษย์นำมาเยี่ยมฉันตอนที่ฉัน
ประสบอุบัติเหตุเมื่อ วันที่ 1 ก.ย. จมน้ำไปหมด
ข้าวสารเป็นถุงใหญ่ก็เสียหาย ต้องแจกไปให้คนที่เลี้ยงน้องหมาไปหุง
เลี้ยงน้องหมา

เหตุการณ์ครั้งนั้น ฉันจำได้ไม่ลืมเลย ปีนั้น เป็นปี 60 เป็นปีที่ฉันโชค
ร้ายมหาศาลจริง ๆ เริ่มตั้งแต่ไปช่วยเพื่อนบ้าน
จนตัวเองหกล้มก้นกระแทก หงายหลังทำให้ กระดูกสันหลังยุบไปสอง
ข้อ ขาซ้ายพลิก กระดูกนิ้วเท้า ร้าวไป 4 นิ้ว ต้องเข้าเฝือก
เสียเงินหลายหมื่นที่จองไปเที่ยวดูแสงเหนือที่ ไอซ์แลนด์ แล้วยังมา
เจอน้ำท่วมบ้านสูงมากถึงหัวเข่าฉันเลย

คืนนั้น คืนวันที่ 13 ตุลาคม 60 เป็นคืนที่ฝนตกน่าจะประมาณ 3 ทุ่ม
ตกหนัก แต่ฉันก็ไม่นึกว่า ฝนตกแค่คืนเดียว
มันจะท่วมบ้านแถวบ้านฉันเกือบทุกหลัง บ้านที่เคยยกพื้นสูงก็ยังมี
น้ำเข้า แต่บ้านเหล่านี้ ถึงน้ำฝนเข้าก็ไม่ลำบากนัก
เพราะเขาไม่ได้กั้นเขื่อนหน้าบ้าน กันน้ำเข้าจากถนนหน้าบ้าน พอน้ำ
หน้าบ้านลด น้ำในบ้านก็ไหลออกได้สบาย ๆ ไม่ขังอยู่
ในบ้านเหมือนบ้านฉัน บ้านพี่แม่น้องออมและบ้านที่กั้นไม่ให้น้ำเข้าบ้าน
เหมือนอย่างบ้านฉัน ฉันไม่ได้ลงมาดูชั้นล่างเลย เพราะไม่นึกว่า แค่คืนเดียว จะท่วมมากมายขนาดนั้น แถวบ้าน
ก็ไม่มีใครคาดคิด ตู้ เตียงนอนเตี้ย โดนน้ำเสียหายหมดเลย ผู้ว่า กทม
ออกมาแก้ตัวว่า งูเขียวเข้าไปในเครื่องสูบน้ำ
ทำให้สูบน้ำไม่ได้ น้ำจึงท่วมมากมายขนาดนั้น ประชาชนเดือดร้อนไป
หมดแต่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร นอกจากรับเคราะห์กันไป

เช้าวันที่ 14 ต.ค. ซึ่งเป็นวันที่ หนึ่ง ลูกศิษย์ นัดจะมารับฉันไปเที่ยว
กลางดง จังหวัด ลพบุรี จะมารับประมาณ 6 โมงเช้า
ฉันตื่นตั้งแต่ ตี 4 อาบน้ำเสร็จ เตรียมลงมาชั้นล่าง  มาถึงบันไดก่อน
ลงไปชั้นล่าง ฉันก็แทบช็อค เพราะในบ้านน้ำท่วม
ข้าวของลอยตุ๊บป่อง ๆ เต็มบ้านไปหมด โอย! ฉันหมดแรง นั่งลงตรง
บันไดอย่างหมดเรี่ยวหมดแรง
แต่ในที่สุด ก็ต้องปลงตก ยอมรับในความเคราะห์ร้ายครั้งนี้ เริ่มลงมือ
วิดน้ำออกจากบ้านเข้าครัวไป
โทรหา ประไพ แม่บ้านที่เคยจ้างมาทำความสะอาด เขาก็มาช่วยไม่
ได้ เพราะบ้านที่เขาเช่า ซึ่งอยู่ซอยสอง
ก็ท่วมไม่แพ้บ้านฉัน เขาก็ต้องช่วยทำบ้านนั้น ฉันนั่งวิดไปด้วยความ
เหนื่อย ปวดหลังเหลือเกิน เพราะจากอุบัติเหตุ
เมื่อเดือน กันยา ยังไม่หายดีเลย

หนึ่ง ลูกศิษย์ มาตามเวลานัด เขามาพร้อมกับลูกศิษย์ที่เคยไปเที่ยว
ปิล็อก สองคน คงตกใจที่เห็นบ้านฉันมีน้ำท่วม
ถึงหัวเข่าฉัน ข้าวของเสียหายมากมาย หนังสือที่ตู้ชั้นล่าง  ถูกท่วม
เสียหายหมด เสียดายหนังสือมาก ๆ เลย ของกิน
น้ำผลไม้หลายกล่องและนมสด จมอยู่ในน้ำ ข้าวสารที่น้องสะใภ้นำมา
ให้ น่าจะหลายกิโล ยังไม่ได้กินเลยก็เสียหาย
ชื้นไปหมด หนึ่งกับลูกศิษย์ของเขาช่วยวิดน้ำได้สักพัก เห็นท่าจะไม่
ไหวแล้ว เลยบอกว่า ปิดบ้านไว้เลย เพราะวิดไปก็ไม่หมด
เนื่องจากถนนหน้าบ้านก็ยังไม่ลดเลนกลับจากกลางดง ค่อยไปซื้อ
เครื่องไดร์โว่มาดูดน้ำออกจากบ้าน ฉันเห็นด้วย
ถ้าฉันไม่ไปกับลูกศิษย์ ชาวบ้านแถวนี้ เขาก็ช่วยอะไรฉันไม่ได้ เพราะ
ต่างก็เคราะห์ร้ายถ้วนหน้ากัน

ออกจากบ้านฉันไป ถนนสุขุมวิทท่วมสูงพอควร ลูกศิษย์ คือ เก๋ ได้
ถ่ายรูปเอาไว้ เสียดาย บ้านฉัน เก๋ ก็ถ่ายไว้
แต่ไม่ได้อยู่ในเครื่องมือถือ ไปอยู่ในเครื่อง พีซี ที่กรุงเทพฯ เลยหาให้
ฉันไม่ได้ เพราะตอนนี้เขาอยู่ที่เชียงใหม่ มาดูรูปแถว
สุขุมวิท บ้านของฉัน ซึ่งท่วมเต็มถนนมาก รถสัญจรลำบาก ค่ะ

สภาพ ถนนสุขุมวิท แถวบ้านของฉัน ค่ะ

หลังจากกลับจากเที่ยวกลางดง ก็ต้องจ้างคนมาทำความสะอาดบ้าน
ขนหนังสือทิ้งไปมากมาย พร้อมของกิน เรียกว่า
เสียหายมากมาย แต่ก็ปลงได้แล้ว อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิดจ้างคนมา
ทำความสะอาด ก็ไม่ได้สะอาด เพราะเป็นพวกขายของเก่า
เหมาไปเป็นพัน แต่ไม่เอาไหน นอกจากไม่สะอาดแล้ว ยังขี้เกียจ ไม่
ยอมขนโต๊ะเก้าอี้เข้าบ้านอีก บอกว่าหมดเวลาทำงาน
ของเขา คือบ่ายสามกว่าเอง ฉันเลยบอกว่า ถ้าไม่ขนเข้าบ้านให้ ก็
ไม่ต้องเอาค่าจ้าง เพราะจ้างไป 1.500 บาท
ทำงาน 5 ชั่วโมงได้ แล้วยังมีนิสัยขี้ขอ ขอร่ม ขอโน่นขอนี่ เฮ้อ!

ฉันต้องแก้ปัญหา โดยการถมบ้านให้สูงกว่าถนนมาก ๆ ไม่สร้างเขื่อน
กั้นให้น้ำไม่เข้าบ้านจะดีกว่า ปลายปี 63 เก็บเงิน
ได้พอควร ฉันตัดสินใจ จ้างช่างนัฐ ที่เคยจ้าง ยกพื้นชั้นล่างสูงขึ้นไป
ประมาณเกือบ 70 เซ็นติเมตร ย้ายห้องน้ำ เข้าไปหลังบ้าน
ต้องทำครัวใหม่ ห้องน้ำใหม่ ปูกระเบื้องทั้งพื้นและผนัง เปลี่ยนกระเบื้องยางที่ชั้นสองเป็นกระเบื้องด้วย
แล้วยังต้องซื้อเครื่องครัวใหม่อีก รวมจ่ายครั้งนี้ ประมาณสองแสนกว่า
เฮ้อ !จะได้ไม่ต้องคอยหวั่นผวาเวลาฝนตกหนัก ๆ
เรียกว่า ซื้อความสุขอย่างหนึ่ง เนาะ มาชมพื้นบ้านใหม่ อันมีสาเหตุมา
จากฝนตกหนัก น้ำท่วมบ้าน ค่ะ มาชมบ้านที่ซ่อมใหม่ ค่ะ

ตู้นี้เป็นตู้ใส่หนังสือทั้งหมด 4 ชั้น ชั้นล่าง หนังสือเสียหายทั้งชั้นเลยค่ะ

ตู้นี้ เป็นตู้โชว้ ของที่ระลึก มีชั้นล่างสุดใส่หนังสือ ก็เสียหายหมด ค่ะ

การถมบ้านครั้งนี้ อาศัยไปดูบ้านที่เขาถมสูงแล้ว น้ำไม่เคยเข้าที่ซอย
แรก ปรกติ บันไดที่จะขึ้นไปชั้นสอง มีทั้งหมด 5 ขั้น
เขาถามทิ้งเหลือประมาณ 2 ขั้นครึ่ง แต่ฉันบอกช่างว่า บ้านฉันจะถม
สูงขึ้นไปอีก ให้เหลือ ขั้นครึ่งเลย อิอิ

ศาลเจ้าตี่จู๋เอี้ย ศาลใหม่ค่ะ ศาลเก่า โดนน้ำท่วม ไม้อัดพองไปหมด
เจ้าบ้าน ทำบ้านใหม่ เจ้าที่ ก็ได้อยู่บ้านใหม่เช่นกันค่ะ
พื้นที่ถมสูงนี้ ปูด้วยกระเบี้องแผ่นใหญ่ พื้นเดิม เป็นหินขัด สวยงาม
น่าเสียดาย ใช้มาตั้งเกือบ 50 ปี ยังสวยอยู่เลย

ซิงค์น้ำ ก็ต้องซื้อใหม่ ของเก่าย้ายไปย้ายมา พังเสียแล้ว ยกให้ ช่าง
เอาไปซ่อมใช้ที่บ้าน ได้ซิ้งค์ใหม่ที่มีที่คว่ำจาน ชาม ด้วย
พื้นครัวและพื้นห้องน้ำ ก็ปูกระเบื้องสีน้ำตาลจะได้ทำความสะอาด
ง่ายกว่าสีพื้นอ่อน ๆ ค่ะ

ด้านที่เห็น เป็นห้องน้ำเล็ก ๆ แบ่งกับห้องครัวคนละครึ่ง มองดู
แคบกว่าเก่ามากเลย ตึกแถวก็เป็นอย่างนี้แหละ ค่ะ

ตะพาบ "คืนที่ฝนตกหนัก" ของฉัน เป็นประสบการณ์ตรงของฉัน
ที่สุดช้ำใจเรื่องหนึ่ง สิ่งที่เสียดายมาก ก็คือ
หนังสือที่เก็บไว้ เสียหายไปเป็นร้อยเล่มน่าจะได้ ค่ะ ยามจะต้องเสีย
เงิน เพื่อสวัสดิภาพ เพื่อความปลอดภัยของเรา
เราก็ต้องยอมเสียเงินเพื่อทำให้เราอยู่อย่างเป็นสุข ไม่ต้องคอยผวาน้ำ
จะเข้าบ้าน เนาะ สวัสดี ค่ะ