|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 |
7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
28 | 29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
เติ้ง ลี่จวิน ๒

ให้อ่านเรื่องราวของเติ้งลี่จวินต่อ เจอเวบที่ลงประวัติของเธออย่างละเอียด คนเขียนรู้เรื่องราวของเติ้งลี่จวินดีมาก ๆ เลยลอกมาให้อ่านทั้งกระบิเลย บล็อคนี้แปะเพลง "เหมยฮวา" เป็นเพลงที่เราชอบที่สุดเพลงนึง เนื้อเพลงสั้น ๆ แต่ความหมายดี ดนตรีก็เพราะสุด ๆ เลย ขอบคุณคุณหยินที่หาเนื้อเพลงให้ คุณหว่าหวาสำหรับคำแปลเพลงค่ะ และลุงแว่นสำหรับคำกลอนประกอบเพลงแสนไพเราะ
บล็อคภาคแรก เติ้งลี่จวิน ๑
https://www.youtube.com/watch?v=G9VaF-7YMY8&feature=related
梅花 mei hua ดอกเหมย
梅花梅花滿天下 mei hua mei hua man tian xia ดอกเหมย ดอกเหมยสะพรั่งทั่วแคว้นแผ่นดินจีน
越 泠 它 越 开花 yue ling ta yue kai hua ยิ่งหนาวยิ่งเย็นยิ่งผลิบาน
梅 花 坚 忍 象 徵 我 们 mei hua jian ren xiang zhi wo men ดอกเหมยหนักแน่นเข้มแข็งดั่งเช่นเรา
魏 魏 的 大 中 华 wei wei di da zhong hua อาณาจักรจีนตระหง่านยิ่งใหญ่
看 哪 遍 地 开 了 梅 花 kan na bian di kai liao mei hua มองดินแดนถิ่นนั้นที่ดอกเหมยบานสะพรั่ง
有 土 地 就 有它, you tu di jiu you ta ที่ใดมีแผ่นดินย่อมมีดอกเหมย
冰 雪 风 雨 它 都 不 怕 bing xue feng yu ta dou bu pa จะร้อน ฝน หนาว ก็มิหวั่น
它 是 我 的 国 华, ta shi wo di guo hua , ดอกเหมยคือดอกไม้ประจำชาติของฉัน
(ร้องซ้ำอีกรอบ)
 | |  | |
เหมยงามประจำใจ
ดอกเหมยบาน ละลานตา คราได้เห็น
ยิ่งหนาวเย็น ยิ่งผลิดอก ออกไสว
หยัดยืนท้า ฤดูกาล มานานไกล
เป็นหลักใจ ในแดนจีน ถิ่นธานี
ชมดอกเหมย ทั่วถิ่นฐาน บานสะพรั่ง
ตราบดินยัง ย่อมเหมยอยู่ ชูศักดิ์ศรี
ร้อนหนาวฝน ทนทานท้า ทั่วธาตรี*
สมมาลี ประจำชาติ ประจำใจ.
ร้อยกรองโดย ลุงแว่น
*(ธาตรี [ทาตฺรี] (แบบ) น. แผ่นดิน, โลก)
| |  | |  |

เติ้งลี่จวิน-ราชินีเพลงจีนในดวงใจตลอดกาล (๑)
ผมมั่นใจว่าท่านผู้อ่านที่กำลังอ่านคอลัมน์นี้อยู่ คงไม่มีใครไม่รู้จักเติ้งลี่จวิน (邓丽君) อย่างน้อย
ก็คงรู้จักเพลงของเธอไม่เพลงใดก็เพลงหนึ่ง ซึ่งมีทั้งที่ร้องโดยเจ้าตัวเอง จากนักร้องท่านอื่น
หรือแม้กระทั่งนักร้องไทยอย่าง คุณดาวใจ ไพจิตร ที่ครั้งหนึ่งเคยนำเอาทำนองมาใส่เนื้อร้อง
ไทย สำหรับตัวผู้เขียนเอง เนื่องจากใช้ชีวิตในแวดวงของคนจีนตั้งแต่เด็ก เลยบอกได้ว่ารู้จักตั้งแต่
ตอนเด็ก ๆ รวมทั้งร้องเพลงซึ่งเป็นเพลงโปรดอยู่หลายเพลง และที่ทำให้รู้จักเติ้ง ลี่จวินมากขึ้น
ก็มาจากภาพยนตร์ที่สร้างในฮ่องกงปี ๑๙๗o เรื่อง เกอหมีเสียวเจ่ (歌迷小姐) หรือสาวน้อย
ผู้ลุ่มหลงเสียงเพลง

สำหรับชื่อภาษาไทยผู้เขียนแปลเอง ไม่ใช่ชื่อเรื่องของภาพยนตร์ซึ่งต้อง
สารภาพตามตรงว่า สมัยนั้นไม่เคยสนใจเลยไม่ว่าชื่อภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษ ภาพยนตร์
เรื่อง "เกอหมีเสียวเจ่" เป็นการนำเอาชีวิตของเติ้งลี่จวินสมัยก่อนเข้าสู่วงการ และความมุมานะ
อย่างหนักเพื่อให้ประสบความสำเร็จในการเป็นนักร้องให้ได้ ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นเรื่องที่สอง
ที่เธอแสดง สำหรับเรื่องแรกเธอแสดงมื่ออายุ ๑๖ เรื่อง เซ่เซ่โจ่งจิงหลี่ (谢谢总经理) หรือ
ขอบคุณท่านผู้จัดการใหญ่

บทความนี้เขียนขึ้นมา เพื่อรำลึกถึงการจากไปของเติ้งลี่จวินครบรอบ ๑o ปี (เธอเสียชีวิตเมื่อวันที่ ๘ พฤษภาคม ๑๙๙๕) โดยจะขอกล่าวถึงเติ้งลี่จวินในช่วงต่าง ๆ ของชีวิต ตั้งแต่ปฐมวัยและบางแง่มุมเมื่อเธอยังมีชีวิตอยู่ในตอนที่หนึ่ง และจะต่อด้วยตอนที่สองเกี่ยวกับนักร้องตัวแทน หรือเสียงเหมือนเติ้งลี่จวิน


เติ้ง ลี่จวินเป็นบุตรสาวคนเดียว และเป็นลูกคนที่สี่ของคุณพ่อเติ้งเฉี่วน (邓枢) ผู้ซึ่งเกิดในมลฑลเหอเป่ย
(河北) และเป็นทหารฝ่ายกั๊วหมิงต่าง 国民党 (ก๊กมิ่งตั๋ง) ของเจียงไคเชค เมื่อฝ่ายกั๋วหมิงต่างพ่ายแพ้แก่ฝ่ายคอมมิวนิสต์ คุณพ่อเติ้งก็อพยพพร้อมกับพลพรรคของเจียงไคเชคไปเกาะไต้หวัน และหนูน้อยเติ้งลี่จวินถือกำหนดที่ไต้หวัน เมื่อวันที่ ๒๙ เดือนมกราคม ๑๙๕๓

เนื่องจากคุณพ่อเติ้งเป็นทหาร จึงต้องย้ายราชการไปตามที่ต่าง ๆ ตามแต่จะได้รับมอบหมาย และชีวิตในวัยเด็กของหนูเติ้งก็ไม่ได้สุขสบาย เนื่องจากฐานะทางครอบครัวจัดว่าค่อนข้างยากจน เศรษฐกิจไต้หวันในสมัยนั้นยังไม่มั่งคั่งดังปัจจุบัน การกินอยู่จึงต้องเพิ่งพาองค์กรกุศลบางส่วน ทางครอบครัวเติ้งเองก็เช่นกัน การนับถือศาสนาคริสต์ก็เป็นหนทางหนึ่ง ที่จะได้รับความช่วยเหลือจากหน่วยงานของคริสต์ศาสนา ซึ่งกำลังต้องการเผยแพร่ในไต้หวัน แต่หลังจากที่เติ้งลี่จวินเป็นนักร้องสุดฮ็อต และใช้ชีวิตในต่างประเทศ เธอถึงเปลี่ยนมานับถือศาสนาพุทธตามความเชื่อดั้งเดิมแทน

ชื่อจริงของเติ้งลี่จวินคือ เติ้งลี่หยุน (邓丽筠) หรือไผ่งาม แต่เนื่องจากเพื่อน ๆ ชอบเรียกลี่จวินมากกว่าลี่หยุน เมื่อเข้าสู่วงการแล้วเลยตัดสินใจใช้ชื่อว่าลี่จวินซึ่งแปลว่าคนสวย หรือสาวสวย ซึ่งก็เหมาะกับความเป็นผู้หญิงของเธอมากกว่า หนูเติ้งฉายแววความสามารถด้านการร้องเพลง และแสดงตั้งแต่เด็ก ๆ แล้ว ในยุคหวางเหมยเตี้ยว (黄梅调) กำลังฮ๊อตฮิตอันเนื่องจากภาพยนตร์เรื่อง "เหลียงซานป๋อหยวี่จู้ยิงถาย" 梁山伯与祝英台 (The ButterflyLovers) ของผู้กำกับฮ่องกงหลี่ฮั่นเสียง (李汉祥) ทำให้ชาวไต้หวันคลั่งไคล้กันทั้งเกาะ และมีการจัดประกวดการร้องหวางเหมยเดี้ยวโดยสถานีโทรทัศน์จงหัว หนูเติ้งได้รับชนะเลิศจากการประกวดในครั้งนี้ ซึ่งขณะนั้นมีอายุเพียง ๑o ขวบ
หลังจากนั้นมีการประกวดและชนะเลิศในรายการต่าง ๆ และที่สำคัญคือ ในปี ๑๙๖๖ หรืออายุ ๑๓ ขวบ ได้รับชนะเลิศม้าทองคำจากการประกวดร้องเพลงในเพลงไฉ่หงหลิง ในปีถัดมาก็ได้ออกแผ่นเสียงแผ่นแรกในชีวิต และเป็นการก้าวเข้าสู่อาชีพนักร้องอย่างเต็มตัว
การก้าวเข้าสู่นักร้องอาชีพของเติ้งลี่จวินนั้น เธอมีแฟนเพลงกระจายอยู่ทั่วโลกที่มีคนจีนอาศัยอยู่ ไม่เว้นแม้กระทั่งญี่ปุ่น สำหรับการไปสร้างชื่อเสียงในประเทศญี่ปุ่นนั้น คงต้องเข้าใจพื้นฐานของชาวไต้หวันอย่างหนึ่ง เนื่องจากเกาะไต้หวันเคยถูกยึดครองโดยญี่ปุ่นสมัยสงครามโลก ชาวไต้หวันจึงมีวิถีชีวิตหลาย ๆ อย่างกระเดียดไปทางญี่ปุ่น อย่างวัฒนธรรมการดื่มชาเขียวก็มาจากญี่ปุ่น และได้นำเข้าบ้านเราโดยบริษัทไต้หวันหลายปีก่อน ๆ ที่จ้าวตลาดอย่างโออิชิจะเกิดเสียอีก (จริง ๆ สัญชาติเดิมของคุณตันแห่งโออิชิเองก็เป็นชาวไต้หวัน) แต่ไม่ประสบความสำเร็จ เนื่องจากรสชาดไม่ถูกปากคนไทย
ชาวไต้หวันจำนวนไม่น้อย เมื่อจะโกอินเตอร์จะมองไปทางตะวันออก (ญี่ปุ่น) ก่อน ซึ่งตรงข้ามกับคนไทยจะมองไปตะวันตก (ฝรั่ง)เสียมากกว่า ปี ๑๙๗๓ ได้เซ็นสัญญากับโพลิดอร์ ประเทศญี่ปุ่น แต่ยังไม่ได้ขึ้นถึงจุดสูงสุดในญี่ปุ่น แต่กลับมาถึงจุดสูงสุด หลังจากที่ได้ไปตระเวนแสดงในอเมริกาและแคนนาดาในปี ๑๙๘๔ โดยยอดขายแผ่นเสียงของเติ้งลี่จวิน สามารถทำลายสติถิยอดขายสูงสุดของญี่ปุ่น และได้รับรางวัลสารพัดยอดเยี่ยม ทั้งแผ่นเสียงยอดขายยอดเยี่ยม เพลงยอดนิยมสูงสุด นักร้องยอดเยี่ยม เป็นต้น ในปี ๑๙๘๕ เพลง อ้ายหริน (愛人, Aijin) หรือ ที่รัก-Lover ได้รับความนิยมสูงสุด ๑๔ สัปดาห์


เติ้งลี่จวิน-ราชินีเพลงจีนในดวงใจตลอดกาล (๒)
สำหรับประเทศในแถมเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นั้น เติ้งลี่จวินก็ตระเวนแสดงตามประเทศต่าง ๆทั้งงานกุศลและร้องตามไนต์คลับภัตตาคารต่าง ๆ อย่างในเมืองไทยก็เคยร้องประจำที่ภัตตาคารกิเลน นอกนั้นก็เคยแสดงในประเทศอย่างเวียตนาม มาเลเซีย สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซียเป็นต้น

ที่น่าสนใจคือ การไปตามคำเชิญของมาดามลีกวนยิวในปี ๑๙๖๙ เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันเกิดของภรรยาลีกวนยิว อดีตสตรีหมายเลขหนึ่งของสิงคโปร์เพื่อไปแสดงร้องเพลงเพื่อการกุศล ถือว่าเป็นการออกสู่นอกประเทศครั้งแรกในขณะที่อายุได้เพียง ๑๔ ขวบ หลังจากนั้นเมื่อเป็นนักร้องยอดนิยมแล้ว ก็ไป ๆ มา ๆ อยู่ในกลุ่มประเทศเอเชียอาคเนย์ทั้งหลายจนแฟนเพลงติด ชนิดที่เติ้งลี่จวินไปไหนมาไหนจะถูกห้อมล้อมด้วยแฟนเพลง จนไม่เหลือความเป็นส่วนตัว ถึงขนาดต้องแต่งตัวอำพรางตัวเอง เมื่อต้องการออกเที่ยวเป็นการส่วนตัว

ในระหว่างที่วนเวียนอยู่ในกลุ่มประเทศเอเชียอาคเนย์นั้น เติ้งลี่จวินเกือบจะลงหลักปักฐานกับหนุ่มสิงคโปร์นาม ฮ๋วงเหลียนเจิ้น เจ้าของลี่ฟงเรคคอร์ท ผู้ที่ถึงกับลงทุนซื้อโรงแรมเมย์ฟลาเวอร์ในกัวลาลัมเปอร์ ให้เป็นที่ร้องเพลงประจำของเติ้งลี่จวิน ซี่งเธฮจะร้องที่นี่ทุกคืนตอน ๔ ทุ่ม และจะร้องเพลงหลัก ๆ อยู่สี่เพลง คืออ้ายหนี่อีว่านเหนียน 爱你一 万年 (รักเธอหนึ่งหมื่นปี) ฉีงหรินจ้ายเจี้ยน 情人再见 (ลาก่อนที่รัก) จี่สือจ้ายหุยเถา 几时再回头 (เมื่อไหร่กลับมาอีก) และเพลงภาษาอังกฤษ Love Story

ถึงแม้เติ้งลี่จวินจะสามารถตรึงใจแฟนเพลงชาวจีนและญี่ปุ่นทั่วทั้งเอเชีย แต่มีอีกประเทศซึ่งเป็นประเทศบ้านเกิดของคุณพ่อเติ้ง แต่เติ้งลี่จวินกลับไม่เคยแม้แต่จะเหยียบจีนแผ่นดินใหญ่เลย ถึงแม้จะมีบ้านหลังที่สองอยู่ในฮ่องกงก็ตาม ไม่ใช่ว่าชาวจีนแผ่นดินใหญ่จะไม่ชอบฟังเพลงของเติ้งลี่จวิน ตรงกันข้าม กลับเป็นประเทศที่มีแฟนเพลงมากที่สุดและคลั่งไคล้มากที่สุด

แต่เหตุที่เติ้งลี่จวินไม่ไปเยี่ยมแฟนเพลงที่จีนแผ่นดินใหญ่ มาจากเหตุผลทางการเมืองล้วน ๆ เนื่องจากคุณพ่อเป็นทหารระดับนายพันของเจียง ไคเชคแห่งกั๊วหมิงด่าง ผู้ที่เคยสู้รบกับพรรคคอมมิวนิสต์ ร้อยทั้งร้อยจะไม่ยอมเผาผีกับจีนแผ่นดินใหญ่ และมักจะบอกต่อไปยังลูกหลานไม่ให้คบค้าด้วย แฟนเพลงชาวจีนทุกคนอยากให้เติ้งลี่จวินไปหา ในยุคนั้นเป็นยุคของเติ้งเสี่ยวผิง (邓小平) ชาวจีนถึงกับพูดล้อกันว่า กลางวันฟังนโยบายของหล่าวเติ้ง 老邓 (เติ้งใหญ่หรือเติ้งเสี่ยวผิง) แต่กลางคืนฟังเพลงของเสี่ยวเติ้ง 小邓 (เติ้งน้อยหรือเติ้งลี่จวิน)

ในแต่ละปี บรรดาแฟนนานุแฟนจะมีการจัดประกวดร้องเพลงเลียนแบบเติ้งลี่จวิน และก็เป็นเวทีที่กำเนิดนักร้องเสียงเติ้งลี่จวินมากมาย กิจกรรมนี้ยังจัดกันอย่างต่อเนื่องจนทุกวันนี้ หลังจากที่เติ้งลี่จวินเสียชีวิตไปแล้ว แฟนเพลงชาวจีนได้สร้างรูปปั้นของเติ้งลี่จวินไว้ในสวนชิงผู่ฟุเซ่า ในเมืองซ่างไห่หรือเซี่ยงไฮ้ เสมือนเป็นอนุสาวรีย์รำลึกถึงนักร้องผู้ยิ่งใหญ่

ในขณะที่แฟนเพลงจีนแผ่นดินใหญ่คลั่งไคล้เติ้ง ลี่จวินนั้น ใช่ว่าทางการรัฐบาลพรรคคอมมิวนิสต์จีนจะไม่คิดอะไร บางครั้งก็ออกมาโจมตีว่าเป็นนักร้องที่ทำลายวัฒนธรรมจีน ส่งเสริมให้เพ้อฝันแต่เรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ เป็นต้น หรือหนัก ๆ เข้า ถึงขั้นกล่าวหาว่าเป็นนักร้องสปายของกั๊วหมิงด่าง

ในช่วงปลายชีวิตของเติ้ง ลี่จวิน เนื่องจากเจ็บป่วยในระบบทางเดินหายใจ จึงใช้ชีวิตช่วงสุดท้ายที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยพักอยู่กับสหายร่วมรบของคุณพ่อในกองพล ๙๓ เนื่องจากการพักอยู่บนดอยอากาศเย็นสบาย ซึ่งเหมาะกับการพักรักษาระบบทางเดินหายใจ และก็จบชีวิตลง เป็นข่าวร้ายที่ช็อคแฟนเพลงทั่วโลกเมื่อวันที่ ๘ พฤษภาคม ๑๙๙๕ เวลา ๑๗.๓o น. รวมอายุที่สร้างความสุขให้กับแฟนเพลงแค่ ๔๒ ปีเท่านั้น


พาทัวร์สุสานที่คนไต้หวันสร้างให้นักร้องในดวงใจ อยู่ที่ตำบลจินซัน เมืองไทเป ศพของเติ้งลี่จวิน ถูกฝังที่สุสานจินเป่าซาน อยู่ติดภูเขาในเมืองจินซาน มณฑลไทเป ทางตอนเหนือของไต้หวัน ป้ายหลุมศพมีรูปปั้นของเติ้งลี่จวิน และคีย์บอร์ดเปียโนไฟฟ้า ขนาดใหญ่ตั้งอยู่ที่พื้น เมื่อมีคนเหยียบที่แต่ละแป้น จะมีเสียงออกมาต่างกัน แม้ว่าชาวจีนจะเชื่อว่าควรหลีกเลี่ยงการเข้าไปในสุสานก็ตาม แต่สุสานของเธอมักมีแฟนเพลงจากทั่วโลกเข้ามาเคารพและรำลึกถึงเธออยู่เสมอ
ภาพจากเวบ blog.big5.voc.com vrwalker.net



คำจารึกบนหลุมฝังศพ

หินสลักชื่อสุสาน"หยุนหยวน" (筠園)


ทุกวันนี้ก็ยังมีคนรักเติ้งลี่จวินไปเคารพศพเธอไม่ขาด

งานศิลปะในสวน อันนี้น่าจะเป็นทรัมเป็ตเนาะ

คีย์บอร์ดเปียโนไฟฟ้า


ข้อมูลจากเวบ thaichinese.net
บีจีและไลน์จากคุณญามี่
Free TextEditor
Create Date : 06 พฤศจิกายน 2553 |
Last Update : 13 สิงหาคม 2557 22:29:37 น. |
|
52 comments
|
Counter : 18750 Pageviews. |
 |
|
|
โดย: กลิ่นดอย วันที่: 6 พฤศจิกายน 2553 เวลา:23:31:54 น. |
|
|
|
โดย: กลิ่นดอย วันที่: 7 พฤศจิกายน 2553 เวลา:0:00:56 น. |
|
|
|
โดย: อุ้มสี วันที่: 7 พฤศจิกายน 2553 เวลา:0:22:06 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 7 พฤศจิกายน 2553 เวลา:5:27:30 น. |
|
|
|
โดย: ลุงแว่น วันที่: 7 พฤศจิกายน 2553 เวลา:6:34:11 น. |
|
|
|
โดย: norimishi วันที่: 7 พฤศจิกายน 2553 เวลา:6:43:25 น. |
|
|
|
โดย: ลุงแว่น วันที่: 7 พฤศจิกายน 2553 เวลา:6:46:29 น. |
|
|
|
โดย: Dingtech วันที่: 7 พฤศจิกายน 2553 เวลา:10:31:25 น. |
|
|
|
โดย: haiku วันที่: 7 พฤศจิกายน 2553 เวลา:16:33:21 น. |
|
|
|
โดย: sawkitty วันที่: 7 พฤศจิกายน 2553 เวลา:16:51:28 น. |
|
|
|
โดย: พี่รี่+ต๊อก วันที่: 7 พฤศจิกายน 2553 เวลา:21:28:11 น. |
|
|
|
โดย: Suessapple วันที่: 7 พฤศจิกายน 2553 เวลา:22:15:21 น. |
|
|
|
โดย: cengorn วันที่: 8 พฤศจิกายน 2553 เวลา:0:22:48 น. |
|
|
|
โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 8 พฤศจิกายน 2553 เวลา:0:48:37 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 8 พฤศจิกายน 2553 เวลา:5:57:57 น. |
|
|
|
โดย: ลุงกล้วย วันที่: 8 พฤศจิกายน 2553 เวลา:7:55:02 น. |
|
|
|
โดย: กลิ่นดอย วันที่: 8 พฤศจิกายน 2553 เวลา:8:49:09 น. |
|
|
|
โดย: ณ มน วันที่: 8 พฤศจิกายน 2553 เวลา:10:36:46 น. |
|
|
|
โดย: chinging วันที่: 8 พฤศจิกายน 2553 เวลา:10:48:23 น. |
|
|
|
โดย: กิ่งฟ้า วันที่: 8 พฤศจิกายน 2553 เวลา:14:04:39 น. |
|
|
|
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 8 พฤศจิกายน 2553 เวลา:15:43:43 น. |
|
|
|
โดย: ลุงแอ๊ด วันที่: 8 พฤศจิกายน 2553 เวลา:20:33:46 น. |
|
|
|
โดย: JewNid วันที่: 8 พฤศจิกายน 2553 เวลา:21:40:31 น. |
|
|
|
โดย: อุ้มสี วันที่: 9 พฤศจิกายน 2553 เวลา:0:02:42 น. |
|
|
|
โดย: yyswim วันที่: 9 พฤศจิกายน 2553 เวลา:0:54:33 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 9 พฤศจิกายน 2553 เวลา:6:36:17 น. |
|
|
|
โดย: ณ ปลายฉัตร วันที่: 9 พฤศจิกายน 2553 เวลา:9:52:36 น. |
|
|
|
โดย: haiku วันที่: 9 พฤศจิกายน 2553 เวลา:15:43:50 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 9 พฤศจิกายน 2553 เวลา:23:50:45 น. |
|
|
|
โดย: ลุงแว่น วันที่: 10 พฤศจิกายน 2553 เวลา:5:31:54 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 10 พฤศจิกายน 2553 เวลา:5:52:41 น. |
|
|
|
โดย: angy_11 วันที่: 10 พฤศจิกายน 2553 เวลา:11:46:01 น. |
|
|
|
โดย: YUCCA วันที่: 10 พฤศจิกายน 2553 เวลา:22:30:46 น. |
|
|
|
โดย: haiku วันที่: 10 พฤศจิกายน 2553 เวลา:23:40:31 น. |
|
|
|
โดย: haiku วันที่: 10 พฤศจิกายน 2553 เวลา:23:41:06 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 11 พฤศจิกายน 2553 เวลา:7:48:51 น. |
|
|
|
โดย: pp IP: 61.90.73.10 วันที่: 5 พฤษภาคม 2554 เวลา:3:54:32 น. |
|
|
|
โดย: haiku วันที่: 6 พฤษภาคม 2554 เวลา:19:26:48 น. |
|
|
|
โดย: pp IP: 61.90.69.20 วันที่: 9 พฤษภาคม 2554 เวลา:20:49:42 น. |
|
|
|
โดย: haiku วันที่: 12 พฤษภาคม 2554 เวลา:12:11:59 น. |
|
|
|
โดย: ning IP: 124.121.163.6 วันที่: 21 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:21:54:45 น. |
|
|
|
โดย: haiku วันที่: 23 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:6:27:57 น. |
|
|
|
โดย: teerapath IP: 1.10.247.27 วันที่: 1 มีนาคม 2557 เวลา:13:35:40 น. |
|
|
|
|
|
|
|
สวยตั้งแต่เด็กเลย
เป็นเรื่องที่อ่านแล้วรู้สึกดีมากๆ เลยครับ
เพราะถึงแม้จะจากโลกนี้ไปแล้ว แต่ยังคงเป็นที่จดจำ
ของผู้คนเสมอ แม้กระทั่งบัดนี้ยังมีผู้ไปเคารพหลุมศพเธอ รู้สึกดีมากๆ เลยครับ