มีใครชอบฟังเพลงสากลเก่า ๆ เหมือนเราบ้างคะ เก่าสมัยสักห้าสิบปีโน่น อย่างเพลง Canadian Sunset หรือ Killing Me Sofly With His Song และโดยเฉพาะเพลงโปรด I Will Wait For You ที่อยู่ในหนังเก่าเรื่อง "THE UMBRELLAS OF CHERBOURG" นึกอยากรู้จักคนที่แต่งเนื้อเพลงที่เพราะได้ใจพวกนี้ เมื่อต้นปีนี้ได้อ่านบทความของ คุณดำรัส โรจนพิเชฐ ในนสพ.X-cite ไทยโพสต์ที่เขียนถึง คุณลุงนอร์แมน กิมเบล ผู้ประพันธ์เนื้อร้องทั้งสองเพลงและอีกหลายเพลงที่เพิ่งได้ทราบว่าท่านเป็นผู้ประพันธ์ อ่านแล้วอยากอัพลงบล็อกแต่ติดตรงที่เนื้อหาค่อนข้างยาวมาก ลองไปค้นในเวบก็ไม่เจอ เลยต้องค่อย ๆ จิ้มดีดอยู่หลายวันกว่าจะเสร็จ คุณดำรัส เขียนถึงผลงานเพลงของคุณลุงแบบละเอียดมาก เราก็เลยใส่ลิงค์เพลงไว้ น่าจะเป็นบล็อกที่มีลิงค์เพลงเยะอที่สุดเท่าที่เคยอัพมา ท่านใดอยากฟังก็คลิกเปิดได้เลยค่ะ
ปี ๑๙๖๑ เพลงบรรเลง CHARIOT ที่สองนักแต่งเพลงชาวฝรั่งเศส ได้แก่ FRANK POURCEL และ PAUL MAURIAT เขียนและอัดแผ่นเสียงกลายเป็นเพลงฮิตในยุโรป อาร์เธอร์ แอลท์แมน นักเรียบเรียงเสียงประสานเห็นแนวโน้มเมื่อใส่เนื้อร้องจะเป็นเพลงฮิตแน่นอน จึงมอบหมายให้ นอร์แมน กิมเบล เขียนคำร้องภาษาอังกฤษ ตั้งชื่อเพลงใหม่ว่า I WILL FOLLOW HIM กลายเป็นเพลงฮิตของ เพตูลา คลาค และ THE PEGGY MARCH
ปี ๑๙๖๓ ลู เลวี (LOU LEVEY) เจ้าของสำนักงาน ผู้พิมพ์ลิขสิทธิ์เพลงแนะนำให้เขารู้จักทีมงานนักแต่งเพลง นักดนตรีชาวบราซิลเลียนที่เดินทางมาเชื่อมความสัมพันธ์ในอเมริกา เพลงส่วนใหญ่เป็นเพลงภาษาโปรตุเกส จังหวะบอสซาโนวา ฮิตในบราซิล หลายคนอยากให้ใส่เนื้อร้องภาษาอังกฤษ จึงให้ นอร์แมน กิมเบล เขียนคำร้อง หลายเพลงกลายเป็นเพลงฮิต อย่างเช่น HOW INSENSITIVE (INSENSATEZ), MEDITATION (MEDITACAO), GOODBYE SADNESS (TRISTEZA), WATER TO DRINK (AGUA DE BERBER) ทั้งหมดแต่งโดย ทอม โจบิน และที่กลายเป็นเพลงสแตนดาร์ดบอสซาโนวาที่ดังไปทั่วโลกจนทุกวันนี้ ได้แก่เพลง THE GIRL FROM IPANEMA / TALL AND TAN AND YOUNG AND LOVELY/
เพลง SWEET HAPPY LIFE มาจาก SAMBA DE ORFEU ทำนองโดย หลุยส์ บอนฟา
เพลง ARRASTAO ทำนองโดย EDU LOBO นอร์แมน กิมเบล เขียนคำร้องภาษาอังกฤษ ตั้งชื่อใหม่ว่า FOR ME กลายเป็นเพลงฮิตของ SERGIO MEDES & BRASIL66
ปี ๑๙๖๔ ภาพยนตร์กึ่งโอเปรา ไม่มีบทพูดชื่อ THE UMBRELLAS OF CHERBOURG ที่ มิชเชล เลอกรังด์ เขียนทำนองเพลง จาค เดมี ผู้กำกับเขียนคำร้องฝรั่งเศส กลายเป็นเพลงและหนังฮิตในยุโรป มีอยู่สองเพลงที่เขาเขียนเนื้อร้องภาษาอังกฤษ ได้แก่ WATCH WHAT HAPPENS และ I WILL WAIT FOR YOU เพียงแค่ฟังประโยคแรกก็รู้สึกสะเทือนใจแล้ว เพลงถ่ายทอดเรื่องราวการลาจากและการรอคอยของหนุ่มสาวสองคนในเมืองท่าเชอร์บูรก์ ที่พบกันในร้านขายร่ม
หลังจากประสบความสำเร็จในบทเพลงดังกล่าว ชาร์ลส์ ฟ็อกซ์ กับ นอร์แมน กิมเบล ร่วมกันแต่งเพลงออกมามากมาย ทั้งเพลงจากภาพยนตร์และโทรทัศน์ เพลงจากภาพยนตร์อย่างเช่น RICHARD WINDOW ใช้ประกอบในเรื่อง THE OTHER SIDE OF THE MOUNTAIN (1975) เพลง READY TO TAKE A CHANCE AGAIN (1978) ขับร้องโดย แบร์รี แมนนิโลว ใช้ประกอบในเรื่อง FOUL PLAY ซึ่งเพลงนี้ได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลตุ๊กตาทอง แต่กว่าจะได้รางวัลตุ๊กตาทองตัวแรกในประเภทเพลงต้นฉบับประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยมก็ปาเข้าในปี ๑๙๘๐ กับเพลง IT GOES LIKE IT GOES ทำนองโดย เดวิด ไชร์ (DAVID SHIRE) ใช้ประกอบในภาพยนตร์เรื่อง NORMA RAE
ส่วนเพลงจากภาพยนตร์โทรทัศน์ที่สร้างชื่อให้ นอร์แมน กิมเบล มีมากมาย อาทิ HAPPY DAYS, LAVERNE & SHIRLEY, LIFESTYLE OR RICH AND FAMOUA, ANGIE, Wonder Woman และ THE PAPER CHASE ส่วนเพลงในหนังแอนิเมชั่นที่เขาเรียนร่วมกับ เมลลิซา แมนเชสเตอร์ ได้แก่เรื่อง LADY AND THE TRAMP ที่ออกมาในรูปแบบดีวีดี ปี ๑๙๖๔ นอร์แมน กิมเบล ได้รับเกียรติจารึกชื่อที่สถาบัน SONG WRITER HALL OF FAME และในปีเดียวกันนี้ที่เพลง ONLY LOVE เขียนคำร้องจากทำนองดนตรีที่เขียนโดย VLADIMIR COSMA ใช้ประกอบหนังทีวีเรื่องยาว MISTRALS DAUGHTER กลายเป็นเพลงฮิตของ นานา มูสคูรี